07.04.24    Avyakt Bapdada     Thai Murli     01.03.99     Om Shanti     Madhuban


โฮลีที่แท้จริงหมายถึงการกลับมาบริสุทธิ์สมบูรณ์และประสานซันสการ์ให้สอดคล้องกลมกลืนกัน


วันนี้ บัพดาดากำลังมองดูลูกๆที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดและสูงสุดของท่านในทุกหนแห่ง มีดวงวิญญาณใดในโลกนี้ที่สูงกว่าลูกและสูงส่งยิ่งกว่าลูกๆไหม? ลูกเป็นลูกของพ่อที่สูงสุดเหนือสิ่งใด วนไปรอบวงจรแล้วดูซิว่าลูกสามารถจะพบใครที่มีสถานภาพที่สูงกว่าหรือไม่ เมื่อลูกเป็นผู้ปกครอง มีใครที่มีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าของลูกหรือไม่? ส่วนในเรื่องที่เกี่ยวกับการได้รับการกราบไหว้บูชาและการได้รับการยกย่อง มีใครที่ได้รับการกราบไหว้บูชาในระดับเดียวกันและในลักษณะที่ถูกต้องหรือไม่? ความลับของละครที่มหัศจรรย์ก็คือลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งในรูปที่มีชีวิตของลูก ในเวลานี้รู้และตระหนักถึงรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้ของลูกบนพื้นฐานของความรู้ ในด้านหนึ่งมีลูกดวงวิญญาณที่มีชีวิต และอีกด้านหนึ่งมีภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูกในรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ลูกสามารถเห็นรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาของลูกหรือไม่? ลูกเห็นพวกเขาไหม? ลูกคงอยู่ทั้งในรูปที่ไม่มีชีวิตที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาและรูปที่มีชีวิตของลูก นี่เป็นการละเล่นที่มหัศจรรย์มาก! ในเรื่องที่เกี่ยวกับอาณาจักรของลูก อาณาจักรที่ลูกมีนั้นเป็นอิสระจากอุปสรรคตลอดทั้งวงจร มีเพียงลูกดวงวิญญาณเท่านั้นที่มีอาณาจักรที่ไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนเช่นนั้น มีหลายคนกลายเป็นราชา แต่ลูกผู้เป็นจักรพรรดิของโลกและราชวงศ์ของจักรพรรดิของโลกนั้นเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด ดังนั้นลูกเป็นผู้ที่สูงสุดในอาณาจักรและลูกสูงสุดในรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาของลูกด้วย เวลานี้ในยุคบรรจบพบกันลูกมีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกจากพระเจ้า ลูกมีสิทธิ์ที่จะเฉลิมฉลองการพบปะกับพระเจ้าและลูกมีสิทธิ์ที่จะได้รับความรักจากพระเจ้า มีใครอีกไหมที่จะกลายเป็นดวงวิญญาณในครอบครัวของพระเจ้า? มีเพียงลูกเท่านั้นที่จะกลายเป็นสิ่งนี้ใช่ไหม? ลูกกลายเป็นสิ่งนี้แล้วหรือลูกยังจะต้องกลายเป็นสิ่งนี้? เวลานี้ลูกได้กลายเป็นสิ่งนี้แล้ว เวลานี้ลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกและกลับมาสมบูรณ์พร้อมและกลับบ้านพร้อมกับพ่อ ความสุขของยุคบรรจบพบกัน, การได้มาซึ่งการบรรลุผลของยุคบรรจบพบกัน, และเวลาของยุคบรรจบพบกันนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามมากใช่ไหม? สิ่งเหล่านี้น่ารักมาก! เวลาของยุคบรรจบพบกันของลูกนี้น่ารักกว่าเวลาแห่งการปกครองของลูกใช่ไหม? นี่น่ารักกว่าไหมหรือลูกต้องการไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว? ในกรณีนั้น ทำไมลูกถึงถามบาบาว่าเมื่อใดที่การทำลายล้างจะเกิดขึ้น? ลูกยังคงสงสัยว่าการทำลายล้างจะเกิดขึ้นเมื่อใด และจะเกิดอะไรขึ้น และลูกจะอยู่ที่ไหนในเวลานั้น บัพดาดากล่าวว่า: ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน หากลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ ลูกจะอยู่กับพ่อ ไม่ว่าลูกจะอยู่กับพ่อในรูปที่มีตัวตนหรือในรูปที่ละเอียดอ่อน ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นกับลูก ลูกเคยได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวในช่วงเวลาของสะคาร์บาบาแล้วใช่หรือไม่? ลูกจำเรื่องราวนั้นได้ไหม? เกิดอะไรขึ้นกับลูกแมวขณะที่อยู่ในเตาเผา? พวกเขาอยู่อย่างปลอดภัยใช่ไหม? หรือพวกเขาถูกเผาไหม้? พวกเขาทั้งหมดยังคงปลอดภัย ดังนั้นเมื่อลูกๆอยู่กับพ่อ ลูกก็จะอยู่อย่างปลอดภัย หากสติปัญญาของลูกไปเชื่อมโยงอยู่กับที่อื่น ลูกจะได้รับผลกระทบจากสิ่งนั้น ลูกจะได้รับอิทธิพลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามเมื่อลูกอยู่ในรูปรวมกับพ่อ ลูกจะไม่สามารถอยู่โดยลำพังได้แม้แต่วินาทีเดียว ลูกจะอยู่อย่างปลอดภัย บางครั้งในขณะที่ทำงาน ลูกคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียว ลูกอุทานว่า "ฉันจะทำอะไรได้? ฉันอยู่คนเดียว! ฉันมีงานต้องทำมากมาย!" ลูกจะเหนื่อยล้า แล้วทำไมลูกจึงไม่ทำให้พ่อเป็นมิตรร่วมทางของลูก? ลูกต้องการที่จะให้ใครบางคนที่มีสองแขนเป็นมิตรร่วมทางของลูก ทำไมลูกไม่ทำให้ผู้เดียวที่มีพันแขนเป็นมิตรร่วมทางของลูกล่ะ? ใครสามารถให้ความร่วมมือกับลูกได้มากกว่านี้: ผู้ที่มีพันแขนหรือผู้ที่มีสองแขน?

บราห์มากุมารและกุมารีแห่งยุคบรรจบพบกันไม่สามารถอยู่โดยลำพังได้ มันเป็นเพียงแต่ว่าลูกยุ่งอยู่กับการทำงานรับใช้และทำคาร์มาโยคะอย่างมากจนลูกลืมที่จะเป็นมิตรร่วมทางกับบาบาจึงทำให้ลูกเหนื่อยล้า แล้วเมื่อลูกเหนื่อยล้า ลูกก็จะนึกถึงบาบาและก็ถามว่า “ตอนนี้ฉันจะทำอะไรได้?” อย่าได้เหนื่อยล้า! บัพดาดามาเพื่อเป็นมิตรร่วมทางกับลูกตลอดเวลาเมื่อลูกตื่น, ลุกขึ้น, ดำเนินการกระทำ, ทำงานรับใช้ และเมื่อลูกเข้านอน พ่อบราห์มากลายเป็นอะแวคเพื่อให้ความร่วมมือกับลูก ความเร็วของความร่วมมือในรูปที่อะแวคนั้นเร็วกว่าความเร็วในรูปที่มีตัวตน เหตุนี้เองพ่อบราห์มาจึงเปลี่ยนที่พำนักของท่าน ทั้งพ่อชีว่าและพ่อบราห์มาพร้อมเสมอที่จะให้ความร่วมมือกับลูก ทันทีที่ลูกจดจำระลึกถึงบาบา ลูกจะได้สัมผัสกับความร่วมมือของท่าน อย่างไรก็ตามลูกจดจำแต่งานรับใช้อยู่เสมอ เพียงแค่งานรับใช้ และงานรับใช้มากขึ้นเท่านั้น ลูกวางพ่อไว้ข้างๆก่อน เพื่อทำให้ท่านสังเกตการณ์ทุกสิ่งจากที่นั่น ดังนั้นพ่อจึงเพียงเฝ้าดูทุกสิ่งในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและดูว่าลูกสามารถทำทุกสิ่งได้ด้วยตัวเองมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามลูกยังคงต้องกลับมาที่นี่ ดังนั้นอย่าได้ทิ้งความเป็นมิตรร่วมทางของบาบาไป ให้บาบาผูกติดอยู่กับลูกอย่างเป็นสิทธิ์ของลูกและด้วยสายใยแห่งความรักอันละเอียดอ่อนของลูก เนื่องจากสายใยนี้หลวมเล็กน้อย ความรักของลูกจึงหย่อนยานและลูกทำให้สิทธิ์ของลูกออกไปจากสำนึกรู้ของลูก อย่าได้ทำเช่นนี้อีกต่อไป! ผู้ทรงพลังอำนาจกำลังเสนอความเป็นมิตรร่วมทางของท่านแก่ลูก ดังนั้นลูกเคยได้รับการเสนอเช่นนั้นตลอดช่วงเวลาที่เหลือของทั้งวงจรหรือไม่? ลูกไม่เคยใช่ไหม? ดังนั้นบัพดาดายังคงเฝ้าดูทุกสิ่งอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางเพื่อดูว่าลูกสามารถทำทุกสิ่งด้วยตนเองได้มากเพียงใด

ดังนั้นทำให้ความสุขและโชคของลูกในยุคบรรจบพบกันปรากฏออกมา เนื่องจากลูกไม่ว่าง,สติปัญญาของลูกจึงยุ่งอยู่กับที่อื่นและความตระหนักรู้ของลูกในสิ่งนั้นก็กลับมาหลอมรวม ลองพิจารณาสิ่งนี้: หากลูกถูกถามว่าลูกจดจำระลึกถึงพ่อหรือไม่ หรือลูกลืมท่านตลอดทั้งวัน ลูกจะตอบว่าอย่างไร? ไม่! มันถูกต้องที่จะบอกว่าลูกจดจำระลึกถึงท่าน อย่างไรก็ตามการจดจำระลึกถึงท่านปรากฏออกมาหรือมันอยู่อย่างหลอมรวมหรือไม่? สภาพของลูกเป็นเช่นไร? สภาพของลูกคือสภาพที่สำนึกรู้ได้ปรากฏออกมาหรือสำนึกรู้ของลูกหลอมรวม? ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคืออะไร? แล้วเหตุใดการจดจำระลึกถึงของลูกจึงไม่ใช่สภาพที่สำนึกรู้ปรากฏออกมา? ความซาบซึ้ง พลัง ความร่วมมือ และความสำเร็จที่ลูกได้รับเมื่อการจดจำระลึกถึงของลูกปรากฏออกมานั้นยิ่งใหญ่มาก ลูกไม่ควรที่จะลืมจดจำบาบา เพราะความสัมพันธ์ของลูกกับท่านไม่ได้เป็นเพียงแค่ชาติเกิดเดียวนี้เท่านั้น แม้ว่าพ่อชีวาจะไม่ได้อยู่กับลูกในยุคทอง แต่ลูกก็จะยังคงมีความสัมพันธ์เหมือนเดิมใช่ไหม? ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ลูกไม่สามารถลืมพ่อได้ ใช่ มันเป็นความจริงที่บางครั้งลูกอาจได้รับอิทธิพลจากอุปสรรคบางอย่างและอาจจะลืมบาบาได้ อย่างไรก็ตามเมื่อลูกอยู่ในสภาพธรรมชาติของลูก ลูกไม่ลืมบาบา แต่ความจดจำระลึกถึงของลูกจะกลับมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน เหตุนี้เองบัพดาดาจึงบอกให้ลูกตรวจสอบตนเองครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อดูว่าลูกได้สัมผัสกับความเป็นมิตรของบาบาในรูปที่หลอมรวมหรือรูปที่ปรากฏออกมา ลูกมีความรักต่อบาบา ความรักของลูกสามารถแตกสลายได้หรือไม่? มันสามารถแตกสลายได้ไหม? ได้หรือไม่ได้? ดังนั้นเมื่อความรักของลูกไม่สามารถแตกสลายได้ จงใช้ประโยชน์ของความรักนั้น เรียนรู้วิธีที่จะใช้คุณประโยชน์นี้

บัพดาดาเห็นว่าความรักนี้ทำให้ลูกเป็นของพ่อ ความรักนี้ทำให้ลูกกลายเป็นชาวมธุบัน ไม่ว่าสถานการณ์ของลูกจะเป็นเช่นไรในสถานที่ของลูกเอง ไม่ว่าลูกจะพยายามมากแค่ไหนที่นั่น ลูกก็ยังคงมามธุบัน บัพดาดารู้และมองเห็นว่า เนื่องจากสถานการณ์ในยุคเหล็ก ลูกหลายคนเห็นว่ามันยากมากที่จะซื้อตั๋ว อย่างไรก็ตามความรักของพวกเขาทำให้พวกเขามาที่นี่ มันเป็นเช่นนี้ใช่ไหม? ลูกมาถึงที่นี่เพราะความรักของลูกที่มีต่อบาบา แต่สถานการณ์เหล่านี้จะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวัน พระเจ้าพอใจกับหัวใจที่ซื่อสัตย์ แต่ลูกก็ได้รับความร่วมมือทางกายภาพจากที่ใดที่หนึ่งในรูปใดรูปหนึ่งเช่นกัน ไม่ว่าลูกจะเป็นดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์หรือว่าลูกจะอยู่ในบารัต ความรักของลูกที่มีต่อบาบาทำให้ลูกก้าวข้ามอุปสรรคของสถานการณ์ต่างๆได้ มันเป็นเช่นนี้ใช่ไหม? มองดูที่ศูนย์ของตนเองแล้วลูกจะเห็นลูกๆเช่นนั้น พวกเขาออกจากที่นี่ไปด้วยความสงสัยว่าพวกเขาจะสามารถมาที่นี่ได้หรือไม่ในปีหน้า แม้ว่าพวกเขาจะสงสัยว่าพวกเขาจะสามารถมาที่นี่ในปีหน้าได้หรือไม่ แต่พวกเขาก็มาที่นี่ นี่คือข้อพิสูจน์ของความรักของพวกเขา อัจชะ

วันนี้ลูกเฉลิมฉลองโฮลี ลูกได้เฉลิมฉลองโฮลีหรือไม่? บัพดาดากำลังมองดูหงส์ศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเฉลิมฉลองโฮลี ลูกๆทุกคนมีสมญาเหมือนกันว่า “ผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด” ตั้งแต่ยุคทองแดงเป็นต้นมา ไม่มีดวงวิญญาณที่ชอบธรรมหรือดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ใดทำให้คนอื่นศักดิ์สิทธิ์ที่สุดได้ พวกเขาเองกลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์แต่พวกเขาไม่ได้ทำให้สาวกหรือสหายของพวกเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สุดหรือบริสุทธิ์ที่สุดได้ ในขณะที่ที่นี่ความบริสุทธิ์เป็นพื้นฐานหลักของชีวิตบราห์มินของลูก การศึกษาเล่าเรียนของลูกคืออะไร? คติพจน์ของลูกคือ: Be holy, be yogi! (จงศักดิ์สิทธิ์ จงเป็นโยคี!) ลูกมีคติพจน์นี้ใช่ไหม? ความบริสุทธิ์เป็นความยิ่งใหญ่ของลูก ความบริสุทธิ์เป็นพื้นฐานของชีวิตโยคีของลูก บางครั้งลูกๆในขณะที่เคลื่อนไป หากลูกสัมผัสกับความไม่บริสุทธิ์บางอย่างในจิตใจของลูก หากลูกมีความคิดที่ไร้ประโยชน์หรือเป็นลบเกี่ยวกับผู้อื่น ไม่ว่าลูกจะต้องการมีโยคะที่ทรงพลังมากมายแค่ไหน ลูกก็ไม่สามารถที่จะมีสิ่งนี้ได้ หากว่ามีแม้กระทั่งร่องรอยของความไม่บริสุทธิ์ในความคิดของลูกแม้แต่น้อยแล้ว เช่นเดียวกับที่กลางวันและกลางคืนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ดังนั้นเช่นกันเนื่องจากร่องรอยของความไม่บริสุทธิ์นั้น ลูกจึงไม่สามารถจดจำระลึกถึงพ่อที่บริสุทธิ์อย่างที่ท่านเป็นและสิ่งที่ท่านเป็นได้ เหตุนี้เองบัพดาดาจึงดึงความสนใจของลูกมาที่ความบริสุทธิ์ในปัจจุบันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อไม่นานมานี้ บาบาจะส่งสัญญาณให้กับลูกเกี่ยวกับความไม่บริสุทธิ์ในการกระทำเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้เวลาของตอนจบกำลังใกล้เข้ามาแล้ว แม้แต่ร่องรอยของความไม่บริสุทธิ์เพียงเล็กน้อยในความคิดของลูกก็ยังหลอกลวงลูกได้ ดังนั้นความบริสุทธิ์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในทุกสิ่ง: ในความคิด คำพูด การกระทำ สายใย และความสัมพันธ์ของลูก เพียงเพราะว่าความคิดของลูกไม่ชัดเจน จิตใจของจึงลูกต้องไม่หย่อนยานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความคิดของลูกสามารถหลอกลวงลูกได้เป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้สัมผัสมรดกภายในของชีวิตบราห์มินซึ่งเป็นตัวของความสุขและความสงบอยู่เสมอ และมีความพอใจอยู่ในจิตใจ ลูกจะต้องมีความบริสุทธิ์ในจิตใจ การทำให้ตนเองมีความสุขด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกหรือโดยการทำงานรับใช้คือการหลอกลวงตนเอง

บัพดาดาเห็นว่าบางครั้งลูกบางคนก็หลอกลวงตนเองบนพื้นฐานนี้โดยพิจารณาว่าตนเองเป็นคนดีและมีความสุขมาก พวกเขายังคงหลอกตัวเองต่อไป นี่เป็นความลับที่ลึกล้ำเช่นกัน บาบาเป็นผู้ประทานและลูกเป็นลูกของผู้ประทาน บางครั้งงานรับใช้ของลูกไม่ใช่ยุกตียุกต์ แต่มีการผสมปนเปกัน บางส่วนของงานรับใช้ประสบความสำเร็จได้ด้วยการมีการจดจำระลึกถึง และบางส่วนก็ประสบความสำเร็จได้บนพื้นฐานของสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกและความสุขของลูก มันไม่ได้มาจากหัวใจของลูก แต่มาจากหัวของลูก และในเมื่อพ่อเป็นผู้ประทาน ลูกก็จะได้รับผลของงานรับใช้ของลูกในทางปฏิบัติเช่นกัน ลูกกลับมามีความสุขและคิดว่าเพราะงานรับใช้ของลูกดีมากลูกจึงได้รับผลเช่นนั้น อย่างไรก็ตามลูกไม่ได้สัมผัสกับความสุขนั้นตลอดเวลา จิตใจของลูกไม่สามารถสัมผัสกับความพอใจได้ และสภาพของลูกก็ไม่สามารถอยู่ในโยกยุกต์ที่ทรงพลังได้ ลูกตัดสิทธิ์ตนเองออกจากประสบการณ์นี้ ไม่ใช่ว่าลูกไม่ได้รับอะไรเลย ลูกได้รับบางสิ่งบางอย่างอย่างแน่นอน แต่ลูกไม่สามารถสะสมสิ่งใดได้ ลูกกินจนหมดและสิ่งที่ลูกหามาได้ก็หมดสิ้น! เหตุนี้เองลูกจึงควรใส่ใจกับสิ่งนี้ ลูกรับใช้ได้ดีมากและลูกก็จะได้รับผลที่ดีมากสำหรับสิ่งนั้น อย่างไรก็ตามถ้าลูกเพียงแค่กินจนหมดแล้วลูกจะสะสมอะไร? ลูกทำงานรับใช้ได้ดีมากและมีผลลัพธ์ที่ดี แต่ลูกไม่ได้สะสมผลของงานรับใช้ใดๆที่ลูกทำ วิธีที่จะสะสมผลคือต้องมีความบริสุทธิ์ในความคิด คำพูด และการกระทำ รากฐานของลูกคือความบริสุทธิ์ ในงานรับใช้ก็เช่นกันรากฐานคือความบริสุทธิ์ ให้มีความสะอาดและชัดเจน อย่าให้มีแรงจูงใจอื่นอยู่ในนั้น ต้องมีความบริสุทธิ์ในแรงจูงใจและในความรู้สึกของลูก โฮลีหมายถึงความบริสุทธิ์และเผาความไม่บริสุทธิ์ทั้งหมด เหตุนี้เองที่ในช่วงโฮลีผู้คนจะทำการเผาก่อนแล้วจึงเฉลิมฉลอง ลูกกลับมาบริสุทธิ์และเฉลิมฉลองการประสานซันสการ์ให้สอดคล้องกลมกลืนกัน โฮลีหมายถึงการเผาและเฉลิมฉลอง เมื่อผู้คนภายนอกมาพบกันพวกเขาจะสวมกอดกัน ในขณะที่ที่นี่ลูกมีการพบปะที่เป็นสิริมงคลของการประสานซันสการ์ของลูก ดังนั้นลูกได้เฉลิมฉลองโฮลีในลักษณะนี้หรือไม่? หรือลูกเพียงแค่ร่ายรำและประพรมน้ำกุหลาบ? นั่นเป็นสิ่งที่ดี! ลูกอาจเฉลิมฉลองได้มากเท่าที่ลูกต้องการ บัพดาดายินดีและพอใจที่ได้เห็นลูกประพรมน้ำกุหลาบได้มากเท่าที่ลูกต้องการ ลูกอาจจะร่ายรำได้ด้วยเช่นกันแต่ร่ายรำอย่างสม่ำเสมอ อย่าร่ายรำเพียงแค่ห้าถึงสิบนาที การกระจายกระแสแห่งคุณธรรมให้กันและกันคือการประพรมน้ำกุหลาบ ลูกรู้ว่าลูกจะต้องเผาอะไร ลูกยังคงต้องเผาสิ่งนี้ต่อไป และตอนนี้ลูกก็กำลังเผามันอยู่ ทุกปีลูกจะยกมือเพื่อบอกว่าลูกมีความมุ่งมั่น บัพดาดามีความยินดีและพอใจที่ได้เห็นว่าอย่างน้อยลูกก็ยังมีความกล้าหาญ ดังนั้นบัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกสำหรับความกล้าหาญของลูก การคงความกล้าหาญคือก้าวแรก อย่างไรก็ตามความปรารถนาอันบริสุทธิ์ของบัพดาดาคืออะไร? อย่าได้ดูวันที่ อย่าสงสัยว่ามันจะเกิดขึ้นในปี 2000, 2001 หรือ 2005 หรือไม่ โอเค ลูกอาจไม่พร้อมเสมอ บัพดาดายอมลูกในสิ่งนี้ แต่ลูกต้องจำไว้ว่าลูกต้องมีซันสการ์เหล่านั้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานใช่ไหม? เมื่อลูกพูดถึงสิ่งนี้ ลูกบอกว่าความพยายามที่ลูกทำมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานทำให้อาณาจักรที่ลูกประกาศสิทธิ์คงอยู่ได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน การกระทำที่ลูกมุ่งมั่นตั้งใจทำจะคงอยู่เป็นระยะเวลานานหรือเป็นเพียงชั่วคราว? ลูกจะใส่สิ่งนี้ไว้ในคอลัมน์ไหน? มันจะเป็นของช่วงระยะเวลาชั่วคราว พ่อไม่สูญสลาย แต่ลูกประกาศสิทธิ์ในมรดกอะไรจากท่าน? สิ่งที่เป็นของช่วงระยะเวลาชั่วคราว! แล้วลูกจะชอบสิ่งนี้ไหม? ลูกจะไม่ชอบใช่ไหม? ดังนั้นอย่าได้กังวลว่าระยะเวลาจะยาวนานเพียงใด ยิ่งลูกฝึกฝนสิ่งนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งถูกหลอกลวงน้อยลงในเวลาสุดท้ายมากเท่านั้น หากลูกไม่ฝึกฝนสิ่งนี้ลูกจะตัดสิทธิ์ตนเองจากความสุขในปัจจุบันและสภาพที่สูงส่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ดังนั้นลูกต้องทำอย่างไร? ฝึกฝนเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน! หากลูกกำลังรอคอยวันที่ จงหยุดรอคอยและเริ่มเตรียมตัว! เตรียมตัวเองให้พร้อมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน! ลูกต้องกำหนดวัน เวลาพร้อมเสมอแม้กระทั่งตอนนี้ แม้แต่พรุ่งนี้มันก็สามารถทำในสิ่งที่มันต้องการได้ อย่างไรก็ตามเวลากำลังรอคอยลูกอยู่ ทันทีที่ลูกพร้อม ม่านของเวลาจะเปิดออก เวลายังคงรอคอยลูก ลูกผู้เป็นนายแห่งอาณาจักรพร้อมแล้วใช่ไหม? บัลลังก์ไม่ควรจะว่างใช่ไหม? จักรพรรดิโลกที่นั่งบนบัลลังก์คนเดียวจะทำอะไรได้ด้วยตนเอง? มันจะดูเหมือนว่าถูกต้องไหม? เขาจะต้องการราชวงศ์และปวงประชาของเขาทั้งหมด ผู้เป็นนายแห่งอาณาจักรไม่สามารถนั่งบนบัลลังก์เพียงลำพังได้ เขาจะสงสัยว่าราชวงศ์ของเขาอยู่ที่ไหน เหตุนี้เองบัพดาดาจึงมีความปรารถนาที่บริสุทธิ์เดียวต่อลูกทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกเก่าหรือใหม่ที่เรียกตนเองว่าบราห์มากุมารหรือกุมารี ไม่ว่าลูกจะเป็นชาวมธุบัน ชาวบารัต หรือชาวต่างชาติ ลูกแต่ละคนควรฝึกฝนสิ่งนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เพื่อที่ลูกจะได้ประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของลูกเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่บางเวลาเท่านั้น ลูกชอบสิ่งนี้ไหม? ลูกอาจตบมือด้วยมือข้างเดียวได้ ผู้ที่นั่งข้างหลังฉลาดมาก พวกเขากำลังรับฟังด้วยความใส่ใจ บัพดาดาสามารถมองเห็นผู้ที่นั่งข้างหลังอย่างชัดเจนราวกับว่าพวกเขากำลังนั่งอยู่ข้างหน้าท่าน ผู้ที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็นั่งอยู่ข้างอยู่แล้ว ผู้ที่นั่งอยู่ด้านล่าง (ในเมดดิเทเชินฮอลล์) คือผู้ที่เป็นมงกุฎบนศีรษะของบัพดาดา พวกเขากำลังตบมือด้วยเช่นกัน ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ด้านล่างจะได้รับโชคของการสละละทิ้งของพวกเขา ลูกได้รับโชคของการนั่งอยู่เบื้องหน้าบาบาเป็นการส่วนตัว ต่อหน้าบาบา ในขณะที่พวกเขากำลังสะสมโชคของการสละละทิ้งของพวกเขา อัจชะ ลูกทุกคนชอบความปรารถนาอย่างหนึ่งที่บัพดาดามีนี้หรือไม่? แล้วบาบาจะได้เห็นอะไรในปีหน้า? ลูกมีความคิดที่มุ่งมั่นว่าลูกจะยกมือในปีหน้าด้วยเช่นกัน ลูกอาจจะยกมือ ลูกอาจจะยกสองมือก็ได้ แต่ลูกแต่ละคนต้องยกมือของจิตใจของลูกด้วย ยกมือของความคิดที่มุ่งมั่นตลอดกาล

บัพดาดาต้องการที่จะเห็นเพชรพลอยแห่งความบริสุทธิ์สมบูรณ์เปล่งประกายบนหน้าผากของลูกแต่ละคน ท่านต้องการเห็นความบริสุทธิ์เปล่งประกายในดวงตาของลูก ท่านต้องการที่จะเห็นดวงดาวของดวงตาทั้งสองข้างเปล่งประกายด้วยประกายของความผ่องแผ้วทางจิตวิญญาณ ท่านต้องการได้ยินความหวานชื่นและความพิเศษในคำพูดอันล้ำค่าของลูก ท่านต้องการเห็นความพอใจและความถ่อมตนอยู่เสมอในการกระทำของลูก ให้มีความปรารถนาดีอยู่เสมอในความรู้สึกของลูกและมีทัศนคติของความเป็นพี่น้องในแรงจูงใจของลูก ให้รัศมีแห่งแสงของเทวดานางฟ้าปรากฏออกมารอบๆศีรษะของลูกตลอดเวลา การที่จะสามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้หมายความว่าควรมีประสบการณ์ บัพดาดาต้องการที่จะเห็นลูกเป็นภาพลักษณ์ที่ได้รับการประดับประดาเช่นนี้ เพียงภาพลักษณ์เช่นนี้เท่านั้นที่จะเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งที่สุดและมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ผู้คนเหล่านั้นจะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูก แต่พ่อต้องการที่จะเห็นลูกเป็นสิ่งนี้ในรูปที่มีชีวิตของลูก อัจชะ

ถึงลูกๆทุกคนในทุกหนแห่ง ถึงมิตรร่วมทางที่ใกล้ชิดและสม่ำเสมอที่อยู่กับพ่ออยู่เสมอ ถึงผู้ที่เพียรพยายามเป็นเวลานานและประกาศสิทธิ์ของพวกเขาในยุคบรรจบพบกันและประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรในอนาคตเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ถึงดวงวิญญาณที่รู้คิดเช่นนั้นที่ประดับตนเองด้วยคุณธรรมและพลังอยู่เสมอ ถึงดวงวิญญาณที่เป็นตะเกียงแห่งความหวังของพ่อ ถึงผู้ที่มั่นคงอย่างสม่ำเสมอในสภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดและสูงสุด ถึงดวงวิญญาณที่น่ารักที่สุดที่ทัดเทียมกับพ่อ ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา

พร:
ขอให้ลูกเป็นนายผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่และทำให้พ่อเป็นครูของลูก แทนที่จะทำให้เวลาเป็นครูของลูก

ลูกบางคนมีความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้ แต่พวกเขาไม่ใส่ใจกับการมีมีทัศนคติของการวางเฉย พวกเขาไม่ระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งนี้ “มันโอเค, สิ่งนี้เกิดขึ้น, มันจะเกิดขึ้น, มันจะดีเมื่อถึงเวลา” การคิดในลักษณะนี้หมายถึงการทำให้เวลาเป็นครูของลูก ลูกเหล่านั้นพยายามสร้างความมั่นใจกับพ่อว่า: “ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะเรียบร้อยเมื่อถึงเวลา เราจะทำมัน เราจะก้าวไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามลูกเป็นนายผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่และเวลาคือสิ่งสร้างของลูก มันไม่เหมาะกับลูกผู้เป็นนายผู้สร้างเลยที่จะทำให้สิ่งสร้างของลูกกลายเป็นครูของลูก

คติพจน์:
การตอบแทนของการหล่อเลี้ยงของพ่อคือการให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนแปลงตนเองและคนอื่นๆ