18.04.24       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวานพ่อคือผู้ประทาน ลูกๆ ไม่จำเป็นต้องร้องขอสิ่งใดจากพ่อ มีคำกล่าวว่า ตายเสียดีกว่าที่จะร้องขอสิ่งใด

คำถาม:
ลูกๆควรจะมีสำนึกรู้ใดอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่ลูกจะไม่มีความวิตกกังวลหรือมีความคิดเกี่ยวกับสิ่งใด?

คำตอบ:
อะไรก็ตามที่ได้ผ่านไปแล้ว จะดีหรือไม่ดี มันถูกกำหนดไว้แล้วในละคร ทั้งวงจรจะจบสิ้นลงแล้วก็ซ้ำรอย ไม่ว่าลูกแต่ละคนได้ทำความเพียรพยายามอะไรพวกเขาจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพตามนั้น หากลูกมีสิ่งนี้ในสำนึกของลูกลูกจะไม่มีความวิตกกังวลหรือความคิดเกี่ยวกับสิ่งใด คำแนะนำของพ่อคือ ลูกๆ อย่าได้จดจำอดีต อย่าได้ฟังหรือพูดสิ่งที่ผิด สิ่งใดก็ตามที่ผ่านไปแล้วในอดีตอย่าได้คิดหรือย้ำซ้ำเกี่ยวกับสิ่งนั้น

โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิต พ่อทางจิตเรียกว่าเป็นผู้ประทาน ท่านให้ทุกสิ่งแก่ลูกด้วยตนเอง ท่านมาเพื่อทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก ท่านอธิบายทุกสิ่งแก่ลูกว่าลูกต้องกลายเป็นเช่นนั้นอย่างไร ท่านเฝ้าแต่ให้คำแนะนำและชี้แนะแนวทางแก่ลูก ท่านคือผู้ประทาน ท่านให้ทุกสิ่งอย่างต่อเนื่องด้วยตัวท่านเอง เป็นการตายเสียดีกว่าที่จะร้องขอสิ่งใด ลูกไม่จำเป็นต้องร้องขอสิ่งใด ลูกบางคนก็เฝ้าแต่ร้องขอพลัง พร ความเมตตา ฯลฯ ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาด้วยการเฝ้าแต่ร้องขอ ลูกก็ทำให้หน้าผากของลูกนั้นเหนื่อยล้าและก็เฝ้าแต่ลงบันไดมาเรื่อยๆ ในเวลานี้ไม่จำเป็นต้องร้องขอสิ่งใด พ่อพูดว่า ทำตามคำแนะนำต่างๆ ประการแรกพ่อพูดว่า อย่าจดจำอดีต สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นมาในละครคืออดีตอย่าได้คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น อย่าได้ย้ำซ้ำสิ่งนั้น พ่อเพียงแต่บอกลูกไม่กี่คำ จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ พ่อให้คำแนะนำหรือศรีมัทแก่ลูก เป็นหน้าที่ของลูกที่จะทำตามสิ่งนั้น เหล่านี้คือคำแนะนำที่สูงส่งที่สุด ไม่ว่าใครจะมีคำถามและคำตอบมากมายเพียงใดบาบาก็จะอธิบายเพียงไม่กี่คำเท่านั้น พ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ เฝ้าแต่จดจำพ่อและบาปของลูกจะถูกเผาไปก็เท่านั้นเอง จะมีใครที่ต้องได้รับคำแนะนำให้จดจำใครบ้างไหม? ลูกต้องจดจำพ่อของลูก ไม่ใช่ตะโกนหรือร้องออกมา! ลูกเพียงแต่ต้องจดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดอยู่ภายใน พ่อให้คำแนะนำอื่นใดหรือไม่? จดจำวงจรของ 84 ชาติเกิดเพราะลูกต้องกลายเป็นเทพ ลูกเคยได้ยินคำยกย่องของเหล่าเทพมาถึงครึ่งวงจรแล้ว (มีเสียงเด็กร้องไห้) ขณะนี้ได้ให้คำแนะนำแก่ศูนย์ทุกแห่งแล้วว่าไม่ควรมีใครนำเด็กเล็กๆมาที่นี่ ควรมีการเตรียมการบางอย่างสำหรับพวกเขา ผู้ที่ต้องการที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกของเขาจากพ่อก็จะต้องเตรียมการเหล่านี้ นี่คือมหาวิทยาลัยของพ่อทางจิตและไม่มีความจำเป็นอะไรสำหรับเด็กเล็กๆที่นี่ เป็นหน้าที่ของครูที่จะนำลูกมาที่นี่เพื่อทำให้พวกเขาสดชื่นเมื่อพวกเขามีประโยชน์ต่องานรับใช้และมีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือคนธรรมดา นี่คือมหาวิทยาลัย ผู้ที่นำเด็กเล็กๆมาที่นี่ไม่ได้คิดว่านี่คือมหาวิทยาลัย สิ่งหลักคือที่นี่คือมหาวิทยาลัยและผู้คนที่ศึกษาเล่าเรียนที่นี่จะต้องดีมากและรู้คิด คนที่อ่อนแอจะสร้างความวุ่นวายเพราะพวกเขาจะไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อและดังนั้นสติปัญญาของพวกเขาก็จะเร่ร่อนไปที่นี่และที่นั่น พวกเขาจะทำให้เกิดการสูญเสีย พวกเขาจะไม่สามารถอยู่ในการจดจำระลึกถึงได้ หากลูกนำเด็กเล็กๆ มาที่นี่ก็เป็นการสูญเสียสำหรับเด็กๆ บางคนไม่รู้ว่านี่คือมหาวิทยาลัยของพระเจ้าผู้เป็นพ่อและที่นี่ที่ลูกเปลี่ยนจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ พ่อพูดว่า ลูกอาจจะอยู่ที่บ้านกับครอบครัวและลูกๆของลูก ไม่ใช่แค่หนึ่งสัปดาห์ แม้แต่สามหรือสี่วันก็เพียงพอแล้ว ความรู้นั้นง่ายดายมาก ลูกต้องตระหนักรู้จักพ่อ ด้วยการตระหนักรู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดลูกก็จะได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัด มรดกใด? อำนาจในการปกครองที่ไม่มีขีดจำกัด อย่าคิดว่างานรับใช้ไม่ได้เกิดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์หรืองานนิทรรศการ ปวงประชาจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกสร้างขึ้นมา สกุลบราห์มิน สุริยวงศ์และจันทราวงศ์มีการก่อตั้งขึ้นที่นี่ ดังนั้นนี่เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โตมาก พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังสอนลูก หัวของลูกควรจะเต็มเปี่ยมอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามพ่ออยู่ในร่างกายที่ธรรมดาพ่อสอนลูกในลักษณะที่ธรรมดาด้วยเช่นกันและนี่คือสาเหตุที่ผู้คนไม่ชอบสิ่งนี้ มหาวิทยาลัยของพระเจ้าผู้เป็นพ่อและจะเป็นเช่นนี้! พ่อพูดว่า พ่อคือเจ้าแห่งคนจน พ่อสอนผู้ที่ยากจนเท่านั้น ผู้ที่มั่งคั่งไม่ได้มีพละกำลังที่จะศึกษาเล่าเรียน พวกเขาเพียงแต่มีปราสาทราชวังในสติปัญญาของพวกเขา ผู้ที่มั่งคั่งนั้นจะกลายเป็นผู้ที่ยากจนและผู้ที่ยากจนก็กลับมามั่งคั่ง นี่คือกฎ ลูกจะให้ทานกับผู้ที่มั่งคั่งหรือ? นี่คือการให้ทานของเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่สูญสลาย ผู้ที่มั่งคั่งไม่สามารถยอมรับการให้ทานได้ สิ่งนี้จะไม่อยู่ในสติปัญญาของพวกเขา พวกเขาเพียงแค่อยู่อย่างติดกับในสิ่งสร้างที่มีขีดจำกัด,ความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองของตนเอง ราวกับว่านี่คือสวรรค์สำหรับพวกเขา พวกเขาพูดว่า เราไม่ต้องการสวรรค์อื่นใด เมื่อบุคคลสำคัญเสียชีวิต พวกเขาพูดว่า เขาได้จากไปสวรรค์แล้ว พวกเขาเองพูดว่าเขาได้ไปสวรรค์แล้วและดังนั้นต้องหมายความว่าพวกเขาอยู่ในนรก อย่างไรก็ตามพวกเขาก็มีสติปัญญาที่เป็นหินเช่นนั้นที่พวกเขาไม่เข้าใจว่านรกคืออะไร นี่คือมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โตของลูก พ่อพูดว่า พ่อมาและสอนผู้ที่สติปัญญาถูกล็อค เมื่อพ่อมาเท่านั้นที่ท่านสามารถเปิดล็อคได้ พ่อเองนั้นได้ให้คำแนะนำว่าล็อคของสติปัญญาของลูกจะสามารถเปิดออกมาได้อย่างไร ลูกไม่จำเป็นต้องร้องขอสิ่งใดจากพ่อ ลูกต้องมีศรัทธาในสิ่งนี้ ท่านเป็นบาบาผู้ที่เป็นที่รักมากที่สุด ผู้ที่ลูกเคยจดจำท่านมาในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ไม่ว่าใครก็ตามที่ลูกจดจำจะมาหาลูกอย่างแน่นอนในบางเวลา ลูกจดจำท่านเพื่อที่สิ่งนี้จะสามารถซ้ำรอยได้อีกครั้ง พ่อมาและอธิบายแก่ลูกๆเท่านั้น และแล้วลูกก็ต้องอธิบายแก่ผู้ที่อยู่ภายนอกด้วยว่าบาบาได้มาแล้วอย่างไร ท่านพูดอะไร? ลูกๆ ลูกทั้งหมดนั้นไม่บริสุทธิ์ พ่อผู้เดียวเท่านั้นที่มาและชำระลูกให้บริสุทธิ์ ลูกดวงวิญญาณได้กลับมาไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นเวลานี้จดจำฉัน,พ่อผู้ที่ชำระให้บริสุทธิ์ จดจำฉัน,ดวงวิญญาณสูงสุด ไม่มีความจำเป็นต้องร้องขออะไรที่นี่ ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาลูกเคยร้องขอเป็นเวลาครึ่งวงจรและลูกไม่ได้รับสิ่งใด เวลานี้หยุดร้องขอและพ่อจะให้ทุกสิ่งแก่ลูกด้วยตัวพ่อเอง ลูกได้รับมรดกด้วยการกลายเป็นของพ่อ ผู้ที่เป็นเด็กโตหรือลูกที่มีความเป็นผู้ใหญ่จะเข้าใจพ่อได้ในทันที มรดกจากพ่อคืออำนาจในการปกครองสวรรค์ถึง 21 ชั่วอายุคน ลูกรู้ว่าเมื่อลูกเป็นชาวนรกลูกจะได้รับความสุขชั่วคราวจากการให้ทานและทำบุญ ผู้คนก็เก็บบางสิ่งไว้เพื่อการทำบุญด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปนักธุรกิจก็ทำเช่นนั้น ดังนั้นนักธุรกิจจะพูดว่าพวกเขามาเพื่อทำธุรกิจกับพ่อ ลูกๆทำธุรกิจกับพ่อของเขา พวกเขานำทรัพย์สมบัติของพ่อของเขาไปเลี้ยงอาหารให้กับวิญญาณที่จากไปแล้ว ให้ทานและทำบุญจากสิ่งนั้น หากพวกเขาสร้างธรรมศาลา (บ้านพัก) วัด ฯลฯ พวกเขาจะตั้งชื่อเหล่านั้นตามชื่อของพ่อของพวกเขาเพราะพวกเขาควรจะทำอะไรบางอย่างสำหรับบุคคลที่พวกเขาได้รับทรัพย์สมบัตินั้นมาอย่างแน่นอน นั่นคือข้อตกลงด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนั้นคือเรื่องทางวัตถุ เวลานี้พ่อพูดว่า อย่าได้จดจำอดีต อย่าได้ฟังสิ่งผิดๆ หากใครถามคำถามทุกประเภทและแล้วให้พูดว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปสู่สิ่งเหล่านั้น ก่อนอื่นจดจำพ่อ ราชาโยคะโบราณนั้นมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ยิ่งลูกจดจำมากเท่าไรและสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งมากเท่าไรลูกจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงขึ้นตามนั้น นี่คือมหาวิทยาลัย เป้าหมายและวัตถุประสงค์นั้นชัดเจน ลูกต้องทำความเพียรพยายามและกลายเป็นเช่นนั้น นอกจากนี้ยังสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน ลูกต้องไม่สร้างความทุกข์ใดแก่ใคร ลูกคือลูกของพ่อที่เป็นผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข ที่จะรู้ได้จากงานรับใช้ของลูก มีคนใหม่มากมายมาด้วยเช่นกัน ผู้ที่อยู่ที่นี่เป็นเวลา 10 หรือ 12 วันก็จะไปข้างหน้าได้เร็วกว่าผู้ที่อยู่ที่นี่มา 25 หรือ 30 ปี ลูกต้องทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกับพ่อ ถ้าลูกไม่กลายเป็นบราห์มินแล้วลูกจะกลายเป็นเทพได้อย่างไร? บราห์มาคือปู่ของปู่ทวด ผู้คนก็จดจำผู้ที่เคยอยู่ที่นี่แล้วจากไปและดังนั้นพวกเขาจะกลับมาที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน เทศกาลทั้งหมดที่ได้รับการจดจำก็จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในเวลานี้เทศกาลทั้งหมด เช่น รักชาบันดัน ฯลฯ เกิดขึ้น พ่อยังคงอธิบายเกี่ยวกับนัยสำคัญของเทศกาลทั้งหมดนั้นต่อไป ลูกคือลูกของพ่อและดังนั้นลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผู้คนร้องเรียกหาพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์และดังนั้นท่านแสดงหนทาง ใครก็ตามที่ประกาศสิทธิ์ในมรดกของพวกเขาทุกวงจร พวกเขาเป็นผู้ที่ดำเนินการต่อที่นี่อย่างถูกต้องแม่นยำ ลูกจะเฝ้าแต่เห็นสิ่งนี้อย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง ในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ละวางบาบาได้เห็นทุกสิ่งเช่นกันที่ลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงได้มากแค่ไหนและบุคลิกลักษณะของลูกเป็นเช่นไร ครูรู้ทุกสิ่งว่าลูกได้ทำให้ผู้คนเป็นเหมือนกันกับลูกมากมายแค่ไหนและลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงนานเท่าไร ก่อนอื่นใดลูกต้องเก็บสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูกว่านี่คือมหาวิทยาลัยของพระเจ้าผู้เป็นพ่อ มหาวิทยาลัยนั้นเป็นไปเพื่อความรู้ เหล่านี้คือมหาวิทยาลัยที่มีขีดจำกัด ในขณะที่นี่คือมหาวิทยาลัยที่ไม่มีขีดจำกัด เป็นพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่นำมาซึ่งการหลุดพ้นจากความตกต่ำและผู้ที่เปลี่ยนนรกให้เป็นสวรรค์ สายตาของพ่อมองไปที่ดวงวิญญาณทั้งหมด ทุกคนต้องได้รับประโยชน์ จะต้องนำพวกเขากลับบ้าน ไม่ใช่แค่ลูกเท่านั้น ท่านจะจดจำดวงวิญญาณของทั้งโลก แต่ท่านก็สอนลูกๆของท่าน ลูกเข้าใจด้วยเช่นกันว่าเช่นที่ผู้คนมาตามลำดับกันไป ดังนั้นพวกเขาก็จะกลับไปในทำนองเดียวกันด้วยเช่นกัน ดวงวิญญาณทั้งหมดลงมาตามลำดับ มีการอธิบายแก่ลูกแล้วว่าลูกจะไปสู่โลกใหม่อย่างไร อะไรก็ตามเกิดขึ้นในวงจรก่อนหน้านี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง มีการอธิบายแก่ลูกแล้วเช่นกันว่าลูกจะไปสู่โลกใหม่อีกครั้งอย่างไร จะอธิบายให้เฉพาะกับผู้ที่ไปสู่โลกใหม่ตามลำดับกันไปเท่านั้น โดยการรู้จักพ่อ ลูกๆก็รู้เกี่ยวกับศาสนาของลูกและรู้เกี่ยวกับต้นไม้ทั้งต้นของศาสนาอื่นๆทั้งหมด ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องร้องขอสิ่งใดที่นี่ ไม่มีแม้กระทั่งพร บางคนเขียนว่า บาบา ฉันควรจะทำอย่างไร? ได้โปรดเมตตา! พ่อจะไม่ทำสิ่งใดเลย พ่อมาเพื่อชี้หนทางให้แก่ลูก เป็นบทบาทของพ่อในละครที่จะชำระทุกคนให้บริสุทธิ์ พ่อเล่นบทบาทของพ่อในแบบที่พ่อเล่นบทบาทนั้นทุกวงจร ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ดีหรือไม่ดี ก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร ลูกต้องไม่มีความคิดที่ไร้ประโยชน์เกี่ยวกับสิ่งใดเลย เราจะเฝ้าแต่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ นี่คือละครที่ไม่มีขีดจำกัด ทั้งวงจรจะจบสิ้นแล้วก็ซ้ำรอย ไม่ว่าความเพียรพยายามใดก็ตามที่แต่ละคนทำเขาก็จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพตามนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องร้องขอสิ่งใด ลูกร้องขอทรัพย์สมบัติอย่างมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกได้ใช้ทรัพย์สมบัตินั้นทั้งหมดจนหมดสิ้น ทั้งหมดนี้ก็ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร ผู้คนเหล่านั้นก็เพียงแต่พูดคุยกับลูกไปเรื่อยๆ ด้วยการทำความเลื่อมใสศรัทธาและศึกษาคัมภีร์เป็นเวลาครึ่งวงจรทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมากมาย เวลานี้ไม่มีความจำเป็นสำหรับลูกที่จะใช้จ่ายสิ่งใด พ่อคือผู้ประทาน ผู้ประทานไม่ต้องการสิ่งใด ท่านมาเพื่อให้ลูก อย่าคิดว่าลูกให้แก่ชีพบาบา ลูกได้รับมากมายจากชีพบาบา ลูกมาที่นี่เพื่อรับ นักเรียนไปหาครูของเขาเพื่อรับบางสิ่ง ลูกได้เข้าไปสู่การสูญเสียจากพ่อ,ครูและกูรูทางร่างกาย เวลานี้ลูกต้องทำตามศรีมัทและเมื่อนั้นที่ลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง ชีพบาบาเป็นสองศรี ลูกกลายเป็นศรีเดียว มีคำกล่าวว่า ศรีลักษมีและศรีนารายณ์ ศรีลักษมีและศรีนารายณ์นั้นคือสองชีวิต วิษณุกล่าวได้ว่าเป็นศรีศรีเพราะเขารวมกัน แต่อย่างไรก็ตามใครทำให้ทั้งสองเป็นเช่นนั้น? เพียงผู้เดียวเท่านั้นผู้ที่เป็นศรีศรี ไม่มีใครอื่นเป็นศรีศรี ทุกวันนี้ผู้คนก็ตั้งชื่อตนเองว่า ศรีลักษมีนารายณ์ ศรีสีดาราม ดังนั้นลูกต้องซึมซับทั้งหมดนี้และอยู่อย่างมีความสุข ทุกวันนี้การประชุมทางจิตก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เข้าใจความหมายของคำว่าจิตวิญญาณ ไม่มีใครนอกจากผู้เดียวที่สามารถให้ความรู้ทางจิตวิญญาณ พ่อคือพ่อคือพ่อของจิตวิญญาณทั้งหมด ท่านกล่าวได้ว่าเป็นจิตวิญญาณ พวกเขาพูดว่าปรัชญาคือจิตวิญญาณ ลูกเข้าใจว่านี่คือป่าที่พวกเขาเฝ้าแต่ให้ความทุกข์แก่กันและกันอยู่เรื่อยๆ ลูกรู้ว่าศาสนาที่ไม่ใช้ความรุนแรงสูงสุดของเหล่าเทพนั้นได้รับการจดจำ ไม่ได้มีความก้าวร้าวรุนแรงที่นั่น การโกรธก็เป็นความรุนแรงเช่นกัน เรียกว่ากึ่งความรุนแรง หรือเรียกอย่างอื่น ที่นี่ลูกต้องกลายเป็นผู้ที่ไม่มีความก้าวร้าวรุนแรงอย่างสมบูรณ์ ไม่ควรจะมีสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นด้วยความคิด,คำพูดหรือการกระทำของลูก เมื่อใครบางคนทำงานเป็นตำรวจ ฯลฯ เขาต้องทำทุกสิ่งอย่างมีศิลปะวิธี มากเท่าที่เป็นไปได้จงทำทุกสิ่งด้วยความรัก บาบามีประสบการณ์ของท่านเอง ท่านทำทุกสิ่งด้วยความรัก จำเป็นต้องมีไหวพริบอย่างมากสำหรับสิ่งนี้ ลูกต้องอธิบายให้กับใครบางคนด้วยความรักเป็นอย่างมากว่ามีการลงโทษร้อยเท่าสำหรับหนึ่ง(ความผิด) อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รักระลึกถึงและสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เราคือลูกๆของพ่อผู้ขจัดความทุกข์และเป็นผู้ประทานความสุข ดังนั้นอย่าได้เป็นเหตุของความทุกข์แก่ใคร เก็บเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกไว้เบื้องหน้าลูกและสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง ทำงานรับใช้ของการทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกับตัวลูก

2. ขณะที่ล่วงรู้ทุกบทบาทของละคร อย่าได้คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาในอดีต ให้ความใส่ใจว่าลูกจะไม่ทำการกระทำใดที่ไม่ดีด้วยความคิด คำพูด และการกระทำของลูก กลายเป็นผู้ที่ไม่มีความก้าวร้าวรุนแรงทั้งสองทาง

พร:
ขอให้ลูกทำให้พ่อผู้เดียวเป็นมิตรร่วมทางชีวิตของลูกและอยู่ในความเป็นมิตรของท่านและด้วยเหตุนั้นกลายเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์

ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์คือผู้ที่ได้สร้างสมความบริสุทธิ์ของพรหมจารีไว้ในความคิดของเขาและในความฝันของเขาและผู้ที่ทำตามคำสอนของพ่อบราห์มาในทุกย่างก้าว ความบริสุทธิ์หมายถึงการทำให้พ่อเป็นมิตรร่วมทางชีวิตที่สม่ำเสมอและอยู่ในความเป็นมิตรของพ่อ ความเป็นมิตรของชุมนุมและและกฎเกณฑ์ระเบียบวินัยของความรักของครอบครัวเป็นสิ่งที่แตกต่าง เป็นเพราะพ่อเท่านั้นที่ลูกมีความเป็นมิตรของความรักของชุมนุม ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแล้ว ครอบครัวจะมาจากที่ใด? พ่อคือเมล็ดและดังนั้นลูกต้องไม่มีวันลืมเมล็ด

คติพจน์:
อย่าเป็นผู้ที่ประทับใจใครบางคน แต่กลายเป็นผู้ที่สร้างความประทับใจให้ผู้อื่นด้วยความรู้นี้