21.04.24 Avyakt Bapdada Thai Murli
30.03.99 Om Shanti Madhuban
ให้ความรักของลูกสำหรับความพยายามอันแรงกล้าเป็นเช่นภูเขาไฟและกระจายคลื่นของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด
วันนี้บัพดาดาได้เห็นสามเส้นบนหน้าผากของลูกทุกคน
เส้นแรกคือโชคของการหล่อเลี้ยงของพระเจ้า
เพียงลูกเท่านั้นที่ได้รับโชคของการหล่อเลี้ยงนี้ของพระเจ้าเพียงครั้งเดียวตลอดทั้งวงจร
เป็นเพียงยุคบรรจบพบกันเท่านั้นและไม่ใช่ในช่วงเวลาอื่นใดที่พระเจ้าสามารถให้การหล่อเลี้ยงนี้ได้
มีลูกจำนวนน้อยมากที่ได้รับการหล่อเลี้ยงนี้จากพระเจ้า
เส้นที่สองของโชคของลูกคือเส้นของการศึกษาเล่าเรียนของพระเจ้า
โชคที่ลูกมีจากการศึกษาเล่าเรียนของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่มาก:
พระเจ้าเองกลายเป็นครูของลูกและสอนลูก
เส้นที่สามของโชคคือเส้นของการบรรลุผลที่ลูกได้รับจากพระเจ้า
ลองคิดดูสิว่าลูกมีการบรรลุผลมากมายเพียงใด
ลูกทุกคนจำได้ว่ารายการของการบรรลุผลของลูกนั้นยาวแค่ไหน
โชคทั้งสามเส้นนี้จะส่องประกายบนหน้าผากของลูกทุกคน
ลูกพิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณที่มีโชคที่ได้รับสิ่งนี้หรือไม่? การหล่อเลี้ยง
การศึกษาเล่าเรียน และการได้มาซึ่งการบรรลุผล พร้อมกับสิ่งเหล่านี้
บนพื้นฐานของความศรัทธาของลูก บัพดาดาก็มองเห็นความซาบซึ้งทางจิตของลูกเช่นกัน
ลูกดวงวิญญาณทั้งหลายซึ่งเป็นลูกของพระเจ้ามีความซาบซึ้งทางจิตเช่นนั้น
ลูกเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในบรรดาทุกคนในทั้งโลกและตลอดทั้งวงจร
ไม่มีดวงวิญญาณอื่นใดที่จะกลับมาบริสุทธิ์ทั้งในร่างกายและในจิตใจของพวกเขา
และเต็มไปด้วยคุณธรรมทั้งหมดและปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์เท่ากับลูกดวงวิญญาณที่อยู่ในรูปที่เป็นเทพของลูก
ลูกเป็นผู้ที่สูงสุด ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และร่ำรวยที่สุดด้วยเช่นกัน
ในตอนเริ่มต้นของการก่อตั้ง บัพดาดาเคยบอกลูกๆว่าลูกร่ำรวยที่สุด
เคยมีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ด้วยความซาบซึ้งอย่างมากว่า “โอมมันดาลีร่ำรวยที่สุดในโลก”
นี่เป็นการยกย่องของลูกๆทุกคนในตอนต้นของการก่อตั้งนี้
แม้ว่าจะมีใครบางคนกลายเป็นมหาเศรษฐีในหนึ่งวัน
แต่ก็ไม่มีใครสามารถร่ำรวยได้เท่ากับลูก ลูกเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด
อะไรคือสัญญาณบ่งบอกว่าลูกกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด?
มันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากที่จะทำ
ผู้คนใช้ความพยายามอย่างมากที่จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด
ในขณะที่ลูกกลับมาเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมดอย่าง่ายดายมาก!
ลูกรู้วิธีสำหรับสิ่งนี้ใช่ไหม? สิ่งที่ลูกต้องทำคือใส่จุดเล็กๆ เมื่อลูกใส่จุด
ลูกจะได้รับรายได้มากขึ้น มันเหมือนกับเมื่อลูกเติมศูนย์เพื่อเพิ่มจำนวน
แต่ละดวงวิญญาณเป็นจุด พ่อเป็นจุด และการใส่จุดฟูลสต๊อปกับละครก็เป็นจุดเช่นกัน
ทันทีที่ลูกจดจำว่าลูกเป็นดวงวิญญาณ เป็นจุด รายได้ของลูกก็จะเพิ่มขึ้น
ในทางโลกเช่นกัน จำนวนจะเพิ่มขึ้นเมื่อเติมศูนย์เข้าไป
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกใส่ศูนย์หลังเลขหนึ่ง? มันจะกลายเป็นสิบ
เมื่อลูกเติมศูนย์หนึ่งตัว ศูนย์สองตัว ศูนย์สามตัว ศูนย์สี่ตัว
จำนวนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วิธีการของลูกง่ายมาก!
การใส่จุดของจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณหมายถึงการสะสมสมบัติที่มีค่าให้กับตนเอง
แล้วเมื่อลูกใส่จุดของพ่อแล้ว (มีการจดจำระลึกถึงพ่อ)
ลูกก็จะสะสมสมบัติที่มีค่าเพิ่มขึ้น
จากนั้นเมื่อลูกใส่จุดฟูลสต๊อปกับละครในขณะที่แสดงการกระทำในการติดต่อและในความสัมพันธ์กับผู้อื่น
เมื่อลูกใส่จุดฟูลสต๊อปกับอดีต สมบัติที่มีค่าของลูกก็จะเพิ่มมากขึ้น
แล้วลูกใส่จุดตลอดทั้งวันกี่ครั้ง? ลูกใส่จุดใช่ไหม? เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะใส่จุด
ลูกเห็นว่ามันยากไหม? จุดลื่นไหลออกไปหรือไม่?
บัพดาดาได้สอนลูกถึงวิธีการหารายได้เพียงแค่ใส่จุด ลูกทุกคนรู้วิธีการใส่จุดหรือไม่?
หากลูกรู้วิธีที่จะทำสิ่งนี้แล้วตบมือด้วยมือข้างหนึ่ง! มันมั่นคงใช่ไหม?
หรือบางครั้งมันลื่นไหลไปและบางครั้งยังคงใช้อยู่? วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใส่จุด
แม้แต่คนตาบอดก็สามารถใช้ดินสอเขียนจุดลงบนกระดาษได้ เขาสามารถใส่จุดได้
อย่างไรก็ตามลูกคือตรีเนตร (ผู้ที่มีสามตา)
ดังนั้นลูกสามารถใช้สามจุดนี้อย่างสม่ำเสมอ เครื่องหมายคำถามมีความโค้งงอ
แค่เขียนก็ดูมันโค้งงอแล้วใช่ไหม? เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะใส่จุด!
เหตุนี้เองบัพดาดาจึงบอกลูกๆถึงวิธีต่างๆที่จะกลับมาทัดเทียม
วิธีนั้นก็เพียงแค่ใส่จุด ไม่มีวิธีอื่น แม้ว่าจะกลับมาปราศจากร่างก็ตาม
วิธีที่ลูกจะใช้ก็คือการกลับมาเป็นจุด เมื่อลูกกลับมาปราศจากร่าง
และเมื่อลูกกลับมาอยู่เหนือบ่วงกรรม วิธีที่ลูกจะใช้คือการกลายเป็นจุด
นี่คือสาเหตุที่บัพดาดาบอกลูกก่อนหน้านี้เช่นกันว่าเมื่อลูกเฉลิมฉลองการพบปะกับบัพดาดาในเวลาอมฤต
เมื่อลูกมีการสนทนาจากใจถึงใจ หรือเมื่อลูกกำลังทำงาน
ก่อนอื่นให้แต้มติลักสามจุดบนหน้าผากของลูก
ไม่ใช่เริ่มต้นด้วยการแต้มติลักสีแดงสามจุดบนหน้าผากของลูก
แต่แต้มติลักของสำนึกรู้นี้แล้วตรวจสอบดูว่าติลักนี้จะไม่เคยถูกถูออกไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ติลักที่ไม่สูญสลายไม่สามารถถูกถูออกไปได้ใช่หรือไม่?
บัพดาดาได้เห็นความรักของลูกๆทุกคนที่มี
และวิธีที่ลูกทั้งหมดวิ่งมาที่นี่ด้วยความรักอย่างมากมายเพื่อที่จะเฉลิมฉลองการพบปะนี้กับบัพดาดา
และเมื่อลูกมานั่งในฮอล์ล(ห้อง)นี้เพื่อพบกับบาบา เพราะความรักของลูก
ลูกจึงใช้ความพยายามอย่างมากที่จะนั่งข้างหน้าจนลูกลืมเกี่ยวกับเรื่องการนอนหรือความกระหายของลูก
ฯลฯ บัพดาดามองเห็นทุกสิ่งและสิ่งที่ลูกทุกคนทำ บาบาเห็นละครทั้งหมด
บัพดาดาก็อุทิศตนให้แก่ลูกๆด้วยเช่นกันเพราะความรักของลูกและพูดกับลูกๆว่า:
เช่นที่ลูกวิ่งมาเพื่อพบปะกับพ่อในรูปที่มีตัวตนนี้
ในทำนองเดียวกันจงเพียรพยายามอย่างแรงกล้าที่จะกลับมาทัดเทียมกับพ่อ
ลูกทุกคนคิดที่จะได้ที่นั่งแถวแรกๆที่นี่
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่สามารถได้รับสิ่งนี้ นี่คือโลกที่มีตัวตน
และดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามกฎของโลกที่มีตัวตนนี้
ในเวลานั้นบัพดาดารู้สึกว่าลูกทุกคนควรจะนั่งข้างหน้า แต่นั่นจะเป็นไปได้ไหม?
มันจะเกิดขึ้น แต่อย่างไร?
บัพดาดามองเห็นผู้ที่นั่งข้างหลังอย่างเป็นผู้ที่หลอมรวมอยู่ในดวงตาของท่านตลอดเวลา
ดวงตาคือสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดที่สุด ดังนั้นลูกไม่ได้นั่งอยู่ข้างหลัง
แต่ลูกอยู่ในดวงตาของบัพดาดา ลูกคือแสงสว่างของดวงตา
ลูกทุกคนที่นั่งข้างหลังได้ยินสิ่งนี้หรือไม่? ลูกไม่ได้นั่งห่างไกล แต่ลูกอยู่ใกล้
ร่างกายของลูกอาจจะนั่งอยู่ด้านหลัง แต่ลูกดวงวิญญาณอยู่ใกล้ที่สุด
บัพดาดามองผู้ที่นั่งอยู่ข้างหลังมากที่สุด
ผู้ที่นั่งใกล้อยู่ข้างหน้ามีโอกาสได้เห็นบาบาด้วยตาของพวกเขา
ในขณะที่ผู้ที่นั่งอยู่ข้างหลังไม่มีโอกาสนี้
เหตุนี้เองบัพดาดาจึงหลอมรวมลูกไว้ในดวงตาของท่าน
บัพดาดายังคงยิ้มอยู่เรื่อยๆเพราะทันทีที่ถึงเวลาตีสองทุกคนจะเริ่มเข้าแถวกัน
บัพดาดาตระหนักดีว่าลูกอาจจะเหนื่อยล้าจากการยืนอยู่ตรงนั้น
ดังนั้นบัพดาดาจึงนวดลูกทุกคนด้วยความรัก แล้วขาของลูกก็จะได้รับการนวด
ลูกรู้สึกถึงการนวดของบัพดาดาไหม มันน่ารักมากและพิเศษสุดไม่เหมือนใคร
ดังนั้นวันนี้ทุกคนจึงวิ่งมาจากทุกหนแห่งเพื่อคว้าโอกาสสุดท้ายของฤดูกาลนี้
นี่เป็นสิ่งที่ดี
ความจริงจังและความกระตือรือร้นที่จะเฉลิมฉลองการพบปะกับพ่อทำให้ลูกก้าวไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตามบัพดาดาไม่ลืมลูกแม้แต่วินาทีเดียว มีเพียงพ่อผู้เดียวแต่มีลูกๆมากมาย
อย่างไรก็ตามบาบาก็ไม่ลืมลูกๆมากมายแม้แต่วินาทีเดียว
เพราะลูกเป็นลูกที่รักที่จากหายไปนานและเวลานี้ได้พบพานแล้ว
ดูซิว่าพ่อได้พบลูกๆทั้งหลายในมุมต่างๆที่ห่างไกลของดินแดนนี้และในต่างแดนได้อย่างไร!
ลูกสามารถพบพ่อได้หรือไม่?
ลูกเฝ้าแต่เร่ร่อนและล้มลุกคลุกคลานไปทั่วแต่ก็ไม่สามารถพบพ่อได้ อย่างไรก็ตาม
พ่อได้พบลูกของพ่อในดินแดนต่างๆ ประเทศต่างๆ และรัฐต่างๆ ฯลฯ พ่อทำให้ลูกเป็นของพ่อ
ลูกร้องเพลง “ฉันเป็นของบาบาและบาบาเป็นของฉัน”
บาบาไม่ได้มองดูที่ชนชั้นวรรณะของลูก ประเทศของลูก สีผิวของลูก ฯลฯ
ท่านมองเห็นเพียงสีเดียวทางจิตวิญญาณบนหน้าผากของลูกแต่ละคนเท่านั้น โจติบินดู (จุดแห่งแสง)
ลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์คิดอย่างไร? พ่อมองดูที่ชนชั้นวรรณะหรือสีผิวของลูกหรือไม่?
ไม่ว่าลูกจะดำหรือขาว หรือสวยงามหรือน่าเกลียด บาบาไม่ได้มองดูที่สิ่งใดเลย
ท่านเพียงแต่เห็นว่าลูกเป็นของท่านเท่านั้น
ดังนั้นนี่คือความรักของพ่อหรือความรักของลูก? นี่เป็นความรักของใคร? (ของทั้งสอง)
ลูกฉลาดมากในการตอบ พวกเขาพูดว่า: “บาบาท่านบอกกับพวกเราว่าความรักดึงดูดความรัก
และนั่นเป็นเพราะความรักดึงดูดความรักที่ท่านมีความรัก และเราก็มีความรักด้วย”
ลูกมีความฉลาดมาก พ่อพอใจที่เห็นลูกๆมีความกล้าหาญ ความจริงจัง และความกระตือรือร้น
บัพดาดามีผลลัพธ์ของชาร์ท 15 วันของลูกๆมากมาย
สิ่งหนึ่งที่บาบาเห็นในผลลัพธ์ของลูกๆในทุกหนแห่งก็คือลูกส่วนใหญ่มีความใส่ใจ
เปอร์เซ็นต์ไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องการ แต่ลูกก็มีความใส่ใจ
และลูกที่มีความพยายามอย่างแรงกล้ากำลังพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายในการรักษาสัญญาที่พวกเขาได้ให้ไว้ในหัวใจของพวกเขาและก้าวไปข้างหน้า
โดยการก้าวไปข้างหน้าในลักษณะนี้ลูกจะไปถึงจุดหมายปลายทางของลูก
มีเพียงส่วนน้อยที่แม้กระทั่งเวลานี้เป็นเพราะความประมาทหรือความเกียจคร้านจึงให้ความใส่ใจน้อยมาก
คติพจน์พิเศษของพวกเขาคือ: “ใช่ เราจะทำสิ่งนั้น เราจะไปที่นั่น”
เมื่อลูกคิดว่าลูกจะไปถึงจุดนั้นเมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่ง นั่นคือความประมาท
การพูดว่า "ฉันต้องไปให้ถึงจุดนั้น" คือความพยายามอย่างแรงกล้า
บัพดาดาได้ยินคำสัญญามากมาย ลูกให้คำสัญญาที่สวยงามมากมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลูกๆทำสัญญาที่ดีเช่นนั้นด้วยความกล้าหาญเป็นอย่างมากกว่า
ในเวลานั้นลูกจะให้แม้กระทั่งดิลคุชโทลีกับบัพดาดา บาบาก็กลืนสิ่งนั้นด้วยเช่นกัน (ยอมรับในสิ่งที่ลูกพูด)!
อย่างไรก็ตามการให้คำสัญญาหมายถึงการสัมผัสกับคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากความพยายามของลูกเพื่อที่จะทำให้สิ่งนั้นประสบความสำเร็จ
หากลูกไม่สัมผัสกับคุณประโยชน์ใดๆแล้วแสดงว่าสัญญาของลูกไม่แข็งแกร่ง
ดังนั้นลูกอาจให้คำสัญญาได้ เพราะอย่างน้อยลูกก็เสริร์ฟบาบาด้วยดิลคุชโทลี
อย่างไรก็ตามพร้อมกันนั้น ลูกต้องทำให้ความรักในความพยายามของลูกอยู่ในรูปของไฟ
จงกลายเป็นเหมือนภูเขาไฟ
ตามเวลานั้นไม่ว่าบัญชีกรรมใดที่ลูกยังคงมีอยู่เกี่ยวกับจิตใจ ความสัมพันธ์
และการติดต่อ จงเผาสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดด้วยรูปของไฟของลูก นี่คือความรักที่ลูกมี
และบัพดาดาได้ให้คะแนนผ่านแก่ลูกสำหรับสิ่งนี้ ลูกมีความรักนี้
แต่เวลานี้ความรักของลูกควรอยู่ในรูปของไฟ
ในด้านหนึ่งของโลกจะมีไฟของความคอร์รัปชั่นและความรุนแรง
และอีกด้านหนึ่งจะมีโยคะอันทรงพลัง
นั่นคือโยคะของความเข้มข้นของภูเขาไฟเป็นสิ่งที่จำเป็น
ความรุนแรงของไฟของลูกจะจบสิ้นไฟของคอร์รัปชั่นและความรุนแรง
และให้ความร่วมมือกับทุกดวงวิญญาณ ในด้านหนึ่งความรักอันแรงกล้าของลูก นั่นคือ
โยคะอันทรงพลังและการจดจำระลึกถึงจะจบสิ้นไฟนั้น
และในอีกด้านหนึ่งมันจะทำให้ดวงวิญญาณได้สัมผัสกับสาสน์ของพระเจ้าและรูปของความเยือกเย็น
มันจะยิ่งเพิ่มทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด ในด้านหนึ่งมันจะเผาทุกสิ่ง
และอีกด้านหนึ่งมันจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเย็นลง
มันจะกระจายคลื่นของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกๆบอกว่า
พวกฉันมีโยคะและไม่มีใครอื่นนอกจากบาบา นั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก อย่างไรก็ตาม ตามเวลา
ลูกได้รับการบอกว่าเวลานี้ความรักของลูกต้องกลายเป็นเหมือนภูเขาไฟ
ในอนุสรณ์ความทรงจำ ชักตีและมหาชักตีทั้งหลายได้ถูกแสดงในรูปที่ถืออาวุธทั้งหมด
เวลานี้ลูกต้องเปิดเผยรูปของมหาชักตีเหล่านั้น
ลูกทุกคนไม่ว่าจะเป็นพันดาวาสหรือชักตีล้วนเป็นแม่น้ำแห่งความรู้ที่ปรากฏออกมาจากมหาสมุทร
ลูกไม่ใช่มหาสมุทร แต่เป็นแม่น้ำ ลูกคือแม่น้ำคงคาแห่งความรู้
ดังนั้นลูกคงคาแห่งความรู้เวลานี้ต้องปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งหลายจากบาปของพวกเขาด้วยความเยือกเย็นแห่งความรู้ของลูก
นี่คือหน้าที่ของลูกบราห์มินในเวลาปัจจุบัน
ลูกๆทุกคนเคยถามว่าลูกต้องทำงานรับใช้อะไรบ้างในปีนี้
ตามเวลาแล้วลูกทุกคนอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ
ดังนั้นงานรับใช้แรกที่บัพดาดากำลังบอกให้ลูกทำก็เหมือนกับผู้ที่อยู่ในสภาพนี้
พวกเขาจะให้เวลาและให้ทุกสิ่งแก่ลูกๆของพวกเขาและอยู่อย่างปลดเกษียณ
ดังนั้นเวลานี้ลูกทั้งหมดควรใช้สมบัติที่มีค่าของเวลาและความคิดที่สูงส่งเพื่อผู้อื่น
เวลานี้ใช้เวลาและความคิดเพื่อตนเองให้น้อยลง
โดยการกลายเป็นเครื่องมือและใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อผู้อื่น
ลูกสามารถรับประทานผลของงานรับใช้นั้นในทางปฏิบัติ รับใช้ด้วยความคิดของลูก
รับใช้ด้วยคำพูดของลูก
ที่สำคัญที่สุดใครก็ตามที่เข้ามามีการติดต่อหรือมีความสัมพันธ์กับลูก
ไม่ว่าดวงวิญญาณเหล่านั้นจะเป็นบราห์มินหรือไม่ก็ตาม
ลูกจะกลายเป็นนายผู้ประทานและให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งกับพวกเขา
จงเห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นและให้ความสุขกับพวกเขา ให้ความสงบกับพวกเขา
ให้พวกเขาได้สัมผัสกับความปีติสุข ให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ของความรัก ลูกต้องให้
และการให้หมายถึงการรับโดยอัตโนมัติ
ไม่มีความเห็นแก่ตัวที่ใครก็ตามที่เข้ามามีการติดต่อกับลูกควรกลับไปเมื่อได้รับบางสิ่งบางอย่างจากลูกแล้ว
หลังจากที่ได้มาหาลูกผู้เป็นนายผู้ประทานพวกเขาไม่ควรกลับไปด้วยมือเปล่า
ลูกได้เห็นแล้วว่าเมื่อใดก็ตามที่พ่อบราห์มาเดินเหินหรือเคลื่อนไหวไปมา
และมีใครบางคนมาอยู่ตรงหน้าท่าน
ลูกคนนั้นจะไม่ไปจากบาบาไปโดยที่ไม่ได้ประสบการณ์บางอย่างเลย ดังนั้นจงตรวจสอบดูว่า
เมื่อใดก็ตามที่ลูกได้พบกับใครก็ตาม
ไม่ว่าลูกจะให้อะไรพวกเขาหรือว่าพวกเขาไปมือเปล่าก็ตาม
ผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยสมบัติที่มีค่าไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ให้สิ่งใดเลย
กลายเป็นผู้ประทานที่ไม่มีขีดจำกัดและสม่ำเสมอเช่นนั้นที่จะไม่มีใครต้องมาร้องขอสิ่งใดจากลูก
แม้ว่าพวกเขาอาจจะร้องขอ
แต่ผู้ประทานจะไม่เคยคิดว่าเขาจะให้บางสิ่งเมื่อมีคนมาร้องขอเท่านั้น
ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่และไม่มีขีดจำกัด ผู้ประทานที่ยิ่งใหญ่ จะให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ
งานรับใช้แรกที่ลูกต้องทำในปีนี้คือการกลายเป็นผู้ประทานที่ยิ่งใหญ่
ลูกกำลังให้สิ่งใดก็ตามที่ลูกได้รับจากผู้ประทาน บราห์มินอีกคนหนึ่งไม่ใช่ขอทาน
แต่เป็นดวงวิญญาณที่ให้ความร่วมมือ บราห์มินจะไม่ให้ทานแก่กันและกัน
พวกเขาให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน นี่คืองานรับใช้ที่สำคัญที่สุด
พร้อมกับสิ่งนี้บัพดาดาได้ยินข่าวดีบางอย่างจากลูกที่อยู่ต่างประเทศ
บาบาได้บอกลูกให้หาไมค์เพื่อกระจายเสียงออกไปทั่วโลก
และลูกๆจากต่างประเทศทั้งหมดต่างก็มีการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีเพื่อให้งานนี้บรรลุผลสำเร็จ
เมื่อมีการทำแผนแล้วก็ต้องนำไปปฏิบัติ อย่างไรก็ตามในบารัตเช่นกัน
บัพดาดาได้บอกแต่ละโซนทั้ง 13 โซน ให้สร้างบุคคลเช่นนั้นอย่างน้อยหนึ่งคน
ไม่ว่าลูกจะเรียกพวกเขาว่าไมค์หรืออะไรก็ตาม
อย่างน้อยก็ให้มีผู้รับใช้พิเศษหนึ่งคนที่สามารถเป็นเครื่องมือสำหรับสิ่งนี้
หากลูกพบว่ามีเครื่องมือเช่นนั้นในรัฐใหญ่แล้วลูกก็สามารถทำโปรแกรมสำหรับดวงวิญญาณเช่นนั้นจากรัฐใหญ่ได้
และไม่ใช่แค่โซนต่างๆ ไม่ใช่ว่าลูกสามารถสร้างโปรแกรมเช่นนั้นได้
แต่ลูกต้องทำโปรแกรมเช่นนั้นด้วย
บัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกๆในต่างประเทศจากหัวใจของท่าน
และเวลานี้ท่านกำลังแสดงความยินดีกับลูกด้วยคำพูดสำหรับการนำแผนงานที่ลูกจะนำไปปฏิบัติต่อหน้าบัพดาดา
อันที่จริงบัพดาดารู้ดีว่าเป็นสิ่งที่ง่ายกว่าที่จะทำสิ่งนี้ในบารัต
แต่เวลานี้ลูกต้องรับใช้ดวงวิญญาณที่มีคุณภาพและทำให้พวกเขากลายเป็นดวงวิญญาณที่ให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
มีดวงวิญญาณที่ให้ความร่วมมือมากมาย
แต่เวลานี้ลูกต้องนำพวกเขาให้เข้ามาใกล้ชุมนุมมากขึ้น
พร้อมกันนี้
เพื่อที่จะนำดวงวิญญาณบราห์มินให้เข้ามาใกล้ชิด
เพื่อที่จะสร้างบรรยากาศแห่งความรักอันเข้มข้นในมธุบันและในที่อื่นๆ
ให้มีบัตตีร่วมกันและมีชุมนุมของการสนทนาจากใจถึงใจในระหว่างพวกลูกๆเอง
ทุกคนควรได้รับประสบการณ์ของไฟที่ร้อนแรงเหมือนภูเขาไฟและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า
เมื่อลูกไม่ว่างเว้นกับการทำงานรับใช้นี้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ
ที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ท้อแท้
ลูกจะรู้สึกเหมือนกับเป็นเกมตุ๊กตา
เมื่อเทียบกับสภาพสูงสุดของไฟแห่งความรักที่ร้อนแรง
แล้วลูกจะอยู่อย่างปลอดภัยได้อย่างง่ายดายและโดยอัตโนมัติ
บัพดาดาบอกลูกว่าท่านรู้สึกเมตตามากที่สุดเมื่อท่านเห็นลูกๆผู้เป็นนายผู้ทรงอำนาจยังคงลำบากตรากตรำกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ
เมื่อไฟแห่งความรักของลูกลดน้อยลงลูกจะต้องลำบากตรากตรำ
ดังนั้นเวลานี้จงปลดปล่อยตนเองจากการที่ต้องลำบากตรากตรำทำงานหนัก
อย่าได้ไม่ระมัดระวัง แต่จงเป็นอิสระจากความลำบากตรากตรำทำงานหนัก
อย่าคิดว่าไม่ต้องทำงานหนักเพื่อที่ลูกจะได้ไปนอนได้สบาย
จบสิ้นความลำบากตรากตรำของลูกด้วยความรัก ไม่ใช่ด้วยความประมาท
ลูกเข้าใจสิ่งที่ลูกต้องทำหรือไม่?
ตอนนี้บัพดาดาต้องกลับมาอีกครั้ง ลูกทุกคนกำลังถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
ไม่ว่าบัพดาดาจะมาหรือไม่ก็ตาม บัพดาดาไม่เคยพูดว่าไม่ ท่านพูดว่า "ฮาจี ฮาจี" เสมอ
เมื่อลูก ๆ ร้องเรียกหา "พระเจ้า" บาบาจะพูดว่า "จีฮาซูร์" (ฉันอยู่นี่)
แล้วลูกเข้าใจไหมว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ? จบสิ้นความลำบากตรากตรำด้วยความรัก
เวลานี้ จงเฉลิมฉลองปีนี้อย่างเป็นปีที่เป็นอิสระจากความลำบากตรากตรำทำงานหนัก
ด้วยความรัก ไม่ใช่ด้วยความเกียจคร้าน! จดจำสิ่งนี้ไว้อย่างมั่นคง!
ไม่ใช่ด้วยความเกียจคร้าน! โอเคไหม? คำถามของลูกทั้งหมดจบสิ้นลงแล้วหรือยัง?
มีอะไรยังคงอยู่บ้างไหม? (บาบากำลังถามดาดี้ จางกี) มีอะไรยังคงอยู่บ้างไหม?
ดาดี้จียังคงยิ้มอยู่ เวลานี้เกมนั้นจบลงแล้ว การปฏิบัติการนั้นคืออะไร?
มันเป็นเกมภายในการละเล่น เกมนั้นดีมากใช่ไหม?
(บัพดาดาดำเนินการฝึกภาคปฏิบัติ)
ลูกต้องฝึกมีสมาธิและทำให้จิตใจและสติปัญญาของลูกมั่นคงในรูปของจุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าภายในหนึ่งวินาที
ทันทีที่ลูกพูดว่า "หยุด!"
จิตใจและสติปัญญาของลูกควรสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์และอยู่เหนือจิตสำนึกที่เป็นร่างกายที่สูญเปล่าใดๆ
ตลอดทั้งวันให้ใช้พลังในการควบคุมเช่นนั้น
ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นที่เมื่อลูกออกคำสั่งในการควบคุมมันจะใช้เวลาสองนาทีหรือห้านาทีจึงจะเกิดขึ้น
ดังนั้นให้ฝึกฝนการใช้พลังในการควบคุมของลูกไปเรื่อยๆเป็นระยะๆ
และดูว่ามันทำงานอย่างไร มันได้ผลไหม
ตรวจสอบอยู่เรื่อยๆว่าลูกต้องใช้เวลาหนึ่งวินาที หนึ่งนาที
หรือสองสามนาทีจึงจะสามารถควบคุมจิตใจของลูกได้ในหนึ่งวินาที
เวลานี้ลูกทุกคนต้องทำให้ชาร์ทของลูกมั่นคงมากเป็นเวลาสามเดือน
ลูกต้องประกาศสิทธิ์ในใบประกาศนียบัตรนี้ ก่อนอื่น
ลูกต้องมอบใบประกาศนียบัตรนี้ให้กับตัวเอง
และแล้วบัพดาดาจะให้ใบประกาศนียบัตรกับลูก อัจฉะ
ถึงดวงวิญญาณทั้งหมดที่มีสิทธิ์ในการได้รับการหล่อเลี้ยงของพระเจ้า
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งที่มีสิทธิ์ในการศึกษาเล่าเรียนของพระเจ้า
ถึงดวงวิญญาณผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยการบรรลุผลที่พระเจ้าประทานให้
ถึงดวงวิญญาณที่เพียรพยายามอย่างแรงกล้าซึ่งใช้วิธีของจุด
ถึงลูกๆที่อยู่อย่างเป็นอิสระจากความลำบากตรากตรำและหลอมรวมอยู่ในความรักอยู่เสมอ
ถึงดวงวิญญาณพิเศษซึ่งมีความรักอันเข้มข้น ด้วยความรัก ความทรงจำระลึกถึง และนมัสเต
จากบัพดาดา
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้รับใช้ที่แท้จริงที่จบสิ้นกระแสจิตที่เสียทั้งหมดด้วยพลังของความคิดที่บริสุทธิ์และทรงพลังของลูก
กล่าวกันว่า: “ความคิดสามารถสร้างโลก”
เมื่อลูกมีความคิดที่อ่อนแอหรือไร้ประโยชน์ โลกที่มีบรรยากาศเสียจะถูกสร้างขึ้น
ผู้รับใช้ที่แท้จริงคือผู้ที่จบสิ้นกระแสจิตเก่าทั้งหมดด้วยความคิดที่บริสุทธิ์และทรงพลังของเขา
เช่นเดียวกับที่วิทยาศาสตร์ทำลายอาวุธด้วยอาวุธ
พวกเขาทำลายเครื่องบินลำหนึ่งด้วยเครื่องบินอีกลำหนึ่ง
ในทำนองเดียวกันกระแสจิตของความคิดที่บริสุทธิ์และทรงพลังของลูกจะทำให้บรรยากาศที่เสียนั้นจบสิ้นลง
เวลานี้ให้ทำงานรับใช้เช่นนั้น
คติพจน์:
จงเป็นอิสระจากอุปสรรคของเส้นด้ายทองที่ละเอียดอ่อนใดๆ
และเฉลิมฉลองปีแห่งการหลุดพ้น
หมายเหตุ:
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 3 วันสมาธิโลกสากล
และลูกบราห์มินทุกคนจะนั่งสมาธิตั้งแต่เวลา 18.30 น. ถึง 19.30 น.
จงมั่นคงอยู่ในสภาพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาของลูก
พิจารณาว่าตนเองเป็นเทพผู้เป็นที่รักพิเศษ
และเติมเต็มความปรารถนาของผู้เลื่อมใสศรัทธาของลูก
ทำงานรับใช้ของการพาดวงวิญญาณไปอยู่เหนือด้วยการชำเลืองมองเพียงแวบเดียว
และเป็นภาพลักษณ์ที่ให้นิมิต และในขณะเดียวกันก็ให้นิมิตแก่พวกเขา
ทำให้พวกเขามีความสุข