01.04.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน พ่อคือผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ การเรียกท่านว่าจานิจานันฮาร์(ผู้ที่รู้สิ่งที่อยู่ภายในหัวใจของแต่ละคน)
คือคำยกย่องที่ผิดสำหรับท่าน พ่อมาเพื่อเปลี่ยนลูกจากไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
คำถาม:
พร้อมกับการยกย่องพ่อ มีใครอีกที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด? คำยกย่องนั้นคืออะไร?
คำตอบ:
1)
พร้อมกันกับการยกย่องพ่อ บารัตก็ได้รับการยกย่องอย่างมากเช่นกัน
เพียงบารัตเท่านั้นคือดินแดนที่ไม่สูญสลาย เพียงบารัตเท่านั้นที่กลายเป็นสวรรค์
พ่อทำให้ผู้คนของบารัตมั่งคั่งมีความสุขและบริสุทธิ์ 2)
มีคำยกย่องกีตะที่ไม่มีขีดจำกัดด้วยเช่นกัน กีตะเป็นเพชรพลอย แม่ของคัมภีร์ทั้งหมด
3) มีคำยกย่องอย่างมากของลูกผู้เป็นแม่น้ำคงคาแห่งความรู้ที่มีชีวิต
ลูกปรากฏออกมาโดยตรงจากมหาสมุทรแห่งความรู้
โอมชานติ
ลูกใหม่พร้อมกับลูกเก่าก็เข้าใจความหมายของคำว่า “โอมชานติ”
เวลานี้ลูกรู้ว่าลูกทั้งหมดคือดวงวิญญาณ และลูกคือลูกๆ ของพ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดคือผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดและเป็นผู้เป็นที่รักที่สุด
ท่านคือผู้เป็นที่รักของทุกคน
ได้มีการอธิบายนัยสำคัญของความรู้และความเลื่อมใสศรัทธาแก่ลูกแล้ว
ความรู้หมายถึงกลางวัน,ยุคทองและยุคเงิน และความเลื่อมใสศรัทธาหมายถึงกลางคืน,ยุคทองแดงและยุคเหล็ก
ทั้งหมดนี้หมายถึงบารัต เป็นลูกๆ ผู้คนของบารัตผู้ที่ได้ลงมาเป็นอันดับแรก วงจรของ
84 ชาติเกิดเป็นไปสำหรับลูกๆ ผู้คนของบารัต บารัตคือดินแดนที่ไม่สูญสลาย
เพียงดินแดนบารัตเท่านั้นที่กลายเป็นสวรรค์ ไม่มีดินแดนอื่นใดกลายเป็นสวรรค์
ได้มีการอธิบายแก่ลูกๆแล้วว่ามีเพียงบารัตเท่านั้นในโลกใหม่ยุคทอง
เพียงบารัตเท่านั้นที่เรียกว่าสวรรค์ และแล้วขณะที่ผู้อาศัยของบารัตกำลังใช้ 84
ชาติเกิด พวกเขาก็กลายเป็นชาวนรก จากชาวนรกแล้วพวกเขาก็กลายเป็นชาวสวรรค์
ในปัจจุบันทั้งหมดคือชาวนรก เพียงบารัตเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่
เพราะดินแดนอื่นๆทั้งหมดจะถูกทำลาย คำยกย่องของดินแดนบารัตนั้นไม่มีขีดจำกัด
เป็นเพียงในดินแดนบารัตเท่านั้นที่พ่อมาและสอนราชาโยคะแก่ลูก
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด ยุคแห่งกีตะ
เพียงบารัตเท่านั้นที่กำลังจะกลับมาเป็นดินแดนที่สูงส่งที่สุด
ในปัจจุบันศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปไม่ได้มีอยู่
ทั้งอาณาจักรและยุคนั้นก็ไม่ได้คงอยู่ ลูกๆ
ทั้งหมดรู้ว่าเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นผู้ทรงพลังอำนาจของโลก
ผู้คนของบารัตทำความผิดอย่างมาก ด้วยการพูดว่า พระเจ้าคือ อันตะรายามิ (ผู้เดียวที่ล่วงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในทุกคน)และรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจแต่ละคน
พ่อพูดว่า: พ่อไม่รู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในทุกคน
งานของพ่อคือการชำระล้างผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์ ผู้คนมากมายก็พูดว่า:
ชีพบาบาท่านคืออันตะรายามิ(ผู้เดียวที่รู้สิ่งที่อยู่ภายในหัวใจของทุกคน)
บาบาพูดว่า: พ่อไม่ได้เป็นเช่นนั้น พ่อไม่รู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในหัวใจของแต่ละคน
พ่อมาเพียงแค่ชำระผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
ลูกปลุกเรียกพ่อเข้ามาสู่โลกที่ไม่บริสุทธิ์ พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เมื่อโลกเก่าต้องถูกทำให้ใหม่
ผู้คนนั้นไม่รู้ว่าเมื่อไรโลกเก่านั้นจะกลับมาใหม่หรือเมื่อไรที่โลกใหม่จะกลับมาเก่า
ทุกสิ่งนั้นต้องเปลี่ยนจากใหม่เป็นเก่าอย่างแน่นอน ขณะที่ไปผ่านสภาพสาโท
ราโจและตาโม มนุษย์เองก็เป็นเช่นนี้ด้วย เริ่มแรกทารกนั้นก็สะโตประธาน
และแล้วก็ได้กลายเป็นผู้ใหญ่และแล้วก็เป็นผู้ที่แก่ชรานั่นคือเขาก็ได้ไปผ่านสภาพราโจและตาโม
เมื่อร่างของใครบางคนแก่ชรา
ดวงวิญญาณนั้นก็จากร่างและก็เข้าไปในร่างอื่นเป็นทารกอีกครั้ง ลูกๆ
รู้ว่าบารัตนั้นเคยสูงส่งอย่างไรในโลกใหม่ คำยกย่องของบารัตนั้นไม่มีขีดจำกัด
ไม่มีแผ่นดินอื่นใดที่มีความสุขมั่งคั่งหรือบริสุทธิ์เช่นที่บารัตเคยเป็น
เวลานี้พ่อมาเพื่อทำให้แผ่นดินนั้นสะโตประธานอีกครั้ง
โลกที่สะโตประธานกำลังมีการก่อตั้งขึ้น ใครที่สร้างตรีมูรติ บราห์มา,วิษณุและชังการ์?
ชีวานั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด ผู้คนพูดถึงตรีมูรติบราห์มา
แต่พวกเขาไม่ได้เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น
ในความเป็นจริงพวกเขาควรจะพูดว่าตรีมูรติชีวาไม่ใช่ตรีมูรติบราห์มา
พวกเขาพูดถึงเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาเทพทั้งหมด
พวกเขาเชื่อว่าชังการ์นั้นสูงสุด ดังนั้นพวกเขาควรที่จะพูดว่าตรีมูรติชังการ์
เหตุใดพวกเขาจึงพูดว่า“ตรีมูรติบราห์มา”? ชีวาคือผู้สร้าง ได้มีการจดจำว่า
พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดสร้างบราห์มินผ่านบราห์มา
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาผู้คนเรียกพ่อผู้เต็มไปด้วยความรู้ พ่อ จานิจานันฮาร์ (ผู้เดียวที่ล่วงรู้ถึงสิ่ง)คำยกย่องนั้นไม่มีความหมาย
ลูกๆ รู้ว่าเวลานี้ลูกกำลังจะได้รับมรดกจากพ่อ ท่านเองสอนเราบราห์มิน เพราะเหตุใด?
เพราะท่านคือพ่อและครูสูงสุด
ท่านอธิบายประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลกด้วยและลูกได้วนไปรอบวงจรอย่างไร
เพียงท่านเท่านั้นที่เต็มไปด้วยความรู้ ไม่ใช่ว่าท่านคือจานิจานันฮาร์
นั่นเป็นสิ่งที่ผิด
พ่อเพียงแค่มาเพื่อชำระล้างผู้ที่ไม่บริสุทธิ์และให้โชคของอาณาจักรเป็นเวลา 21
ชาติเกิดแก่พวกเขา
ความสุขในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาซึ่งซันยาสซีหรือหฐโยคีไม่รู้สิ่งนี้ว่าเป็นไปเพียงชั่วคราวเท่านั้น
พวกเขาจดจำธาตุบราห์ม ธาตุบราห์มไม่ใช่พระเจ้า
เพียงชีวาที่ไม่มีตัวตนเท่านั้นคือพระเจ้า ท่านคือพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด
สถานที่อยู่อาศัยของทุกดวงวิญญาณคือบราห์มัน บ้านที่แสนหวาน
เราดวงวิญญาณมาที่นี่จากที่นั่นเพื่อเล่นบทบาทของเรา ดวงวิญญาณพูดว่า:
ฉันออกจากร่างหนึ่งและรับร่างที่สองร่างที่สามฯลฯ
มีเพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่ใช้ 84 ชาติเกิด
ผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างมากมายก็รับความรู้อย่างมากมายด้วยเช่นกัน
พ่อพูดว่า: ลูกอาจจะอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูกแต่ลูกต้องทำตามศรีมัท
ลูกดวงวิญญาณทั้งหมดคือคู่รักของดวงวิญญาณสูงสุดผู้เป็นที่รักเดียว
ลูกเคยจดจำท่านตั้งแต่ตอนเริ่มต้นในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ดวงวิญญาณจดจำพ่อ
นี่คือดินแดนแห่งความทุกข์ เราดวงวิญญาณดั้งเดิมเป็นผู้อาศัยของดินแดนแห่งความสงบ
และแล้วเราก็ได้ไปสู่ดินแดนแห่งความสุขและใช้ 84 ชาติเกิด ความหมายของ “ฮัมโซโซฮัม”
(ฉันเคยเป็นเช่นไรฉันจะกลายเป็นเช่นนั้น) ได้มีการอธิบายแก่ลูกแล้ว
ผู้คนเหล่านั้นเพียงแค่พูดว่าดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด
และดวงวิญญาณสูงสุดคือดวงวิญญาณ เวลานี้พ่อได้อธิบายแล้วว่า:
ลูกเคยเป็นเทพแล้วได้กลายเป็นนักรบ,พ่อค้าและศูทร
เวลานี้เรากลายเป็นบราห์มินเพื่อที่จะกลายเป็นเทพอีกครั้ง นี่คือความหมายที่แท้จริง
การตีความอื่นๆนั้นผิดอย่างสมบูรณ์ ในยุคทองมีศาสนาเทพศาสนาเดียว
เคยเป็นอาณาจักรที่ไม่แบ่งแยก และแล้วเมื่อศาสนาอื่นเริ่มขึ้นมันก็มีการแบ่งแยก
อาณาจักรที่เป็นเช่นปีศาจของราวันเริ่มขึ้น เมื่อยุคทองแดงเริ่มต้น
ไม่มีอาณาจักรของราวันในยุคทองและดังนั้นจึงไม่มีกิเลสทั้งห้าที่นั่นเช่นกัน
โลกนั้นปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ รามและสีดาเรียกว่าเต็ม 14 องศา
ทำไมถึงมีภาพรามที่มีสัญลักษณ์ของคันธนูและลูกศร? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้
ไม่ใช่เรื่องของความก้าวร้าวรุนแรง ลูกคือนักเรียนของพระเจ้า ผู้เดียวนั้นคือพ่อ
และท่านเป็นครูด้วยเช่นกัน ท่านให้การหลุดพ้นแก่ลูกๆ และส่งลูกไปสู่สวรรค์
ดังนั้นท่านคือทั้งสาม พ่อ ครูและกูรู ลูกกลายเป็นลูกๆของท่าน
ดังนั้นลูกควรจะมีความสุขอย่างมาก ผู้อื่นไม่ได้รู้สิ่งใดเลย
เป็นเพราะนี่คืออาณาจักรของราวันที่ผู้คนไม่รู้สิ่งใดเลย
ผู้คนเผาหุ่นจำลองของราวันทุกปีแต่พวกเขาไม่รู้ว่าราวันคือใคร ลูกๆ
รู้ว่าราวันคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบารัต
ความรู้นี้ให้แก่ลูกๆเท่านั้นโดยพ่อที่เต็มไปด้วยความรู้
เพียงพ่อนั้นเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้ มหาสมุทรแห่งความปิติ ลูกๆ
ผู้เป็นเมฆได้รับการเติมเต็มด้วยมหาสมุทรแห่งความรู้
แล้วก็จะไปและประพรมน้ำฝนแห่งความรู้ ลูกคือคงคาแห่งความรู้
เป็นลูกที่ได้รับการยกย่อง พ่อพูดว่า: เวลานี้พ่อมาเพื่อทำให้ลูกบริสุทธิ์
จงกลับมาบริสุทธิ์ในชาติเกิดเดียวนี้
จดจำพ่อแล้วลูกจะกลับมาสะโตประธานจากตาโมประธาน
เพียงพ่อเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์
เพิ่มการจดจำระลึกถึงของลูกให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ ลูกไม่ต้องพูดว่า “ชีพบาบา
ชีพบาบา” ด้วยปากของลูก คู่รักก็จดจำผู้เป็นที่รักของเธอ
เมื่อพวกเขาได้เห็นกันและกัน สติปัญญาของพวกเขาก็จดจำกันและกันเท่านั้น
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาเมื่อใครบางคนจดจำเทพใดโดยเฉพาะและกราบไหว้บูชาเทพนั้น
เขาก็ได้รับนิมิตของเทพนั้น แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ในขณะที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาพวกเขาก็ลงมาเรื่อยๆ
เวลานี้ความตายกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าลูก
หลังจากเสียงร้องของความทุกข์ระทมก็จะเป็นเสียงร้องแห่งชัยชนะ
แม่น้ำเลือดต้องไหลนองในบารัต สิ่งชี้บอกของสงครามกลางเมืองก็จะปรากฏให้เห็นเวลานี้
ทุกสิ่งนั้นได้กลับมาตาโมประธาน เวลานี้ลูกกำลังจะกลับมาสะโตประธาน
ผู้ที่ได้กลายเป็นเทพในวงจรที่แล้วจะประกาศสิทธิ์ในมรดกเดียวกันจากพ่อ
ผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธาน้อยกว่าก็จะได้รับความรู้น้อยกว่า
พวกเขาจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพตามลำดับกันไปในบรรดาปวงประชา
ผู้เพียรพยายามที่ดีก็ทำตามศรีมัทและได้รับสถานภาพที่ดี
ลูกจำเป็นต้องมีกิริยามารยาทที่ดี สร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งอย่างมาก
คุณธรรมที่สูงส่งเหล่านั้นจะคงอยู่กับลูกเป็นเวลา 21ชาติเกิด
เวลานี้ทุกคนมีลักษณะนิสัยที่เป็นเช่นปีศาจ นี่คือโลกที่เป็นเช่นปีศาจ
โลกที่ไม่บริสุทธิ์ ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลกได้มีการอธิบายให้แก่ลูกๆ แล้ว
เวลานี้พ่อพูดว่า:
ทำความเพียรพยายามที่จะมีการจดจำระลึกถึงเวลานี้และลูกจะกลายเป็นทองแท้
สัตยุคคือยุคทอง เป็นทองแท้และแล้วก็มีอัลลอยของเงินในยุคเงิน องศาก็ลดลงมาเรื่อยๆ
เวลานี้ไม่มีองศาใดหลงเหลืออยู่เลย เป็นเมื่อโลกได้ไปถึงสภาพเช่นนั้นที่พ่อมา
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร
ทุกคนในอาณาจักรของราวันได้กลายเป็นผู้ที่ไม่รู้คิดอย่างมาก
ถึงแม้ว่าพวกเขาคือนักแสดงในละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ พวกเขาก็ไม่รู้ถึงตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของละคร ลูกคือนักแสดงเช่นกัน
ลูกรู้ว่าลูกได้มาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของลูก
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าลูกรู้ว่าลูกเคยเป็นนักแสดง ลูกก็ไม่รู้จักละครนี้
ดังนั้นพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดจะพูดว่า: ลูกได้กลายเป็นผู้ที่ไม่รู้คิดอย่างมาก!
เวลานี้พ่อกำลังทำให้ลูกรู้คิดเช่นเพชร แล้วราวันก็ทำให้ลูกเป็นเช่นเปลือกหอย
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและพาลูกกลับไปกับพ่อ และแล้วโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้จะถูกทำลาย
พ่อพาทุกคนกลับบ้านเหมือนฝูงยุง เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกอยู่เบื้องหน้าลูก
ลูกต้องกลายเป็นเช่นพวกเขา และแล้วเมื่อนั้นลูกก็จะกลายเป็นชาวสวรรค์
ลูกๆบราห์มากุมารและกุมารีกำลังทำความเพียรพยายามนี้
สติปัญญาของผู้คนตาโมประธานและแล้วพวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าในเมื่อมีลูกๆ
บราห์มากุมารและกุมารีมากมายก็จะต้องมีประชาบิดาบราห์มาด้วยเช่นกันอย่างแน่นอน
บราห์มินคือจุกแล้วพวกเขาก็กลายเป็นเทพ พวกเขาได้ลบลูกบราห์มินและชีวาออกไปจากภาพ
เวลานี้ลูกๆ บราห์มินกำลังทำให้บารัตกลายเป็นสวรรค์ อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง ทำตามศรีมัทและสร้างสมกิริยามารยาทที่ดี
2.
กลายเป็นคู่รักที่แท้จริงและจดจำผู้เป็นที่รักเดียวเท่านั้น
จงเฝ้าแต่เพิ่มการฝึกฝนการจดจำระลึกถึงของลูกให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้
พร:
ขอให้ลูกมีสำนึกรู้ของการเป็นเครื่องมือและกลายเป็นแสงที่เบาสบายและปิดประตูสู่มายา
ผู้ที่เคลื่อนไปในขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นเครื่องมืออยู่เสมอจะสัมผัสกับสภาพที่เป็นแสงที่เบาสบายเป็นสองเท่าโดยอัตโนมัติ
จงมีความตระหนักในสิ่งนี้ “คารันคาราวันฮาร์เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันและฉันเป็นเครื่องมือ”
แล้วลูกจะมีประสบการณ์ของความสำเร็จ การมีจิตสำนึกของ “ฉัน”
หมายถึงการเปิดประตูสู่มายา
การพิจารณาว่าตนเองเป็นเครื่องมือหมายถึงการปิดประตูสู่มายา
เมื่อพิจารณาว่าตัวเองเป็นเครื่องมือลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะมายาและลูกก็กลายเป็นแสงที่เบาสบายเป็นสองเท่า
พร้อมกันนี้ลูกยังประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน
สำนึกรู้นี้กลายเป็นพื้นฐานของการประกาศสิทธิ์ในอันดับหนึ่ง
คติพจน์:
ทำทุกสิ่งในขณะที่เป็นตรีกาลดาร์ชิและลูกจะประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
อยู่อย่างมีชัยชนะด้วยสำนึกรู้ของรูปรวมอย่างต่อเนื่อง
ความหมายของชีพชัคตี
คือการรวมเข้ากับพ่อ พ่อและลูก: ทั้งสองรวมกันถูกเรียกว่าชีพชัคตี
ไม่มีใครสามารถแยกผู้ที่ถูกรวมกันได้ จดจำไว้ว่าลูกมีสิทธิ์ที่จะคงอยู่รวมกัน
ก่อนหน้านี้ลูกเป็นผู้แสวงหาและเวลานี้ลูกเป็นผู้ที่อยู่กับท่าน
มีความซาบซึ้งนี้อย่างต่อเนื่อง
คำพูดที่สูงส่งจากมาเตชวารี
1)
ดวงวิญญาณมนุษย์สัมผัสกับรางวัลในอนาคตตามรายได้ที่สมบูรณ์ของพวกเขา
ดูสิ
หลายคนคิดว่าพวกเขาได้รับความรู้นี้ในเวลานี้เนื่องจากรายได้ที่ดีของพวกเขาของชาติเกิดที่ผ่านมาของพวกเขา
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เรารู้ว่าเราได้รับผลที่ดีจากชาติเกิดในอดีตของเรา
วงจรของกัลปะยังคงหมุนไปเรื่อยๆและเปลี่ยนจากสะโตเป็นราโจเป็นตาโม
แต่ตามละครนั้นมีส่วนที่เหลือเอาไว้ให้ลูกได้สร้างรางวัลโดยการเพียรพยายามและเหตุนี้เองในยุคทองบางคนจึงเป็นราชาหรือราชินี
บางคนเป็นคนรับใช้ และคนอื่นๆมีสถานภาพของปวงประชา
ความสำเร็จของความพยายามนี้คือไม่มีความเป็นสองภาคที่นั่น ไม่มีความอิจฉาริษยา
และแม้แต่ปวงประชาก็มีความสุขที่นั่น
ราชาและราชินีดูแลประชาชนของพวกเขาเหมือนแม่กับพ่อจะดูแลลูก ๆ ของพวกเขา
ที่นั่นคนจนและคนมั่งคั่งทุกคนพอใจ จากความเพียรพยายามที่ลูกทำในชาติเกิดเดียวนี้
ลูกจะประสบความสุขเป็นเวลา 21 ชาติเกิด รายได้นี้ไม่สูญสลายและ
จากรายได้ที่ไม่สูญสลายและความรู้ที่ไม่สูญสลายนี้ ลูกจะได้รับสถานภาพที่ไม่สูญสลาย
เวลานี้เรากำลังจะไปสู่โลกยุคทอง นี่คือการแสดงในทางปฏิบัติที่กำลังดำเนินอยู่
ที่นี่ไม่ใช่เรื่องของเวทมนตร์
2)
ทิศทางของกูรูและคัมภีร์ไม่ใช่ทิศทางของพระเจ้า
พระเจ้าพูดว่า:
ลูกๆทิศทางเหล่านั้นจากกูรูและคัมภีร์ไม่ใช่ทิศทางของพ่อ
พวกเขาเพียงแค่ให้ทิศทางในชื่อของพ่อ แต่ในความเป็นจริงพ่อรู้ทิศทางของพ่อ
พ่อมาและบอกลูกเกี่ยวกับการพบพ่อ ก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้ที่อยู่ของพ่อ
แม้ว่าจะมีการกล่าวถึง “คำพูดของพระเจ้า” ในกีตะ แต่เป็นมนุษย์ที่เขียนกีตะ
พระเจ้าเองเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ความทรงจำของคำพูดที่สูงส่งที่พระเจ้าพูดคือกีตะ
นักวิชาการ บัณฑิต
และครูบอกว่าพระเจ้าพูดคำพูดที่สูงส่งด้วยภาษาสันสกฤตและเราไม่สามารถพบพระเจ้าโดยที่ไม่ได้เรียนรู้สิ่งนั้น
พวกเขาทำให้เราติดกับดักในพิธีกรรมมากยิ่งขึ้น
ถ้าเราปีนบันไดขึ้นไปหลังจากศึกษาพระเวทและคัมภีร์แล้วเราต้องลงมาในระดับเดียวกันนั่นคือเราต้องลืมสิ่งนั้นและเราต้องเชื่อมโยงสติปัญญาของเราในโยคะกับพระเจ้าผู้เดียวเพราะพระเจ้าบอกไว้อย่างชัดเจนว่า:
ลูกไม่สามารถพบพ่อได้โดยการทำพิธีกรรมทั้งหมดเหล่านั้นหรือโดยการศึกษาพระเวทและคัมภีร์
ดูสิคัมภีร์อะไรบ้างที่ Dhruv, Prahlad หรือ Meera ศึกษา? (ผู้เลื่อมใสศรัทธาที่ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์)
ที่นี่ลูกต้องลืมแม้กระทั่งทุกสิ่งที่ลูกได้ศึกษามา ตัวอย่างเช่น
อรชุนศึกษาและเขาต้องลืมสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด คำพูดที่สูงส่งที่ชัดเจนของพระเจ้าคือ:
จดจำพ่อในทุกลมหายใจ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรสำหรับสิ่งนี้
นี่เป็นหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจนกว่าลูกจะได้รับความรู้นี้
อย่างไรก็ตามเมื่อตะเกียงแห่งความรู้ถูกจุด
ลูกก็กลายเป็นอิสระจากพิธีกรรมทั้งหมดเพราะถ้าลูกต้องออกจากร่างกายของลูกในขณะที่ทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นลูกจะได้รับประโยชน์อะไร?
ลูกไม่ได้สร้างรางวัลหรือไม่ได้รับการหลุดพ้นจากบัญชีกรรมของบ่วงกรรม
ผู้คนคิดว่าการกระทำที่ดีคือการไม่พูดโกหกไม่ขโมยหรือการทำให้ใครบางคนเป็นทุกข์
อย่างไรก็ตามที่นี่ลูกต้องปลดปล่อยตัวเองจากบ่วงกรรมทั้งหมดตลอดเวลาและกำจัดรากเหง้าของการกระทำที่เป็นบาปด้วยเช่นกัน
เวลานี้เราปรารถนาที่จะหว่านเมล็ดเช่นนั้นที่ต้นไม้แห่งกรรมดีจะปรากฏออกมา
ดังนั้นจงรู้หน้าที่ของชีวิตมนุษย์และมีการกระทำที่สูงส่ง อัจชะ