01.06.25 Avyakt Bapdada Thai Murli
21.10.2005 Om Shanti Madhuban
กำหนดวันที่เพื่อกลับมาเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อม และพร้อมเสมอตามเวลา
วันนี้ บัพดาดาได้เห็นรูปทั้งสามของลูกทุกคนในทุกหนแห่ง
เช่นเดียวกับที่ลูกจดจำความสัมพันธ์พิเศษทั้งสามกับพ่อ ในทำนองเดียวกัน
บาบาก็พอใจที่ได้เห็นรูปทั้งสามของลูกๆเช่นกัน
ลูกรู้รูปทั้งสามของลูกแล้วใช่หรือไม่? ในเวลานี้ลูกทุกคนอยู่ในรูปบราห์มิน
สภาพสุดท้ายของบราห์มินคือสภาพที่เป็นเทวดานางฟ้า และเทวดานางฟ้าจะกลายเป็นเทพ
สภาพพิเศษที่สุดคือชีวิตบราห์มินในปัจจุบัน
ชีวิตบราห์มินนั้นมีคุณค่าอย่างยิ่งไม่สามารถประเมินค่าได้
คุณสมบัติพิเศษของชีวิตบราห์มินคือความบริสุทธิ์
ความบริสุทธิ์คือความจริงแท้ของชีวิตบราห์มิน
ความบริสุทธิ์คือบุคลิกภาพของชีวิตบราห์มิน
ความบริสุทธิ์คือแม่แห่งความสุขและความสงบ เท่าที่ลูกมีความบริสุทธิ์
ลูกก็จะมีความสุขและความสงบในชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติและจะเป็นธรรมชาติของลูกตามนั้น
เป้าหมายของดวงวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ใช่การกลายเป็นเทพจากบราห์มิน
แต่ประการแรกคือกลายเป็นเทวดานางฟ้าก่อน แล้วจากเทวดานางฟ้าจึงกลายเป็นเทพ
ดังนั้นบราห์มินจะกลายเป็นเทวดานางฟ้า และเทวดานางฟ้าจะกลายเป็นเทพ
บัพดาดากำลังเห็นรูปทั้งสามนี้ของลูกๆ
รูปทั้งสามของลูกมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูกทั้งหมดแล้วหรือยัง? มาปรากฏหรือยัง?
ลูกกลายเป็นบราห์มินแล้ว และเป้าหมายของลูกเวลานี้คือกลายเป็นเทวดานางฟ้า
นี่คือเป้าหมายของลูกใช่หรือไม่? ลูกต้องกลายเป็นเทวดานางฟ้าอย่างแน่นอน
ตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติพิเศษของเทวดานางฟ้ากี่ประการที่ปรากฏให้เห็นในชีวิตของลูก
เทวดานางฟ้าหมายถึงผู้ที่ไม่มีสายสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกับโลกเก่าและซันสการ์เก่านี้
เทวดานางฟ้าหมายถึงไม่เพียงแต่เป็นแสงและเบาสบายในเวลาที่มีปัญหาเท่านั้น
แต่หมายถึงการอยู่อย่างเป็นแสงและเบาสบายในความคิดและคำพูด
ความสัมพันธ์และสายใยของลูกอยู่เสมอ – เพื่อที่จะเบาสบาย
ลูกชอบสิ่งที่เบาสบายหรือสิ่งที่รู้สึกเหมือนเป็นภาระ? ลูกชอบอะไร?
ลูกชอบสิ่งที่เบาสบายใช่หรือไม่?
เทวดานางฟ้าหมายถึงการได้รับความรักจากทุกคนและละวางจากทุกคน ไม่ใช่แค่ไม่กี่คน
แต่เป็นที่รักของทุกคนและละวางจากทุกคน ไม่ใช่แค่รักเท่านั้น แต่เท่าที่ลูกรัก
ลูกก็ละวางจากทุกคนได้ตามนั้น สิ่งชี้บอกของเทวดานางฟ้าคือลูกเป็นที่รักของทุกคน
ใครก็ตามที่เห็นลูก ใครก็ตามที่ลูกพบ
ใครก็ตามที่เข้ามามีความสัมพันธ์หรือที่มีสายสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกับลูก
พวกเขาจะรู้สึกว่าลูกเป็นของพวกเขา เช่นเดียวกับพ่อ
ทุกคนสัมผัสได้ว่าท่านเป็นของพวกเขา ลูกมีประสบการณ์นี้ใช่หรือไม่? ในทำนองเดียวกัน
เทวดานางฟ้าหมายถึงทุกคนสัมผัสได้ว่าลูกเป็นของพวกเขา ให้มีความรู้สึกเป็นของพวกเขา
เพราะเมื่อลูกเบาสบาย ความเบาสบายนี้จะทำให้ลูกเป็นที่รักของทุกคน
ให้ทั้งครอบครัวบราห์มินรู้สึกว่าลูกเป็นของพวกเขา อย่าให้มีความหนักหน่วงใดๆ
เพราะเทวดานางฟ้าหมายถึงการเป็นแสงและมีความเบาสบาย
เทวดานางฟ้าหมายถึงการไม่มีขีดจำกัดในความคิด คำพูด การกระทำ ความสัมพันธ์
และสายสัมพันธ์ของลูก อย่าให้มีขีดจำกัด "ทุกคนเป็นของฉันและฉันเป็นของทุกคน"
ที่ใดมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอย่างมาก ที่นั่นก็จะมีความเบาสบาย
ความเบาสบายในซันสการ์เช่นกัน ดังนั้น
ให้ตรวจสอบว่าลูกไปถึงสภาพเทวดานางฟ้าแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ ลูกรู้วิธีตรวจสอบหรือไม่?
ลูกกลายเป็นผู้ตรวจสอบและลูกก็กลายเป็นผู้สร้างด้วย ขอแสดงความยินดี
ความปรารถนาอันบริสุทธิ์ของบัพดาดาคือ ตอนนี้ เมื่อมองดูเวลาแล้ว
ผู้ที่พิจารณาว่าตนเองเป็นมหาระตีควรมีสภาพ 95% ควรเป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่? (มีคนบอกว่าเขาจะมี
98%) ขอแสดงความยินดี!
กินกุหลาบจามุนเพราะลูกสามารถมองเห็นและลูกรู้ด้วยว่าลูกต้องกลายเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน
มันไม่ใช่ว่าลูกจะกลายเป็นเช่นนั้น ลูกต้องกลายเป็นสิ่งนั้น "ฉันจะกลายเป็นสิ่งนั้น
มันจะเกิดขึ้น เราจะดูกัน ฉันจะพยายาม" ตอนนี้เปลี่ยนภาษานี้
ไม่ว่าลูกจะมีความคิดอะไร ให้ตรวจสอบว่าลูกมีศรัทธาและความสำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์
ตอนนี้ เพิ่มความเร็วในการตรวจสอบของลูก ตรวจสอบก่อนแล้วจึงลงมือทำ
ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นที่ไม่ว่าลูกจะมีความคิดอะไร ไม่ว่าลูกจะพูดคำใด
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์และในสายใยของลูก พวกเขาก็โอเค ไม่เลย
ลูกรู้ไหมว่าต้องตรวจสอบผู้ที่เป็น VVIP (Very very important person-บุคคลสำคัญมากๆ)
มากแค่ไหน? ทุกสิ่งต้องตรวจสอบก่อนแล้วจึงค่อยดำเนินไปและก้าวไป ดังนั้น
ตอนนี้จะไม่ทำการตรวจสอบหลังจากผ่านไป 2 หรือ 4 ชั่วโมงแล้ว
ตรวจสอบก่อนแล้วจึงค่อยดำเนินไปและก้าวไป เพราะลูกคือ VVIP ในละครโลกนี้ ผู้ที่เป็น
VIP (Very important person-บุคคลสำคัญ)
ในทุกวันนี้คือผู้ที่เป็นเพียงชาติเกิดเดียว และยังเป็นช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น
ในขณะที่บราห์มินผู้ที่จะกลายเป็นเทวดานางฟ้าคือ VVIP และลูกสามารถใส่ "V"
ไว้ข้างหน้าได้มากเท่าที่ลูกต้องการ ดูสิ เพียงแค่ใส่ "V"
ไว้ข้างหน้าตนเองไปเรื่อยๆ
ลูกต้องเคยเห็นภาพลักษณ์ของลูกที่ได้รับการกราบไหว้บูชามาแล้ว โอเค
ลูกอาจไม่เคยเห็นวัด แต่ลูกต้องเคยเห็นภาพถ่าย
สิ่งเหล่านี้มีค่ามากแม้กระทั่งตอนนี้ พวกเขาสร้างวัดที่ใหญ่โตมากเช่นนั้น
แม้ว่าภาพถ่ายของลูกจะมีขนาดเพียงสามฟุต ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงมีค่ามากสำหรับลูก
แม้แต่ภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูกก็มีคุณค่า มีค่าสำหรับพวกเขาใช่หรือไม่?
มีคิวรอชมภาพลักษณ์ของลูกมากมายเหลือเกิน ลูกเป็น VVIP ในรูปที่มีชีวิต
ดังนั้นตรวจสอบก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า
หากลูกตรวจสอบหลังจากทำบางสิ่งบางอย่างไปแล้ว ขั้นตอนนั้นก็ผ่านไปแล้ว
ขั้นตอนนั้นจะไม่กลับมาอยู่ในมือของลูกอีก ในหนทางของความไม่รู้ พวกเขาบอกว่า "ทำบางสิ่งบางอย่างหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว"
อย่าคิดถึงสิ่งนั้นอีกหลังจากทำสิ่งนั้นไปแล้ว ให้คิดก่อนแล้วจึงทำ ดังนั้น
จงนั่งอยู่บนที่นั่งของความเคารพตนเองของลูก เมื่อลูกอยู่ในตำแหน่งของลูก
จะไม่มีอุปสรรคใดๆ การต่อต้านของมายาจะเกิดขึ้นเมื่อลูกไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของลูก
ดังนั้น ตอนนี้ บัพดาดามีคำถาม
เป้าหมายของทุกคนคือการกลับมาเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อม
นี่คือเป้าหมายของลูกหรือลูกต้องการที่จะกลายเป็นสิ่งนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น?
นี่คือเป้าหมายของลูกใช่หรือไม่? หากเป็นเป้าหมายของทุกคน ให้ยกมือขึ้น
ลูกต้องการกลับมาสมบูรณ์ ดี เมื่อไร? ลูกถามคำถามนี้กับผู้คนใช่หรือไม่?
ครูก็ถามคำถามนี้กับนักเรียนเช่นกันว่า "เป้าหมายของเธอคืออะไร"? ดังนั้น วันนี้
บัพดาดาจึงขอถามผู้เป็นครูโดยเฉพาะ ผู้ที่มีอายุ 30 ปีในญาณที่กำลังนั่งอยู่ที่นี่
ดังนั้น ขอให้ผู้ที่มีอายุ 30 ปีมารวมตัวกันพรุ่งนี้และจัดทำโปรแกรม
ลูกมีการพบปะและมีการประชุมมากมาย
บัพดาดายังคงเห็นอยู่เรื่อยๆว่าลูกมีการพบปะกันมีการประชุมกันและมีการนั่ง
ประชุมและนั่ง อย่างไรก็ตาม
ตอนนี้ให้มีการพบปะกันและประชุมเกี่ยวกับว่าลูกจะกลับมาสมบูรณ์พร้อมเมื่อใด
ลูกกำหนดวันที่สำหรับกิจกรรมอื่นๆทั้งหมด ลูกมีโปรแกรมเช่นนั้นในวันนี้
แล้วไม่มีวันที่สำหรับสิ่งนี้หรือ? บอกบาบาว่าลูกต้องการกี่ปี เพราะเหตุใด?
ทำไมบัพดาดาจึงถามลูกอย่างนี้ เพราะธรรมชาติกำลังถามพ่อว่าควรจะทำลายล้างเมื่อใด
ดังนั้น บัพดาดาควรตอบว่าอย่างไร? บัพดาดาจะถามเพียงลูกๆเท่านั้นใช่หรือไม่?
เมื่อไหร่? หัวข้อพิเศษของวันนี้คือ เมื่อไหร่?
ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์กำลังนั่งอยู่ที่นี่
และดังนั้นลูกจะเพียรพยายามเป็นสองเท่าใช่หรือไม่? ทำสิ่งมหัศจรรย์
ชาวต่างชาติจงเป็นตัวอย่าง เท่านั้นเอง
จงกลับมาเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมเบื้องหน้าครอบครัวบราห์มินและโลก
การกลับมาเต็มไปด้วยทุกพลังและทุกคุณธรรมนั้นคือการกลับมาสมบูรณ์พร้อม
ลูกทุกคนต้องสมบูรณ์พร้อมในทั้งสี่สิ่ง: นั่นคือ ความคิด คำพูด ความสัมพันธ์
และสายใย หากลูกอยู่อย่างอ่อนแอในสี่สิ่งเหล่านี้
ลูกก็จะไม่ถูกกล่าวได้ว่าสมบูรณ์พร้อม ลูกจำสี่สิ่งนี้ได้ใช่ไหม? ความคิด คำพูด
ความสัมพันธ์และสายใย และการกระทำก็รวมอยู่ในสิ่งเหล่านี้ด้วย ในสี่สิ่งนี้
อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ความคิดและคำพูดของลูกดี
แต่ขาดความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงของลูกไปบ้างเล็กน้อย
ลูกได้รับการบอกว่าไม่ว่าลูกจะไปอยู่เบื้องหน้าใครก็ตาม
ไม่ว่าลูกจะมีสายใยกับใครก็ตาม ให้พวกเขาได้สัมผัสว่าลูกเป็นของพวกเขา
ลูกรู้สึกว่ามีสิทธิ์เหนือคนที่ลูกรู้สึกว่าเป็นของลูก
ลูกไม่มีความรู้สึกเบาสบายกับคนอื่นมากนัก ลูกรู้สึกหนักหน่วงเล็กน้อยกับพวกเขา
แต่ลูกนั้นมีความเบาสบายกับผู้ที่ลูกรู้สึกว่าเขาเป็นของลูก ดังนั้น
จงเบาสบายกับทุกคน
อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกเบาสบายกับเพียงแค่คนที่มาจากโซนของลูกหรือจากศูนย์ของลูกเองเท่านั้น
ไม่เลย หากลูกเบาสบายเพียงแค่ในโซนหรือศูนย์ของลูกเองเท่านั้น
แล้วลูกจะกลายเป็นราชาของโลกได้อย่างไร?
ลูกก็ไม่สามารถเป็นทั้งผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกหรือราชาของโลกได้
ราชาไม่ได้หมายความถึงแค่ผู้ที่นั่งบนบัลลังก์เท่านั้น ในอาณาจักร
แม้แต่ราชวงศ์ก็มีสิทธิ์ในอาณาจักร ดังนั้น ลูกจะต้องตอบคำถามว่า "เมื่อไหร่"
ใช่ไหม? ลูกจะมีการประชุมไหม? มีการประชุมและสรุปเรื่องนี้ โอเคไหม? อัจชะ
ลูกทุกคนสบายดีไหม?
ลูกรู้สึกกระตือรือร้นที่จะต้องทำสิ่งนี้และกลายเป็นสิ่งนี้อย่างแน่นอนหรือไม่?
บัพดาดาทำให้ลูกมีความจริงจังและความกระตือรือร้น
เมื่อมายาเห็นว่าลูกมีความจริงจังและความกระตือรือร้น เธอจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เพราะแม้แต่ช่วงเวลาสุดท้ายของเธอก็ใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้น
เธอจึงใช้อาวุธทั้งหมดของเธอและให้การหล่อเลี้ยงกับลูกเช่นนั้นที่ลูกไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือการหล่อเลี้ยงของมายาหรือว่าเป็นคำแนะนำของมายาหรือของพ่อ
ลูกปะปนสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน
อุปสรรคหลักในการกลายเป็นเทวดานางฟ้าและในความพยายามของลูกอยู่ในสองคำที่มักใช้กันทั่วไป
ไม่ยากเลย และทุกคนก็ใช้กันบ่อยๆเช่นกัน คำนั้นคืออะไร? "ฉัน" กับ "ของฉัน"
บัพดาดาเคยบอกวิธีที่ง่ายดายมากให้กับลูกก่อนหน้านี้เช่นกันในการเปลี่ยน "ฉัน" กับ
"ของฉัน" ลูกจำได้ไหม? ดูสิ เมื่อลูกใช้คำว่า "ฉัน" ให้ใส่คำว่า "ฉันเป็นดวงวิญญาณ"
ไว้ข้างหน้าลูกด้วยในเวลานั้น ทันทีที่ลูกพูดคำว่า "ฉัน"
ให้นำรูปของดวงวิญญาณมาไว้ข้างหน้าลูก อย่าใช้คำว่า "ฉัน" อะไรแบบนั้น
แต่ให้ใช้คำว่า "ฉัน, ดวงวิญญาณ"
นำสิ่งนี้เข้ามาสู่สำนึกรู้ของลูกในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ หลังจากใช้คำว่า "ฉัน"
ให้เติมคำว่า "ดวงวิญญาณ" เสมอ "ฉัน ดวงวิญญาณ" เมื่อลูกใช้คำว่า "ของฉัน"
อันดับแรกให้พูดว่า "บาบาของฉัน" ก่อน ผ้าเช็ดหน้าของฉัน ผ้าส่าหรีของฉัน
สิ่งนี้ของฉัน..." อย่างไรก็ตาม อันดับแรกคือ "บาบาของฉัน" เมื่อลูกพูดว่า "ของฉัน"
บาบาก็จะมาอยู่ตรงหน้าลูก ใช้คำว่า "ฉัน" และดวงวิญญาณก็จะมาอยู่ตรงหน้าลูก
ทำให้สิ่งนี้เป็นธรรมชาติของลูกและเป็นไปโดยธรรมชาติ มันง่ายใช่ไหม? หรือว่ายาก?
ลูกรู้ว่า "ฉันคือดวงวิญญาณ" เพียงแต่ว่าในเวลานั้นลูกไม่เชื่อ ลูกรู้ 100%
แต่ลูกยอมรับมันเพียงบางเปอร์เซ็นต์ ในเมื่อจิตสำนึกที่เป็นร่างนั้นเป็นธรรมชาติ
แล้วลูกจำเป็นต้องคิดว่าลูกเป็นร่างกายไหม? ลูกจำมันได้โดยธรรมชาติใช่หรือไม่?
ดังนั้น คำว่า "ฉัน"
จึงเข้ามาในความคิดของลูกก่อนที่จะมาถึงริมฝีปากของลูกใช่หรือไม่? ดังนั้น
แม้ว่าคำว่า "ฉัน" จะเข้ามาในความคิดของลูก
ให้รูปของดวงวิญญาณปรากฏขึ้นมาต่อหน้าลูกทันที การฝึกฝนสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือ?
อย่าเพียงแค่พูดว่า "ฉัน" แต่ให้พูดว่า "ดวงวิญญาณ" ด้วย แล้วมันก็จะกลับมามั่นคง
มันมั่นคงใช่ไหม? ลูกจะทำสิ่งนี้แม้ว่าจะมีใครบางคนเรียกคนอื่น (เรียกตามชื่อ)
ก็ตาม. "ฉันคือดวงวิญญาณ" โลกของดวงวิญญาณคือบัพดาดา
ซันสการ์ของดวงวิญญาณคือบราห์มินที่กลายเป็นเทวดานางฟ้า
และเทวดานางฟ้าที่กลายเป็นเทพ แล้วลูกจะทำอย่างไร? นี่คือการฝึกจิตใจของลูก
ปัจจุบันนี้ แม้แต่หมอยังบอกลูกให้ฝึกเอกเซอร์ไซส์ออกกำลังกาย
ดังนั้นให้ทำการฝึกเอกเซอร์ไซส์นี้ ฉันคือดวงวิญญาณ บาบาของฉัน เพราะตามละคร
ความเร็วของเวลาจะต้องช้าลง ในความเป็นจริงแล้ว ต้องให้ผู้สร้างรวดเร็ว
ไม่ใช่สิ่งสร้าง แต่ตามเวลาปัจจุบัน เวลากำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
ธรรมชาติพร้อมเสมอ มันแค่รอคำสั่งของมัน เวลาของละครจะออกคำสั่งใช่หรือไม่?
หากผู้ที่ดำเนินงานของการก่อตั้งไม่พร้อมเสมอแล้วจะมีการทำลายล้างอย่างสิ้นซากหลังจากการทำลายล้างหรือไม่?
จะมีการทำลายล้างอย่างสิ้นซากหรือไม่?
หรือการก่อตั้งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหลังจากการทำลายล้าง? ดังนั้น
ผู้ที่กลายเป็นเครื่องมือในการก่อตั้ง จะต้องพร้อมเสมอตามเวลา
นี่คือสิ่งที่บัพดาดาต้องการเห็น พ่อบราห์มากลายเป็นอรชุน
ท่านกลายเป็นตัวอย่างใช่หรือไม่?
แล้วผู้ที่ทำตามพ่อบราห์มาในลักษณะนี้จะกลายเป็นเช่นไร? มองดูตนเองและมองดูเวลาด้วย
บัพดาดาเคยบอกก่อนหน้านี้แล้วว่า ในเวลาปัจจุบันนี้
ดวงวิญญาณบราห์มินทั้งหลายที่จะกลายเป็นเทวดานางฟ้า
จะต้องมีจิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือ และมีความรู้สึกถ่อมตนด้วย
ลูกต้องขีดเส้นใต้เน้นย้ำทั้งสองคำนี้ เมื่อทำเช่นนี้แล้ว "ฉัน"
ของจิตสำนึกที่เป็นร่างจะจบสิ้นลง จิตสำนึกของ "ของฉัน" ก็จะจบสิ้นลงเช่นกัน
ฉันเป็นเครื่องมือที่มีธรรมชาติที่ถ่อมตน ยิ่งลูกถ่อมตนมากเท่าไร
ลูกก็จะยิ่งได้รับความเคารพมากขึ้นเท่านั้น
เพราะผู้ที่ถ่อมตนจะกลายเป็นที่รักของทุกคน และเมื่อลูกได้รับความรัก
ลูกก็จะได้รับความเคารพโดยอัตโนมัติ ดังนั้น
เป็นเครื่องมือที่มีความถ่อมตนและมีความปรารถนาดีด้วย เมื่อมีสองสิ่ง คือ
ความรู้สึกที่บริสุทธิ์และความปรารถนาดี ลูกเป็นเครื่องมือและมีความถ่อมตน
และลูกมีความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ต่อทุกคน ไม่ว่าใครจะเป็นอย่างไร
การที่ลูกเป็นเครื่องมือที่มีความถ่อมตนและความปรารถนาดีจะสร้างบรรยากาศเช่นนั้นที่คนอื่นจะเปลี่ยนแปลงโดยผ่านกระแสจิตของลูก
ลูกบางคนมีการสนทนาจากใจถึงใจและพูดว่า "ฉันมีความปรารถนาดีมาหนึ่งเดือนแล้ว
แต่คนนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเลย" แล้วพวกเขาก็กลับมาเหนื่อยล้าและท้อแท้ ตอนนี้
ทัศนคติและสายตาของคนจนคนที่น่าสงสารที่หมดหนทางก็เหมือนหิน
ดังนั้นแน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อย โอเค ตัวอย่างเช่น ที่คนนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ในกรณีนั้น อย่างน้อยก็รักษาตนเองให้โอเค อย่างน้อยก็ให้ตนเองอยู่ในตำแหน่งของตนเอง
ทำไมลูกถึงท้อแท้? อย่าท้อแท้ โอเค คนนั้นไม่เปลี่ยนแปลง แต่พร้อมกันนั้น
ลูกต้องไม่ปล่อยให้ตนเองเปลี่ยนแปลง ในกรณีนั้น
การท้อแท้หมายความว่าคนนั้นมีพลังมากกว่า ที่เขาเปลี่ยนแปลงลูก
ทำไมลูกถึงออกจากที่นั่งของความเคารพตนเองของลูก?
อย่าปล่อยให้ความคิดไร้สาระเกี่ยวกับ "ทำไม" เกิดขึ้น ทันทีที่ลูกพูดว่า "ทำไม?"
ลูกเปิดประตูให้ความคิดที่ไร้สาระ แล้วประตูนั้นจะปิดลงด้วยความยากลำบาก ดังนั้น
อย่าคิดเกี่ยวกับ "ทำไม" จงมีเมตตาและให้กระแสจิตต่อไป
ทำไมลูกถึงออกจากที่นั่งและกลับมาท้อแท้? จำไว้ว่าลูกต้องไม่ลงมาจากตำแหน่งของลูก
เพราะจะมีการต่อต้านมากมาย จะมีการต่อต้านจากผู้คน
จะมีการต่อต้านจากธรรมชาติและซันสการ์ จะมีการต่อต้านในความคิด
ด้วยเหตุนี้ลูกจึงต้องอยู่ในตำแหน่งของลูก แล้วพรุ่งนี้ลูกจะทำอะไร? ลูกจำได้ไหม?
บัพดาดารักลูก ดังนั้นท่านจึงคิดว่าลูกทุกคนควรกลับมาทัดเทียมกับพ่อบราห์มา
ไม่มีการต่อต้านเบื้องหน้าพ่อหรือ? ไม่มีการต่อต้านเบื้องหน้าพ่อบราห์มาหรือ?
มีการต่อต้านจากมายา จากดวงวิญญาณทั้งหลาย และจากธรรมชาติด้วย
แต่พ่อบราห์มาละทิ้งตำแหน่งของท่านหรือไม่? ท่านไม่ได้ละทิ้งใช่ไหม?
นั่นคือวิธีที่ท่านกลายเป็นเทวดาใช่หรือไม่? ตอนนี้
ให้ก้าวต่อไปในขณะที่พิจารณากันและกันและตัวลูกเองว่าเป็นเทวดานางฟ้าเช่นกัน
ฉันเป็นเทวดานางฟ้า ทุกคนเป็นเทวดานางฟ้า
ฉันไม่มีสายใยกับโลกเก่าและซันสการ์เก่ารวมทั้งบราห์มินเหล่านี้ด้วย
ทั้งหมดนั้นได้จบสิ้นลงแล้ว ดูทุกคนด้วยสายตาที่ว่า: คนนี้คือเทวดานางฟ้า
คนนี้คือเทวดานางฟ้า แผ่กระจายบรรยากาศนี้ออกไป อัจชะ
ตอนนี้จงกลับมาเต็มไปด้วยพลังทั้งหมดและให้ลำแสงอันทรงพลังเช่นนั้นแก่ดวงวิญญาณของโลกสักหนึ่งนาทีเพื่อให้กระแสพลังของลูกแผ่กระจายไปทั่วโลก
(ความเงียบสงัด) อัจชะ
ถึงลูกๆ บราห์มินทุกคนในทุกหนแห่งที่จะกลายเป็นเทวดานางฟ้า
ถึงผู้ที่คอยตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยการตระหนักรู้ในตนเองเสมอ
ถึงลูกที่เชื่อฟังซึ่งทำตามพ่อบราห์มา
ถึงดวงวิญญาณเทวดานางฟ้าที่ทำงานรับใช้และเพียรพยายามในขณะที่อยู่อย่างเป็นแสงและเบาสบายอย่างสม่ำเสมอ
ถึงลูกผู้เป็นนายที่ทรงอำนาจซึ่งคงนั่งอยู่บนที่นั่งในตำแหน่งของตนอยู่เสมอและด้วยเหตุนี้จึงจบสิ้นการต่อต้านทั้งหมด
ถึงลูกๆผู้ที่ใกล้ชิดและผู้ที่สัมผัสกับผลในทางปฏิบัติของยุคบรรจบกัน รัก ระลึกถึง
และนมัสเตจากบัพดาดา
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้มีความปรารถนาดีต่อทุกคนและมีความคิดเชิงบวกต่อตนเองและด้วยเหตุนี้จึงทำให้เวลาของการเปิดเผยใกล้เข้ามา
พื้นฐานของความสำเร็จในงานรับใช้ที่ลูกทำคือการมีทัศนคติของความปรารถนาดี
เพราะทัศนคตินี้ของลูกจะเพิ่มพลังให้ผู้อื่นได้ซึมซับและต้องการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม
งานรับใช้ที่ทำด้วยคำพูดในลักษณะนี้จะประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
ดวงวิญญาณที่มีความคิดในเชิงบวกต่อตนเองจะต้านทานมายาได้เสมอและจะกลายเป็นภูมิคุ้มกันต่อการซึมซับความอ่อนแอของใครหรือถูกดึงดูดไปยังบุคคลหรือสิ่งของใดๆ
เมื่อลูกนำพรทั้งสองนี้ไปใช้ในชีวิตในทางปฏิบัติ เวลาของการเปิดเผยจะมาถึง
คติพจน์:
อุทิศแม้กระทั่งความคิดของลูก และความอ่อนแอทั้งหมดจะออกไปจากลูกโดยอัตโนมัติ
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
ฝึกฝนที่จะอยู่ในสภาพของการมีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณ อยู่อย่างสำรวจตน
เพื่อที่จะสัมผัสกับความรักของพระเจ้า ให้ฝึกฝนการอยู่อย่างสำรวจตน ละวางจากร่างกาย
และอยู่อย่างมั่นคงในสภาพของจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ
อยู่ในถ้ำของการสำรวจตรวจสอบตนเองอยู่เสมอ
แล้วลูกจะอยู่เหนือบรรยากาศของโลกเก่านี้อยู่เรื่อยๆ
ลูกจะไม่ได้รับผลกระทบจากบรรยากาศนั้น