02.01.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูก ๆ ที่แสนหวาน บทบาทของพ่อถูกต้องแม่นยำ ท่านมาในเวลาของท่านเอง ไม่สามารถมีความแตกต่างแม้เพียงน้อยที่สุดในเวลาที่ท่านมา เฉลิมฉลองอนุสรณ์ของการมาของท่าน, ชีพราตรี ด้วยความโอฬารตระการตาอย่างมาก

คำถาม:
บาปใดของลูกที่ไม่ได้รับการปลดเปลื้องอย่างสมบูรณ์?

คำตอบ:
ผู้ที่มีโยคะไม่ถูกต้องแม่นยำ ถ้าลูกไม่สามารถจดจำระลึกถึงพ่อ บาปของลูกก็ไม่สามารถได้รับการปลดเปลื้องได้ ถ้าลูกไม่เชื่อมโยงอยู่ในโยคะอย่างถูกต้องแม่นยำ ลูกก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากบาปทั้งหมดได้ บาปบางอย่างจะยังคงหลงเหลืออยู่ และแล้วสถานภาพของลูกก็จะลดลง ถ้าลูกไม่มีโยคะลูกก็จะติดกับอยู่ในรูปและนามของใครบางคนและเฝ้าแต่จดจำผู้นั้น และไม่สามารถอยู่อย่างมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณได้

เพลง:
วันนี้ใครได้มาในเวลาเช้าตรู่?

โอมชานติ
ตอนเช้ากี่โมง? เมื่อใดที่ท่านมาในตอนเช้า นั่นคือ เวลาใดที่ท่านมา ? ( ใครบางคนพูดว่าตีสาม บางคนพูดว่าตีสี่ คนอื่นก็พูดว่าในยุคบรรจบพบกัน แล้วใครบางคนก็พูดว่าเที่ยงคืน ) บาบาต้องการจะรู้เวลาที่ถูกต้องแม่นยำ เที่ยงคืนจะไม่เรียกว่าตอนเช้า หนึ่งวินาทีหรือหนึ่งนาทีหลังจากเที่ยงคืนจึงกล่าวได้ว่าเป็น A.M. ( เวลาหลังเที่ยงคืนถึงเที่ยงวัน ) นั้นหมายถึงจุดเริ่มต้นของตอนเช้า นั่นคือตอนเช้าที่แท้จริง บทบาทของท่านในละครนั้นถูกต้องแม่นยำอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถมีความล่าช้าแม้เพียงหนึ่งวินาที ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้วตลอดไป ไม่สามารถกล่าวว่าเป็น A.M จนกระทั่งหนึ่งวินาทีหลังจากเที่ยงคืน เหล่านี้เป็นเรื่องที่ไร้ขีดจำกัด พ่อพูดว่า: พ่อมาในเวลาเช้าตรู่ ผู้คนในต่างประเทศมีระบบของ A.M และ P.M ที่ถูกต้องแม่นยำ สติปัญญาของพวกเขานั้นยังดีอยู่ พวกเขาไม่ได้กลับมาสะโตประธานอย่างสมบูรณ์และพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาตาโมประธานอย่างสมบูรณ์ เพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่กลับมาสะโตประธาน 100 % และแล้วก็ตาโมประธาน 100 % พ่อมีความถูกต้องแม่นยำอย่างมาก หนึ่งนาทีหลังจากสิบสองนาฬิกา ( เที่ยงคืน ) คือตอนเช้า ลูกจะไม่เก็บบัญชีของหนึ่งวินาที ลูกไม่สามารถบอกได้ว่าหนึ่งวินาทีผ่านไปเมื่อใด เพียงลูกเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ โลกอยู่ในความมืดอย่างแท้จริง ผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งหมดของพระเจ้าก็จดจำท่านในเวลาของความทุกข์และร้องเรียกหา: โอ้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! อย่างไรก็ตามไม่มีใครในพวกเขาที่รู้ว่าท่านคือใครหรือท่านมาเมื่อใด พวกเขาเป็นมนุษย์แต่เนื่องจากพวกเขาไม่บริสุทธิ์และตาโมประธาน พวกเขาจึงไม่รู้สิ่งใดอย่างถูกต้องแม่นยำ ตัณหาราคะก็ตาโมประธานเช่นกัน พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดได้ออกคำสั่งนี้เวลานี้: ลูก ๆ จงกลายเป็นผู้เอาชนะตัณหาราคะและด้วยเหตุนี้จึงเป็นผู้เอาชนะโลก ถ้าลูกไม่กลับมาบริสุทธ์ ลูกก็จะถูกนำไปสู่การทำลาย ด้วยการกลับมาบริสุทธิ์ ลูกก็ประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่ไม่ดับสูญ ลูกกำลังศึกษาราชาโยคะ ลูกเขียนคติพจน์ว่า : เป็นผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นโยคี ( Be holy , be yogi ) ในความเป็นจริงลูกควรจะเขียนว่า: เป็นราชา โยคี คำว่า “ โยคี ” นั้นเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ที่มีโยคะกับธาตุบราห์มก็เป็นโยคีด้วยเช่นกัน ลูกมีโยคะกับพ่อของเขา ภรรยามีโยคะกับสามีของเธอ อย่างไรก็ตามโยคะของลูกคือราชา โยคะ พ่อสอนราชา โยคะแก่ลูก เหตุนี้เองจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแม่นยำที่จะเขียนว่าราชา โยคะ เป็นผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็น ราช โยคี แต่ละวันลูกก็จะเฝ้าแต่ได้รับการแก้ไข พ่อพูดว่า: วันนี้พ่อกำลังบอกประเด็นที่ดีและลึกล้ำมากแก่ลูก ชีพแจนตีกำลังจะมาถึงในขณะนี้ ลูกต้องฉลองชีพแจนตีอย่างดีมาก ลูกสามารถทำงานรับใช้ที่ดีมากในเทศกาลชีพแจนตี ผู้ที่จัดนิทรรศการก็ควรเฉลิมฉลองชีพแจนตีอย่างดีมากที่ศูนย์ของพวกเขาหรือในบ้านของพวกเขา พวกเขาควรเขียน: ชีพบาบา คือ ผู้ประทานความรู้ของกีตะ มาและเรียนรู้วิธีที่จะได้มาซึ่งมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดของท่านจากพ่อ ลูกแต่ละคนควรจะจุดตะเกียง ฯลฯ และเฉลิมฉลองชีพแจนตีในบ้านของลูก แต่ละบ้านควรจะเป็นกีตะพาทชาลา เพราะลูกทั้งหมดคือ คงคาแห่งความรู้ ในทุกบ้านผู้คนก็ศึกษากีตะ ผู้หญิงข้องเกี่ยงในความเลื่อมใสศรัทธามากกว่าผู้ชาย มีหลายครอบครัวเช่นกันที่ทุกคนศึกษากีตะ ดังนั้นลูกควรเก็บภาพไว้ในทุกบ้าน เขียนว่า : มาและประกาศสิทธิ์ในมรดกของท่านจากพ่อที่ไร้ขีดจำกัดอีกครั้งหนึ่ง เทศกาลชีพแจนตีนั้น ในความเป็นจริงแล้วคือ ดีปาวาลีที่แท้จริงของลูก (เทศกาลแห่งแสง) เมื่อชีวาผู้เป็นพ่อได้มาก็จะมีแสงสว่างในทุกบ้าน ลูกต้องจุดตะเกียงมากมายในเทศกาลนี้และเฉลิมฉลองด้วยความโอฬารตระการตามาก ลูกเฉลิมฉลองดีปาวาลีที่แท้จริง การเฉลิมฉลองสุดท้ายจะเกิดขึ้นในตอนเริ่มต้นยุคทอง เมื่อมีตะเกียงในทุกบ้าน นั่นคือตะเกียงของทุกดวงวิญญาณจะสว่างไสว ที่นี่ดวงวิญญาณอยู่ในความมืด ดวงวิญญาณมีสติปัญญาที่ตกต่ำ ในขณะที่ ที่นั่นเนื่องจากดวงวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขาจึงมีสติปัญญาที่สูงส่ง เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาบริสุทธิ์และดวงวิญญาณที่กลับมาไม่บริสุทธิ์ เวลานี้ลูกดวงวิญญาณกำลังเปลี่ยนจากผู้ที่ไม่มีค่าแม้หนึ่งสตางค์ให้กลายเป็นผู้ที่มีค่าสมบูรณ์ ( being worth a pound ) เมื่อลูกดวงวิญญาณบริสุทธิ์ลูกก็ได้รับร่างกายที่บริสุทธิ์ ที่นี่ดวงวิญญาณไม่บริสุทธิ์ และแล้วร่างกายของพวกเขาและโลกนี้จึงไม่บริสุทธิ์ ในบรรดาลูกเช่นกันมีน้อยคนนักที่เข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างถูกต้องแม่นยำและ มีประสบการณ์ของความสุขภายใน ลูกแต่ละคนเฝ้าแต่ทำความเพียรพยายามตามลำดับกันไป มีลางบอกเหตุต่างๆ ; บางครั้งก็เป็นลางร้ายของราหู พวกเขาทำให้ผู้ที่ก่อนหน้านี้เคยตลึงงันจากความรู้นี้แล้วก็วิ่งหนีไป ลางดีของดาวพฤหัสเปลี่ยนเป็นลางร้ายของราหู เมื่อลูกข้องแวะในกิเลส ลูกก็ตกอยู่ภายใต้ลางร้ายของราหู ลูกมีการแข่งชกมวย ลูกผู้เป็นแม่นั้นไม่เคยเห็นสิ่งนั้น เพราะลูกเป็นแม่บ้าน เวลานี้ลูกรู้ว่าบราห์มรี ( แมลงที่ส่งเสียง ) กล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่จัดการบ้าน; พวกเขาทำงานบ้าน การดูแลบ้านเป็นงานศิลปะที่ดี เหตุนี้เองจึงมีชื่อว่า“ผู้ที่ทำงานบ้าน”( แม่บ้าน ) แมลงที่ส่งเสียงทำความเพียรพยายามอย่างมากมาย พวกเขาเป็นผู้ที่ทำงานบ้านที่ฉลาดด้วยเช่นกัน พวกเขาทำห้อง 2-3 ห้อง เธอนั้นก็ได้นำแมลง 3-4 ตัวขึ้นไปไว้ที่นั่น ในทำนองเดียวกันลูกบราห์มินก็เป็นแมลงที่ส่งเสียงเช่นกัน ลูกสามารถนำหนึ่งหรือสอง หรือสิบถึงสิบสอง หรือแม้แต่หนึ่งร้อยหรือห้าร้อยมาที่นี่ ลูกสามารถตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่ฯลฯ สิ่งนี้ก็จะเป็นเหมือนกับการจัดการบ้านด้วยเช่นกัน ลูกสามารถนั่งอยู่ภายในนั้นและก็ส่งเสียงความรู้แก่พวกเขา จากนั้นบางคนก็จะเข้าใจสิ่งนี้และเปลี่ยนจากมดเป็นบราห์มิน บางคนสลายตัวโดยสิ้นเชิง นั่นคือพวกเขาไม่ได้เป็นของศาสนานี้ มีเพียงผู้ที่เป็นของศาสนานี้เท่านั้นที่จะได้รับการสัมผัสที่ดีมาก ถึงอย่างไรลูกก็เป็นมนุษย์ ความแข็งแกร่งของลูกยิ่งใหญ่กว่าของพวกเขา ลูกสามารถให้คำบรรยายในที่ชุมนุมถึงสองพันคน เมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป ลูกก็จะเข้าไปสู่ชุมนุมของสี่พันหรือแม้กระทั่งห้าพันคนด้วยเช่นกัน แมลงที่ส่งเสียงนั้นก็เปรียบเทียบกับลูก ทุกวันนี้ซันยาสซีเดินทางไปต่างประเทศและพูดว่าพวกเขาสอนราชาโยคะโบราณของบารัต แม้แต่ผู้หญิงบางคนก็ไปทั่วในเครื่องแต่งกายของชุดสีส้ม พวกเขาหลอกลวงชาวต่างชาติอย่างมาก! พวกเขาได้เชื้อเชิญชาวต่างชาติให้มาในบารัตเพื่อเรียนรู้โยคะโบราณ ลูกจะไม่พูดว่า: มาที่บารัตเพื่อเรียนรู้สิ่งนี้ ลูกจะไปต่างประเทศและนั่งกับพวกเขาที่นั่น และบอกกับพวกเขาว่า: เรียนรู้ราชา โยคะนี้แล้วท่านจะเกิดในสวรรค์ ไม่มีเรื่องของการที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ฯลฯ ลูกเพียงแค่ต้องลืมร่างกายของลูกและความสัมพันธ์ทางร่างของลูก เพียงแต่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ พ่อคือผู้ปลดปล่อยและผู้นำทาง ท่านปลดปล่อยทุกคนจากความทุกข์ เวลานี้ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ลูกอยู่ในยุคทองแต่เวลานี้ลูกอยู่ในยุคเหล็ก ทั้งโลกผู้คนของทุกศาสนาเวลานี้อยู่ในยุคเหล็ก บอกใครก็ตามที่ลูกพบจากศาสนาใดก็ตามว่าพ่อพูดว่า: พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณจดจำพ่อแล้วลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ และแล้วพ่อก็จะพาลูกกลับบ้านไปกับพ่อ เพียงแค่บอกพวกเขามากเท่านี้ อย่าได้มากเกินไป สิ่งนี้ง่ายดายมาก ได้มีการพูดไว้ในคัมภีร์ของลูกว่าได้มีการให้สาสน์แก่ทุกบ้าน เมื่อมีคนหนึ่งที่ถูกทิ้งไว้และแล้วเขาพร่ำบ่นว่าไม่มีใครบอกเขา ลูกต้องตีกลองและประกาศว่าพ่อได้มาแล้ว ทุกคนนั้นก็จะมารู้สักวันหนึ่งอย่างแน่นอนว่าพ่อมาเพื่อที่จะให้มรดกของดินแดนแห่งความสุขและดินแดนแห่งความสงบแก่พวกเขา ในช่วงเวลาของศาสนาเทพ ก็ไม่มีศาสนาอื่นใด ทุกคนอื่นอยู่ในดินแดนแห่งความสงบ มีความคิดเช่นนั้นและสร้างคติพจน์เช่นนั้น พ่อพูดว่า: สละละทิ้งจิตสำนึกทางร่างทั้งหมดและความสัมพันธ์ทางร่างกายทั้งหมด เมื่อลูกดวงวิญญาณพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำฉันพ่อของลูก ลูกก็จะกลับมาบริสุทธิ์ ในปัจจุบันดวงวิญญาณทั้งหมดนั้นไม่บริสุทธิ์ เวลานี้พ่อมาในฐานะผู้นำทางเพื่อชำระล้างทุกคนให้บริสุทธิ์และแล้วพาทุกคนกลับบ้าน ทุกคนจะกลับไปสู่สัดส่วนของเขาเอง จากนั้นผู้คนของศาสนาเทพก็จะลงมาที่นี่ตามลำดับกันไป เป็นสิ่งที่ง่ายดายมาก ! สติปัญญาของลูกต้องซึมซับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ผู้ที่ทำงานรับใช้ไม่สามารถอยู่อย่างซ่อนเร้นได้ และผู้ที่ทำความเสียหายให้กับงานรับใช้ก็ไม่สามารถซ่อนเร้นได้เช่นกัน เพียงผู้ที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้เท่านั้นที่ได้รับการเชื้อเชิญโดยทุกคน ผู้ที่ไม่สามารถให้ความรู้แก่ใครก็จะไม่ได้รับการเชื้อเชิญ พวกเขาประณามชื่อเสียงของบาบา และแล้วผู้คนก็พูดว่า: บราห์มากุมารีเป็นเช่นนี้หรือ? พวกเขาไม่สามารถแม้กระทั่งจะตอบคำถามใดๆได้ ดังนั้นนี่คือการประณามบาบาใช่ไหม? ผู้ที่ประณามชื่อเสียงของชีพบาบาก็ไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงได้ แม้แต่ที่นี่ บางคนก็เป็นมหาเศรษฐี บางคนก็เป็นอภิมหาเศรษฐี ในขณะที่คนอื่นกำลังอดตาย ขอทานเช่นนั้นก็จะกลายเป็นเจ้าชายด้วยเช่นกัน เพียงลูก ๆ เท่านั้นที่เข้าใจว่าศรีกฤษณะที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าชายแห่งสวรรค์ เวลานี้ได้กลายเป็นขอทานอย่างไร เขากำลังจะกลายเป็นเจ้าชายจากขอทานอีกครั้ง เขาเคยเป็นขอทานใช่ไหม? เขาหารายได้เล็กน้อยแต่นั่นก็เป็นไปสำหรับลูก ๆ เช่นกัน ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะสามารถดูแลลูกได้อย่างไร? ไม่มีการกล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ในคัมภีร์ เพียงชีพบาบาเท่านั้นที่บอกสิ่งเหล่านี้แก่ลูก ผู้นี้เคยเป็นเด็กชาวบ้านอย่างแท้จริง ชื่อของเขานั้นไม่ใช่กฤษณะ นั่นคือประเด็นที่อ้างถึงดวงวิญญาณซึ่งเหตุนี้เองผู้คนจึงสับสน ดังนั้น บาบาพูดว่า: ในช่วงชีพแจนตี รับใช้ทุกบ้านด้วยการใช้รูปภาพ หรือลูกสามารถเขียนว่า: มาและทำความเข้าใจว่าท่านสามารถประกาศสิทธิ์ในอำนาจแห่งการปกครองสวรรค์ภายในหนึ่งวินาทีเป็นเวลา 21 ชาติเกิดได้อย่างไร เช่นที่ในช่วงวันดีวาลี ผู้คนก็เปิดร้านของเขา ในทำนองเดียวกัน ลูกต้องเปิดร้านเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่ดับสูญ ร้านของลูกควรจะมีการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามมาก พวกเขาตกแต่งร้านของพวกเขาในวันดีวาลี ในขณะที่ลูกควรจะทำเช่นนี้ในวันชีพแจนตี เพราะเป็นชีพบาบาที่จุดตะเกียงทั้งหมดของลูกขึ้นมาอีกครั้งและทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก ผู้คนได้สวดมนต์ภาวนาถึงลักษมีเพื่อความมั่งคั่งที่ดับสูญ ในขณะที่ลูกได้รับอำนาจในการปกครองโลกที่นี่จากแม่ของชาวโลก พ่อเฝ้าแต่อธิบายความลับเหล่านี้ทั้งหมดแก่ลูก พ่อไม่ได้มีคัมภีร์ใด ๆ พ่อพูดว่า: พ่อเต็มไปด้วยความรู้ ใช่ พ่อรู้ว่าเมื่อลูกบางคนทำงานรับใช้อย่างดีมากและเหตุนี้เองพ่อจึงจดจำลูก แต่ไม่ใช่ว่าพ่อรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในลูกแต่ละคน ใช่ ในบางครั้งพ่อก็สามารถบอกได้ว่าบางคนไม่บริสุทธิ์ พวกเขามีความสงสัย ใบหน้าของพวกเขาเหี่ยวเฉา และดังนั้นบาบาจึงส่งสาส์นมาจากเบื้องบนเพื่อถามคน ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วไว้ในละครสำหรับท่านด้วยเช่นกันที่จะทำเช่นนี้สำหรับบางคน แต่ท่านไม่ได้พูดถึงทุกคน มีลูกๆ มากมายที่ทำให้ใบหน้าของพวกเขาสกปรก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พวกเขาทำ พวกเขาก็สร้างการสูญเสียให้กับตนเอง ถ้าพวกเขาพูดความจริง อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถได้รับกำไรเล็กน้อย เมื่อพวกเขาไม่บอกความจริง พวกเขาก็ทำให้เกิดการสูญเสียมากขึ้น แม้ว่าลูกเข้าใจว่าบาบามาเพื่อทำให้ลูกสวยงาม แต่ลูกบางคนก็ทำให้ใบหน้าของตนเองสกปรก นี่คือโลกแห่งหนามซึ่งทุกคนเป็นมนุษย์หนาม ยุคทองเรียกว่าสวนของอัลหล่าเช่นกัน ในขณะที่ยุคนี้เรียกว่าป่า เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า: เมื่อมีการประณามศาสนาจนถึงที่สุดเท่านั้น ที่พ่อมา เพียงแค่ดูว่าสิ่งแรกศรีกฤษณะกลายเป็นอะไรหลังจากที่ใช้ 84 ชาติเกิด ในปัจจุบันทั้งหมดนั้นตาโมประธาน; พวกเขาเฝ้าแต่รบรากันและกัน ทั้งหมดนั้นถูกกำหนดไว้แล้วไว้ในละคร ไม่มีสิ่งใดเช่นนั้นอยู่ในสวรรค์ มีหลายประเด็นสำหรับลูกที่จะจดลงไป เช่นที่นักกฎหมายก็จะเขียนประเด็นต่าง ๆ ลงไปในหนังสือของเขาด้วยเช่นกัน หมอก็เก็บหนังสือเช่นนี้ไว้เช่นกัน พวกเขาจะค้นหาข้อมูลจากหนังสือเหล่านี้แล้วก็สั่งยาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน ดังนั้นลูก ๆ ควรจะศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดี ลูกควรจะทำงานรับใช้ด้วยเช่นกัน บาบาได้ให้มนตราอันดับหนึ่ง “มานมานะบาฟ” แก่ลูก จดจำบาบาและมรดกของลูกแล้วลูกจะกลายเป็นนายแห่งสวรรค์ ผู้คนเฉลิมฉลองชีพแจนตี แต่ชีพบาบาทำอะไร? ท่านต้องให้มรดกแห่งสวรรค์อย่างแน่นอน นั่นคือ 5000 ปีที่แล้ว สวรรค์นั้นเปลี่ยนเป็นนรกและเวลานี้นรกก็เปลี่ยนกลับเป็นสวรรค์ พ่อพูดว่า: ลูกๆ จงซึมซับในโยคะและแล้วลูกก็จะสามารถเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนมาก อย่างไรก็ตามหากโยคะของลูกไม่ถูกต้องแม่นยำและลูกไม่จดจำพ่อ ลูกก็ไม่สามารถเข้าใจอะไรเลย บาปของลูกก็ไม่สามารถได้รับการปลดเปลื้องเช่นกัน ด้วยการไม่ซึมซับอยู่ในโยคะ ลูกก็จะไม่ได้รับการหลุดพ้นจากบาปมากเช่นนั้น บาปของลูกก็ยังคงหลงเหลืออยู่กับลูกและแล้วสถานภาพของลูกก็จะลดลง มีหลายคนที่ไม่มีโยคะเลย พวกเขาติดกับอยู่ในรูปและนามของผู้อื่น ถ้าลูกจดจำสิ่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่องแล้วบาปของลูกจะถูกเผาไปได้อย่างไร ? พ่อพูดว่า: จงมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ! อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เปิดร้านเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่ดับสูญในชีพแจนตีและทำงานรับใช้ ทำให้ทุกบ้านนั้นรู้แจ้งและให้คำแนะนำของพ่อแก่ทุกคน

2. ลูกต้องซื่อสัตย์กับพ่อที่แท้จริง อย่าได้ซ่อนบาปใด ๆ ที่ลูกได้เคยทำไว้จากพ่อ ซึมซับในโยคะเพื่อไม่ให้บาปใดหลงเหลืออยู่ อย่าได้ติดกับในรูปและนามของใคร

พร:
ขอให้ลูกเป็นเป็นผู้สละละทิ้งที่สูงส่งเช่นพ่อบราห์มาและจบสิ้นจิตสำนึกใด ๆ ของ “ ฉัน”

การสละละทิ้งความสัมพันธ์และการสละละทิ้งความสะดวกสบายทางวัตถุไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม การมีความรู้สึกในการทำให้ผู้อื่นอยู่ข้างหน้าของลูกในทุกงานและในทุกความคิดของลูกนั่นก็คือ การจบสิ้นจิตสำนึกของ“ฉัน” การพูดว่า “ท่านก่อน” คือการสละละทิ้งที่สูงส่ง สิ่งนี้เป็นที่รู้จักกันว่าการจบสิ้นจิตสำนึกของตนเอง พ่อบราห์มาทำให้ลูกอยู่เบื้องหน้าท่านเสมอ ท่านจะสละละทิ้งที่ว่า “ฉันควรอยู่ข้างหน้า”เสมอ เนื่องจากการสละละทิ้งนี้ท่านจึงได้รับผลของการเป็นผู้นำ นั่นคือกลายเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นทำตามพ่อ

คติพจน์:
การค้นหาความผิดพลาดกับใครบางคนในทันทีก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหรือเธอเสียใจด้วยเช่นกัน

ด้วยจิตใจที่มีพลังของลูก จงทำงานรับใช้ของการให้สะกาช

เช่นที่ลูกให้สะกาซ หอคอยที่สูงและกระจายแสงและพลังอำนาจ ในหนทางเดียวกัน ลูกนั้นก็จะต้องนั่งอยู่ในสภาพที่สูงของลูก หรือนั่งอยู่ในสถานที่..ที่สูง และก็ให้แสง และพลัง แก่โลกอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เช่นที่พระอาทิตย์สามารถจะให้แสงโลกเมื่อมันอยู่สูง เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะให้สะกาซกับโลกที่มีตัวตน จงอยู่สถานที่ ที่สูง