04.11.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน เวลานี้ลูกกำลังถูกทำให้เป็นเทพที่แท้จริงโดยพ่อที่แท้จริง
ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีความเป็นมิตรแห่งสัจจะ (สัตซัง-ชุมนุมทางศาสนา)
ในยุคทอง ยุคแห่งสัจจะ
คำถาม:
เหตุใดเทพจึงไม่สามารถทำการกระทำบาปใดๆได้ในยุคทอง?
คำตอบ:
เพราะพวกเขาได้รับพรจากพ่อที่แท้จริง
การกระทำที่เป็นบาปเริ่มทำขึ้นเมื่อลูกถูกสาปโดยราวัน
ในยุคทองและยุคเงินลูกอยู่ในการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
ไม่มีการกล่าวถึงความตกต่ำในเวลานั้น ไม่มีกิเลส
และดังนั้นจึงไม่มีการทำการกระทำที่เป็นบาป
ทุกคนในยุคทองแดงและยุคเหล็กอยู่ในความตกต่ำ
และดังนั้นพวกเขาจึงเฝ้าแต่ทำการกระทำบาป นี่เป็นบางสิ่งที่ต้องเข้าใจ
โอมชานติ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวาน ท่านคือพ่อสูงสุด ครูสูงสุด
และเป็นสัตกูรูสูงสุดด้วยเช่นกัน เมื่อผู้คนได้รับการบอกถึงคำยกย่องนี้ของพ่อ
ก็เป็นการพิสูจน์โดยอัตโนมัติว่า ศรีกฤษณะไม่สามารถเป็นพ่อของใครไ้ด้
เขาเป็นเด็กเล็กๆ เจ้าชายแห่งยุคทอง เขาไม่สามารถแม้กระทั่งจะเป็นครูได้
ตัวเขาเองนั่งและศึกษากับครู ไม่มีกูรูที่นั่น
เพราะทุกคนอยู่ในการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
เป็นเวลาครึ่งวงจรมีการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่และอีกครึ่งวงจรมีความตกต่ำ
เพราะมีการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่นั่น จึงไม่มีความจำเป็นสำหรับความรู้นี้ที่นั่น
ไม่มีการกล่าวถึงความรู้นี้ที่นั่น เพราะเป็นด้วยความรู้นี้ที่นี่
ที่ลูกได้รับการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่เป็นเวลา 21 ชาติเกิด
แล้วจากยุคทองแดงจนถึงตอนสิ้นสุดของยุคเหล็กก็มีความตกต่ำ
ดังนั้นศรีกฤษณะจะสามารถอยู่ในยุคทองแดงได้อย่างไร? ไม่มีใครตระหนักถึงสิ่งนี้
มีนัยสำคัญที่ลึกล้ำในทุกประเด็นและเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดที่จะอธิบายทุกสิ่ง
ผู้เดียวนั้นคือพ่อสูงสุดและครูสูงสุด
ในภาษาอังกฤษลูกจะเพียงแต่เรียกท่านว่าผู้ที่สูงสุดเท่านั้น
คำภาษาอังกฤษบางคำก็ดีมาก ตัวอย่างเช่น คำว่า "drama” (ละคร)
การแสดงไม่เรียกว่าภาพยนต์ เพราะสามารถมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงในการแสดงได้
พวกเขาพูดว่าวงจรโลกนี้เฝ้าแต่หมุนไป แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามันหมุนไปอย่างไร
ไม่มีใครรู้ว่าวงจรซ้ำรอยเหมือนเดิมหรือไม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงใดในวงจรหรือไม่
พวกเขาพูดว่า: อะไรก็ตามที่ถูกกำหนดไว้แล้วมันกำลังเกิดขึ้น
อย่างแน่นอนนี่คือการแสดงที่เฝ้าแต่ซ้ำรอย
เป็นเพียงมนุษย์ที่ต้องเฝ้าแต่วนไปรอบวงจรนี้ โอเค อะไรคือระยะเวลาของวงจรนี้?
วงจรซ้ำรอยอย่างไร? ใช้เวลาหมุนไปรอบวงจรนานเท่าไหร่? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้
มีสกุลของชาวพุทธและของชาวอิสลามที่มีบทบาทแสดงในละคร ไม่มีราชวงค์ของลูก บราห์มิน
นี่คือสกุลบราห์มิน ถูกเรียกว่าเป็นสกุลบราห์มินที่สูงส่งที่สุด
มีสกุลเทพด้วยเช่นกัน มันง่ายมากที่จะอธิบายสิ่งนี้
เทวดานางฟ้าอาศัยอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ไม่มีเนื้อหนังและกระดูกอยู่ที่นั่น
เทพมีเนื้อหนังและกระดูก บราห์มากลายเป็นวิษณุและวิษณุกลายเป็นบราห์มา
เหตุใดพวกเขาจึงวาดภาพบราห์มาปรากฏออกมาจากสะดือของวิษณุ?
สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ไม่มีทั้งเครื่องประดับใดๆที่นั่น
เหตุนี้เองบราห์มาจึงถูกแสดงว่าเป็นบราห์มินในชุดสีขาว
ในตอนสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขา บราห์มากลายเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ยากจน
ในเวลานี้เขาสวมผ้าฝ้ายพื้นเมือง
คนยากจนเหล่านั้นไม่เข้าใจว่าร่างที่ละเอียดอ่อนคืออะไร
พ่ออธิบายแก่ลูกว่าที่นั่นมีเพียงเทวดานางฟ้าเท่านั้นผู้ที่ไม่มีเนื้อหนังหรือกระดูก
ไม่สามารถมีเครื่องประดับตกแต่งใดๆในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
แต่เพราะสิ่งนั้นได้ถูกแสดงไว้ในรูปภาพต่างๆ
บาบาจึงให้นิมิตของสิ่งนั้นและอธิบายความหมายแก่ลูก เช่นที่ท่านให้นิมิตของหนุมาน
ไม่มีมนุษย์ใดที่เป็นเช่นหนุมาน
พวกเขาได้สร้างรูปภาพหลายประเภทในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ถ้าลูกพูดอะไรกับผู้ที่เชื่อในตนเอง พวกเขาก็จะไม่พอใจ พวกเขากราบไหว้บูชาเทวีต่างๆ
ฯลฯ อย่างมากแล้วก็นำไปจมน้ำ ทั้งหมดนั้นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
พวกเขาติดอยู่ในทรายดูดของหนทางแห่งความเลื่อมใสศรัทธาจนถึงคอ
พวกเขาจะถูกนำออกมาจากสิ่งนั้นได้อย่างไร? มันยากที่จะนำพวกเขาออกมาจากสิ่งนั้น
บางคนเป็นเครื่องมือที่จะนำผู้อื่นออกมา แต่แล้วพวกเขาก็ติดกับเสียเอง
พวกเขาเองติดกับถึงคอในทรายดูดนั้น นั่นคือพวกเขาตกอยู่ในกิเลส
ซึ่งเป็นทรายดูดที่ใหญ่ที่สุด สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ในยุคทอง
เวลานี้ลูกกำลังถูกทำให้เป็นเทพที่แท้จริงโดยพ่อที่แท้จริง
ไม่มีความเป็นมิตรแห่งสัจจะ(การชุมนุมทางศาสนา)ในยุคทอง
เป็นที่นี่ในหนทางแห่งความเลื่อมใสศรัทธาที่ลูกมีการชุมนุมทางศาสนา
ผู้คนคิดว่าทุกคนคือรูปหนึ่งของพระเจ้า พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายว่า: ในยุคเหล็กทุกคนเป็นดวงวิญญาณบาป
ในขณะที่ในยุคทองทุกคนเป็นดวงวิญญาณบุญ มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน
เวลานี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกัน ลูกรู้จักทั้งยุคเหล็กและยุคทอง
สิ่งหลักคือการไปจากฝั่งนี้สู่อีกฝั่งหนึ่ง
พวกเขากล่าวถึงมหาสมุทรแห่งยาพิษและมหาสมุทรแห่งน้ำนม แต่พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย
เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และบอกลูกถึงความลับของการกระทำและการกระทำที่เป็นกลาง
ผู้คนทำการกระทำต่างๆ แต่การกระทำบางอย่างเป็นกลาง และการกระทำอย่างอื่นเป็นบาป
ในอาณาจักรของราวันการกระทำทั้งหมดเป็นบาป
ไม่มีการกระทำที่เป็นบาปในยุคทองเพราะมีอาณาจักรของรามที่นั่น พวกเขาได้รับพรจากพ่อ
ราวันสาปแช่งลูก นี่คือการแสดงเกี่ยวกับความสุขและความทุกข์
ทุกคนจดจำระลึกถึงพ่อในเวลาของความทุกข์ ไม่มีใครจดจำท่านในเวลาของความสุข
ไม่มีกิเลสที่นั่น ลูกๆได้รับการบอกว่าต้นอ่อนกำลังถูกเพาะปลูก
เป็นเวลานี้ที่ระบบของการปลูกต้นอ่อนเริ่มขึ้น พ่อได้เริ่มระบบของการปลูกต้นอ่อน
เมื่อเป็นรัฐบาลอังกฤษที่นี่ ไม่เคยมีการพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ว่าต้นอ่อนถูกปลูกขึ้น
พ่อนั่งที่นี่และปลูกต้นอ่อนของศาสนาเทพ ท่านไม่ได้ปลูกต้นอ่อนอื่นใด
มีศาสนาอื่นๆมากมายแต่ศาสนาเทพได้หายไปแล้ว
เนื่องจากพวกเขาได้คดโกงในศาสนาและการกระทำของพวกเขา พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อศาสนา
ผู้ที่เป็นของศาสนาเทพจะไปสู่ศาสนาเทพเดิมอีกครั้ง ทุกคนต้องเข้าไปสู่ศาสนาของตนเอง
ผู้ที่เป็นของศาสนาคริสต์ไม่สามารถออกมาจากศาสนานั้นและเข้าสู่ศาสนาเทพได้
พวกเขาไม่สามารถหลุดพ้นจากสิ่งนั้น ใช่
บางดวงวิญญาณของศาสนาเทพที่เคยเปลี่ยนไปสู่ศาสนาศริสต์จะกลับมาสู่ศาสนาเทพของพวกเขา
พวกเขาจะชอบความรู้และโยคะนี้อย่างมาก
และสิ่งนี้จะพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นของศาสนาของลูก
ลูกจำเป็นต้องมีสติปัญญาที่กว้างและไม่มีขีดจำกัดที่จะเข้าใจและอธิบายสิ่งเหล่านี้
ลูกต้องซึมซับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด และเมื่อลูกต้องถ่ายทอดให้กับผู้อื่น
ไม่ใช่แค่อ่านจากหนังสือเหมือนบางคนที่ถ่ายทอดกีตะให้กับผู้คนอื่นที่มานั่งฟังเขา
บ้างสามารถท่องจำบทต่างๆ ของกีตะได้
พวกเขาทั้งหมดนั่งและสกัดตามความหมายของพวกเขาเองออกมา
บทกีตะทั้งหมดนั้นเป็นภาษาสันสกฤต
เป็นที่จดจำกันว่าถ้าลูกจะทำให้มหาสมุทรกลายเป็นน้ำหมึกและทั้งผืนป่ากลายเป็นปากกา
ก็จะยังไม่มีที่สิ้นสุดของความรู้นี้ กีตะนั้นเล็กมาก มีเพียง 18 บทเท่านั้น
บางคนแม้กระทั่งสวมกีตะเล็กๆ ไว้รอบคอของเขา มีการเขียนข้อความขนาดเล็กมาก
บางคนมีนิสัยของการสวมกีตะรอบคอของพวกเขา พวกเขาทำล็อกเก็ตเล็กๆเช่นนั้น
ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องของเพียงหนึ่งวินาที ทันทีที่ลูกเป็นของพ่อ
ก็เป็นราวกับว่าลูกกลายเป็นนายของโลก ลูกๆ เช่นนั้นกระทั่งเริ่มเขียนถึงบาบาว่า: “บาบา
ฉันเป็นลูกอายุหนึ่งวันของท่าน”
พวกเขามีศรัทธาในเพียงหนึ่งวันและเขียนจดหมายถึงบาบาทันที เพราะลูกได้กลายเป็นลูก
ลูกก็เป็นนายของโลก สิ่งนี้ยากที่จะนั่งในสติปัญญาของใคร ลูกกลายเป็นนายของโลก
ไม่มีดินแดนอื่นใดที่นั่น นามและร่องรอยของพวกเขาทั้งหมดจะหายไป
ไม่มีใครที่นั่นกระทั่งตระหนักรู้ว่าดินแดนเหล่านั้นเคยมีอยู่
ถ้าดินแดนเหล่านั้นมีอยู่จริง
ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของดินแดนเหล่านั้นก็จะมีอยู่อย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน
ดินแดนเหล่านั้นไม่มีอยู่ที่นั่น เหตุนี้เองจึงมีการกล่าวว่า ลูกกลายเป็นนายของโลก
บาบาได้อธิบายว่า: พ่อเป็นพ่อของลูกและพ่อคือมหาสมุทรแห่งความรู้
ความรู้นี้สูงส่งมากจนเรากลายเป็นนายของโลกด้วยสิ่งนี้ พ่อของเราคือผู้ที่สูงสุด
ท่านคือพ่อที่แท้จริงและครูที่แท้จริง ท่านบอกสัจจะแก่เรา
คำสอนที่ท่านให้แก่เรานั้นไม่มีขีดจำกัด
ท่านเป็นกูรูที่ไม่มีขีดจำกัดผู้ให้การหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคน
เมื่อลูกร้องเพลงสรรเสริญผู้เดียว คำยกย่องนั้นก็ไม่สามารถเป็นของใครอื่นได้
สิ่งนั้นสามารถเป็นได้เพียงเมื่อท่านทำให้ลูกทัดเทียมกับตัวท่านเอง
ดังนั้นลูกก็กลายเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ด้วย ผู้คนเขียนว่า: สัตนาม (ในนามของสัจจะ)
ลูกผู้เป็นแม่เป็นคงคาผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ลูกสามารถถูกเรียกว่าชีพชัคตี
หรือผู้ที่เป็นของสกุลชีวา บราห์มากุมารและกุมารีผู้เป็นของสกุลชีวา
ทุกคนเป็นของสกุลชีวา แต่สิ่งสร้างถูกสร้างขึ้นผ่านบราห์มา
และดังนั้นลูกบราห์มากุมารและกุมารีจึงอยู่ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น
ท่านนำลูกมาเลี้ยงดูผ่านบราห์มา ก่อนอื่นมีลูกบราห์มากุมารเละกุมารี ถ้าใครคัดค้าน
ลูกสามารถบอกเขาว่า: นี่คือประชาบิดาบราห์มา ผู้ที่พ่อเข้ามาในตัวเขา พ่อพูดว่า:
พ่อเข้ามาในผู้นี้ในตอนท้ายของชาติเกิดสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขา
พวกเขาแสดงภาพบราห์มาออกมาจากสะดือของวิษณุ อัจชะ
แล้ววิษณุปรากฏออกมาจากสะดือของใคร? ลูกสามารถวาดลูกศรแสดงในทางกลับกันว่า:
วิษณุกลายเป็นบราห์มาและบราห์มากลายเป็นวิษณุ
ผู้นี้ออกมาจากผู้นั้นและผู้นั้นออกมาจากผู้นี้ ผู้นี้ใช้เวลาหนึ่งวินาที
ในขณะที่ผู้นั้นใช้เวลา 5,000 ปี
เหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่ลูกสามารถอธิบายขณะที่นั่งอยู่กับพวกเขา
พ่อพูดว่า: ลักษมีและนารายณ์ใช้ 84 ชาติเกิด
และแล้วพ่อก็เข้ามาในผู้นี้ในตอนท้ายของชาติเกิดสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขาและทำให้เขาเป็นเช่นนี้
นี่เป็นบางสิ่งที่ต้องเข้าใจ นั่งลงและเราจะบอกว่าเหตุใดเราถึงเรียกท่านว่าบราห์มา
รูปภาพเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงต่อทั้งโลก
เราสามารถอธิบายสิ่งเหล่านี้แก่ท่านได้
อย่างไรก็ตามเพียงผู้ที่ถูกกำหนดให้เข้าใจสิ่งนี้เท่านั้นจึงจะเข้าใจ
สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ เราพูดว่าพวกเขาไม่ได้เป็นของสกุลของเรา
แม้ว่าพวกเขาอาจจะไปที่นั่น พวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชา สำหรับเรา
ทุกคนล้วนยากจนและหมดหนทาง
ผู้ที่ยากจนในแง่ของความมั่งคั่งกล่าวได้ว่าเป็นคนยากจนและหมดหนทาง
ลูกๆต้องซึมซับประเด็นมากมายนี้ ต้องมีการให้คำบรรยายในหัวข้อต่างๆ
หัวข้อนี้สำคัญน้อยกว่าไหม? พวกเขาแสดงสี่แขนให้กับประชาบิดาบราห์มาและสรัสวตี
ดังนั้นสองแขนเป็นของลูกสาว พวกเขาไม่ใช่ผู้เป็นคู่ ที่จริงผู้เป็นคู่คือวิษณุ
ลูกสาวของบราห์มาคือสรัสวตี ชางก้าร์ก็ไม่มีคู่เช่นกัน
เหตุนี้เองพวกเขาจึงพูดถึงชีพและชางก้าร์ ชางก้าร์ทำอะไร?
การทำลายล้างเกิดขึ้นด้วยระเบิดปรมาณู พ่อจะนำความตายมาสู่ลูกๆของท่านได้อย่างไร?
นั่นจะเป็นบาป
ในความเป็นจริงพ่อพาลูกทั้งหมดไปยังดินแดนแห่งความสงบโดยไม่ต้องใช้ความเพียรพยายาม
ทุกคนสะสางบัญชีกรรมของตนและกลับบ้าน เพราะนี่เป็นเวลาสำหรับการสะสาง
พ่อมาเพื่อทำงานรับใช้ ท่านให้การหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคน
ลูกเช่นกันจะได้รับการหลุดพ้นก่อนแล้วจึงได้รับการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่
ประเด็นเหล่านี้ต้องเป็นที่เข้าใจ ไม่มีใครอื่นรู้ถึงประเด็นเหล่านี้เลย
ลูกสามารถเห็นว่าบางคนก็กวนใจลูกอย่างมาก และกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่เข้าใจอะไรเลย
ผู้ที่ต้องการจะเข้าใจเป็นอย่างดีก็จะมาและเข้าใจ บอกพวกเขาว่า:
ถ้าท่านต้องการเข้าใจแต่ละสิ่ง ท่านต้องให้เวลา
ที่นี่ลูกได้รับคำสั่งให้ให้คำแนะนำของพ่อ นี้คือป่าหนาม
ทุกคนเป็นเหตุของความทุกข์ให้แก่กันและกัน นี่เรียกว่าดินแดนแห่งความทุกข์
ยุคทองคือดินแดนแห่งความสุข
เราจะอธิบายแก่ท่านว่าดินแดนแห่งความทุกข์เปลี่ยนเป็นดินแดนแห่งความสุขได้อย่างไร
ลักษมีและนารายณ์เคยอยู่ในดินแดนแห่งความสุข และแล้วขณะที่ใช้ 84 ชาติเกิด
พวกเขาก็เข้ามาสู่ดินแดนแห่งความทุกข์ ผู้นี้ถูกตั้งชื่อว่าบราห์มาอย่างไร?
พ่อพูดว่า: พ่อเข้ามาในผู้นี้และดลใจเขาให้มีการสละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัด
พ่อดลใจให้เกิดการสละละทิ้งทันที เพราะพ่อต้องดลใจเขาให้ทำงานรับใช้ พ่อดลใจทุกสิ่ง
ผู้คนมากมายได้ปรากฏตัวหลังจากเขาและพวกเขาก็ถูกให้ชื่อด้วยเช่นกัน
แล้วผู้คนเหล่านั้นก็แสดงตัวอย่างของลูกแมว ทั้งหมดเหล่านี้เป็นเรื่องเล่า
จะมีลูกแมวได้อย่างไร? แมวจะไม่นั่งและรับฟังความรู้นี้
บาบาแสดงวิธีการมากมายที่จะทำงานรับใช้แก่ลูก หากบางคนไม่เข้าใจสิ่งใดให้บอกเขาว่า:
จนกว่าท่านจะเข้าใจอัลฟ่า ไม่เช่นนั้นท่านก็จะไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดอื่น
ให้มีศรัทธาในสิ่งเดียวนี้และเขียนลงไป มิฉะนั้นแล้วท่านก็จะลืม มายาจะทำให้ท่านลืม
สิ่งหลักคือคำแนะนำพ่อ
พ่อของเราคือพ่อสูงสุดและครูสูงสุดผู้ที่บอกเราถึงความลับของตอนเริ่ม ตอนกลาง
และตอนจบของโลกที่ไม่มีใครอื่นรู้ ต้องใช้เวลาที่จะอธิบายสิ่งนี้
จนกว่าพวกเขาเข้าใจพ่อ พวกเขาก็จะเฝ้าแต่ถามคำถาม หากพวกเขาไม่เข้าใจอัลฟ่า
พวกเขาก็จะไม่สามารถเข้าใจเบต้าได้
พวกเขาจะเฝ้าแต่มีข้อสงสัยที่เปล่าประโยชน์และถามว่า:
ทำไมท่านถึงพูดเช่นนั้นในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ในคัมภีร์? ดังนั้นก่อนอื่น
ให้คำแนะนำพ่อแก่ทุกคน อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง เเละสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เก็บปรัชญาแห่งกรรมที่ลึกล้ำ กรรมที่เป็นกลาง และกรรมที่เป็นบาปไว้ในสติปัญญาของลูก
และอย่าได้ทำการกระทำกรรมที่เป็นบาปใดๆ ซึมซับความรู้นี้และโยคะ
แล้วให้ความรู้นี้แก่ผู้อื่น
2.
ทำงานรับใช้ของการเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้เป็นเทพด้วยการให้ความรู้ที่แท้จริงของพ่อที่แท้จริง
นำทุกคนออกจากทรายดูดของกิเลส
พร:
ขอให้ลูกให้ข้อพิสูจน์ของศรัทธาของลูกด้วยการมีประสบการณ์ของความซาบซึ้งทางจิตและมีชัยชนะอย่างสม่ำเสมอ
ความซาบซึ้งทางจิตที่เป็นจิตวิญญาณคือกระจกแห่งศรัทธาของลูก
ข้อพิสูจน์ของศรัทธาคือความซาบซึ้ง และข้อพิสูจน์ของความซาบซึ้งคือความสุข
มายาไม่สามารถเล่นเกมใดๆ
ของเธอเบื้องหน้าผู้ที่คงอยู่อย่างมีความสุขและซาบซึ้งอย่างสม่ำเสมอได้
มายาไม่สามารถเข้ามาในอาณาจักรของจักรพรรดิที่ไร้กังวล
ความซาบซึ้งทางจิตทำให้ลูกสามารถลืมโลกเก่านี้
และสันสการ์เก่าของลูกได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น
คงรักษาความซาบซึ้งอย่างสม่ำเสมอของรูปที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณของลูก
ความซาบซึ้งของชีวิตทางจิตวิญญาณของลูก ความซาบซึ้งของการเป็นเทวดานางฟ้า
และความซาบซึ้งของอนาคต และลูกจะมีชัยชนะ
คติพจน์:
คุณธรรมของความอ่อนหวานเป็นความยิ่งใหญ่ของชีวิตบราห์มิน;
ดังนั้นกลับมาอ่อนหวานและทำให้ผู้อื่นอ่อนหวาน
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เพิ่มการฝึกฝนสภาพปราศจากร่าง(ashariri and videhi)
เช่นที่บัพดาดาผู้ปราศจากร่างต้องรับการค้ำจุนของร่างกายเพื่อที่จะทำให้ลูกๆ
ปราศจากร่าง ในทำนองเดียวกัน ลูกแต่ละคน
ขณะที่อยู่ในชีวิตนี้และในร่างนั้นต้องมั่นคงในสภาพของดวงวิญญาณที่ปราศจากร่าง
ในสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ และในฐานะที่เป็นคาราวันฮาร์ (ผู้ที่ทำให้งานเสร็จสิ้น)
ทำให้ร่างกายนั้นสามารถทำการกระทำได้ ร่างกายนั้นเป็นคารันฮาร์(ผู้กระทำ)
และลูกคือคาราวันฮาร์ที่ปราศจากร่างของร่างกาย
สภาพนี้เป็นที่รู้กันว่าคือสภาพที่ปราศจากร่างและทำตามพ่อ สภาพของการทำตามพ่อ
คืออยู่อย่างปราศจากร่างอย่างสม่ำเสมอ เหนือสำนึกรู้ของร่างกายของลูก
อยู่อย่างปราศจากตัวตน