05.01.25    Avyakt Bapdada     Thai Murli     17.10.2003     Om Shanti     Madhuban


ตลอดทั้งปี จงเป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจ มีความพอใจอยู่เสมอ และทำให้ทุกคนพอใจ


วันนี้ บัพดาดา ผู้ปลอบโยนหัวใจ พอใจที่ได้เห็นลูกๆอันเป็นที่รัก(ราชดุลรี)ของท่านแต่ละคน ซึ่งเป็นลูกที่น่ารักที่สุดจากทุกหนแห่งที่อยู่เบื้องหน้าท่าน และลูกที่อยู่ห่างไกลแต่ใกล้ชิดด้วย ลูกแต่ละคนคือราชา และดังนั้นจึงเป็นลูกอันเป็นที่รักยิ่งและสูงส่งเป็นพิเศษ มีเพียงไม่กี่ดวงวิญญาณในโลกนี้ที่ได้รับความรักนี้และความรักที่คอยห่วงใยเอาใจใส่อันสูงส่งจากพระเจ้าเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ลูกทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับความรักและความรักที่ห่วงใยเอาใจใส่อันสูงส่งของพระเจ้า ดวงวิญญาณของโลกกำลังร้องเรียกหา "มา มา!" ในขณะที่ลูกทุกคนกำลังสัมผัสถึงความรักของพระเจ้า ลูกกำลังได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยการหล่อเลี้ยงของพระเจ้า ลูกสัมผัสถึงโชคนี้ของลูกหรือไม่? ลูกกำลังสัมผัสถึงสิ่งนี้หรือไม่? บัพดาดากำลังมองลูกทุกคนในฐานะผู้มีสิทธิ์ในอาณาจักรทั้งสอง ลูกเป็นราชาที่มีสิทธิ์ในอำนาจในการปกครองตนเองในปัจจุบัน และอาณาจักรในอนาคตเป็นสิทธิโดยกำเนิดของลูก ดังนั้น ลูกจึงเป็นราชาสองเท่า ลูกทุกคนเป็นราชาใช่ไหม? ลูกไม่ใช่ปวงประชา ลูกเป็นราชาโยคีหรือไม่? หรือลูกบางคนเป็นประชาโยคี (โยคีผู้ที่กลายเป็นปวงประชา) มีใครเป็นประชาโยคีหรือไม่? ผู้ที่นั่งด้านหลังเป็นราชาโยคีหรือไม่? ไม่มีประชาโยคีเลยใช่ไหม? ลูกแน่ใจไหม? พูดว่า "แน่ใจ" หลังจากที่คิดอย่างรอบคอบแล้ว การมีสิทธิ์ในอาณาจักรของลูกหมายถึงการมีสิทธิ์ในอวัยวะที่ละเอียดอ่อนและอวัยวะทางร่างกายทั้งหมดของลูก เพราะลูกเป็นนายของตนเองใช่หรือไม่? แล้วลูกกลายเป็นราชาแค่บางครั้งเท่านั้น หรือลูกยังคงเป็นราชาอยู่เสมอ?

สิ่งหลักคือ: ลูกมีสิทธิ์เหนือจิตใจ สติปัญญา และซันสการ์ของลูกหรือไม่? ลูกมีสิทธิ์เหนือสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลาหรือเพียงบางครั้งเท่านั้น? อำนาจในการปกครองตนเองหมายถึงการมีอำนาจในการปกครองตนเองอย่างสม่ำเสมอ หรือว่าลูกมีในวันหนึ่งแต่ไม่มีในวันถัดไป? อาณาจักรมีอยู่ตลอดกาลใช่หรือไม่? ดังนั้นการเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองตลอดเวลา หมายถึงการมีสิทธิ์เหนือจิตใจ สติปัญญา และซันสการ์ของตนเองตลอดเวลา ลูกมีสิ่งนี้ตลอดเวลาหรือไม่? ลูกไม่ได้บอกว่า “ใช่แล้ว” ที่จะมีสิ่งนี้ตลอดเวลา จิตใจบางครั้งปกครองลูกหรือลูกปกครองจิตใจของลูกเอง? จิตใจของลูกกลายเป็นนายของลูกบางครั้งหรือไม่? มันกลายเป็นเช่นนี้ใช่ไหม? ดังนั้น จงรักษาสิทธิ์ของลูกในการมีอำนาจในการปกครองตนเองและเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในอาณาจักรของโลกอยู่เสมอ

ดังนั้น จงตรวจสอบสิ่งนี้อยู่เสมอ เพราะไม่ว่าลูกจะมีสิทธิ์เหนืออวัยวะต่างๆของลูก ทั้งจิตใจ สติปัญญา และซันสการ์ของลูกนานแค่ไหนและด้วยพลังมากเพียงใด ลูกก็จะได้รับสิทธิ์ในอาณาจักรในอนาคตตามนั้น หากบนพื้นฐานของการได้รับการหล่อเลี้ยงของพระเจ้า การศึกษาของพระเจ้า และศรีมัตของพระเจ้า ลูกไม่ได้มีสิทธิ์นี้อยู่เสมอในชาติเกิดเดียวของยุคบรรจบกันนี้ แล้วลูกจะกลายเป็นผู้มีสิทธิ์ในอาณาจักรของโลกเป็นเวลา 21 ชาติเกิดได้อย่างไร? มีบัญชีอยู่ เมื่อลูกเป็นนายของตนเองในเวลานี้เท่านั้น นั่นคือ ด้วยการเป็นราชาของตนเองในเวลานี้เท่านั้น ที่ลูกจะได้รับการรับประกันเป็นเวลา 21 ชาติเกิด “ฉันเป็นใครและฉันจะกลายเป็นอะไร?” ด้วยสิทธิของลูกในเวลาปัจจุบัน ตัวลูกเองก็สามารถรู้อนาคตของลูกได้ ลองพิจารณาดูว่าบุคลิกภาพและความสูงส่งดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปของลูกผู้เป็นดวงวิญญาณพิเศษนั้นสูงส่งเพียงใด! มองดูรูปที่คงอยู่ตลอดไปของลูกดวงวิญญาณเมื่อลูกอาศัยอยู่ในอาณาเขตสูงสุด ลูกถูกมองว่าเป็นดวงวิญญาณที่เปล่งประกายสดใส ประกายของความสูงส่งและของบุคลิกภาพนั้นสว่างไสวเพียงใด! ลูกมองเห็นหรือไม่? ในรูปของดวงวิญญาณ ลูกอยู่กับพ่อ ลูกอยู่ใกล้ชิด เช่นที่ดวงดาวบางดวงเปล่งประกายอย่างสว่างไสวมากบนท้องฟ้า ในทำนองเดียวกัน ลูกดวงวิญญาณอยู่กับพ่อโดยเฉพาะ และลูกคือดวงดาวที่มีประกายพิเศษ ในอาณาเขตสูงสุดลูกใกล้ชิดกับพ่อ และจากนั้นในตอนต้นของยุคทอง บุคลิกภาพและความสูงส่งของลูกดวงวิญญาณเทพนั้นสูงมาก วนไปทั่วทั้งวงจร ดวงวิญญาณทางศาสนามาแล้วก็ไป ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่มาแล้วก็ไป บิดาแห่งศาสนามาแล้วก็ไป ผู้นำทางการเมืองมาแล้วก็ไป นักแสดงมาแล้วก็ไป มีบุคคลใดที่มีบุคลิกภาพเช่นเดียวกับลูกดวงวิญญาณเทพในยุคทองบ้างหรือไม่? รูปที่เป็นเทพของลูกกำลังปรากฏอยู่ตรงหน้าลูกใช่ไหม? สิ่งนั้นมาอยู่ตรงหน้าลูกหรือลูกไม่รู้ว่าลูกจะกลายเป็นสิ่งนั้นหรือไม่? ลูกจะกลายเป็นสิ่งเหล่านั้นอย่างแน่วแน่มั่นคงไหม? ผู้ที่นั่งด้านหลังสิ่งนี้แน่วแน่มั่นคงไหม? นำรูปที่เป็นเทพของลูกมาอยู่เบื้องหน้าลูกแล้วดูรูปเทพเหล่านั้น บุคลิกภาพเหล่านั้นมาอยู่เบื้องหน้าลูกหรือไม่? มีความสูงส่งมากมาย แม้แต่ธรรมชาติก็เป็นเช่นนั้นที่มีบุคลิกภาพ นก ต้นไม้ ผลไม้ ดอกไม้ ทั้งหมดล้วนมีบุคลิกภาพ สิ่งเหล่านี้สูงส่ง โอเค ตอนนี้ ให้ลงมาและดูรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาของลูก ลูกได้รับการกราบไหว้บูชา ลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์จะกลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาหรือไม่ หรือผู้ที่มาจากอินเดียจะกลายเป็นสิ่งนั้น? ลูกกลายเป็นเทพหรือไม่? ไม่ใช่ผู้ที่มีงวงช้างหรือผู้ที่มีหาง ไม่ใช่เทพธิดาที่มีรูปของกาลี แต่ดูที่วัดของเหล่าเทพ มีความสูงส่งและมีบุคลิกภาพมากมายในรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาของลูก จะมีรูปเคารพสูง 4 ฟุตหรือ 5 ฟุตและพวกเขาจะสร้างวัดขนาดใหญ่ นี่คือความสูงส่งและบุคลิกภาพ ทุกวันนี้ พวกเขาสร้างรูปปั้นของนายกรัฐมนตรีหรือกษัตริย์และวางรูปปั้นที่น่าสงสารนั้นไว้ข้างนอกที่ร้อนอบอ้าว อะไรก็เกิดขึ้นได้กับสิ่งนั้น ในขณะที่บุคลิกภาพของรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาของลูกนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด! มันดีมากใช่ไหม? ลูกกุมารีกำลังนั่งอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่? นี่คือความสูงส่งของลูกใช่ไหม? และจากนั้นในตอนท้าย ในยุคบรรจบกันเช่นกัน ความสูงส่งของลูกทุกคนก็สูงมาก! บุคลิกภาพของชีวิตบราห์มินนั้นยิ่งใหญ่มาก! พระเจ้าเองได้เติมเต็มชีวิตบราห์มินของลูกด้วยบุคลิกภาพและความสูงส่งโดยตรง ใครคือศิลปินของชีวิตบราห์มิน? พ่อเอง บุคลิกภาพและความสูงส่งของชีวิตบราห์มินคืออะไร? ความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์เองคือความสูงส่ง มันเป็นเช่นนั้นใช่ไหม? ลูกดวงวิญญาณบราห์มินทั้งหมดที่นั่งอยู่ที่นี่ ลูกมีความสูงส่งของความบริสุทธิ์ใช่หรือไม่? ใช่ ลูกสามารถพยักหน้าเห็นด้วย ผู้ที่นั่งด้านหลังกำลังยกมือขึ้น ลูกไม่ได้อยู่ด้านหลัง ลูกอยู่เบื้องหน้าบาบา ดูสิ สายตาของบาบาจะไปที่ด้านหลังโดยอัตโนมัติ เมื่อมองมาที่ด้านหน้า ท่านต้องใช้ความพยายามพิเศษเพื่อมองเห็นพวกเขา ในขณะที่สายตาของท่านจะไปที่ด้านหลังโดยอัตโนมัติ

ดังนั้น ตรวจสอบดูว่า ฉันมีบุคลิกภาพของความบริสุทธิ์อยู่เสมอหรือไม่? มีความบริสุทธิ์ในความคิด คำพูด การกระทำ ทัศนคติ สายตา และพฤติกรรมของฉันหรือไม่? การมีความบริสุทธิ์ในความคิดหมายถึงการมีความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ต่อทุกคนเสมอ ไม่ว่าดวงวิญญาณอื่นจะเป็นเช่นไร ดวงวิญญาณที่มีความสูงส่งของบริสุทธิ์จะมีความคิดที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดี ความรู้สึกที่บริสุทธิ์ ความรู้สึกของการให้คุณประโยชน์ ความรู้สึกเมตตา และความรู้สึกของการเป็นผู้ประทานอยู่เสมอ เมื่อพวกเขามองไปรอบๆ พวกเขาจะมองเห็นทุกคนเป็นดวงวิญญาณหรือเห็นทุกคนในรูปที่เป็นเทวดานางฟ้าของพวกเขา แม้ว่าอีกคนหนึ่งจะไม่ได้กลายเป็นเทวดานางฟ้า แต่ในสายตาของฉัน ขอให้ฉันเห็นเพียงรูปของดวงวิญญาณหรือรูปที่เป็นเทวดานางฟ้าเท่านั้น ในพฤติกรรมของฉัน นั่นคือ ในสายใยและในความสัมพันธ์ และในกิจกรรมของฉัน ฉันต้องให้ความรักและความสุขกับทุกคนเสมอ ไม่ว่าคนอื่นจะให้ความรักกับฉันหรือไม่ หน้าที่ของฉันคือให้ความรักและทำให้พวกเขามีความรัก และให้ความสุขแก่พวกเขา ลูกมีคติพจน์ว่า "อย่าทำให้เกิดความทุกข์ อย่าได้รับความทุกข์" ลูกต้องไม่ทำให้เกิดความทุกข์และไม่รับความทุกข์ คนที่ให้สิ่งของบางครั้งอาจทำให้ลูกทุกข์ใจได้เช่นกัน แต่ให้มองสิ่งนั้นในจิตสำนึกแห่งความสุข ลูกไม่ได้ทำให้คนที่ตกต่ำแล้วตกต่ำลงไปอีก ลูกจะยกระดับคนที่ตกต่ำลงมาอยู่เสมอ ดวงวิญญาณเหล่านั้นกำลังก่อให้เกิดความทุกข์เพราะพวกเขาตกต่ำและอยู่ภายใต้อิทธิพลภายนอก! ดังนั้นลูกต้องไม่ทำให้พวกเขาตกต่ำลงไปอีก ไม่ควรเป็นเช่นนั้นที่ลูกจะเตะคนที่น่าสงสารเหล่านั้นให้หนักมากขึ้น ไม่เลย ยกระดับพวกเขาขึ้นมาด้วยความรัก ในสิ่งนี้เช่นกัน อันดับแรก บุญเริ่มต้นที่บ้าน ก่อนอื่น บุญเริ่มต้นที่บ้านใช่ไหม? ยกระดับมิตรสหายของลูกทั้งหมด มิตรในงานรับใช้ของลูก และมิตรของครอบครัวบราห์มิน แม้ว่าพวกเขาจะเปิดเผยลักษณะที่ไม่ดีของพวกเขา ลูกก็เพียงแค่เห็นคุณสมบัติพิเศษของพวกเขา มันตามลำดับกันไปใช่ไหม? ดูสิ ลูกประคำเป็นอนุสรณ์ของลูก ดังนั้น ไม่ใช่ทุกคนจะมีอันดับเดียวกัน มีจำนวน 108 ดังนั้นมันจึงตามลำดับกันไป และมันจะยังคงเป็นเช่นนั้น แต่หน้าที่ของลูกคืออะไร? ไม่ใช่ว่าจะต้องคิดว่า: "โอเค ฉันไม่ได้อยู่ในแปดอยู่แล้ว ดังนั้น บางทีฉันอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ 108 ดังนั้นฉันอาจจะเป็นคนสุดท้ายของ 108 ก็ได้ ดังนั้นฉันก็จะมีซันสการ์บางอย่างอยู่ในตัวเช่นกันใช่ไหม?" แต่ไม่เลย! ด้วยการให้ความสุขและความรักแก่ผู้อื่น ซันสการ์ของลูกก็จะกลายเป็นซันสการ์ของความรักและความสุขด้วย นี่คืองานรับใช้ และในงานรับใช้นี้ บุญต้องเริ่มต้นที่บ้านก่อน

วันนี้ บัพดาดาพบบางสิ่งที่น่าขบขัน ท่านควรบอกลูกหรือไม่? ดูสิ ลูกจะพบว่ามันน่าขบขันเช่นกัน บัพดาดาเฝ้าดูเกมของลูกๆตลอดเวลา ในเวลาใดๆ ในหนึ่งวินาที บัพดาดาเปิดทีวีของท่านที่ศูนย์หนึ่ง และบางครั้งที่ศูนย์อื่น บางครั้งที่ศูนย์ในต่างประเทศ และบางครั้งที่ศูนย์ในอินเดีย ท่านเปิดทีวีและสามารถบอกได้ว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรอยู่ เพราะพ่อรักลูกๆ ลูกๆก็พูดด้วยว่า “เราต้องกลับมาทัดเทียมกับท่าน” สิ่งนี้แน่วแน่มั่นคงแล้วใช่ไหม?ว่าลูกต้องกลับมาทัดเทียม กุมารี ลูกจะกลับมาทัดเทียมไหม? หรือว่าลูกโอเคกับสิ่งที่ลูกจะกลายเป็นในละครไหม? ไม่เลย ลูกต้องกลับมาทัดเทียม ลูกกุมารีทุกคนต้องกลับมาทัดเทียม แม้ว่าลูกจะต้องตาย ไม่ว่าลูกจะต้องทำอะไรก็ตาม ยกมือขึ้นหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ ใช่แล้ว ลูกผู้ที่รู้สึกว่าไม่สำคัญว่าจะต้องทำอะไร - ลูกอาจต้องตาย ก้มหัว อดทน หรือฟังใครก็ตาม - ยกมือขึ้น! ยกมือขึ้นหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ถ่ายรูปของพวกเธอไว้! มีกุมารีมากมาย แล้วถ้าเกิดลูกต้องตายล่ะ? แล้วถ้าเกิดลูกต้องก้มหัวล่ะ? พันดาวาส ยกมือขึ้น! ลูกได้ยินไหมว่าลูกต้องกลับมาทัดเทียม! จะไม่มีความสุขใดๆถ้าลูกไม่กลับมาทัดเทียม ในกรณีนั้น ลูกจะไม่ใกล้ชิดในอาณาเขตสูงสุดเช่นกัน จะมีความแตกต่างในการเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา และจะมีความแตกต่างในโชคของอาณาจักรยุคทองด้วย

ลูกรักพ่อบราห์มาใช่ไหม? ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์มีความรักสูงสุด ผู้ที่มีความรักอย่างลึกซึ้งในหัวใจต่อพ่อบราห์มา ยกมือขึ้น! ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์มีความรักในหัวใจหรือไม่? อัจชะ! เป็นความรักที่แท้จริงใช่ไหม? ตอนนี้บาบาจะถามคำถามลูก สิ่งชี้บอกของความรักนั่นคือใครก็ตามที่ลูกรัก ลูกจะชอบทำในสิ่งที่คนที่ลูกรักชอบทำ เมื่อซันสการ์ ความคิด และธรรมชาติของทั้งสองสอดคล้องต้องกันเท่านั้นที่ลูกจึงจะพบความรักซึ่งกันและกัน ถ้าลูกรักพ่อบราห์มา ลูกก็จะอยู่กับท่านเป็นเวลา 21 ชาติเกิด ตั้งแต่ชาติแรก ไม่ดีหรอกถ้าลูกมาเกิดในชาติเกิดที่ 2 หรือชาติเกิดที่ 3 ลูกก็จะอยู่กับท่านตั้งแต่ชาติแรกจนชาติสุดท้าย ลูกจะอยู่กับท่านในรูปแบบต่างๆ แล้วใครเล่าจะอยู่กับท่านได้? ผู้ที่ทัดเทียมกัน ท่านคือดวงวิญญาณอันดับหนึ่ง แล้วลูกจะอยู่กับท่านได้อย่างไร? ต่อเมื่อลูกได้กลายเป็นดวงวิญญาณอันดับหนึ่งแล้วเท่านั้นที่ลูกจะอยู่กับท่านได้ อันดับหนึ่งในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความคิด คำพูด การกระทำ ทัศนคติ สายตา และพฤติกรรม แล้วลูกเป็นอันดับหนึ่งหรือเป็นไปตามลำดับ? หากลูกมีความรักแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะสังเวยทุกสิ่งด้วยความรัก ในชาติเกิดสุดท้ายในตอนปลายของยุคเหล็ก แม้แต่ผู้ที่มีสำนึกที่เป็นร่างก็ยังต้องสังเวยชีวิตของเขาด้วยความรัก ดังนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรหากลูกเปลี่ยนซันสการ์ของลูกด้วยความรักที่มีต่อพ่อบราห์มา เป็นเรื่องใหญ่หรือไม่? ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดังนั้นซันสการ์ของทุกคนจะเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้หรือไม่? ลูกแน่ใจหรือไม่? รายงานก็จะถูกส่งไป มิตรร่วมทางของลูกจะเขียนจดหมายถึงบาบา ลูกแน่ใจไหม? ดาดี้ก็กำลังฟังอยู่ด้วยเช่นกัน พวกเขา (ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์) กำลังบอกว่าซันสการ์ของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว หรือว่าจะต้องใช้เวลา? โมฮินี ลูกบอกบาบาว่า พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงใช่ไหม? พวกเขาทั้งหมดจะเปลี่ยนแปลงใช่ไหม? ผู้ที่มาจากอเมริกาจะเปลี่ยนแปลง ส่วนที่น่าขบขันก็ถูกละทิ้งไป

สิ่งที่น่าขบขันคือลูกทุกคนพูดว่าลูกเพียรพยายามเป็นอย่างมาก บัพดาดาก็รู้สึกเมตตาเมื่อท่านเห็นว่าลูกกำลังพยายามอย่างมาก บางครั้งลูกเพียรพยายามอย่างมาก แล้วลูกพูดว่า "ฉันจะทำอย่างไรได้ถ้าซันสการ์ของฉันเป็นเช่นนั้น" ลูกใช้ซันสการ์ของลูกเป็นข้ออ้างและหาเหตุผลให้กับตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองถูกต้องในลักษณะนั้น อย่างไรก็ตามวันนี้พ่อเห็นว่าเมื่อลูกพูดว่า "ซันสการ์ของฉัน" ซันสการ์ของลูกเป็นของลูกจริงๆหรือไม่? ลูกแต่ละคนคือดวงวิญญาณ ลูกคือดวงวิญญาณใช่ไหม? ลูกไม่ใช่ร่างกายใช่หรือไม่? แล้วซันสการ์ของลูกดวงวิญญาณนั้นคืออะไร? และซันสการ์ดั้งเดิมของลูกคืออะไร? สิ่งใดก็ตามที่ลูกอ้างถึงในวันนี้ว่าเป็นของลูกนั้น มันคือของลูกหรือของราวัน? เป็นซันสการ์ของใคร? เป็นของลูกหรือไม่? ซันสการ์นั้นไม่ใช่ของลูก แล้วทำไมลูกถึงพูดว่าเป็นของลูก? ลูกพูดว่า "ซันสการ์ของฉันเป็นอย่างนั้น" ใช่ไหม? ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าพูดว่า "ซันสการ์ของฉัน" ไม่เลย บางครั้งขยะก็บินมาหาลูกจากทุกหนแห่งใช่ไหม? ดังนั้น สิ่งของของราวันนี้ก็มาหาลูกด้วยเช่นกัน แล้วลูกจะบอกว่ามันเป็นของลูกได้อย่างไร? มันเป็นของลูกไหม? มันไม่ใช่ของลูกใช่ไหม? ดังนั้น เวลานี้อย่าได้พูดสิ่งนี้ เมื่อใดก็ตามที่ลูกพูดคำว่า "ของฉัน" แล้ว ให้จำไว้ว่าลูกเป็นใครและซันสการ์ของลูกคืออะไร ในจิตสำนึกที่เป็นร่างซันสการ์เหล่านั้นคือของลูก อย่างไรก็ตาม ในจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ ซันสการ์เหล่านั้นไม่มีอยู่ ดังนั้น เวลานี้ จงเปลี่ยนภาษานั้นของลูก ลูกพูดว่า "ซันสการ์ของฉัน" และกลับมาไม่ระมัดระวัง ลูกจะพูดว่า "นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของฉัน แต่นั่นเป็นเพียงซันสการ์ของฉัน" อัจชะ คำอื่นที่ลูกใช้คืออะไร? "ธรรมชาติของฉัน" คำว่า "สวาภวะ" ธรรมชาติ (สวา –ตนเอง, ภวะ – ความรู้สึก) นั้นดีมาก ตัวตนของตนเองนั้นจะดีเสมอ ธรรมชาติของฉัน ความตั้งใจของฉันนั้นดีเสมอ ไม่เคยเลวร้าย ดังนั้น แทนที่จะใช้คำว่า "ธรรมชาติของฉัน ซันสการ์ของฉัน" ให้เปลี่ยนภาษานั้นแทน เมื่อใดก็ตามที่ลูกใช้คำว่า "ของฉัน" ให้จำไว้ว่า ซันสการ์ดั้งเดิมของฉันคืออะไร? ใครเป็นคนพูดสิ่งนี้? เป็นดวงวิญญาณที่พูดว่า "เหล่านี้คือซันสการ์ของฉัน" ดังนั้น เมื่อลูกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลูกจะรู้สึกขบขันกับตัวเอง ลูกจะรู้สึกขบขันใช่หรือไม่? เมื่อลูกรู้สึกขบขัน ความยุ่งยากซับซ้อนทั้งหมดที่ลูกสร้างขึ้นก็จะจบสิ้นลง นี่เรียกว่าการเปลี่ยนภาษาของลูก นั่นคือ การมีความเคารพและนับถือทุกดวงวิญญาณ จงอยู่ในความเคารพตนเองอยู่เสมอและนับถือผู้อื่นด้วยความเคารพ เมื่อลูกมองดูทุกคนด้วยความเคารพแล้ว เมื่อเกิดสิ่งใดที่ลูกไม่ชอบ เมื่อมีความยุ่งยากซับซ้อนบางอย่าง ลูกไม่ชอบใช่หรือไม่? มองกันและกันด้วยความเคารพ ดวงวิญญาณนี้เป็นดวงวิญญาณพิเศษ ดวงวิญญาณนี้เป็นดวงวิญญาณบราห์มินที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากพ่อ ดวงวิญญาณนี้เป็นหนึ่งในดวงวิญญาณไม่กี่ดวงจากหลายๆล้านดวง เพียงแค่ทำสิ่งเดียวเท่านั้น: ให้จุดนั้นหลอมรวมอยู่ในดวงตาของลูก แค่นั้นเอง! ประการแรก ลูกมองเห็นด้วยจุดนั้น (ม่านตาของดวงตา) และประการที่สอง ให้หลอมรวมจุดนั้นในดวงตาของลูก แล้วเมื่อนั้นจะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ลูกจะไม่ต้องพยายาม มันจะเหมือนราวกับว่าดวงวิญญาณกำลังมองดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณกำลังพูดกับดวงวิญญาณ สร้างทัศนคติและสายตาที่มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ลูกเข้าใจหรือไม่ว่าลูกต้องทำอะไร? ตอนนี้ อย่าพูดว่า "ซันสการ์ของฉัน" เมื่อลูกพูดถึงสวาภวะ (ธรรมชาติดั้งเดิมของลูก) ให้คงอยู่ในธรรมชาติของตัวลูกเอง สิ่งนี้โอเคไหม?

บัพดาดาปรารถนาว่า ตลอดทั้งปี ถึงแม้ว่าฤดูกาลจะเพียงแค่หกเดือนก็ตาม ตลอดทั้งปีนี้ เมื่อใดก็ตามที่ลูกพบใคร ไม่ว่าลูกจะพบใคร ไม่ว่าจะในหมู่ลูกเองหรือกับดวงวิญญาณอื่นๆ เมื่อใดก็ตามที่ลูกพบใคร ไม่ว่าลูกจะพบใครก็ตาม จงให้ความร่วมมือด้วยความพอใจแก่พวกเขา ตัวลูกเองควรอยู่อย่างพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจด้วย การเคารพตนเองของฤดูกาลนี้คือ “เพชรพลอยแห่งความพอใจ” เป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจอยู่เสมอ บราเธอร์ก็เป็นเพชรพลอยเช่นกัน (มณี – กาลเพศหญิง) ไม่ใช่เพชรพลอยแห่งกาลเพศชาย (มานะ – กาลเพศชาย) แต่ละดวงวิญญาณและทุกดวงวิญญาณเป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจในทุกขณะ หากตัวลูกเองมีความพอใจ ลูกก็จะทำให้ผู้อื่นพอใจด้วย จงอยู่อย่างพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจ สิ่งนี้โอเคไหม? ลูกชอบสิ่งนี้ไหม? ลูกกุมารีชอบสิ่งนี้ไหม? ผู้ที่ชอบสิ่งนี้และจะทำสิ่งนั้น ไม่ใช่ผู้ที่ชอบฟังเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่ชอบทำสิ่งนี้ - ทุกคนยกมือขึ้น เห็นมือทั้งหมดแล้ว ลูกทำให้หัวใจของบัพดาดาพอใจ ดีมาก ขอแสดงความยินดี ขอแสดงความยินดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงอยู่อย่างมั่นคงบนที่นั่งของความเคารพตนเอง อย่าเร่ร่อนไปทั่ว บางครั้งบนที่นั่งหนึ่ง บางครั้งบนที่นั่งอื่นๆ ไม่เลย อยู่อย่างมั่นคงบนที่นั่งของความเคารพตนเองของลูก เมื่อลูกนั่งบนที่นั่งของความเคารพตนเอง หากเกิดอะไรขึ้น ให้มองดูราวกับว่าลูกกำลังดูการ์ตูน ลูกชอบดูการ์ตูนใช่ไหม? ดังนั้น ปัญหาจึงไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นการแสดงการ์ตูนที่กำลังแสดงอยู่ สิงโตมา แกะมา แมงป่องมา จิ้งจกสกปรกมา นี่คือการแสดงการ์ตูน อย่าอารมณ์เสียในขณะที่นั่งบนที่นั่งของลูก แล้วลูกจะสนุกกับมัน

ถึงลูกผู้เป็นที่รักยิ่งที่สูงส่ง ถึงลูกผู้ที่น่ารักและให้ความร่วมมือที่จะกลับมาทัดเทียม ถึงลูกๆที่ทำให้ความรู้สึกอันสูงส่งต่อตนเองและซันสการ์ดั้งเดิมของตนปรากฏออกมาในรูปของตน ถึงลูกผู้ที่ให้ความสุขและความรักแก่ทุกคนอยู่เสมอ ถึงลูกผู้ที่เป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจและกระจายรังสีแห่งความพอใจอยู่เสมอ รัก ระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา

พร:
ขอให้ลูกกลายเป็นนายผู้ประทานเหมือนพ่อบราห์มา และสัมผัสกับสภาพของการมีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกต่อตนเองและผู้อื่น

เพื่อจะกลายเป็นนายผู้ประทานเหมือนพ่อบราห์มา จงอยู่อย่างเป็นอิสระสามสิ่ง: จากความอิจฉาริษยา ความไม่ชอบ และการวิพากษ์วิจารณ์ และมีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกสำหรับทุกคน และสัมผัสกับสภาพของการมีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกเท่านั้น เพราะผู้ที่มีไฟแห่งความอิจฉาริษยาอยู่ในตัวเองจะเผาไหม้ตัวเองและทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ด้วยเช่นกัน ผู้ที่มีความไม่ชอบล้มลงแล้วยังทำให้ผู้อื่นล้มลงด้วย ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอย่างตลกขบขันจะทำให้ตนเองท้อแท้และไม่มีความสุข ดังนั้นจงอยู่อย่างเป็นอิสระจากสามสิ่งนี้ และสัมผัสถึงสภาพของการมีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวก และด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นนายผู้ประทาน เป็นลูกของผู้ประทาน

คติพจน์:
ผู้ที่มีอำนาจในการปกครองเหนือจิตใจ สติปัญญา และซันสการ์ของตนโดยสมบูรณ์ย่อมเป็นนายของตนเอง เป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเอง

ด้วยจิตใจอันทรงพลังของลูก จงทำงานรับใช้ของการให้สะกาช

ลูกบราห์มินทั้งหลายคือลำต้น และต้นไม้ทั้งต้นได้รับสะกาชจากลำต้น ดังนั้น เวลานี้จงกลายเป็นผู้ให้สะกาชแก่โลก ถ้าลูกมีศูนย์ 20 ศูนย์ 30 ศูนย์ หรือ 200 ถึง 250 ศูนย์ หรือมีโซนของลูกในสติปัญญาของลูก ลูกจะไม่สามารถให้สะกาชแก่สิ่งที่ไม่มีขีดจำกัดได้ ดังนั้น จงอยู่เหนือสิ่งที่มีขีดจำกัดใดๆอยู่เสมอ และเริ่มบทบาทของการทำงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด ด้วยการเข้าสู่สิ่งที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกจะเป็นอิสระจากสิ่งที่มีขีดจำกัดโดยอัตโนมัติ การเปลี่ยนแปลงด้วยสะกาชที่ไม่มีขีดจำกัดเป็นผลลัพธ์จากการรับใช้ที่รวดเร็ว