06.12.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ขณะนี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ในขณะที่อยู่ที่นี่ลูกต้องจดจำโลกใหม่และทำให้ดวงวิญญาณของลูกบริสุทธิ์
คำถาม:
พ่อได้ให้ความเข้าใจอะไรแก่ลูกที่ได้เปิดล็อคบนสติปัญญาของลูก?
คำตอบ:
พ่อให้ความเข้าใจของละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ที่ก็อดเร็จล็อคที่ล็อคสติปัญญาของลูกนั้นถูกเปิดออก
สติปัญญาของลูกเปลี่ยนจากหินและถูกทำให้สูงส่งดีงาม
พ่อให้ความเข้าใจแก่ลูกว่านักแสดงแต่ละคนในละครนี้มีบทบาทที่คงอยู่ตลอดไปของตนเองที่จะเล่น
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ลูกแต่ละคนศึกษาเล่าเรียนในวงจรก่อนหน้านี้
ลูกก็จะทำเช่นนั้นในขณะนี้ ลูกจะเพียรพยายามเพื่อประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูก
โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และสอนลูกๆ ทางจิต ตั้งแต่ที่ท่านกลายเป็นพ่อของเรา
ท่านก็กลายเป็นครูของเราเช่นกันและท่านก็ให้คำสอนแก่เราในรูปของสัตกูรูด้วย
ลูกๆรู้ว่าเมื่อท่านเป็นทั้งพ่อ ครู และสัตกูรู ท่านก็จะไม่ได้เป็นเด็กเล็กๆ
ท่านเป็นผู้ที่สูงสุดและยิ่งใหญ่ที่สุด พ่อรู้ว่าลูกทั้งหมดเป็นลูกของท่าน
ตามแผนของละครลูกเคยเรียกหาท่านเพื่อมาและลูกไปสู่โลกที่บริสุทธิ์แต่ลูกก็ไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
ขณะนี้ลูกเข้าใจแล้วว่ายุคทองถูกเรียกว่าโลกที่บริสุทธิ์และยุคเหล็กถูกเรียกว่าโลกที่ไม่บริสุทธิ์
ลูกพูดด้วยเช่นกันว่า โปรดมาและปลดปล่อยพวกเราจากกรงขังของราวัน!
ปลดปล่อยเราจากความทุกข์ทั้งหมดของเราและพาเรากลับไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุขของเรา
ชื่อทั้งสองนั้นดีมาก:
การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตหรือดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข!
ไม่มีสติปัญญาของใครนอกจากของลูกๆที่รู้ว่าดินแดนแห่งความสงบอยู่ที่ไหนหรือดินแดนแห่งความสุขอยู่ที่ไหน
พวกเขาสิ้นคิดอย่างสิ้นเชิง เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกคือการกลับมารู้คิด
ผู้ที่สิ้นคิดมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการกลับมารู้คิดเหมือนพวกเขา(ลักษมีและนารายณ์)
ลูกต้องสอนทุกคนว่าเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของที่นี่คืออะไร?
คือการกลายเป็นเทพจากมนุษย์ นี่คือโลกมนุษย์และนั่นคือโลกแห่งเทพ
ยุคทองคือโลกของเทพและดังนั้นยุคเหล็กจะเป็นโลกของมนุษย์อย่างแน่นอน
เนื่องจากเวลานี้เราต้องกลายเป็นเทพจากมนุษย์
เราต้องอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดอย่างแน่นอน
คนเหล่านั้นคือเทพและคนเหล่านี้คือมนุษย์ เทพมีความรู้คิด พ่อทำให้พวกเขารู้คิด
ท่านคือนายของโลก แม้ว่าท่านไม่เคยกลับมาเป็นนายของโลกนั้น แต่ก็ยังมีคำสรรเสริญนี้
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดคือผู้เดียวที่ให้ความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด
มีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดในโลกใหม่และมีความทุกข์ที่ไม่มีขีดจำกัดในโลกเก่า
ภาพของเทพเหล่านั้นอยู่เบื้องหน้าลูก มีคำยกย่องพวกเขา
ทุกวันนี้แม้แต่วัตถุธาตุทั้งห้าก็ได้รับการกราบไหว้บูชา
พ่ออธิบายว่าเวลานี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ลูกแต่ละคนก็เข้าใจตามลำดับกันไปด้วยเช่นกัน
ตามความเพียรพยายามของลูกว่าลูกได้วางเท้าข้างหนึ่งในสวรรค์และเท้าอีกข้างหนึ่งในนรก
แม้ว่าลูกจะมีชีวิตอยู่ที่นี่ สติปัญญาของลูกก็อยู่ในโลกใหม่
ดังนั้นลูกต้องจดจำผู้เดียวที่ส่งลูกไปสู่โลกใหม่
ด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อเท่านั้นที่ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
ชีพบาบานั่งที่นี่และอธิบายสิ่งนี้ พวกเขาเฉลิมฉลองวันเกิดของชีวาอย่างแน่นอน
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อใดที่ท่านมาหรือเมื่อท่านมาท่านได้ทำอะไร
พวกเขาเฉลิมฉลองกลางคืนของชีวาและพวกเขาก็เฉลิมฉลองการเกิดของกฤษณะเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้ใช้คำเดียวกันสำหรับชีพบาบาเหมือนกับที่พวกเขาใช้กับกฤษณะ
แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่า “ชีพราตรี” พวกเขาก็ไม่ได้เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น
มีการอธิบายความหมายแก่ลูกๆ แล้ว
มีความทุกข์ที่ไม่มีขีดจำกัดในตอนท้ายของยุคเหล็กและมีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดในยุคทอง
เวลานี้ลูกๆ ได้รับความรู้นี้แล้วและลูกรู้ถึงตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของวงจร
ผู้ที่เคยศึกษาสิ่งนี้ในวงจรที่แล้วก็จะศึกษาในเวลานี้
ไม่ว่าพวกเขาจะทำความเพียรพยายามอะไร
พวกเขาก็จะเริ่มทำสิ่งเดียวกันนั้นอีกครั้งและประกาศสิทธิ์ในสถานภาพตามนั้น
ทั้งวงจรอยู่ในสติปัญญาของลูก
ลูกคือผู้ที่ได้รับสถานภาพที่สูงสุดแล้วเป็นผู้ที่ลงมาตามนั้น
พ่อได้อธิบายแล้วว่าดวงวิญญาณของมนุษย์ทุกคน,ทุกคนในลูกประคำลงมา ตามลำดับกันไป
นักแสดงแต่ละคนได้รับบทบาทของตนเองที่จะเล่น –
บทบาทอะไรก็ตามที่แต่ละคนเล่นในแต่ละช่วงเวลา
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายว่าละครที่ถูกสร้างขึ้นคงอยู่ตลอดไป
เวลานี้ลูกต้องอธิบายให้แก่พี่น้องของลูกในสิ่งที่พ่อสอนลูก
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่าพ่อมาและอธิบายแก่เราทุก 5000
ปีแล้วเราก็ต้องอธิบายสิ่งนี้แก่พี่น้องของเรา ในประเด็นของดวงวิญญาณ
ลูกทั้งหมดคือพี่น้องชาย พ่อพูดว่า
เวลานี้ลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ปราศจากร่าง
ดวงวิญญาณต้องจดจำพ่อของเขาเพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์
เมื่อดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ พวกเขาก็ได้รับร่างกายที่บริสุทธิ์
เมื่อดวงวิญญาณไม่บริสุทธิ์เครื่องประดับ(ร่างกาย)ของเขาก็ไม่บริสุทธิ์เช่นกัน
ทุกคนตามลำดับกันไป
รูปลักษณะและกิจกรรมของแต่ละคนนั้นก็ไม่สามารถเหมือนกันกับอีกคนหนึ่งได้
แต่ละคนก็เล่นบทบาทของตนเองตามลำดับกันไป
ไม่สามารถที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยในละคร
ลูกจะเห็นฉากเดียวกันในวันพรุ่งนี้ที่ลูกเคยเห็นเมื่อวานนี้ สิ่งเดียวกันจะซ้ำรอย
นี่คือละครที่ไม่มีขีดจำกัดของเมื่อวานและวันนี้
ได้อธิบายแก่ลูกเมื่อวานว่าลูกประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรอย่างไรและลูกสูญเสียอาณาจักรนั้นไปอย่างไร
วันนี้ ขณะนี้ลูกเข้าใจความรู้นี้เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในอาณาจักร วันนี้
บารัตคือนรกเก่าและวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นสวรรค์ใหม่
สติปัญญาของลูกรู้ว่าเวลานี้ลูกกำลังจะไปสู่โลกใหม่
ลูกกำลังจะกลับมาสูงส่งด้วยการทำตามศรีมัท
ผู้ที่สูงส่งจะอยู่ในโลกที่สูงส่งอย่างแน่นอน
ลักษมีและนารายณ์นั้นสูงส่งและดังนั้นพวกเขาจึงอาศัยอยู่ในสวรรค์ที่สูงส่ง
ผู้ที่คดโกงตกต่ำจะอาศัยอยู่ในนรก ขณะนี้ลูกเข้าใจนัยสำคัญของสิ่งนี้
เพียงเมื่อลูกเข้าใจละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้อย่างชัดเจนมากแล้วเท่านั้นที่สิ่งนั้นจะนั่งอยู่ในสติปัญญาของลูก
พวกเขาเฉลิมฉลองกลางคืนของชีวาแต่พวกเขาไม่รู้อะไรเลย
ดังนั้นลูกๆต้องได้รับการทำให้สดชื่นแล้วลูกจะต้องทำให้ผู้อื่นสดชื่น
เวลานี้ลูกได้รับความรู้นี้แล้วและลูกก็ได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
พ่อพูดว่า พ่อไม่ได้เข้าไปในสวรรค์
บทบาทของพ่อคือการเปลี่ยนโลกนี้จากไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์ ที่นั่น
ลูกมีสมบัติที่มีค่าที่ไม่มีขีดจำกัดในขณะที่นี่ลูกล้มละลาย
เหตุนี้เองลูกจึงเรียกหาพ่อให้มาและให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัดของลูกแก่ลูก
ลูกได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดทุกๆวงจรและแล้วลูกก็กลับมายากจนข้นแค้นทุกๆวงจรด้วยเช่นกัน
เมื่อลูกใช้ภาพเพื่ออธิบาย พวกเขาจะสามารถเข้าใจได้
ลักษมีและนารายณ์ซึ่งเป็นเทพอันดับแรกนั้นก็กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาในขณะที่ใช้ 84
ชาติเกิด เวลานี้ลูกๆ ได้รับความรู้นี้แล้ว
ลูกรู้ว่ามีศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว
โลกของเทพนั้นก็เรียกว่าไวกูณฐ์และดินแดนสุขาวดีด้วยเช่นกัน
ลูกจะไม่เรียกบารัตด้วยชื่อนั้นในเวลานี้ เวลานี้คือโลกปีศาจ
ขณะนี้เป็นการบรรจบกันของตอนสิ้นสุดของโลกปีศาจและตอนเริ่มต้นของโลกเทพ
เวลานี้ลูกเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ลูกไม่สามารถได้ยินสิ่งเหล่านี้จากปากของใครอื่น
พ่อมาและใช้ปากของผู้นี้ ผู้คนไม่เข้าใจว่าท่านใช้ปากของใคร
พ่อเข้ามาใช้ร่างของผู้ใด? ลูกดวงวิญญาณก็อยู่ในร่างกายของลูกเอง
ชีพบาบาไม่ได้มีพาหนะเป็นของท่านเองท่านจึงต้องการปากอย่างแน่นอน
มิฉะนั้นแล้วท่านจะสอนราชาโยคะแก่ลูกได้อย่างไร? ท่านจะไม่สอนลูกด้วยแรงบันดาลใจ
ดังนั้น จงจดประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดไว้ในหัวใจของลูก
ความรู้ทั้งหมดที่อยู่ในสติปัญญาของพระเจ้านั้นควรจะอยู่ในสติปัญญาของลูกด้วยเช่นกัน
สติปัญญาของลูกต้องซึมซับความรู้นี้ มีคำพูดว่า สติปัญญาของลูกนั้นถูกต้องหรือไม่?
สติปัญญาอยู่ในแต่ละดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณเข้าใจด้วยสติปัญญาของเขา
ใครทำให้สติปัญญาของลูกกลายเป็นหิน
ขณะนี้ลูกเข้าใจว่าราวันได้เปลี่ยนสติปัญญาของลูกให้กลายเป็นอะไร เมื่อวานนี้
ลูกไม่รู้เกี่ยวกับละครนี้ มีล็อคก็อดเร็จในสติปัญญาของลูก คำว่า “พระเจ้า”
นั้นก็อยู่ในคำนั้น สติปัญญาที่พ่อให้แก่ลูกนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นสติปัญญาที่เป็นหิน
แล้วพ่อก็มาอีกครั้งและเปิดล็อค ในยุคทองทุกคนมีสติปัญญาที่สูงส่งดีงาม
พ่อมาและให้คุณประโยชน์ทุกคน สติปัญญาของทุกคนนั้นก็เปิดขึ้นตามลำดับกันไป
ดวงวิญญาณก็ลงมาเรื่อยๆที่นี่ คนแล้วคนเล่า ไม่มีใครสามารถคงอยู่เบื้องบน
ไม่มีใครที่ไม่บริสุทธิ์สามารถอยู่ที่นั่นได้
พ่อชำระลูกให้บริสุทธิ์และพาลูกกลับไปสู่โลกที่บริสุทธิ์
ดวงวิญญาณทั้งหมดที่บริสุทธิ์ก็อาศัยอยู่ที่นั่น นั่นคือโลกที่ไม่มีตัวตน
ขณะนี้ลูกๆเข้าใจทุกสิ่งและดังนั้นบ้านของลูกก็ดูเหมือนจะอยู่ใกล้กับลูกมาก
ลูกมีความรักอย่างมากต่อบ้านของลูก ไม่มีใครมีความรักต่อบ้านหลังนั้นมากเท่ากับลูก
อย่างไรก็ตาม ลูกก็ตามลำดับกันไปเช่นกัน ในลูกผู้ที่รักพ่อก็รักบ้านด้วยเช่นกัน
มีลูกที่เป็นที่รักเป็นพิเศษเช่นกัน
ลูกเข้าใจว่าผู้ที่ทำความเพียรพยายามอย่างดีและกลับมาเป็นลูกที่เป็นที่รักพิเศษจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
ไม่ขึ้นอยู่กับว่าลูกนั้นจะมีร่างกายที่แก่ชราหรือร่างกายที่เยาว์วัย
ผู้ที่ฉลาดกว่าในความรู้และโยคะนั้นเป็นซีเนียร์
มีลูกที่เยาว์วัยมากมายที่ฉลาดกว่าในความรู้และโยคะ
และดังนั้นพวกเขาจึงสอนผู้ที่อายุมากกว่า มิฉะนั้นแล้วกฎโดยทั่วไป
ผู้ที่แก่กว่าจะสอนผู้ที่อายุน้อยกว่า ทุกวันนี้ มีคนที่แคระแกรนด้วยเช่นกัน
ตามความเป็นจริงทุกดวงวิญญาณนั้นแคระแกรน ดวงวิญญาณเป็นเพียงจุด
ลูกจะชั่งน้ำหนักดวงวิญญาณได้อย่างไร? ดวงวิญญาณเป็นเพียงดวงดาว จากการได้ยินคำว่า
“ดวงดาว” ผู้คนก็มองขึ้นไปเบื้องบน เมื่อลูกได้ยินคำว่า “ดวงดาว” ลูกก็มองที่ตนเอง
ลูกคือดวงดาวของโลกขณะที่ดวงดาวเหล่านั้นคือดวงดาวของท้องฟ้า
ดวงดาวเหล่านั้นไม่มีชีวิตและลูกนั้นมีชีวิต
ดวงดาวเหล่านั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงในขณะที่ลูกๆ ผู้เป็นดวงดาวที่ใช้ 84 ชาติเกิด
ลูกเล่นบทบาทที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น! ในขณะที่เล่นบทบาทของลูก
ประกายของลูกก็กลับมามัวหมอง แบตเตอรี่ของลูกก็กลับมาหมดกำลัง และแล้วเมื่อลูกๆ
ดวงวิญญาณกลับมามัวหมองอย่างสมบูรณ์พ่อก็มาและอธิบายความรู้นี้แก่ลูกในวิธีที่แตกต่างกันมากมาย
พลังที่ลูกดวงวิญญาณมีอยู่ภายในตัวลูกก็ใช้จนหมดสิ้น
ขณะนี้ลูกต้องเติมเต็มตนเองด้วยพลังจากพ่อ
เวลานี้ลูกกำลังเติมแบตเตอรี่ของลูกอีกครั้ง มายาสร้างอุปสรรคมากมายในสิ่งนี้
เธอพยายามหยุดลูกจากการชาร์จแบตเตอรรี่ของลูก ลูกคือแบตเตอรี่ที่มีชีวิต
ลูกรู้ว่าลูกจะกลับมาสโตประธานด้วยการมีโยคะกับพ่อ เวลานี้ลูกกลับมาตโมประธาน
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการศึกษาที่มีขีดจำกัดและการศึกษาที่ไม่มีขีดจำกัดนี้!
ดวงวิญญาณทั้งหมดขึ้นไปตามลำดับกันไป
จากนั้นพวกเขาก็ลงมาในเวลาของเขาเองเพื่อเล่นบทบาทของเขาเอง
แต่ละคนได้รับบทบาทที่ไม่สูญสลายของเขาเองที่จะเล่น ลูกได้เล่นบทบาทของ 84
ชาติเกิดของลูกมาแล้วกี่ครั้ง?
เป็นเวลากี่ครั้งที่ลูกดวงวิญญาณได้รับการชาร์จและกลับมาหมดกำลัง?
เมื่อลูกรู้ว่าแบตเตอรี่ของลูกหมดกำลัง เหตุใดลูกจึงใช้เวลานานที่จะชาร์จแบตเตอรี่?
เป็นเพราะมายาไม่ปล่อยให้ลูกชาร์จแบตเตอรี่ของลูก
มายาทำให้ลูกลืมที่จะชาร์จแบตเตอรี่ของลูกเอง
เธอทำให้แบตเตอรี่ของลูกหมดกำลังครั้งแล้วครั้งเล่า
ลูกพยายามที่จะจดจำพ่อแต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
มายาแม้กระทั่งทำให้แบตเตอรี่ของผู้ที่ได้ชาร์จแบตเตอรี่ของพวกเขาและที่เข้ามาใกล้สภาพที่สโตประธานหมดกำลัง
เธอทำให้พวกเขาทำความผิดและปล่อยแบตเตอรี่ของพวกเขาให้หมดกำลังอย่างเร็ว
สิ่งนี้จะเฝ้าแต่เกิดขึ้นจนถึงเวลาสุดท้าย
และแล้วในตอนสิ้นสุดของสงครามเมื่อทุกสิ่งจบสิ้นลง
ลูกแต่ละคนก็จะได้รับสถานภาพตามที่ลูกนั้นได้ชาร์จแบตเตอรี่ของลูกได้มากแค่ไหน
ดวงวิญญาณทั้งหมดคือลูกของพ่อ พ่อมาและดลใจพวกเขาทั้งหมดชาร์จแบตเตอรี่ของพวกเขา
การละเล่นนี้ถูกสร้างขึ้นมานี้มหัศจรรย์มาก! ขณะที่ลูกพยายามที่จะมีโยคะกับพ่อ
ลูกก็เคลื่อนห่างไปจากท่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าและดังนั้นลูกจึงสูญเสียไปอย่างมาก
ลูกได้รับแรงบันดาลใจให้ทำความพยายาม ไม่ใช่เคลื่อนห่างออกไป
ทุกวงจรในขณะที่ลูกกำลังเพียรพยายาม เมื่อละครมาถึงจุดจบ
และบทบาทของลูกก็จบลงด้วยเช่นกันตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ
ลูกประคำของลูกดวงวิญญาณก็ยังคงมีการทำขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ลูกๆรู้ว่ามีลูกประคำของรูดรัคและลูกประคำของวิษณุด้วยเช่นกัน
ลูกประคำของเขานั้นควรที่จะวางไว้ในอันดับแรก พ่อสร้างโลกที่สูงส่ง
เช่นที่มีลูกประคำของรูดร้า(ดวงวิญญาณทั้งหมด)ก็มีลูกประคำของรุนดร้า(วิษณุ)ด้วยเช่นกัน
ลูกประคำของบราห์มินไม่สามารถมีการทำขึ้นได้ในเวลานี้เพราะการเปลี่ยนแปลงยังคงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ
จะสรุปได้เมื่อลูกประคำของรูดร้าถูกสร้างขึ้น
จะมีลูกประคำของบราห์มินแต่ก็ยังไม่สามารถมีการสร้างขึ้นได้
ในความเป็นจริงทุกคนเป็นลูกของประชาบิดาบราห์มา
มีลูกประคำของลูกๆของชีพบาบาและลูกประคำของวิษณุด้วยเช่นกัน
ลูกกลายเป็นบราห์มินและดังนั้นลูกประคำหนึ่งนั้นต้องมีสำหรับชีวาและอีกลูกประคำหนึ่งนั้นสำหรับบราห์มา
ความรู้ทั้งหมดนี้คงอยู่ในสติปัญญาของลูกตามลำดับกันไป ทุกคนรับฟังสิ่งนี้
แต่มันก็ออกไปจากหูของบางคนในขณะนั้น พวกเขาไม่ได้ยิน
บางคนไม่แม้กระทั่งจะศึกษาเล่าเรียน พวกเขาไม่รู้ว่าพระเจ้ามาเพื่อจะสอนพวกเขา
พวกเขาไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนเลย ลูกควรศึกษาการศึกษานี้ด้วยความสุขอย่างมาก อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ลูกต้องชาร์จแบตเตอรี่(ดวงวิญญาณ)ของลูกอีกครั้ง
ด้วยการอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงจนกว่าลูกจะกลับมาสโตประธาน
ลูกต้องไม่มีความไม่ระมัดระวังที่แบตเตอรี่ของลูกจะหมดกำลัง
2.
เพื่อที่จะกลายเป็นลูกที่รักเป็นพิเศษ ลูกต้องรักบ้านเช่นที่รักพ่อ
ลูกต้องกลับมาซาบซึ้งในความรู้นี้และโยคะ
ลูกต้องอธิบายให้แก่พี่น้องของลูกในสิ่งที่พ่ออธิบายให้แก่ลูก
พร:
ขอให้ลูกเป็นอิสระจากบ่วงพันธะของกรรมใดๆด้วยการทำให้พ่อผู้เดียวเป็นโลกของลูกและถูกดึงดูดโดยผู้เดียวนั้น
อยู่ในประสบการณ์ของการเป็นของพ่อผู้เดียวและไม่มีใครอื่นอยู่เสมอ เพียงแค่ “บาบาผู้เดียวเท่านั้นคือโลกของฉันและไม่มีการดึงดูดอื่นใด
มีบ่วงพันธะของกรรม” อย่าให้มีพันธะใดๆของสันสการ์ที่อ่อนแอของลูก
ผู้ที่มีสิทธิ์บางอย่างของ“ของฉัน”
เหนือใครก็ตามสามารถมีความโกรธหรือความหยิ่งยโสและนั่นก็เป็นบ่วงพันธะของกรรมเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อบาบาคือโลกของลูก เมื่อลูกมีสำนึกรู้นี้ และแล้ว "ของฉัน,ของฉัน"
ทั้งหมดจะถูกหลอมรวมในคำว่า “บาบาของฉัน”
และลูกจะเป็นอิสระจากบ่วงพันธะของกรรมอย่างง่ายดาย
คติพจน์:
ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่คือผู้ที่มีทัศนคติและสายตาที่ไม่มีขีดจำกัด