07.07.24    Avyakt Bapdada     Thai Murli     11.11.20     Om Shanti     Madhuban


ด้วยความสมบูรณ์พร้อมของลูกที่ใกล้เข้ามา จงนำเวลาแห่งการเปิดเผยอันสูงส่งให้เข้ามาใกล้


วันนี้บัพดาดาได้พบลูกๆที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่สูงสุด โชคดีที่สุด และอ่อนหวานที่สุดของท่าน ดวงวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเข้ามาในโลกเป็นครั้งคราว ลูกเองก็เป็นผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเช่นกัน แต่ลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งกลายเป็นผู้เอาชนะวัตถุธาตุ(ธรรมชาติ) และยังทำให้วัตถุธาตุสาโทประธานอีกด้วย พลังแห่งความบริสุทธิ์ของลูกยังทำให้วัตถุธาตุสะโตประธานและบริสุทธิ์ด้วย เหตุนี้เองลูกดวงวิญญาณจึงได้รับร่างกายที่บริสุทธิ์ซึ่งประกอบขึ้นจากวัตถุธาตุที่บริสุทธิ์ พลังแห่งความบริสุทธิ์ของลูกทำให้ทุกสิ่งที่ไม่มีชีวิตและมีชีวิตกลับมาบริสุทธิ์ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมลูกถึงได้รับร่างกายที่บริสุทธิ์เช่นกัน ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ ร่างกายก็บริสุทธิ์ และแม้แต่สิ่งอำนวยความสะดวกของวัตถุธาตุต่างๆ ก็ยังสะโตประธานและบริสุทธิ์ด้วย และด้วยเหตุนี้ลูกจึงเป็นดวงวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก ลูกเป็นผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดหรือไม่? ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกหรือไม่? ลูกเป็นผู้ที่สูงสุดด้วย ทำไมลูกถึงสูงสุด? เพราะลูกได้ตระหนักรู้จักพระเจ้าผู้สูงสุดเหนือสิ่งใด ลูกได้กลายเป็นดวงวิญญาณที่สูงสุดเหนือสิ่งใดโดยพ่อที่สูงสุดเหนือสิ่งใด การตระหนักรู้ ทัศนคติ สายตา และการกระทำที่ธรรมดาของลูกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และลูกได้กลายเป็นตัวของการตระหนักรู้ที่สูงส่ง ทัศนคติที่สูงส่ง และสายตาที่สูงส่ง เมื่อใดก็ตามที่ลูกพบใครบางคน ลูกจะพบเขาด้วยทัศนคติแบบไหน? ลูกพบพวกเขาด้วยทัศนคติของความเป็นพี่น้อง ด้วยสายตาที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ด้วยความรู้สึกเมตตากรุณาที่จะให้คุณประโยชน์ และด้วยความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้า ดังนั้นลูกคือผู้ที่สูงสุดใช่ไหม? ลูกเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหม? ดังนั้นลูก "โชคดีที่สุด" ขนาดไหน? ไม่ใช่หมอดูคนไหนที่ขีดเส้นดวงชะตาของลูก แต่ผู้ประทานโชคเองเป็นผู้ขีดเส้นดวงชะตาของลูก ท่านให้การรับประกันนานเท่าใด? ลูกได้รับการรับประกันเส้นโชคที่ไม่สูญสลายเป็นเวลา 21 ชาติเกิด ไม่ใช่เพียงแค่ชาติเกิดเดียวเท่านั้น แต่จะไม่มีประสบการณ์แห่งความทุกข์หรือความไม่สงบใดๆเป็นเวลา 21 ชาติเกิด จะมีความสุขสม่ำเสมอ ในชีวิตจำเป็นต้องมีสามสิ่ง: มีสุขภาพที่ดี มีความมั่งคั่ง และมีความสุข ลูกได้รับทั้งสามสิ่งนี้จากพ่ออันเป็นมรดก ลูกมีการรับประกันเป็นเวลา 21 ชาติเกิดไหม? ลูกทุกคนได้รับการรับประกันไหม? ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังได้รับการรับประกันไหม? ลูกทุกคนยกมือขึ้น ดีมาก! การเป็นลูกหมายถึงการได้รับมรดกจากพ่อ ไม่ใช่ว่าลูกกำลังจะกลายเป็นลูก ลูกยังคงกลายเป็นสิ่งนี้อยู่มั้ย? ลูกกำลังเป็นลูกหรือลูกได้กลายเป็นสิ่งนี้แล้ว? ไม่ใช่ว่าลูกต้องกลายเป็นลูก ทันทีที่ลูกเกิดมาลูกก็กลายเป็นสิ่งนี้ ทันทีที่ลูกเกิดมาก็ประกาศสิทธิในมรดกของพ่อ ดังนั้นเวลานี้ลูกได้รับโชคอันสูงส่งจากพ่อ แล้วลูกก็มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดเช่นกัน ลูกเป็นดวงวิญญาณบราห์มิน ไม่ใช่นักรบ แต่เป็นบราห์มิน ดวงวิญญาณบราห์มินมีประสบการณ์ด้วยความศรัทธาว่า “ฉันเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่ง” ไม่ใช่ "ฉันเป็นคนนั้นคนนี้" ฉันเป็นวิดวงวิญญาณที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ในเมื่อลูกเป็นบราห์มิน ลูกจึงเป็นผู้ที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลก เพราะดวงวิญญาณบราห์มินมีหลายล้านในทุกย่างก้าวด้วยการจดจำระลึกถึงพระเจ้า แล้วลูกก้าวไปกี่ก้าวตลอดทั้งวัน? คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้! ลูกมีหลายล้านในทุกย่างก้าว แล้วลูกมีกี่ล้านในหนึ่งวัน? ลูกได้กลายเป็นดวงวิญญาณเช่นนั้นโดยผ่านพ่อ โปรดจำไว้ว่า “ฉันซึ่งเป็นดวงวิญญาณบราห์มิน”นั้นเป็นโชค ดังนั้น วันนี้บัพดาดาได้เห็นดวงดาวแห่งโชคที่เปล่งประกายบนหน้าผากของลูกแต่ละคน ลูกทุกคนเห็นดวงดาวแห่งโชคของลูกเองหรือไม่?

บัพดาดามีความสุขที่ได้พบลูกๆ หรือลูกๆมีความสุขที่ได้พบพ่อ? ใครมีความสุข? พ่อหรือลูก? ใคร? (ลูกๆ) แล้วพ่อไม่มีความสุขหรือ? พ่อมีความสุขที่ได้เห็นลูกๆ และลูกๆก็มีความสุขที่ได้เห็นพ่อ ทั้งสองมีความสุขเพราะลูกๆรู้ว่าในเวลานี้เท่านั้นที่ลูกจะมีประสบการณ์ในการพบปะกับพระเจ้า ความรักของพระเจ้า มรดกของพระเจ้า และการบรรลุผลของพระเจ้า “ถ้าไม่ใช่เวลานี้ก็ไม่มีอีกแล้ว!” มันเป็นเช่นนี้ไหม?

บัพดาดาเพียงแต่ทำให้ลูกๆทบทวนสิ่งหนึ่ง สิ่งนี้คืออะไร? ลูกได้เข้าใจมันแล้ว บัพดาดากำลังให้ลูกทบทวนสิ่งนี้: ตอนนี้ ให้นำเวลาที่สูงส่งเข้ามาใกล้ นี่คือเสียงของดวงวิญญาณในโลก ใครจะทำสิ่งนี้? เป็นลูกหรือเป็นคนอื่น? ลูกทุกคนกำลังจะนำช่วงเวลาที่สวยงามและสูงส่งเข้ามาใกล้ใช่ไหม? ถ้าใช่ก็ยกมือขึ้น! อัจฉะ ประการที่สอง ลูกก็เข้าใจสิ่งนี้เช่นกัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไมลูกถึงหัวเราะ? อัจชะ สำหรับสิ่งนั้นวันที่เท่าไหร่? อย่างน้อยก็กำหนดวันได้ ลูกเพิ่งกำหนดวันสำหรับรอบของดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ใช่ไหม? ลูกกำหนดวันที่นั้นแล้ว ดังนั้นเวลานี้ โอ้ดวงวิญญาณเอ๋ย ใครจะนำเวลาให้เข้ามาใกล้ บอกบาบาว่าลูกกำหนดวันไหน? ลูกเห็นสิ่งนั้นไหม? เมื่อสิ่งนั้นอยู่ในนิมิตของลูกเท่านั้นมันจึงจะไปถึงโลก เมื่อบัพดาดาท่องทัวร์ไปรอบโลกในเวลาอมฤต เมื่อได้เห็นและได้ยินทุกสิ่ง ท่านรู้สึกเมตตา พวกเขามีความสุข แต่พร้อมกับความสุขพวกเขาก็สับสนเช่นกัน ดังนั้นบัพดาดาจึงถามลูกว่า: โอ นายผู้ประทาน ลูกของผู้ประทาน เมื่อไหร่ลูกจะเปิดเผยบทบาทของลูกในการเป็นนายผู้ประทานเบื้องหน้าโลกด้วยความเร็วอันแรงกล้า? หรือลูกยังคงพร้อมอยู่หลังม่าน? ลูกยังเตรียมตัวอยู่หรือไม่? ดวงวิญญาณที่เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงโลก เวลานี้จงเมตตาดวงวิญญาณในโลก! มันจะต้องเกิดขึ้น สิ่งนี้ได้รับการกำหนดไว้แล้ว และมันจะเกิดขึ้นโดยผ่านลูกดวงวิญญาณเครื่องมือ ดังนั้นความล่าช้าคืออะไร? เวลานี้บัพดาดาปรารถนาที่จะเห็นพิธีของธงแห่งความเพียบพร้อมและความสมบูรณ์พร้อมถูกชักขึ้นในหัวใจของลูกบราห์มินทุกคน เมื่อธงแห่งความสมบูรณ์พร้อมถูกชักขึ้นในหัวใจของบราห์มินแต่ละคนแล้วเท่านั้น ธงแห่งการเปิดเผยของพ่อจึงจะถูกชักขึ้นในโลก ดังนั้นบัพดาดาจึงปรารถนาที่จะเห็นพิธีชักธงนี้ เช่นเดียวกับชีพราตรี ธงจะถูกชักขึ้นสำหรับการจุติอวตารลงมาของชีว่า ดังนั้นเช่นเดียวกัน เวลานี้ควรจะมีการสวดมนต์ของการจุติลงมาของชีพชักตี พันดาวาส ลูกร้องเพลงนี้: ชีพชักตีมาแล้ว! ลูกเล่นเพลงนี้ใช่ไหม? เวลานี้โลกควรร้องเพลงว่า พร้อมกับชีว่า ชักตีและพันดาวาสได้รับการเปิดเผยด้วยเช่นกัน ลูกจะอยู่หลังม่านไปอีกนานแค่ไหน? ลูกชอบอยู่หลังม่านหรือ? ลูกชอบมันนิดหน่อย! ผู้ที่นั่งอยู่ข้างหลังล่ะชอบม่านมั้ย? ลูกไม่ชอบ แล้วใครจะเอาม่านนั้นออกล่ะ? บาบาจะนำมันออกไปไหม? ใครจะเอาม่านนั้นออกไป? ละครจะนำม่านนั้นออกไปหรือลูกจะนำมันออกไป? ในเมื่อลูกจะนำมันออกไปแล้วความล่าช้าคืออะไร? ถ้าอย่างนั้นเราจะต้องเข้าใจหรือไม่ว่าลูกสนุกกับการอยู่หลังม่าน? เวลานี้ บัพดาดามีความปรารถนาอันสูงส่งประการหนึ่งและนั่นก็คือให้ทุกคนร้องเพลงนี้: "ว้าว ท่านมาแล้ว ท่านมาแล้ว ท่านมาแล้ว!" สิ่งนี้เป็นไปได้ไหม? ดูสิ เหล่าดาดี้ต่างก็บอกว่ามันเป็นไปได้ แล้วเหตุใดจึงไม่เกิดขึ้น? สาเหตุคืออะไร? ในเมื่อลูกทุกคนพูดเช่นนี้ สาเหตุที่มันไม่เกิดขึ้นคืออะไร? (ไม่ใช่ทุกคนจะกลับมาสมบูรณ์) ทำไมลูกยังไม่เป็นเช่นนี้? ให้วันที่กับบาบา! (บาบา ท่านจะเป็นผู้ให้วันที่) ลูกจำมนตราอันยิ่งใหญ่ของบัพดาดาได้หรือไม่? บัพดาดาพูดว่าอะไร? ไม่ใช่บางเวลา แต่ตอนนี้! (ดาดี้จีกล่าวว่า: บาบา ท่านต้องให้วันที่สุดท้าย) ถ้าบัพดาดาให้วันที่กับลูก ลูกจะหล่อหลอมตนเองตามนั้นและปฏิบัติตามความรับผิดชอบนั้นหรือไม่? พันดาวาสจะปฏิบัติตามความรับผิดชอบนั้นหรือไม่? ลูกแน่ใจไหม? แล้วถ้าตอนนั้นลูกขึ้นๆลงๆจากสิ่งนั้นลูกจะต้องทำอย่างไร? (ถ้าท่าน (บาบา) ให้วันที่ก็จะไม่มีใครขึ้นๆลงๆ) ขอแสดงความยินดี! อัจชะ ตอนนี้ฉัน(บัพดาดา)จะให้วันที่ คอยดู! ดูสิ บัพดาดายังคงมีความเมตตา ดังนั้นบัพดาดาจะให้วันที่กับลูก โปรดฟังด้วยความตั้งใจ

บัพดาดามีความรู้สึกที่สูงส่งนี้ต่อทุกคน และท่านมีความปรารถนานี้ว่าภายในหกเดือน - หกเดือนจะสิ้นสุดเมื่อใด (ในเดือนพฤษภาคม May) – ดังนั้นในเดือนพฤษภาคม (ฉันในภาษาฮินดูคือ เม-mai) ลูกจะจบสิ้นจิตสำนึกของ "ฉัน ฉัน" ทั้งหมด บัพดาดาให้ขอบเขตแก่ลูกอย่างน้อยหกเดือน อะไรก็ตามที่บาบาบอกลูกก่อนหน้านี้ และงานที่บาบาให้ลูกในฤดูกาลที่แล้ว ลูกคงลืมไปแล้ว! ในเวลาอย่างน้อยหกเดือน ลูกจะต้องสัมผัสถึงสภาพของการหลุดพ้นในชีวิต ไม่ใช่การหลุดพ้นในชีวิตของโลกยุคทอง แต่เป็นสภาพของการหลุดพ้นในชีวิตของยุคบรรจบพบกัน ให้อยู่อย่างเป็นอิสระจากอิทธิพลของอุปสรรค สถานการณ์ที่เลวร้าย สิ่งอำนวยความสะดวก หรือจิตสำนึกของ "ฉัน" และ "ของฉัน" - "ฉัน" ของจิตสำนึกที่เป็นร่าง และ "ของฉัน" ของจิตสำนึกที่เป็นร่างที่เกิดขึ้นจากการทำงานรับใช้ อย่าพูดว่า “ฉันปรารถนาที่จะเป็นอิสระจากสิ่งเหล่านั้น แต่มีอุปสรรคนี้เกิดขึ้นมาด้วย และเหตุนี้เองจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ ฉันสามารถจัดการเรื่องเล็กๆน้อยๆได้ แต่นี่เป็นเรื่องใหญ่ นี่เป็นข้อสอบที่ใหญ่มาก” มันเป็นอุปสรรคใหญ่มาก มันเป็นสถานการณ์ที่ใหญ่โต” ไม่ว่าการต่อต้านขัดขวางจากสถานการณ์ที่เลวร้าย จากอุปสรรค หรือจากแรงดึงดูดของสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นจะยิ่งใหญ่เพียงใด และพวกเขาจะต่อต้านขัดขวางลูก ลูกจะได้รับการบอกในสิ่งนี้ล่วงหน้า – อย่างน้อยลูกสามารถคงอยู่อย่างเป็นอิสระ 75% ในเวลาหกเดือนได้หรือไม่? บัพดาดาไม่ได้ขอ 100% แต่ขอเพียง 75% เท่านั้น ต่อเมื่อลูกครั้งแรกทำคะแนนได้ถึงสามในสี่เท่านั้นที่ลูกจะสามารถบรรลุคะแนนถึง 100% ได้ ดังนั้นลูกมีเวลาหกเดือน ไม่ใช่แค่หนึ่งเดือน แต่ลูกจะได้รับหกเดือน ครึ่งปี แล้วลูกสามารถกำหนดวันที่นี้ได้ไหม? ดูสิดาดี้ขอให้ฉัน(บัพดาดา)กำหนดวันที่ และดังนั้นฉัน(บัพดาดา)ก็เลยต้องเชื่อฟังคำสั่งของพวกเขา! เมื่อบัพดาดาเห็นผลลัพธ์ ท่านจะถูกดึงให้มาที่นี่โดยอัตโนมัติ ลูกไม่จำเป็นต้องบอกท่านเลย ดังนั้น ลูกมีเวลาหกเดือนในการเข้าถึง 75% บาบาไม่ได้ขอ 100% สำหรับสิ่งนั้นลูกจะได้รับเวลาเพิ่มขึ้นในอนาคต ลูกพร้อมเสมอหรือไม่สำหรับสิ่งนี้? ไม่แม้กระทั่งพร้อมเสมอ พร้อมในหกเดือน ลูกชอบสิ่งนี้ไหม? หรือลูกขาดความกล้าเล็กน้อยที่ลูกไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น? สิงโตจะมา แมวจะมา ทุกสิ่งจะมา อุปสรรคต่างๆจะเกิดขึ้นมา สถานการณ์ที่เลวร้ายจะเกิดขึ้น และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆจะเพิ่มขึ้น แต่จงอยู่อย่างปราศจากอิทธิพลของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ถ้าลูกชอบสิ่งนี้ยกมือขึ้น! หมุนทีวี (กล้อง) ไปรอบๆ (เพื่อแสดงให้เห็น) ทุกที่ ยกมือขึ้นดีๆ อย่าเพิ่งเอามือลงมา! ฉากนี้ดีมาก อัจชะ ขอแสดงความยินดีเป็นการล่วงหน้า!

แล้วอย่าพูดว่า: "เราต้องตายอย่างมาก" ไม่ว่าลูกจะอยู่หรือตาย ลูกก็ต้องกลายเป็นสิ่งนี้ การตายนี้ช่างหวานชื่น ไม่มีความทุกข์ในความตายนี้ การตายนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนจำนวนมากมาย เหตุนี้จึงมีความยินดีและความสุขในการตายนี้ ไม่มีความทุกข์ในสิ่งนี้ มีความสุข อย่ามีข้ออ้างหรือข้อแก้ตัวใดๆว่า: "สิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนั้นเกิดขึ้น และด้วยเหตุนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น" จะไม่มีข้อแก้ตัวอีกต่อไป ลูกจะยังคงมีข้อแก้ตัวอยู่ไหม? ลูกจะไม่มีข้อแก้ตัวใช่ไหม? เพียงแค่เล่นเกมของสภาพที่โบยบินและไม่มีอะไรอื่น เวลานี้จงจบสิ้นเกมทั้งหมด เกมของการตกลงมา เกมของการมีข้ออ้างข้อแก้ตัว และเกมของความอ่อนแอ เวลานี้เพียงแค่เล่นเกมของสภาพที่โบยบิน สิ่งนี้โอเคไหม? ใบหน้าของลูกทุกคนเบ่งบาน ใบหน้าของลูกจะเป็นอย่างไรเมื่อลูกกลับมาพบบาบาอีกครั้งหลังจากผ่านไปหกเดือน? แล้วเราก็จะถ่ายรูปด้วย

ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์มาแล้ว และวันแห่งการทำสัญญาทั้งสองก็มาถึง อย่ามองใครอื่น แต่เพียงเห็นพ่อและเห็นแม่บราห์มาเท่านั้น ไม่ว่าคนอื่นจะทำสิ่งนี้หรือไม่และทุกคนก็จะทำเช่นนี้ แต่ลูกต้องมีความรู้สึกเมตตาต่อพวกเขาด้วย ให้พลังแห่งความปรารถนาดีแก่ผู้อ่อนแอ อย่ามองความอ่อนแอของพวกเขา ยกระดับดวงวิญญาณเช่นนั้นด้วยมือแห่งความกล้าหาญของลูกและทำให้พวกเขาสูงส่ง ยื่นมือแห่งความกล้าหาญของลูกอยู่เสมอเพื่อตัวลูกเองและเพื่อผู้อื่น มือแห่งความกล้าหาญนั้นทรงพลังมาก และพรของบัพดาดาคือ: เมื่อลูกๆก้าวไปด้วยความกล้าหาญหนึ่งก้าว พ่อจะให้ความช่วยเหลือนับพันก้าว ให้มันเป็น "ฉันก่อน" ในความพยายามที่ไม่เห็นแก่ตัว ให้มีความพยายามอย่างไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช่ความพยายามที่เห็นแก่ตัว ผู้ที่มีความคิดริเริ่มในการไม่เห็นแก่ตัวจะกลับมาทัดเทียมกับพ่อบราห์มา

ลูกมีความรักต่อพ่อบราห์มาใช่หรือไม่? ด้วยเหตุนี้ลูกจึงถูกเรียกว่าบราห์มากุมาร และบราห์มากุมารี ลูกท้าทายที่จะได้รับการหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาที ดังนั้นเวลานี้จงใส่ใจที่จะปลดปล่อยตนเองภายในหนึ่งวินาที ตอนนี้จงนำเวลาให้ใกล้เข้ามา ความใกล้ของความสมบูรณ์พร้อมของลูกจะนำเวลาที่สูงส่งให้ใกล้เข้ามา ลูกเป็นนายใช่ไหม? ลูกเป็นราชาใช่ไหม? ลูกมีอำนาจในการปกครองตนเองหรือไม่? ดังนั้นจงออกคำสั่ง! ราชาออกคำสั่งใช่หรือไม่? อย่าพูดว่า "ใช่! ไม่ใช่! อย่าทำสิ่งนี้ ทำสิ่งนี้!" เพียงออกคำสั่ง จงดูจิตใจของตัวลูกเองตอนนี้ เพราะจิตใจคือที่ปรึกษาหลัก ดังนั้น เฮ้ ราชา ลูกสามารถออกคำสั่งให้จิตใจของลูกซึ่งเป็นที่ปรึกษาหลักของลูก เพื่อทำให้ตนเองมั่นคงในสภาพที่ปราศจากร่างภายในหนึ่งวินาทีได้หรือไม่? สั่งให้พวกเขาทำสิ่งนี้ในหนึ่งวินาที (ฝึกดริลห้านาที) อัชชะ

ถึงดวงวิญญาณผู้โชคดีที่ดื่มด่ำอยู่ในความรัก ถึงดวงวิญญาณผู้มีประสบการณ์กับการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดที่พวกเขาได้รับจากพ่อ ถึงดวงวิญญาณที่ทรงพลังซึ่งปกครองตนเองโดยมีสิทธิทั้งหมดในอำนาจในการปกครองตนเอง ถึงดวงวิญญาณผู้สูงสุดที่มีประสบการณ์กับสภาพของการหลุดพ้นในชีวิตอยู่เสมอ ถึงดวงวิญญาณที่โชคดีที่สุดซึ่งโชคอันสูงส่งนั้นถูกวาดโดยผู้ประทานโชคเอง ถึงดวงวิญญาณผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโลกโดยการเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยสายตาและทัศนคติที่บริสุทธิ์อยู่เสมอ ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเตจากบัพดาดา

บัพดาดาพบปะแขกที่มาจาก The Call of Time Dialogues:

ลูกได้มาถึงบ้านอันแสนหวานและครอบครัวอันแสนหวานของลูกแล้วใช่ไหม? ลูกรู้สึกว่าครอบครัวเล็กๆที่แสนหวานนี้น่ารักใช่ไหม? ลูกก็น่ารักมากเช่นกันใช่ไหม? ก่อนอื่น ลูกได้กลายเป็นผู้ที่ได้รับความรักจากผู้สูงสุด ลูกได้กลายมาเป็นเช่นนี้แล้วใช่หรือไม่? ลูกกลายเป็นสิ่งนี้แล้วหรือลูกยังกลายเป็นสิ่งนี้? ดูสิทุกคนมีความสุขแค่ไหนที่ได้พบลูกทุกคน ทำไมพวกเขาถึงมีความสุข? ดูใบหน้าทุกคนสิ พวกเขาทุกคนมีความสุขมาก ทำไมพวกเขาถึงมีความสุข? เพราะพวกเขารู้ว่าลูกคือดวงวิญญาณเครื่องมือที่จะมาเป็นผู้นำสาส์นของพระเจ้าและให้สาส์นแก่ทุกดวงวิญญาณ (แขกมาจากทั้งห้าทวีป) ดังนั้นสาส์นก็จะไปถึงทั้งห้าทวีป นี่เป็นเรื่องที่ง่ายใช่ไหม? มีการวางแผนที่ดีมาก เติมเต็มแผนนี้ด้วยพลังจากผู้สูงสุดและรับความร่วมมือจากครอบครัวและเดินหน้าต่อไป ความคิดของทุกคนไปถึงบัพดาดา ลูกทุกคนมีความคิดที่ดีมากใช่ไหม? กำลังมีการสร้างแผนขึ้นมา ดังนั้น ความกล้าหาญของลูกและความช่วยเหลือจากพ่อและครอบครัวบราห์มินจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้แผนต่างๆกลายเป็นจริงในทางปฏิบัติ ลูกเพียงแค่ต้องเป็นเครื่องมือ ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามอื่นใด "ฉันเป็นเครื่องมือสำหรับงานของพระเจ้า" ไม่ว่าลูกจะทำงานอะไรก็ตาม จงมีจิตสำนึกนี้ว่า “บาบา ฉันเป็นเครื่องมือ ซึ่งพร้อมสำหรับงานรับใช้ ฉันเป็นเครื่องมือ ผู้เดียวที่ทำให้ทุกคนเคลื่อนไป จะทำให้ฉันเคลื่อนไปโดยอัตโนมัติ” ความรู้สึกของการเป็นดวงวิญญาณเครื่องมือนี้จะเผยให้เห็นความรู้สึกของความถ่อมตนและความคิดสร้างสรรค์บนใบหน้าของลูก คาราวันฮาร์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจ จะทำให้ลูกเป็นเครื่องมือและทำงานโดยผ่านลูก ลูกคือไมค์และมันคือพลังอำนาจของพ่อ ดังนั้นนี่เป็นสิ่งที่ง่ายใช่ไหม? ดังนั้นจงกลายเป็นเครื่องมือและอยู่ในการจดจำระลึกถึง ใบหน้าและรูปลักษณ์ของลูกจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้โดยอัตโนมัติ ลูกจะไม่รับใช้เพียงแค่คำพูด แต่รูปลักษณ์ของลูกจะเผยให้เห็นความสุขภายในผ่านใบหน้าของลูก สิ่งนี้กล่าวได้ว่าเป็นความพิเศษ (อโลกิกตะ) เวลานี้ลูกกลายเป็นอโลกิก(ทางจิต)แล้วใช่หรือไม่? ความเป็นทางโลกก็จบสิ้นลงแล้วใช่หรือไม่? “ฉันเป็นดวงวิญญาณ” นี่คือความเป็นจิตวิญญาณ การพูดว่า "ฉันเป็นคนนั้นคนนี้" คือการเป็นคนในทางโลก แล้วลูกล่ะเป็นอะไร? ดวงวิญญาณทางจิตหรือคนในทางโลก? ลูกเป็นคนในทางจิตวิญญาณใช่ไหม? นี่เป็นสิ่งที่ดี ลูกมาอยู่เบื้องหน้าบัพดาดาและครอบครัว ลูกมีความกล้าหาญอย่างมากที่ทำเช่นนี้ ดูสิ ลูกเป็นเพียงหนึ่งกำมือที่ปรากฏออกมาจากหลายล้านคน กลุ่มนั้นใหญ่แค่ไหน? มีลูกกี่คนที่มาจากกลุ่มนั้น? ดังนั้นลูกเป็นเพียงหนึ่งกำมือที่ปรากฏออกมาจากหลายล้านคนใช่ไหม? นี่เป็นสิ่งที่ดี บัพดาดาชอบกลุ่มนี้ ดูสิว่าพวกเขามีความสุขขนาดไหน! ยิ่งกว่าลูกทุกคน พวกเขามีความสุขที่สุด พวกเขามีความสุขเพราะพวกเขาได้เห็นการกลับมาของงานรับใช้เบื้องหน้าพวกเขา ลูกมีความสุขใช่ไหม? ลูกได้รับผลของความพยายามของลูก อัจชะ เวลานี้ลูกเป็นทั้งนายและเป็นลูกแล้ว! ลูกเป็นนาย ลูกจะถูกเรียกว่าเป็นนายเสมอ อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกได้รับพรแห่งความสำเร็จโดยการใช้ทุกสิ่งในทางที่มีค่าและด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ได้รับพร

ในยุคบรรจบพบกัน ลูกๆมีมรดกและพรเช่นกัน: "ใช้ทุกสิ่งในทางที่มีค่าแล้วลูกจะประสบความสำเร็จ!" การใช้ทุกสิ่งในทางที่มีค่าคือเมล็ดและความสำเร็จคือผล ถ้าเมล็ดดีแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่ลูกจะไม่ได้รับผลของมัน เช่นเดียวกับที่ลูกบอกผู้อื่นให้ใช้เวลา ความคิด และทรัพย์สมบัติของตนในทางที่มีค่า ในทำนองเดียวกัน ให้ตรวจสอบรายการทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนเองว่าสมบัติใดถูกใช้ไปในทางที่มี และสมบัติใดที่ใช้ไปอย่างสูญเปล่า จงใช้ทุกสิ่งในทางที่มีค่าต่อไปแล้วลูกจะกลับมาเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมดและเป็นภาพลักษณ์ที่ได้รับพร

คติพจน์:
เพื่อที่จะได้รับรางวัลของพระเจ้า จงหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไร้ประโยชน์หรือเป็นเชิงลบ