08.02.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ลูกคือผู้ช่วยของพระเจ้า
กองทัพผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
ลูกต้องให้การหลุดพ้นแห่งความสงบให้กับทุกคน
คำถาม:
ลูกควรบอกอะไรกับผู้ที่ร้องขอการหลุดพ้นแห่งความสงบ ?
คำตอบ:
บอกพวกเขาว่า: “พ่อถามว่า: พวกท่านต้องการความสงบที่นี่เวลานี้หรือไม่?
ที่นี่ไม่ใช่ดินแดนแห่งความสงบ
เพียงในดินแดนแห่งความสงบซึ่งเรียกว่าบ้านดั้งเดิมเท่านั้นที่จะมีความสงบที่แท้จริงได้
เมื่อดวงวิญญาณไม่มีร่างกายก็มีความสงบ ในยุคทองมีความบริสุทธิ์ ความสุข ความสงบ
มีทุกสิ่ง เพียงพ่อเท่านั้นมาเพื่อให้มรดกนี้ เพียงแค่จดจำพ่อ”
โอมชานติ
พ่อทางจิตอธิบายแก่ลูกๆทางจิต มนุษย์ทั้งหมดรู้ว่ามีดวงวิญญาณอยู่ภายในพวกเขา
พวกเขาพูดว่า“มนุษย์ที่มีชีวิต”ใช่ไหม? ดั้งเดิมแล้วเราคือดวงวิญญาณ
และแล้วเราก็ได้รับร่างกาย ไม่มีใครเห็นดวงวิญญาณของเขาหรือของเธอ
พวกเขาเพียงเข้าใจว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณเท่านั้น
เช่นที่พวกเขารู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณแต่ก็ไม่เคยเห็นอะไรเลย
ในทำนองเดียวกันพวกเขายังพูดถึงดวงวิญญาณสูงสุดเช่นกันว่า “ดวงวิญญาณสูงสุด”
หมายถึงสูงสุดในเหล่าดวงวิญญาณ อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครเคยเห็นท่าน
พวกเขาไม่เคยเห็นทั้งตัวเองและพ่อ
พวกเขาพูดว่าดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและไปรับอีกร่างหนึ่ง
แต่พวกเขาไม่รู้ถึงสิ่งนี้อย่างถูกต้อง พวกเขาพูดถึง 8.4 ล้านเผ่าพันธุ์ด้วยเช่นกัน
ในความเป็นจริงแล้ว มี 84 ชาติเกิด
แต่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดวงวิญญาณไหนใช้กี่ชาติเกิด
ดวงวิญญาณร้องเรียกหาพ่อแต่พวกเขาไม่เคยมองเห็นท่านหรือรู้จักท่านอย่างถูกต้องแม่นยำ
ก่อนอื่นถ้าพวกเขารู้อย่างถูกต้องแม่นยำว่าดวงวิญญาณคืออะไร
พวกเขาก็จะต้องรู้จักพ่อด้วย หากพวกเขาไม่รู้จักตนเอง แล้วใครจะอธิบาย?
สิ่งนี้เรียกว่าการตระหนักรู้ในตนเอง ไม่มีใครนอกจากพ่อที่จะนำมาซึ่งสิ่งนี้
ไม่มีใครรู้ว่าดวงวิญญาณคืออะไร ดวงวิญญาณเป็นอย่างไร ดวงวิญญาณมาจากไหน
ใช้ชาติเกิดอย่างไร หรือบทบาทของ 84
ชาติเกิดบันทึกลงในดวงวิญญาณที่เล็กเช่นนั้นได้อย่างไร
หากพวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งตนเองแล้วพวกเขาจะรู้จักพ่อได้อย่างไร?
ลักษมีและนารายณ์มีสถานภาพเป็นมนุษย์เช่นกัน พวกเขาได้รับสถานภาพนั้นได้อย่างไร?
ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ เป็นมนุษย์อย่างแน่นอนที่ควรรู้สิ่งนี้
มีการกล่าวว่าพวกเขาเป็นนายแห่งสวรรค์
แต่พวกเขาบรรลุถึงสภาพของการเป็นนายได้อย่างไรและแล้วพวกเขาไปที่ไหน?
ผู้คนไม่รู้อะไรเลย เวลานี้ลูกรู้ทุกสิ่ง ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้อะไรเลย ตัวอย่างเช่น
เด็กจะรู้ไหมว่านักกฏหมายคืออะไร? เมื่อเขาศึกษาต่อไปเขาก็กลายเป็นทนายความ
ในทำนองเดียวกันลักษมีและนารายณ์ก็กลายเป็นเช่นนั้นโดยการศึกษาด้วยเช่นกัน
มีหนังสือด้านกฎหมายและการแพทย์ ฯลฯ ใช่ไหม? หนังสือของพวกเขาคือกีตะ
ใครพูดสิ่งนั้น? ใครสอนราชาโยคะ? ไม่มีใครรู้ถึงสิ่งนี้ พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อใน(กีตะ)นั้น
พวกเขาเฉลิมฉลอง ชีพแจนตีด้วยเช่นกัน
ท่านคือผู้ที่มาทำให้ลูกกลายเป็นนายของดินแดนของศรีกฤษณะ ศรีกฤษณะเป็นนายแห่งสวรรค์
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งสวรรค์
ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมพวกเขาถึงพูดว่ากฤษณะพูดกีตะในยุคทองแดง?
พวกเขาใส่ชื่อศรีกฤษณะไว้ในยุคทองแดง ลักษมีและนารายณ์ในยุคทอง และรามในยุคเงิน
ภัยพิบัติและความปั่นป่วนไม่ปรากฏในอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์
คานส์ซึ่งเป็นปีศาจได้ถูกแสดงไว้ในอาณาจักรของศรีกฤษณะ ในขณะที่ราวันฯลฯ
ได้ถูกแสดงไว้ในอาณาจักรของราม
ไม่มีใครรู้ว่าราเด้และกฤษณะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์
สิ่งนี้เป็นความมืดมิดของความไม่รู้อย่างแท้จริง
ความไม่รู้ถูกกล่าวไว้ว่าเป็นความมืด มีการกล่าวว่าความรู้คือแสงสว่าง
เวลานี้ใครเป็นผู้ทำให้เกิดแสงสว่าง? นั่นคือพ่อ
มีการกล่าวว่าความรู้คือกลางวันและความเลื่อมใสศรัทธาเป็นกลางคืน
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าหนทางของการความเลื่อมใสศรัทธาคงอยู่มาชาติแล้วชาติเล่า
ลูกได้ลงบันไดมาเรื่อยๆ องศาของลูกลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากบ้านใหม่ได้สร้างขึ้น
อายุของมันก็จะลดลงในแต่ละวัน เมื่อบ้านมีอายุสามในสี่
ก็ถูกเรียกว่าเก่าอย่างแน่นอน ประการแรก ลูกๆต้องมีศรัทธาว่าพ่อคือพ่อของทุกคน
ผู้ที่ประทานการหลุดพ้นให้กับทุกคนและยังให้การศึกษานี้กับลูกทุกคนอีกด้วย
ท่านพาทุกคนไปสู่ดินแดนแห่งการหลุดพ้น ลูกมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์
ลูกจะศึกษาการศึกษานี้และไปและนั่งบนบัลลังก์ของลูก
ส่วนพวกที่เหลือจะถูกพาไปยังดินแดนแห่งการหลุดพ้น เมื่อลูกอธิบายภาพวงจร
ลูกชี้ให้เห็นว่าไม่มีศาสนาต่างๆเหล่านั้นในยุคทอง
เวลานี้ดวงวิญญาณเหล่านั้นอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตน
ลูกรู้ว่าท้องฟ้านั้นว่างเปล่า อากาศเรียกว่าอากาศ ท้องฟ้าก็เรียกว่าท้องฟ้า
ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นดวงวิญญาณสูงสุด
มนุษย์เชื่อว่าพระเจ้าอยู่ในอากาศเช่นเดียวกับที่พระเจ้าอยู่ในท้องฟ้าเช่นกัน
เวลานี้พ่อมานั่งที่นี่ในตอนนี้และอธิบายทุกสิ่ง ลูกได้รับชาติเกิดนี้จากพ่อ
แล้วใครสอนลูก? พ่อนั่นเองที่เป็นครูทางจิตและสอนลูก อัจชะ;
ถ้าลูกศึกษาอย่างดีและจบการศึกษา
พ่อจะพาลูกกลับไปกับท่านและลูกจะกลับไปเล่นบทบาทของลูก
ลูกจะลงมาในยุคทองก่อนอย่างแน่นอน
ตอนนี้ลูกได้มาถึงจุดสิ้นสุดของชาติเกิดทั้งหมดของลูกอีกครั้งหนึ่ง
แล้วลูกก็จะลงมาก่อน เวลานี้พ่อพูดว่า: แข่งขันกัน!
จดจำพ่อเป็นอย่างดีและสอนผู้อื่นด้วย มิฉะนั้นใครจะสอนผู้คนมากมาย?
ลูกจะกลายเป็นผู้ช่วยของพ่อแน่นอนใช่ไหม? มีชื่อว่า“ผู้ช่วยของพระเจ้า”
ในภาษาอังกฤษเรียกว่า“กองทัพผู้ให้การหลุดพ้น” พวกเขาต้องการการหลุดพ้นอะไร?
ทุกคนพูดว่า: เราต้องการการหลุดพ้นแห่งความสงบ อย่างไรก็ตาม
ไม่ใช่พวกเขาให้การหลุดพ้นแห่งความสงบ
จงบอกผู้ที่ร้องขอการหลุดพ้นของความสงบว่าพ่อถามว่า:
ลูกต้องการความสงบที่นี่เท่านั้นใช่ไหม? อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ดินแดนแห่งความสงบ
เพียงในดินแดนแห่งความสงบซึ่งเรียกว่าบ้านดั้งเดิมเท่านั้นที่จะมีความสงบได้
เมื่อดวงวิญญาณไม่มีร่างกายเขาก็จะอยู่ในความสงบ
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่มาและให้มรดกนี้ ในบรรดาลูกเช่นกัน
ลูกบางคนต้องอธิบายด้วยไหวพริบที่ดี
ถ้าบาบามายืนอยู่กลางงานนิทรรศการและรับฟังทุกคน
ข้อผิดพลาดมากมายก็จะถูกชี้ออกมาเพราะผู้ที่อธิบายนั้นตามลำดับกันไป
ถ้าทุกคนเท่ากัน แล้วทำไมครูถึงจะต้องเขียนเชิญผู้นั้นผู้นี้ให้มาและให้คำบรรยาย?
อ๊ะ! แต่ลูกก็เป็นบราห์มินด้วยเช่นกัน “บาบาผู้นั้นผู้นี้ฉลาดกว่าฉัน”
เป็นเพราะความฉลาดที่มนุษย์ได้รับสถานภาพ พวกเขาจึงตามลำดับกันไป
เมื่อผลของการสอบออกมาลูกจะได้รับนิมิตโดยอัตโนมัติ
และลูกก็จะตระหนักรู้ว่าลูกไม่ได้ทำตามศรีมัท พ่อพูดว่า:
อย่าได้มีการกระทำใดๆที่เป็นบาป อย่าได้มีความผูกพันยึดมั่นกับชีวิตที่มีร่างกาย
ร่างกายนี้ทำด้วยวัตถุธาตุทั้งห้าใช่ไหม?
ไม่ใช่ว่าลูกต้องบูชาวัตถุธาตุทั้งห้าหรือจดจำสิ่งเหล่านั้น
ลูกอาจมองเห็นผ่านดวงตาเหล่านั้นแต่ลูกต้องจดจำพ่อ
เวลานี้ดวงวิญญาณได้รับความรู้ที่เวลานี้เรากำลังจะกลับบ้านแล้วเราจะไปดินแดนสุขาวดี
ดวงวิญญาณสามารถเข้าใจแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ ใช่
ด้วยนิมิตที่สูงส่งของลูกลูกสามารถเห็นบ้านของลูกเองและสวรรค์ พ่อพูดว่า: ลูกๆ “มานมานะบาฟ”
และ “มาดิยาจิบาฟ”
หมายถึงจดจำพ่อและดินแดนแห่งวิษณุซึ่งเป็นเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูก
ลูกรู้ว่าเวลานี้เรากำลังจะไปสวรรค์ คนอื่นจะไปยังดินแดนแห่งการหลุดพ้น
ไม่ใช่ทุกคนสามารถไปยังยุคทองได้ ศาสนาของลูกคือศาสนาเทพ
และแล้วนี้คือศาสนาของมนุษย์ ไม่มีมนุษย์ในโลกที่ไม่มีตัวตน นี่คือโลกของมนุษย์
มนุษย์คือผู้ที่กลายเป็นตาโมประธานและแล้วก็สะโตประธาน
ก่อนหน้านี้ลูกเป็นของวรรณะศูทร และเวลานี้ลูกอยู่ในสกุลบราห์มิน
ระบบวรรณะนี้เป็นของผู้คนของบารัตเท่านั้น
วงศ์สกุลบราห์มินและสุริยะวงศ์จะไม่ถูกกล่าวถึงสำหรับศาสนาอื่นใด
ในเวลานี้ทุกคนเป็นของวรรณะศูทร พวกเขามาถึงสภาพของความเสื่อมโทรมอย่างแท้จริง
เมื่อลูกแก่ขึ้น ต้นไม้ทั้งหมดก็เสื่อมโทรมและตาโมประธาน
แล้วต้นไม้ทั้งหมดจะกลับมาสะโตประธานได้อย่างไร?
ในต้นไม้ใหม่และสะโตประธานมีเพียงผู้ที่อยู่ในศาสนาเทพเท่านั้น
และแล้วจากการเป็นสุริยะวงศ์ ลูกก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจันทราวงศ์ ลูกเกิดใหม่
จากนั้นลูกก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของสกุลพ่อค้า และแล้วก็อยู่ในสกุลของศูทร
นี่เป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด ผู้เดียวที่สอนเราคือมหาสมุทรแห่งความรู้
ท่านคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ผู้ประทานการหลุดพ้นให้กับทุกคน พ่อพูดว่า:
ฉันให้ความรู้นี้แก่ลูก ลูกกลายเป็นเทพ และแล้วความรู้นี้จะไม่คงอยู่อีกต่อไป
ความรู้นี้ให้กับผู้ที่ไม่รู้ มนุษย์ทั้งหมดอยู่ในความมืดของความไม่รู้
ลูกอยู่ในแสงสว่าง ลูกรู้เรื่องราวของ 84 ชาติเกิดของผู้นี้ ลูกๆมีความรู้นี้
มนุษย์ถามว่า: ทำไมพระเจ้าสร้างโลกนี้? เราไม่สามารถได้รับการหลุดพ้น(โมกข์)ตลอดไปได้หรือ?
อ๊ะ, แต่นี่เป็นละครที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ละครที่คงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์
ลูกรู้ว่าดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและไปรับอีกร่างหนึ่ง
จำเป็นต้องมีความกังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?
ดวงวิญญาณนั้นจากไปเพื่อเล่นบทบาทต่อไปของเขา
การร้องไห้จะมีประโยชน์ถ้าทำให้เขากลับมา แต่เขาก็ไม่กลับมา
แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะร้องไห้?
เวลานี้ลูกทั้งหมดต้องกลายเป็นผู้มีชัยชนะเหนือความผูกพันยึดมั่น
ทำไมเราถึงติดยึดอยู่กับสุสานหรือป่าช้า? มีความทุกข์
และไม่มีอะไรเลยนอกจากความทุกข์ในสิ่งนั้น วันนี้เขาเป็นเด็ก
พรุ่งนี้เด็กก็จะกลายเป็นเช่นนั้นที่เขาจะไม่ใช้เวลานานเลยในการถอดหมวกพ่อของเขาออก(ดูหมิ่นเขา)
พวกเขาต่อสู้แม้กระทั่งกับพ่อของเขา สิ่งนี้เรียกว่าเป็นโลกของเด็กกำพร้า
พวกเขาไม่มีทั้งเจ้าหรือนายที่จะให้การศึกษาแก่เขา
เมื่อพ่อเห็นว่าพวกเขาในสภาพเช่นนั้น
พ่อจึงมาและทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่เป็นของเจ้าและนาย
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่มาและทำให้ทุกคนเป็นของเจ้าและนาย
ผู้ปกครองมาและทำให้การต่อสู้ทั้งหมดจบลง ในยุคทองไม่มีการต่อสู้กัน
ท่านทำให้การต่อสู้กันในทั้งโลกจบลงและแล้วก็มีเสียงร้องแห่งชัยชนะ
ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นแม่ ผู้คนคิดว่าพวกเธอเป็นผู้รับใช้ด้วยเช่นกัน
เมื่อพวกเขาผูกด้ายของการแต่งงานที่ข้อมือของเธอ พวกเขาก็บอกเธอว่า: “สามีของเธอคือพระเจ้า
กูรู และทุกสิ่งทุกอย่าง” นายมาก่อนแล้วจึงเป็นนาง
เวลานี้พ่อมาและทำให้ผู้ที่เป็นแม่ทั้งหลายอยู่ข้างหน้า
ไม่มีใครสามารถมีชัยชนะเหนือลูกได้ พ่อกำลังสอนลูกเกี่ยวกับกฎหมายทั้งหมด
มีเรื่องราวของราชาโมห์จีท(ผู้เอาชนะความผูกพันยึดมั่น)
เรื่องราวเหล่านั้นล้วนถูกแต่งขึ้นมา ในยุคทองไม่มีการตายก่อนเวลาอันควร;
ลูกจากร่างของลูกในเวลาที่เหมาะสมและรับอีกร่าง ลูกมีนิมิต:
ตอนนี้ร่างกายนี้แก่แล้วและจะต้องมีการใช้ร่างใหม่ ฉันต้องไปและกลายเป็นทารกน้อย
พวกเขาจากร่างด้วยความสุข อย่างไรก็ตามที่นี่ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่
พวกเขาจะเจ็บป่วยเพียงใด แม้ว่าเขาจะเข้าใจว่าจะเป็นการดีถ้าร่างกายจะถูกทิ้งไป
ทั้งที่เป็นเช่นนี้ แม้ในช่วงเวลาแห่งการตาย เขาก็ร้องไห้อย่างแน่นอน พ่อพูดว่า:
เวลานี้ลูกจะไปยังสถานที่ที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการร้องไห้
ไม่มีอะไรนอกจากความสุขที่นั่น ลูกควรมีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดเช่นนั้น อ๊ะ
เรากำลังกลายเป็นนายของโลก บารัตเคยเป็นนายของทั้งโลก
ตอนนี้มันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ลูกเคยเป็นเทพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา;
และแล้วลูกก็กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา
พระเจ้าเองไม่ได้กลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาแล้วกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา
ถ้าท่านกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาแล้วใครจะเป็นผู้ทำให้ลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเล่า?
บทบาทของพ่อในละครนั้นแยกออกมาโดยสิ้นเชิง
มีเพียงมหาสมุทรแห่งความรู้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
มีเพียงการสรรเสริญแก่ผู้เดียวนี้เท่านั้นที่คงอยู่ มีมหาสมุทรแห่งความรู้
แต่เมื่อใดที่ท่านมาและให้ความรู้นี้เพื่อที่จะมีการหลุดพ้น?
ท่านจะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอน
ก่อนอื่นจงปลูกฝังสิ่งนี้ในสติปัญญาของลูกว่าใครคือผู้ที่สอนเรา! ตรีมูรติ,วงจรของโลกและต้นไม้คือภาพหลัก
เมื่อเห็นต้นไม้
พวกเขาจะเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าพวกเขาเป็นของศาสนาใดและไม่สามารถเข้ามาในยุคทองได้
วงจรนี้มีขนาดใหญ่มาก ข้อความที่เขียนควรจะเสร็จสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน
ชีพบาบากำลังก่อตั้งศาสนาเทพซึ่งเป็นโลกใหม่โดยผ่านบราห์มา
โลกเก่าถูกทำลายโดยผ่านชางการ์ แล้วท่านหล่อเลี้ยงโลกใหม่โดยผ่านวิษณุ
ให้สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์ บราห์มากลายเป็นวิษณุ; วิษณุกลายเป็นบราห์มา
มีการเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองบุคคลนี้ บราห์มาและสรัสวตีก็กลายเป็นลักษมีและนารายณ์
สภาพไต่เต้าพัฒนาเกิดขึ้นในชาติเกิดเดียวนี้ และสภาพที่ลงมาใช้เวลา 84 ชาติเกิด
เวลานี้พ่อพูดว่า: คัมภีร์ต่างๆและอื่นๆนั้นถูกต้องหรือพ่อถูกต้อง?
พ่อเป็นผู้เดียวที่บอกลูกถึงเรื่องราวที่แท้จริงของนารายณ์ที่แท้จริง
ตอนนี้ลูกมีศรัทธาว่าลูกจะกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดาโดยพ่อที่แท้จริง
ประการแรกมีหนึ่งประเด็นหลักซึ่งมนุษย์จะไม่ถูกเรียกว่า พ่อ,ครูและกูรู
ลูกเคยเรียกพ่อทางร่างของลูกว่าเป็นครูหรือกูรูหรือไม่? ที่นี่ลูกเกิดกับชีพบาบา
แล้วชีพบาบาก็สอนลูกและแล้วท่านก็พาลูกกลับไปกับท่าน
ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เป็นเช่นนี้ที่ลูกสามารถเรียกว่าพ่อครูและกูรูได้
ผู้เดียวนั้นคือพ่อผู้เดียวเท่านั้น ท่านถูกเรียกว่าพ่อสูงสุด
พ่อทางร่างไม่สามารถถูกเรียกว่าพ่อสูงสุด ท้ายที่สุดแล้วท่านคือผู้ที่ทุกคนจดจำ
ท่านเป็นพ่ออย่างแน่นอน ทุกคนจดจำท่านในความทุกข์ ไม่มีใครจดจำท่านในความสุข
ดังนั้นพ่อมาและทำให้ลูกกลายเป็นนายแห่งสวรรค์อย่างแน่นอน อัจชะ
ถึง ลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
ด้วยความรัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา
พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ในขณะที่มองเห็นร่างกายที่ทำจากวัตถุธาตุทั้งห้าเหล่านี้
จงเฝ้าแต่จดจำระลึกถึงพ่ออย่างต่อเนื่อง
อย่าได้มีความผูกพันยึดมั่นกับผู้ที่มีร่างกายใดๆ อย่าได้มีการกระทำที่เป็นบาปใดๆ
2.
ในละครที่ถูกกำหนดไว้แล้วนี้ แต่ละดวงวิญญาณมีบทบาทที่คงอยู่ตลอดไป
ดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง
เหตุนี้เองลูกจึงไม่ควรวิตกกังวลเกี่ยวกับการออกจากร่างของลูก
ลูกต้องได้รับชัยชนะเหนือความผูกพันยึดมั่น
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำการสังเวยทั้งหมดและเฉลิมฉลองพิธีของการเปลี่ยนแปลงของลูก
มีคำพูดว่า “แม้ว่าลูกจะต้องตาย
ลูกต้องไม่ละทิ้งศาสนาของลูก” ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์อะไรจะเกิดขึ้น
แม้ว่ามายาในรูปแบบของมหาวีระจะมาอยู่เบื้องหน้าลูก
จงอย่าได้ปล่อยมือจากหลักการของลูก
อย่ายอมรับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่ลูกได้ละทิ้งไปแล้วจากจิตใจของลูกกลับคืนมา
จงเป็นนักแสดงที่สูงส่งเสมอและด้วยรูปที่มีพลังของความเคารพตนเองที่สูงส่งของลูก
สำนึกรู้ที่สูงส่งและชีวิตที่สูงส่ง จงเฝ้าแต่เล่นเกมแห่งความยิ่งใหญ่ต่อไป
จบสิ้นการกระทำทั้งหมดที่อ่อนแอ เมื่อลูกมีความมุ่งมั่นที่จะสังเวยทั้งหมดเช่นนั้น
แล้วพิธีของการเปลี่ยนแปลงของลูกก็จะเกิดขึ้น
เวลานี้กำหนดวันที่ร่วมกันสำหรับพิธีนี้
คติพจน์:
กลายเป็นเพชรแท้ และกระจายประกายของกระแสจิตของลูกไปสู่โลก
มีความรักในความสันโดษและซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ
ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะทำงานรับใช้แบบธรรมดา แต่การแก้ไขสิ่งซึ่งได้เสียหายไปแล้ว
และ การทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันในความหลากหลายถือเป็นเรื่องใหญ่
บัดดาดาพูดเสมอว่า “อันดับแรก จะต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันของทิศทางเดียว
พละกำลังเดียว ศรัทธาเดียว และแล้ว ความเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่มิตรร่วมทางชีวิต
ในงานรับใช้ และในบรรยากาศ