08.02.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกคือผู้ช่วยของพระเจ้า กองทัพผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ลูกต้องให้การหลุดพ้นแห่งความสงบให้กับทุกคน

คำถาม:
ลูกควรบอกอะไรกับผู้ที่ร้องขอการหลุดพ้นแห่งความสงบ ?

คำตอบ:
บอกพวกเขาว่า: “พ่อถามว่า: พวกท่านต้องการความสงบที่นี่เวลานี้หรือไม่? ที่นี่ไม่ใช่ดินแดนแห่งความสงบ เพียงในดินแดนแห่งความสงบซึ่งเรียกว่าบ้านดั้งเดิมเท่านั้นที่จะมีความสงบที่แท้จริงได้ เมื่อดวงวิญญาณไม่มีร่างกายก็มีความสงบ ในยุคทองมีความบริสุทธิ์ ความสุข ความสงบ มีทุกสิ่ง เพียงพ่อเท่านั้นมาเพื่อให้มรดกนี้ เพียงแค่จดจำพ่อ”

โอมชานติ
พ่อทางจิตอธิบายแก่ลูกๆทางจิต มนุษย์ทั้งหมดรู้ว่ามีดวงวิญญาณอยู่ภายในพวกเขา พวกเขาพูดว่า“มนุษย์ที่มีชีวิต”ใช่ไหม? ดั้งเดิมแล้วเราคือดวงวิญญาณ และแล้วเราก็ได้รับร่างกาย ไม่มีใครเห็นดวงวิญญาณของเขาหรือของเธอ พวกเขาเพียงเข้าใจว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณเท่านั้น เช่นที่พวกเขารู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณแต่ก็ไม่เคยเห็นอะไรเลย ในทำนองเดียวกันพวกเขายังพูดถึงดวงวิญญาณสูงสุดเช่นกันว่า “ดวงวิญญาณสูงสุด” หมายถึงสูงสุดในเหล่าดวงวิญญาณ อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครเคยเห็นท่าน พวกเขาไม่เคยเห็นทั้งตัวเองและพ่อ พวกเขาพูดว่าดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและไปรับอีกร่างหนึ่ง แต่พวกเขาไม่รู้ถึงสิ่งนี้อย่างถูกต้อง พวกเขาพูดถึง 8.4 ล้านเผ่าพันธุ์ด้วยเช่นกัน ในความเป็นจริงแล้ว มี 84 ชาติเกิด แต่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดวงวิญญาณไหนใช้กี่ชาติเกิด ดวงวิญญาณร้องเรียกหาพ่อแต่พวกเขาไม่เคยมองเห็นท่านหรือรู้จักท่านอย่างถูกต้องแม่นยำ ก่อนอื่นถ้าพวกเขารู้อย่างถูกต้องแม่นยำว่าดวงวิญญาณคืออะไร พวกเขาก็จะต้องรู้จักพ่อด้วย หากพวกเขาไม่รู้จักตนเอง แล้วใครจะอธิบาย? สิ่งนี้เรียกว่าการตระหนักรู้ในตนเอง ไม่มีใครนอกจากพ่อที่จะนำมาซึ่งสิ่งนี้ ไม่มีใครรู้ว่าดวงวิญญาณคืออะไร ดวงวิญญาณเป็นอย่างไร ดวงวิญญาณมาจากไหน ใช้ชาติเกิดอย่างไร หรือบทบาทของ 84 ชาติเกิดบันทึกลงในดวงวิญญาณที่เล็กเช่นนั้นได้อย่างไร หากพวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งตนเองแล้วพวกเขาจะรู้จักพ่อได้อย่างไร? ลักษมีและนารายณ์มีสถานภาพเป็นมนุษย์เช่นกัน พวกเขาได้รับสถานภาพนั้นได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ เป็นมนุษย์อย่างแน่นอนที่ควรรู้สิ่งนี้ มีการกล่าวว่าพวกเขาเป็นนายแห่งสวรรค์ แต่พวกเขาบรรลุถึงสภาพของการเป็นนายได้อย่างไรและแล้วพวกเขาไปที่ไหน? ผู้คนไม่รู้อะไรเลย เวลานี้ลูกรู้ทุกสิ่ง ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้อะไรเลย ตัวอย่างเช่น เด็กจะรู้ไหมว่านักกฏหมายคืออะไร? เมื่อเขาศึกษาต่อไปเขาก็กลายเป็นทนายความ ในทำนองเดียวกันลักษมีและนารายณ์ก็กลายเป็นเช่นนั้นโดยการศึกษาด้วยเช่นกัน มีหนังสือด้านกฎหมายและการแพทย์ ฯลฯ ใช่ไหม? หนังสือของพวกเขาคือกีตะ ใครพูดสิ่งนั้น? ใครสอนราชาโยคะ? ไม่มีใครรู้ถึงสิ่งนี้ พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อใน(กีตะ)นั้น พวกเขาเฉลิมฉลอง ชีพแจนตีด้วยเช่นกัน ท่านคือผู้ที่มาทำให้ลูกกลายเป็นนายของดินแดนของศรีกฤษณะ ศรีกฤษณะเป็นนายแห่งสวรรค์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งสวรรค์ ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมพวกเขาถึงพูดว่ากฤษณะพูดกีตะในยุคทองแดง? พวกเขาใส่ชื่อศรีกฤษณะไว้ในยุคทองแดง ลักษมีและนารายณ์ในยุคทอง และรามในยุคเงิน ภัยพิบัติและความปั่นป่วนไม่ปรากฏในอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ คานส์ซึ่งเป็นปีศาจได้ถูกแสดงไว้ในอาณาจักรของศรีกฤษณะ ในขณะที่ราวันฯลฯ ได้ถูกแสดงไว้ในอาณาจักรของราม ไม่มีใครรู้ว่าราเด้และกฤษณะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์ สิ่งนี้เป็นความมืดมิดของความไม่รู้อย่างแท้จริง ความไม่รู้ถูกกล่าวไว้ว่าเป็นความมืด มีการกล่าวว่าความรู้คือแสงสว่าง เวลานี้ใครเป็นผู้ทำให้เกิดแสงสว่าง? นั่นคือพ่อ มีการกล่าวว่าความรู้คือกลางวันและความเลื่อมใสศรัทธาเป็นกลางคืน เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าหนทางของการความเลื่อมใสศรัทธาคงอยู่มาชาติแล้วชาติเล่า ลูกได้ลงบันไดมาเรื่อยๆ องศาของลูกลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากบ้านใหม่ได้สร้างขึ้น อายุของมันก็จะลดลงในแต่ละวัน เมื่อบ้านมีอายุสามในสี่ ก็ถูกเรียกว่าเก่าอย่างแน่นอน ประการแรก ลูกๆต้องมีศรัทธาว่าพ่อคือพ่อของทุกคน ผู้ที่ประทานการหลุดพ้นให้กับทุกคนและยังให้การศึกษานี้กับลูกทุกคนอีกด้วย ท่านพาทุกคนไปสู่ดินแดนแห่งการหลุดพ้น ลูกมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ลูกจะศึกษาการศึกษานี้และไปและนั่งบนบัลลังก์ของลูก ส่วนพวกที่เหลือจะถูกพาไปยังดินแดนแห่งการหลุดพ้น เมื่อลูกอธิบายภาพวงจร ลูกชี้ให้เห็นว่าไม่มีศาสนาต่างๆเหล่านั้นในยุคทอง เวลานี้ดวงวิญญาณเหล่านั้นอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตน ลูกรู้ว่าท้องฟ้านั้นว่างเปล่า อากาศเรียกว่าอากาศ ท้องฟ้าก็เรียกว่าท้องฟ้า ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นดวงวิญญาณสูงสุด มนุษย์เชื่อว่าพระเจ้าอยู่ในอากาศเช่นเดียวกับที่พระเจ้าอยู่ในท้องฟ้าเช่นกัน เวลานี้พ่อมานั่งที่นี่ในตอนนี้และอธิบายทุกสิ่ง ลูกได้รับชาติเกิดนี้จากพ่อ แล้วใครสอนลูก? พ่อนั่นเองที่เป็นครูทางจิตและสอนลูก อัจชะ; ถ้าลูกศึกษาอย่างดีและจบการศึกษา พ่อจะพาลูกกลับไปกับท่านและลูกจะกลับไปเล่นบทบาทของลูก ลูกจะลงมาในยุคทองก่อนอย่างแน่นอน ตอนนี้ลูกได้มาถึงจุดสิ้นสุดของชาติเกิดทั้งหมดของลูกอีกครั้งหนึ่ง แล้วลูกก็จะลงมาก่อน เวลานี้พ่อพูดว่า: แข่งขันกัน! จดจำพ่อเป็นอย่างดีและสอนผู้อื่นด้วย มิฉะนั้นใครจะสอนผู้คนมากมาย? ลูกจะกลายเป็นผู้ช่วยของพ่อแน่นอนใช่ไหม? มีชื่อว่า“ผู้ช่วยของพระเจ้า” ในภาษาอังกฤษเรียกว่า“กองทัพผู้ให้การหลุดพ้น” พวกเขาต้องการการหลุดพ้นอะไร? ทุกคนพูดว่า: เราต้องการการหลุดพ้นแห่งความสงบ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่พวกเขาให้การหลุดพ้นแห่งความสงบ จงบอกผู้ที่ร้องขอการหลุดพ้นของความสงบว่าพ่อถามว่า: ลูกต้องการความสงบที่นี่เท่านั้นใช่ไหม? อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ดินแดนแห่งความสงบ เพียงในดินแดนแห่งความสงบซึ่งเรียกว่าบ้านดั้งเดิมเท่านั้นที่จะมีความสงบได้ เมื่อดวงวิญญาณไม่มีร่างกายเขาก็จะอยู่ในความสงบ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่มาและให้มรดกนี้ ในบรรดาลูกเช่นกัน ลูกบางคนต้องอธิบายด้วยไหวพริบที่ดี ถ้าบาบามายืนอยู่กลางงานนิทรรศการและรับฟังทุกคน ข้อผิดพลาดมากมายก็จะถูกชี้ออกมาเพราะผู้ที่อธิบายนั้นตามลำดับกันไป ถ้าทุกคนเท่ากัน แล้วทำไมครูถึงจะต้องเขียนเชิญผู้นั้นผู้นี้ให้มาและให้คำบรรยาย? อ๊ะ! แต่ลูกก็เป็นบราห์มินด้วยเช่นกัน “บาบาผู้นั้นผู้นี้ฉลาดกว่าฉัน” เป็นเพราะความฉลาดที่มนุษย์ได้รับสถานภาพ พวกเขาจึงตามลำดับกันไป เมื่อผลของการสอบออกมาลูกจะได้รับนิมิตโดยอัตโนมัติ และลูกก็จะตระหนักรู้ว่าลูกไม่ได้ทำตามศรีมัท พ่อพูดว่า: อย่าได้มีการกระทำใดๆที่เป็นบาป อย่าได้มีความผูกพันยึดมั่นกับชีวิตที่มีร่างกาย ร่างกายนี้ทำด้วยวัตถุธาตุทั้งห้าใช่ไหม? ไม่ใช่ว่าลูกต้องบูชาวัตถุธาตุทั้งห้าหรือจดจำสิ่งเหล่านั้น ลูกอาจมองเห็นผ่านดวงตาเหล่านั้นแต่ลูกต้องจดจำพ่อ เวลานี้ดวงวิญญาณได้รับความรู้ที่เวลานี้เรากำลังจะกลับบ้านแล้วเราจะไปดินแดนสุขาวดี ดวงวิญญาณสามารถเข้าใจแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ ใช่ ด้วยนิมิตที่สูงส่งของลูกลูกสามารถเห็นบ้านของลูกเองและสวรรค์ พ่อพูดว่า: ลูกๆ “มานมานะบาฟ” และ “มาดิยาจิบาฟ” หมายถึงจดจำพ่อและดินแดนแห่งวิษณุซึ่งเป็นเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูก ลูกรู้ว่าเวลานี้เรากำลังจะไปสวรรค์ คนอื่นจะไปยังดินแดนแห่งการหลุดพ้น ไม่ใช่ทุกคนสามารถไปยังยุคทองได้ ศาสนาของลูกคือศาสนาเทพ และแล้วนี้คือศาสนาของมนุษย์ ไม่มีมนุษย์ในโลกที่ไม่มีตัวตน นี่คือโลกของมนุษย์ มนุษย์คือผู้ที่กลายเป็นตาโมประธานและแล้วก็สะโตประธาน ก่อนหน้านี้ลูกเป็นของวรรณะศูทร และเวลานี้ลูกอยู่ในสกุลบราห์มิน ระบบวรรณะนี้เป็นของผู้คนของบารัตเท่านั้น วงศ์สกุลบราห์มินและสุริยะวงศ์จะไม่ถูกกล่าวถึงสำหรับศาสนาอื่นใด ในเวลานี้ทุกคนเป็นของวรรณะศูทร พวกเขามาถึงสภาพของความเสื่อมโทรมอย่างแท้จริง เมื่อลูกแก่ขึ้น ต้นไม้ทั้งหมดก็เสื่อมโทรมและตาโมประธาน แล้วต้นไม้ทั้งหมดจะกลับมาสะโตประธานได้อย่างไร? ในต้นไม้ใหม่และสะโตประธานมีเพียงผู้ที่อยู่ในศาสนาเทพเท่านั้น และแล้วจากการเป็นสุริยะวงศ์ ลูกก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจันทราวงศ์ ลูกเกิดใหม่ จากนั้นลูกก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของสกุลพ่อค้า และแล้วก็อยู่ในสกุลของศูทร นี่เป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด ผู้เดียวที่สอนเราคือมหาสมุทรแห่งความรู้ ท่านคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ผู้ประทานการหลุดพ้นให้กับทุกคน พ่อพูดว่า: ฉันให้ความรู้นี้แก่ลูก ลูกกลายเป็นเทพ และแล้วความรู้นี้จะไม่คงอยู่อีกต่อไป ความรู้นี้ให้กับผู้ที่ไม่รู้ มนุษย์ทั้งหมดอยู่ในความมืดของความไม่รู้ ลูกอยู่ในแสงสว่าง ลูกรู้เรื่องราวของ 84 ชาติเกิดของผู้นี้ ลูกๆมีความรู้นี้ มนุษย์ถามว่า: ทำไมพระเจ้าสร้างโลกนี้? เราไม่สามารถได้รับการหลุดพ้น(โมกข์)ตลอดไปได้หรือ? อ๊ะ, แต่นี่เป็นละครที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ละครที่คงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์ ลูกรู้ว่าดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและไปรับอีกร่างหนึ่ง จำเป็นต้องมีความกังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้? ดวงวิญญาณนั้นจากไปเพื่อเล่นบทบาทต่อไปของเขา การร้องไห้จะมีประโยชน์ถ้าทำให้เขากลับมา แต่เขาก็ไม่กลับมา แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะร้องไห้? เวลานี้ลูกทั้งหมดต้องกลายเป็นผู้มีชัยชนะเหนือความผูกพันยึดมั่น ทำไมเราถึงติดยึดอยู่กับสุสานหรือป่าช้า? มีความทุกข์ และไม่มีอะไรเลยนอกจากความทุกข์ในสิ่งนั้น วันนี้เขาเป็นเด็ก พรุ่งนี้เด็กก็จะกลายเป็นเช่นนั้นที่เขาจะไม่ใช้เวลานานเลยในการถอดหมวกพ่อของเขาออก(ดูหมิ่นเขา) พวกเขาต่อสู้แม้กระทั่งกับพ่อของเขา สิ่งนี้เรียกว่าเป็นโลกของเด็กกำพร้า พวกเขาไม่มีทั้งเจ้าหรือนายที่จะให้การศึกษาแก่เขา เมื่อพ่อเห็นว่าพวกเขาในสภาพเช่นนั้น พ่อจึงมาและทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่เป็นของเจ้าและนาย มีเพียงพ่อเท่านั้นที่มาและทำให้ทุกคนเป็นของเจ้าและนาย ผู้ปกครองมาและทำให้การต่อสู้ทั้งหมดจบลง ในยุคทองไม่มีการต่อสู้กัน ท่านทำให้การต่อสู้กันในทั้งโลกจบลงและแล้วก็มีเสียงร้องแห่งชัยชนะ ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นแม่ ผู้คนคิดว่าพวกเธอเป็นผู้รับใช้ด้วยเช่นกัน เมื่อพวกเขาผูกด้ายของการแต่งงานที่ข้อมือของเธอ พวกเขาก็บอกเธอว่า: “สามีของเธอคือพระเจ้า กูรู และทุกสิ่งทุกอย่าง” นายมาก่อนแล้วจึงเป็นนาง เวลานี้พ่อมาและทำให้ผู้ที่เป็นแม่ทั้งหลายอยู่ข้างหน้า ไม่มีใครสามารถมีชัยชนะเหนือลูกได้ พ่อกำลังสอนลูกเกี่ยวกับกฎหมายทั้งหมด มีเรื่องราวของราชาโมห์จีท(ผู้เอาชนะความผูกพันยึดมั่น) เรื่องราวเหล่านั้นล้วนถูกแต่งขึ้นมา ในยุคทองไม่มีการตายก่อนเวลาอันควร; ลูกจากร่างของลูกในเวลาที่เหมาะสมและรับอีกร่าง ลูกมีนิมิต: ตอนนี้ร่างกายนี้แก่แล้วและจะต้องมีการใช้ร่างใหม่ ฉันต้องไปและกลายเป็นทารกน้อย พวกเขาจากร่างด้วยความสุข อย่างไรก็ตามที่นี่ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ พวกเขาจะเจ็บป่วยเพียงใด แม้ว่าเขาจะเข้าใจว่าจะเป็นการดีถ้าร่างกายจะถูกทิ้งไป ทั้งที่เป็นเช่นนี้ แม้ในช่วงเวลาแห่งการตาย เขาก็ร้องไห้อย่างแน่นอน พ่อพูดว่า: เวลานี้ลูกจะไปยังสถานที่ที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการร้องไห้ ไม่มีอะไรนอกจากความสุขที่นั่น ลูกควรมีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดเช่นนั้น อ๊ะ เรากำลังกลายเป็นนายของโลก บารัตเคยเป็นนายของทั้งโลก ตอนนี้มันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ลูกเคยเป็นเทพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา; และแล้วลูกก็กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา พระเจ้าเองไม่ได้กลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาแล้วกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา ถ้าท่านกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาแล้วใครจะเป็นผู้ทำให้ลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเล่า? บทบาทของพ่อในละครนั้นแยกออกมาโดยสิ้นเชิง มีเพียงมหาสมุทรแห่งความรู้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น มีเพียงการสรรเสริญแก่ผู้เดียวนี้เท่านั้นที่คงอยู่ มีมหาสมุทรแห่งความรู้ แต่เมื่อใดที่ท่านมาและให้ความรู้นี้เพื่อที่จะมีการหลุดพ้น? ท่านจะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอน ก่อนอื่นจงปลูกฝังสิ่งนี้ในสติปัญญาของลูกว่าใครคือผู้ที่สอนเรา! ตรีมูรติ,วงจรของโลกและต้นไม้คือภาพหลัก เมื่อเห็นต้นไม้ พวกเขาจะเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าพวกเขาเป็นของศาสนาใดและไม่สามารถเข้ามาในยุคทองได้ วงจรนี้มีขนาดใหญ่มาก ข้อความที่เขียนควรจะเสร็จสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน ชีพบาบากำลังก่อตั้งศาสนาเทพซึ่งเป็นโลกใหม่โดยผ่านบราห์มา โลกเก่าถูกทำลายโดยผ่านชางการ์ แล้วท่านหล่อเลี้ยงโลกใหม่โดยผ่านวิษณุ ให้สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์ บราห์มากลายเป็นวิษณุ; วิษณุกลายเป็นบราห์มา มีการเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองบุคคลนี้ บราห์มาและสรัสวตีก็กลายเป็นลักษมีและนารายณ์ สภาพไต่เต้าพัฒนาเกิดขึ้นในชาติเกิดเดียวนี้ และสภาพที่ลงมาใช้เวลา 84 ชาติเกิด เวลานี้พ่อพูดว่า: คัมภีร์ต่างๆและอื่นๆนั้นถูกต้องหรือพ่อถูกต้อง? พ่อเป็นผู้เดียวที่บอกลูกถึงเรื่องราวที่แท้จริงของนารายณ์ที่แท้จริง ตอนนี้ลูกมีศรัทธาว่าลูกจะกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดาโดยพ่อที่แท้จริง ประการแรกมีหนึ่งประเด็นหลักซึ่งมนุษย์จะไม่ถูกเรียกว่า พ่อ,ครูและกูรู ลูกเคยเรียกพ่อทางร่างของลูกว่าเป็นครูหรือกูรูหรือไม่? ที่นี่ลูกเกิดกับชีพบาบา แล้วชีพบาบาก็สอนลูกและแล้วท่านก็พาลูกกลับไปกับท่าน ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เป็นเช่นนี้ที่ลูกสามารถเรียกว่าพ่อครูและกูรูได้ ผู้เดียวนั้นคือพ่อผู้เดียวเท่านั้น ท่านถูกเรียกว่าพ่อสูงสุด พ่อทางร่างไม่สามารถถูกเรียกว่าพ่อสูงสุด ท้ายที่สุดแล้วท่านคือผู้ที่ทุกคนจดจำ ท่านเป็นพ่ออย่างแน่นอน ทุกคนจดจำท่านในความทุกข์ ไม่มีใครจดจำท่านในความสุข ดังนั้นพ่อมาและทำให้ลูกกลายเป็นนายแห่งสวรรค์อย่างแน่นอน อัจชะ

ถึง ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง ด้วยความรัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ในขณะที่มองเห็นร่างกายที่ทำจากวัตถุธาตุทั้งห้าเหล่านี้ จงเฝ้าแต่จดจำระลึกถึงพ่ออย่างต่อเนื่อง อย่าได้มีความผูกพันยึดมั่นกับผู้ที่มีร่างกายใดๆ อย่าได้มีการกระทำที่เป็นบาปใดๆ

2. ในละครที่ถูกกำหนดไว้แล้วนี้ แต่ละดวงวิญญาณมีบทบาทที่คงอยู่ตลอดไป ดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง เหตุนี้เองลูกจึงไม่ควรวิตกกังวลเกี่ยวกับการออกจากร่างของลูก ลูกต้องได้รับชัยชนะเหนือความผูกพันยึดมั่น

พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำการสังเวยทั้งหมดและเฉลิมฉลองพิธีของการเปลี่ยนแปลงของลูก

มีคำพูดว่า “แม้ว่าลูกจะต้องตาย ลูกต้องไม่ละทิ้งศาสนาของลูก” ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์อะไรจะเกิดขึ้น แม้ว่ามายาในรูปแบบของมหาวีระจะมาอยู่เบื้องหน้าลูก จงอย่าได้ปล่อยมือจากหลักการของลูก อย่ายอมรับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่ลูกได้ละทิ้งไปแล้วจากจิตใจของลูกกลับคืนมา จงเป็นนักแสดงที่สูงส่งเสมอและด้วยรูปที่มีพลังของความเคารพตนเองที่สูงส่งของลูก สำนึกรู้ที่สูงส่งและชีวิตที่สูงส่ง จงเฝ้าแต่เล่นเกมแห่งความยิ่งใหญ่ต่อไป จบสิ้นการกระทำทั้งหมดที่อ่อนแอ เมื่อลูกมีความมุ่งมั่นที่จะสังเวยทั้งหมดเช่นนั้น แล้วพิธีของการเปลี่ยนแปลงของลูกก็จะเกิดขึ้น เวลานี้กำหนดวันที่ร่วมกันสำหรับพิธีนี้

คติพจน์:
กลายเป็นเพชรแท้ และกระจายประกายของกระแสจิตของลูกไปสู่โลก

มีความรักในความสันโดษและซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ

ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะทำงานรับใช้แบบธรรมดา แต่การแก้ไขสิ่งซึ่งได้เสียหายไปแล้ว และ การทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันในความหลากหลายถือเป็นเรื่องใหญ่ บัดดาดาพูดเสมอว่า “อันดับแรก จะต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันของทิศทางเดียว พละกำลังเดียว ศรัทธาเดียว และแล้ว ความเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่มิตรร่วมทางชีวิต ในงานรับใช้ และในบรรยากาศ