08.12.24    Avyakt Bapdada     Thai Murli     13.02.2003     Om Shanti     Madhuban


ในเวลาปัจจุบัน เวลานี้ลูกต้องเปิดเผยรูปที่มีเมตตาและรูปที่เป็นผู้ประทานของลูก


วันนี้พ่อผู้ประทานพร กำลังเฝ้าดูลูกของท่านซึ่งเป็นผู้ประทานความรู้ ผู้ประทานพลัง ผู้ประทานคุณธรรม และผู้นำสาส์นของพระเจ้า ลูกแต่ละคนได้กลายเป็นนายผู้ประทานและกำลังเพียรพยายามจากหัวใจของเขาที่จะนำดวงวิญญาณมาใกล้ชิดพ่อ มีดวงวิญญาณในโลกนี้มีมากมายหลายประเภท บางดวงวิญญาณต้องการน้ำทิพย์แห่งความรู้ บางดวงวิญญาณต้องการพลังและคุณธรรม ในขณะที่ลูกๆมีสมบัติที่มีค่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ลูกคือผู้ที่เติมเต็มความปรารถนาของดวงวิญญาณทั้งหมด ในแต่ละวันเนื่องจากเวลาของการทำให้สมบูรณ์ใกล้เข้ามาแล้ว เวลานี้ดวงวิญญาณจึงมองหาการค้ำจุนใหม่ๆบางอย่าง ดังนั้นลูกดวงวิญญาณจึงกลายเป็นเครื่องมือที่จะให้การค้ำจุนใหม่ๆแก่ดวงวิญญาณ บัพดาดายินดีที่ได้เห็นความจริงจังและความกระตือรือร้นของลูกๆ ด้านหนึ่งมีความจำเป็น และอีกด้านหนึ่งก็มีความจริงจังและความกระตือรือร้น ในช่วงเวลาที่ต้องการ แม้เพียงหนึ่งหยดก็มีความสำคัญมาก ดังนั้นในเวลานี้ หนึ่งหยดที่ลูกให้และสาส์นที่ลูกให้จึงมีความสำคัญ

ขณะนี้เป็นเวลาที่รูปของลูกๆทุกคนจะต้องถูกเปิดเผยในฐานะที่เป็นผู้ประทานที่มีความเมตตา แม้ในรูปที่คงอยู่ตลอดไปของลูก ลูกดวงวิญญาณบราห์มินก็มีซันสการ์ของผู้ประทาน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในรูปภาพของต้นกัลปะ ลูกจึงปรากฏอยู่ท่ามกลางรากของต้นไม้ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างในต้นไม้นั้นปรากฏออกมาจากราก ความหมายของรูปที่เป็นเทพดั้งเดิมของลูก (เทพ, ผู้ประทาน) คือผู้ที่ให้ รูปของลูกในยุคกลางนั้นเป็นภาพของการมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา แม้กระทั่งในยุคกลางก็ตาม ลูกเป็นผู้ประทานที่ให้พรโดยผ่านรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ลูกเป็นผู้ประทานที่ให้ความปรารถนาดีและให้พร รูปพิเศษของลูกดวงวิญญาณคือรูปของผู้ประทาน ดังนั้น แม้กระทั่งในเวลานี้ ลูกก็ได้กลายมาเป็นผู้นำสาส์นของพระเจ้าและกำลังเผยแพร่สาส์นของพ่อ ดังนั้นให้ลูกบราห์มินแต่ละคนตรวจสอบดูว่า: ซันสการ์ดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปของผู้ประทานปรากฏออกมาอยู่เสมอในชีวิตของลูกหรือไม่? สิ่งชี้บอกของดวงวิญญาณที่มีซันสการ์ของผู้ประทานคือ: พวกเขาไม่เคยมีความคิดแม้แต่น้อยเลยว่า ถ้าใครให้อะไรบางอย่างแก่เขาเท่านั้น เขาถึงจะให้ หรือเขาจะทำอะไรก็ต่อเมื่อคนอื่นทำเท่านั้น ไม่เลย พวกเขาเป็นคลังสมบัติที่มีค่าที่เปิดอยู่ตลอดเวลา บัพดาดาจึงมองดูซันสการ์ของผู้ประทานในลูกทุกคนในทุกหนแห่ง ท่านจะได้เห็นอะไรไหม? มันเป็นไปตามลำดับกันใช่หรือไม่? ไม่เคยมีความคิดว่า: "ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันก็จะทำอย่างนี้เช่นกัน" ผู้ที่มีซันสการ์ของผู้ประทานจะได้รับความร่วมมือจากทุกหนแห่งโดยอัตโนมัติ ไม่เพียงแต่จากดวงวิญญาณเท่านั้น แต่แม้แต่ธรรมชาติก็ร่วมมือตามเวลาด้วยเช่นกัน เป็นบัญชีที่ละเอียดอ่อนที่เมื่อใครบางคนกลายเป็นผู้ประทาน ผลของการทำบุญนั้นก็คือดวงวิญญาณนั้นได้รับความร่วมมือและความสำเร็จในเวลาที่ถูกต้องอย่างง่ายดาย ดังนั้นควรทำให้ซันสการ์ของผู้ประทานนั้นปรากฏออกมาอยู่เสมอ ในบัญชีบุญของลูก ลูกจะได้รับผลสิบต่อหนึ่งเท่า ดังนั้น ให้จดบันทึกว่าลูกได้สะสมไว้ตลอดทั้งวันในบัญชีบุญของลูกผ่านความคิด คำพูด ความสัมพันธ์ และสายสัมพันธ์ของลูกในฐานะดวงวิญญาณบุญมากเพียงใด แม้ว่าลูกจะรับใช้ด้วยจิตใจลูกก็ยังสะสมไว้ในบัญชีบุญของลูก ลูกสามารถสะสมไว้ในบัญชีบุญของลูกได้โดยการทำให้ดวงวิญญาณที่อ่อนแอมีความสุขด้วยคำพูดของลูก โดยการทำให้ดวงวิญญาณที่ทุกข์ระทมตระหนักถึงเกียรติของตนเอง โดยการเพิ่มความจริงจังและความกระตือรือร้นในดวงวิญญาณที่ท้อแท้ด้วยคำพูดของลูก และทำให้ดวงวิญญาณที่อยู่ในความสัมพันธ์หรือมีสายใยกับลูกได้สัมผัสถึงสีสันของมิตรร่วมทางที่สูงส่งของลูก ลูกสะสมบุญไว้มากมายในชาติเกิดนี้ที่ลูกรับประทานผลแห่งบุญนั้นเป็นเวลาครึ่งวงจร และสำหรับอีกครึ่งวงจรที่เหลือลูกปลดปล่อยดวงวิญญาณที่มีบาปให้หลุดพ้นจากบาปของพวกเขาโดยผ่านบรรยากาศที่สร้างขึ้นโดยภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูก ลูกกลายเป็นผู้ชำระล้างให้บริสุทธิ์ ดังนั้น บัพดาดาจึงยังคงมองดูบัญชีของลูกแต่ละคนเกี่ยวกับบุญที่พวกเขาได้สะสมไว้ต่อไป

เมื่อเห็นความจริงจังและความกระตือรือร้นของลูกๆในปัจจุบันสำหรับการทำงานรับใช้ บัพดาดาก็รู้สึกยินดี ลูกๆส่วนใหญ่มีความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้เป็นอย่างมาก ลูกทุกคนกำลังนำแผนงานรับใช้มาใช้ในรูปปฏิบัติจริงในแบบของตนเอง บัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกทุกคนจากหัวใจของท่าน ลูกทำได้ดีและจะยังคงทำดีต่อไป สิ่งที่ดีที่สุดคือความคิดและเวลาของทุกคนนั้นไม่ว่างเว้นกับการทำสิ่งนี้ ทุกคนมีเป้าหมายที่จะรับใช้ในทุกหนแห่ง เพราะการพร่ำบ่นทั้งหมดจะต้องจบสิ้นลงอย่างแน่นอน

ความคิดที่มุ่งมั่นของบราห์มินเต็มไปด้วยพลังมากมาย หากบราห์มินมีความมุ่งมั่นแล้วอะไรจะไม่เป็นไปได้หรือ? ทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วง เพียงแค่ปล่อยให้โยคะของลูกเป็นเปลวไฟอันทรงพลัง เมื่อโยคะของลูกเป็นเปลวไฟอันทรงพลัง ดวงวิญญาณจะทำตามเปลวไฟอันทรงพลังโดยอัตโนมัติ เพราะเมื่อพวกเขาได้รับแสงสว่าง พวกเขาจะสามารถมองเห็นหนทางได้ ลูกกำลังมีโยคะอยู่ในขณะนี้ แต่จะต้องอยู่ในรูปของเปลวไฟอันทรงพลัง ความจริงจังและความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้กำลังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างดีมาก แต่เวลานี้ลูกต้องเน้นโยคะเพื่อให้มันอยู่ในรูปของเปลวไฟอันทรงพลัง ดริชตีของลูกควรมีประกายเช่นนั้นที่คนอื่นๆสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างจากดริชตีนั้นอย่างแน่นอน

บัพดาดาชอบวิธีการในการรับใช้ที่ผู้คนในต่างประเทศทำ นั่นคือ Call of the Time (เสียงเรียกของเวลา) - การนำชุมนุมเล็กๆเข้ามาใกล้ ทุกศูนย์และทุกโซนกำลังทำงานรับใช้ของตนเอง แต่ตอนนี้ลูกต้องสร้างชุมนุมของทุกอาชีพ บัพดาดาบอกลูกว่างานรับใช้แพร่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง ดังนั้น เวลานี้ เลือกชุมนุมของดวงวิญญาณที่มีค่าจากผู้ที่ได้มีการรับใช้ในทุกหนแห่งและนำพวกเขาเข้ามาใกล้ จากนั้น ให้นำดวงวิญญาณนั้นเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆเป็นระยะๆ ทำให้พวกเขาเกิดความจริงจังและความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้เพิ่มมากขึ้น บัพดาดาเห็นว่ามีดวงวิญญาณเช่นนั้นอยู่ แต่พวกเขาไม่ได้รับการค้ำจุนในแบบที่มีพลังร่วมกัน พวกเขาได้รับการค้ำจุนเป็นรายบุคคลตามความสามารถของพวกเขา พวกเขาสามารถมีความกระตือรือร้นในชุมนุมเมื่อพวกเขาเห็นกันและกัน "ถ้าคนนั้นสามารถทำสิ่งนี้ได้ ฉันก็ทำได้ ฉันจะทำสิ่งนี้เช่นกัน" แล้วพวกเขาก็จะมีความกระตือรือร้น ตอนนี้บัพดาดาต้องการที่จะเห็นรูปแบบของงานรับใช้โดยรวมในทางปฏิบัตินี้ บัพดาดารู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่าลูกแต่ละคนพยายามอย่างดีมากเพื่อรับใช้บรรดาผู้มีอาชีพเดียวกันของลูก ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ของลูก อยู่ในเขต และศูนย์ของลูก ตอนนี้ พาพวกเขาบางคนมาอยู่เบื้องหน้าบาบา ความกระตือรือร้นของผู้ครองเรือนก็ไปถึงบัพดาดาเช่นกัน บัพดาดาก็รู้สึกยินดีเช่นกันที่ได้เห็นดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ทำงานสองเท่า นั่นคือ อาศัยอยู่ที่บ้านและเพียรพยายามในการทำงานรับใช้และเพียรพยายามเพื่อตนเอง

เมื่อลูกเห็นบรรยากาศในต่างประเทศในปัจจุบันแล้ว ลูกดวงวิญญาณบราห์มินไม่กลัวใช่หรือไม่? ลูกไม่ได้กังวลเกี่ยวกับว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่? “พรุ่งนี้ก็จะดี มันก็ดี อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นก็จะดี มากเท่าที่โลกยังมีความปั่นป่วนอยู่ สภาพของลูกดวงวิญญาณบราห์มินจะอยู่อย่างไม่สั่นคลอนมากตามนั้น” เป็นเช่นนี้หรือไม่? ลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์สั่นคลอนหรือไม่ หรือว่าลูกไม่สั่นคลอน? ลูกไม่สั่นคลอนใช่ไหม? ลูกไม่ได้ขึ้นๆลงๆใช่ไหม? ผู้ที่ไม่สั่นคลอน ยกมือขึ้น! ลูกไม่ได้สั่นคลอน แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้ล่ะ? ลูกก็ยังคงไม่สั่นคลอนใช่ไหม? จะเกิดอะไรขึ้นไหม? จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลูกบราห์มินมีร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครองของพระเจ้าอยู่เหนือลูก เมื่อสิ่งใดกันน้ำได้ ไม่ว่าน้ำจะเข้ามามากมายเพียงใด เนื่องจากมันกันน้ำได้ ลูกก็จะยังคงอยู่อย่างกันน้ำได้ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าจะมีความปั่นป่วนมากมายแค่ไหน ดวงวิญญาณบราห์มินก็ได้รับการป้องกัน (ปลอดภัย) อยู่เสมอภายใต้ร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครองของพระเจ้า ลูกคือจักรพรรดิที่ไร้กังวลใช่หรือไม่? หรือลูกกังวลเล็กน้อยว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ไม่เลย ไร้กังวล! จงเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเอง จงเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล และยังคงตั้งอยู่บนที่นั่งอันมั่นคงและไม่ไหวหวั่นสั่นคลอน อย่าได้ลุกออกจากที่นั่งของลูก การขุ่นมัวไม่พอใจหมายความว่าลูกไม่ได้ตั้งมั่นอยู่บนที่นั่งของลูก เพราะเหตุนี้ลูกจึงขุ่นมัวไม่พอใจ ผู้ที่ตั้งมั่นในที่นั่งของตนเองจะไม่สามารถมีความขุ่นมัวไม่พอใจได้แม้กระทั่งในความฝันของพวกเขา

ลูกผู้เป็นแม่คิดอย่างไร? ลูกรู้วิธีที่จะจัดที่นั่งและนั่งบนที่นั่งของตนเองหรือไม่? ไม่มีความแปรปรวนใช่ไหม? บัพดาดาก็รวมรูปอยู่กับลูก ในเมื่อผู้ทรงพลังอำนาจรวมรูปอยู่กับลูก ทำไมลูกถึงต้องกลัว? หากลูกพิจารณาว่าตนเองอยู่คนเดียวลำพัง มันก็จะมีความแปรปรวน หากลูกคงอยู่ในรูปรวมแล้ว ไม่ว่าจะมีความแปรปรวนมากมายเพียงใด ลูกก็จะยังคงอยู่อย่างไม่สั่นคลอน ถูกต้องไหมผู้เป็นแม่? ลูกทุกคนโอเคไหม? ลูกอยู่ในรูปรวมแล้วใช่หรือไม่? ลูกไม่ได้อยู่คนเดียวโดยลำพังใช่ไหม? เป็นความรับผิดชอบของพ่อ หากลูกนั่งบนที่นั่งของลูก ก็เป็นความรับผิดชอบของพ่อ หากลูกมีอารมณ์ขุ่นมัวไม่พอใจ ก็เป็นความรับผิดชอบของลูก

หากลูกยังคงให้หยดหนึ่งแก่ดวงวิญญาณด้วยสาส์นอยู่เรื่อยๆ ลูกจะอยู่อย่างมั่นคงในรูปของผู้ประทาน และลูกจะยังคงได้รับพลังอันเป็นผลจากบุญที่ลูกทำในฐานะผู้ประทาน ในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปมา ให้มีความตระหนักรู้ปรากฏออกมาอยู่เสมอว่าลูกเป็นดวงวิญญาณ เป็นผู้ทำให้ผู้อื่นกระทำ และอวัยวะทางกายของลูกคือคนงานที่ทำงาน อย่าได้คิดว่า “ถึงอย่างไรฉันก็เป็นดวงวิญญาณอยู่แล้ว” ให้สิ่งนี้ปรากฏออกมาในสำนึกรู้ของลูก หลอมรวมอยู่ตรงนั้น แต่เมื่อปรากฏออกมาแล้ว ลูกจะมีความซาบซึ้ง ความสุข และพลังในการควบคุม ตัวลูกเองก็จะสนุกสนานด้วย เพราะเหตุใด? เช่นเดียวกับที่ราชาควบคุมคนงานทั้งหมดของตนให้อยู่ภายใต้การควบคุมและให้พวกเขาทำงานตามคำสั่ง ในทำนองเดียวกัน เมื่อลูกตระหนักรู้ว่าตนเป็นดวงวิญญาณผู้เป็นคาราวันฮาร์ (ผู้ที่ทำสิ่งต่างๆโดยผ่านผู้อื่น) ประสาทสัมผัสทางกายทั้งหมดของลูกจะคงอยู่ภายใต้คำสั่ง มันจะไม่อยู่ภายใต้คำสั่งของมายา แต่จะอยู่ภายใต้คำสั่งของลูก มิฉะนั้น มายาจะเห็นว่าเมื่อดวงวิญญาณที่ทำให้ผู้อื่นทำทุกสิ่งกลับมาไม่ระมัดระวัง และดังนั้นเธอก็จะเริ่มออกคำสั่ง บางครั้งพลังของจิตใจและบางครั้งพลังของปากของลูกเคลื่อนไปภายใต้คำสั่งของมายา ดังนั้น จงทำให้ประสาทสัมผัสทางกายของลูกทำงานภายใต้คำสั่งของลูกอยู่เสมอ อย่าพูดว่า "ฉันไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น" เพียงสิ่งที่ลูกต้องการให้เกิดขึ้นเท่านั้นที่ควรจะเกิดขึ้น ต่อเมื่อลูกเติมเต็มตนเองด้วยซันสการ์ของผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองในเวลานี้เท่านั้น ที่ลูกจะสามารถปกครองอาณาจักรที่นั่นได้ อย่าได้ออกไปจากที่นั่งของผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองของลูก หากประสาทสัมผัสทางกายของลูกอยู่ภายใต้คำสั่งของลูกแล้ว พลังทั้งหมดก็จะคงอยู่ภายใต้คำสั่งของลูก ไม่ว่าพลังใดก็ตามที่ลูกต้องการในเวลาใดเวลาหนึ่งจะปรากฏขึ้นมาเองในเวลานั้น ไม่ควรเป็นเช่นนั้นที่ลูกสั่งพลังแห่งความอดทนให้มา แต่มาเมื่องานนั้นได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว ให้ทุกพลังพร้อมตามคำสั่งของลูก เพราะแต่ละพลังเป็นของขวัญจากพระเจ้า ดังนั้นของขวัญของพระเจ้าจึงกลายเป็นสิ่งที่เป็นของลูก ดังนั้น ลูกจึงสามารถใช้สิ่งใดก็ตามที่เป็นของลูกได้ตามที่ลูกต้องการและเมื่อใดก็ตามี่ลูกต้องการ ด้วยวิธีนี้ พลังทั้งหมดเหล่านั้นจะคงอยู่ภายใต้คำสั่งของลูก ประสาทสัมผัสทางกายทั้งหมดของลูกจะยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งของลูก สิ่งนี้เรียกว่าการเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเอง เป็นนายผู้ทรงอำนาจ ลูกพันดาวาสเป็นเช่นนี้หรือไม่? ลูกเป็นนายผู้ทรงอำนาจและเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองด้วย อย่าพูดว่ามันแค่หลุดออกมาจากปากของลูกเอง ใครสั่งให้มันออกมาเช่นนั้น? "ฉันไม่ต้องการที่จะดูสิ่งนั้น แต่ฉันก็ดูแล้ว ฉันไม่ต้องการทำ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว" สิ่งนี้เกิดขึ้นตามคำสั่งของใคร? ลูกจะเรียกสิ่งนี้ว่าการมีสิทธิ์หรือถูกควบคุมไหม? ดังนั้น จงกลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ ไม่ใช่ผู้ที่ถูกควบคุม อัจชะ

บัพดาดากล่าวว่า: เช่นที่ลูกทุกคนมีความสุขมากในมธุบัน ในทำนองเดียวลูกต้องอยู่อย่างมีความสุขและพอใจอยู่เสมอเช่นกัน ลูกคือดอกกุหลาบทางจิต ดูสิ มองไปทุกที่สิ ลูกทุกคนคือดอกกุหลาบทางจิต ดอกกุหลาบที่เบ่งบาน ลูกไม่ได้เหี่ยวเฉา ลูกคือดอกกุหลาบที่เบ่งบาน ดังนั้น จงอยู่อย่างมีโชคและร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ ใครก็ตามที่เห็นใบหน้าลูก ควรถามลูกว่าลูกได้รับอะไร เพราะลูกดูมีความสุขมาก ให้ใบหน้าของแต่ละคนให้คำแนะนำของพ่อ เช่นเดียวกับที่รูปภาพให้คำแนะนำ ในทำนองเดียวกันให้ใบหน้าของลูกให้คำแนะนำของพ่อด้วยเช่นกันว่าลูกได้พบพ่อแล้ว อัจชะ

ทุกสิ่งโอเคไหม? ผู้ที่มาจากต่างประเทศก็มาถึงที่นี่แล้วเช่นกัน ลูกชอบที่นี่ใช่ไหม? (ถึงโมฮินีเบนแห่งนิวยอร์ก) อย่างน้อยลูกก็รอดปลอดภัยจากการต้องได้ยินเรื่องเกี่ยวกับความปั่นป่วน เป็นเรื่องดีที่ลูกทุกคนมารวมกัน ลูกทำได้ดีมากที่มาที่นี่ด้วยกัน อัจชะ ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์: ลูกซาบซึ้งเป็นสองเท่าใช่ไหม? ลูกซาบซึ้งเป็นอย่างมากที่หัวใจของลูกกล่าวว่า: "ถ้าใครเป็นเช่นนี้ ก็คือเราดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ที่เป็นเช่นนี้" ลูกซาบซึ้งเป็นสองเท่าของการเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองและเป็นผู้มีสิทธิ์ในโลก ลูกซาบซึ้งเป็นสองเท่าใช่ไหม? แม้แต่บัพดาดาก็ชอบสิ่งนี้ ถ้าไม่มีดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์คนใดอยู่ในกลุ่ม มันก็ไม่รู้สึกดีเลย บาบาเป็นพ่อของโลก ดังนั้นผู้คนจากโลกนี้ก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วย จำเป็นต้องมีทุกคน ยังคงไม่มีความงดงามใดๆหากไม่มีผู้เป็นแม่อยู่ที่นี่ แม้กระทั่งไม่มีพันดาวาสใดๆความงดงามก็ลดลง ดูซิ ถ้าศูนย์ไม่มีพันดาวาสเลย มีแต่ผู้เป็นแม่เท่านั้น ลูกจะชอบไหม? เช่นกัน ถ้ามีแต่พันดาวาสและไม่มีชักตี ศูนย์ก็จะไม่มีความงามนั้นเช่นกัน ทั้งสองเป็นสิ่งที่จำเป็น ลูกๆก็จำเป็นเช่นกัน ลูกๆพูดว่า: “ทำไมไม่เอ่ยชื่อของเรา” มีความงดงามของลูกๆด้วย อัจชะ

ขณะนี้ ในหนึ่งวินาที จงกลายเป็นดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตนที่ซึมซับอยู่ในความรักและการจดจำระลึกถึงพ่อผู้ไม่มีตัวตน (บาบาทำการฝึกดริล)

ถึงผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเองในทุกหนแห่ง ถึงดวงวิญญาณที่ไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนซึ่งยังคงนั่งอยู่บนที่นั่งของผู้สังเกตการณ์ที่ละวางอยู่เสมอ ถึงดวงวิญญาณที่มีเมตตาซึ่งตระหนักรู้อยู่เสมอถึงการเป็นผู้ประทานที่ให้ความรู้ พลัง และคุณธรรมแก่ทุกคน ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของพ่อโดยผ่านใบหน้าของพวกเขาอยู่เสมอ ถึงลูกๆที่เป็นดอกกุหลาบทางจิตและอยู่อย่างมีความสุขและมีโชคอยู่เสมอ รัก ระลึกถึง และนมัสเทขจากบัพดาดา

บัพดาดาพูดกับดาดี้: (พร้อมกับงานรับใช้ ยังมีโปรแกรมโยคะ 108 ชั่วโมงที่เกิดขึ้นในทุกหนแห่ง) เปลวไฟแห่งการทำลายล้างจะรุนแรงขึ้นผ่านไฟจากภูเขาไฟนี้ โปรแกรมต่างๆกำลังถูกจัดทำขึ้นและจากนั้นพวกเขาก็เริ่มคิดเกี่ยวกับมัน ด้วยโยคะบาปและภาระของการกระทำที่เป็นบาปจะเผาไหม้ และด้วยการทำงานรับใช้บัญชีบุญของลูกจะสะสม ดังนั้นลูกกำลังสะสมบัญชีบุญของลูก อย่างไรก็ตาม ด้วยไฟของโยคะเท่านั้นไม่ใช่ด้วยโยคะธรรมดาที่จะเผาภาระของซันสการ์ในอดีตได้ ในขณะนี้ลูกมีโยคะแต่ไม่ใช่ไฟจากภูเขาไฟซึ่งบาปจะถูกเผาได้ ด้วยเหตุนี้จึงถูกทำลายไปในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่แล้วสิ่งนั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากนี้ มองดูที่ราวันสิ เขาถูกฆ่าและถูกเผา และกระดูกของเขาก็ถูกโยนลงไปในน้ำ ทุกสิ่งจะต้องถูกเผาจนหมดสิ้น ซันสการ์ของอดีต ซันสการ์ที่อ่อนแอทั้งหมดควรถูกเผาจนหมดสิ้น พวกมันยังไม่ถูกเผา พวกมันถูกฆ่า แต่ยังไม่ถูกเผา ดังนั้น หลังจากที่ตายแล้ว พวกมันก็กลับมามีชีวิตอีก โลกจะเปลี่ยนแปลงด้วยการเปลี่ยนแปลงของซันสการ์ เวลานี้เกมของซันสการ์กำลังเกิดขึ้น ซันสการ์ปรากฏขึ้นในระหว่างนั้นเป็นระยะๆ ชื่อและร่องรอยทั้งหมดจะต้องถูกทำลาย การเปลี่ยนแปลงของซันสการ์เป็นเรื่องที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ เนื่องจากซันสการ์ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลง จึงมีความคิดที่ไร้ประโยชน์ด้วย เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์และเกิดการสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้น (มีคนกล่าวว่า เวลาทำให้ลูกทำสิ่งนี้ และมันจะเกิดขึ้นด้วยความพยายามของลูกเอง) ทั้งสองสิ่งนี้ร่วมกันจะทำให้มันเกิดขึ้น เวลาและความพยายามของลูกเองจะทำให้มันเกิดขึ้น มหาราส (การร่ายรำที่ยิ่งใหญ่) ของความสอดคล้องกลมกลืนของซันสการ์ได้รับการจดจำ อนุสรณ์ของมหาราสคืออนุสรณ์ของการร่ายรำที่ยิ่งใหญ่ของความสอดคล้องกลมกลืนของซันสการ์ ตอนนี้มีเพียงราสเท่านั้นที่เกิดขึ้น แต่มหาราสยังไม่เกิดขึ้น (ทำไมมหาราสจึงไม่เกิดขึ้น?) มันไม่ได้มีการเน้นย้ำ ไม่มีความมุ่งมั่น มีความไม่ระมัดระวังมากมายหลายประเภท อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกเป็นโยคีและคาร์มาโยคีที่สม่ำเสมอ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทุกความคิด คำพูด และการกระทำของลูกสูงส่ง

ทุกการกระทำของดวงวิญญาณคาร์มาโยคีคือโยกยุกต์และยุกตียุกต์ หากการกระทำใดของลูกไม่ใช่ยุกตียุกต์แล้ว ลูกก็สามารถเข้าใจได้ว่าลูกไม่ใช่โยกยุกต์ หากการกระทำของลูกธรรมดาหรือไร้ประโยชน์ ลูกก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นโยคีที่สม่ำเสมอ คาร์มาโยคีคือผู้ที่ทุกความคิดและทุกคำพูดสูงส่งอยู่เสมอในทุกวินาที สิ่งชี้บอกของการกระทำที่สูงส่งคือ ลูกเองจะพอใจและผู้อื่นก็จะพอใจเช่นกัน ดวงวิญญาณเช่นนี้เท่านั้นที่สามารถเป็นโยคีที่สม่ำเสมอได้

คติพจน์:
ดวงวิญญาณที่เป็นที่รักของตัวเขาเอง เป็นที่รักของผู้คน และเป็นที่รักของพระเจ้า กล่าวได้ว่าเป็นภาพลักษณ์ที่ได้รับพร