09.12.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกต้องให้คำแนะนำของพ่อแก่ทุกคนก่อนที่การทำลายล้างเกิดขึ้น
ซึมซับความรู้นี้และแล้วอธิบายความรู้แก่ผู้อื่น
เพียงเท่านั้นเองที่ลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงได้
คำถาม:
การกำหนดใดที่พ่อให้แก่นักเรียนราชโยคี?
คำตอบ:
ลูกได้รับการกำหนดว่าหลังจากที่เป็นของพ่อผู้เดียว
ลูกต้องไม่ปล่อยให้หัวใจของลูกผูกพันอยู่กับใครอื่น
หลังจากที่ทำสัญญาที่จะคงอยู่อย่างบริสุทธิ์ ลูกต้องไม่กลับมาไม่บริสุทธิ์เลย
จงกลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์,
มากจนกระทั่งลูกนั้นจะอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อและครูได้อย่างอัตโนมัติ
มีความรักต่อพ่อผู้เดียวเท่านั้นและจดจำท่านผู้เดียวเท่านั้น
และลูกจะได้รับพลังอย่างใหญ่หลวง
โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบาย
ท่านสามารถที่จะอธิบายเพียงเมื่อท่านใช้ร่างนี้เท่านั้น
ท่านต้องอธิบายด้วยตัวท่านเอง
และแล้วสิ่งที่ท่านอธิบายด้วยตัวท่านเองก็ถูกตีพิมพ์และส่งไปถึงทุกคน
ลูกมาที่นี่เพื่อที่จะรับฟังบาบาด้วยตนเอง พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังพูดกับลูกๆ
ดวงวิญญาณ เป็นดวงวิญญาณที่รับฟัง เป็นดวงวิญญาณที่ทำทุกสิ่งผ่านร่างของเขา
ดังนั้นก่อนอื่นใดลูกต้องคิดว่าตนเป็นดวงวิญญาณอย่างแน่นอน
ได้รับการจดจำว่าดวงวิญญาณนั้นได้อยู่อย่างแยกห่างจากดวงวิญญาณสูงสุดเป็นเวลายาวนาน
ใครคือกลุ่มแรกที่ได้อยู่อย่างแยกห่างจากพ่อและลงมาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของพวกเขา?
เมื่อถามลูกว่า “ลูกนั้นได้อยู่อย่างแยกห่างจากพ่อมาเป็นเวลานานเพียงไร?”
ลูกก็ตอบว่า “5000 ปี” นี่คือบัญชีที่สมบูรณ์ ลูกๆ
รู้ว่าลูกได้ลงมาตามลำตับกันไปอย่างไร
พ่อผู้ที่เคยอยู่เบื้องบนในเวลานี้ได้ลงมาเพื่อที่จะชาร์จแบตเตอรี่ของทุกคน
เวลานี้ลูกต้องจดจำพ่อ เวลานี้พ่ออยู่เบื้องหน้าลูกด้วยตัวเอง
ผู้คนในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาก็ไม่รู้ถึงอาชีพของพ่อ พวกเขาไม่รู้ถึงชื่อ รูป
สถานที่หรือเวลาของท่าน ลูกรู้จักชื่อ รูป สถานที่และเวลา
ลูกรู้ว่าพ่ออธิบายความลับทั้งหมดแก่ลูกผ่านพาหนะนี้
ท่านได้อธิบายความลับของผู้สร้างและตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้างแล้ว
ท่านละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง พ่อคือเมล็ดของต้นไม้โลกมนุษย์
ที่ท่านมาที่นี่อย่างแน่นอน เป็นงานของท่านที่จะก่อตั้งโลกใหม่
ไม่ใช่ว่าท่านก่อตั้งโลกขณะที่กำลังนั่งอยู่เบื้องบนนั้น
ลูกๆรู้ว่าบาบานั้นกำลังอธิบายแก่ลูกด้วยตัวเองโดยตรงผ่านร่างนี้
นี่ก็เป็นความรักของพ่อด้วยเช่นกัน ไม่มีใครอื่นรู้ถึงประวัติชีวิตของท่าน
กีตะคือคัมภีร์ของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
ลูกรู้ด้วยเช่นกันว่าหลังจากความรู้นี้การทำลายล้างก็จะเกิดขึ้น
การทำลายล้างต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
การทำลายล้างไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อผู้ก่อตั้งศาสนาอื่นๆได้มา
ในเวลานี้คือเวลาของการทำลายล้าง
และเหตุนี้เองความรู้ที่ได้มีการให้แก่ลูกในเวลานี้ก็จะจบสิ้นในเวลาต่อมา
ประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดได้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆในเวลานี้
ลูกได้มาเพื่อรู้จักผู้สร้างและสิ่งสร้าง ทั้งสองนั้นคงอยู่ตลอดไปและได้คงอยู่เสมอ
บทบาทของพ่อคือการมาในยุคบรรจบพบกัน
ความเลื่อมใสศรัทธาคงอยู่มาถึงครึ่งหนึ่งของวงจรแต่ความรู้นั้นไม่ได้คงอยู่
ลูกได้รับมรดกของความรู้นี้เป็นเวลาครึ่งวงจร
ลูกได้รับความรู้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในยุคบรรจบพบกัน
เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ลูกสามารถที่จะมีชั้นเรียนเช่นนี้ได้
ลูกต้องเข้าใจประเด็นเหล่านี้อย่างชัดเจนและแล้วจึงอธิบายให้แก่ผู้อื่น
สถานภาพที่ลูกได้รับขึ้นอยู่กับว่าลูกได้ทำงานรับใช้มากเพียงไร
ลูกเข้าใจว่าเวลานี้ลูกต้องทำความเพียรพยายามเพื่อจะไปสู่โลกใหม่
สถานภาพของลูกจะขึ้นอยู่กับว่าลูกนั้นได้เข้าถึงและอธิบายแก่ผู้อื่นมากเพียงไร
ก่อนการทำลายล้างเกิดขึ้นลูกต้องให้คำแนะนำของพ่อแก่ทุกคน และคำแนะนำของตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง
ลูกจดจำพ่อเพื่อที่บาปของหลายต่อหลายชาติเกิดของลูกจะสามารถถูกตัดทิ้งไปได้
ลูกต้องจดจำพ่อตราบเท่าที่ท่านเฝ้าแต่สอนลูกอย่างแน่นอน จะมีโยคะกับผู้ที่สอน
เมื่อครูสอนลูก ลูกก็จะมีโยคะกับเขา
ลูกจะศึกษาเล่าเรียนโดยที่ไม่มีโยคะกับครูได้อย่างไร?
โยคะหมายถึงการจดจำผู้ที่กำลังสอนลูก ผู้เดียวนั้นคือพ่อ ครูและสัตกูรู
ลูกต้องจดจำท่านอย่างถูกต้องแม่นยำในทั้งสามรูป
ลูกได้พบกับสัตกูรูนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เมื่อลูกได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ผ่านความรู้นี้
ระบบของการมีกูรูมากมายนั้นจบสิ้นลง ระบบของการมีพ่อและครูดำเนินต่อไป
ในขณะที่ระบบของการมีกูรูนั้นได้จบสิ้นไป
เพราะลูกได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
ลูกไปสู่ดินแดนที่อยู่เหนือเสียงในทางปฏิบัติและแล้วก็ลงมาที่นี่ในเวลาของลูกเองเพื่อเล่นบทบาทของลูก
ลูกได้รับทั้งการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
ลูกได้รับการหลุดพ้นอย่างแน่นอนด้วยเช่นกัน
ลูกจะไปบ้านและคงอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสั้นๆ ที่นี่ลูกต้องเล่นบทบาทของลูกผ่านร่างกาย
นักแสดงทั้งหมดจะลงมาในตอนจบ เมื่อการละเล่นจบสิ้นลงนักแสดงทั้งหมดก็จะขึ้นมาบนเวที
แม้กระทั่งในเวลานี้นักแสดงทั้งหมดนั้นได้รวมตัวกันอยู่บนเวที
มีความปั่นป่วนอย่างมากมาย ไม่ได้มีความปั่นป่วนใดๆในยุคทอง
ในเวลานี้มีความไม่สงบอย่างมาก เช่นที่พ่อมีความรู้ของวงจรโลก
ดังนั้นลูกๆก็มีความรู้นี้ด้วยเช่นกัน เมล็ด(the Seed)มีความรู้ว่าต้นไม้ของเราเติบโตอย่างไร
และแล้วถูกทำลายอย่างไร เวลานี้ลูกกำลังนั่งที่นี่เพื่อที่จะเพาะต้นอ่อนของโลกใหม่
นั่นคือ เพาะต้นอ่อนของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
ลูกรู้ว่าลักษมีและนารายณ์ได้ประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของพวกเขาอย่างไร
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกจะไปและกลายเป็นเจ้าชายในโลกใหม่
ผู้อาศัยทั้งหมดของโลกนั้นก็จะเรียกตนเองว่าผู้เป็นนาย
แม้แต่ในเวลานี้ทุกคนก็พูดว่าบารัตคือประเทศของตน
ลูกเข้าใจว่าเวลานี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกัน และลูกจะไปสู่วัดของชีวา
เวลานี้ลูกกำลังจะจากไปแล้ว ลูกก็จะไปและกลายเป็นนายของวัดของชีวา
นี่คือเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูก ราชา
ราชินีและปวงประชาทั้งหมดนั้นได้กลายเป็นนายของวัดของชีวา
อย่างไรก็ตามมีระดับที่ต่างกันของสถานภาพในอาณาจักร ไม่ได้มีที่ปรึกษาใดๆ ที่นั่น
มีความต้องการที่ปรึกษาเพียงเมื่อผู้คนได้กลับมาไม่บริสุทธิ์เท่านั้น
ลูกจะไม่เคยได้ยินว่ามีที่ปรึกษาของลักษมีและนารายณ์
หรือรามและสีดาเพราะพวกเขาเองมีสติปัญญาที่สโตประธานและบริสุทธิ์
เป็นเพียงเมื่อผู้คนได้กลับมาไม่บริสุทธิ์ที่ราชาราชินีนั้นมีที่ปรึกษาเพื่อให้คำปรึกษาแก่พวกเขา
เพียงแต่มองดูว่า ในเวลานี้มีที่ปรึกษาจำนวนนับไม่ถ้วน ลูกๆ
เข้าใจว่าการละเล่นนี้น่าสนุกสนานอย่างยิ่ง
โดยปกติแล้วการละเล่นต้องน่าสนุกสนานอยู่แล้ว มีความสุขพร้อมกันกับความทุกข์
มีเพียงลูกเท่านั้นที่รู้ถึงการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
ไม่มีเรื่องของการร้องไห้และคร่ำครวญฯลฯ ในสิ่งนี้ มีคำกล่าวว่า
จงคิดว่าอะไรก็ตามที่ผ่านไปแล้วเป็นอดีต
ไม่ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นนั้นถูกกำหนดไว้แล้ว
การละเล่นนี้ได้อยู่ในสติปัญญาของลูกและลูกทั้งหมดคือนักแสดงในการละเล่นนี้
บทบาทของ 84 ชาติเกิดของเรานั้นถูกต้องและไม่สูญสลาย
ไม่ว่าบทบาทใดก็ตามที่ลูกได้แสดงในแต่ละชาติเกิด ลูกจะแสดงบทบาทนั้นอีกครั้ง
เคยมีการบอกลูกเมื่อ 5000 ปีก่อนวันนี้ด้วยให้คิดว่าตนเป็นดวงวิญญาณ
คำพูดเหล่านี้ได้มีการอ้างอิงไว้ในกีตะด้วยเช่นกัน
ลูกเข้าใจแล้วว่าเมื่อศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปนั้นได้รับการก่อตั้งขึ้น
พ่อพูดว่า จงละทิ้งศาสนาทางร่างทั้งหมดของลูกและคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
พ่อได้อธิบายความหมายของคำว่า “มานมานะบาฟ” อย่างชัดเจนมาก นี่คือภาษาที่ท่านใช้
เพียงแต่มองดูว่ามีภาษามากมายเพียงไรในเวลานี้
มีความปั่นป่วนอย่างมากมายเนื่องจากภาษาที่แตกต่างกัน
ไม่มีสิ่งใดสามารถดำเนินไปได้โดยที่ไม่ใช้ภาษา
ผู้คนเรียนรู้ภาษาอื่นๆอย่างมากแล้วก็ทำให้พวกเขาลืมภาษาแม่ของตน
ผู้ที่เรียนรู้หลายต่อหลายภาษาก็ได้รับรางวัล มีภาษาอยู่มากเท่ากับที่มีศาสนา
ลูกรู้ว่าที่นั่นลูกจะมีอาณาจักรของลูกเอง และจะมีเพียงภาษาเดียวเท่านั้น ที่นี่ทุก
100 ไมล์ ก็จะมีภาษาที่ต่างกัน ที่นั่นมีภาษาเดียวเท่านั้น
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่ลูก
ดังนั้นเฝ้าแต่จดจำพ่อผู้เดียวนั้นเท่านั้น ชีพบาบาอธิบายผ่านบราห์มา
ท่านต้องการพาหนะอย่างแน่นอน ชีพบาบาคือพ่อของเรา บาบาพูดว่า
พ่อมีลูกๆจำนวนไม่มีขีดจำกัด บาบาสอนลูกผ่านผู้นี้
ลูกนั้นจะไม่มีวันสวมกอดครูของลูก พ่อได้มาเพื่อที่จะสอนลูก
ท่านสอนราชาโยคะแก่ลูกและดังนั้นท่านคือครูและลูกก็เป็นนักเรียน
นักเรียนนั้นจะเคยสวมกอดครูของพวกเขาไหม? หลังจากที่เป็นของพ่อ
ลูกต้องไม่ปล่อยให้หัวใจของลูกนั้นผูกพันกับใครอื่น พ่อพูดว่า
พ่อได้มาเพื่อสอนราชาโยคะแก่ลูก
ลูกคือผู้มีร่างกายในขณะที่พ่อนั้นปราศจากร่างผู้ที่อาศัยอยู่เบื้องบน ลูกพูดว่า:บาบาได้โปรดมาและชำระเราให้บริสุทธิ์เถิด!
สิ่งนี้หมายความว่าลูกอยู่อย่างไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นลูกจะสามารถสวมกอดพ่อได้อย่างไร?
ลูกได้ทำสัญญาและแล้วก็ได้กลับมาไม่บริสุทธิ์อีก
ในเวลาสุดท้ายเมื่อลูกได้กลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์,
ลูกก็จะเฝ้าแต่อยู่ในการจดจำระลึกถึงครูและกูรู
ในเวลานี้ผู้คนมากมายอย่างยิ่งก็ได้พลาดพลั้งเนื่องจากการกลับมาสกปรก
พวกเขาก็จะได้รับการลงโทษ 100 เท่า ลูกได้พบกับผู้นี้ในฐานะที่เป็นสื่อกลางแล้ว
ลูกต้องจดจำผู้เดียวนั้น บาบา(บราห์มา)พูดว่า ฉันเป็นลูกที่พิเศษของท่าน
แต่ฉันไม่สามารถสวมกอดท่านได้! อย่างน้อยที่สุดลูกสามารถที่จะพบกับท่านผ่านร่างนี้
แต่พ่อจะสามารถสวมกอดท่านได้อย่างไร? พ่อพูดว่า
ลูกๆจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นและรักท่านเท่านั้น
ลูกได้รับพลังด้วยการจดจำระลึกถึงนี้ พ่อคือผู้ทรงอำนาจ
เป็นไปจากพ่อที่ลูกได้รับพลังอย่างมากมาย
ลูกได้กลายเป็นผู้ที่มีพลังอย่างมากที่ไม่มีใครสามารถได้รับชัยชนะเหนืออาณาจักรของลูกได้
อาณาจักรของราวันจะจบสิ้น
ดังนั้นก็จะไม่มีใครที่นั่นหลงเหลืออยู่ที่จะเป็นเหตุของความทุกข์
นั้นถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความสุข
ราวันนั้นคือผู้ที่เป็นเหตุของความทุกข์สำหรับทุกคนในทั้งโลก
แม้แต่สัตว์นั้นก็มีประสบการณ์ของความทุกข์
ที่นั่นสัตว์นั้นก็อยู่ด้วยกันด้วยความรักอย่างมาก ที่นี่ไม่มีความรัก ลูกๆ
เข้าใจว่าละครนี้เฝ้าแต่หมุนไปอย่างไร เพียงพ่อเท่านั้นอธิบายความลับของตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของละคร บางคนศึกษาเล่าเรียนอย่างดีมาก
ในขณะที่ผู้อื่นศึกษาเล่าเรียนน้อยกว่า ทุกคนนั้นศึกษาเล่าเรียน
ทุกคนในทั้งโลกจะศึกษาเล่าเรียน นั่นคือ พวกเขาจะจดจำพ่อ
การจดจำพ่อคือการศึกษาเล่าเรียนด้วยเช่นกัน
พวกเขาจดจำพ่อนั้นในฐานะผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์สำหรับทุกคน
ผู้เดียวผู้ให้ความสุขแก่ทุกคน พวกเขาเรียกหา: มาและทำให้เราบริสุทธิ์เถิด!
ดังนั้นพวกเขาต้องไม่บริสุทธ์อย่างแน่นอน
ท่านมาเพียงเพื่อที่จะทำให้ผู้ที่มีกิเลสปราศจากกิเลสเท่านั้น ลูกเรียกหา: โอ
อัลล่าห์ มาและชำระเราให้บริสุทธิ์ นี้คือธุรกิจของท่าน เหตุนี้เองลูกเรียกหาท่าน
ภาษาของลูกนั้นก็ควรจะถูกต้องด้วย บ้างก็พูดคำว่า “อัลล่าห์”และบ้างก็พูดว่า “พระเจ้า”
และบางคนก็แม้แต่พูดว่า “พระเจ้า ผู้เป็นพ่อ”
สติปัญญาของผู้ที่มาในตอนสุดท้ายนั้นก็ยังคงดี
พวกเขาไม่ได้มีประสบการณ์ของความทุกข์มากนัก
เวลานี้ลูกกำลังนั่งที่นี่เป็นการส่วนตัว ลูกกำลังทำอะไร?
ลูกกำลังมองดูบาบาในหน้าผากของผู้นี้และแล้วบาบาก็มองดูในหน้าผากของลูก
พ่อจะสามารถมองเห็นผู้ที่พ่อเข้ามาในเขาหรือไม่? เขากำลังนั่งอยู่ถัดไปจากพ่อ
สิ่งนี้ต้องเป็นที่เข้าใจอย่างดีมาก พ่อกำลังนั่งถัดกันกับผู้นี้
ผู้นี้ก็เข้าใจด้วยเช่นกันว่าเขากำลังนั่งถัดกันกับพ่อ
ลูกพูดว่าลูกกำลังมองดูทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้าลูก ลูกเห็นทั้งสองดวงวิญญาณ:
บัพและดาดา เวลานี้ลูกมีความรู้ว่าใครที่ถูกเรียกว่าบัพดาดา ลูกๆ
ดวงวิญญาณกำลังนั่งเบื้องหน้าบัพดาดา ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
พวกเขาก็นั่งและรับฟังอย่างหลับตา ลูกไม่สามารถศึกษาเล่าเรียนในวิธีนั้นได้
ลูกต้องมองดูที่ครู ผู้เดียวนั้นคือพ่อพร้อมกันกับเป็นครู
และดังนั้นลูกต้องมองดูท่าน
หากลูกนั่งอยู่เบื้องหน้าท่านและหลับตาของลูกและเฝ้าแต่สัปหงก
ลูกไม่สามารถศึกษาเล่าเรียนในวิธีนั้นได้ นักเรียนต้องเฝ้ามองดูที่ครูอย่างแน่นอน
ไม่เช่นนั้นแล้ว ครูก็จะพูดว่า “เธอเฝ้าแต่สัปหงก เธอดื่มของมึนเมามาหรือ?”
อยู่ในสติปัญญาของลูกว่าบาบานั้นอยู่ในร่างนี้: ฉัน กำลังมองดูที่บาบา
พ่ออธิบายว่านี่ไม่ใช่ชั้นเรียนธรรมดาที่ลูกนั้นจะนั่งหลับตาของลูก
จะมีใครนั่งหลับตาอยู่ในโรงเรียนไหม? สัทสังอื่นๆนั้นก็ไม่ถูกเรียกว่าโรงเรียน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะนั่งและถ่ายทอดกีตะ สัทสังเหล่านั้นไม่ถูกเรียกว่าโรงเรียน
พวกเขาไม่ได้เป็นพ่อที่ลูกจำเป็นต้องมองดู
มีผู้เลื่อมใสศรัทธาของชีวาบางคนที่เฝ้าแต่จดจำชีวาขณะที่กำลังรับฟังเรื่องราวทางศาสนาด้วยหูของเขา
ผู้ที่กราบไหว้บูชาชีวาก็ต้องจดจำชีวาเท่านั้น
ไม่มีคำถามและคำตอบในสัทสังอื่นๆในขณะที่นี่มี ที่นี่ลูกสามารถหารายได้อย่างมาก
คือผู้ที่ไม่เคยหาวนอนขณะที่กำลังหารายได้
ลูกกลับมามีความสุขเมื่อลูกได้รับทรัพย์สมบัติ การหาวนอนคือสิ่งชี้บอกของความทุกข์
เป็นเพียงเมื่อใครบางคนนั้นเจ็บป่วยหรือได้อยู่อย่างล้มละลายที่เขานั้นเฝ้าแต่หาว
ลูกนั้นจะไม่มีวันหาวหากลูกเฝ้าแต่หารายได้ บาบาเคยเป็นนักธุรกิจ
เมื่อเรือเดินสมุทรมาถึงในตอนดึก เขาควรต้องอยู่อย่างตื่นอยู่ สุภาพสตรีบางคน(เจ้าหญิงแขก)ก็จะมาซื้อของที่ร้านในเวลากลางคืน
และดังนั้นร้านต้องคงเปิดอยู่เพียงเพื่อสตรี บาบาพูดว่า:
จัดนิทรรศการในวันเฉพาะสตรีเท่านั้น และผู้คนมากมายก็จะมา
แม้แต่ผู้ที่สวมผ้าคลุมหน้าก็จะมา ลูกสะใภ้นั้นก็ยังคงอยู่เบื้องหลังผ้าคลุมหน้า
พวกเธอนั้นจะอยู่หลังผ้าคลุมหน้าแม้ว่าเมื่อพวกเขาอยู่ในรถของพวกเขา
ที่นี่เป็นเรื่องของดวงวิญญาณ เมื่อลูกได้รับความรู้นี้
ผ้าคลุมหน้าของลูกก็ถูกเอาออกไป ในยุคทองไม่มีผ้าคลุมหน้าฯลฯใดเลย
ที่นี่ลูกได้รับความรู้นี้สำหรับหนทางของการครองเรือนที่บริสุทธิ์ อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
การละเล่นนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินอย่างมาก
บทบาทของความสุขและความทุกข์นั้นถูกกำหนดไว้แล้วในละครนี้
ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องของการร้องไห้หรือคร่ำครวญ
สติปัญญาของลูกควรจะจดจำว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นนั้นถูกกำหนดไว้แล้ว
ลูกไม่ควรจะคิดถึงสิ่งที่ได้ผ่านไปแล้ว
2.
นี่ไม่ใช่ชั้นเรียนธรรมดา ลูกไม่ควรนั่งที่นี่พร้อมกับปิดตาของลูก
แต่ควรที่เฝ้าแต่มองดูที่ครูที่อยู่เบื้องหน้าลูก ลูกต้องไม่หาวนอน
การหาวนอนคือสิ่งชี้บอกของความทุกข์
พร:
ขอให้ลูกประกาศสิทธิ์ในสามประกาศนียบัตรของความพอใจและสร้างผลกระทบด้วยชีวิตโยคีของลูกเป็นเช่นโยคีที่ง่ายดาย
ความพอใจเป็นเป้าหมายพิเศษในชีวิตโยคีของลูก
ผู้ที่อยู่อย่างพอใจอย่างสม่ำเสมอและทำให้ผู้อื่นพอใจนั้นสร้างผลกระทบแก่ผู้อื่นด้วยชีวิตโยคีของพวกเขาโดยอัตโนมัติ
เช่นที่เครื่องมือของวิทยาศาสตร์สร้างผลกระทบให้กับบรรยากาศ ดังนั้น
ด้วยชีวิตโยคีที่ง่ายดายก็สร้างผลกระทบด้วย
สามประกาศนียบัตรของชีวิตโยคีคือพอใจกับตนเอง
พอใจกับพ่อและพอใจกับครอบครัวทางโลกและครอบครัวทางจิตของลูก
คติพจน์:
ผู้ที่มีทิลักของอำนาจการปกครองตนเอง มีมงกุฎของการให้ประโยชน์โลก
และนั่งบนบัลลังก์ของสภาพของพวกเขาคือราชาโยคี