10.03.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
ลูกต้องศึกษาเล่าเรียนและสอนการศึกษานี้แก่มนุษย์เพื่อการกลายเป็นเทพ
แสดงให้ทุกคนเห็นหนทางไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
คำถาม:
อะไรคือสิ่งชี้บอกของผู้เพียรพยายามที่สะโตประธาน?
คำตอบ:
พวกเขาทำให้ผู้อื่นทัดเทียมกับตัวเขาเอง พวกเขาเฝ้าแต่ให้คุณประโยชน์แก่ผู้คนมากมาย
พวกเขาเติมย่าม(apron)ของพวกเขาด้วยสมบัติมากมายของความรู้นี้และให้ทานสมบัติเหล่านั้น
พวกเขาประกาศสิทธิ์ในมรดกเวลา 21
ชาติเกิดและทำให้ผู้อื่นสามารถประกาศสิทธิ์ด้วยเช่นกัน
เพลง:
ขอคารวะต่อชีวา…
โอมชานติ
ลูกๆ กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าผู้เดียวที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาให้การสรรเสริญ
ดังนั้นลูกควรจะมีความสุขอย่างมาก ลูกพูดกับท่านว่า: ขอคารวะต่อชีวา
อย่างไรก็ตามลูกไม่ต้องกราบไหว้ท่าน ลูกๆจดจำพ่อของพวกเขา
พวกเขาไม่กราบไหว้พ่อของเขา ผู้เดียวนั้นคือพ่อด้วยเช่นกัน ลูกได้รับมรดกจากท่าน
ลูกไม่ต้องกราบไหว้ท่าน ลูกจดจำท่าน ดวงวิญญาณในร่างกายจดจำท่าน
พ่อได้ยืมร่างกายนี้มาใช้
ท่านแสดงให้เราเห็นถึงวิธีที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากพ่อ
ลูกรู้ดีมากด้วยเช่นกันว่ายุคทองคือดินแดนแห่งความสุขและสถานที่ที่ดวงวิญญาณอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความสงบ
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่า: เราคือผู้อาศัยของดินแดนแห่งความสงบ
ยุคเหล็กนี้ถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความทุกข์อย่างแน่นอน
ลูกรู้ว่าเวลานี้เราดวงวิญญาณกำลังศึกษาเล่าเรียนเพื่อไปสวรรค์
เพื่อกลายเป็นเทพจากมนุษย์ ลักษมีและนารายณ์คือเทพ
ลูกต้องกลายเป็นเทพจากมนุษย์สำหรับโลกใหม่ ลูกกำลังศึกษาเล่าเรียนกับพ่อ
แต่ละคนก็ศึกษาเล่าเรียนในระดับที่แตกต่างกัน
ความพยายามของลูกบางคนนั้นเข้มข้นมากในขณะที่ความพยายามของคนอื่นนั้นหย่อนยาน
ผู้ที่เป็นผู้เพียรพยายามที่สะโตประธานสามารถทำให้ผู้อื่นเพียรพยายามตามลำดับกันไปเพื่อที่จะทำให้พวกเขาทัดเทียมกับตัวเขาเอง
พวกเขาให้คุณประโยชน์แก่ผู้คนมากมาย มากเท่าที่ลูกเติมย่าม(apron)ของลูกด้วยสมบัติมากมายนี้และให้ทานสิ่งนั้น
ก็จะมีคุณประโยชน์อย่างมากตามนั้น มนุษย์ให้ทาน
แล้วในชาติเกิดต่อไปพวกเขาก็ได้รับผลตอบแทนของสิ่งนั้นในช่วงเวลาสั้นๆ
ในสิ่งนั้นเช่นกัน
มีความสุขเล็กน้อยและที่เหลือคือความทุกข์และมีเพียงความทุกข์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามลูกได้รับความสุขของสวรรค์เป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ดูซิว่าความสุขของสวรรค์นั้นแตกต่างเพียงใดจากความทุกข์นี้
ลูกได้รับความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดในสวรรค์จากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
ผู้คนให้ทานและทำบุญในนามของพระเจ้า นั่นคือทางอ้อม
เวลานี้ลูกอยู่เบื้องหน้าท่านโดยตรง เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบาย:
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา หากผู้คนให้ทานและทำบุญในนามของพระเจ้า
และแล้วพวกเขาก็จะได้รับตอบแทนของสิ่งนั้นในชาติเกิดต่อไปของพวกเขา
หากบางคนทำบางสิ่งที่ดี เขาจะได้รับผลตอบแทนที่ดี
หากบางคนทำบางสิ่งที่ไม่ดีหรือทำบาปฯลฯ เขาจะได้รับผลตอบแทนของสิ่งนั้นตามนั้น
ที่นี่ในยุคเหล็กยังคงมีการทำบาปกันต่อไป ไม่มีการทำบุญเลย
อย่างมากที่สุดก็จะได้รับความสุขชั่วคราว
อย่างไรก็ตามลูกกลับมามีความสุขอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 21
ชาติเกิดในอนาคตของลูกในยุคทอง ชื่อนั้นคือดินแดนแห่งความสุข
ลูกสามารถเขียนในนิทรรศการว่านี่คือหนทางไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
นี่คือหนทางที่ง่ายดายที่จะไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
เวลานี้คือยุคเหล็ก นี่คือหนทางที่ง่ายดายสำหรับการไปจากยุคเหล็กไปสู่ยุคทอง
จากโลกที่ไม่บริสุทธิ์ไปสู่โลกที่บริสุทธิ์โดยไม่ใช้จ่ายแม้เปลือกหอย
และแล้วมนุษย์จะเข้าใจ เนื่องจากพวกเขามีสติปัญญาที่เป็นหิน
พ่อจึงทำให้ง่ายดายมากต่อการอธิบายให้แก่พวกเขา
ชื่อของสิ่งนั้นคือราชาโยคะที่ง่ายดายความรู้ที่ง่ายดาย พ่อทำให้ลูกๆรู้คิดอย่างมาก
ลักษมีและนารายณ์นั้นรู้คิด มีหลายสิ่งที่เขียนเกี่ยวกับศรีกฤษณะ
แต่พวกเขากล่าวหาว่าเป็นเท็จ ศรีกฤษณะพูดว่า: “แม่ ฉันไม่ได้กินเนย”
พวกเขาไม่เข้าใจแม้กระทั่งความหมายของ “ฉันไม่ได้กินเนย” และแล้วใครกิน?
เด็กถูกป้อนนม เด็กจะกินเนยหรือจะดื่มนม? ทุกสิ่งเหล่านั้นที่พวกเขาได้แสดงให้เห็น
เช่นการทำให้หม้อเนยแตกฯลฯ ไม่ได้เกิดขึ้น ที่จริงแล้วเขาคือเจ้าชายของสวรรค์คนแรก
การสรรเสริญเป็นของชีพบาบาผู้เดียวเท่านั้น ไม่มีใครในโลกได้รับการยกย่อง
เวลานี้ทุกคนไม่บริสุทธิ์ แต่ก็มีการยกย่องของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาด้วยเช่นกัน
ลูกประคำของผู้เลื่อมใสศรัทธาได้รับการจดจำ ในบรรดาผู้หญิงมีร่านั้นมีชื่อเสียง
ในบรรดาผู้ชายโดยทั่วไปนาราดได้รับการจดจำ
ลูกรู้ว่าหนึ่งนั้นคือลูกประคำของผู้เลื่อมใสศรัทธาและอีกหนึ่งนั้นคือลูกประคำของความรู้นี้
จากลูกประคำของผู้เลื่อมใสศรัทธา พวกเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของลูกประคำของรูดร้า
และแล้วลูกประคำของวิษณุก็ถูกสร้างขึ้นจากลูกประคำของรูดร้า
ลูกประคำของรูดร้าเป็นของยุคบรรจบพบกัน ความลับนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆ
พ่อนั่งอยู่ตรงหน้าลูกและอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
เมื่อลูกนั่งเบื้องหน้าบาบาโดยตรง ลูกควรจะมีขนลุก โอ้โฮ โชคร้อยเท่าของฉัน!
จากการเป็นผู้ที่ไม่มีโชคร้อยเปอร์เซ็นต์ เรากลายเป็นผู้ที่มีโชคร้อยเท่า
กุมารีไม่มีประสบการณ์ของดาบของตัณหาราคะ พ่อพูดว่า: นั่นคือดาบของตัณหาราคะ
ความรู้นี้ถูกเรียกว่าดาบด้วยเช่นกัน พ่อได้พูดว่า:
อาวุธของความรู้นี้ถูกแสดงไว้บนเหล่าเทพเจ้าอย่างเป็นอาวุธทางกายภาพ
เหล่านั้นคือสิ่งที่มีความรุนแรง
มนุษย์ไม่รู้ว่ากงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองนั้นคืออะไร
ด้วยการแสดงภาพศรีกฤษณะไว้ในคัมภีร์พร้อมกับกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
พวกเขาได้แสดงให้เห็นความรุนแรงและมีเพียงความก้าวร้าวรุนแรงเท่านั้น
ความจริงนั่นเป็นเรื่องของความรู้นี้
เวลานี้ลูกได้กลายเป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มีความรุนแรง
เวลานี้ลูกๆได้รับความรู้ของตนเองนั่นคือวงจร บาบาพูดว่า:
ลูกๆคือลูกที่เกิดจากปากของบราห์มา,
เป็นเครื่องประดับของสกุลบราห์มินและผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
เพียงลูกเท่านั้นที่เข้าใจความหมายของสิ่งนี้ ลูกมีความรู้นี้ของ 84
ชาติเกิดและวงจรโลก ในตอนเริ่มแรก ในยุคทองมีศาสนาของสุริยวงศ์และแล้วก็จันทราวงศ์
ทั้งสองยุครวมกันถูกเรียกว่าสวรรค์ ในบรรดาลูกๆ
สิ่งทั้งหมดเหล่านี้ตามลำดับกันไปในสติปัญญาของแต่ละคน
บาบาสอนลูกและลูกก็ศึกษาเล่าเรียนและกลับมาฉลาด
ในทำนองเดียวกันเวลานี้ลูกต้องนำคุณประโยชน์มาให้แก่ผู้อื่น
ลูกต้องกลายเป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
จนกระทั่งลูกกลับมาเกิดจากปากของบราห์มา
ไม่เช่นนั้นลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในมรดกจากชีพบาบาได้อย่างไร?
เวลานี้ลูกกลายเป็นบราห์มิน ลูกไม่ควรจะลืมว่าลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกจากชีพบาบา
จะจดประเด็นเหล่านี้ลงไป บันไดนี้เป็นของ 84 ชาติเกิด
เป็นสิ่งที่ง่ายที่จะลงบันไดมา เมื่อพวกเขาปีนบันไดขึ้นไป
ดูซิว่าพวกเขาปีนด้วยมือข้างหนึ่งที่กดด้านหลังตรงเอวของพวกเขาอย่างไร!
อย่างไรก็ตามมีลิฟต์ด้วยเช่นกัน เวลานี้บาบามาเพื่อให้ลิฟต์แก่ลูก
สภาพของการขึ้นนั้นได้รับในหนึ่งวินาที
เวลานี้ลูกๆควรจะมีความสุขว่านี่คือสภาพของการขึ้นของเรา
เราได้พบบาบาผู้เป็นที่รักที่สุดของเราแล้ว ไม่สามารถมีสิ่งใดที่น่ารักเท่ากับท่าน
ผู้รู้และซานยาสซีฯลฯ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนจดจำผู้เป็นที่รักเดียว
ทั้งหมดคือคู่รักของท่าน แต่ท่านคือใคร? พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเกี่ยวกับสิ่งนี้
พวกเขาเพียงแต่พูดว่า: ท่านอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
เวลานี้ลูกรู้แล้วว่าชีพบาบากำลังสอนเราผ่านผู้นี้ ชีพบาบาไม่มีร่างกายของท่านเอง
ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดหมายถึงพระเจ้าผู้ที่ชื่อของท่านคือชีวา
แต่ละดวงมีชื่อแยกต่างหากสำหรับร่างกายของพวกเขา
มีดวงวิญญาณสูงสุดเดียวเท่านั้นที่ถูกเรียกว่าชีวา
มนุษย์ได้ให้ชื่อต่างๆมากมายแก่ท่าน พวกเขาสร้างวัดที่หลากหลายให้กับท่าน
เวลานี้ลูกเข้าใจความหมายของสิ่งนั้นแล้ว ในบอมเบย์มีวัดให้กับบาบูลนาถ (บาบูรินาถ),
เจ้าแห่งหนาม เวลานี้ท่านเปลี่ยนลูกจากหนามให้เป็นดอกไม้ ลูกกลายเป็นนายของโลก
ดังนั้นสิ่งหลักแรกคือ: พ่อของดวงวิญญาณคือผู้เป็นหนึ่งเดียว
เป็นเพียงจากท่านเท่านั้นที่ผู้คนของบารัตได้รับมรดกนี้
ลักษมีและนารายณ์เป็นนายของบารัต พวกเขาไม่ได้มาจากประเทศจีน
หากพวกเขามาจากประเทศจีน รูปลักษณะของพวกเขาจะแตกต่างไป พวกเขาเป็นของบารัต
ในตอนเริ่มแรกดวงวิญญาณนั้นสวยงามและแล้วพวกเขาก็กลับมาน่าเกลียด
อัลลอยด์ปะปนเข้าไปในดวงวิญญาณ พวกเขากลับมาน่าเกลียด ตัวอย่างเกี่ยวกับพวกเขา
แมลงเม่าที่ส่งเสียงหึ่งๆเปลี่ยนมดและทำให้มันเท่ากับตัวมันเอง
ซันยาสซีเปลี่ยนแปลงอะไร?
พวกเขาทำให้ผู้ที่สวมเสื้อสีขาวมาสวมเสื้อสีส้มและโกนศีรษะของพวกเขา
อย่างไรก็ตามลูกได้รับความรู้นี้ ลูกจะกลับมาสวยงามเหมือนกับลักษมีและนารายณ์
เวลานี้แม้แต่ธรรมชาติก็ตาโมประธาน โลกนี้ตาโมประธานด้วยเช่นกัน
ธรรมชาติทำให้เกิดความเสียหาย มีพายุในท้องฟ้า
สิ่งเหล่านั้นก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย
ภัยพิบัติทางธรรมชาติและความปั่นป่วนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในโลกนี้เวลานี้มีความทุกข์ที่สุด ที่นั่นจะมีความสุขที่สุด
พ่อพาลูกไปจากความทุกข์ที่สุดไปสู่ความสุขที่สุด
การทำลายล้างโลกนี้เกิดขึ้นและแล้วทุกสิ่งก็กลับมาสะโตประธาน
เวลานี้ทำความเพียรพยายามและประกาศสิทธิ์ในมรดกมากเท่าที่ลูกต้องการจะได้รับจากพ่อ
ไม่เช่นนั้นแล้วลูกจะต้องเสียใจภายหลังในเวลาสุดท้าย “บาบามา
แต่เราไม่ได้ทำสิ่งใดเลย” ได้มีการเขียนไว้ว่า: เมื่อกองฟางถูกเผาไหม้
พวกเขาจะตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับใหลของกุมภกัณฑ์
และแล้วพวกเขาก็จะส่งเสียงร้องออกมาในความสิ้นหวังและตาย
หลังจากเสียงร้องแห่งความสิ้นหวัง ก็จะมีเสียงร้องแห่งชัยชนะ
มีความสิ้นหวังในยุคเหล็ก พวกเขายังคงฆ่ากันต่อไป ผู้คนมากมายจะตาย หลังจากยุคเหล็ก
และแล้วก็จะเป็นยุคทองอย่างแน่นอน ระหว่างทั้งสองยุคนั้นก็คือยุคบรรจบพบกัน
นี้ถูกเรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่มีสิริมงคล
พ่อแสดงวิธีการที่ดีที่จะกลับมาสะโตประธานจากตาโมประธานให้กับลูก ท่านพูดว่า:
เพียงแค่จดจำพ่อ! ลูกไม่ต้องทำสิ่งอื่นใด เวลานี้ลูกๆ
ไม่จำเป็นแม้กระทั่งต้องก้มศีรษะของลูกฯลฯ หากบางคนพนมมือเบื้องหน้าบาบา
บาบาก็จะพูดว่า: ลูก, ดวงวิญญาณไม่มีมือ พ่อก็ไม่มีมือเช่นกัน
ดังนั้นลูกกำลังพนมมือให้ใคร?
ไม่ควรจะมีแม้กระทั่งสัญลักษณ์เดียวของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาในยุคเหล็ก โอ้
ดวงวิญญาณ เหตุใดลูกจึงพนมมือเล่า? เพียงแค่จดจำฉันผู้เป็นพ่อ
การจดจำระลึกถึงไม่ได้หมายถึงการพนมมือ
มนุษย์แม้กระทั่งจะพนมมือของเขาให้กับดวงอาทิตย์
บางคนก็พนมมือของเขาให้กับมหาตมะด้วยเช่นกัน ลูกไม่จำเป็นต้องพนมมือของลูก
นี่คือร่างกายที่พ่อยืมมาใช้ หากบางคนพนมมือให้ลูก
ลูกต้องพนมมือของลูกให้เขาเป็นการตอบแทน ลูกต้องเข้าใจสิ่งนี้: ฉันคือดวงวิญญาณ
ฉันต้องกลับมาเป็นอิสระจากบ่วงพันธะของร่างกายนี้ เวลานี้เราจะกลับบ้านแล้ว
ดูเหมือนราวกับว่ามีการวางเฉยต่อร่างกายนี้
ร่างเก่านี้ต้องถูกทิ้งเช่นเดียวกับตัวอย่างของงู
แม้กระทั่งแมลงที่ส่งเสียงก็มีประสาทสัมผัสพอที่จะทำให้มดกลายเป็นแมลงที่ส่งเสียงได้
ลูกๆ
ต้องนำผู้ที่กำลังตะเกียกตะกายอยู่ในมหาสมุทรแห่งกิเลสและพาพวกเขาไปสู่มหาสมุทรแห่งน้ำนม
เวลานี้พ่อพูดว่า: ไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ
มนุษย์เพียรพยายามอย่างมากมายเพื่อความสงบ
ซันยาสซีไม่ได้รับการหลุดพ้นในชีวิตของสวรรค์ ใช่ พวกเขาได้รับการหลุดพ้น
พวกเขาเป็นอิสระจากความทุกข์และไปและนั่งในดินแดนแห่งความสงบ
ในตอนเริ่มแรกดวงวิญญาณลงมาสู่การหลุดพ้นในชีวิต
และแล้วต่อมาพวกเขาก็เข้าไปสู่ชีวิตของบ่วงพันธะ
ดวงวิญญาณสะโตประธานและแล้วพวกเขาก็ลงบันไดมา ในตอนแรกพวกเขาสัมผัสกับความสุข
และแล้วขณะที่ลงมาพวกเขาก็ต้องกลับมาตาโมประธาน
เวลานี้พ่อมาเพื่อพาทุกคนกลับบ้านอีกครั้ง พ่อพูดว่า:
จดจำพ่อและลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ พ่ออธิบายแล้วว่า: เมื่อมนุษย์จากร่างของพวกเขา
พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากของความยากลำบากเพราะพวกเขาต้องสัมผัสกับการลงโทษ
ตัวอย่างเช่นพวกเขาสังเวยตนเองบนดาบที่คาจีเนื่องจากพวกเขาได้ยินว่าด้วยการสังเวยตนเองต่อชีวา
คนนั้นจะได้รับการหลุดพ้น ลูกสังเวยตนเองในเวลานี้
ดังนั้นประเด็นเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไปในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาด้วยเช่นกัน
พวกเขาไปและสังเวยตนเองต่อชีวา เวลานี้พ่ออธิบายว่า: ไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ ใช่
พวกเขาสังเวยตนเองเช่นนั้นที่บาปของพวกเขาถูกตัดออกไป
และแล้วบัญชีก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เวลานี้ลูกรู้วงจรโลกนี้แล้ว
เวลานี้เป็นสภาพที่ตกต่ำลงของทุกคน พ่อพูดว่า:
พ่อมาและให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคน พ่อพาทุกคนกลับบ้าน
อย่างไรก็ตามพ่อจะไม่พาใครที่ไม่บริสุทธิ์ไปกับพ่อ ดังนั้น
ลูกจึงกลับมาบริสุทธิ์เพื่อที่เปลวไฟของลูกจะสามารถถูกจุดขึ้นมาได้
ในช่วงเวลาของการแต่งงาน พวกเขาจุดไฟในหม้อและวางไว้บนศีรษะของเจ้าสาว
ประเพณีนี้มีอยู่ในบารัตเท่านั้น
ไม่มีการจุดไฟในหม้อและวางไว้บนศีรษะของเจ้าบ่าวเนื่องจากมีการกล่าวถึงสามีว่าเขาคือพระเจ้า
และแล้วลูกจะจุดไฟให้พระเจ้าได้อย่างไร? พ่ออธิบาย: เปลวไฟของพ่อถูกจุดไว้แล้ว
พ่อจุดเปลวไฟของลูก พ่อถูกเรียกว่าเป็นเปลวไฟด้วยเช่นกัน ผู้คนของพราหมณ์-ซามาจีเชื่อในเปลวไฟ
เปลวไฟถูกจุดไว้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ พวกเขาจดจำสิ่งนั้นเท่านั้น
พวกเขาพิจารณาว่าสิ่งนั้นเป็นพระเจ้าเท่านั้น
และแล้วคนอื่นก็คิดว่าแต่ละเปลวไฟเล็กๆ(ดวงวิญญาณ)จะหลอมรวมเข้ากับเปลวไฟใหญ่(ดวงวิญญาณสูงสุด)
มีความคิดเห็นมากมาย พ่อพูดว่า: ศาสนาของลูกคือศาสนาที่ให้ความสุขมาก
ในสวรรค์ลูกเห็นความสุขมากมาย ในโลกใหม่ลูกกลายเป็นเทพ
การศึกษาของลูกเป็นไปสำหรับโลกใหม่อย่างแน่นอน การศึกษาอื่นทั้งหมดสำหรับที่นี่
ที่นี่ลูกต้องศึกษาเล่าเรียนและได้มาซึ่งสถานภาพในอนาคต ในกีตะเช่นกันก็สอนราชาโยคะ
และแล้วในเวลาสุดท้ายก็มีสงครามและไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่
ได้มีการแสดงสุนัขไว้กับพันดาวาส เวลานี้พ่อพูดว่า:
พ่อทำให้ลูกกลายเป็นเทพบุตรและเทพธิดา
ที่นี่มีมนุษย์ผู้ที่เป็นเหตุของความทุกข์ที่แตกต่างกันมากมายหลายประเภท
ด้วยการใช้ดาบของตัณหาราคะ มนุษย์สัมผัสกับความทุกข์อย่างมาก ดังนั้นเวลานี้ลูกๆ
ควรจะมีความสุขที่พ่อที่ไม่มีขีดจำกัด, มหาสมุทรแห่งความรู้กำลังสอนเรา
ท่านคือผู้เป็นที่รักที่สุดในบรรดาผู้ที่เป็นที่รักทั้งหมด
เราคู่รักจดจำท่านเป็นเวลาครึ่งวงจร ลูกเฝ้าแต่จดจำท่าน พ่อพูดว่า:
เวลานี้พ่อมาแล้ว ทำตามคำแนะนำของพ่อ
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำฉันผู้เป็นพ่อและไม่มีใครอื่น
หากลูกไม่มีการจดจำระลึกถึงพ่อ บาปของลูกจะไม่ถูกเผาไป
เฝ้าแต่ขอคำแนะนำจากศัลยแพทย์เกี่ยวกับทุกสิ่งต่อไป บาบาจะแนะนำลูก:
ทำตามความรับผิดชอบของลูกในลักษณะนี้
หากลูกทำตามคำแนะนำแล้วลูกจะได้รับหลายล้านในทุกย่างก้าว เมื่อลูกทำตามคำแนะนำ
ความรับผิดชอบของลูกจะจบสิ้น อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน และเวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกของความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดของลูกจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
จงให้ทานและทำบุญในนามของพระเจ้าโดยตรง เติมเต็มย่าม(apron)ของลูกด้วยสมบัติของความรู้นี้และให้ทานสิ่งนั้นแก่ทุกคน
2.
ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลนี้
ปลดปล่อยตนเองจากบ่วงพันธะทั้งหมดและกลับมาหลุดพ้นในชีวิต
เป็นเหมือนแมลงที่ส่งเสียงและทำงานรับใช้ของการทำให้ผู้อื่นให้ทัดเทียมกับตัวลูกเอง
พร:
ขอให้ลูกมีพลังโดยการมีประสบการณ์ของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด
และดังนั้นจึงกลายเป็นตัวของความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ที่เป็นภาพลักษณ์ของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดจะมีพลัง
มีเพียงดวงวิญญาณที่มีพลังเช่นนี้เท่านั้นที่มีประสบการณ์ของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดและกลายเป็นตัวแห่งความสำเร็จ
เวลานี้ทุกดวงวิญญาณของโลกกำลังประหลาดใจว่าดวงวิญญาณที่เป็นนายแห่งความสุขและความสงบอยู่ที่ไหน
เมื่อลูกมีสต๊อคของพลังทั้งหมดลูกจะสามารถทำให้ทุกคนพอใจได้
ทุกวันนี้ลูกสามารถได้รับทุกสิ่งจากร้านค้าเพียงร้านเดียว
ดังนั้นลูกต้องกลายเป็นเช่นเดียวกัน อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ใครบางคนมีพลังความอดทน
แต่ไม่มีพลังในการเผชิญ ลูกจำเป็นต้องมีสต๊อคของพลังทั้งหมด
และแล้วเพียงเท่านี้ลูกจะสามารถกลายเป็นตัวแห่งความสำเร็จ
คติพจน์:
กฎเกณฑ์ระเบียบวินัยคือย่างก้าวของชีวิตบราห์มิน
การวางรอยเท้าของลูกไว้ในรอยเท้าของพ่อหมายถึงการเข้าใกล้จุดหมายปลายทางของลูก
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
การนำวัฒนธรรมแห่งสัจจะและมารยาทอันดีงามมาใช้
ทุกวันนี้
เด็กบางคนพูดภาษาพิเศษ
พวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่สามารถทนเห็นหรือได้ยินสิ่งที่เป็นเท็จได้
เหตุนี้เองเมื่อพวกเขาเห็นหรือได้ยินบางสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
พวกเขาจึงกลายเป็นคนแข็งกร้าวมาก อย่างไรก็ตาม หากคนอื่นพูดเท็จ
แต่ลูกกลับพูดแข็งกร้าวเมื่อเห็นว่าสิ่งนั้นเท็จ
และแล้วความแรงของลูกก็เป็นเท็จด้วย เพื่อที่จะจบสิ้นการพูดเท็จประเภทใดก็ตาม
จงสร้างสมพลังแห่งสัจจะภายในตัวลูก