10.12.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน บุญเริ่มต้นที่บ้าน
นั่นหมายความว่าก่อนอื่นลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณแล้วบอกผู้อื่น
เมื่อลูกให้ความรู้แก่ผู้อื่น ในขณะที่พิจารณาว่าตัวลูกเองว่าเป็นดวงวิญญาณ
ดาบของความรู้จะเต็มไปด้วยพลัง
คำถาม:
ด้วยการเพียรพยายามในสองประเด็นใดในยุคบรรจบพบกันที่ลูกจะกลายเป็นนายของบัลลังก์ยุคทอง?
คำตอบ:
1.เพียรพยายามที่จะรักษาสภาพของการมีจิตใจที่มั่นคงในความสุขและความทุกข์
และในคำสรรเสริญและการประณาม ถ้าใครพูดสิ่งที่ผิดหรือโกรธก จงเงียบไว้
ห้ามไปตบมือด้วยปาก (คือ ห้ามตอบโต้ด้วยคำพูด)
2.ทำให้ตาของลูกมีอารยะ ดวงตาเยี่ยงอาชญากรควรจบสิ้นลงอย่างสิ้นเชิง
พวกเราดวงวิญญาณเป็นพี่น้องเพศชาย
ให้ความรู้แก่ผู้อื่นในขณะที่คิดว่าพวกเขาเป็นดวงวิญญาณเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและลูกจะกลาย
เป็นนายของบัลลังก์ยุคทอง
เพียงผู้ที่กลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์เท่านั้นที่จะได้นั่งบนบัลลังก์นั้น
โอมชานติ
พ่อทางจิตพูดกับลูกๆ ทางจิต ลูกๆ
ดวงวิญญาณได้รับดวงตาที่สามที่สามารถเรียกได้ว่าดวงตาแห่งความรู้เช่นกัน
ลูกเห็นพี่น้องของลูกด้วยดวงตานี้
ลูกเข้าใจด้วยสติปัญญาของลูกว่าเมื่อลูกเห็นผู้อื่นเป็นพี่น้องเพศชาย
อวัยวะประสาทสัมผัสของลูกจะเลิกสร้างความซุกซน. เมื่อลูกทำสิ่งนี้ต่อไป
ดวงตาที่กลายเป็นอาชญากรจะกลับมามีอารยะ พ่อพูดว่า:
ลูกจะต้องทำความเพียรพยายามบางอย่างเพื่อที่จะกลายเป็นนายของโลก!
ดังนั้นจงทำความเพียรพยายามในขณะนี้ ในการที่ลูกจะทำความเพียรพยายาม
บาบาได้ให้ประเด็นใหม่ๆและลึกซึ้งแก่ลูกทุกวัน
ดังนั้นเวลานี้จงปลูกฝังนิสัยของการให้ความรู้แก่ผู้อื่นในขณะที่พิจารณาว่าพวกเขาเป็นพี่น้อง
แล้วคำพูดที่ว่า “เราทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน” จะกลายเป็นจริงในทางปฏิบัติ
ขณะนี้ลูกเป็นพี่น้องที่แท้จริงเพราะลูกรู้จักพ่อของลูก พ่อทำงานรับใช้พร้อมกับลูกๆ
เมื่อลูกๆ รักษาความกล้าหาญ พ่อให้ความช่วยเหลือ
ดังนั้นพ่อมาและให้ความกล้าหาญแก่ลูกในการทำงานรับใช้
ดังนั้นนี่เป็นสิ่งที่ง่ายดายใช่ไหม? ลูกจะต้องฝึกฝนสิ่งนี้ทุกวัน; เลิกเกียจคร้าน
ลูกๆ ได้รับประเด็นใหม่ๆเหล่านี้ ลูกๆ รู้ว่าบาบากำลังสอนลูกพี่น้องเพศชาย
ดวงวิญญาณกำลังศึกษาความรู้ทางจิตวิญญาณนี้ นี่เรียกว่าความรู้ทางจิต
เพียงเวลานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับความรู้ทางจิตจากพ่อทางจิต
เพราะท่านมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นเมื่อโลกต้องเปลี่ยนแปลง
เมื่อโลกต้องเปลี่ยนแปลงที่ลูกจะได้รับความรู้ทางจิตนี้
พ่อมาและให้ความรู้ทางจิตแก่ลูก พิจารณาว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณ
ลูกดวงวิญญาณมาอย่างปราศจากร่าง แล้วต่อจากนั้นลูกได้รับร่างกายที่นี่ ลูกใช้ 84
ชาติเกิดตั้งแต่ตอนเริ่มต้น เช่นเดียวกับที่ลูกลงมาตามลำดับ
ในทำนองเดียวกันลูกก็เพียรพยายามในความรู้และโยคะตามลำดับ
หลังจากจากนั้นก็จะเห็นว่าความเพียรพยายามอะไรที่ลูกแต่ละคนได้ทำในวงจรก่อที่แล้วและกำลังทำอีกครั้งในลักษณะเดียวกันเวลานี้
ลูกแต่ละคนต้องเพียรพยายามเพื่อตัวเอง ลูกจะไม่เพียรพยายามเพื่อใครอื่น
ลูกต้องเพียรพยายามเพื่อตัวเองโดยพิจารณาว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณ
สิ่งที่ผู้อื่นกำลังทำอยู่สำคัญอะไรกับลูก? “การทำบุญเริ่มต้นที่บ้าน”
หมายความว่าตัวลูกเองต้องเพียรพยายามก่อนแล้วจึงขอให้ผู้อื่น (พี่น้องของลูก)
ทำเช่นเดียวกัน เมื่อลูกคิดว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณก่อน
แล้วให้ความรู้แก่ดวงวิญญาณ ดาบแห่งความรู้ของลูกจะเต็มไปด้วยพลัง
สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายาม ดังนั้นลูกต้องอดทนกับบางสิ่งอย่างแน่นอน
ในเวลานี้ที่มีความสุขและความทุกข์ ความเคารพและความไม่เคารพ
การสรรเสริญและการประณามทั้งหมดนี้จะต้องอดทนเล็กน้อย
เมื่อใดก็ตามที่ใครก็ตามพูดผิดก็จงเงียบไว้ เมื่อคนหนึ่งนิ่งเงียบ
อีกคนหนึ่งจะไม่สามารถโกรธได้
เมื่อคนหนึ่งพูดบางสิ่งและอีกคนตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน นั่นก็เหมือนการตบมือด้วยปาก
ถ้าคนหนึ่งพูดอะไรบางอย่าง แต่อีกคนยังคงเงียบ ทุกสิ่งก็จะเงียบลง
นี่คือสิ่งที่พ่อสอน เมื่อใดก็ตามที่ลูกเห็นใครบางคนโกรธ
เพียงแค่อยู่อย่างนิ่งเงียบ และความโกรธของคนนั้นก็จะเย็นลงโดยอัตโนมัติ
แล้วจะไม่มีการตบมือใด(การตอบโต้) เมื่อมีการตอบโต้บางอย่างก็จะเกิดความขัดแย้ง
และด้วยเหตุนี้เองที่พ่อพูดว่า: ลูกๆ ห้ามตอบโต้ในทำนองเดียวกันในเรื่องเช่นนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกิเลสของตัณหาราคะหรือความโกรธ ลูกๆ
จะต้องให้คุณประโยชน์แก่ทุกคน เพราะเหตุใดต้องสร้างศูนย์มากมาย?
ศูนย์เช่นนั้นจะต้องถูกก่อตั้งขึ้นในวงจรก่อนหน้านี้เช่นกัน พ่อ
เทพแห่งเทพทั้งหลายยังคงเห็นว่าลูกๆ มากมายสนใจที่จะเปิดศูนย์อยู่เรื่อยๆ
พวกเขาพูดว่า: ฉันจะเปิดศูนย์และจะจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ในแต่ละวันมันจะยังคงเกิดขึ้นเช่นนั้นเรื่อยๆเพราะเมื่อถึงเวลาของการทำลายล้างใกล้เข้ามา
ความสนใจในงานรับใช้ประเภทนี้จะเพิ่มขึ้น บัพและดาดาขณะนี้อยู่ด้วยกัน
ดังนั้นท่านทั้งสองกำลังมองดูลูก
แต่ละคนเพื่อดูว่าลูกกำลังทำความเพียรพยายามอะไรและลูกจะได้รับสถานภาพใด
ความเพียรพยายามของบางคนอยู่ในระดับสูงสุด
ของคนอื่นปานกลางและของบางคนอยู่ในระดับต่ำสุด สิ่งนี้สามารถมองเห็นได้
ในโรงเรียนเช่นกันครูจะเห็นว่าวิชาใดที่นักเรียนมีสภาพที่ขึ้นๆลงๆ
ที่นี่ก็เหมือนกัน
ลูกบางคนให้ความใส่ใจเป็นอย่างดีและแล้วพวกเขาจึงคิดว่าตนเองสูงสุด
บางครั้งพวกเขาทำผิดและไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึง ดังนั้นพวกเขาคิดว่าตนเองต่ำมาก
นี่คือโรงเรียน ลูกๆ พูดว่า: บาบา บางครั้งฉันมีความสุขมาก แต่ในบางเวลา
ความสุขของฉันก็ลดลง ดังนั้นบาบาเฝ้าแต่อธิบายว่า: ถ้าลูกต้องการมีความสุข จงกลับมา
“มานมานะบาฟ”! พิจารณาตัวลูกเองว่าเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ!
เช่นที่ลูกมองดูดวงวิญญาณสูงสุดอยู่เบื้องหน้าลูก
และลูกเห็นว่าท่านกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์อมตะ ในทำนองเดียวกัน
ให้มองดูพี่น้องของลูกในขณะที่คิดว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณ แล้วจึงพูดคุยกับพวกเขา
ฉันกำลังให้ความรู้แก่พี่น้องชายของฉัน ไม่ใช่พี่น้องหญิง แต่เป็นพี่น้องชาย
ลูกกำลังให้ความรู้แก่ดวงวิญญาณ
เมื่อลูกปลูกฝังนิสัยนี้สายตาที่เป็นอาชญากรที่หลอกลวงลูกจะค่อยๆ หยุดลง
ดวงวิญญาณจะทำอะไรกับดวงวิญญาณได้? เป็นเมื่อมีสำนึกที่เป็นร่างที่ลูกตกลง
หลายคนพูดว่า: บาบา ดวงตาของฉันเป็นอาชญากร อัจชะ ในกรณีเช่นนั้น
ขณะนี้จงทำให้ดวงตาที่เป็นเช่นอาชญากรของลูกมีอารยะธรรม
พ่อยังคงให้ดวงตาที่สามแก่ลูกดวงวิญญาณต่อไป
เมื่อลูกมองดูทุกสิ่งด้วยดวงตาที่สามของลูก
นิสัยของการมองดูที่ร่างกายของลูกจะจบสิ้นลง
บาบายังคงให้คำแนะนำสั่งสอนแก่ลูกอย่างต่อเนื่อง ท่านพูดสิ่งเดียวกันกับผู้นี้ (บราห์มา)
บาบานี้ก็ยังต้องมองดูดวงวิญญาณในร่างกายเช่นกัน
ดังนั้นสิ่งนี้จึงเรียกว่าความรู้ทางจิต ดูซิว่าสถานภาพที่ลูกได้รับสูงส่งเพียงใด!
เป็นสถานภาพที่ทรงพลังอย่างมาก ดังนั้น ลูกต้องทำความเพียรพยายามตามนั้นด้วยเช่นกัน
บาบาเข้าใจดีว่าความเพียรพยายามของทุกคนจะเหมือนกันกับวงจรที่แล้ว
บางคนจะกลายเป็นราชาและราชินี และบางคนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชา ดังนั้น
เมื่อลูกนำการฝึกจิตสำหรับทุกคนโดยเฉพาะและคิดว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณในขณะที่มองดูดวงวิญญาณอื่นๆที่กลางหน้าผาก
งานรับใช้ที่ลูกทำจะดีมาก
ผู้ที่นั่งอยู่ที่นี่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณจะมองที่ดวงวิญญาณเท่านั้น
ฝึกฝนสิ่งนี้อย่างมาก ถ้าลูกต้องการประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
ลูกต้องทำความเพียรพยายามบางอย่าง นี่คือความเพียรพยายามเดียวที่ลูกดวงวิญญาณต้องทำ
ลูกจะได้รับความรู้ทางจิตวิญญาณนี้เพียงครั้งเดียว; ลูกไม่สามารถได้รับในเวลาอื่นใด
ไม่สามารถได้รับในยุคเหล็กหรือยุคทอง ได้รับในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น
และในสิ่งนั้นด้วยเช่นกันมีเพียงบราห์มินเท่านั้นที่ได้รับสิ่งนี้
จงจดจำสิ่งเหล่านี้อย่างมั่นคงมาก
เมื่อลูกกลายเป็นบราห์มินก่อนเท่านั้นลูกจึงสามารถกลายเป็นเทพได้
ลูกจะสามารถกลายเป็นเทพได้อย่างไรถ้าลูกไม่ได้กลายเป็นบราห์มิน?
เป็นเพียงในยุคบรรจบพบกันนี้เท่านั้นที่ลูกต้องทำความเพียรพยายามนี้
จะไม่มีในเวลาอื่นใดที่จะมีการพูดว่า:
จงพิจารณาว่าตนองเป็นดวงวิญญาณและคิดว่าผู้อื่นเป็นดวงวิญญาณเช่นกันเมื่อลูกให้ความรู้แก่พวกเขา
ไตร่ตรองทุกสิ่งที่พ่ออธิบายแก่ลูก ตัดสินด้วยตนเองว่าสิ่งนี้ถูกต้องหรือไม่
สิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อลูกหรือไม่
แล้วลูกจะปลูกฝังนิสัยในตนเองของการให้คำสอนแก่พี่น้องเพศชายของลูก
ที่พ่อได้ให้แก่ลูก ต้องให้ความรู้เหล่านี้แก่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะต้องให้แก่ดวงวิญญาณ
เป็นดวงวิญญาณที่กลายเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง พี่ชายน้องชาย หรือพี่สาวน้องสาว
พ่อพูดว่า: พ่อให้ความรู้แก่ลูก พ่อมองดูที่ลูกๆ และเห็นดวงวิญญาณ
และลูกดวงวิญญาณก็เข้าใจว่าดวงวิญญาณสูงสุดผู้ซึ่งเป็นพ่อของลูกกำลังให้ความรู้นี้แก่ลูก
นี่เรียกว่าการมีสำนึกเป็นจิตวิญญาณ สิ่งนี้เรียกว่า“การให้และการรับความรู้ทางจิตของดวงวิญญาณสูงสุดกับดวงวิญญาณทั้งหลาย”
พ่อสอนลูกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีผู้มาเยี่ยมเยือน ฯลฯ
ลูกต้องพิจารณาว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณและให้คำแนะนำของพ่อแก่ดวงวิญญาณนั้น
ดวงวิญญาณไม่ใช่ร่างกายที่มีความรู้ ดังนั้น จงให้ความรู้แก่ผู้นั้น
ในขณะที่พิจารณาว่าพวกเขาเป็นดวงวิญญาณ
เมื่อลูกทำสิ่งนี้พวกเขาจะสนุกไปกับสิ่งนั้นด้วยเช่นกัน จะมีพลังในคำพูดของลูก
เพราะลูกกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ดาบของความรู้ของลูกจะเต็มไปด้วยพลัง
ดังนั้นฝึกฝนสิ่งนี้และดูตัวเอง! บาบาพูดว่า:
ตัดสินด้วยตัวลูกเองว่าสิ่งนี้ถูกต้องหรือไม่ สิ่งนี้ไม่มีอะไรใหม่สำหรับลูกๆ
เพราะพ่ออธิบายทุกสิ่งอย่างง่ายดายมาก
ลูกได้วนไปรอบวงจรและตอนนี้การละเล่นกำลังมาถึงตอนจบ
ขณะนี้ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงบาบา
ลูกกำลังกลับมาสะโตประธานจากตาโมประธานเพื่อที่จะกลายเป็นนายของโลกที่สะโตประธาน
หลังจากนั้นลูกจะลงบันไดมาอีกครั้งในลักษณะเดียวกัน
ดูสิว่าท่านอธิบายด้วยวิธีที่ง่ายดายเพียงใด พ่อต้องมาทุกๆ 5,000 ปี
พ่อถูกผูกไว้ตามแผนของละคร พ่อมาและสอนลูกๆ
การจาริกแสวงบุญแห่งของการจดจำระลึกถึงนี้ง่ายดายมาก ด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อ
ความคิดสุดท้ายของลูกจะนำลูกไปสู่จุดหมายปลายทาง สิ่งนี้หมายถึงเวลานี้
นี่คือช่วงเวลาสุดท้าย เวลานี้ที่พ่อนั่งที่นี่และแสดงหนทางให้แก่ลูก ท่านพูดว่า:
จดจำฉันอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นแล้วลูกจะได้รับการหลุดพ้น ลูกๆ
เข้าใจว่าพวกเขาจะกลายเป็นอะไรจากการศึกษาเล่าเรียน ที่นี่เช่นกัน
ลูกเข้าใจว่าลูกจะไปและกลายเป็นเทพในโลกใหม่ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด
พ่อพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า: ไม่มีอะไรใหม่! ลูกขึ้นไปและลงบันไดมา
มีเรื่องราวของจินนี่: เขาได้รับงานของการขึ้นและลงบันได
การละเล่นนี้เกี่ยวกับการขึ้นไปและการลงมา ด้วยการจาริกแสวงบุญของการจดจำระลึกถึง
ลูกจะกลับมาเข้มแข็งมาก ดังนั้นพ่อนั่งที่นี่และสอนลูกๆ ในวิธีต่างๆและพูดว่า:
ขณะลูกๆ จงกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ขณะนี้ทุกคนต้องกลับบ้าน
ลูกดวงวิญญาณได้กลับมาตาโมประธานในขณะที่ใช้ 84 ชาติเกิดเต็ม
เป็นชาวบารัตที่ผ่านสภาพของสาโท ราโจ และตาโม
ไม่มีคนในชาติอื่นใดที่สามารถกล่าวได้ว่าใช้ 84 ชาติเกิดเต็ม
พ่อมาและบอกลูกว่าทุกคนมีบทบาทของเขาที่จะแสดง ดวงวิญญาณมีขนาดเล็กมาก!
นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าบทบาทที่ไม่ดับสูญถูกบันทึกไว้ในดวงวิญญาณที่เล็กมากเช่นนี้ได้อย่างไร
นี่คือประเด็นที่น่าอัศจรรย์ที่สุด! ดวงวิญญาณนั้นเล็กมาก
แต่ดูว่าเขามีบทบาทที่ใหญ่แค่ไหน! และนั่นก็ไม่ดับสูญเช่นกัน!
ละครนี้ไม่ดับสูญและถูกกำหนดไว้แล้วเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าใครจะถามว่าละครสร้างขึ้นมาเมื่อใด ไม่เลย; นี่คือธรรมชาติ
ความรู้นี้น่าอัศจรรย์มาก ไม่มีใครอื่นสามารถให้ความรู้นี้ได้
ไม่มีใครอื่นมีพลังที่จะให้ความรู้นี้ ดังนั้น พ่ออธิบายให้แก่ลูกๆ ทุกวัน
ขณะนี้จงฝึกปฏิบัติ : ฉันกำลังให้ความรู้แก่ดวงวิญญาณพี่น้องเพศชายของฉัน
เพื่อที่จะทำให้เขาเป็นเหมือนตัวฉันเอง
เขาต้องประกาศสิทธิ์ในมรดกของเขาจากพ่อเช่นกันเพราะทุกดวงวิญญาณมีสิทธิ์
บาบามาให้มรดกของความสงบและความสุขแก่ดวงวิญญาณทั้งหมด
เมื่อเราอยู่ในอาณาจักรของเราพวกเรา ดวงวิญญาณอื่นทั้งหมดจะอยู่ในดินแดนแห่งความสงบ
แล้วจะมีเสียงร้องแห่งชัยชนะ เมื่อเราอยู่ที่นั่นก็จะมีแต่ความสุขเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เองพ่อพูดว่า: จงกลับมาบริสุทธิ์!
ยิ่งลูกมีความบริสุทธิ์มากแค่ไหนการดึงดูดก็ยิ่งมากเท่านั้น
เมื่อลูกกลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์เท่านั้นที่ลูกจะได้นั่งบนบัลลังก์
ดังนั้นฝึกฝนสิ่งนี้! ห้ามคิดว่าลูกได้ยินสิ่งนั้น
และเพียงแค่ปล่อยให้ออกไปจากหูอีกด้านหนึ่ง ไม่เลย
ลูกไม่สามารถทำต่อไปโดยไม่มีการฝึกฝนการพิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณในขณะที่นั่งและอธิบายให้แก่ผู้อื่นซึ่งเป็นดวงวิญญาณพี่น้องเพศชายของลูก
พ่อทางจิตอธิบายแก่ลูกๆทางจิต สิ่งนี้เรียกว่าความรู้ทางจิต
พ่อทางจิตคือผู้ให้สิ่งนี้ เมื่อลูกกลับมาเป็นจิตวิญญาณและบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
ลูกจะกลายเป็นนายของบัลลังก์ยุคทอง
ผู้ที่ไม่กลับมาบริสุทธิ์ก็จะไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งของลูกประคำ
จะต้องมีนัยสำคัญบางอย่างในลูกประคำ ไม่มีใครอื่นรู้ถึงความลับของลูกประคำ
เพราะเหตุใดผู้คนจึงหมุนลูกปัดของลูกประคำ? เป็นเพราะลูกได้ช่วยพ่ออย่างมากมาย
แล้วเหตุใดลูกจะไม่ได้รับการจดจำล่ะ?
ลูกได้รับการจดจำและลูกเคยได้รับการกราบไหว้บูชาด้วยเช่นกัน;
แม้กระทั่งร่างกายของลูกก็ได้รับการกราบไหว้ อย่างไรก็ตามสำหรับพ่อเอง
นั่นเป็นเพียงดวงวิญญาณที่ได้รับการกราบไหว้ ดูซิลูกได้รับการกราบไหว้ในสองทาง –
ยิ่งกว่าพ่อเสียอีก! เมื่อลูกกลายเป็นเทพ ลูกได้รับการกราบไหว้ในฐานะที่เป็นเทพ (ในภายหลัง)
เหตุนี้เองลูกถึงนำหน้าพ่อในการได้รับการกราบไหว้บูชา
ลูกนำหน้าในการมีอนุสรณ์ของลูก และลูกนำหน้าในการได้รับอาณาจักรของลูกด้วยเช่นกัน
ดูสิว่าพ่อทำให้ลูกสูงส่งมากแค่ไหน! มีความรักอย่างมากสำหรับลูกที่น่ารัก
ลูกเหล่านั้นนั่งอยู่บนไหล่หรือบนศีรษะ บาบาวางลูกๆ ไว้ด้านบนของศีรษะ อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทาจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะกลับมามีค่าควรค่าแก่การยกย่องและมีค่าควรแก่การจดจำ จงกลายเป็นจิตวิญญาณ
ทำให้ตนเองเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ เพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
2.
อยู่ในความสุขที่ไร้ที่สิ้นสุดด้วยการฝึกฝน“มานมานะบาฟ”
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและพูดคุยกับดวงวิญญาณ ทำให้ดวงตาของลูกมีอารยธรรม
พร:
ขอให้ลูกเป็นโยคีที่สมบูรณ์และด้วยสภาพของการเป็นนายผู้สร้างสัมผัสประสบการณ์ภัยพิบัติให้เป็นความบันเทิง
เมื่อลูกอยู่อย่างมั่นคงในสภาพของการเป็นนายผู้สร้าง
ภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะได้รับประสบการณ์ว่าเป็นฉากแห่งความบันเทิง
เช่นเดียวกับที่ลูกแสดงให้เห็นว่าภัยพิบัติแห่งการทำลายล้างจะเป็นเครื่องมือในการเปิดประตูสู่สวรรค์
ในทำนองเดียวกัน ให้มองปัญหาเล็กๆ น้อยๆ หรือปัญหาใหญ่ หรือภัยพิบัติใดๆ
ว่าเป็นรูปแบบของความบันเทิง แทนที่จะเป็นเสียงร้องของความทุกข์ (ไฮไฮ)
แต่จงทำให้คำพูดที่น่าอัศจรรย์ใจ (โอ้โฮ) ปรากฏออกมา
ทำให้ความทุกข์สัมผัสได้ในรูปของความสุข
ในขณะที่มีความรู้เกี่ยวกับความสุขและความทุกข์ ห้ามรับอิทธิพลจากสิ่งเหล่านี้
พิจารณาความทุกข์ว่าจะเป็นการมาของวันเวลาแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่ของลูก
แล้วลูกจะถูกเรียกว่าโยคีที่สมบูรณ์
คติพจน์:
การออกจากบัลลังก์หัวใจและมีความคิดที่ธรรมดาหมายถึงการวางเท้าของลูกบนพื้นดิน
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เวลานี้ให้มีความใส่ใจอย่างลึกล้ำที่จะกลับมาสมบูรณ์พร้อมและอยู่เหนือบ่วงกรรม
ขณะทำสิ่งต่างๆ
จงมีความเบาสบายทั้งในร่างกายและจิตใจของลูก
ห้ามปล่อยให้จิตใจถูกดึงด้วยผลของการกระทำใดๆ ไม่ว่างานจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน
ให้เพิ่มความเบาสบายมากขึ้นตามนั้น ห้ามปล่อยให้การกระทำใดๆ ดึงรั้งลูก
แต่จงเป็นนาย ด้วยการรู้ว่าผู้ที่ให้แรงบันดาลใจลูกกำลังทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
และผู้ที่ลงมือทำนั้นกำลังทำสิ่งนั้นอย่างเป็นเครื่องมือ จงเพิ่มการฝึกฝนนี้
และลูกจะกลับมาสมบูรณ์พร้อมและอยู่เหนือบ่วงกรรมได้อย่างง่ายดาย