11.01.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน โยคะนี้เป็นเหมือนไฟที่เผาบาปทั้งหมดของลูกและทำให้ลูกดวงวิญญาณสะโตประธาน ดังนั้นอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียว

คำถาม:
ลูกกำลังจะกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ ดังนั้นลูกต้องระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งใด?

คำตอบ:
ลูกต้องระมัดระวังอย่างมากกับผู้ที่ลูกให้เงินแก่พวกเขา หากลูกให้เงินแก่ใครบางคนและเขาใช้เงินนั้นกับการดื่มสุราหรือทำสิ่งที่ไม่ดีด้วยเงินนั้น บาปของสิ่งนั้นจะตกอยู่กับลูก ลูกต้องไม่ให้และรับกับดวงวิญญาณบาปอีกต่อไป ลูกต้องทำให้ตนเองเป็นดวงวิญญาณบุญที่นี่

เพลง:
ท่านจะไม่แยกห่างจากเราและเปลวไฟแห่งความรักที่เรามีต่อท่านจะไม่มีวันตาย

โอมชานติ
โยคะนี้เรียกได้เช่นกันว่าเป็นไฟของการจดจำระลึกถึง ไฟของโยคะหมายถึงไฟของการจดจำระลึกถึง เหตุใดจึงใช้คำว่า “ไฟ” เพราะลูกเผาบาปของลูกไปด้วยสิ่งนั้น เพียงลูกๆ เท่านั้นที่รู้วิธีที่จะกลับมาสะโตประธานจากตะโมประธาน การเป็นผู้ที่สะโตประธานหมายถึงการเป็นดวงวิญญาณบุญและการเป็นผู้ที่ตะโมประธานหมายถึงการเป็นดวงวิญญาณบาป มีคำกล่าวว่าใครบางคนเป็นดวงวิญญาณบุญมากหรือใครบางคนเป็นดวงวิญญาณบาปอย่างมาก สิ่งนี้พิสูจน์ว่าเป็นดวงวิญญาณที่กลับมาสะโตประธานและก็เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาตะโมประธานโดยการใช้ชาติเกิดใหม่ เหตุนี้เองดวงวิญญาณจึงเรียกว่าเป็นดวงวิญญาณบาป ดังนั้นผู้คนจึงจดจำพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์และพูดว่า: ได้โปรดมาและทำให้พวกเราดวงวิญญาณบริสุทธิ์! ใครทำให้ลูกเป็นดวงวิญญาณบาป? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ ลูกรู้ว่าเมื่อลูกเคยเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ บารัตก็ถูกเรียกว่าอาณาจักรของราม (พระเจ้า) ในปัจจุบันดวงวิญญาณทั้งหมดนั้นมีบาปและเหตุนี้เองเวลานี้โลกจึงถูกเรียกว่าอาณาจักรของราวัน เป็นบารัตที่กลับมาบริสุทธิ์และบารัตที่กลับมาไม่บริสุทธิ์ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถมาและทำให้ผู้คนของบารัตบริสุทธิ์ ดวงวิญญาณอื่นทั้งหมดนั้นได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้วก็ถูกนำไปยังดินแดนแห่งความสงบ เวลานี้โลกนี้คือดินแดนแห่งความทุกข์ พวกเขาไม่สามารถทำให้เรื่องที่ง่ายดายเช่นนั้นนั่งอยู่ในสติปัญญาของพวกเขาได้! เมื่อพวกเขาเข้าใจสิ่งนี้ด้วยหัวใจของพวกเขาเท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถกลายเป็นบราห์มินที่แท้จริง ลูกไม่สามารถได้รับมรดกจากพ่อได้จนกว่าลูกจะกลายเป็นบราห์มิน นี่คือไฟบูชายัญของยุคบรรจบพบกัน แน่นอนว่าบราห์มินมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับไฟบูชายัญ เวลานี้ลูกได้กลายเป็นบราห์มิน ลูกรู้ว่าไฟบูชายัญนี้คือไฟบูชายัญสุดท้ายในดินแดนแห่งความตาย มีไฟบูชายัญในดินแดนแห่งความตาย แต่ไม่มีไฟบูชายัญในดินแดนแห่งความเป็นอมตะ ผู้เลื่อมใสศรัทธาไม่สามารถทำให้สิ่งเหล่านี้นั่งอยู่ในสติปัญญาของพวกเขา ความเลื่อมใสศรัทธานั้นแตกต่างจากความรู้นี้อย่างสิ้นเชิง ผู้คนเหล่านั้นเชื่อว่าพระเวทและคัมภีร์นั้นคือความรู้ หากมีความรู้ในหนังสือเหล่านั้น เขาก็จะสามารถกลับบ้านได้ อย่างไรก็ตามตามละคร ยังไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ บาบาได้อธิบายว่าในเมื่อดวงวิญญาณอันดับหนึ่งต้องไปผ่านสภาพสะโต,ราโจและตะโม ดังนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรที่ส่วนที่เหลือเพียงแค่เล่นบทบาทที่สะโตของพวกเขาแล้วกลับบ้านได้ พวกเขาเช่นกันก็ต้องเข้าไปสู่สภาพที่ตะโมประธานของพวกเขาด้วย พวกเขาก็ต้องเล่นบทบาทของพวกเขาในสิ่งนี้เช่นกัน นักแสดงแต่ละคนก็มีพละกำลังของตนเอง นักแสดงที่สำคัญก็โด่งดังมากเป็นที่รู้จักกันดี ใครคือผู้สร้าง ผู้กำกับ และนักแสดงหลักในละครนี้? เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าพระเจ้าผู้เป็นพ่อคือบุคคลหลัก และแล้วก็มีแม่ของชาวโลกและพ่อของชาวโลก พวกเขากลายเป็นนายของโลก บทบาทของพวกเขานั้นสูงส่งอย่างแน่นอนและแล้วค่าตอบแทนของพวกเขาเองก็สูงมากด้วยเช่นกัน พ่อผู้เดียวที่สูงส่งที่สุดที่จ่ายให้แก่พวกเขา ท่านพูดว่า “ในเมื่อลูกช่วยพ่อเป็นอย่างมาก ลูกจะได้รับค่าตอบแทนตามนั้น” หากนักกฎหมายสอนลูก เขาก็จะพูดว่าเขาสามารถที่จะทำให้ลูกได้รับตำแหน่งที่สูงมาก ดังนั้นลูกๆ ควรจะให้ความใส่ใจอย่างมากมายต่อการศึกษานี้ ลูกต้องอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูกด้วยเช่นกัน พวกเขา(ซันยาสซี)มีการสละละทิ้งของคาร์มาโยคะ ในขณะอาศัยอยู่ที่บ้านและดำเนินการกับทุกสิ่ง ลูกสามารถทำความเพียรพยายามที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อด้วยเช่นกัน ไม่มีความยากลำบากใดๆในสิ่งนี้ ในขณะที่ทำงานบ้านทั้งหมดของลูก ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงชีพบาบา ความรู้นั้นง่ายดายมาก ผู้คนร้องเรียกหา: โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! มาและชำระพวกเราให้บริสุทธิ์! มีอาณาจักรที่บริสุทธิ์ในโลกที่บริสุทธิ์ และพ่อกำลังทำให้ลูกมีค่าควรแก่อาณาจักรนั้น มีสองวิชาหลักในความรู้นี้: อัลฟ่าและเบต้า ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองและจดจำพ่อและลูกจะกลายเป็นผู้ที่มีพลานามัยดีเสมอและมั่งคั่ง พ่อพูดว่า: จดจำพ่อในบ้าน ลูกต้องจดจำบ้านด้วยเช่นกัน ด้วยการจดจำพ่อในบ้านลูกจะสามารถไปที่นั่นได้ ด้วยการควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ลูกก็จะกลายเป็นผู้ปกครองโลก ลูกควรจะเก็บทุกสิ่งเหล่านี้ไว้ในสติปัญญาของลูกอย่างระมัดระวังมาก ในปัจจุบันทุกคนนั้นตะโมประธานอย่างแท้จริง ในดินแดนแห่งความสุขลูกมีความสงบ ความสุขและความเจริญรุ่งเรือง มีเพียงศาสนาเดียวเท่านั้นที่นั่น เวลานี้มีความไม่สงบในทุกบ้าน ดูซิว่านักเรียนบางคนได้สร้างความปั่นป่วนมากมายเพียงใด! พวกเขาได้แสดงให้เห็นความเป็นเลือดใหม่ของเขา นี้คือโลกที่ทาโมประธาน แต่ยุคทองคือโลกใหม่ โลกนี้เก่าและไม่บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง ในขณะที่ยุคทองเป็นโลกใหม่ที่บริสุทธิ์ พ่อมาในยุคบรรจบพบกันนี้ สงครามมหาภารตะก็เกิดขึ้นในยุคบรรจบพบกันนี้ด้วยเช่นกัน เวลานี้โลกนี้ต้องเปลี่ยนแปลง พ่อพูดว่า: พ่อมาในยุคบรรจบพบกันเพื่อทำให้โลกใหม่ สิ่งนี้เรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด ผู้คนเฉลิมฉลองเดือนแห่งบุญ (ปุรโชตตัม) ที่สูงส่งที่สุด) และช่วงเวลาแห่งบุญ แต่ไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่รู้เกี่ยวกับยุคบรรจบพบกันที่เป็นบุญนี้ พ่อมาในยุคบรรจบพบกันนี้และทำให้ลูกกลายเป็นเช่นเพชร ลูกตามลำดับกันไปในสิ่งนี้เช่นกัน ราชากลายเป็นเช่นเพชร ในขณะที่ปวงประชากลายเป็นเช่นทองคำ ทันทีที่เด็กถือกำเนิดมา เขาก็มีสิทธิ์ต่อมรดกของเขา เวลานี้ลูกกำลังได้รับสิทธิ์ในโลกใหม่ที่บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงในโลกใหม่นั้นด้วยเช่นกัน ความเพียรพยายามที่ลูกทำเวลานี้จะเป็นความเพียรพยายามที่ลูกทำในทุกๆวงจร เป็นที่เข้าใจว่ลูกจะไม่สามารถทำความเพียรพยายามที่มากกว่า ลูกจะทำความเพียรพยายามเดียวกันทุกวงจร ในทุกชาติเกิดและในทุกวงจรพวกเขาจะอยู่ในท่ามกลางปวงประชาหรือพวกเขาจะกลายเป็นสาวใช้หรือคนรับใช้ของปวงประชาที่มั่งคั่ง ทุกคนตามลำดับกันไป และทุกสิ่งเกี่ยวกับลูกก็สามารถรู้ได้จากการที่ลูกแต่ละคนนั้นศึกษาเล่าเรียนได้มากแค่ไหน บาบาสามารถบอกลูกได้ทันทีว่าลูกจะกลายเป็นอะไรหากลูกจะต้องออกจากร่างของลูกเวลานี้ ในสภาพปัจจุบันของลูก ในแต่ละวันเวลาก็จะสั้นลงเรื่อยๆ หากลูกคนไหนจะออกจากร่างของลูกเวลานี้ ลูกจะไม่สามารถศึกษาเล่าเรียนได้อีกครั้ง ใช่ บางสิ่งจะเข้ามาสู่สติปัญญาของลูกและลูกจะจดจำชีพบาบา เช่นเดียวกับที่ลูกเตือนให้เด็กเล็กๆ ให้จดจำชีพบาบาและเขาก็เฝ้าแต่พูดว่า “ชีพบาบา ชีพบาบา” ดวงวิญญาณนั้นจะได้รับบางสิ่ง กล่าวกันว่าเด็กเล็กๆ นั้นมีความทัดเทียมกับมหาตมะ (ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่) เพราะเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับกิเลส อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาก็ได้รับอิทธิพลจากกิเลส มีความโกรธหรือมีความผูกพันยึดมั่น เวลานี้ลูกได้รับการบอกว่าลูกต้องจบสิ้นความผูกพันยึดมั่นทั้งหมดของลูกต่อสิ่งใดก็ตามที่ลูกสามารถมองเห็นได้ด้วยดวงตาทางร่างกายของลูกในโลกนี้ ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าทั้งโลกจะกลายเป็นสุสาน ทุกสิ่งนั้นเก่าและไม่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง เมื่อใครบางคนตาย สิ่งของเก่าๆ ของเขาทั้งหมดนั้นก็จะถูกยกให้กับขันนิกร (นักบวชพราหมณ์พิเศษ) พ่อคือขันนิกรที่ไม่มีขีดจำกัด ท่านเป็นคนซักผ้าด้วยเช่นกัน ท่านรับอะไรจากลูกและท่านให้อะไรแก่ลูกเป็นการตอบแทน? เงินจำนวนเล็กๆน้อยๆใดก็ตามที่ลูกให้แก่บาบานั้นก็จะถูกทำลายอยู่ดี ถึงกระนั้นพ่อก็พูดว่า: เก็บเงินของลูกไว้กับลูก เพียงแค่ขจัดความผูกพันยึดมั่นทั้งหมดของลูกออกไปจากสิ่งนั้น เฝ้าแต่ให้บัญชีของลูกแก่พ่อแล้วลูกจะได้รับการชี้นำอย่างต่อเนื่อง สิ่งเล็กๆน้อยๆที่ลูกมีซึ่งมีค่าเพียงแค่เศษฟางเท่านั้นสามารถใช้เพื่อมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลเพื่อสุขภาพและความมั่งคั่ง โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยและมหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียน นี่คือทั้งโรงพยาบาลและวิทยาลัยรวมกัน สำหรับสิ่งนี้ลูกต้องการเพียงแค่ที่ดินสามตารางฟุตเท่านั้นเอง! ผู้ที่ไม่มีสิ่งใดเลยก็สามารถที่จะให้ที่ดินสามตารางฟุตและมีชั้นเรียนที่นั่น ที่ดินสามตารางฟุตนั้นก็เป็นที่ที่ใหญ่พอที่จะนั่ง ที่นั่งนั้นมีเพียงสามตารางฟุตเท่านั้น ใครก็ตามที่เข้ามาในพื้นที่สามตารางฟุตของลูกควรจะเข้าใจทุกสิ่งอย่างชัดเจนมาก ทำให้ใครก็ตามที่มานั่งลงและให้คำแนะนำของพ่อกับพวกเขา มีการทำเข็มกลัดขึ้นมากมายสำหรับงานรับใช้ด้วยเช่นกัน เข็มกลัดนี้เรียบง่ายมาก รูปภาพนั้นก็ดีมากและข้อความที่เขียนก็มีความหมายที่สมบูรณ์ด้วยเช่นกัน งานรับใช้มากมายสามารถทำได้ด้วยสิ่งเหล่านี้ ในแต่ละวันเมื่อภัยพิบัติเพิ่มขึ้น ผู้คนก็จะไม่สนใจในโลกนี้และเริ่มที่จะจดจำพ่อ “ฉันดวงวิญญาณนี้ไม่สูญสลาย และฉันต้องจดจำพ่อที่ไม่สูญสลายของฉัน” พ่อเองพูดว่า: จดจำพ่อแล้วบาปของหลายชาติเกิดของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและมีความรักต่อพ่ออย่างเต็มที่ อย่าได้มีสำนึกที่เป็นร่าง ใช่ ลูกอาจจะมีความรักภายนอกกับลูกๆ ของลูกฯลฯ แต่ให้ความรักที่แท้จริงของลูกเป็นไปสำหรับพ่อทางจิต ด้วยการจดจำท่านเท่านั้นที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง ในขณะที่มองดูเพื่อนฝูงและญาติมิตรของลูก สติปัญญาของลูกควรจะแขวนอยู่บนตะแลงแกงของการจดจำระลึกถึงพ่อ ควรจะเป็นราวกับว่าลูกๆนั้นกำลังแขวนอยู่บนตะแลงแกงแห่งการจดจำระลึกถึง ดวงวิญญาณต้องจดจำพ่อดวงวิญญาณสูงสุด สติปัญญาของลูกควรจะแขวนอยู่ที่นั่น บ้านของพ่ออยู่เบื้องบนนั้น มีโลกที่ไม่มีตัวตน อาณาเขตที่ละเอียดอ่อน และโลกที่มีตัวตนนี้ เวลานี้การเดินทางของลูกกำลังจะสิ้นสุดลงและลูกก็จะต้องกลับบ้านในไม่ช้า เวลานี้ลูกอยู่ในการเดินทางกลับบ้านของลูก ดังนั้นบ้านของลูกดูเหมือนว่าน่าดึงดูดมาก บ้านนั้นคือที่อยู่อาศัยที่ไม่มีขีดจำกัดของลูก ลูกต้องกลับไปยังบ้านของลูกเอง ผู้คนทำความเลื่อมใสศรัทธาเพื่อจะกลับบ้าน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่มีความรู้อย่างเต็มที่และพวกเขาก็ไม่สามารถกลับไปยังบ้านนั้นได้ เพื่อที่จะบรรลุถึงพระเจ้าหรือเพื่อที่จะไปยังดินแดนนิพพานพวกเขาจึงเดินทางไปในการจาริกแสวงบุญมากมายฯลฯ พวกเขาทำความเพียรพยายามอย่างมาก ซันยาสซีเพียงแค่ชี้หนทางสู่ความสงบเท่านั้น พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับดินแดนแห่งความสุข เพียงพ่อเท่านั้นที่ชี้หนทางไปสู่ดินแดนแห่งความสุขแก่ลูก ก่อนอื่นลูกต้องไปยังสถานที่ที่อยู่เหนือเสียง (นิพพาน) สภาพที่ปลดเกษียณของลูกอย่างแน่นอน สถานที่นั้นเรียกว่าบราห์มันด์ด้วยเช่นกัน พวกเขาคิดว่าธาตุบราห์มคือพระเจ้า พวกเราดวงวิญญาณเป็นจุด และสถานที่อยู่อาศัยของเราคือบราห์มันด์ ลูกเองนั้นก็ได้รับการกราบไหว้บูชาในรูปนั้นด้วยเช่นกัน พวกเขาจะสามารถกราบไหว้บูชาจุดได้อย่างไร? เพื่อที่จะทำการกราบไหว้บูชา พวกเขาทำซาลิแกรมของแต่ละดวงวิญญาณและกราบไหว้บูชาสิ่งนั้น ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีการกราบไหว้บูชาจุดได้อย่างไร? เหตุนี้เองจึงสร้างรูปที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกัน พ่อไม่ได้มีร่างกายของท่านเอง เวลานี้ลูกรู้สิ่งเหล่านี้ ลูกต้องแสดงภาพดวงวิญญาณขนาดใหญ่ในภาพด้วยเช่นกัน ผู้คนจะเข้าใจอะไรจากการมองเห็นจุด? ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าจริงๆที่จะทำดวงดาว แม่บางคนก็แต้มติลักเช่นนั้นด้วย ลูกสามารถได้ติลักสีขาวสำเร็จรูป ดวงวิญญาณก็เป็นสีขาวเหมือนกับดวงดาวเช่นกัน ติลักนี้คือสัญลักษณ์ของดวงวิญญาณที่อยู่ที่ตรงกลางหน้าผากของบุคคล อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ความหมายของสิ่งนั้น พ่ออธิบายว่าดวงวิญญาณที่สุดแสนเล็กเช่นนั้นมีความรู้อย่างมากมายเพียงใด มีการสร้างระเบิด ฯลฯ จำนวนมากมาย เป็นความมหัศจรรย์ที่ว่าดวงวิญญาณนั้นมีบทบาทของพวกเขาถูกบันทึกไว้ในตัวพวกเขาอย่างไร ประเด็นเหล่านี้ลึกล้ำมาก ดวงวิญญาณที่สุดแสนเล็กเช่นนั้นสามารถทำสิ่งต่างๆ มากมายมากผ่านร่างกายของเขา ดวงวิญญาณนั้นไม่สูญสลาย บทบาทของเขานั้นไม่เคยถูกทำลายและการกระทำของพวกเขานั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง เวลานี้ต้นไม้นั้นใหญ่โต ในขณะที่ในยุคทองต้นไม้นั้นเล็กมาก ต้นอ่อนของต้นไม้ที่เล็กที่แสนหวานกำลังมีการเพาะหว่านเวลานี้ ลูกได้กลับมาไม่บริสุทธิ์และเวลานี้กำลังจะกลับมาบริสุทธิ์ ดวงวิญญาณที่สุดแสนเล็กนั้นมีบทบาทที่ใหญ่โตมากที่บันทึกไว้ในตัวเขา นี่คือธรรมชาติ ลูกก็เฝ้าแต่เล่นบทบาทที่ไม่สูญสลายของลูกต่อไป บทบาทนั้นไม่เคยหยุดลง เป็นความมหัศจรรย์ว่าดวงวิญญาณนั้นไม่สูญสลายอย่างไรและเต็มไปด้วยบทบาทที่ไม่สูญสลายอย่างไร พ่ออธิบายว่า: ลูกๆ ลูกต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ มีความเพียรพยายามในสิ่งนี้ ลูกดวงวิญญาณก็มีบทบาทที่ใหญ่โตที่สุด บาบาไม่ได้มีบทบาทที่ใหญ่โตเหมือนกับลูก พ่อพูดว่า: เมื่อลูกมีความสุขในสวรรค์ พ่อก็ไปและพักผ่อน พ่อไม่ได้มีบทบาทใดที่จะเล่นในเวลานั้น เป็นเวลานี้ที่พ่อทำงานรับใช้มากมายเพื่อลูก ความรู้นี้มหัศจรรย์มาก! ไม่มีใครนอกจากลูกรู้สิ่งนี้ ถ้าลูกไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ ลูกก็ไม่สามารถซึมซับสิ่งนี้ได้ เมื่อลูกเปลี่ยนอาหารการกินและเครื่องดื่มของลูก นั่นก็ทำให้เกิดความแตกต่างในวิธีการที่ลูกจะซึมซับสิ่งนี้เช่นกัน ลูกต้องอยู่อย่างบริสุทธิ์มากในสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน เป็นสิงที่ง่ายดายมากที่จะจดจำพ่อ ลูกต้องจดจำพ่อและประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูก เหตุนี้เองบาบาพูดว่า: เก็บรูปภาพไว้กับลูก สร้างภาพของโยคะและมรดกของลูกและลูกจะมีความซาบซึ้งของการเปลี่ยนจากบราห์มินเป็นเทพ และแล้วจากเทพลูกก็จะกลายเป็นนักรบ ลูกบราห์มินอยู่ในยุคบรรจบพบกัน ลูกกำลังจะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่ง ลูกต้องทำความเพียรพยายามอย่างมากที่จะปลูกฝังสิ่งเหล่านี้เข้าไปในสติปัญญาของผู้คน แต่ละวันยิ่งลูกเข้าใจความรู้นี้มากเท่าไหร่ ลูกก็จะมีความสุขมากเท่านั้น ลูกๆ รู้ว่าบาบาให้ประโยชน์กับลูกอย่างมาก ลูกรู้ว่าลูกมีสภาพที่สูงขึ้นในทุกๆ วงจร ลูกต้องทำทุกสิ่งเพื่อหาเลี้ยงชีพของร่างกายของลูกด้วยเช่นกัน แต่สติปัญญาของลูกควรจะจดจำว่าลูกกำลังรับประทานจากบันดาราของชีพบาบา ด้วยการเฝ้าแต่จดจำชีพบาบา,ความทุกข์ทั้งหมดของลูกจะถูกขจัดออกไป ลูกจะละร่างเก่าของลูกและกลับบ้าน ลูกๆ ลูกเข้าใจว่าบาบาไม่ได้รับสิ่งใดจากลูก เพราะบาบาคือผู้ประทาน พ่อพูดว่า: ทำตามศรีมัทของพ่อ! ใส่ใจอย่างเต็มที่กับใครก็ตามที่ลูกให้เงินแก่เขา หากลูกให้เงินแก่ใครบางคนแล้วเขาก็ใช้เงินไปกับการดื่มสุราหรือกระทำสิ่งอื่นๆที่ไม่ดีด้วยเงินนั้น บาปของสิ่งนั้นก็จะตกอยู่กับลูก ลูกก็กลายเป็นดวงวิญญาณบาปจากการให้และรับของลูกกับดวงวิญญาณบาป มีความแตกต่างเช่นนั้นที่นี่ ลูกต้องกลายเป็นดวงวิญญาณบุญที่นี่ ดังนั้นอย่าได้ให้และรับกับดวงวิญญาณบาป พ่อพูดว่า: ลูกต้องไม่เป็นเหตุที่ทำให้ใครมีความทุกข์ ลูกต้องไม่มีความผูกพันยึดมั่นกับใคร พ่อมาหาลูกในฐานะหัวน้ำตาล เพียงแค่ดูว่าท่านได้จ่ายดอกเบี้ยมากเพียงใดแก่ลูกสำหรับสิ่งเก่าๆ ทั้งหมดที่มีค่าเท่ากับเศษฟางของลูกที่ท่านรับมา ลูกได้รับดอกเบี้ยที่ใหญ่หลวง ท่านนั้นไร้เดียงสามาก! เพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับข้าวสองกำมือท่านจึงให้ประสาทราชวังแก่ลูก อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เวลานี้การเดินทางของลูกนั้นได้สิ้นสุดลงและลูกต้องกลับบ้าน เหตุนี้เองลูกควรจะมีการวางเฉยในโลกเก่านี้ โยคะของสติปัญญาของลูกต้องแขวนอยู่บนตะแลงแกงของการจดจำระลึกถึงพ่อ

2. เพื่อที่จะดูแลไฟบูชายัญที่พ่อได้สร้างขึ้นมาในยุคบรรจบพบกัน ลูกต้องกลายเป็นบราห์มินที่แท้จริงและบริสุทธิ์ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ลูกทำลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ

พร:
ขอให้ลูกมีพลังอย่างสม่ำเสมอโดยอยู่ในสำนึกรู้ของการเป็นเพชรพลอยดั้งเดิมและด้วยเหตุนี้ รู้ค่าชีวิตของลูก

เช่นที่บราห์มาเป็นอดิเทพ ดังนั้น ลูก บราห์มา กุมารและกุมารีก็คือเพชรพลอยดั้งเดิม ลูกๆของอดิเทพเป็น “อดิเทพผู้ยิ่งใหญ่”(master adi dev) เพียงโดยการพิจารณาว่าตนเองเป็นเพชรพลอยดั้งเดิม ลูกจะสามารถรู้คุณค่าของชีวิตของลูก เพราะเพชรพลอยดั้งเดิมหมายถึงเพชรพลอยของพระเจ้า เพชรพลอยอันศักดิ์สิทธิ์ และดังนั้นลูกมีค่าอย่างมาก ดังนั้นพิจารณาว่าตนเองเป็น “อดิเทพ” เสมอ ลูกๆของอดิเทพ เพชรพลอยดั้งเดิม ขณะที่ลูกกระทำทุกๆ การกระทำและลูกจะได้รับพรของการเป็นผู้ที่มีพลัง และแล้วไม่มีสิ่งใดสามารถไร้ประโยชน์ได้

คติพจน์:
ดวงวิญญาณที่สามารถใช้ความรู้ได้เป็นอย่างดี สามารถแยกแยะสิ่งต่างๆด้วยตนเองก่อนที่จะถูกหลอกลวง และด้วยเหตุนี้จึงช่วยตนเองให้ปลอดภัย

ด้วยจิตใจที่เต็มไปพลังของลูก จงทำงานรับใช้ของการให้สะกาช

เวลานี้ ให้สะกาชต่องานรับใช้ และเพิ่มงานรับใช้ของการเปลี่ยนแปลงสติปัญญา และแล้วดูว่ามากเพียงใดที่ความสำเร็จก้มลงให้แก่ลูกโดยอัตโนมัติ อุปสรรคต่างๆที่มาในงานรับใช้มีคุณประโยชน์ซ่อนอยู่เบื้องหลังม่านของอุปสรรค เพียงเปิดม่านนั้นด้วยพลังของจิตใจและคำพูดของลูก และ ลูกจะเห็นฉากแห่งคุณประโยชน์เบื้องหลังม่านนั้น