12.02.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกคือพ่อค้าเพชรพลอยที่ยิ่งใหญ่มาก ลูกต้องทำให้ทุกคนมั่งคั่งโดยการให้เพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่สูญสลายแก่พวกเขา

คำถาม:
ลูกควรระมัดระวังประเด็นหลักในเรื่องใดเพื่อที่จะทำให้ชีวิตของลูกเป็นเช่นเพชร?

คำตอบ:
มิตรที่ลูกคบหา ลูกๆควรจะคบมิตรกับผู้ที่ประพรมสายฝนแห่งความรู้เป็นอย่างดี จะมีประโยชน์อะไรในการเป็นมิตรกับผู้ที่ไม่ได้ประพรมสายฝนเลย? มิตรที่ลูกคบจะมีอิทธิพลกับลูกอย่างมาก บางคนกลายเป็นเช่นเพชรจากการคบมิตรที่ดี บางคนก็กลายเป็นเช่นก้อนกรวดก้อนหินด้วยการคบมิตรกับคนอื่นๆ ผู้ที่มีความรู้จะทำให้ผู้อื่นทัดเทียมกับตนเองอย่างแน่นอน พวกเขาจะดูแลตนเองด้วยการมีความระมัดระวังกับมิตรที่เขาคบ

โอมชานติ
ลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวาน ลูกจดจำโลกทั้งหมดและละครทั้งหมดอย่างดีมาก มีความแตกต่างก็อยู่ในสติปัญญาของลูกเช่นกัน ทั้งหมดนี้ควรจะมั่นคงในสติปัญญาของลูก ทุกคนในยุคทองนั้นสูงส่ง ปราศจากกิเลส บริสุทธิ์และมีมั่งคั่ง ขณะนี้โลกตกต่ำ คดโกง มีกิเลสต่างๆ ไม่บริสุทธิ์และล้มละลาย ขณะนี้ลูกๆอยู่ในยุคบรรจบพบกัน ลูกกำลังจะข้ามฟากไปอีกด้านหนึ่ง ที่ซึ่งแม่น้ำได้บรรจบพบกับมหาสมุทรที่เรียกว่า “บรรจบพบกัน” ด้านหนึ่งเป็นน้ำหวานและอีกด้านหนึ่งเป็นน้ำเค็ม ดังนั้น นี่คือการบรรจบกันด้วย ลูกรู้ว่านี่เป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ในยุคทองอย่างแน่นอน วงจรหมุนไปด้วยวิธีนี้ ขณะนี้เป็นการบรรจบกัน ในตอนปลายของยุคเหล็กทุกคนไม่มีความสุข สิ่งนี้เรียกว่าป่า ยุคทองเรียกว่าสวน เวลานี้ลูกกำลังจะกลายเป็นดอกไม้จากหนาม ลูกๆ ควรจะมีสำนึกรู้นี้ : เรากำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกของเราจากพ่อที่ไร้ขีดจำกัด สิ่งนี้จำเป็นต้องเก็บไว้ในสติปัญญาของลูก เรื่องราวของ 84 ชาติเกิดนั้นธรรมดามาก ลูกเข้าใจว่าเวลานี้ 84 ชาติเกิดได้จบลงไปแล้ว สติปัญญาของลูกได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยความจริงที่ว่า ขณะนี้ลูกกำลังจะไปสู่สวนยุคทอง การเกิดของเราจะไม่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งความตายนี้ การเกิดของเราจะอยู่ในดินแดนอมตะ ชีพบาบาถูกเรียกว่าเจ้าแห่งความเป็นอมตะด้วยเช่นกัน ท่านกำลังบอกเล่าเรื่องราวของความเป็นอมตะให้แก่เรา ที่นั่น ขณะที่อยู่ในร่างกายพวกเราก็จะยังคงอยู่อย่างเป็นอมตะ เราจะออกจากร่างของเราอย่างมีความสุขในเวลาของเราเอง แผ่นดินนั้นไม่ได้เรียกว่าเป็นดินแดนแห่งความตาย เมื่อลูกอธิบายสิ่งนี้แก่ผู้อื่น พวกเขาจะคิดว่าลูกมีความรู้ที่สมบูรณ์ โลกนี้มีตอนเริ่มต้นและตอนจบใช่ไหม ? เด็กกลายเป็นวัยรุ่นแล้วเขาก็แก่ลง เมื่อมาถึงจุดจบแล้วเขาก็กลายเป็นเด็กอีกครั้ง โลกก็กลับมาใหม่เช่นกัน หลังจากนั้นก็เก่าลงไปหนึ่งส่วนสี่, แล้วก็เก่าลงไปครึ่งหนึ่ง และแล้วก็เก่าอย่างสมบูรณ์ แล้วโลกนั้นก็จะกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ไม่มีใครอื่นสามารถพูดถึงสิ่งเหล่านี้กับกันและกัน ไม่มีใครอื่นสามารถสนทนากันเช่นนั้น ไม่มีใคร นอกจากลูกบราห์มิน สามารถได้รับความรู้ทางจิตนี้ เมื่อพวกเขาเข้ามาในสกุลบราห์มิน พวกเขาก็สามารถได้ยินสิ่งนี้ เพียงบราห์มินเท่านั้นที่จะรู้สิ่งเหล่านี้ แม้แต่ในบรรดาบราห์มินลูกก็ตามลำดับกันไป ลูกบางคนสามารถอธิบายได้อย่างถูกต้อง บางคนไม่สามารถอธิบายได้ แล้วพวกเขาก็จะไม่ได้รับสิ่งใดเลย ในบรรดาพ่อค้าเพชรพลอย ลูกก็สามารถเห็นว่าบางคนมีสต็อกที่มีค่านับล้าน ในขณะที่คนอื่นไม่มีแม้กระทั่งสต็อกที่มีค่าหนึ่งหมื่น ในบรรดาลูกก็เป็นเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่าง ดูที่จานาก เธอเป็นพ่อค้าเพชรพลอยที่ดี เธอมีเครื่องประดับที่มีค่า เธอสามารถให้ทานสิ่งนั้นและทำให้ใครบางคนมั่งคั่งมาก บางคนก็เป็นพ่อค้าเพชรเล็กๆ และก็ไม่สามารถให้ทานได้มากนัก และแล้วสถานภาพของพวกเขาก็น้อยลงด้วยเช่นกัน ลูกทั้งหมดคือพ่อค้าเพชรพลอย นี่คือเพชรพลอยของเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่สูญสลาย ผู้ที่มีเพชรพลอยที่ดีจะกลับมามั่งคั่งและจะทำให้ผู้อื่นมั่งคั่งด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นพ่อค้าเพชรพลอยที่ดี พ่อค้าเพชรที่มีประสบการณ์จะถูกส่งไปยังศูนย์ใหญ่ บุคคลสำคัญจะได้รับเครื่องประดับที่ดี ผู้เชี่ยวชาญทำงานในร้านค้าที่ใหญ่โต บาบาก็เรียกว่าเป็นนักธุรกิจและพ่อค้าเพชรด้วยเช่นกัน ท่านทำธุรกิจของเพชรพลอย ท่านเป็นนักมายากลด้วย เพราะเพียงท่านเท่านั้นที่มีกุญแจสู่นิมิตที่สูงส่ง ใครบางคนที่ได้ทำการกราบไหว้บูชามาอย่างแรงกล้าก็ได้นิมิต ที่นี่จะไม่มีสิ่งเช่นนั้น ที่นี่แม้แต่ในขณะที่นั่งอยู่ที่บ้าน หลายคนก็ได้นิมิตในทันที แต่ละวันการได้รับนิมิตก็จะง่ายยิ่งขึ้น หลายคนได้นิมิตของบราห์มาและของกฤษณะด้วยเช่นกัน พวกเขาได้รับการบอกว่าให้ไปหาบราห์มา ไปและศึกษาเล่าเรียนการเป็นเจ้าชาย เจ้าชายและเจ้าหญิงที่บริสุทธิ์เหล่านั้นยังคงอยู่ที่นั่นต่อไป เจ้าชายก็เรียกว่าบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน การเกิดนั้นเกิดขึ้นด้วยความบริสุทธิ์ใช่ไหม ? ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์จะถูกเรียกว่าผู้ที่ตกต่ำ เราต้องกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ สิ่งนี้ควรอยู่ในสติปัญญาของลูกเพื่อที่ลูกจะสามารถอธิบายแก่ใครบางคนด้วยเช่นกัน แล้วผู้คนจะคิดว่า: พวกเขามีความรู้คิดมาก บอกพวกเขาว่า: พวกเรานั้นไม่ได้มีความรู้ในเรื่องของคัมภีร์ ฯลฯ นี่คือความรู้ทางจิตซึ่งพ่อทางจิตได้อธิบาย นี่คือ ตรีมูรติ: บราห์มา,วิษณุและชางก้า นี่ก็คือสิ่งสร้างเช่นกัน ผู้สร้างคือพ่อผู้เดียว เหล่านั้นเป็นผู้สร้างในสิ่งที่มีขีดจำกัด นี่คือพ่อที่ไร้ขีดจำกัด ผู้สร้างที่ไร้ขีดจำกัด พ่อนั่งที่นี่และสอน ลูกต้องเพียรพยายาม พ่อทำให้ลูกเป็นดอกไม้ ลูกเป็นของสกุลของพระเจ้า พ่อทำให้ลูกบริสุทธิ์ ดังนั้นถ้าลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์ ลูกก็จะกลายเป็นผู้ที่ประณามวงศ์สกุล พ่อรู้ใช่ไหม ? แล้วการลงโทษนั้นก็จะกระทำโดยผ่าน ดรามราช ดรามราชอยู่กับบาบาด้วยเช่นกัน หน้าที่ของดรามราชกำลังจะจบสิ้นลงด้วยเช่นกัน หน้าที่นี้จะไม่คงอยู่ในยุคทอง มันจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในยุคทองแดง พ่อนั่งที่นี่และอธิบายปรัชญาแห่งกรรม กรรมที่เป็นกลางและกรรมที่เป็นบาป พวกเขาพูดว่า: ผู้นี้ต้องเคยทำการกระทำเช่นนั้นในชาติเกิดก่อนหน้านี้ และสิ่งนี้จึงเป็นความทุกข์ทรมานของกรรมนั้น ในยุคทองพวกเขาจะไม่พูดเช่นนั้น ไม่มีการกล่าวถึงความทุกข์ทรมานของกรรมที่ไม่ดีที่นั่น ที่นี่มีทั้งการกระทำที่ดีและไม่ดี ทั้งความสุขและความทุกข์ก็อยู่ที่นี่ แต่มีความสุขน้อยมาก และแล้วที่นั่นก็ไม่มีชื่อสำหรับความทุกข์ ความทุกข์จะมาจากไหนในยุคทอง ? ลูกได้รับมรดกของโลกใหม่จากพ่อ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่เป็นผู้ขจัดความทุกข์และเป็นผู้ประทานความสุข ลูกรู้ว่าเมื่อความทุกข์เริ่มขึ้น มันเขียนไว้ในคัมภีร์ว่าระยะเวลาของวงจรนั้นยาวนานมาก ขณะนี้ลูกรู้ว่าความทุกข์ของเราถูกขจัดออกไปครึ่งหนึ่งของวงจรและพวกเราได้รับซึ่งความสุข เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะอธิบายว่าวงจรโลกนี้หมุนไปอย่างไร สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถอยู่ในสติปัญญาของใครนอกจากของลูก เมื่อมีการกล่าวถึงหลายแสนปี สิ่งอื่นๆ ทั้งหมดก็ออกไปจากสติปัญญา ขณะนี้ลูกรู้แล้วว่าวงจรนี้คือ 5000 ปี นี่เป็นเรื่องของเมื่อวานนี้เมื่อเคยเป็นอาณาจักรของสุริยวงศ์และจันทรวงศ์ มีคำกล่าวไว้ว่า : กลางวันของบราห์มิน กลางวันของชีพบาบาไม่ได้กล่าวไว้ เป็นกลางวันของบราห์มินแล้วก็เป็นกลางคืนของบราห์มิน และแล้วบราห์มินเองก็ไปสู่หนทางของความเลื่อมใสศรัทธาด้วยเช่นกัน ขณะนี้คือการบรรจบพบกัน ไม่ได้เป็นทั้งกลางวันหรือกลางคืน ลูกรู้ว่าลูกกลายเป็นบราห์มิน แล้วก็กลายเป็นเทพและเป็นนักรบในยุคเงิน เก็บรักษาสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูกอย่างมั่นคง ไม่มีใครรู้สิ่งเหล่านี้ พวกเขาพูดว่า : มีการเขียนไว้ในคัมภีร์ว่าช่วงระยะเวลานั้นยาวนานมาก ลูกได้รับการคำนวณนี้มาจากไหน ? ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้วที่คงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์ ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ มันอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ ว่ายุคทองและยุคเงินคงอยู่มาเป็นเวลาครึ่งวงจร แล้วความเลื่อมใสศรัทธาก็เริ่มขึ้นในตอนกลาง นั่นกลายเป็นการบรรจบพบกันของยุคเงินและยุคทองแดง คัมภีร์เหล่านั้น ฯลฯ ค่อยๆ สร้างขึ้นมาทีละน้อยในยุคทองแดง มีเครื่องประกอบในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธามากมาย ต้นไม้ก็สูงและกว้างมาก เมล็ดของต้นไม้ คือบาบา นี่คือต้นไม้ที่กลับหัว สิ่งแรกและสิ่งหลักสำคัญที่สุด คือ ศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป สิ่งเหล่านี้ที่พ่อบอกลูกจะใหม่อย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครรู้จักผู้ก่อตั้งศาสนาเทพนี้ กฤษณะเป็นเด็ก ผู้เดียวที่ให้ความรู้ คือ พ่อ พวกเขาได้ลบชื่อพ่อออกไปและแทนที่ด้วยชื่อของลูกชาย พวกเขาได้แสดงกิจกรรมที่สูงส่งของกฤษณะเท่านั้น พ่อพูดว่า: กิจกรรมที่สูงส่งนั้นไม่ใช่ของกฤษณะ พวกเขาร้องเพลงด้วยเช่นกันว่า: โอ้ พระเจ้า เกมที่มหัศจรรย์ของท่านนั้นพิเศษสุดและไร้ขีดจำกัด กิจกรรมที่สูงส่งเป็นกิจกรรมที่สูงส่งของผู้เดียวเท่านั้น คำยกย่องสรรเสริญชีพบาบานั้นพิเศษสุด ท่านคือผู้เดียวที่คงอยู่อย่างบริสุทธิ์อยู่เสมอ ทั้งที่เป็นเช่นนั้น ท่านก็ไม่สามารถเข้ามาสู่ร่างกายที่บริสุทธิ์ได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เรียกท่านให้มาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์และชำระล้างพวกเราให้บริสุทธิ์ ดังนั้น พ่อพูดว่า: พ่อต้องเข้ามาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์ พ่อมาและเข้ามาในร่างกายของผู้นี้ในตอนท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของเขา พ่อพูดว่า: ประเด็นหลักคือ : จดจำอัลฟ่า ! ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นรายละเอียด ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถซึมซับสิ่งเหล่านี้ได้ พ่ออธิบายให้กับผู้ที่สามารถซึมซับสิ่งเหล่านี้ได้เท่านั้น ส่วนที่เหลือพ่อพูดว่า มานมานะบาฟ ! สติปัญญาของทุกคนตามลำดับกันไปใช่ไหม ? เมฆบางก้อนประพรมสายฝนอย่างดีมาก และเมฆบางก้อนก็ประพรมสายฝนเพียงเล็กน้อยและก็จากไป ลูกเป็นเมฆเช่นกันใช่ไหม ? บางคนก็ไม่ได้ประพรมสายฝนเลย พวกเขาไม่ได้มีพละกำลังที่จะดึงความรู้ มาม่าและบาบาเป็นเมฆที่ดี ลูกๆ ลูกควรจะเป็นมิตรกับผู้ที่ประพรมสายฝนแห่งความรู้ได้ดี จะเกิดอะไรขึ้นด้วยการเป็นมิตรกับผู้ที่ไม่ประพรมสายฝนใดๆ เลย มิตรของลูกมีอิทธิพลต่อลูกอย่างมาก บางคนกลายเป็นเพชรในการเป็นมิตรกับใครบางคน ในขณะที่คนอื่นก็กลายเป็นเหมือนก้อนกรวดก้อนหินในการเป็นมิตรกับคนอื่นๆ ลูกควรเก็บรักษาคนที่ดีไว้ คนที่มีความรู้ก็จะทำให้ผู้อื่นกลายเป็นเหมือนดอกไม้ที่ทัดเทียมกับตัวเขาเอง จงมีความเป็นมิตรกับผู้ที่มีความรู้และเป็นโยคีโดยพ่อที่แท้จริง ห้ามคิดว่าลูกนั้นจะจับหางของใครบางคนและข้ามฟากไป หลายคนพูดเช่นนี้ ประเด็นนั้นจะไม่ใช้กับที่นี่ นักเรียนจะสอบผ่านด้วยการถือหางของใครบางคนหรือไม่ ? เขาจะต้องศึกษาเล่าเรียนใช่ไหม ? พ่อมาและให้ความรู้เช่นกัน ท่านรู้ว่า: เวลานี้พ่อต้องให้ความรู้นี้ ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา มันไม่ได้อยู่ในสติปัญญาของท่านว่าท่านต้องไปและให้ความรู้ ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร บาบาไม่ได้ทำสิ่งใด ถ้าบทบาทของใครบางคนกำลังมีนิมิตที่สูงส่งในละครแล้วคนนั้นก็จะได้รับนิมิต พ่อพูดว่า: ไม่ใช่ว่าพ่อจะนั่งลงและให้นิมิต สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร ถ้าใครบางคนต้องการที่จะมีนิมิตของเทพเจ้า เทพเจ้านั้นก็จะไม่ให้สิ่งนั้นใช่ไหม ? พวกเขาพูดว่า: โอ้ พระเจ้า ได้โปรดให้นิมิตแก่ฉัน พ่อพูดว่า:ถ้าสิ่งนั้นถูกกำหนดไว้ในละคร มันก็จะเกิดขึ้น พ่อก็ถูกผูกมัดโดยละครด้วยเช่นกัน บาบาพูดว่า: พ่อได้เข้ามาในโลกนี้ พ่อกำลังพูดผ่านปากของผู้นี้ พ่อเห็นลูกผ่านดวงตาของผู้นี้ ถ้าร่างนี้ไม่อยู่ที่นี่ พ่อจะสามารถเห็นลูกได้อย่างไร ? แน่นอนพ่อต้องเข้ามาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้ อย่างไรก็ตาม พ่อไม่ได้รับเชิญให้ไปสวรรค์ พ่อได้รับการเชิญให้มาในการบรรจบพบกันเท่านั้น เมื่อเป็นการบรรจบพบกันพ่อก็มาและรับร่างกายมาใช้และแล้วเมื่อนั้นพ่อก็ได้เห็นลูก ในขณะที่อยู่ในรูปที่ไม่มีตัวตน พ่อก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดเลย ดวงวิญญาณไม่สามารถทำอะไรได้โดยที่ไม่มีอวัยวะ บาบาพูดว่า: พ่อจะสามารถมองเห็นได้อย่างไร ? พ่อจะสามารถเคลื่อนไหวหรือพูดโดยไม่มีร่างกายได้อย่างไร ? มันเป็นศรัทธาที่งมงายเมื่อพวกเขาพูดว่า “พระเจ้าเห็นทุกสิ่ง ท่านทำทุกสิ่ง” ท่านจะเห็นได้อย่างไร ? เมื่อท่านได้รับอวัยวะ, ท่านจึงสามารถมองเห็นได้ พ่อพูดว่า : ทุกคนทำงานที่ดีและไม่ดีตามละคร สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว พ่อไม่ได้นั่งและเก็บบัญชีของดวงวิญญาณหลายๆ ล้านไว้ เมื่อพ่อมีร่างกายพ่อก็ทำทุกสิ่ง พวกเขาเรียกพ่อว่า “คารันคาราวันฮาร์” ด้วยเช่นกัน มิฉะนั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถเรียกพ่อเช่นนั้นได้ เมื่อพ่อเข้ามาในผู้นี้พ่อก็สามารถชำระล้างให้บริสุทธิ์ได้ ดวงวิญญาณจะสามารถทำอะไรได้จากเบื้องบน ? เขาสามารถเล่นบทบาทผ่านร่างกายเท่านั้น พ่อก็มาและเล่นบทบาทที่นี่ พ่อไม่ได้มีบทบาทในยุคทอง โดยไม่มีบทบาทไม่มีใครสามารถทำอะไรได้เลย ดวงวิญญาณไม่สามารถทำอะไรได้ถ้าไม่มีร่างกาย เมื่อดวงวิญญาณถูกปลุกเรียก เขาสามารถพูดได้เมื่อเขาเข้ามาในร่างกายเท่านั้น ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้โดยที่ไม่มีอวัยวะ นี่คือคำอธิบายในรายละเอียด ถึงกระนั้นประเด็นหลักที่บอกลูกคือ : จดจำพ่อและมรดก ! พ่อที่ไร้ขีดจำกัดนั้นยิ่งใหญ่มาก ลูกจะได้รับมรดกของลูกจากท่านในบางประเด็น ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ พวกเขาร้องเรียกหา: ได้โปรดมาและขจัดความทุกข์ของเราและประทานความสุข แต่เมื่อไร ? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ เวลานี้ลูกๆ กำลังรับฟังสิ่งใหม่ๆ ลูกรู้ว่าขณะนี้ลูกจะกลายเป็นอมตะ ลูกจะไปยังดินแดนแห่งความอมตะ ลูกเคยไปดินแดนแห่งความอมตะมากี่ครั้ง ? นับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยจบสิ้นในสิ่งนี้ หลายคนถามว่า: เราไม่สามารถบรรลุการหลุดพ้นอย่างสมบูรณ์หรือ ? บอกพวกเขาว่า: ไม่ นี่เป็นละครดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์ ไม่สามารถถูกทำลายได้ วงจรที่คงอยู่ตลอดไปนี้ยังคงหมุนไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน เวลานี้ที่ลูกรู้จักพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง ลูกเป็นซันยาสซี ไม่ใช่ฟาเกีย (ขอทานทางศาสนาเหล่านั้น) ซันยาสซีสามารถเรียกว่าฟาเกียด้วยเช่นกัน ลูกคือราชริชี ( ฤาษี ) ริชีนั้นเรียกว่าซันยาสซี ขณะนี้ลูกกำลังจะกลับมามั่งคั่งอีกครั้ง บารัตเคยมั่งคั่งมาก ขณะนี้กลายเป็นขอทานเช่นนั้น พ่อที่ไร้ขีดจำกัดมาและให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัด ยังมีเพลงด้วยเช่นกันว่า: “บาบาไม่มีใครสามารถให้สิ่งที่ท่านให้กับเราได้” ท่านทำให้เราเป็นนายของโลก ไม่มีใครสามารถปล้นสิ่งนี้ไปจากเรา ผู้ที่แต่งเพลงเช่นนั้นก็ไม่ได้คิดถึงความหมายของเพลงเหล่านั้นเลย ลูกรู้ว่าจะไม่มีการแบ่งแยก ฯลฯ ที่นั่น ที่นี่มีการแบ่งแยกมากมาย ! ที่นั่นท้องฟ้า ผืนดิน ทุกสิ่งยังคงเป็นของลูก ดังนั้นลูกๆ ลูกควรจะมีความสุขเป็นอย่างมาก เข้าใจอยู่เสมอว่าคือ ชีพบาบาที่พูดเพราะท่านไม่เคยหยุดพักผ่อน ; ท่านไม่เคยล้มป่วย การจดจำระลึกถึงของลูกควรจะมีกับชีพบาบาเท่านั้น ท่านถูกเรียกว่าไม่มีความหลงทะนงตน “ฉันทำสิ่งนี้ ฉันทำสิ่งนั้น” ลูกไม่ควรจะมีความหลงทะนงตนเช่นนั้น การทำงานรับใช้เป็นหน้าที่ของลูก ไม่จำเป็นต้องมีความหลงทะนงตนในสิ่งนี้ เมื่อความหลงทะนงตนเกิดขึ้นลูกก็ตกลงมา จงทำงานรับใช้ต่อไป นี่คืองานรับใช้ทางจิต ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นไปทางกายภาพ อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. แสดงการตอบแทนของสิ่งที่พ่อกำลังสอนลูกด้วยการกลายเป็นดอกไม้ จงทำความเพียรพยายาม! อย่าได้ประณามชื่อเสียงวงศ์สกุลของพระเจ้า รักษาความเป็นมิตรกับผู้ที่มีความรู้และผู้ที่เป็นโยคีเท่านั้น

2. สละละทิ้งจิตสำนึกของ “ฉัน” กลับมาปราศจากความหลงทะนงและทำงานรับใช้ทางจิต พิจารณาว่างานรับใช้เป็นหน้าที่ของ ลูก เลิกความหยิ่งยโส

พร:
ขอให้ลูกตายในขณะที่มีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงและเปลี่ยนความไร้ประโยชน์ทั้งหมดด้วยความตั้งใจที่บริสุทธิ์และความรู้สึกที่สูงส่ง

ศรีมัทของบัพดาดาคือ: ลูกๆ ห้ามรับฟังอะไรที่ไร้ประโยชน์หรือพูดอะไรที่ไร้ประโยชน์หรือคิดอะไรที่ไร้ประโยชน์ จงคิดด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์เสมอและพูดคำพูดที่เป็นมงคลสิริมงคล ฟังสิ่งที่ไร้ประโยชน์ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เป็นผู้ที่มีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกสำหรับผู้อื่นและพวกเขาจะเปลี่ยนความตั้งใจที่อยู่เบื้องหลังคำพูด ให้ความตั้งใจและความรู้สึกของลูกสูงส่งเสมอ เปลี่ยนแปลงตนเองและเลิกว่าจะเปลี่ยนแปลงผู้อื่น การเปลี่ยนแปลงตนเองจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้อื่น “ในสิ่งนี้ให้ฉันเป็นคนแรก” เพียงในชีวิตนี้ของการตายในขณะที่มีชีวิตอยู่เท่านั้นที่มีความสุข สิ่งนี้เรียกว่าการสังเวยอันยิ่งใหญ่ ในสิ่งนี้ ตายอย่างมีความสุข การตายนี้คือการมีชีวิต นี่คือการให้ทานที่แท้จริงของชีวิต

คติพจน์:
ด้วยความคิดที่จดจ่อมีสมาธิ การเปลี่ยนแปลงที่สูงส่งจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

มีความรักในความสันโดษและซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ

พลังของการชุมนุมสามารถประสบสำเร็จในสิ่งใดก็ตามที่ต้องการ อนุสรณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของการชุมนุมคือพันดาวาสทั้งห้า พลังของความเป็นหนึ่งเดียวกันถูกแสดงออกด้วยการพูด “ฮาจี ฮาจี” พวกเขาแสดงความคิดเห็นของพวกเขา และแล้วก็ผูกสิ่งเหล่านั้นไว้ในพันธะของความเป็นหนึ่งเดียวกัน ความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้คือวิธีการของความสำเร็จ