12.10.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
พ่อมาที่นี่ในฐานะคนพายเรือเพื่อนำลูกๆผู้เป็นเรือทั้งหมดออกจากมหาสมุทรแห่งยาพิษและพาลูกไปสู่มหาสมุทรแห่งน้ำนม
เวลานี้ลูกต้องไปจากฝั่งนี้ไปสู่อีกฝั่งหนึ่ง
คำถาม:
ขณะที่สังเกตการณ์บทบาทของแต่ละคน, เหตุใดลูกๆ จึงไม่ประณามใคร?
คำตอบ:
เพราะลูกรู้ว่าละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้วตลอดไป
นักแสดงแต่ละคนกำลังเล่นบทบาทของเขาเองภายในละครนี้
ไม่มีใครสามารถถูกตำหนิสำหรับสิ่งใดได้เลย
ลูกจะต้องไปผ่านหนทางของความเลื่อมใสศรัทธานี้อีกครั้ง
ไม่สามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้แม้แต่เล็กน้อยในสิ่งนั้น
คำถาม:
สองคำใดที่รวมความรู้ของวงจรทั้งหมดเข้าด้วยกัน?
คำตอบ:
วันนี้และพรุ่งนี้ เมื่อวานนี้เราอยู่ในยุคทอง วันนี้เราได้วนไปรอบวงจรของ 84
ชาติเกิด เราได้มาถึงนรกและพรุ่งนี้เราจะได้ไปสวรรค์อีกครั้ง
โอมชานติ
ลูกๆ กำลังนั่งเบื้องอยู่เหน้าบาบา จากที่ที่ลูกมา
เมื่อลูกอยู่ที่ศูนย์เหล่านั้นลูกไม่คิดว่าลูกกำลังนั่งอยู่หน้าบาบาผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดเป็นการส่วนตัว
ท่านเป็นครูของเราและท่านก็คือผู้ที่จะพาเรือของเราข้ามฟากไปด้วยเช่นกัน
ท่านก็เรียกว่าเป็นกูรูด้วยเช่นกัน
ที่นี่ลูกเข้าใจว่าลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าท่านเป็นการส่วนตัว
ท่านกำลังพาเราออกไปจากมหาสมุทรแห่งยาพิษนี้และกำลังพาเราไปสู่มหาสมุทรแห่งน้ำนม
พ่อผู้พาลูกข้ามฟากกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัว
เพียงดวงวิญญาณของพ่อชีวาเท่านั้นที่เรียกว่าผู้ที่สูงสุดและพระเจ้า,ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ลูกๆเข้าใจว่าเวลานี้ลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าชีพบาบา,พระเจ้า,ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ท่านกำลังนั่งในผู้นี้ (ร่างของบราห์มา) ท่านพาลูกข้ามฟากไป
แน่นอนว่าท่านต้องการพาหนะเช่นกัน ไม่เช่นนั้นแล้วท่านจะให้ศรีมัทแก่ลูกได้อย่างไร?
เวลานี้ลูกๆมีศรัทธาว่าบาบาคือพ่อ,ครูของลูกและเป็นผู้เดียวที่พาลูกข้ามฟากไป
เวลานี้เราดวงวิญญาณกำลังจะกลับไปสู่บ้านของเราดินแดนแห่งความสงบ
บาบากำลังชี้หนทางแก่เรา
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืนระหว่างการนั่งที่นั่นที่ศูนย์และการนั่งที่นี่เป็นการส่วนตัวเบื้องหน้าบาบา
ที่นั่นลูกจะไม่คิดว่าลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าบาบาเป็นการส่วนตัว
ที่นี่ลูกรู้สึกว่าเวลานี้ลูกกำลังเพียรพยายาม
ผู้เดียวที่กำลังดลใจลูกให้ทำความเพียรพยายามก็จะพอใจ
เวลานี้เราจะกลับมาบริสุทธิ์และจะกลับบ้าน
นักแสดงในละครก็เข้าใจว่าการละเล่นจบลงเมื่อไร
เวลานี้พ่อมาเพื่อพาเราดวงวิญญาณกลับไป
ท่านอธิบายด้วยเช่นกันว่าลูกจะสามารถกลับบ้านได้อย่างไร
ท่านคือพ่อและเป็นคนพายเรือด้วยเช่นกันผู้ที่พาเรือข้ามฟากไป
แม้ว่าผู้คนเหล่านั้นจะร้องเพลงนี้,พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขากล่าวถึงเมื่อพวกเขาพูดคำว่า
"เรือ" ท่านจะนำร่างกายไปหรือ? เวลานี้ลูกเข้าใจว่าท่านพาเราดวงวิญญาณข้ามฟากไป
ดวงวิญญาณพร้อมกับร่างกายนี้ในเวลานี้กำลังอยู่ในโรงค้าประเวณี,ในแม่น้ำแห่งยาพิษ
ดั้งเดิมแล้วเราเคยเป็นผู้อาศัยของดินแดนแห่งความสงบ
เราได้พบพ่อผู้ที่จะพาเราข้ามฟากไป นั่นคือพาเรากลับบ้าน เคยมีอาณาจักรของลูก
และแล้วมายาราวัณก็ได้ช่วงชิงสิ่งนั้นไป
อาณาจักรนั้นจะต้องเรียกร้องสิทธิ์คืนมาอย่างแน่นอน พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดว่า ลูกๆ
เวลานี้จงจดจำบ้านของลูก ลูกต้องไปที่นั่นและจากนั้นกลับไปสู่มหาสมุทรแห่งน้ำนม
ที่นี่เป็นมหาสมุทรแห่งยาพิษ และที่นั่นคือมหาสมุทรแห่งน้ำนม
โลกที่ไม่มีตัวตนคือมหาสมุทรแห่งความสงบ มีสามดินแดน นี่คือดินแดนแห่งความทุกข์
พ่ออธิบายว่า: ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน, ให้พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
ใครกำลังบอกสิ่งนี้แก่ลูกและท่านกำลังบอกลูกผ่านใคร?
ตลอดทั้งวันท่านเฝ้าแต่พูดกับลูก: ลูกๆที่แสนหวาน, ลูกๆที่แสนหวาน!
เวลานี้ดวงวิญญาณไม่บริสุทธิ์และพวกเขาได้รับร่างกายตามนั้น
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกเคยเป็นเครื่องประดับที่ทำจากทองแท้
และหลังจากที่อัลลอยได้ไปปะปนเข้ามาในตัวลูก ลูกก็กลายเป็นของปลอม
เวลานี้ความหลอกลวงจะสามารถถูกขจัดออกไปได้อย่างไร?
สิ่งนี้เรียกว่าเตาอบของการจาริกแสวงบุญแห่งความทรงจำระลึกถึง
สิ่งนั้นกลายเป็นทองแท้ในไฟ พ่ออธิบายแก่ลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า:
พ่อให้คำอธิบายแก่ลูกที่พ่อเคยให้กับลูกทุกๆ วงจร บทบาทของพ่อคือการมาหลังจาก 5000
ปีและบอกลูกว่า: ลูกๆ จงกลับมาบริสุทธิ์! ลูกดวงวิญญาณบริสุทธิ์ในยุคทอง
ดวงวิญญาณคงอยู่อย่างบริสุทธิ์ในดินแดนแห่งความสงบ ที่นั่นคือบ้านของเรา
นั่นคือบ้านที่แสนหวาน ผู้คนเพียรพยายามอย่างหนักมากเพื่อจะไปที่นั่น พ่ออธิบายว่า:
เวลานี้ทุกคนต้องกลับไปและจากนั้นพวกเขาต้องกลับมาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของเขา
ลูกๆเข้าใจแล้วว่าเมื่อลูกไม่มีความสุข ลูกก็พูดว่า โอ้ พระเจ้า,
เรียกเราไปหาท่านเถิด! เหตุใดท่านจึงทิ้งเราไว้ที่นี่ในความทุกข์?
ลูกรู้ว่าพ่ออาศัยอยู่ในอาณาเขตสูงสุด และดังนั้นลูกพูดว่า โอ้ พระเจ้า
เรียกเราไปสู่อาณาเขตสูงสุดเถิด! ลูกจะไม่พูดเช่นนี้ในยุคทอง
ที่นั่นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความสุข ที่นี่มีความทุกข์ประเภทต่างๆ
มากมายและเหตุนี้เองผู้คนจึงเรียกหา: โอ้ พระเจ้า! ดวงวิญญาณมีการจดจำระลึกถึง
แต่พวกเขาไม่รู้จักพระเจ้าเลย เวลานี้ลูกๆได้รับคำแนะนำของพ่อแล้ว
พ่ออาศัยอยู่ในอาณาเขตสูงสุด ผู้คนจดจำบ้าน พวกเขาจะไม่พูดว่า
เรียกเราไปยังอาณาจักร พวกเขาจะไม่ร้องขออาณาจักร
พ่อไม่ได้อาศัยแม้กระทั่งในอาณาจักร ท่านอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งความสงบเท่านั้น
ทุกคนร้องขอความสงบ จะต้องมีความสงบกับพระเจ้าในอาณาเขตสูงสุดอย่างแน่นอน
นั่นเรียกว่าดินแดนแห่งการหลุดพ้นด้วยเช่นกัน นั่นคือสถานที่อาศัยของดวงวิญญาณ
ดวงวิญญาณมาจากที่นั่น ยุคทองไม่เรียกว่าบ้าน นั่นคืออาณาจักร
เวลานี้ลูกมาที่นี่จากสถานที่ต่างๆ มากมาย ลูกมาและนั่งที่นี่เป็นการส่วนตัว
พ่อพูดกับลูก โดยพูดว่า “ลูกๆ ลูกๆ!” ในฐานะพ่อ, ท่านเรียกลูกว่า “ลูกๆ ลูกๆ”
และในฐานะครู ท่านก็อธิบายแก่ลูกถึงความลับของตอนเริ่ม, ตอนกลางและตอนจบของโลก
ท่านอธิบายถึงประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ให้กับลูก
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ใด ลูกๆ
รู้ว่าโลกที่ไม่มีตัวตนคือบ้านของลูกดวงวิญญาณ
อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนคือเรื่องของนิมิตที่สูงส่ง อย่างไรก็ตามยุคทอง,เงิน,ทองแดงและเหล็กก็เกิดขึ้นที่นี่เท่านั้น
เป็นที่นี่ที่ลูกเล่นบทบาทของลูก ไม่มีการเล่นบทบาทใดๆ ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
นั่นเป็นเพียงเรื่องของนิมิต
ลูกควรมีวันนี้และพรุ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกอย่างชัดเจนมาก
เมื่อวานนี้เราอยู่ในยุคทองและจากการใช้ 84 ชาติเกิด วันนี้เราได้เข้ามาในนรก
ลูกเรียกพ่อเข้ามาในนรก
ในยุคทองที่นั่นมีความสุขอย่างมากมายและดังนั้นจึงไม่มีใครเรียกหาท่านที่นั่น
ที่นี่ลูกอยู่ในร่างกายและเหตุนี้เองลูกจึงสามารถพูดกับท่านได้ พ่อพูดว่า
พ่อเป็นจานีจานันฮาเช่นกัน (ผู้เดียวที่รู้ทุกสิ่ง) พ่อรู้ถึงตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของโลก
แต่พ่อจะสามารถถ่ายทอดสิ่งนั้นแก่ลูกได้อย่างไร? นี่คือสิ่งที่ต้องคิด
เหตุนี้เองจึงมีการเขียนว่าพ่อนำพาหนะมาใช้ ท่านพูดว่า
ชาติเกิดของพ่อไม่เหมือนของลูก พ่อเข้ามาในผู้นี้
พ่อให้คำแนะนำของพาหนะแก่ลูกด้วยเช่นกัน
ดวงวิญญาณนี้กลับมาตโมประธานในขณะที่ใช้รูปและนาม ในเวลานี้ทุกคนคือลูกกำพร้า
เพราะพวกเขาไม่รู้จักพ่อ พวกเขาจึงเป็นลูกกำพร้า เมื่อลูกๆต่อสู้รบรากันเอง
จึงมีคำกล่าวว่า เด็กหญิงและเด็กชายทำไมลูกถึงต่อสู้รบรากัน?
พ่อพูดว่าทุกคนได้ลืมพ่อไปแล้ว เป็นดวงวิญญาณที่พูดว่า เด็กหญิงเด็กชาย,
พ่อทางร่างพูดเช่นนี้และพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดก็พูดเช่นกันว่า ลูกกำพร้า,
เหตุใดสภาพของลูกจึงกลายเป็นเช่นนี้? ลูกไม่ได้กลายเป็นของใครเลยหรือ?
ลูกพูดถึงพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดที่ทำให้ลูกกลายเป็นนายแห่งสวรรค์
ผู้เดียวที่ลูกร้องเรียกหามาเป็นเวลาครึ่งวงจร ที่ท่านอยู่ในก้อนกรวดก้อนหิน!
เวลานี้พ่อนั่งที่นี่เป็นการส่วนตัวและอธิบายแก่ลูก เวลานี้ลูกๆ
เข้าใจว่าลูกได้มาหาบาบา บาบานี้คือผู้เดียวที่สอนเราและพาเรือของเราข้ามฟากไป
เพราะเรือนี้เก่ามาก ผู้คนพูดว่า พาเรือนี้ข้ามฟากไปและให้เรือใหม่แก่เรา
เรือเก่านั้นอันตราย เรือเก่านั้นอาจจะพังลงในระหว่างทางหรือเกิดอุบัติเหตุ
ดังนั้นลูกพูดว่าเรือของลูกนั้นเก่าและลูกร้องขอเรือใหม่ สิ่งนี้(ร่างกาย)ก็เรียกว่าเครื่องแต่งกายหรือเรือ
ลูกๆพูดว่าบาบา เราต้องการเครื่องแต่งกายเช่นนั้น (ที่เหมือนของลักษมีและนารายณ์)
พ่อพูดว่าลูกๆที่สุดแสนหวาน ลูกต้องการจะกลายเป็นชาวสวรรค์หรือไม่? ทุกๆ 5000 ปี,
เสื้อผ้าของลูกเหล่านี้จะกลับมาเก่าและพ่อก็ได้ให้ชุดใหม่แก่ลูก
เหล่านี้เป็นเครื่องแต่งกายที่เป็นเช่นปีศาจ
ดวงวิญญาณก็เป็นเช่นปีศาจร้ายด้วยเช่นกัน
เมื่อผู้คนยากจนพวกเขาก็สวมใส่เสื้อผ้าราคาถูก
หากพวกเขามั่งคั่งพวกเขาก็สวมเสื้อผ้าที่มีราคาแพงมาก ลูกรู้สิ่งเหล่านี้ในเวลานี้
ที่นี่ลูกมีความซาบซึ้งที่รู้ว่าลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าใคร
เมื่อลูกกำลังนั่งที่นั่นที่ศูนย์ของลูก ลูกจะไม่มีความรู้สึกนี้
ที่นี่เมื่อลูกรับฟังพ่อเป็นการส่วนตัว ลูกๆ รู้สึกมีความสุข
เพราะพ่อกำลังอธิบายแก่ลูกโดยตรง เมื่อใครบางคนอธิบายแก่ลูกที่นั่น
โยคะของสติปัญญาของลูกก็เร่ร่อนไปอย่างต่อเนื่อง มีคำกล่าวว่า
ผู้คนเฝ้าแต่ติดกับอยู่ในธุรกิจทางโลก พวกเขาไม่มีเวลาเลย พ่อกำลังอธิบายแก่ลูก
ลูกก็เข้าใจว่าบาบากำลังอธิบายแก่ลูกด้วยปากนี้เช่นกัน มีคำยกย่องของปากนี้อย่างมาก
ผู้คนล้มลุกคลุกคลานจากที่ไกลมากเพื่อมาดื่มน้ำทิพย์ที่เกามุกข์
พวกเขามาด้วยความยากลำบากมาก ผู้คนไม่เข้าใจแม้กระทั่งว่าเกามุกข์คืออะไร
ผู้คนที่รู้คิดหลายหลายคนก็ไปที่นั่น แต่นั่นจะมีประโยชน์อะไร?
เวลาก็ยิ่งสูญเสียไปมากเท่านั้น บาบาพูดว่า ลูกเห็นอะไรในขณะที่พระอาทิตย์ตกดิน?
ไม่มีประโยชน์อะไรในสิ่งนั้น มีประโยชน์ในการศึกษาเล่าเรียน
มีการศึกษาเล่าเรียนในกีตะ ไม่มีการกล่าวถึงหะฐะโยคะในกีตะ
มีเพียงราชาโยคะเท่านั้นที่กล่าวไว้ในกีตะ ลูกมาที่นี่เพื่อประกาศสิทธิ์ในอาณาจักร
ลูกรู้ว่ามีการต่อสู้รบราและการทะเลาะเบาะแว้ง ฯลฯ
มากมายเพียงใดในโลกที่เป็นเช่นปีศาจนี้ บาบากำลังชำระเราให้บริสุทธิ์ด้วยพลังโยคะ
และกำลังทำให้เรากลายเป็นนายของโลก ผู้คนก็ได้แสดงให้เห็นเทพเจ้าที่มีอาวุธ ฯลฯ
แต่ในความเป็นจริงไม่มีเรื่องของอาวุธในสิ่งนี้
ดูซิว่าพวกเขาได้ทำให้ภาพลักษณ์ของกาลีนั้นน่ากลัวเพียงใด!
พวกเขาทำภาพลักษณ์เหล่านั้นจากจินตนาการของพวกเขา
จะไม่มีเทพเจ้าที่มีสี่แขนหรือแปดแขนเช่นนั้น
ทั้งหมดนั้นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ดังนั้นพ่ออธิบายว่า:
นี่คือการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัด ไม่มีเรื่องของการประณามใครในสิ่งนี้
ละครที่คงอยู่ตลอดไปนั้นถูกกำหนดไว้แล้ว จะไม่สามารถมีความแตกต่างใดๆได้
พ่ออธิบายสิ่งที่เรียกว่าความรู้และสิ่งที่เรียกว่าความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกยังคงต้องผ่านหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ในขณะที่กำลังวนไปรอบวงจรของ 84
ชาติเกิดในลักษณะนี้ ลูกก็ลงมา
นี่คือละครที่ดีมากที่ได้มีการสร้างขึ้นที่คงอยู่ตลอดไปซึ่งพ่ออธิบายแก่ลูก
ด้วยการเข้าใจความลับของละครนี้ ลูกจะกลายเป็นนายของโลก นี่เป็นความมหัศจรรย์!
ความเลื่อมใสศรัทธาดำเนินไปอย่างไรและความรู้ดำเนินไปอย่างไร
ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร จะไม่สามารถมีการเปลี่ยนแปลงใดๆได้
พวกเขาพูดว่าผู้นั้นผู้นี้หลอมรวมเข้ากับธาตุบราห์ม
หรือหลอมรวมเข้ากับธาตุแสงและนี่คือโลกของความคิด
ผู้คนเฝ้าแต่พูดในสิ่งที่เข้าไปในจิตใจของพวกเขา ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
ผู้คนไปดูภาพยนตร์ ลูกจะเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นการละเล่นของความคิดหรือไม่?
พ่อนั่งที่นี่และอธิบาย: ลูกๆ
การละเล่นนี้ไม่มีขีดจำกัดและสิ่งนี้จะซ้ำรอยเหมือนเดิมทุกประการ
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและให้ความรู้นี้เพราะท่านเต็มไปด้วยความรู้
ท่านคือเมล็ดของต้นไม้โลกมนุษย์ ท่านมีชีวิต ท่านมีความรู้ทั้งหมด
ผู้คนก็ได้แสดงช่วงระยะเวลาเป็นหลายแสนปี พ่อพูดว่า
ช่วงระยะเวลาไม่สามารถยาวนานเช่นนั้น หากภาพยนตร์มีความยาวเป็นแสนปี
ภาพยนตร์นั้นก็จะไม่อยู่ในสติปัญญาของใคร ลูกพูดเกี่ยวกับทุกสิ่ง
ลูกจะสามารถพูดถึงสิ่งที่ยาวนานเป็นหลายแสนปีได้อย่างไร?
ดังนั้นทั้งหมดนั้นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกเป็นผู้ที่เล่นบทบาทในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
หลังจากประสบกับความทุกข์ในลักษณะนั้น ทุกคนก็ไปถึงจุดจบ
ต้นไม้ไปถึงสภาพของการเสื่อมโสมถึงที่สุด เวลานี้ลูกต้องกลับไปสู่ที่นั่น
ทำให้ตนเองเบาสบาย ผู้นี้ก็ได้ทำให้ตนเองเบาสบายเช่นกัน
บ่วงพันธะทั้งหมดก็จะถูกทำลาย มิเช่นนั้นลูกก็จะจดจำลูกๆ ของลูก, ทรัพย์สมบัติ,
โรงงาน, ลูกค้า, ราชาและทรัพย์สินต่างๆของพวกเขา ฯลฯ
หากลูกออกจากธุรกิจของลูกไปแล้ว เหตุใดลูกจึงจดจำสิ่งเหล่านั้นเล่า?
ที่นี่ลูกต้องลืมทุกสิ่ง ลืมทุกสิ่งนั้นและจดจำบ้านและอาณาจักรของลูก
จดจำดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
และจากนั้นเราก้ต้องลงมาที่นี่จากดินแดนแห่งความสงบ พ่อพูดว่า จงจดจำพ่อ
สิ่งนี้เรียกว่าไฟโยคะ นี่คือราชาโยคะ ลูกคือราชฤาษี ผู้บริสุทธิ์นั้นเรียกว่าฤาษี
ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์เพื่อที่จะได้มาซึ่งอาณาจักร
เพียงพ่อเท่านั้นที่บอกสัจจะทั้งหมดแก่ลูก ลูกเข้าใจเช่นกันว่านี่คือการละเล่น
นักแสดงทั้งหมดต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน และจากนั้นพ่อก็จะพาทุกคนกลับไป
นี่คือขบวนเจ้าสาวของพระเจ้า พ่อและลูกๆอาศัยอยู่ที่นั่น
จากนั้นลูกๆก็ลงมาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของลูก พ่ออาศัยอยู่ที่นั่นเสมอ
ผู้คนจดจำพ่อในเวลาของความทุกข์เท่านั้น พ่อจะทำอะไรที่นั่น(ในยุคทอง)?
พ่อส่งลูกไปยังดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข ดังนั้นจำเป็นต้องมีอะไรอีก?
เมื่อลูกอยู่ในดินแดนแห่งความสุข
ดวงวิญญาณที่เหลือทั้งหมดก็อยู่ในดินแดนแห่งความสงบ
จากนั้นพวกเขาก็ลงมาเรื่อยๆตามลำดับกันไป เวลานี้การละเล่นได้มาถึงจุดจบ พ่อพูดว่า
ลูกๆในเวลานี้อย่าได้อยู่อย่างไม่ระมัดระวัง ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์แน่นอน
พ่อพูดว่า บทบาทนี้มีการเล่นตามละครเดียวกัน ตามละครแล้วพ่อมาเพื่อลูกทุกๆ วงจร
เวลานี้ลูกๆต้องไปสู่โลกใหม่ อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
ด้วยความรัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา
พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ต้นไม้ต้นนี้ได้กลับมาเก่าและเสื่อมโทรมไปแล้ว เวลานี้ดวงวิญญาณต้องกลับบ้าน
ดังนั้นปลดปล่อยตนเองจากบ่วงพันธะทั้งหมดและทำให้ตนเองเบาสบาย
จงขจัดทุกสิ่งของที่นี่ออกไปจากสติปัญญาของลูก
2.
เก็บละครที่คงอยู่ตลอดไปไว้ในสติปัญญาของลูก อย่าได้ประณามนักแสดงคนใด
เข้าใจความลับของละครนี้และกลายเป็นนายของโลก
พร:
ขอให้ลูกเร่งความเร็วในการบินของดวงวิญญาณของลูกด้วยพลังแห่งความเงียบสงบ
และกลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก
ความเร็วของเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์สามารถตัดด้วยวิทยาศาสตร์และเพิ่มขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์เช่นกัน
แต่ยังไม่มีใครสามารถเทียบความเร็วของดวงวิญญาณได้และพวกเขาก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
พวกเขาพิจารณาว่าตนเองล้มเหลวในเรื่องนี้ ในขณะที่วิทยาศาสตร์ล้มเหลว
แต่ลูกสามารถทำสิ่งใดก็ตามที่ลูกต้องการด้วยพลังของความเงียบสงบ
ดังนั้นจงเร่งความเร็วของการบินของดวงวิญญาณด้วยพลังความเงียบสงบ
ด้วยการใช้พลังนี้ลูกสามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตนเอง,
เปลี่ยนแปลงทัศนคติของใครก็ตามและเปลี่ยนแปลงบรรยากาศ
และกลายเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงโลก สิ่งชี้บอกของความเร็วสูง คือ ทันทีที่ลูกคิด
สิ่งนั้นก็เกิดขึ้น
คติพจน์:
จงมีความเมตตาและให้ความร่วมมือกับผู้ประทานคำสอน