12.12.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ในยุคบรรจบพบกันลูกได้รับพรของสัจจะจากพ่อที่แท้จริง ดังนั้นลูกต้องไม่โกหก

คำถาม:
ลูกๆ ต้องทำความเพียรพยายามอะไรเพื่อที่จะกลับมาปราศจากกิเลสอย่างแน่นอน?

คำตอบ:
ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณอย่างแน่นอน ฝึกฝนที่จะมองเห็นดวงวิญญาณที่กึ่งกลางหน้าผากของแต่ละคนเท่านั้น พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณในขณะที่ลูกพูดกับดวงวิญญาณและรับฟังดวงวิญญาณ สายตาของลูกไม่ควรทอดมองไปยังร่างกายของพวกเขา นี่คือความพยายามหลักที่ลูกต้องทำและในความพยายามนี้ที่มีอุปสรรค ฝึกฝน “ฉันเป็นดวงวิญญาณ ฉันเป็นดวงวิญญาณ” ให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้

เพลง:
ขอคารวะต่อชีวา

โอมชานติ
พ่อเตือนลูกๆ ที่แสนหวานว่าวงจรโลกหมุนไปอย่างไร เวลานี้ลูกๆรู้ว่าสิ่งใดก็ตามที่ลูกได้รับรู้จากพ่อและหนทางที่พ่อได้แสดงให้กับลูกนั้นไม่มีใครในโลกรู้ ท่านได้อธิบายความหมายของ “ผู้ที่กลายเป็นนายของโลกที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาและแล้วกลายเป็นผู้ที่กราบไหว้บูชา” ลูกจะไม่พูดถึงสิ่งนี้ต่อดวงวิญญาณสูงสุด สิ่งนี้ได้เข้าไปสู่สำนึกรู้ของลูกว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องอย่างสมบูรณ์ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่บอกลูกถึงข่าวของตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของโลก ไม่มีใครสามารถถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ สิ่งนี้ไม่ได้เป็นคำยกย่องของศรีกฤษณะ ลูกๆ เข้าใจว่าเวลานี้ดวงวิญญาณกำลังได้รับความรู้ นี่คือสิ่งที่มหัศจรรย์ ไม่มีใครนอกจากพ่อที่สามารถอธิบายสิ่งนี้ มีผู้รู้และผู้เคร่งศาสนามากมายที่สอนหฐโยคะฯลฯประเภทต่างๆ มากมาย ทั้งหมดนั้นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกไม่ได้กราบไหว้บูชาใครในยุคทอง ลูกไม่ได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาที่นั่น มีการกล่าวถึงพวกเขาว่า: “พวกเขาเคยเป็นเทพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา” อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว ผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเดียวกันนั้นเวลานี้ได้กลายเป็นผู้ที่กราบไหว้บูชา พ่อพูดว่า: ผู้นี้เองก็เคยกราบไหว้บูชาด้วยเช่นกัน เวลานี้ผู้คนของทั้งโลกคือผู้ที่กราบไหว้บูชา ในโลกใหม่มีเพียงศาสนาเทพเดียวของผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเท่านั้น เวลานี้ลูกๆคือผู้ที่สำนึกรู้ว่าตามแผนของละครสิ่งนี้ถูกต้องอย่างแท้จริง นี่คือบทของกีตะอย่างแท้จริง เป็นเพียงการที่พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อในกีตะและลูกพยายามที่จะอธิบายสิ่งนี้ เป็นเวลา 2500 ปีแล้วที่พวกเขาคิดว่ากีตะนั้นเป็นคำพูดของศรีกฤษณะ เวลานี้ต้องใช้เวลาสำหรับพวกเขาที่จะเข้าใจภายในชาติเกิดเดียวว่าเป็นพระเจ้าที่ไม่มีตัวตนที่พูดกีตะ? ท่านได้อธิบายด้วยเช่นกันว่าต้นไม้ของความเลื่อมใสศรัทธานั้นสูงและซับซ้อนเพียงใด ลูกสามารถเขียนว่าพ่อกำลังสอนราชาโยคะให้แก่ลูก ลูกๆ ที่มีศรัทธาเช่นนั้นสามารถอธิบายแก่ผู้อื่นด้วยศรัทธานั้น หากไม่มีศรัทธานั้นลูกเองก็จะกลับมาสับสนว่าจะอธิบายให้คนอื่นอย่างไรและกลัวว่าจะมีความปั่นป่วนบางอย่าง ลูกยังไม่ได้กลับมาปราศจากความกลัว ลูกจะปราศจากความกลัวเมื่อลูกกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณอย่างสมบูรณ์ ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาที่พวกเขามีความกลัว ลูกทั้งหมดคือนักรบที่กล้าหาญ ไม่มีใครในโลกรู้วิธีที่จะเอาชนะมายา เวลานี้ลูกๆจดจำว่าพ่อเคยบอกลูกก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกันว่า: มานมานะบาฟ! มีเพียงพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์เท่านั้นที่มาและอธิบายสิ่งนี้แก่ลูก แม้ว่าคำนี้จะมีการกล่าวถึงในกีตะ แต่ก็ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ พ่อพูดว่า: ลูกๆ ขอให้ลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ! วลีเหล่านี้ในกีตะเปรียบเสมือนเกลือหนึ่งหยิบมือในกระสอบแป้ง พ่อปลูกฝังศรัทธาในลูกเกี่ยวกับทุกสิ่ง ผู้ที่มีสติปัญญาที่ศรัทธาจะกลับมามีชัยชนะ เวลานี้ลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อ พ่อพูดว่า: ลูกต้องอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูกอย่างแน่นอน ไม่จำเป็นสำหรับลูกทุกคนที่จะมาและอาศัยอยู่ที่นี่ ต้องมีการทำงานรับใช้และต้องเปิดศูนย์ ลูกคือหน่วยกู้ภัย ลูกคือพันธกิจของพระเจ้า ก่อนหน้านี้ลูกเป็นของพันธกิจของศูทรของมายา ในขณะที่เวลานี้ลูกเป็นของพันธกิจของพระเจ้า ลูกมีความสำคัญมาก คำยกย่องของลักษมีและนารายณ์คืออะไร? พวกเขาปกครองในลักษณะเดียวกันกับที่ราชาปกครองแต่พวกเขาถูกเรียกว่า “เต็มเปี่ยมไปด้วยทุกคุณธรรมและเป็นนายของโลก” เนื่องจากไม่มีอาณาจักรอื่นใดในเวลานั้น เวลานี้ลูกๆ เข้าใจแล้วว่าพวกเขากลายเป็นนายของโลกได้อย่างไร เวลานี้เรากำลังจะกลายเป็นเทพ ดังนั้นเราจะสามารถก้มลงให้กับพวกเขาได้อย่างไร? เวลานี้ลูกกลับมาเต็มไปด้วยความรู้ ผู้ที่ไม่มีความรู้นี้ก็เฝ้าแต่ก้มศีรษะของเขาต่อไป เวลานี้ลูกรู้จักอาชีพของทุกคนด้วยเช่นกัน ลูกสามารถอธิบายว่าภาพใดถูกต้องและภาพใดผิด ลูกสามารถอธิบายด้วยเช่นกันว่านี่คืออาณาจักรของราวันและกำลังถูกจุดให้ลุกเป็นไฟ กองฟางจะต้องถูกจุดให้ลุกเป็นไฟ กล่าวกันว่าโลกนั้นเหมือนกองฟาง ลูกต้องอธิบายคำพูดที่ถูกนำมาใช้ พวกเขาได้สร้างภาพมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ในความเป็นจริงดั้งเดิมมีการกราบไหว้บูชาชีพบาบาแล้วก็บราห์มา วิษณุ และ ชังก้าร์ ตรีมูรติที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้นถูกต้อง และแล้วจึงมีลักษมีและนารายณ์นี้ สรัสวตีก็รวมอยู่กับบราห์มาในตรีมูรติด้วยเช่นกัน พวกเขาสร้างรูปภาพมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา พวกเขาแม้กระทั่งกราบไหว้บูชาหนุมาน ลูกกำลังจะกลายเป็นนักรบที่กล้าหาญ ในวัดบางคนถูกแสดงว่าขี่ช้างและคนอื่นๆขี่ม้า อย่างไรก็ตามพวกเขา (เทพ) จะขี่สิ่งนั้นได้อย่างไร? พ่อพูดว่า: มหารตี มหารตีหมายถึงผู้ที่ขี่ช้าง ดังนั้นพวกเขาจึงได้แสดงว่าพวกเขาขี่ช้าง ความหมายของจระเข้กินช้างได้อย่างไรก็มีการอธิบายแก่ลูกด้วยเช่นกัน พ่ออธิบายว่า: มายาหรือจระเข้นั้นบางครั้งก็กลืนมหารตี เวลานี้ลูกเข้าใจความรู้นี้แล้ว มายาก็กินมหารตีที่ดี สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นของความรู้ ไม่มีใครอื่นสามารถอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้ พ่อพูดว่า: จงกลับมาปราศจากกิเลสและสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง ทุกวงจรพ่อพูดว่า: ตัณหาราคะคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ต้องใช้ความพยายามสำหรับลูกที่จะได้รับชัยชนะเหนือสิ่งนั้น ลูกเป็นของพ่อของผู้คน ดังนั้นลูกคือพี่น้องหญิงชาย ในความเป็นจริงแล้วดั้งเดิมลูกคือดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณกำลังพูดกับดวงวิญญาณ ลูกต้องจดจำว่าเป็นดวงวิญญาณที่ได้ยินทุกสิ่งผ่านหูเหล่านี้ ฉันกำลังพูดกับดวงวิญญาณไม่ใช่ร่างกาย เราดวงวิญญาณดั้งเดิมแล้วเป็นพี่น้องกันและแล้วเรากลายเป็นพี่น้องหญิงชายกัน ลูกต้องถ่ายทอดสิ่งนี้ให้แก่พี่น้อง สายตาของลูกควรมองเห็นไปที่ดวงวิญญาณ ฉันกำลังพูดกับพี่น้องของฉัน พี่น้องกำลังฟังใช่ไหม? ใช่ ฉัน ดวงวิญญาณกำลังฟัง มีลูกคนหนึ่งในบิคาเนียที่เขียนเสมอว่า “ดวงวิญญาณนี้” และ “ดวงวิญญาณนั้น” “ฉันดวงวิญญาณกำลังเขียนผ่านร่างกายนี้” “ฉันดวงวิญญาณคิดสิ่งนี้” “ฉันดวงวิญญาณกำลังทำสิ่งนี้” การมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณต้องการความพยายาม “ฉันดวงวิญญาณพูด “นมัสเต”” เมื่อบาบาพูดว่า “ลูกๆ ทางจิต” ท่านต้องมองไปที่หน้าผาก เป็นดวงวิญญาณที่รับฟัง ฉันกำลังพูดกับดวงวิญญาณนี้ ในทำนองเดียวกันสายตาของลูกควรจะจับจ้องไปที่ดวงวิญญาณที่อยู่ตรงกลางหน้าผาก อุปสรรคมาเมื่อสายตาของลูกจับจ้องไปที่ร่างกาย ฉันพูดกับดวงวิญญาณ มองดูที่ดวงวิญญาณ ละทิ้งสำนึกของร่างกาย ดวงวิญญาณนี้ก็เข้าใจด้วยเช่นกันว่าพ่อกำลังนั่งที่กึ่งกลางหน้าผากและลูกพูดว่า “นมัสเต” กับท่าน สติปัญญาของลูกมีความรู้ว่าลูกแต่ละคนคือดวงวิญญาณและเป็นดวงวิญญาณที่รับฟัง ก่อนหน้านี้ลูกไม่มีความรู้นี้ ลูกได้รับร่างกายเหล่านั้นเพื่อที่จะเล่นบทบาทของลูก เหตุนี้เองจึงมีการตั้งชื่อให้กับแต่ละร่างกาย เป็นเวลานี้ที่ลูกต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเพื่อที่จะกลับบ้าน มีการให้ชื่อเหล่านี้แก่ลูกเพื่อเล่นบทบาทของลูก ไม่สามารถมีกิจกรรมใดเกิดขึ้นได้โดยที่ไม่มีชื่อ จะมีกิจกรรมทางธุรกิจที่นั่นด้วย แต่ลูกจะกลับมาสะโตประธาน เหตุนี้เองจึงไม่มีการทำกรรมที่เป็นบาปใดๆที่นั่น ลูกจะไม่ทำกรรมใดที่เป็นบาป อาณาจักรของมายาไม่ได้คงอยู่ที่นั่น พ่อพูดว่า: เวลานี้ลูกดวงวิญญาณต้องกลับบ้าน เหล่านั้นเป็นร่างเก่า และแล้วลูกจะไปสู่ยุคทองและยุคเงิน ไม่จำเป็นสำหรับความรู้นี้ที่นั่น ทำไมลูกถึงได้รับความรู้ที่นี่? เพราะลูกอยู่ในสภาพที่ตกต่ำ ลูกจะมีการกระทำที่นั่นด้วยแต่จะเป็นการกระทำที่เป็นกลาง พ่อพูดว่า: ให้มือของลูกทำงานไปและหัวใจของลูกอยู่กับพ่อ ดวงวิญญาณจดจำพ่อ ในยุคทองลูกบริสุทธิ์ และดังนั้นกิจกรรมทั้งหมดจึงเป็นจริง ในอาณาจักรที่ตาโมประธานของราวันทุกการกระทำของลูกไม่จริง เหตุนี้เองผู้คนจึงไปจาริกแสวงบุญฯลฯ ไม่มีใครทำบาปใดในยุคทอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องไปจาริกแสวงบุญฯลฯ ไม่ว่าลูกจะทำอะไรก็ตามที่นั่นมีสัจจะ ลูกได้รับพรของสัจจะแล้ว ไม่มีเรื่องของกิเลสใดๆที่นั่น ไม่จำเป็นสำหรับการพูดโกหกในกิจกรรมใดๆ ที่นี่เพราะความละโมบพวกเขาจึงเฝ้าแต่คดโกงและขโมย สิ่งเหล่านี้ไม่ได้คงอยู่ที่นั่น ตามละครลูกกลายเป็นดอกไม้เช่นนั้น โลกนั้นปราศจากกิเลสในขณะที่โลกนี้มีกิเลส ลูกมีการละเล่นทั้งหมดอยู่ในสติปัญญาของลูก เพียงเวลานี้เท่านั้นที่ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลับมาบริสุทธิ์ ลูกกลายเป็นนายของโลกด้วยพลังโยคะ พลังโยคะคือสิ่งหลัก พ่อพูดว่า: ไม่มีใครในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาสามารถบรรลุถึงพ่อได้ด้วยการทรมานตนหรือการก่อไฟบูชายัญฯลฯ ทุกคนต้องไปผ่านสภาพสาโท ราโจ และตาโม ความรู้นี้ง่ายดายและสนุกสนานมาก ลูกต้องใช้ความพยายามเช่นกัน เป็นโยคะนี้ที่ลูกจะกลับมาสะโตประธานที่ได้รับการยกย่อง มีเพียงพ่อเท่านั้นที่แสดงหนทางที่จะกลับมาสะโตประธานจากตาโมประธานแก่ลูก ไม่มีใครสามารถให้ความรู้นี้แก่ลูก แม้ว่าบางคนจะไปยังดวงจันทร์ และบางคนแม้กระทั่งเดินบนน้ำ นั่นก็ไม่ใช่ราชาโยคะ พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นนารายณ์ได้ ที่นี่ลูกเข้าใจว่าลูกเป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปและเวลานี้กลายเป็นเช่นนั้นอีกครั้ง เวลานี้ลูกจำได้ว่าพ่อเคยอธิบายสิ่งนี้แก่ลูกในวงจรก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน พ่อพูดว่า: ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญากลับมาได้รับชัยชนะ หากใครบางคนไม่มีศรัทธาเขาก็จะไม่มาเพื่อรับฟัง แม้กระทั่งหลังจากมีศรัทธาในสติปัญญาแล้วบางคนก็กลับมามีความสงสัยในสติปัญญา มหารตีที่ดีหลายคนก็พัฒนาความสงสัยด้วยเช่นกัน มีสำนึกที่เป็นร่างเพราะพายุของมายาเพียงเล็กน้อย บัพและดาดารวมเข้าด้วยกัน ชีพบาบาให้ความรู้นี้แก่ลูกและแล้วใครจะรู้ว่าท่านจากไปหรืออะไรเกิดขึ้น? ลูกควรถามบาบาว่าท่านอยู่ที่นี่เสมอหรือท่านจากไป? ลูกไม่สามารถถามคำถามนี้กับพ่อ พ่อพูดว่า: พ่อกำลังแสดงวิธีที่จะกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ให้กับลูก พ่อมาและไป พ่อมีงานที่ต้องทำอีกมากมาย พ่อมาหาลูกๆ และแม้กระทั่งยังมีงานที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นผ่านพวกเขา ไม่ควรมีใครมีความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งนี้ หน้าที่ของลูกคือการจดจำพ่อ โดยการมีความสงสัยลูกก็สอบตก มายาตบตีลูกอย่างหนักมาก พ่อพูดว่า: พ่อเข้ามาในผู้นี้ในตอนสุดท้ายของชาติเกิดสุดท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของเขา ลูกๆ จงมีศรัทธาว่าพ่อเท่านั้นที่ให้ความรู้นี้แก่เราอย่างแท้จริง ไม่มีใครอื่นสามารถให้ได้ พ่อรู้ว่าถึงกระนั้นก็มีหลายคนที่สอบตกแม้กระทั่งหลังจากที่มีศรัทธาแล้วก็ตาม ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์ ดังนั้นพ่อพูดว่า: จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ! อย่าได้ติดกับในสิ่งใด เมื่อลูกพูดในลักษณะนั้นก็เข้าใจได้ว่าลูกไม่มีศรัทธาที่มั่นคง ก่อนอื่นใดจงเข้าใจสิ่งเดียวที่จะทำให้บาปของลูกได้รับการปลดเปลื้อง ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องที่ไร้ประโยชน์ บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อ ดังนั้นลูกไปข้องแวะในเรื่องอื่นทำไม? เมื่อลูกเห็นว่ามีบางคนกลับมาสับสนกับคำถามและคำตอบ บอกเขาว่า: “ลืมสิ่งเหล่านั้นและเพียงแค่พยายามจดจำพ่อผู้เดียว” เมื่อลูกพัฒนาความสงสัยลูกก็จะหยุดศึกษาเล่าเรียนและแล้วก็จะไม่มีประโยชน์ใด อธิบายหลังจากที่จับชีพจรของพวกเขา หากพวกเขามีความสงสัยใดๆ จงทำให้พวกเขามีศรัทธาที่มั่นคงในประเด็นเดียวเท่านั้น ลูกต้องอธิบายด้วยไหวพริบอย่างมาก ก่อนอื่นใดลูกๆ ลูกควรมีศรัทธาว่าบาบาได้มาและกำลังทำให้เราบริสุทธิ์ ลูกมีความสุขนี้ หากลูกไม่ศึกษาเล่าเรียนลูกก็สอบตก แล้วดวงวิญญาณเช่นนั้นจะมีความสุขได้อย่างไร? ในโรงเรียนพวกเขามีการศึกษาเล่าเรียนในแบบเดียวกัน แต่บางคนเรียนและแล้วหารายได้หลายแสนในขณะที่คนอื่นหารายได้ห้าถึงสิบรูปี เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกคือการเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นนารายณ์ อาณาจักรกำลังมีการก่อตั้ง ลูกกำลังเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ เทพมีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ การประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงนั้นขึ้นอยู่กับวิธีศึกษาของลูกและกิจกรรมของลูก กิจกรรมของลูกควรจะดีมาก บาบา(บราห์มา)แม้กระทั่งพูดถึงตัวเองว่า: ฉันยังไม่ไปถึงสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรม ฉันเองต้องกลับมาสมบูรณ์พร้อม ฉันยังไม่กลายเป็นเช่นนั้น ความรู้นี้ง่ายดายมาก เป็นสิ่งที่ง่ายที่จะจดจำพ่อด้วยเช่นกัน แต่อย่างน้อยลูกก็ควรทำ อัจชะ

ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทาจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. อย่าได้หยุดศึกษาเล่าเรียนเนื่องจากการมีการความสงสัยเกี่ยวกับประเด็นใดๆ เพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์ก่อนอื่นใดให้จดจำพ่อผู้เดียว อย่าได้กลับมาข้องแวะในเรื่องอื่นๆ

2. อุปสรรคเข้ามาเมื่อสายตาของลูกจับจ้องไปที่ร่างกาย ดังนั้นมองไปที่กึ่งกลางหน้าผากเสมอ พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและพูดคุยกับดวงวิญญาณ กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ กลับมาปราศจากความกลัวเมื่อลูกทำงานรับใช้

พร:
ขอให้ลูกหลอมรวมอยู่ในความรักที่ไม่มีวันสูญสลายและไม่เห็นแก่ตัวของพ่ออย่างสม่ำเสมอและกลับมากันมายาได้

มายาไม่สามารถดึงดูดลูกๆ ผู้ที่หลอมรวมอยู่ในความรักของพ่ออย่างสม่ำเสมอได้ เช่นเดียวกับที่หยดน้ำหยดเดียวไม่สามารถอยู่บนเสื้อผ้าที่กันน้ำได้ ในทำนองเดียวกันผู้ที่อยู่อย่างหลอมรวมในความรักนี้จะกลายเป็นสิ่งที่กันมายาได้ มายาไม่สามารถจู่โจมลูกในทางใดทางหนึ่งเพราะความรักของพ่อเป็นสิ่งที่ไม่สูญสลายและไม่เห็นแก่ตัว ผู้ที่เคยมีประสบการณ์นี้จะติดกับอยู่ในความรักชั่วคราวได้อย่างไร หนึ่งคือพ่อและสองคือฉัน และไม่มีบุคคลที่สามที่สามารถเข้ามาในระหว่างเรา

คติพจน์:
ผู้ที่กระทำในขณะที่มีความรักและละวางสามารถใส่จุดฟูลสต๊อปได้ในหนึ่งวินาที

สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: เวลานี้ให้มีความใส่ใจอย่างลึกล้ำที่จะกลับมาสมบูรณ์พร้อมและอยู่เหนือบ่วงกรรม

อยู่เหนือบ่วงกรรม หมายถึง การไม่ได้รับอิทธิพลของกรรม การเป็นนาย มีพลังอำนาจ และมีความสัมพันธ์กับประสาทสัมผัสทางร่างกายของลูก จงละวางจากความต้องการและการกระทำที่มีขีดจำกัดโดยใช้ประสาทสัมผัสทางกายของลูก การกระทำไม่ควรทำให้ดวงวิญญาณที่เป็นนายต้องพึ่งพิง แต่ดวงวิญญาณควรเป็นผู้ที่มีสิทธิทั้งหมดผู้ที่ทำการกระทำ การเป็นผู้ดลใจและดลใจให้เกิดการกระทำ รู้จักกันว่าการมีความสัมพันธ์ของกรรม ดวงวิญญาณอยู่เหนือบ่วงกรรมมีความสัมพันธ์ ไม่ใช่บ่วงพันธะใดๆ