13.09.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกคือหน่วยกู้ภัยที่จะกอบกู้ดวงวิญญาณทั้งหมดจากบ่วงกรรมของพวกเขา
ลูกต้องไม่ติดกับในบ่วงกรรม
คำถาม:
ลูกดวงวิญญาณควรฝึกฝนอะไรอย่างต่อเนื่องเพื่อที่ลูกจะกลับมามีพลังอย่างมาก?
คำตอบ:
เมื่อใดก็ตามที่ลูกมีเวลาจงฝึกฝนที่จะกลับมาละวางจากร่างกายของลูก
ด้วยการละวางดวงวิญญาณจะได้รับพลังกลับคืนมาและจะกลับมาเต็มไปด้วยพละกำลัง
ลูกคือทหารใต้ดินและได้รับคำแนะนำว่า โปรดให้ความใส่ใจ นั่นคือ อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียวและกลับมาปราศจากร่าง
โอมชานติ
พ่ออธิบายความหมายของ โอม ชานติ อย่างชัดเจนมาก
ไม่ว่าทหารจะยืนอยู่ที่ไหนพวกเขาก็จะถูกบอกว่า จงใส่ใจ!(Attention) จงใส่ใจ
Attention ของพวกเขาหมายถึงความเงียบ ที่นี่เช่นกันพ่อพูดกับลูกๆว่า:
โปรดให้ความใส่ใจ! สิ่งนี้หมายถึง: การอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียว
ลูกพูดด้วยปากของลูกแต่ไม่เช่นนั้นแล้วลูกควรจะอยู่เหนือการพูดอย่างแท้จริง
โปรดใส่ใจ! ลูกกำลังจดจำพ่อหรือไม่?
ลูกได้รับคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติของพ่อหรือศรีมัท
ลูกตระหนักรู้ในดวงวิญญาณและตระหนักรู้จักพ่อด้วยเช่นกัน โดยการที่ไม่จดจำพ่อ
ลูกก็ไม่สามารถกลายเป็นผู้เอาชนะบาปได้ นั่นคือความบริสุทธิ์และสโตประธาน
นี่คือสิ่งหลัก พ่อพูดว่า ลูกๆ
ผู้เป็นที่รักที่สุดแสนหวานจงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดหมายถึงเวลานี้แต่ผู้คนได้นำสิ่งเหล่านี้ไปอยู่ช่วงเวลาอื่น
พวกเขาเป็นทหารและลูกก็เป็นทหารด้วยเช่นกัน
มีทหารใต้ดินเช่นกันพวกเขาอยู่อย่างซ่อนตัว ลูกก็อยู่ใต้ดินเช่นกัน
ลูกอยู่อย่างซ่อนตัวด้วยเช่นกัน นั่นคือลูกซึมซับอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ
สิ่งนี้เรียกว่าใต้ดิน ไม่มีใครสามารถตระหนักรู้ในลูกเพราะลูกแฝงตัว
การจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงของลูกนั้นแฝงตัว พ่อเพียงแต่พูดว่า จดจำพ่อ
เพราะท่านรู้ว่าด้วยการจดจำระลึกถึงที่ลูกๆที่สิ้นหวัง
ยากจนและน่าสงสารนั้นจะได้รับประโยชน์ ลูกจะถูกเรียกว่าผู้ที่สิ้นหวังที่น่าสงสาร
ไม่มีผู้ที่สิ้นหวังและและน่าสงสารในสวรรค์
ผู้ที่ติดกับในบ่วงพันธะก็กล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่สิ้นหวังและน่าสงสาร
เพียงลูกๆเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งนี้ พ่อได้อธิบายแล้วว่า
ลูกถูกเรียกว่าเป็นประภาคารเช่นกันพ่อก็เรียกว่าเป็นประภาคารด้วยเช่นกัน
พ่อได้อธิบายแก่ลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า:
เก็บดินแดนแห่งความสงบไว้ในตาข้างหนึ่งและดินแดนแห่งความสุขไว้ในตาอีกข้างหนึ่ง
ลูกเป็นเหมือนกับประภาคาร
ในขณะที่เดินนั่งและเคลื่อนไหวไปมาเพียงแต่อยู่อย่างเบาสบาย
แสดงหนทางไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุขให้กับทุกคนต่อไปเรื่อยๆ
เรือของทุกคนติดอยู่ในดินแดนแห่งความทุกข์และเหตุนี้เองพวกเขาจึงพูดว่า โอ้
คนพายเรือพาเรือของฉันข้ามฟากด้วยเถิด!
เรือของทุกคนติดกับอยู่แล้วใครจะกู้ภัยให้กับพวกเขา? นั่นไม่ใช่หน่วยกู้ภัย
พวกเขาเพียงแค่ได้รับชื่อนั้น
ในความเป็นจริงแล้วคือลูกที่เป็นหน่วยกู้ภัยและเป็นลูกที่จะกู้ภัยให้กับทุกคน
ทุกคนติดกับอยู่ในโซ่ตรวนของกิเลสทั้งห้า เหตุนี้เองพวกเขาจึงพูดว่า ปลดปล่อยเรา!
กู้ภัยให้กับเรา! พ่อพูดว่า
ลูกจะสามารถข้ามฟากไปได้ด้วยการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงนี้
ในปัจจุบันทุกคนนั้นติดกับ พ่อเรียกว่าเป็นนายของสวนดอกไม้เช่นกัน
ทั้งหมดนี้หมายถึงเวลาปัจจุบัน ลูกต้องกลายเป็นดอกไม้
ในเวลานี้ทุกคนคือหนามเพราะพวกเขามีความรุนแรง เวลานี้ลูกต้องไม่ใช้ความรุนแรง
ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์ เพียงดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่มาเพื่อก่อตั้งศาสนา
พวกเขาไม่สามารถไม่บริสุทธิ์ได้
เมื่อดวงวิญญาณมาเป็นครั้งแรกเพราะพวกเขาบริสุทธิ์จึงไม่มีทั้งดวงวิญญาณและร่างกายของเขาที่จะสามารถได้รับความทุกข์เพราะพวกเขาไม่ได้สะสมบาปใดๆ
เมื่อเราบริสุทธิ์ก็ไม่ได้มีการทำบาปใดๆ และดังนั้นผู้อื่นก็ไม่ได้ทำบาปเช่นกัน
ลูกต้องคิดเกี่ยวกับทุกสิ่ง
ดวงวิญญาณลงมาจากเบื้องบนนั้นเพื่อก่อตั้งศาสนาและแล้วราชวงศ์ของพวกเขาก็ดำเนินต่อไป
มีราชวงศ์ของศาสนาซิกข์เช่นกัน ซันยาสซีไม่มีราชวงศ์ พวกเขาจะไม่กลายเป็นราชา
ในศาสนาซิกข์พวกเขามีมหาราชา ฯลฯ
และดังนั้นเมื่อพวกเขาได้มาเพื่อก่อตั้งศาสนานั่นก็เป็นดวงวิญญาณใหม่ที่มา
พระคริสต์มาและก่อตั้งศาสนาคริสต์ พระพุทธเจ้าก่อตั้งศาสนาพุทธ
และอับราฮัมก่อตั้งศาสนาอิสลาม ศาสนาทั้งหมดของพวกเขาได้รับชื่อตามผู้ก่อตั้ง (ชื่อของศาสนาและชื่อของผู้ก่อตั้งเสียงจะคล้ายๆกัน)
ชื่อของศาสนาเทพไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เพียงพ่อที่ไม่มีตัวตนเท่านั้นที่มาและก่อตั้งศาสนาเทพ ท่านไม่ใช่ผู้มีร่างกาย
ผู้ก่อตั้งศาสนาอื่นๆ
ทั้งหมดมีชื่อทางร่างกายในขณะที่ผู้เดียวนี้ไม่ใช่ผู้ที่มีร่างกาย
ราชวงศ์นั้นดำเนินต่อไปในโลกใหม่ ดังนั้นพ่อพูดว่า ลูกๆ
คิดว่าตนเองเป็นทหารทางจิตอย่างแน่นอน เมื่อผู้บัญชาการ ฯลฯ ของทหารนั้นมาและพูดว่า
จงใส่ใจ! Attention ทุกคนก็จะยืนตรงอย่างรวดเร็ว
ผู้คนเหล่านั้นก็จะจดจำกูรูของเขาเองหรืออยู่อย่างเงียบๆ
อย่างไรก็ตามนั่นคือความเงียบสงบที่ไม่จริง
ลูกรู้ว่าเราคือดวงวิญญาณและศาสนาดั้งเดิมเราคือความสงบ ดังนั้นแล้วเราควรจะจดจำใคร?
เวลานี้ลูกได้รับความรู้นี้
ด้วยการอยู่ในการจดจำระลึกถึงด้วยความรู้บาปของลูกก็ถูกตัดออกไป
ไม่มีใครอื่นมีความรู้นี้
ผู้คนไม่เข้าใจว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณเป็นตัวของความสงบและพวกเขาต้องนั่งขณะที่ละวางจากร่างกายของพวกเขา
ที่นี่ลูกได้รับพละกำลังที่จะทำให้ลูกสามารถพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อ
พ่อได้อธิบายว่าลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและนั่งขณะที่อยู่อย่างละวางอย่างไร
ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าเวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน เราคือผู้อาศัยของสถานที่นั้น
เราได้ลืมบ้านของเราเป็นเวลาหลายวัน ไม่มีใครอื่นเข้าใจว่าพวกเขาต้องกลับบ้าน
ดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ไม่สามารถกลับบ้านได้และพวกเขาก็ไม่มีใครที่จะอธิบายให้แก่พวกเขาว่าพวกเขาควรจะจดจำใคร
พ่ออธิบายว่า: ลูกต้องจดจำเพียงผู้เดียว มีประโยชน์อะไรในการจดจำคนอื่น?
ตัวอย่างเช่น ผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเฝ้าแต่พูดว่า ชีวา ชีวา
แต่ไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นด้วยการทำเช่นนั้น
ไม่มีใครรู้ว่าด้วยการจดจำชีวาบาปของพวกเขาจะถูกตัดออกไป แน่นอนลูกจะได้ยินเสียง
จะมีเสียงแต่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยในสิ่งเหล่านั้น
บาบาเคยมีประสบการณ์ของกูรูเหล่านั้นทั้งหมด พ่อพูดว่า โอ้
อรชุนละทิ้งพวกเขาทั้งหมด
ลูกได้พบกับสัตกูรูแล้วและดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีใครในบรรดาพวกเขา
สัตกูรูพาลูกข้ามฟาก พ่อพูดว่า พ่อพาลูกไปอยู่เหนือโลกที่เป็นเช่นปีศาจ
ลูกต้องข้ามมหาสมุทรแห่งยาพิษ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมดต้องมีการอธิบาย
คนพายเรือคือผู้ที่ควบคุมทิศทางเรือ แต่ได้มีการให้ชื่อนี้เพื่อที่จะอธิบายแก่ลูก
ท่านนั้นเรียกว่าเป็นปราเณชวาร์ บาบา, นั่นคือบาบาที่ให้ทานของลมหายใจแห่งชีวิต
ท่านทำให้ลูกเป็นอมตะ แต่ละดวงวิญญาณนั้นกล่าวได้ว่าเป็นพลังชีวิต
เมื่อดวงวิญญาณออกจากร่างกาย
พวกเขาก็พูดว่าพลังชีวิตได้จากไปแล้วและพวกเขาก็ไม่ยอมให้เก็บร่างไว้
เมื่อดวงวิญญาณอยู่ในร่างกาย ร่างนั้นก็มีพลานามัยดี
เมื่อไม่มีดวงวิญญาณร่างนั้นก็เริ่มที่จะส่งกลิ่นเหม็นดังนั้นลูกจะทำอะไรโดยการเก็บร่างนั้นไว้?
สัตว์จะไม่ทำเช่นนั้นเช่นกัน
เป็นเพียงลิงเท่านั้นที่แม้ว่าลูกของพวกมันตายก็จะยังคงไม่ปล่อยวางจากซากศพนั้น
แม้ว่าซากศพนั้นจะเริ่มส่งกลิ่นเหม็นพวกมันก็จะเพียงแต่ยึดซากศพนั้นไว้
นั่นคือสัตว์ในขณะที่ลูกเป็นมนุษย์ ทันทีที่ดวงวิญญาณออกจากร่างพวกเขาก็จะพูดว่า
นำร่างออกไปอย่างรวดเร็ว! ผู้คนก็จะพูดว่าดวงวิญญาณนั้นได้จากไปสู่สวรรค์แล้ว
เมื่อพวกเขาได้นำศพไปตอนแรกเท้านั้นก็ชี้ตรงไปยังเมรุ
และจากนั้นก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปข้างในนั้นและทำการกราบไหว้พวกเขาก็หันศพไปรอบๆเพื่อให้ใบหน้าหันไปทางเมรุเพราะพวกเขาคิดว่าเวลานี้ดวงวิญญาณนั้นกำลังจะไปสวรรค์
ลูกได้แสดงภาพลักษณ์ของกฤษณะอย่างถูกต้อง เขากำลังเตะนรกทิ้งไป
นี่ไม่ใช่ร่างของกฤษณะ รูปและนามของเขาเปลี่ยนไปทั้งหมด
พ่อได้อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างแล้วพูดว่า มานมานะบาฟ! เมื่อลูกมาและนั่งที่นี่
โปรดให้ความใส่ใจ! ให้สติปัญญาของลูกเชื่อมโยงอยู่กับพ่อ
ความใส่ใจนี้ของลูกคงอยู่ตลอดไป ตราบเท่าที่ลูกมีชีวิตอยู่ลูกต้องจดจำพ่อ
เป็นเพียงด้วยการจดจำระลึกถึงเท่านั้นที่บาปของหลายๆชาติเกิดของลูกจะถูกตัดออกไป
หากลูกไม่มีการจดจำระลึกถึงบาปของลูกจะไม่ถูกตัดออกไป
ลูกต้องจดจำพ่ออย่าได้หลับตาในขณะที่นั่งอยู่ในการจดจำระลึกถึง
ซันยาสซีนั่งพร้อมกับปิดตาของเขา บางคนก็จะไม่มองแม้แต่หน้าของผู้หญิง
พวกเขานั่งพร้อมกับมีผ้าปิดตาของพวกเขา
เมื่อลูกนั่งที่นี่ลูกควรจะควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองของผู้สร้างและตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง ลูกคือประภาคาร นี่คือดินแดนแห่งความทุกข์
ในตาข้างหนึ่งลูกมีดินแดนแห่งความทุกข์และในตาอีกข้างหนึ่งลูกมีดินแดนแห่งความสุข
ขณะที่เดินเหินและเคลื่อนไหวไปมาพิจารณาว่าตนเองเป็นประภาคาร
บาบาอธิบายแก่ลูกด้วยตัวอย่างที่แตกต่างกัน ลูกยังดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน
ด้วยการกลายเป็นประภาคารลูกก็ให้คุณประโยชน์แก่ตนเอง ลูกต้องจดจำพ่ออย่างแน่นอน
เมื่อลูกพบใครบางคนบนท้องถนนลูกต้องอธิบายให้พวกเขา
ลูกได้พบกับผู้คนมากมายที่รู้จักลูกด้วยเช่นกัน ผู้คนเหล่านั้นเพียงแต่พูดว่า ราม
ราม ซึ่งกันและกัน บอกพวกเขาว่า:
คุณรู้หรือไม่ว่านี่คือดินแดนแห่งความทุกข์และนั่นคือดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข?
คุณต้องการที่จะไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุขหรือไม่?
เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะอธิบายสามภาพนี้แก่ใครก็ตาม - สามภาพนั้นให้สัญญาณแก่เรา
ประภาคารนั้นก็ให้สัญญาณด้วย นี่คือเรือที่ติดอยู่ในกรงขังของราวัน
มนุษย์ไม่สามารถกู้ภัยให้แก่มนุษย์ได้
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเป็นเรื่องที่ปลอมที่มีขีดจำกัด
ในขณะที่นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีขีดจำกัด นั่นไม่ใช่งานสังคมสงเคราะห์ของสังคม
ในความเป็นจริงนี่คืองานรับใช้ที่แท้จริง เรือของทุกคนต้องถูกพาข้ามฟากไป
สติปัญญาของลูกถามว่า เราจะสามารถรับใช้มนุษย์ได้อย่างไร? ก่อนอื่นใดจงบอกพวกเขาว่า:
คุณรับกูรูเข้ามาเพื่อที่จะไปยังดินแดนแห่งการหลุดพ้นและบรรลุถึงพ่อ
อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถบรรลุถึงใครได้
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่แสดงให้คุณได้เห็นถึงวิธีที่จะบรรลุถึงท่าน
ผู้คนเหล่านั้นคิดว่าพวกเขาจะสามารถบรรลุถึงพระเจ้าด้วยการศึกษาคัมภีร์ ฯลฯ
ด้วยการใช้ชีวิตด้วยความหวังนั้น พวกเขาก็จะบรรลุถึงพระเจ้าในรูปใดรูปหนึ่งในที่สุด
พ่อได้อธิบายทุกสิ่งแก่ลูกแล้วว่าเมื่อไหร่ที่ลูกจะสามารถบรรลุถึงท่าน
ลูกได้แสดงสิ่งนี้ไว้ในรูปภาพ: ลูกต้องจดจำผู้เดียว
ผู้ก่อตั้งศาสนาทั้งหมดก็ให้สัญญาณในวิธีนั้นเช่นกัน
นี่เป็นเพราะลูกได้ให้คำสอนเหล่านี้และดังนั้นพวกเขาจึงให้สัญญาณในลักษณะเดียวกัน สวดมนต์ในนามของพระผู้เป็นเจ้า
พ่อนั้นคือสัตกูรู ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะมีผู้คนมากมายที่ให้คำสอนทุกประเภท
พวกเขาเรียกว่ากูรู ไม่มีใครรู้คำสอนที่จะกลับมาปราศจากร่าง ลูกจะพูดว่า
จดจำชีพบาบา เมื่อผู้คนเหล่านั้นไปที่วัดของชีวาพวกเขามีนิสัยของการพูดคำว่า บาบา
ต่อชีวาเสมอ พวกเขาไม่ได้เรียกคนอื่นว่า บาบา!
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ใช่เป็นผู้ที่ไม่มีตัวตน พวกเขาเป็นผู้ที่มีร่างกาย
ชีวาคือผู้ที่ไม่มีตัวตนคือบาบาที่แท้จริง ท่านคือบาบาของทุกคน
ดวงวิญญาณทั้งหมดปราศจากร่าง เมื่อลูกๆนั่งที่นี่จงนั่งในสำนึกรู้นี้
ลูกรู้ว่าลูกเคยติดกับอย่างไร เวลานี้บาบามาและแสดงหนทางแก่ลูก
คนอื่นทั้งหมดยังคงติดกับและไม่กลับมาเป็นอิสระ
ทุกคนจะได้รับการลงโทษและจากนั้นจะได้รับการปลดปล่อย
บาบายังคงอธิบายให้ลูกฟังอยู่เรื่อยๆว่า:
ลูกต้องได้รับรางวัลเล็กน้อยแม้หลังจากได้รับประสบการณ์ของการลงโทษ
ผู้ที่ได้รับการลงโทษอย่างมากนั้นก็ทำลายสถานภาพของตนเองแล้วก็ได้รับรางวัลเล็กน้อย
หากลูกได้รับการลงโทษเล็กน้อยลูกก็จะได้รับผลรางวัลที่ดี นี่คือป่าหนาม
ทุกคนเฝ้าแต่ทิ่มแทงกันและกันเหมือนหนาม สวรรค์เรียกว่าสวนแห่งอัลล่าห์
ชาวคริสต์เช่นกันก็พูดว่าดินแดนสุขาวดีคงอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง
สามารถมีนิมิตของสิ่งนั้น
เป็นไปได้ที่ว่าใครบางคนอาจจะมาจากศาสนานี้และดังนั้นเขาก็จะกลับมาสู่ศาสนาของเขา
อย่างไรก็ตามมันจะมีความสำคัญอย่างไรหรือถ้ามีคนเห็นอะไรบางสิ่ง?
ไม่มีใครสามารถไปที่นั่นได้เพียงแค่เห็นสิ่งนั้น
ไม่จนกว่าพวกเขาจะตระหนักรู้จักพ่อและรับความรู้นี้ ไม่ใช่ทุกคนสามารถไปที่นั่น
มีเทพน้อยมากที่นั่นในเวลานี้มีฮินดูจำนวนมากมาย
แต่ดั้งเดิมแล้วพวกเขาเคยเป็นเทพอย่างไรก็ตามผู้คนเหล่านั้นบริสุทธิ์และผู้คนเหล่านี้ไม่บริสุทธิ์
ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องที่จะเรียกผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ว่าเทพ
นี่คือศาสนาเดียวที่ลูกสามารถพูดได้ว่า
ศาสนาเสื่อมและการกระทำของพวกเขาก็เสื่อมด้วยเช่นกัน
พวกเขาเรียกว่าศาสนาฮินดูดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
พวกเขาไม่มีแม้แต่ช่องที่จะแสดงศาสนาเทพ(ในแบบสัมมาโนประชากร)
พ่อคือผู้เป็นที่รักที่สุดของเราลูกๆ และท่านทำให้เราเป็นบางสิ่งจากที่ไม่มีอะไรเลย
ลูกสามารถอธิบายว่าพ่อมาอย่างไร
เพราะแม้แต่เทพก็ไม่ก้าวเท้าเข้ามาในโลกที่ตโมประธานแล้วพ่อจะมาได้อย่างไร?
พ่อไม่มีตัวตนและท่านไม่มีเท้าของท่านเองและเหตุนี้เองท่านจึงเข้ามาในผู้นี้
เวลานี้ลูกๆกำลังนั่งอยู่ในโลกของพระเจ้าในขณะที่คนอื่นๆทั้งหมดอยู่ในโลกที่เป็นเช่นปีศาจ
ยุคบรรจบพบกันนี้สั้นมาก
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกไม่ได้อยู่ในโลกของเทพหรือในโลกที่เป็นเช่นปีศาจเราอยู่ในโลกของพระเจ้า
พ่อมาเพื่อพาเรากลับบ้าน พ่อพูดว่า นั่นคือบ้านของพ่อ
พ่อได้จากบ้านของพ่อและมาที่นี่เพื่อประโยชน์ของลูก
เมื่อบารัตกลายเป็นดินแดนแห่งความสุข พ่อก็จะไม่ไปที่นั่น
พ่อไม่ได้กลายเป็นนายของโลก ลูกกลายเป็นสิ่งนั้น พ่อคือนายของบราห์มันด์
ทั้งหมดจะกลับไปยังบราห์มันด์
แม้แต่เวลานี้พวกเขาก็กำลังนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเป็นนาย
ผู้ที่ยังคงต้องลงมาก็จะลงมาที่นี่แต่พวกเขาจะไม่กลายเป็นนายของโลก
บาบาอธิบายอย่างมาก
นักเรียนบางคนก็เก่งมากและดังนั้นพวกเขาจึงประกาศสิทธิ์ที่จะได้รับทุนการศึกษา
มันน่าแปลกใจที่เมื่อพวกเขามาที่นี่พวกเขาบอกว่าพวกเขาจะบริสุทธิ์และจากนั้นเมื่อพวกเขากลับไปพวกเขาก็กลับมาไม่บริสุทธิ์
อย่านำผู้ที่อ่อนแอเช่นนั้นมาที่นี่
เป็นหน้าที่ของครูบราห์มินที่จะค้นหาเกี่ยวกับพวกเขาก่อนพาพวกเขามาที่นี่
ลูกรู้ว่าเป็นดวงวิญญาณที่นำร่างกายมาใช้และเล่นบทบาทของเขา
พวกเขาได้รับบทบาทที่ไม่สูญสลาย อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
กลายเป็นประภาคารและแสดงให้ทุกคนได้เห็นหนทางไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
ทำงานรับใช้ของการนำเรือของทุกคนออกไปจากดินแดนแห่งความทุกข์
ให้ประโยชน์แก่ตนเองด้วยเช่นกัน
2.
อยู่อย่างมั่นคงในรูปที่สงบของลูกและฝึกฝนที่จะละวางจากร่างกายของลูก
นั่งในการจดจำระลึกถึงพร้อมกับเปิดตาของลูก
จดจำผู้สร้างและสิ่งสร้างด้วยสติปัญญาของลูก
พร:
ขอให้ลูกบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์และความคิดของลูก
เป็นความคิดของผู้ที่เป็นตัวของความรู้ และเป็นตัวของพลังที่บริสุทธิ์
เพื่อที่จะกลับมาทัดเทียมพ่อ ทำให้รากฐานของความบริสุทธิ์แข็งแกร่ง
การทำสัญญาของการรักษาพรหมจรรย์ให้เป็นรากฐานเป็นเรื่องปกติ
และดังนั้นอย่าได้มีความสุขเพียงแค่นั้น
ขีดเส้นใต้มากขึ้นที่ลูกต้องมีความบริสุทธิ์ในสายตาและทัศนคติ
รวมทั้งให้ความคิดของลูกเป็นความคิดของผู้ที่เป็นตัวของความรู้
และเป็นตัวของพลังที่บริสุทธิ์ ยังคงมีความอ่อนแออย่างมากในความคิด
จบสิ้นความอ่อนแอทั้งหมดนั้นและแล้วลูกจะกล่าวได้ว่าเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
คติพจน์:
ให้มีความเมตตาและความปรารถนาดีสำหรับทุกคนที่ลูกมองเห็น
และจะไม่มีร่องรอยของความหยิ่งยโสหรือการถูกดูหมิ่น