14.10.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุดนี้คือยุคแห่งการให้คุณประโยชน์
เพียงในยุคนี้เท่านั้นที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
นี่คือยุคที่ลูกเปลี่ยนจากมนุษย์ที่ตกต่ำที่สุดเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
คำถาม:
ด้วยการคิดหรือพูดเกี่ยวกับสิ่งใดโดยเฉพาะที่ลูกไม่สามารถทำความก้าวหน้าใดๆได้เลยในหนทางแห่งความรู้นี้?
คำตอบ:
“ถ้าสิ่งนี้อยู่ในละคร
ฉันจะทำความเพียรพยายาม! ฉันจะทำ ถ้าละครให้แรงบันดาลใจแก่ฉัน”
ผู้ที่คิดหรือพูดในวิธีนี้จะไม่สามารถทำความก้าวหน้าได้เลย
เป็นสิ่งผิดที่จะพูดเช่นนี้
ลูกรู้ว่ามันถูกกำหนดไว้ในละครด้วยเช่นกันสำหรับลูกที่จะทำความเพียรพยายามตอนนี้
ลูกต้องทำความเพียรพยายามจริงๆ
เพลง:
นี่คือเรื่องราวของเปลวไฟและพายุ
โอมชานติ
มนุษย์ของยุคเหล็กได้แต่งเพลงนี้ขึ้น แต่พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของเพลง
ลูกรู้สิ่งนี้ เวลานี้ลูกคือมนุษย์แห่งยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด
พร้อมกันกับคำว่า “ยุคบรรจบพบกัน” ลูกต้องเขียนว่า “สูงส่งที่สุด” ด้วยเช่นกัน
เพราะการไม่จดจำประเด็นของความรู้นี้ ลูกๆก็ลืมที่จะเขียนคำเช่นนั้น
นี่คือสิ่งหลักและเพียงลูกเท่านั้นที่เข้าใจความหมายของมัน
มีเดือนที่เป็นบุญที่สูงส่งที่สุด นี่คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด
การบรรจบพบกันนี้เป็นเทศกาลเช่นกัน นี่คือเทศกาลที่สูงส่งที่สุด
ลูกรู้ว่าเวลานี้ลูกกำลังจะกลายเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุดในบรรดาทั้งหมด
ลักษมีและนารายณ์ถูกเรียกว่าผู้ที่สูงส่งที่สุด มั่งคั่งที่สุด อันดับหนึ่ง
ในคัมภีร์มีการกล่าวว่า มีการทำลายล้างสิ้นซากครั้งใหญ่
และศรีกฤษณะผู้เป็นอันดับหนึ่งก็ลอยมาบนใบโพธิ์ในมหาสมุทร ลูกจะพูดอะไรในเวลานี้?
ศรีกฤษณะนี้ผู้ที่ลูกเรียกว่า “ชยัม-ซุนดาร์” นั้นคืออันดับหนึ่ง
มีการแสดงว่าเขามาขณะที่ดูดนิ้วโป้งของเขา ทารกนั้นคงอยู่ในครรภ์
ดังนั้นศรีกฤษณะผู้ที่สูงที่สุดเหนือทั้งหมด
คือคนแรกที่ปรากฏออกมาจากมหาสมุทรแห่งความรู้
สวรรค์ได้ถูกก่อตั้งโดยมหาสมุทรแห่งความรู้
ผู้ที่สูงส่งที่สุดอันดับหนึ่งคือศรีกฤษณะ และผู้เดียวนี้คือมหาสมุทรแห่งความรู้
ไม่ใช่มหาสมุทรที่เป็นน้ำ การทำลายล้างสิ้นซากไม่เคยเกิดขึ้น เมื่อลูกๆใหม่มา
พ่อต้องพูดซ้ำประเด็นเก่า ยุคทอง ยุคเงิน ยุคทองแดง และยุคเหล็ก
สี่ยุคเหล่านี้เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ยุคที่ห้าคือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด
มนุษย์เปลี่ยนแปลงในยุคนี้
พวกเขาเปลี่ยนจากผู้ที่ตกต่ำที่สุดเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด
ชีพบาบาเรียกว่าผู้สูงส่งที่สุดหรือสูงที่สุดเหนือทั้งหมด ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด
พระเจ้า แล้วมนุษย์ที่สูงที่สุดคือลักษมีและนารายณ์ ใครทำให้ทั้งสองเป็นเช่นนั้น?
เพียงลูกๆเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้ ลูกๆ เข้าใจว่า
เป็นเวลานี้ที่เราทำความเพียรพยายามที่จะเป็นเหมือนพวกเขา
ไม่มีสิ่งใดยากลำบากในความเพียรพยายามนี้ มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด
ผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนคือผู้เป็นแม่ที่อ่อนแอ ไร้เดียงสา และผู้ที่หลังค่อม
ไม่มีการศึกษา ได้มีการอธิบายอย่างง่ายมากสำหรับพวกเขา มองดูสิ
เคยมีผู้รู้ในอัห์มดาบัดที่เคยพูดว่าเขาไม่ได้กินหรือดื่มสิ่งใดเลย โอเค
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าบางคนไม่ได้กินหรือดื่มอะไรตลอดชีวิตของเขา?
เขาก็ยังไม่บรรลุสิ่งใดเลยด้วยการทำเช่นนั้น แม้แต่ต้นไม้ยังได้รับการหล่อเลี้ยง
มันได้รับปุ๋ยและน้ำซึ่งทำให้มันเติบโตตามธรรมชาติ
ผู้รู้นี้ต้องได้รับพลังอิทธิฤทธิ์บางอย่าง มีมากมายที่เดินบนน้ำและไฟ
มีคุณประโยชน์อะไรในการทำเช่นนั้น?
ด้วยการศึกษาราชาโยคะที่ง่ายดายนี้ลูกมีประสบการณ์ของการได้รับคุณประโยชน์ชาติแล้วชาติเล่า
จากที่ไม่มีความสุขลูกถูกทำให้มีความสุขชาติเกิดแล้วชาติเกิดเล่า พ่อพูดว่า: ลูกๆ
ตามละคร พ่อกำลังบอกสิ่งที่ลึกล้ำแก่ลูก ตัวอย่างเช่น บาบาได้อธิบายลูกว่า
พวกเขาสับสนระหว่างชีวากับชางการ์อย่างไร ชางการ์ไม่มีแม้แต่บทบาทที่จะเล่นในโลกนี้
ชีวา บราห์มาและวิษณุมีบทบาทที่จะเล่น บราห์มาและวิษณุมีบทบาทที่รอบด้าน
ชีพบาบามีบทบาทเพียงในเวลานี้เท่านั้น
และเหตุนี้เองที่ท่านมาเวลานี้และให้ความรู้นี้ แล้วท่านก็กลับไปยังดินแดนนิพพาน
ท่านให้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของท่านแก่ลูกๆและแล้วท่านก็ไปสู่สภาพของการปลดเกษียณ
การอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณหมายถึงการทำความเพียรพยายามที่จะไปอยู่เหนือเสียงผ่านกูรู
อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ เพราะทุกคนมีกิเลสและคดโกง
ทุกคนถือกำเนิดผ่านกิเลส ลักษมีและนารายณ์นั้นปราศจากกิเลส
พวกเขาไม่ได้กำเนิดผ่านบาป เหตุนี้เองพวกเขาจึงถูกเรียกว่าสูงส่ง
กุมารีปราศจากกิเลสด้วยเช่นกัน เหตุนี้เองทุกคนจึงก้มหัวให้กับพวกเธอ
ดังนั้นบาบาได้อธิบายว่าชางการ์ไม่ได้มีบทบาทเล่นที่นี่
อย่างไรก็ตามประชาปิตาบราห์มานั้นอย่างแน่นอนคือพ่อของมนุษย์
ชีพบาบาเรียกว่าเป็นพ่อของดวงวิญญาณ ท่านคือพ่อที่เป็นนิรันดร์
ลูกต้องซึมซับประเด็นที่ลึกล้ำเหล่านี้อย่างดีมาก
นักปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ได้รับสมญาที่ยิ่งใหญ่ นักปราชญ์ได้รับสมญาของศรีศรี 108
พวกเขาจบจากวิทยาลัยในพาราณสี และได้รับสมญาเหล่านั้น
บาบาส่งคุปตาจีไปพาราณสีเพื่ออธิบายให้แก่พวกเขาว่า
พวกเขาได้เอาสมญาของพ่อไปใช้กับตนเอง พ่อถูกเรียกว่าศรีศรี 108 จักกัดกูรู
มีลูกประคำของ 108 เพชรพลอยทั้ง 8 ได้รับการจดจำ พวกเขาสอบผ่านด้วยเกียรตินิยม
เหตุนี้เองลูกประคำของพวกเขาจึงได้รับการหมุน แล้วใน108
ผู้ที่สูงส่งน้อยกว่าได้รับการกราบไหว้บูชา เมื่อผู้คนก่อไฟบูชายัญ
พวกเขาทำซาลิแกรมจำนวน 1000 บ้างทำ 10,000 บ้างก็ 50,000 และบ้างแม้กระทั่งทำ
100,000 พวกเขาทำซาลิแกรมจากดินเหนียว แล้วก็ก่อไฟบูชายัญ
ถ้านักธุรกิจนั้นมั่งคั่งมาก เขาจะทำซาลิแกรมจำนวน 100,000
พ่อได้อธิบายว่าลูกประคำนั้นยาวมาก มีแม้กระทั่งลูกประคำของ 16,108
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้แก่ลูกๆ ลูกทั้งหมดกำลังรับใช้บารัตกับพ่อ
เพราะพ่อได้รับการกราบไหว้บูชา แม้แต่ลูกก็ควรได้รับการกราบไหว้บูชา
ผู้คนไม่รู้ว่าเหตุใดรูดร้าจึงได้รับการกราบไหว้บูชา ทั้งหมดคือลูกๆ ของชีพบาบา
ในเวลานี้ประชากรโลกนั้นมีจำนวนมากมายเหลือเกิน ดวงวิญญาณทั้งหมดเป็นลูกๆของชีพบาบา
แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเป็นผู้ช่วยของท่าน ยิ่งลูกจดจำท่านในเวลานี้มากเพียงใด
ลูกก็จะยิ่งกลับมาสูงส่งมากขึ้นเพียงนั้น ลูกกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
ไม่มีใครอื่นมีพลังที่จะอธิบายสิ่งเหล่านี้ เหตุนี้เองพวกเขาจึงพูดว่า
ไม่มีใครล่วงรู้ความลึกล้ำของพระเจ้า
พ่อตัวท่านเองมาและอธิบายว่าท่านถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้
ดังนั้นท่านต้องให้ความรู้อย่างแน่นอน ไม่มีเรื่องของการให้แรงบันดาลใจ
พระเจ้าจะอธิบายผ่านการให้แรงบันดาลใจหรือ? ลูกรู้ว่าท่านมีความรู้ของตอนเริ่ม
ตอนกลาง และตอนจบของโลก ท่านบอกสิ่งนี้แก่ลูกๆ ลูกมีศรัทธาในสิ่งนี้ แต่ทั้งๆ
ที่มีศรัทธา ลูกก็ลืมพ่อ การจดจำระลึกถึงพ่อเป็นสาระสำคัญของการศึกษานี้
ต้องใช้ความเพียรพยายามที่จะบรรลุถึงสภาพอยู่เหนือบ่วงกรรมโดยมีการจดจำระลึกถึงพ่อ
เป็นในการจดจำระลึกถึงนี้ที่มายาสร้างอุปสรรค ไม่มีอุปสรรคมากเช่นนั้นในการศึกษา
พวกเขาพูดถึงชางการ์ว่าเมื่อเขาเปิดตาขึ้น การทำลายล้างก็จะเกิดขึ้น
ไม่ถูกต้องที่จะพูดเช่นนี้ พ่อพูดว่า: พ่อไม่ได้ดลใจให้เกิดการทำลายล้าง
หรือชางการ์ทำให้เกิดการทำลายล้าง นั่นเป็นสิ่งที่ผิด เทพจะไม่กระทำบาป
เวลานี้ชีพบาบานั่งที่นี่และอธิบายสิ่งเหล่านี้ ร่างกายนี้เป็นพาหนะของดวงวิญญาณนี้
แต่ละดวงวิญญาณกำลังขี่พาหนะของตนเอง พ่อพูดว่า: พ่อยืมพาหนะของผู้นี้
เหตุนี้เองการเกิดของพ่อจึงกล่าวว่าสูงส่งและพิเศษสุด วงจรของ 84
ชาติเกิดเวลานี้อยู่ในสติปัญญาของลูก ลูกรู้ว่าลูกจะกลับบ้านแล้วไปยังสวรรค์
บาบาอธิบายทุกสิ่งอย่างง่ายดายมาก ลูกต้องไม่หัวใจวาย บางคนพูดว่า: บาบา
ฉันไม่มีการศึกษา ไม่มีอะไรออกมาจากปากของฉัน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ปากทำงานอย่างแน่นอน แม้กระทั่งเวลาลูกรับประทาน ปากของลูกก็ทำงาน
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเสียงใดออกมา บาบาได้อธิบายทุกสิ่งอย่างเรียบง่ายมาก
แม้แต่เมื่อบางคนกำลังอยู่ในความเงียบสงบ
เขาก็ยังคงสามารถให้สัญญาณชี้ไปเบื้องบนให้จดจำผู้เดียวนั้น
เพียงผู้ประทานเดียวนี้เท่านั้นคือผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข
เช่นเดียวกับในเวลานี้ ท่านก็เป็นผู้ประทานในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาด้วยเช่นกัน
แล้วในสภาพของการปลดเกษียณ มีเพียงความสงบเท่านั้น ลูกๆ
ก็อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งความเงียบสงบด้วยเช่นกัน
ลูกเฝ้าแต่เล่นบทบาทของลูกที่ถูกบันทึกไว้ภายในตัวลูก
บทบาทของเราในตอนนี้คือการทำให้โลกใหม่ ชื่อของท่านนั้นดีมาก
พระเจ้าแห่งสวรรค์ผู้เป็นพ่อ พ่อคือผู้สร้างสวรรค์ ท่านไม่ได้สร้างนรก
จะมีใครสร้างโลกเก่าไหม? ตึกถูกสร้างใหม่เสมอ ชีพบาบาสร้างโลกใหม่ผ่านบราห์มา
ท่านได้รับบทบาทนั้น ในโลกเก่านี้
มนุษย์ทั้งหมดเฝ้าแต่เป็นเหตุของความทุกข์ให้แก่กันและกัน
ลูกรู้ว่าลูกคือลูกๆของชีพบาบา แล้วในฐานะผู้มีร่างกาย
ลูกเป็นลูกๆที่ถูกนำมาเลี้ยงของประชาปิตาบราห์มา เป็นชีพบาบา ผู้สร้าง
ที่ให้ความรู้นี้แก่เรา ความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของสิ่งสร้างของท่าน
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกคือการกลายเป็นสิ่งนี้
ผู้คนก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายมากมายในการสร้างเทวรูปหินอ่อน
นี่คือมหาวิทยาลัยโลกของพระเจ้า ทั้งจักรวาลกำลังถูกเปลี่ยนแปลง
ลักษณะนิสัยของทุกคนนั้นเป็นเช่นปีศาจ
พวกเขาเฝ้าแต่เป็นเหตุของความทุกข์นับจากตอนเริ่ม ตลอดจนตอนกลาง ไปถึงตอนจบ
นี่คือมหาวิทยาลัยของพระเจ้า มีเพียงมหาวิทยาลัยโลกของพระเจ้าเดียวเท่านั้น
เป็นพระเจ้าผู้ที่เปิดมหาวิทยาลัยขึ้นที่ทั้งโลกได้รับคุณประโยชน์ เวลานี้ลูกๆ
เข้าใจความแตกต่างระหว่างถูกและผิด ไม่มีมนุษย์อื่นใดเข้าใจสิ่งนี้
มีเพียงผู้เดียวที่มีศีลธรรมจรรยา ท่านคือผู้เดียว ผู้เดียวที่เรียกว่าสัจจะ
ผู้ที่อธิบายแก่ลูกเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกและผิด
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและทำให้ทุกคนมีศีลธรรมจรรยา เมื่อลูกกลับมามีศีลธรรมจรรยา
ลูกจะไปสู่การหลุดพ้นแล้วก็ไปสู่การหลุดพ้นในชีวิต ลูกๆรู้ถึงละครด้วยเช่นกัน
ลูกลงมาต่างลำดับกันไปเพื่อเล่นบทบาทของลูกจากตอนเริ่ม ผ่านตอนกลาง ไปจนถึงตอนจบ
การแสดงนี้ดำเนินต่อไปตลอดเวลา และละครก็เฝ้าแต่ถูกถ่ายทำ สิ่งนี้ใหม่เสมอ
ละครนี้ไม่เคยเก่า การแสดงอื่นๆ ทั้งหมด ฯลฯ มีสิ้นสุด
ละครนี้ไม่มีขีดจำกัดและไม่สูญสลาย ทุกคนในละครนี้เป็นนักแสดงที่ไม่สูญสลาย
มองดูสิว่าการแสดงและเวทีที่คงอยู่ตลอดไปนี้ใหญ่เพียงใด
พ่อมาและทำให้โลกเก่านี้ใหม่ ลูกจะได้นิมิตของทุกสิ่งนี้
ยิ่งลูกเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ ลูกก็จะยิ่งรู้สึกมีความสุขมากเท่านั้น
และลูกจะได้นิมิต ลูกจะพูดว่าบทบาทของลูกได้มาถึงตอนสิ้นสุด แล้วละครต้องซ้ำรอย
แล้วลูกก็จะเล่นบทบาทของลูกใหม่ บทบาทที่ลูกได้เล่นในวงจรก่อนหน้านี้
ไม่สามารถมีการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงน้อยนิดที่สุดในสิ่งนี้
ดังนั้นลูกๆต้องประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงมากเท่าที่จะเป็นไปได้
ทำความเพียรพยายามและอย่าได้สับสน
เป็นสิ่งผิดที่จะพูดว่าละครจะดลใจลูกให้ทำอะไรก็ตามที่ลูกต้องทำ
เราต้องทำความเพียรพยายาม อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
รักษาสาระของการศึกษาไว้ในสติปัญญาของลูก
และบรรลุถึงสภาพอยู่เหนือบ่วงกรรมของลูกด้วยการอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง
เพื่อที่จะกลับมาสูงส่งและมีค่าควรแก่การกราบไหว้ กลายเป็นผู้ช่วยที่สมบูรณ์ของพ่อ
2.
ลูกได้รับความเข้าใจจากพ่อที่แท้จริงแล้วถึงสิ่งที่ถูกและสิ่งที่ผิด
ดังนั้นกลับมามีศีลธรรมจรรยาผ่านสิ่งนั้น ปลดปล่อยตนเองจากชีวิตของบ่วงพันธะ
และประกาศสิทธิ์ในมรดกของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตของลูก
พร:
ขอให้ลูกแลกเปลี่ยนความรักกับผู้อื่น และทำให้ทุกคนให้ความร่วมมือ
และเหตุนี้จึงกลายเป็นตัวของความสำเร็จ
เวลานี้ลูกได้ผ่านสภาพของการให้และรับความรู้นี้แล้ว เวลานี้จงแลกเปลี่ยนความรัก
ใครก็ตามที่เข้ามาอยู่เบื้องหน้าลูก ใครก็ตามที่มีความสัมพันธ์กับลูก
ให้ความรักและรับความรักจากพวกเขา
สิ่งนี้เป็นที่รู้ว่าเต็มไปด้วยความรักต่อทุกคนและน่ารัก
กับผู้ที่ไม่มีความรู้นี้ลูกต้องให้ทานความรู้
แต่กับครอบครัวบราห์มินจงเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ของการให้ทานนี้ของความรัก
แม้กระทั่งในความคิดของลูก อย่าปล่อยให้มีสิ่งใดอื่นนอกจากความรัก
เมื่อมีความรักต่อทุกคน การตอบสนองของความรักคือความร่วมมือ
และผลของความร่วมมือคือความสำเร็จ
คติพจน์:
การใส่จุดฟูลสต๊อปต่อความคิดที่ไร้ประโยชน์ในหนึ่งวินาทีคือการทำความเพียรพยายามที่จริงจังรวดเร็ว
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
ทำการทดลองกับตัวเองและผู้อื่นด้วยจิตใจของลูกด้วยพลังของโยคะ
งานรับใช้ด้วยจิตใจคืองานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด
มากเท่าที่ผู้คนมองเห็นลูกเป็นตัวอย่างของการรับใช้ด้วยจิตใจของลูกและด้วยคำพูด
พวกเขาก็จะถูกดึงดูดตามนั้น เพียงแต่มีความมุ่งมั่นนี้
และงานรับใช้ก็จะดำเนินต่อไปได้อย่างง่ายดาย หากลูกไม่มีเวลาที่จะรับใช้ด้วยคำพูด
แล้วอย่างน้อยลูกก็มีเวลาที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโดยการรับใช้ด้วยทัศนคติและจิตใจของลูก
เวลานี้ลูกต้องไม่เสียเวลาไปกับสิ่งใด แต่เพียงแค่ทำงานรับใช้
จงเป็นโยคีที่สม่ำเสมอและผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ
หากลูกไม่รู้ว่าจะรับใช้ด้วยจิตใจของลูกอย่างไร
ลูกก็สามารถรับใช้ด้วยสายใยของลูกและพฤติกรรมของลูกได้
คำพูดที่สูงส่งในแบบฉบับของมาเตชวารี
การหลุดพ้นและการหลุดพ้นชั่วนิรันดร์
ทุกวันนี้ผู้คนเรียกการหลุดพ้นว่าการหลุดพ้นชั่วนิรันดร์
พวกเขาเชื่อว่าผู้ที่ได้รับการหลุดพ้นจะเป็นอิสระจากวงจรของการเกิดและการตาย
พวกเขาเชื่อว่าการไม่เข้าสู่วงจรของการเกิดและการตายนั้น เป็นสถานภาพที่สูงส่ง
พวกเขาเชื่อว่าสิ่งนั้นคือผลรางวัล
พวกเขาเชื่อว่าการหลุดพ้นในชีวิตคือการมีชีวิตที่ลูกกระทำความดี ตัวอย่างเช่น
พวกเขาเชื่อว่าดวงวิญญาณที่มีศีลธรรมจรรยา (ธรรมัตมา) ได้รับการการหลุดพ้นในชีวิต
มีเพียงหนึ่งกำมือเดียวเท่านั้นผู้ที่เข้าใจเกี่ยวกับการหลุดพ้นจากบ่วงพันธะของกรรม
นี่เป็นความคิดเห็นของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตามเราได้เข้าใจจากพระเจ้าแล้วว่า
จนกว่ามนุษย์จะได้รับการหลุดพ้นจากบ่วงพันธะของกรรมของเขาที่อยู่บนพื้นฐานของกิเลส
มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถเป็นอิสระจากความทุกข์ นับจากตอนเริ่มต้น ตลอดจนตอนกลาง
จนถึงตอนจบได้ การเป็นอิสระจากสิ่งนี้ก็เป็นสภาพเช่นกัน ดังนั้น
เพียงเมื่อลูกได้สร้างสมความรู้ของพระเจ้าก่อนเท่านั้น ที่ลูกจะไปถึงสภาพนั้น
และเป็นพระเจ้าตัวท่านเองที่ทำให้เราสามารถไปถึงสภาพนั้นได้
เพราะท่านคือผู้ประทานการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
ท่านมาในครั้งเดียวนี้เพื่อประทานการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตให้กับทุกคน
พระเจ้าไม่ได้มาหลายครั้งและลูกต้องไม่คิดว่าพระเจ้าเองอวตารมา