14.12.25    Avyakt Bapdada     Thai Murli     18.02.2008     Om Shanti     Madhuban


เพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโลก จงทดลองด้วยพลังแห่งความเงียบ


วันนี้ บัพดาดามีความยินดีที่ได้เห็นลูกๆของท่านในทุกหนแห่ง ผู้เป็นดั่งตะเกียงแห่งความหวังของพ่อผู้เปลี่ยนแปลงโลก บัพดาดารู้ว่าลูกทุกคนมีความรักอันลึกซึ้งอย่างสุดซึ้งต่อบัพดาดา และบัพดาดาเองก็มีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าหลายล้านเท่าต่อลูกทุกคนเช่นกัน และลูกจะได้รับความรักนี้อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอในยุคบรรจบพบกัน บัพดาดารู้ว่าเมื่อเวลาใกล้เข้ามา ตามนั้นลูกทุกคนมีความคิด ความจริงจัง และความกระตือรือร้นอยู่ในหัวใจว่าเวลานี้พวกเขาต้องทำอะไรบางอย่าง เพราะลูกกำลังเห็นว่าทุกวันนี้ อำนาจทั้งสามกำลังอยู่ในความปั่นป่วนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอำนาจทางศาสนา อำนาจทางการเมือง หรืออำนาจทางวิทยาศาสตร์ แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถทำให้วัตถุธาตุทำงานได้อย่างถูกต้อง พวกเขากล่าวว่า "มันต้องเกิดขึ้น" เพราะอำนาจทางวิทยาศาสตร์นั้นอยู่บนพื้นฐานของการที่ต้องทำงานร่วมกับวัตถุธาตุ ดังนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางวิทยาศาสตร์ แต่วัตถุธาตุก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาเช่นกัน ยิ่งลูกก้าวหน้ามากขึ้น เกมแห่งวัตถุธาตุเหล่านี้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะวัตถุธาตุไม่มีพลังของช่วงเวลาเริ่มต้นอีกต่อไป ในเวลาเช่นนั้น ลองคิดดูสิ อำนาจใดที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง? พลังแห่งความเงียบนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโลก ลูกรู้หรือไม่ว่าใครคือผู้ที่จะจบสิ้นความปั่นป่วนในทุกหนแห่ง? ไม่มีใครนอกจากดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์ได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระเจ้า ที่จะสามารถทำสิ่งนี้ได้ ดังนั้น ลูกทุกคนมีความจริงจังและความกระตือรือร้นที่จะเป็นดวงวิญญาณบราห์มินผู้ที่อยู่กับบัพดาดาและเป็นมิตรร่วมทางของท่านในงานของการเปลี่ยนแปลงหรือไม่?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาอมฤต บัพดาดาได้เห็นในขณะที่เคลื่อนไปพร้อมกับลูกว่ามีความปั่นป่วนเกิดขึ้นในระดับใดในอำนาจทั้งสาม แต่ระดับที่ลูกเหล่าเทพเจ้าแห่งความสงบทั้งหลายกำลังทดลองกับพลังแห่งความเงียบสงบอันทรงพลังนั้นยังคงน้อยอยู่ ดังนั้นเวลานี้ บัพดาดาจึงให้ความกระตือรือร้นนี้กับลูกทุกคน: ลูกกำลังกระจายเสียงออกไปได้ดีมากในสนามของงานรับใช้ และถึงแม้จะมีเสียงรบกวนอยู่บ้างในนั้น แต่พลังแห่งความเงียบก็ยังคงอยู่ (บัพดาดากำลังไออยู่ซ้ำๆ) เครื่องมือไม่ค่อยดีนัก แต่บัพดาดาก็ยังคงไม่สามารถอยู่ได้หากปราศจากการพบปะกับลูกๆ และลูกๆก็ไม่สามารถอยู่ได้หากปราศจากการพบปะกับบาบา ดังนั้น บัพดาดาจึงส่งสัญญาณพิเศษนี้: เวลานี้ จงกระจายกระแสพลังแห่งความเงียบไปทั่วทุกหนแห่ง

เวลานี้ ลูกได้เห็นบราห์มาบาบาและจากัดอัมบาเป็นพิเศษ ในขณะที่เขาเองเป็นอดิเทพ เขาได้ใช้ความเพียรพยายามอย่างแฝงตัวอย่างมากด้วยพลังแห่งความเงียบ ดาดี้ของลูกก็ทำให้สิ่งเดียวนี้มั่นคงมากเช่นกันเพื่อที่จะกลับมาอยู่เหนือบ่วงกรรม ในขณะที่มีหน้าที่รับผิดชอบและวางแผนสำหรับงานรับใช้ แม้ว่าเครื่องมือจะไม่ค่อยดีสักเพียงใด บัพดาดาก็ยังคงมีความรัก (เครื่องมือยังคงไออยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า) ดังนั้น ไม่ว่างานรับใช้ด้วยความรับผิดชอบจะยิ่งใหญ่เพียงใด ลูกก็ไม่สามารถได้รับความสำเร็จจากผลของงานรับใช้ในทันทีในทางปฏิบัติได้มากเท่าที่ลูกต้องการหากปราศจากการฝึกฝนพลังแห่งความเงียบ เพราะเมื่อนั้นเท่านั้นที่ลูกจะสามารถสร้างรางวัลสำหรับทั้งวงจรให้กับตัวเองได้ สำหรับสิ่งนี้ ถึงเวลาแล้วที่ลูกแต่ละคนจะต้องสะสมรางวัลแห่งอาณาจักรและกลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การได้รับการกราบไหว้บูชาตลอดทั้งวงจร เพราะช่วงเวลาอันเปราะบางจะมาถึงอย่างแน่นอน ในเวลาเช่นนั้น ด้วยพลังแห่งความเงียบ พลังแห่งการสัมผัส และพลังแห่งการจับจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง ช่วงเวลาเช่นนั้นจะมาถึงเมื่อสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย จะมีเพียงพลังทางจิตวิญญาณและการสัมผัสคำแนะนำและแนวทางของบัพดาดาเท่านั้นที่จะทำให้ลูกสามารถดำเนินงานให้สำเร็จได้ ดังนั้น จงตรวจสอบตัวเองว่า ในเวลาเช่นนั้น ลูกจะสามารถรับการสัมผัสของบัพดาดาในจิตใจและในสติปัญญาของลูกได้หรือไม่? ลูกต้องฝึกฝนสิ่งนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน วิธีที่จะทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ – ไม่ใช่แค่บางครั้ง - แต่อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คือการรักษาจิตใจและสติปัญญาของลูกให้สะอาดและชัดเจน เวลานี้การซักซ้อมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะกลายเป็นจริงในหนึ่งวินาที หากมีความคิดในด้านลบแม้เพียงเล็กน้อยในจิตใจหรือสติปัญญาของลูกต่อดวงวิญญาณใด งานใด หรือเพื่อนที่ให้ความร่วมมือคนใด ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าสิ่งนั้นสะอาดและชัดเจน เหตุนี้เองบัพดาดาจึงดึงความสนใจของลูกมาที่เรื่องนี้ ตรวจสอบดูว่า: ฉันสะสมพลังแห่งความเงียบไว้มากมายเพียงใดตลอดทั้งวัน? ในขณะที่ทำงานรับใช้ หากฉันไม่มีพลังแห่งความเงียบในคำพูด ฉันก็จะไม่สามารถได้รับผลแห่งความสำเร็จในทันทีตามที่ฉันต้องการได้ จะมีความพยายามมากขึ้นแต่รางวัลกลับน้อยลง จงทำงานรับใช้ แต่ทำงานรับใช้ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเงียบ ด้วยการทำเช่นนี้ ลูกจะได้ผลลัพธ์มากกว่าที่ลูกต้องการ ให้ตรวจสอบตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัพดาดารู้สึกพอใจที่ไม่ว่าลูกจะทำงานรับใช้อะไรก็ตามในแต่ละวัน และไม่ว่าลูกจะกำลังทำอยู่ที่ใดก็ตาม นั่นเป็นสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ลูกต้องให้ความใส่ใจกับตัวเองให้มากขึ้น เพื่อสะสมพลังแห่งความเงียบและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

เวลานี้ทั้งโลกกำลังแสวงหา: ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงโลก? เพราะความทุกข์และความไม่สงบกำลังเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน และจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เหล่าผู้เลื่อมใสศรัทธาจึงระลึกถึงเทพพิเศษของพวกเขา บางคนทำอะไรสุดโต่งเกินไปและมีชีวิตอยู่ในความทุกข์ ศาสนากำลังมองไปที่กูรู และนักวิทยาศาสตร์ก็กำลังคิดเช่นกันว่า "เราจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร? มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่?" แล้วใครจะตอบสนองต่อผู้คนเหล่านั้นทั้งหมด? มีเสียงเรียกร้องอยู่ในหัวใจของทุกคนว่า "เมื่อใดรุ่งอรุณอันรุ่งโรจน์จะมาถึง?" ดังนั้น ลูกทุกคนคือผู้ที่จะนำมาซึ่งสิ่งนี้ใช่หรือไม่? ลูกคือผู้ที่จะนำสิ่งนี้มาใช่ไหม? ลูกคือผู้นั้นใช่ไหม? ยกมือขึ้น ผู้ที่คิดว่าลูกคือเครื่องมือสำหรับสิ่งนี้! ลูกคือเครื่องมือหรือไม่? อัจชะ ลูกหลายคนเป็นเครื่องมือ และดังนั้น มันจะเกิดขึ้นภายในเวลาเท่าใด? ลูกทุกคนก็มีความสุข และบัพดาดาก็ยินดีเช่นกัน ดูสิ ลูกแต่ละคนมีโอกาสทองนี้ตามเวลาทอง

เวลานี้ลูกกำลังมีการประชุมเกี่ยวกับงานรับใช้ในบรรดาลูกๆเอง ลูกประชุมกันเพื่อแก้ปัญหาใช่ไหม? ในทำนองเดียวกัน ให้มีการประชุมสำหรับสิ่งนี้ วางแผนสำหรับการมีการจดจำระลึกและการทำงานรับใช้ การจดจำระลึกถึงหมายถึงพลังแห่งความเงียบ และลูกจะบรรลุถึงสิ่งนั้นเมื่อลูกอยู่ในสภาพสูงสุด เมื่อลูกยืนอยู่บนจุดสูงสุด (ยอดเขา) ของสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ลูกสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน ในทำนองเดียวกัน สภาพของลูกที่จุดสูงสุด อะไรคือจุดสูงสุดของสิ่งทั้งปวง? มันคือที่พำนักอันสูงสุดดินแดนสูงสุด บัพดาดากล่าวว่า จงทำงานรับใช้ แล้วมานั่งกับพ่อในสภาพที่จุดสูงสุด เมื่อลูกเหนื่อยล้า ลูกนั่งลงเงียบๆเป็นเวลาห้านาที ซึ่งนั่นก็สร้างความแตกต่างได้ ในทำนองเดียวกัน จงมานั่งกับพ่อเป็นครั้งคราว สถานที่อื่นที่จุดสูงสุดคืออะไร? ดูวงจรโลก ที่จุดสูงสุดคืออะไร? ที่ยุคบรรจบพบกัน เข็มชี้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดใช่หรือไม่? ดังนั้น ลูกลงมาและทำงานรับใช้ แล้วจึงกลับขึ้นไปยังสถานที่ด้านบนสุด ลูกเข้าใจสิ่งที่ลูกต้องทำหรือไม่? เวลากำลังเรียกหาลูก หรือลูกกำลังทำให้เวลาใกล้เข้ามา? ใครคือผู้สร้าง? ดังนั้น จงวางแผนในบรรดาลูกๆเอง อัจชะ

ลูกๆ บอกว่า บาบาต้องมา และพ่อพูดว่า: ฮาจี ในทำนองเดียวกัน จงทำความเข้าใจสถานการณ์ ธรรมชาติ และทัศนคติของกันและกัน และพูดว่า "ฮาจี" เพราะการทำเช่นนี้ พลังของชุมนุมจะสร้างเปลวไฟแห่งความเงียบ ลูกเคยเห็นภูเขาไฟใช่หรือไม่? ดังนั้น พลังชองชุมนุมนี้จะสร้างเปลวไฟแห่งความเงียบ อัจชะ

มหาราษฏระ อานธะระประเทศ และบอมเบย์ กำลังทำงานรับใช้ในรอบนี้:

ชื่อจริงๆก็คือมหาราษฏระนั่นเอง ตามละคร มหาราษฏระได้รับของขวัญทองคำ นั่นคืออะไร? มหาราษฏระได้รับการหล่อเลี้ยงโดยตรงจากพ่อบราห์มาและแม่ เดลีและอุตตรประเทศก็ได้รับเช่นกัน แต่มหาราษฏระได้รับในระดับที่มากกว่า ตอนนี้ มหาราษฏระก็เป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ลูกจะทำอะไรต่อไปในตอนนี้? มหาราษฏระ: ลูกทุกคนต้องมาร่วมกันวางแผนและมีการประชุมเช่นนั้นที่ทุกคนจะมีธรรมชาติเดียวกัน ซันสการ์เหมือนกัน และมีเป้าหมายเดียวกันในงานรับใช้ และวางแผนเกี่ยวกับว่าจะเผยแพร่พลังแห่งความเงียบออกไปอย่างไร จงวางแผนสำหรับสิ่งนี้ ลูกจะทำแผนเหล่านี้ใช่ไหม? ลูกจะทำใช่ไหม? อัจชะ ให้รายงานกับบัพดาดาหลังจากหนึ่งเดือนของแผนที่ลูกทำไว้ จากการมีการสนทนากันอย่างเปิดใจและจริงใจเหล่านี้ก็จะนำไปสู่การเพิ่มเติมสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไป โซนต่างๆก็จะมีการเพิ่มเติมเช่นกัน ลูกสามารถสร้างรูปขึ้นมาได้ และคนอื่นๆจะประดับมันด้วยเพชร ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้ใช่ไหม? ครูทั้งหลาย ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้ไหม? ผู้ที่นั่งอยู่แถวหน้า ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้หรือไม่? โซนใดจะแสดงการร่ายรำของซันสการ์ที่สอดประสานกัน? โซนหนึ่งสามารถหยิบยกหัวข้อขึ้นมาได้ นั่นคือ วิธีการมีทัศนคติที่บริสุทธิ์ สายตาที่บริสุทธิ์ และการกระทำที่บริสุทธิ์ อีกโซนหนึ่งอาจหยิบยกหัวข้อนี้ขึ้นมา: หากดวงวิญญาณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงซันสการ์ของตนเองได้ – เขามีความปรารถนานั้นแต่ไม่สามารถทำได้ – ลูกจะให้อภัย มีเมตตา ให้ความร่วมมือ และให้ความรักต่อดวงวิญญาณนั้น และทำให้ครอบครัวบราห์มินของลูกมีพลังขึ้นได้อย่างไร? จงวางแผนสำหรับสิ่งนี้ เป็นไปได้ไหม? เป็นไปได้หรือไม่? ผู้ที่นั่งแถวหน้า เป็นไปได้หรือไม่? ยกมือขึ้นหากลูกคิดว่ามันเป็นไปได้? ผู้ที่นั่งแถวหน้าทั้งหมดคือมหาระตี บัพดาดาไม่ได้เอ่ยชื่อใครในตอนนี้ แต่ แต่ละโซนสามารถพูดคุยกันอย่างเปิดเผยและจริงใจเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ แล้วจึงให้ผลลัพธ์ของพวกเขาหลังจากชีพราตรี,หลังจากหนึ่งเดือน นี่คือมหาราษฏระและเป็นสิ่งที่ดี การขยายตัวกำลังเกิดขึ้นทุกหนแห่ง บัพดาดาขอแสดงความยินดีสำหรับสิ่งนั้น ขอแสดงความยินดีด้วย ลูกแสดงความยินดีกับสิ่งที่ลูกได้ทำมาจนถึงตอนนี้ แต่ตอนนี้ ขอให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น คุณภาพไม่ได้หมายความว่าพวกเขาควรจะมั่งคั่งร่ำรวย คุณภาพหมายความว่าพวกเขาแสดงให้เห็นถึงข้อพิสูจน์ของการจดจำระลึกถึงว่าเป็นวินัยในชีวิตของพวกเขา และลูกก็รู้เรื่องไมค์และทายาทอยู่แล้ว ให้สติปัญญาของลูกมีศรัทธาและไร้กังวล อัจชะ

ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ ยืนขึ้น: (มีรีทรีทพิเศษเกิดขึ้นสำหรับผู้ที่เป็นคู่และกุมารี): กุมารีเหล่านี้มาพร้อมกับสัญลักษณ์ของตัวเอง มันดูดี กุมารีหมุนไปรอบๆเพื่อให้ทุกคนได้เห็นลูก หันกลับมา ดีแล้ว ลูกทุกคนโชคดี แต่กุมารีโชคดีเป็นสองเท่า เพราะเหตุใด? อันที่จริง กุมารก็โชคดีเช่นกัน แต่ถ้ากุมารีอยู่อย่างเป็นอมตะในชีวิตกุมารี พวกเขาก็จะได้รับบัลลังก์ของบัพดาดาในฐานะ "กูรู-ไบ" (บุคคลลำดับถัดไปที่จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหรือรับช่วงต่อจากกูรู) ลูกก็มีบัลลังก์หัวใจอยู่แล้ว ลูกทุกคนมีบัลลังก์นั้น แต่บัลลังก์ของกูรูคือสถานที่ที่ลูกนั่งและอ่านเมอร์ลี ลูกกลายเป็นครูและสอนผู้อื่น ด้วยเหตุนี้บัพดาดาจึงกล่าวว่า: กุมารีโชคดีเป็นสองเท่าและเป็นผู้ที่สามารถยกระดับ 21 ครอบครัว (รุ่น, ชั่วอายุคน) ดังนั้น ลูกได้ยกระดับ 21 ชาติเกิดของลูกแล้ว แต่ลูกยังยกระดับผู้ที่ลูกกลายเป็นเครื่องมือให้กับเขาเป็นเวลา 21 ชาติเกิดด้วย ดังนั้น ลูกเป็นกุมารีเช่นนั้นใช่หรือไม่? ลูกเป็นเช่นนั้นไหม? พักก้าไหม? (แน่นอน) ผู้ที่อ่อนแอเล็กน้อย ยกมือขึ้น ลูกเป็นผู้ที่หนักแน่นมั่นคง ลูกเคยเห็นไหมว่าพวกเขาเป็นกุมารีที่หนักแน่นมั่นคง? (ถามโมฮินิเบน, นิวยอร์ก): บอกสิว่ากลุ่มกุมารีหนักแน่นมั่นคงหรือไม่ ใครเป็นครูของพวกเขา? (มีร่าเบน) ถ้าอย่างนั้นลูกก็ปรบมือได้ บัพดาดาก็พอใจเช่นกัน (นี่คือกุมารีรีทรีทครั้งที่ 8 หัวข้อของพวกเขาคือ: ประสบการณ์ของการเป็นส่วนหนึ่ง มีกุมารี 80 คนจาก 30 ประเทศ ทุกคนมีประสบการณ์ที่ดีมากของการเป็นส่วนหนึ่ง) ขอแสดงความยินดี เหล่านี้คือกุมารี ลูกทุกคนคือใคร? ลูกพูดว่า: พวกเขาคือกุมารี และพวกเราคือบราห์มากุมารและบราห์มากุมารี ลูกก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยเช่นกัน นี่คือกลุ่มกุมารี เป็นกลุ่มที่ปะปนกัน ดีแล้ว ลูกผู้เป็นคู่มีความซาบซึ้งอะไร? ลูกรู้ไหมว่าลูกมีความซาบซึ้งอะไรเป็นพิเศษ? นับตั้งแต่ที่ผู้ครองเรือนได้ซึมซับความรู้นี้ ผู้คนส่วนใหญ่ก็พัฒนาความกล้าหาญขึ้นมาที่พวกเขาก็สามารถทำสิ่งนี้ได้เช่นกัน เราก็สามารถทำสิ่งนี้ได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยคิดว่า การจะเป็นบราห์มากุมารีได้นั้นหมายความว่าพวกเขาจะต้องละทิ้งทุกสิ่ง ในขณะที่เวลานี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่า แม้หลังจากเป็นบราห์มากุมารหรือกุมารีแล้ว พวกเขาก็สามารถทำทุกสิ่งได้ และอยู่กับครอบครัวของพวกเขาได้ และดำเนินชีวิตต่อไปได้ทุกอย่าง ผู้ที่เป็นคู่ก็มีคุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาได้ท้าทายดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ว่า ในขณะที่อยู่ด้วยกัน ในขณะที่มีปฏิสัมพันธ์กับทุกคน การปฏิสัมพันธ์กับพระเจ้าของพวกเขาก็จะสูงส่งขึ้นและพวกเขาก็จะได้รับชัยชนะ ดังนั้น การให้ความกล้าหาญแห่งชัยชนะจึงเป็นหน้าที่ของผู้ที่เป็นคู่ เหตุนี้เองบัพดาดาจึงแสดงความยินดีกับผู้ที่เป็นคู่ สิ่งนี้ดีไหม? ลูกคือผู้ที่จะท้าทายพวกเขาใช่ไหม? ลูกมั่นคงในสิ่งนี้หรือไม่? หากมีใครมาและทำพฤติกรรมอย่างเป็นตำรวจสืบสวน "CID" ก็ปล่อยให้พวกเขาทำไป บอกพวกเขาว่า: พวกเขาทำได้ ลูกมีความกล้าเช่นนี้ไหม? ยกมือขึ้น! อัจชะ

บัพดาดาพิจารณาว่าดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญอยู่เสมอ เพราะเหตุใด? บัพดาดาเห็นว่าลูกไปทำงาน ลูกเข้าคลาสเรียน ลูกบางคนก็ดำเนินคลาสด้วย และกลายเป็นผู้ช่วยในงานรับใช้รอบด้านในศูนย์ เหตุนี้เองบัพดาดาจึงให้ฉายาลูกว่า ลูกคือกลุ่มคนที่รอบด้าน จงก้าวไปข้างหน้าในลักษณะนี้ต่อไป และทำให้ผู้อื่นก้าวไปข้างหน้าในลักษณะเดียวกันต่อไป อัจชะ

ครู: ลูกผู้เป็นครูสบายดีไหม? มีครูมากมาย อัจชะ แม้แต่ผู้สูงอายุก็ยังยืนขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ดี ลูกได้รับสมญาว่ามีความทัดเทียมกับพ่อเช่นกัน พ่อก็มาที่นี่ในฐานะครูเช่นกัน ครูหมายถึงผู้ที่ทำให้ผู้อื่นมีประสบการณ์บนพื้นฐานจากประสบการณ์ของตนเอง อำนาจของประสบการณ์นั้นยิ่งใหญ่ที่สุด หากใครมีประสบการณ์กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงครั้งเดียว เขาจะไม่ลืมสิ่งนั้นไปตลอดชีวิตของเขา บางสิ่งที่ลูกได้ยินหรือได้เห็นอาจถูกลืมได้ แต่สิ่งใดก็ตามที่ลูกเคยมีประสบการณ์จะไม่มีวันลืมได้ ดังนั้น ครูจึงหมายถึงผู้ที่มีประสบการณ์และทำให้ผู้อื่นมีประสบการณ์ นี่คือสิ่งที่ลูกทำอยู่ใช่หรือไม่? นี่เป็นสิ่งที่ดี สิ่งใดที่ขาดหายไปในประสบการณ์ของลูก จงเติมเต็มช่องว่างนั้นในหนึ่งเดือน แล้วบัพดาดาจะถามถึงผลลัพธ์ อัจชะ

ถึงลูกทุกคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์หัวใจของบัพดาดาและบัลลังก์แห่งอาณาจักรของโลก ในขณะเดียวกัน จงเพิ่มพลังแห่งความเงียบของลูกอยู่เสมอ และให้ความจริงจังและความกระตือรือร้นแก่ผู้อื่นเพื่อทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า ถึงผู้ที่อยู่อย่างมีความสุขอยู่เสมอและให้ของขวัญแห่งความสุขแก่ทุกคน ถึงลูกๆ ผู้โชคดีและน่ารักของบัพดาดาทุกคนในทุกหนแห่ง รัก ระลึกถึง พร และนมัสเต จากบัพดาดา

พร:
ขอให้ลูกได้รับสิทธิ์ในการได้รับตั๋วปรับอากาศ โดยการอยู่อย่างปลอดภัยในทุกสถานการณ์

ลูกๆที่อยู่อย่างปลอดภัยที่นี่ในทุกสภาวะคือผู้ที่จะได้รับตั๋วปรับอากาศ ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด มีปัญหาใดเข้ามา ลูกจำเป็นต้องมีใบประกาศนียบัตรเพื่อเอาชนะปัญหาใดๆได้ในหนึ่งวินาที เช่นเดียวกับที่ลูกต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อตั๋วนั้น ลูกก็จำเป็นต้องมีเงินที่นี่ของการมีชัยชนะอยู่เสมอซึ่งลูกสามารถใช้รับตั๋วนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินนี้ แต่ลูกเพียงแค่ต้องอยู่กับพ่อตลอดเวลา แล้วลูกก็จะเฝ้าแต่สะสมรายได้มากมายนับไม่ถ้วน

คติพจน์:
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จงปล่อยวาง แต่จงอย่าปล่อยความสุขของลูกไป

สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: เวลานี้ให้มีความใส่ใจอย่างลึกล้ำที่จะกลับมาสมบูรณ์พร้อมและอยู่เหนือบ่วงกรรม

เต่า,สิ่งสร้างของลูก สามารถหลอมรวมอวัยวะทั้งหมดได้ในหนึ่งวินาที แม้แต่สิ่งสร้างก็มีพลังที่จะหลอมรวม ด้วยพลังของการเก็บแต่สิ่งที่มีประโยชน์ ลูกซึ่งเป็นนายผู้สร้างสามารถหยุดความคิดทั้งหมดได้ในหนึ่งวินาที และกลับมามั่นคงในความคิดเดียวได้ในหนึ่งวินาที เมื่อลูกทำให้ตนเองมั่นคงในรูปของจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ อยู่เหนือสำนึกรู้ใดๆของการกระทำของอวัยวะต่างๆในร่างกายของลูก ลูกก็จะสัมผัสกับสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรม