15.09.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน พ่อได้มาเพื่อสอนปรัชญาที่ลึกล้ำของกรรม กรรมที่เป็นกลางและกรรมที่เป็นบาปแก่ลูก เมื่อทั้งดวงวิญญาณและร่างกายของลูกบริสุทธิ์ การกระทำก็เป็นกลาง เมื่อลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์ การกระทำก็กลายเป็นบาป

คำถาม:
อะไรคือเหตุผลที่ดวงวิญญาณกลายเป็นสนิม? อะไรคือสิ่งชี้บอกของดวงวิญญาณที่ปกคลุมไปด้วยสนิม?

คำตอบ:
เหตุผลของสนิมคือกิเลส เมื่อลูกดวงวิญญาณกลับมาไม่บริสุทธิ์ที่ลูกถูกปกคลุมไปด้วยสนิม แม้กระทั่งเวลานี้หากดวงวิญญาณมีสนิม พวกเขาก็จะถูกดึงดูดเข้าไปหาโลกเก่า สติปัญญาของพวกเขาก็ยังคงกลายเป็นอาชญากรต่อไป และพวกเขาก็ไม่สามารถอยู่ในการจดจำระลึกถึงได้

โอมชานติ
ลูกๆเข้าใจความหมายของสิ่งนี้แล้ว ทันทีที่ลูกดวงวิญญาณพูดคำว่า “โอม ชานติ” ลูกมีศรัทธาว่าลูกไม่ใช่ผู้อาศัยของสถานที่นี้ เราเป็นผู้อยู่อาศัยในดินแดนแห่งความสงบ ศาสนาดั้งเดิมของเราคือความสงบเมื่อเราอาศัยอยู่ในบ้านของเรา และแล้วเราก็มาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของเรา เพราะว่าดวงวิญญาณกระทำผ่านร่างกายของเรา มีการกระทำที่ดีและไม่ดี ในอาณาจักรของราวันมีการกระทำที่ไม่ดี การกระทำของทุกคนกลายเป็นบาปในอาณาจักรของราวัน ไม่มีแม้เพียงคนเดียวที่เป็นอิสระจากการกระทำที่เป็นบาป ผู้คนเชื่อว่านักปราชญ์และซันยาสซีไม่ทำการกระทำที่เป็นบาปเพราะพวกเขาอยู่อย่างบริสุทธิ์และเพราะพวกเขามีการสละละทิ้ง ในความเป็นจริง พวกเขาไม่รู้เลยว่าบริสุทธิ์หมายความว่าอะไร พวกเขาพูดว่า: “ฉันไม่บริสุทธิ์” และพวกเขาก็ร้องเรียกหาผู้ชำระให้บริสุทธิ์ โลกไม่สามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้จนกระทั่งท่านมา ที่นี่เป็นโลกเก่าที่ไม่บริสุทธิ์และเหตุนี้เองพวกเขาจึงจดจำโลกที่บริสุทธิ์นั้น เมื่อพวกเขาไปยังโลกที่บริสุทธิ์ พวกเขาก็จะไม่จดจำโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้ โลกนั้นแยกจากกันโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งเป็นสิ่งใหม่ในตอนแรกและแล้วก็กลับมาเก่า ไม่มีคนที่ไม่บริสุทธิ์แม้เพียงคนเดียวที่สามารถมีชีวิตอยู่ในโลกใหม่นั้นได้ ผู้สร้างโลกใหม่คือพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ท่านผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ สิ่งสร้างของท่านต้องบริสุทธิ์อย่างแน่นอน: จากบริสุทธิ์มาไม่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์มาบริสุทธิ์ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้นั่งอยู่ในสติปัญญาของใคร พ่อมาทุกวงจรเพื่ออธิบายแก่ลูก สติปัญญาของลูกๆบางคนก็มีศรัทธาเช่นกัน และแล้วสติปัญญาของพวกเขาก็พัฒนาความสงสัย มายากลืนกินพวกเขาจนหมดสิ้น ลูกคือมหาระตี มหาระตีได้รับเชิญไปบรรยาย ลูกต้องอธิบายแก่มหาราชาว่า เริ่มแรกท่านเคยบริสุทธิ์และมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา นี่คือโลกที่ไม่บริสุทธิ์เวลานี้ มีเพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่มีชีวิตอยู่ในโลกที่บริสุทธิ์ ลูกๆผู้คนของบารัตเคยเป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปและเคยมีมงกุฎสองชั้นและปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง มหาระตีต้องอธิบายในวิธีนี้ ลูกต้องอธิบายสิ่งนี้ด้วยความซาบซึ้ง พระเจ้าพูด: ด้วยการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะ ดวงวิญญาณจึงกลับมาน่าเกลียด และแล้วด้วยการนั่งบนกองไฟของความรู้นี้ดวงวิญญาณกลับมาสวยงาม ใครก็ตามที่อธิบายไม่สามารถนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะได้ อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ขณะกำลังอธิบายให้แก่ผู้อื่นเขากลับนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะเสียเอง วันนี้พวกเขาอธิบายความรู้นี้ และวันพรุ่งนี้พวกเขาก็ตกลงไปสู่กิเลส มายาแข็งแรงอย่างมาก อย่าได้ถามเลย! ผู้ที่อธิบายให้แก่คนอื่นและแล้วก็นั่งบนกองไฟของตัณหาราคะเสียเอง และแล้วพวกเขาก็ต้องสำนึกผิดและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?” นี่คือการชกมวย ทันทีที่ผู้ชายมองผู้หญิง เขาก็ถูกดึงดูดและเขาก็ทำให้ใบหน้าของเขาสกปรก มายามีพลังมาก พวกเขาทำสัญญาและแล้วก็ล้มเหลว ดังนั้นจึงมีการสะสมการลงโทษ 100 เท่า เป็นเหมือนกับการกลับมาไม่บริสุทธิ์เหมือนศูทร มีการจดจำกันว่าหลังจากดื่มน้ำทิพย์พวกเขาจะออกไปข้างนอกและก่อกวนผู้อื่นด้วยการกระทำที่สกปรก ลูกต้องใช้สองมือในการปรบมือ ลูกไม่สามารถปรบมือด้วยมือข้างเดียวได้ ทั้งสองทำให้ตนเองเสียหาย และแล้วบางคนก็ให้ข่าวของพวกเขา ในขณะที่คนอื่นไม่ให้ข่าวของเขาเพราะมีความละอายใจเกินไป พวกเขารู้สึกว่าชื่อของพวกเขาจะถูกประณามในสกุลบราห์มิน เมื่อบางคนพ่ายแพ้ก็จะมีเสียงกระจายออกไปทั่วอย่างมากมายว่านักมวยปล้ำที่แข็งแกร่งเช่นนั้นได้พ่ายแพ้ อุบัติเหตุเช่นนั้นเกิดขึ้นมากมาย มายาตบตีพวกเขา จุดหมายปลายทางนั้นสูงมาก เวลานี้ลูกๆอธิบายว่าผู้ที่เคยสะโตประธานและสวยงามกลับมาน่าเกลียดและตาโมประธานด้วยการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะ รามถูกวาดเป็นสีน้ำเงินเข้ม พวกเขาได้ทำภาพของผู้คนมากมายที่มีสีน้ำเงินเข้ม อย่างไรก็ตามมีเพียงชื่อของบุคคลหลักๆ เท่านั้นที่ใช้อธิบายให้แก่ลูก ที่นี่ด้วยเช่นกันพวกเขามีภาพของรามจันทราที่มีสีน้ำเงินเข้ม ถามพวกเขาว่า: ทำไมคุณถึงได้ทำภาพที่เป็นสีน้ำเงินเข้ม? พวกเขาก็ตอบว่า: นี่คือความประสงค์ของพระเจ้า สิ่งนี้ได้ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล พวกเขาไม่รู้ว่าเหตุใดสิ่งนี้จึงเกิดขึ้นหรือแม้กระทั่งเกิดอะไรขึ้น เวลานี้พ่อกำลังอธิบายให้แก่ลูก: ด้วยการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์และไม่มีความสุข และไม่มีค่าแม้หนึ่งสตางค์ นั่นคือโลกที่ปราศจากกิเลส และนี่คือโลกที่มีกิเลส อธิบายในลักษณะนี้: นี่คือสุริยวงศ์และนั่นคือจันทราวงศ์ และแล้วลูกต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์พ่อค้า ด้วยการเข้าไปสู่หนทางบาป พวกเขาจึงไม่ถูกเรียกว่าเทพอีกต่อไป ในวัดจักกัดนาถ พวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงสกุลเทพที่อยู่ด้านบน เครื่องแต่งกายของพวกเขาเป็นเครื่องแต่งกายของเทพ แต่กิจกรรมของพวกเขาที่ถูกแสดงนั้นสกปรกมาก จงให้ความใส่ใจกับสิ่งที่พ่อดึงความสนใจของลูก งานรับใช้มากมายสามารถทำได้ที่วัด ลูกสามารถอธิบายที่วัดศรีนาถได้ด้วยเช่นกัน ถามพวกเขาว่า: ทำไมคุณถึงทำให้ภาพเหล่านี้เป็นสีน้ำเงินเข้ม? เป็นสิ่งดีมากที่จะอธิบายสิ่งนี้ นั่นคือยุคทองและนี่คือยุคเหล็กเมื่อดวงวิญญาณกลายเป็นสนิม เวลานี้สนิมของลูกกำลังถูกขจัดออกไป สนิมของผู้ที่ไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึงจะไม่ถูกขจัดออกไป เมื่อดวงวิญญาณถูกปกคลุมไปด้วยสนิมมากมาย พวกเขาก็จะถูกดึงดูดเข้าสู่โลกเก่าเป็นอย่างมาก สนิมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือกิเลส(ตัณหาราคะ) เป็นเพราะกิเลสดวงวิญญาณจึงกลับมาไม่บริสุทธิ์ ตรวจสอบตนเองเพื่อดูว่าสติปัญญาของลูกไม่ได้เป็นอาชญากร แม้กระทั่งลูกๆชั้นหนึ่งที่ดีมากก็ยังพลาดพลั้งในสิ่งนี้ เวลานี้ลูกๆได้รับความเข้าใจแล้วว่าประเด็นหลักคือความบริสุทธิ์ มีการต่อสู้มากมายเนื่องจากสิ่งนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น พ่อได้สร้างกลยุทธ์สำหรับสิ่งนี้ ทุกคนเคยพูดว่าพวกเขาจะไปดื่มน้ำทิพย์แห่งความรู้นี้ มีเพียงมหาสมุทรแห่งความรู้เท่านั้นที่มีน้ำทิพย์แห่งความรู้นี้ ไม่มีใครสามารถกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ได้ด้วยการศึกษาคัมภีร์ ดวงวิญญาณต้องกลับมาบริสุทธิ์และแล้วจึงไปสู่โลกที่บริสุทธิ์ หลังจากกลับมาบริสุทธิ์แล้วลูกจะไปที่ไหนจากที่นี่? ผู้คนเชื่อว่าผู้นั้นผู้นี้ได้รับการหลุดพ้นตลอดไปเป็นนิรันดร พวกเขาจะรู้อะไร? หากมีบางคนได้บรรลุการหลุดพ้นอันเป็นนิรันดร ลูกก็ไม่สามารถทำพิธีสำหรับการจากไปของดวงวิญญาณนั้นได้ ที่นี่ผู้คนก็รักษาไม่ให้ตะเกียงดับเพื่อที่ดวงวิญญาณจะไม่มีความยากลำบากหรือเดินสะดุดใดๆในความมืด ดวงวิญญาณไปและใช้อีกร่างหนึ่งภายในหนึ่งวินาที จะมีความมืดสำหรับดวงวิญญาณได้อย่างไร? ระบบนั้นยังคงดำเนินต่อเนื่องมา ลูกก็เคยทำเช่นนั้นเช่นกัน แต่ลูกไม่ได้ทำเช่นนั้นอีกต่อไป ลูกรู้ว่าร่างกายถูกหลอมรวมเข้ากับฝุ่น ที่นั่นพวกเขาไม่มีขนบธรรมเนียมประเพณีเช่นนั้น เวลานี้ไม่มีสิ่งใดในพลังลี้ลับฯลฯ ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่าบางคนจะมีปีกและเริ่มที่จะบินๆได้ แล้วยังไงล่ะ? จะมีประโยชน์อะไรในสิ่งนั้น? พ่อพูดว่า: จดจำพ่อแล้วบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง นี่คือไฟของโยคะที่จะทำให้ลูกกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ ลูกได้รับความมั่งคั่งผ่านความรู้นี้ ด้วยโยคะลูกกลับมามีพลานามัยดีอยู่เสมอและบริสุทธิ์ และด้วยความรู้นี้ลูกก็กลับมามั่งคั่งเสมอ ช่วงอายุขัยของโยคีนั้นยาวนานมากกว่าช่วงอายุขัยของโบคีเสมอ(ผู้ที่ข้องแวะในความสุขจากการใช้ประสาทสัมผัส) ศรีกฤษณะถูกเรียกว่าโยเกชวาร์ เขากลายเป็นศรีกฤษณะด้วยการจดจำระลึกถึงพระเจ้า เขาไม่ได้ถูกเรียกว่าโยเกชวาร์ในสวรรค์ เขาเป็นเจ้าชายแล้ว เขามีการกระทำเช่นนั้นในชาติเกิดในอดีตของเขาที่เขาได้กลายเป็นกฤษณะ พ่อได้อธิบายแก่ลูกถึงปรัชญาที่ลึกล้ำของกรรม กรรมที่เป็นกลางและกรรมที่เป็นบาป ครึ่งวงจรเป็นอาณาจักรของรามและอีกครึ่งวงจรเป็นอาณาจักรของราวัน การข้องแวะในกิเลสคือบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลูกทั้งหมดคือพี่น้องหญิงชาย ดวงวิญญาณทั้งหมดคือพี่น้องเพศชาย ลูกเป็นลูกๆของพระเจ้า ดังนั้นจะสามารถมีการทำร้ายที่เป็นอาชญากรได้อย่างไร? เราบีเคไม่สามารถข้องแวะในกิเลสได้ ด้วยการใช้กลวิธีนี้เท่านั้นที่ลูกจะสามารถอยู่อย่างบริสุทธิ์ได้ ลูกรู้ว่าอาณาจักรของราวันกำลังจะสิ้นสุดลงในเวลานี้ และแล้วดวงวิญญาณทั้งหมดจะกลับมาบริสุทธิ์ สิ่งนี้เป็นที่รู้จักกันว่ามีแสงสว่างในทุกบ้าน เวลานี้แสงของลูกได้ถูกจุดขึ้นมาแล้ว ลูกแต่ละคนได้รับดวงตาที่สามแห่งความรู้นี้ ในยุคทองทุกคนบริสุทธิ์ เวลานี้เท่านั้นที่ลูกเข้าใจสิ่งนี้ ลูกๆมีพละกำลังในการอธิบายให้แก่ผู้อื่นตามลำดับกันไป ลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงตามลำดับกันไป อาณาจักรมีการก่อตั้งขึ้นมาได้อย่างไรไม่ได้เข้าไปสู่สติปัญญาของใคร ลูกคือกองทัพ ลูกรู้ว่าลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ด้วยพลังของการจดจำระลึกถึง และแล้วลูกก็จะกลายเป็นราชาและราชินี ในชาติเกิดต่อไปของลูก ลูกจะมีช้อนทองอยู่ในปากของลูก ผู้ที่สอบผ่านได้คะแนนสูงกว่าก็จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงกว่า มีความแตกต่างกัน ลูกได้รับความสุขมากตามที่ลูกได้ศึกษาเล่าเรียน พระเจ้ากำลังสอนลูก ดังนั้นลูกควรมีความซาบซึ้งนั้นอย่างสม่ำเสมอ ลูกกำลังได้รับอาหารบำรุงกำลังในเวลานี้ ไม่มีใครนอกจากพระเจ้าสามารถทำให้ลูกไปเป็นเทพเจ้าได้ เวลานี้ลูกกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ และแล้วลูกจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงและอยู่อย่างมีความสุขชาติแล้วชาติเล่า ขณะที่กำลังศึกษาเล่าเรียนลูกบางคนก็กลับมาสกปรก ด้วยการกลับมามีสำนึกที่เป็นร่าง ดวงตาที่สามแห่งความรู้นี้ของลูกก็ปิดลง มายามีพลังมาก พ่อเองพูดว่า: จงใช้ความพยายามอย่างมาก พ่อเข้ามาในร่างของบราห์มาและทำความพยายามอย่างมาก! บางคนเข้าใจสิ่งนี้และแล้วก็ถามคำถามว่า: เป็นไปได้อย่างไรที่ชีพบาบาจะมาสอนเรา? ฉันไม่เชื่อสิ่งนี้ นี่คือความฉลาดของพวกเขาเอง พวกเขาเพียงแค่พูดในลักษณะนั้น อย่างไรก็ตามอาณาจักรก็จะถูกก่อตั้งขึ้นมาอยู่ดี มีคำกล่าวว่า “เรือของสัจจะอาจจะโคลงเคลงแต่จะไม่มีวันจม” มีอุปสรรคมากมายเหลือเกิน อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้งผู้ที่เป็นแสงของดวงตา ถึงดวงวิญญาณผู้ที่กำลังจะกลับมาสวยงามจากที่น่าเกลียด รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้าจากส่วนลึกของหัวใจ จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ขจัดสนิมของกิเลสด้วยไฟของโยคะ ตรวจสอบตนเองเพื่อดูว่าสติปัญญาของลูกกลายเป็นอาชญากรหรือไม่

2. เมื่อสติปัญญาที่มีศรัทธาถูกพัฒนาขึ้น อย่าได้มีความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งใด เพื่อที่จะปกป้องตนเองจากการกระทำที่เป็นบาป ทำการกระทำหลังจากที่ทำให้ตนเองมั่นคงในศาสนาดั้งเดิมของลูกและอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อเสมอ

พร:
ขอให้ลูกกลับมามีค่าควรแก่การได้รับพรจากทุกคน และมีประสบการณ์กับการเติบโตด้วยวิธีการหล่อเลี้ยงที่สูงส่ง

ยุคบรรจบพบกันคือยุคที่จะเติบโตไปพร้อมกับการแสดงความยินดี ลูกๆได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยความยินดีจากพ่อและครอบครัว เป็นด้วยการแสดงความยินดีเหล่านี้ที่ลูกกำลังร่ายรำ ร้องเพลง ได้รับการหล่อเลี้ยงและโบยบินได้ การหล่อเลี้ยงนี้มหัศจรรย์ ลูกๆจะกลายเป็นผู้ประทานด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่และความรู้สึกของความเมตตาและแสดงความยินดีต่อกันและกันในทุกขณะต่อไป โดยพูดว่า “ดีมาก ดีมาก” นี่เป็นวิธีของการให้การหล่อเลี้ยงที่สูงส่ง จงเฝ้าแต่หล่อเลี้ยงทุกคนต่อไปในวิธีนี้และลูกจะกลับมามีค่าควรแก่การได้รับการแสดงความยินดี

คติพจน์:
การทำให้ธรรมชาติของลูกนั้นง่ายดาย คือวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหา

คำพูดที่สูงส่งอันล้ำค่าของมาเตชวารี

ละครที่คงอยู่ตลอดไปอันเป็นนิรันดร์สร้างขึ้นมาจากความพยายามและรางวัล

มาเตชวารี: ความพยายามและรางวัลเป็นสองสิ่ง รางวัลถูกสร้างขึ้นมาโดยการทำความพยายาม วงจรที่คงอยู่ตลอดไปอันเป็นนิรันดร์นี้ยังคงหมุนต่อไป ผู้อยู่อาศัยที่คงอยู่ตลอดไปดั้งเดิมของบารัต มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาและแล้วก็กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา และแล้วผู้กราบไหว้บูชาคนเดียวกันเหล่านั้นจะพยายามและกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา การละเล่นของละครที่คงอยู่ตลอดไปของการขึ้นและลงถูกกำหนดไว้แล้ว

ผู้แสวงหา: มาเตชวารี ฉันก็มีคำถามนี้เหมือนกัน เนื่องจากละครเรื่องนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในลักษณะนี้ และแล้วหากฉันกำลังจะขึ้นมันก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นทำความพยายามจะมีประโยชน์อะไร? ผู้ที่ขึ้นไปและแล้วจะลงมา ดังนั้นทำไมเราต้องพยายามมากขนาดนี้? มาเตชวารี ท่านบอกว่าละครนี้จะซ้ำรอยเหมือนเดิมทุกประการ และแล้วพระเจ้าผู้ทรงพลังอำนาจจะไม่เบื่อหน่ายหรือเหนื่อยล้าที่จะดูละครนี้หรือ? เช่นเดียวกับที่มีความแตกต่างกันในสี่ฤดูกาล เช่น ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง การละเล่นนี้มีความแตกต่างกันหรือไม่?

มาเตชวารี: นี่คือความพิเศษของละครนี้ มันซ้ำรอยเหมือนเดิม ความพิเศษอีกอย่างของละครนี้คือ แม้ว่าจะฉายซ้ำ แต่ก็ให้ความรู้สึกใหม่ทุกวัน ในตอนแรกเราไม่มีคำสอนเหล่านี้ แต่เมื่อเราได้รับความรู้นี้ เราก็รู้ว่าทุกๆ วินาทีที่ผ่านไปในแต่ละละวินาทีนั้นเหมือนกับในวงจรก่อนหน้านี้ แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งใหม่ทุกวันเมื่อเราสังเกตสิ่งนี้ในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง เวลานี้เราได้รับความเข้าใจทั้งความสุขและความทุกข์ และแล้วเราต้องไม่คิดว่าเรากำลังจะล้มเหลว ทำไมเราจึงควรศึกษาเล่าเรียน? ไม่ ในกรณีนี้ลูกอาจคิดว่าถ้าลูกกำลังจะได้รับอาหารลูกจะได้รับโดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน และแล้วทำไมลูกถึงทำความพยายามอย่างมากเพื่อหารายได้? ในความเป็นจริงเวลานี้ฉันเห็นว่าเวลาแห่งการขึ้นมาถึงแล้ว และราชวงศ์เทพเดียวกันนั้นกำลังได้รับการก่อตั้ง ดังนั้นทำไมเราไม่ควรรับความสุขนั้นในเวลานี้? ตัวอย่างเช่น หากบางคนต้องการที่จะกลายเป็นผู้พิพากษา และแล้วเมื่อเขาทำความพยายามเท่านั้นที่เขาจะได้รับปริญญา หากเขาล้มเหลวความพยายามทั้งหมดก็จะสูญเปล่า อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นกับความรู้ที่ไม่มีวันสูญสลายนี้ ความรู้ที่ไม่มีวันสูญสลายนี้จะไม่ถูกทำลายแม้แต่เล็กน้อย แม้ว่าลูกจะไม่ได้ทำความพยายามมากพอที่จะเข้ามาในราชวงศ์เทพ หากลูกทำความพยายามน้อยลูกก็สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชาในยุคทองได้ อย่างไรก็ตามมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความพยายามเพราะรางวัลของลูกนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากความพยายามเท่านั้น และแล้วความยิ่งใหญ่จึงมาจากความพยายาม

ความรู้ของพระเจ้านี้มีไว้สำหรับดวงวิญญาณมนุษย์ทั้งหมด

ก่อนอื่นเราต้องรักษาประเด็นหลักประการหนึ่งไว้ในสำนึกรู้ของเรา เนื่องจากพระเจ้าเป็นเมล็ดของต้นไม้โลกมนุษย์นี้ และแล้วความรู้ที่เราได้รับจากพระเจ้าจึงจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคน ผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆมีสิทธิในความรู้นี้ แม้ว่าความรู้ของแต่ละศาสนาจะเป็นของตัวเอง คัมภีร์ของพวกเขาก็เป็นของพวกเขาเอง ความคิดเห็นของพวกเขาเป็นของพวกเขาเอง ซันสการ์ของพวกเขาก็เป็นของพวกเขาเอง อย่างไรก็ตามความรู้นี้เป็นไปสำหรับทุกคน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรับความรู้นี้ได้และพวกเขาก็ไม่ได้เข้ามาในราชวงศ์ของเรา เพราะผู้เดียวนั้นคือพ่อของทุกคน พวกเขาทั้งหมดจะกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอนโดยการมีโยคะกับท่าน และแล้วเนื่องจากความบริสุทธิ์นี้พวกเขาทั้งหมดจะประกาศสิทธิ์สถานภาพในส่วนของตนเองอย่างแน่นอน เพราะมนุษย์ทุกคนเชื่อในโยคะ หลายคนบอกว่าพวกเขาต้องการที่จะหลุดพ้นตลอดไปชั่วนิรันดร์ แต่ด้วยการมีโยคะนี้เท่านั้นที่ลูกจะสามารถรับพลังที่จะถูกปลดปล่อยจากการถูกลงโทษ อัจชะ

สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: เวลานี้จุดไฟแห่งความรักและทำให้โยคะของลูกเป็นภูเขาไฟ

ลูกๆ มีพลังของความบริสุทธิ์ที่สูงส่งที่จะทำงานเหมือนไฟที่เผาขยะทั้งหมดของโลกในหนึ่งวินาที เมื่อลูกๆดวงวิญญาณสามารถมั่นคงในสภาพของความบริสุทธิ์โดยสมบูรณ์ ขยะทั้งหมดจะถูกเผาด้วยสภาพของความคิดที่สูงส่งในไฟแห่งความรักที่ถูกจุดขึ้นมาของลูก ในความเป็นจริง นี่คือไฟแห่งโยคะ เวลานี้ลูกๆ ต้องใช้พลังที่สูงส่งของลูกนี้