16.02.25 Avyakt Bapdada Thai Murli
02.02.2004 Om Shanti Madhuban
จงอยู่ในความเคารพตนเองในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษและมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
และหล่อเลี้ยงทุกดวงวิญญาณในโลก ให้พรและรับพร
วันนี้
บัพดาดากำลังมองดูลูกที่สูงส่งที่สุดจากทุกหนแห่ง
ลูกทุกคนเป็นบรรพบุรุษและมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
ด้วยเหตุนี้ลูกทุกคนจึงเป็นรากของต้นกัลปะนี้ ลูกเป็นลำต้นด้วย
ลำต้นนั้นเชื่อมโยงกับกิ่งก้านและใบของต้นไม้ทั้งต้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้น
ลูกทุกคนพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งซึ่งเป็นบรรพบุรุษของต้นไม้ทั้งต้นหรือไม่?
เช่นเดียวกับที่บราห์มาถูกเรียกว่าปู่ทวดผู้ยิ่งใหญ่
ลูกทุกคนก็อยู่ร่วมกับท่านในฐานะผู้เป็นนายปู่ทวด
ลูกผู้เป็นดวงวิญญาณบรรพบุรุษมีความเคารพตนเองอย่างมาก
ลูกอยู่ในความซาบซึ้งนั้นหรือไม่? ในบรรดาดวงวิญญาณทั้งหมดของโลก
ไม่ว่าพวกเขาจะนับถือศาสนาใด
ลูกคือบรรพบุรุษที่เป็นภาพลักษณ์แห่งการค้ำจุนในรูปของลำต้นสำหรับดวงวิญญาณทั้งหมด
ดังนั้นเนื่องจากลูกเป็นบรรพบุรุษ ลูกจึงมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาด้วยเช่นกัน
ทุกดวงวิญญาณจะได้รับสะกาช (กระแสแห่งแสงและพลัง)
อย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติโดยผ่านลูกผู้เป็นบรรพบุรุษ ดูภาพต้นไม้สิ:
แม้แต่ใบสุดท้ายของต้นไม้ก็ยังได้รับพลังจากราก
หน้าที่ของลูกผู้เป็นบรรพบุรุษคืออะไร?
หน้าที่ของลูกผู้เป็นบรรพบุรุษคือการหล่อเลี้ยงทุกคน แม้แต่ในโลกภายนอก
ไม่ว่าจะเป็นการหล่อเลี้ยงของพลังงานทางกายภาพด้วยอาหารหรือการศึกษานี้โดยผ่านบรรพบุรุษ
ลูกก็ได้รับการหล่อเลี้ยงเพื่อเติมพลังให้ตนเอง ดังนั้น
ด้วยการหล่อเลี้ยงจากลูกผู้เป็นดวงวิญญาณบรรพบุรุษ
ทุกดวงวิญญาณจึงได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพลังที่ลูกได้รับจากพ่อ
ตามเวลาในปัจจุบัน
ขณะนี้ทุกดวงวิญญาณต้องการการหล่อเลี้ยงของพลัง
ลูกรู้ว่ามีคลื่นแห่งความทุกข์และความไม่สงบในท่ามกลางดวงวิญญาณ ดังนั้น
ลูกผู้เป็นบรรพบุรุษทั้งหลาย,ลูกดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
ลูกรู้สึกเมตตาต่อวงศ์สกุลของลูกหรือไม่? เมื่อมีบรรยากาศของความไม่สงบโดยสิ้นเชิง
กองทัพของทหารและตำรวจจะตื่นตัวเป็นพิเศษ ในทำนองเดียวกัน ในบรรยากาศของวันนี้
ลูกผู้เป็นบรรพบุรุษพิจารณาว่าตนเองเป็นเครื่องมือในการทำงานรับใช้พิเศษหรือไม่?
ลูกมีความตระหนักรู้หรือไม่ว่าลูกเป็นเครื่องมือสำหรับทั้งโลก? ทุกวันนี้
ทุกดวงวิญญาณในโลกต้องการสะกาชจากลูก
ลูกสัมผัสว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ไม่มีขีดจำกัดหรือไม่?
ลูกจดจำงานรับใช้ของโลกหรือไม่ หรือลูกจดจำแค่งานรับใช้ของศูนย์ของลูกเท่านั้น?
ทุกวันนี้ ดวงวิญญาณกำลังร้องเรียกหาลูกผู้เป็นบรรพบุรุษ ลูกดวงวิญญาณเทพ
พวกเขาทั้งหมดกำลังร้องเรียกหาเทพเจ้าที่แตกต่างกันของตนเอง เทพของพวกเขา: "จงมาเถิด!
โปรดอภัยให้เรา มีเมตตาต่อเราด้วย!" ดังนั้น
ลูกได้ยินเสียงของผู้เลื่อมใสศรัทธาหรือไม่? ลูกได้ยินเสียงนี้หรือไม่?
ไม่ว่าดวงวิญญาณจะเป็นของศาสนาใด เมื่อลูกพบพวกเขา
ลูกพบพวกเขาโดยพิจารณาว่าตนเองเป็นบรรพบุรุษของดวงวิญญาณทั้งหมดหรือไม่?
ลูกสัมผัสได้หรือไม่ว่าพวกเขาเป็นกิ่งก้านของลูกผู้ซึ่งเป็นบรรพบุรุษ?
ลูกผู้เป็นบรรพบุรุษเป็นผู้ให้สะกาชแก่พวกเขาเช่นกัน
นำภาพต้นกัลปะของลูกมาไว้ข้างหน้าและมองดูตนเองเพื่อดูตำแหน่งของลูก ลูกอยู่ในราก
ลูกเป็นลำต้นด้วยเช่นกัน พร้อมกันนั้น ให้มองดูตนเองในสถานที่พำนักสูงสุด
สถานที่ของลูกผู้เป็นดวงวิญญาณบรรพบุรุษอยู่กับพ่อ ใกล้ชิดกับท่าน
ลูกรู้เรื่องนี้ใช่ไหม? เมื่อลูกมีความซาบซึ้งและพบกับดวงวิญญาณใดๆ
ดวงวิญญาณของทุกศาสนาจะมองลูกด้วยสายตาที่ว่า: "ท่านเป็นของเรา ท่านเป็นของพวกเรา"
หากลูกพบปะผู้อื่นและมีความซาบซึ้ง มีความตระหนักรู้
มีสายตาและทัศนคติของการเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา
พวกเขาก็จะมีความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งเช่นกัน เนื่องจากลูกเป็นบรรพบุรุษของทุกคน
ลูกจึงเป็นของทุกคน การรับใช้ของลูกด้วยความตระหนักรู้เช่นนี้
ทุกดวงวิญญาณจะสัมผัสได้ว่าพวกเขาได้พบกับบรรพบุรุษและเทพที่ตนรักเป็นพิเศษอีกครั้งหนึ่ง
แล้วในแง่ของการมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา การบูชาของลูกนั้นยิ่งใหญ่มาก
ไม่มีดวงวิญญาณที่ชอบธรรมหรือดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ใดที่ได้รับการบูชาอย่างถูกต้องเช่นเดียวกับลูกผู้เป็นดวงวิญญาณเทพ
พวกเขามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเช่นกัน
แต่พวกเขาไม่ได้รับการกราบไหว้บูชาด้วยระเบียบวินัยในทางที่ถูกต้องเช่นเดียวกับลูก
ดูที่การสรรเสริญของลูกด้วยเช่นกัน
ผู้คนร้องเพลงสรรเสริญเกี่ยวกับการบูชาด้วยความมีระเบียบวินัยเช่นนั้น
และพวกเขาทำพิธีกรรมอารตี (พิธีกรรมที่มีตะเกียงอยู่บนถาด)
เพียงลูกผู้เป็นบรรพบุรุษเท่านั้นที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาในลักษณะนี้ ดังนั้น
ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณเช่นนั้นหรือไม่? ลูกมีความซาบซึ้งเช่นนี้หรือไม่?
ลูกมีความซาบซึ้งหรือไม่? ลูกผู้ที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณบรรพบุรุษ
ผู้ที่มีความซาบซึ้งและมีความตระหนักรู้นี้ ยกมือขึ้น!
ลูกมีความตระหนักรู้นี้หรือไม่? อัจชะ ลูกผู้ที่มีความตระหนักรู้นี้ ยกมือขึ้น!
ดีมาก แล้วตอนนี้คำถามต่อไปคืออะไร? ลูกมีความตระหนักรู้นี้อยู่เสมอหรือไม่?
ลูกมีอย่างสม่ำเสมอหรือไม่?
บัพดาดาต้องการเห็นลูกทุกคนไม่สูญสลาย (คงอยู่ตลอดไปชั่วนิรันดร์) ในทุกๆการบรรลุผล
ไม่ใช่แค่บางครั้ง เพราะเหตุใด? ลูกตอบอย่างชาญฉลาดมาก แล้วลูกพูดว่าอย่างไร?
ลูกมีความตระหนักรู้ในเรื่องนี้ ลูกมีความตระหนักรู้ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
จากนั้นลูกพูดว่า: "บางครั้งมันก็ค่อยๆ ลดลงทีละน้อย" ดูสิ พ่อไม่สูญสลาย
ลูกดวงวิญญาณก็ไม่สูญสลายเช่นกัน การบรรลุผลก็ไม่สูญสลายเช่นกัน
ลูกได้รับความรู้ที่ไม่สูญสลายนี้จากผู้เป็นหนึ่งเดียวที่ไม่สูญสลาย ดังนั้น
ดาร์น่าของลูกควรเป็นเช่นไร? ควรจะไม่สูญสลายหรือเพียงแค่บางครั้งเท่านั้น?
ตามสถานการณ์ของเวลา
ตอนนี้บัพดาดาต้องการเห็นลูกทุกคนไม่ว่างเว้นกับการทำงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด
เพราะเมื่อลูกไม่ว่างเว้นกับการทำงานรับใช้
ลูกก็จะรอดพ้นจากความปั่นป่วนมากมายหลายประเภท เมื่อใดก็ตามที่ลูกรับใช้ จงวางแผน
หรือนำแผนเหล่านั้นไปใช้ในรูปปฏิบัติ ลูกก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน อย่างไรก็ตาม
เวลานี้บัพดาดาต้องการให้การรับใช้ทั้งสามประเภทเกิดขึ้นพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
ไม่ใช่แค่การรับใช้ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ให้มีการรับใช้ด้วยจิตใจ,การรับใช้ด้วยคำพูดและการรับใช้ด้วยการกระทำ
กล่าวคือ
ให้มีการรับใช้เกิดขึ้นกับผู้ที่เข้ามามีความสัมพันธ์หรือมีการติดต่อกับลูก
ให้มีแรงจูงใจของการทำงานรับใช้ ให้มีความรู้สึกของการรับใช้ ในเวลานี้
เปอร์เซ็นต์ของการรับใช้ด้วยคำพูดมีมากกว่า การรับใช้ด้วยจิตใจเกิดขึ้นจริง
แต่เปอร์เซ็นต์ของการรับใช้ด้วยคำพูดมีมากกว่า
ด้วยการที่ลูกทำงานรับใช้ทั้งสามทางในเวลาเดียวกัน
จะทำให้ประสบความสำเร็จในการรับใช้มากยิ่งขึ้น
บัพดาดาได้ยินข่าวว่าในกลุ่มนี้มีดวงวิญญาณจากหลายสาขาอาชีพได้มาและกำลังวางแผนการทำงานรับใช้ที่ดี
ลูกทำได้ดี แต่ด้วยการทำงานรับใช้ทั้งสามประเภทไปพร้อมๆกัน
งานรับใช้ก็จะรวดเร็วและจะเติบโตขึ้น
ลูกๆมาถึงแล้วจากทุกหนแห่งและบัพดาดาก็พอใจที่ได้เห็นสิ่งนี้
ลูกใหม่ๆมาถึงที่นี่ด้วยความจริงจังและกระตือรือร้น
เวลานี้
บัพดาดาต้องการเห็นลูกทุกคนในรูปที่เป็นอิสระจากอุปสรรคของพวกเขาอยู่เสมอ
เพราะเหตุใด? เมื่อลูกซึ่งเป็นเครื่องมืออยู่อย่างมั่นคงในการเป็นอิสระจากอุปสรรค
ลูกก็จะสามารถทำให้ดวงวิญญาณทั้งหมดในโลกเป็นอิสระจากอุปสรรคและปัญหาทั้งหมดได้
สำหรับสิ่งนี้ ให้ขีดเส้นใต้เน้นย้ำสองสิ่งนี้เป็นพิเศษ ลูกทำสิ่งนี้อยู่
แต่เน้นย้ำให้มากขึ้น ประการแรก
ให้มองดูทุกดวงวิญญาณด้วยสายตาของการมีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
มองดูดวงวิญญาณในรูปซันสการ์ดั้งเดิมของพวกเขา ไม่ว่าดวงวิญญาณจะมีซันสการ์ประเภทใด
ความปรารถนาดี ความรู้สึกที่บริสุทธิ์
และความรู้สึกที่สูงส่งของลูกสำหรับการเปลี่ยนแปลงต่อทุกดวงวิญญาณสามารถเปลี่ยนแปลงซันสการ์ของดวงวิญญาณนั้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ให้ความรู้สึกที่มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณปรากฏออกมา ลูกเห็นในตอนเริ่มต้นว่า
แม้กระทั่งการอยู่ในที่ชุมนุม พวกเขาก็มีสายตาที่มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
มีทัศนคติที่มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
และมีการตระหนักรู้ว่าดวงวิญญาณกำลังพบกับอีกดวงวิญญาณหนึ่ง
ดวงวิญญาณกำลังพูดคุยกับอีกดวงวิญญาณหนึ่ง รากฐานของพวกเขาแข็งแกร่งมากด้วยสายตานี้
เวลานี้ด้วยการขยายตัวของงานรับใช้
และเพราะการเชื่อมโยงของลูกกับทุกสิ่งในแง่ของการเติบโตของงานรับใช้ การปฏิสัมพันธ์
การพูด และการเข้ามาติดต่อกับผู้อื่น
ความรู้สึกที่มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณจึงหลอมรวมเข้าด้วยกันเล็กน้อย
สิ่งเหล่านี้ยังไม่เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ แต่สิ่งเหล่านี้ก็หลอมรวมกันแล้ว
ความเคารพตนเองของจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณทำให้ดวงวิญญาณบรรลุความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
ลูกทุกคนที่มารวมตัวกันที่นี่คือใคร? ลูกคือดวงวิญญาณเทพเดียวกันในวงจรก่อนหน้านี้
ดวงวิญญาณบราห์มินเดียวกันที่มารวมตัวกันที่นี่ ในรูปของดวงวิญญาณบราห์มิน,ลูกทุกคนเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่ง
ในแง่ของการเป็นดวงวิญญาณเทพเช่นกัน ลูกคือดวงวิญญาณที่สูงส่ง
สร้างความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับผู้อื่นในขณะที่มีรูปนี้ ตรวจสอบในทุกขณะว่า:
หน้าที่ที่สูงส่งและงานรับใช้ที่สูงส่งของตัวฉันดวงวิญญาณเทพนี้ดวงวิญญาณบราห์มินนี้คืออะไร?
คือการให้พรและรับพร รูปเคารพที่ไม่มีชีวิตของลูกทำงานรับใช้อะไร?
ไม่ว่าดวงวิญญาณเหล่านั้นจะเป็นเช่นไรก็ตาม พวกเขาไปรับพร พวกเขากลับมาพร้อมกับพร
หากใครคิดว่าความพยายามนั้นเป็นงานหนัก
ดังนั้นความพยายามที่ง่ายที่สุดคือการให้พรและรับพรจากทุกคนตลอดทั้งวันด้วยดริชตี
ทัศนคติ คำพูด และความรู้สึกของลูก สมญาและพรของลูกคือ: ผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่
ในขณะที่รับใช้และสร้างสัมพันธ์และมีสายสัมพันธ์กับผู้อื่น เพียงแค่ทำงานนี้:
ให้พรและรับพร สิ่งนี้ยากไหม? หรือว่าง่ายไหม? ผู้ที่คิดว่ามันง่าย ยกมือขึ้น!
อย่างไรก็ตามจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนสร้างการต่อต้านขึ้น?
ลูกจะยังคงให้พรพวกเขาอยู่หรือไม่? ลูกจะให้พรไหม?
ลูกมีสต๊อคของพรมากมายขนาดนั้นไหม? แน่นอนว่าจะต้องมีการต่อต้าน
เพราะการต่อต้านนั้นสามารถทำให้ลูกไปถึงตำแหน่งของลูกได้ ดูสิ
พ่อบราห์มาเป็นผู้ที่เผชิญกับการต่อต้านสูงสุด ท่านถูกต่อต้านใช่ไหม? อย่างไรก็ตาม
ใครประกาศสิทธิ์ในตำแหน่งอันดับหนึ่ง บราห์มาเป็นผู้ประกาศสิทธิ์ใช่ไหม?
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันต้องให้พรในทำนองเดียวกันกับที่พ่อบราห์มาได้ให้
ไม่มีใครพูดไร้สาระหรือทำสิ่งที่ไร้สาระต่อหน้าบราห์มาบาบาเลยหรือ? อย่างไรก็ตาม
พ่อบราห์มาได้ให้พรแก่พวกเขาและได้รับพร
ท่านได้เก็บพลังในการยอมรับปรับตัวไว้กับตัวท่าน “เขาเป็นแค่เด็ก
วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนแปลง” ในทำนองเดียวกัน
ลูกเองก็ต้องมีทัศนคติและสายตานี้เช่นกัน “ผู้นี้มาจากวงจรก่อนหน้านี้
จากครอบครัวของเรา จากครอบครัวบราห์มินของเรา
ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตนเองแล้วจึงเปลี่ยนแปลงผู้อื่น” ไม่ใช่ “ฉันจะเปลี่ยนแปลงเมื่อคนนั้นเปลี่ยนแปลง”
แต่เป็น “ฉันต้องเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนแปลงผู้อื่น นี่คือความรับผิดชอบของฉัน”
แล้วเมื่อนั้นพรจึงจะปรากฏออกมาและลูกจะได้รับพร
ขณะนี้
เวลากำลังเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วไปสู่การเปลี่ยนแปลง มันกำลังจะเข้าสู่จุดสุดขีด
แต่ก่อนที่เวลาจะเปลี่ยนแปลง
ลูกดวงวิญญาณผู้เปลี่ยนแปลงโลกจะต้องกลายเป็นภาพลักษณ์ของการค้ำจุนสำหรับการเปลี่ยนแปลงของผู้อื่นโดยผ่านการเปลี่ยนแปลงตัวลูกเอง
ลูกเช่นกันก็เป็นภาพลักษณ์ของการค้ำจุนโลก ภาพลักษณ์ของการยกระดับ
ลูกดวงวิญญาณแต่ละคนจะต้องมีเป้าหมายนี้: ฉันต้องกลายเป็นเครื่องมือ
อย่าให้มีร่องรอยแม้แต่น้อยแม้กระทั่งในความคิดของสามสิ่งนี้
จงเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ 1. พาร์ชินตัน (การคิดถึงผู้อื่น) 2. พาร์ดาร์ชัน (การมองดูผู้อื่น)
อย่าได้มีพาร์ดาร์ชัน แทนที่จงมีสวาดาร์ชัน(การมองดูตนเอง) 3. พาร์มัต (การกำหนดของผู้อื่น)
หรือพาร์ซัง (การคบหาสมาคมกับผู้อื่น) มิตรที่ไม่ดี จงคบหากับมิตรที่สูงส่งไว้
เพราะมิตรที่ไม่ดีก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย บัพดาดาเคยบอกลูกก่อนหน้านี้:
จงเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามหนึ่งพาร์ (พาร์อุปการี-ผู้ที่ยกระดับผู้อื่น) และตัด "พาร์"
ทั้งสามที่เหลือออกไป พาร์ดาชัน พาร์ชินตัน และพาร์มัต นั่นคือมืตรที่ไม่ดี จงเป็น
"พาร์อุปการี" (ผู้ที่ยกระดับผู้อื่น)
และแล้วเมื่อนั้นเท่านั้นที่ลูกจะได้รับพรและสามารถให้พรได้
ไม่ว่าคนอื่นจะให้สิ่งใดแก่ลูก ลูกก็เพียงแค่ให้พรเท่านั้น
ลูกมีความกล้าหาญมากถึงขนาดนี้หรือไม่? ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้หรือไม่? ดังนั้น
บัพดาดาจึงกล่าวกับลูกทุกคนในทุกศูนย์ว่า หากลูกทุกคนรักษาความกล้าหาญไว้
ไม่ว่าคนอื่นจะให้สิ่งใดแก่ลูก ลูกก็ต้องให้พรแก่พวกเขา แล้วในปีนี้
บัพดาดาจะให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษสำหรับความกล้าหาญและความกระตือรือร้นที่ลูกมี
ท่านจะให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม เพียงเมื่อลูกให้พรเท่านั้น
อย่าปะปนสิ่งนี้ บัพดาดาได้รับบันทึกทั้งหมด แม้กระทั่งในความคิดของลูก
อย่าให้มีสิ่งใดเลยนอกจากพรเท่านั้น ลูกมีความกล้าหาญนี้หรือไม่? ถ้าลูกมี
ก็ให้ยกมือขึ้น! จากนั้นลูกจะต้องทำสิ่งนี้ อย่าแค่ยกมือขึ้นเพียงอย่างเดียว
ลูกต้องทำสิ่งนี้ด้วย ลูกจะทำหรือไม่? ผู้ที่มาจากมธุบันจะทำสิ่งนี้หรือไม่?
ครูจะทำสิ่งนี้ไหม? อัจชะ ลูกจะสะสมคะแนนเพิ่มไหม? ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะเหตุใด?
แอ๊ดวานซ์ปาร์ตี้มาหาบัพดาดาซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาพูดว่า "พวกเราได้รับบทบาทในแอ๊ดวานซ์ปาร์ตี้และเรากำลังเล่นบทบาทเหล่านั้น
แต่ทำไมบรรดามิตรสหายของเราไม่สร้างสภาพที่แอ๊ดวานซ์(สภาพที่สูงที่ก้าวหน้า)ของพวกเขา"
บาบาควรตอบพวกเขาอย่างไร? ท่านควรให้คำตอบพวกเขาอย่างไร?
เมื่อทั้งสภาพที่แอ๊ดวานซ์และบทบาทของแอ๊ดวานซ์ปาร์ตี้มารวมกันแล้ว
ความสมบูรณ์ก็จะเกิดขึ้น พวกเขาถาม แล้วควรจะให้คำตอบอย่างไร?
สภาพนี้จะถูกสร้างขึ้นภายในกี่ปี? ลูกเฉลิมฉลองทุกสิ่ง: ซิลเวอร์จูบิลี
โกลเด้นท์จูบิลี ไดอะม่อนจูบิลี ลูกเฉลิมฉลองทุกสิ่ง
ตอนนี้เฉลิมฉลองพิธีของสภาพที่แอ๊ดวานซ์ กำหนดวันที่สำหรับสิ่งนี้ พันดาวาส พูดสิ!
จะกำหนดวันที่สำหรับสิ่งนี้หรือไม่? ผู้ที่นั่งแถวหน้า พูดสิ!
จะกำหนดวันที่สำหรับสิ่งนี้หรือจะเกิดขึ้นทันทีทันใด? จะเกิดอะไรขึ้น?
มันจะเกิดขึ้นทันทีทันใดหรือจะเกิดขึ้นในเวลาสุดท้าย? พูดสิ! พูดอะไรบางอย่าง!
ลูกกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่หรือไม่? บาบากำลังถามบราเธอร์นีแวร์ว่า
จะมีพิธีอะไรไหมหรือว่ามันจะเกิดขึ้นทันทีทันใด? ลูกกำลังถามดาดี้จีอยู่หรือ?
เขากำลังมองดูดาดี้จีอยู่ ดังนั้นจงพูดอะไรสักอย่าง ลูกพูดอะไรบางอย่าง
บาบากำลังขอให้บราเธอร์ราเมชพูดบางสิ่งบางอย่าง (มันต้องเกิดขึ้นในที่สุด) ในที่สุด
แต่เมื่อไหร่? (บาบา ท่านให้วันที่แก่เรา และเราจะดำเนินการภายในวันนั้น) อัจชะ
บัพดาดาได้ให้วันที่แก่ลูกเพิ่มอีกหนึ่งปี ด้วยความกล้าหาญของลูก
ลูกจะได้รับความช่วยเหลือพิเศษ ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้ใช่ไหม? ทำสิ่งนี้ในทางปฏิบัติ
จากนั้นพ่อจะกำหนดวันที่ (เราต้องมีแนวทางของท่าน แล้วเราจะเฉลิมฉลองปี 2004
เป็นปีสำหรับสิ่งนี้) นั่นหมายความว่า ลูกยังไม่ได้เตรียมการมากมายนัก ดังนั้น
แอ๊ดวานซ์ปาร์ตี้จะต้องรออีกหนึ่งปีใช่หรือไม่? อัจชะ
หากลูกยังคงตั้งเป้าหมายนี้ไว้ตั้งแต่ตอนนี้ – ว่าฉันต้องทำสิ่งนี้ –
และแล้วสิ่งนั้นก็จะเพิ่มขึ้นมาก เพราะมีบัญชีของ “ช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน”
ถ้าลูกทำสิ่งนี้ในตอนท้ายแล้ว บัญชีของ “ช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน” ก็จะไม่ถูกต้อง
ดังนั้น ขอให้ใส่ใจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ลูกจำการฝึกทางจิตวิญญาณได้ไหม?
ลูกสามารถเข้าสู่สภาพของการเป็นบรรพบุรุษในหนึ่งวินาที ของการกลายเป็นประภาคาร
เป็นผู้พำนักอาศัยในสถานที่สูงสุดกับพ่อ และให้แสงสว่างแก่โลกได้หรือไม่? ดังนั้น
ในหนึ่งวินาที ทุกคนที่กำลังฟังและเห็นทุกสิ่งในทุกหนแห่ง
ทั้งในดินแดนนี้และในต่างแดน จงกลายเป็นประภาคารแห่งแสง และให้แสงสว่าง สะกาช
และพลังแก่ทุกดวงวิญญาณในทุกหนแห่งในโลก อัจชะ
ถึงลูกผู้เป็นบรรพบุรุษและดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาทุกหนแห่งในโลก
ถึงดวงวิญญาณผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่เป็นผู้ให้พรแก่ทุกคนอยู่เสมอ
ถึงดวงวิญญาณผู้เปลี่ยนแปลงโลกซึ่งด้วยการเปลี่ยนแปลงของตนเองด้วยความมุ่งมั่นของตนเองจึงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของทุกคน
ถึงดวงวิญญาณที่ใกล้ชิดซึ่งกลายเป็นประภาคารแห่งแสง และให้แสงสว่างแก่ทุกดวงวิญญาณ
รัก ระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดาที่เต็มไปด้วยพรจากหัวใจ
ถึงดาดี้จีและดาดี้จางกีจี:
นี่เป็นสิ่งที่ดี
ดาดี้ทั้งสองให้การหล่อเลี้ยงที่ดีมาก การหล่อเลี้ยงที่ดีมากกำลังเกิดขึ้น ดีมาก
ลูกเป็นเครื่องมือสำหรับการทำงานรับใช้
ดังนั้นลูกทุกคนก็มีความสุขที่ได้เห็นดาดี้ใช่ไหม? แล้วลูกก็มีความสุขใช่ไหม?
ลูกยังได้รับความสุขจากการมีความรับผิดชอบด้วย ลูกได้รับพรมากมายจากทุกคน
ทุกคนมีความสุข (ดาดี้ทั้งสองก็โอบกอดบัพดาดา)
เช่นเดียวกับที่พวกเขามีความสุขเมื่อได้เห็นสิ่งนี้ ในทำนองเดียวกัน
จะมีความสุขมากมายเมื่อลูกกลายเป็นเหมือนดาดี้ทั้งสอง
บัพดาดาได้ทำให้พวกเขาเป็นเครื่องมือ และดังนั้นพวกเขาต้องมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง
เพราะนี่คือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาถูกสร้างขึ้นมาเป็นเครื่องมือ
อย่างไรก็ตามจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณสมบัติพิเศษเหล่านั้นเข้ามาในลูกแต่ละคน?
อาณาจักรของลูกก็จะมาถึง วันที่ที่บัพดาดาพูดถึงก็จะมาถึง
ลูกจำได้ว่าตอนนี้ลูกต้องกำหนดวันที่ใช่ไหม? ลูกแต่ละคนต้องเข้าใจว่า "ฉันต้องกำหนดมัน"
หากทุกคนกลายเป็นเครื่องมือแล้ว การเริ่มต้นใหม่ของโลกก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
การมีความตระหนักรู้ถึงการเป็นเครื่องมือคือการกลายเป็นเหมืองแห่งคุณธรรม
ให้มีความตระหนักรู้ถึงการเป็นเครื่องมืออยู่ทุกขณะ
และคุณธรรมอื่นๆทั้งหลายก็จะมาอย่างง่ายดาย เพราะไม่มีจิตสำนึกของ "ฉัน"
ในสำนึกรู้ของการเป็นเครื่องมือ จิตสำนึกของ "ฉัน" นี้เองที่นำมาซึ่งความปั่นป่วน
โดยการเป็นเครื่องมือ จิตสำนึกของ "ของฉัน" ก็จบสิ้นลงเช่นกัน และกลายเป็น "ของท่าน!
ของท่าน!" ลูกกลายเป็นโยคีที่ง่ายดาย ดังนั้น ลูกทุกคนจึงมีความรักต่อเหล่าเทพ
ลูกมีความรักต่อบัพดาดา
และดังนั้นการตอบแทนของความรักคือการมีความเท่าเทียมกันในคุณสมบัติพิเศษของลูก
ดังนั้น จงรักษาเป้าหมายนี้ไว้ ลูกต้องทำให้คุณสมบัติพิเศษเท่าเทียมกัน
เมื่อใดก็ตามที่ลูกเห็นคุณสมบัติพิเศษในใครคนใดคนหนึ่ง
ลูกสามารถทำตามพวกเขาในคุณสมบัติพิเศษเหล่านั้นได้ ในการทำตามดวงวิญญาณ
ทั้งสองอย่างจะปรากฏให้เห็น
มองเห็นคุณสมบัติพิเศษแล้วกลับมาเท่าเทียมกันในคุณสมบัติพิเศษนั้น อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกได้รับการประดับด้วยติลักแห่งชัยชนะโดยการสร้างโชคอันดับหนึ่งของลูกด้วยสายศรัทธาที่ไม่ขาดตอนของลูก
ลูกที่สติปัญญามีศรัทธาจะไม่มีวันไปสู่การขยายตัวของคำว่า "อย่างไร" (เกเซ?) หรือ "อย่างนี้"
(เอเซ)
เส้นที่ไม่ขาดตอนของศรัทธาของพวกเขานั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยดวงวิญญาณทั้งหมด
เส้นของศรัทธาของพวกเขานั้นไม่เคยขาดตอนตรงกลาง
ลูกจะเห็นติลักแห่งชัยชนะบนหน้าผากของผู้ที่มีเส้นเช่นนั้นอยู่เสมอ นั่นคือ
มันจะอยู่ในสำนึกรู้ของพวกเขา ทันทีที่พวกเขาเกิดมา
พวกเขาจะต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบในการทำงานรับใช้
พวกเขาจะเป็นผู้ที่เล่นกับเพชรพลอยแห่งความรู้อยู่เสมอ
พวกเขาจะเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตไปกับการแกว่งไกวในชิงช้าแห่งความทรงจำระลึกถึงและความสุขอยู่เสมอ
เส้นเหล่านี้คือโชคอันดับหนึ่ง
คติพจน์:
การมีเครื่องหมายวรรคตอนของจุดฟูลสต๊อปในคอมพิวเตอร์ของสติปัญญาของลูกหมายถึงการคงอยู่อย่างมีความสุข
มีความรักในความสันโดษและซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ
ผู้ที่โยคะของสติปัญญาแยกออกมาจากทิศทางต่างๆมากมายและมีความรักต่อผู้เป็นหนึ่งเดียวจะมีความรักต่อความสันโดษ
เพราะมีความรักต่อหนึ่งเดียว ลูกจะจดจำเพียงหนึ่งเดียว
เมื่อลูกมีความรักต่อผู้คนมากมาย ลูกไม่สามารถจดจำผู้เป็นหนึ่งเดียวได้
โยคะของปัญญาจะต้องแยกออกจากคนอื่นๆ มากมายเหล่านั้นและเชื่อมโยงกับหนึ่งเดียว
นั่นคือ ลูกต้องเป็นของหนึ่งเดียวและไม่มีใครอื่น
ผู้ที่มีสภาพเช่นนี้จะมีความรักต่อความสันโดษ
หมายเหตุ:
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 3 ของชั่วโมงการทำสมาธิโลก จากเวลา 18.30 – 19.30 น.
ซึ่งบราเธอร์และซิสเตอร์ทุกคนจะนั่งโยคะร่วมกันและฝึกฝนด้วยความคิดที่บริสุทธิ์เดียว:
ลำแสงแห่งความบริสุทธิ์กำลังปรากฏออกมาจากตัวฉัน ดวงวิญญาณนี้
และกำลังชำระล้างทั้งโลกให้บริสุทธิ์
ฉันคือดวงวิญญาณผู้ชำระล้างให้บริสุทธิ์ผู้เป็นนาย