18.12.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
ลูกได้รับอำนาจด้วยการเชื่อมสติปัญญาของลูกในโยคะกับพ่อผู้ทรงพลังอำนาจ
ด้วยการจดจำระลึกถึงเท่านั้นที่ลูกๆ
ดวงวิญญาณสามารถชาร์ตแบตเตอรี่ของลูกและกลับมาบริสุทธิ์และสโตประธาน
คำถาม:
ความเพียรพยายามใดที่ลูกๆทำในยุคบรรจบพบกันที่ให้ผลรางวัลของสถานภาพเทพแก่ลูก?
คำตอบ:
ในยุคบรรจบพบกัน ลูกทำความเพียรพยายามที่จะกลับมาเยือกเย็น(สงบเย็น)
ด้วยการกลับมาเยือกเย็น, ด้วยการกลับมาบริสุทธิ์ที่ลูกกลายเป็นเทพ
ลูกไม่สามารถกลายเป็นเทพได้ตราบจนกระทั่งลูกนั้นได้กลับมาเยือกเย็น
ในยุคบรรจบพบกันลูกกลายเป็นเทวีแห่งความเยือกเย็น(ชีตลาเทวี)
และประพรมหยดน้ำเย็นของความรู้ให้แก่ทุกคนและทำให้ทุกคนเยือกเย็น
ก่อนอื่นลูกต้องทำให้ตนเองนั้นเยือกเย็นและแล้วจึงดับไฟของทุกคนอื่น
และทำให้พวกเขาเยือกเย็น
โอมชานติ
ก่อนอื่นใด ลูกๆ เพียงแต่ต้องเข้าใจหนึ่งสิ่ง:
เราทั้งหมดคือพี่น้องกันและชีพบาบาคือพ่อของเราทุกคน
ท่านนั้นเรียกว่าเป็นผู้ทรงพลังอำนาจ เมื่อลูกปกครองเหนือทั้งโลกลูกก็มีพลังทั้งหมด
อาณาจักรของเหล่าเทพเคยคงอยู่ในบารัต ลูกเคยเป็นเทพที่บริสุทธิ์ สกุลทั้งหมดของลูก
นั่นคือทั้งราชวงศ์ของลูกนั้นปราศจากกิเลส ใครที่เคยปราศจากกิเลส? ลูกๆ ดวงวิญญาณ
เวลานี้ลูกกำลังจะกลับมาปราศจากกิเลสอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยการมีการจดจำระลึกถึงผู้ทรงพลังอำนาจ, ลูกกำลังได้รับอำนาจจากท่าน
พ่อได้อธิบายแล้วว่าเป็นลูกๆดวงวิญญาณที่ได้เล่นบทบาทของ 84 ชาติเกิด ลูกๆ
ดวงวิญญาณเคยมีพลังที่สโตประธานที่ค่อยๆ ลดลงไปทีละน้อยๆในแต่ละวันที่ผ่านไป
จากการเป็นผู้ที่สโตประธาน ลูกต้องกลายเป็นผู้ที่ตโมประธาน
เมื่อพละกำลังของแบตเตอรี่นั้นได้หมดลง
เครื่องยนต์นั้นก็หยุดนิ่งเนื่องจากแบตเตอรี่นั้นหมดกำลัง
แบตเตอรี่ของดวงวิญญาณไม่ได้หมดกำลังลงไปอย่างสมบูรณ์ ยังมีพลังหลงเหลืออยู่บ้าง
เมื่อใครบางคนตายก็มีการจุดตะเกียงและเฝ้าแต่เติมน้ำมันลงไปในตะเกียงเพื่อที่ให้แสงนั้นจะไม่ดับไป
เวลานี้ลูกๆ เข้าใจว่าลูกๆ
ดวงวิญญาณเคยมีพละกำลังที่สมบูรณ์และลูกไม่ได้มีสิ่งนั้นอีกต่อไป
ในขณะนี้ลูกต้องเฝ้าแต่ให้สติปัญญาของลูกอยู่ในโยคะกับพ่อผู้ทรงพลังอำนาจและเติมตนเองด้วยพลัง
เพราะลูกมีพลังหลงเหลืออยู่น้อยมาก ถ้าพลังของลูกหมดลงอย่างสมบูรณ์
ร่างของลูกจะไม่หลงเหลืออยู่ ด้วยการจดจำพ่อ,ลูกๆ
ดวงวิญญาณก็จะกลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ ในยุคทอง
แบตเตอรี่ของลูกนั้นได้รับการชาร์ตอย่างเต็มที่ และแล้วองศาของลูก
นั่นคือพลังของแบตเตอรี่ก็หมดกำลังลงไปทีละน้อย ก่อนถึงเวลาที่ลูกๆ
ดวงวิญญาณจะไปถึงตอนสิ้นสุดของยุคเหล็ก ลูกมีพลังเหลืออยู่เพียงน้อยนิด
ราวกับว่าลูกล้มละลายไปและปราศจากพละกำลัง ด้วยการจดจำพ่อ,ลูกๆ
ดวงวิญญาณก็จะกลับมาเต็มไปด้วยพละกำลัง ดังนั้นพ่ออธิบาย:
ลูกต้องจดจำผู้เดียวเท่านั้น พระเจ้าคือผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด;
ทุกคนอื่นคือส่วนหนึ่งของสิ่งสร้าง
สิ่งสร้างเพียงสามารถได้รับมรดกที่มีขีดจำกัดเท่านั้นจากสิ่งสร้าง
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเป็นเพียงผู้สร้างเดียวเท่านั้น พ่ออื่นๆ ทั้งหมดนั้นมีขีดจำกัด
ด้วยการจดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกก็ได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นลูกๆ
ควรจะรู้ในหัวใจของลูกว่าบาบากำลังก่อตั้งสวรรค์,โลกใหม่สำหรับเรา
สวรรค์กำลังได้รับการก่อตั้งขึ้นตามแผนของละคร เป็นลูกๆ ผู้ที่จะไปและปกครองที่นั่น
พ่อนั้นบริสุทธิ์เสมอ พ่อไม่ได้ถือกำเนิดผ่านครรภ์
พ่อไม่ได้ถือกำเนิดเหมือนกับเหล่าเทพ ในการที่จะให้อาณาจักรแห่งสวรรค์แก่ลูกๆ
พ่อเข้ามาในร่างของผู้นี้ เมื่อเขาไปถึงอายุ 60 อายุของการปลดเกษียณ
และแล้วจากการเป็นดวงวิญญาณตโมประธานคนแรก เขาก็ได้กลายเป็นผู้ที่สโตประธานคนแรก
พระเจ้านั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด และแล้วก็มีบราห์มา วิษณุและชางก้า
ผู้ที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน บราห์มา วิษณุและชางก้านี้มาจากที่ใด?
สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงนิมิตที่ลูกได้รับ อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนนั้นอยู่ระหว่างกลาง
ไม่มีผู้ที่มีร่างกายใดๆที่นั่น
ร่างที่ละเอียดอ่อนเหล่านั้นสามารถมองเห็นได้ด้วยเทพนิมิตเท่านั้น
บราห์มาคือผู้ที่แต่งกายในชุดขาว
ในขณะที่วิษณุนั้นได้รับการประดับประดาด้วยเพชรพลอย
พวกเขาได้แสดงชางก้าพร้อมกับงูรอบคอของเขา, แต่ชางก้าจะไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้
ที่อมานาถ พวกเขาก็ได้แสดงชางก้ากำลังบอกเรื่องราวของความเป็นอมตะแก่ปารวตี
ไม่มีโลกมนุษย์ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
ดังนั้นเขาจะถ่ายทอดเรื่องราวที่นั่นได้อย่างไร?
อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนนั้นเป็นเพียงเพื่อนิมิต
ลูกเห็นนิมิตของเพียงผู้ที่ได้กลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
พวกเขาคือผู้ที่ต่อมาได้กลายเป็นนายแห่งสวรรค์
ดังนั้นสิ่งนี้ควรเข้าไปในสติปัญญาของลูก
ลูกควรคิดว่าพวกเขาได้ประกาศสิทธิ์ในโชคของอาณาจักรของพวกเขาได้อย่างไร
ไม่มีการรบราใดๆ ฯลฯ ที่นั่น เหล่าเทพนั้นจะเป็นผู้ที่ก้าวร้าวรุนแรงได้อย่างไร?
ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม,
ในเวลานี้ลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรด้วยการจดจำพ่อ
ได้มีการอ้างอิงไว้ในกีตะว่า
ลืมร่างของลูกและศาสนาทางร่างทั้งหมดของลูกและจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
พ่อไม่มีร่างกายที่ท่านจะสามารถมีความผูกพันยึดมั่นได้ พ่อพูดว่า
พ่อเพียงแต่ยืมร่างนี้มาใช้เป็นเวลาอันสั้นเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นแล้วพ่อจะไห้ความรู้นี้แก่ลูกได้อย่างไร?
พ่อคือเมล็ดที่มีความรู้สึกของต้นไม้นี้ เพียงพ่อเท่านั้นที่มีความรู้ของต้นไม้นี้
ผู้คนไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับระยะเวลาของโลกนี้หรือได้มีการสร้าง การบำรุงรักษา
และการทำลายโลกอย่างไร การศึกษาของพวกเขามีขีดจำกัด
พ่อสอนการศึกษาที่ไม่มีขีดจำกัดนี้แก่ลูกและทำให้ลูกๆกลายเป็นนายของโลก
ไม่มีผู้ที่มีร่างกายใดสามารถเรียกได้ว่าเป็นพระเจ้า พวกเขา(บราห์มา วิษณุและชางก้า)มีร่างที่ละเอียดอ่อนของเขาเองและพวกเขาเองก็ไม่สามารถเรียกว่าเป็นพระเจ้า
ร่างนี้คือบัลลังก์สำหรับดวงวิญญาณของดาด้า ในเวลานี้บัลลังก์นี้เป็นบัลลังก์อมตะ,
บัลลังก์ของพ่อ, สัญลักษณ์อมตะ
มีบัลลังก์ที่อมฤตสาร์ที่ซึ่งเรียกว่าเป็นบัลลังก์อมตะ
บุคคลสำคัญนั้นก็ได้รับการเชื้อเชิญให้นั่งบนบัลลังก์อมตะนั้น พ่ออธิบายว่า
นี่คือบัลลังก์อมตะของดวงวิญญาณทั้งหมด
สันสการ์ที่ดีและไม่ดีนั้นอยู่ภายในดวงวิญญาณ และเหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่า
นี่คือผลของการกระทำของลูก พ่อของทุกๆ ดวงวิญญาณคือผู้เดียว
บาบานั้นไม่ได้กำลังอธิบายให้แก่ลูกจากคัมภีร์
ไม่มีสิ่งใดเหล่านี้อ้างอิงไว้ในคัมภีร์
เหตุนี้เองผู้คนจึงขุ่นเคืองและถามเราว่าเหตุใดเราจึงไม่เชื่อในคัมภีร์ เมื่อผู้รู้
ผู้เคร่งศาสนาและซันยาสซีไปอาบในแม่น้ำคงคา พวกเขานั้นได้กลับมาบริสุทธิ์ไหม?
ยังไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้
ทุกคนนั้นจะกลับบ้านในเวลาสุดท้ายเหมือนกับฝูงแมลงหรือฝูงผึ้ง
มีราชินีผึ้งและผึ้งอื่นๆ ทั้งหมดก็ติดตามเธอ
เช่นเดียวกันเมื่อพ่อกลับบ้านดวงวิญญาณทั้งหมดก็จะติดตามท่าน
จะเป็นราวกับว่ามีฝูงของดวงวิญญาณในโลกที่ไม่มีตัวตน
ในขณะที่นี่เต็มไปด้วยมนุษย์ฝูงชนนี้ที่นี่ก็จะต้องวิ่งกลับบ้านในวันหนึ่งด้วยเช่นกัน
พ่อจะมาและพาลูกๆ ดวงวิญญาณทั้งหมดกลับไปกับท่าน
มีคำยกย่องของขบวนพิธีแต่งงานของชีวา ไม่ว่าลูกนั้นเป็นบุตรชายหรือบุตรสาว,
พ่อมาและสอนลูกๆ ทั้งหมดถึงการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง
ดวงวิญญาณไม่สามารถกลับบ้านโดยที่ไม่ได้กลับมาบริสุทธิ์ก่อนได้
หลังจากที่ลูกได้กลับมาบริสุทธิ์ ก่อนอื่นลูกก็จะไปสู่อาณาเขตแห่งความเงียบสงบ
และแล้วก็ลงมาตามลำดับกันไป ประชากรโลกก็จะเฝ้าแต่ขยายตัว
อาณาจักรนั้นต้องมีการสร้างขึ้น ดังนั้น ไม่ใช่ทุกคนจะลงมาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
ต้นไม้จะเฝ้าแต่ขยายตัวทีละน้อย
ก่อนอื่นใดพ่อก็ได้ก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
คนแรกที่กลายเป็นบราห์มินคือผู้ที่กำลังจะกลายเป็นเทพ มีประชาบิดาบราห์มา(พ่อของปวงประชา)
และดังนั้นก็จะมีพี่น้องหญิงชายในบรรดาปวงประชาด้วยเช่นกัน
ผู้คนมากมายกลายเป็นบราห์มา กุมารและกุมารีที่นี่
อย่างแน่นอนที่ต้องเป็นเพราะพวกเขามีศรัทธาในสติปัญญาที่พวกเขาสามารถได้รับคะแนนอย่างมากมาย
ลูกๆ ผู้ที่มั่นคงนั้นก็จะไปที่นั่นก่อนและผู้ที่อ่อนแอก็จะไปภายหลัง
ก่อนอื่นดวงวิญญาณทั้งหมดจะอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตน
และแล้วเมื่อพวกเขาลงมาประชากรก็ขยายตัวขึ้น
ดวงวิญญาณนั้นจะสามารถเล่นบทบาทของเขาโดยที่ไม่มีร่างกายได้อย่างไร?
นี่คือโลกของนักแสดงและสิ่งนั้นก็เฝ้าแต่หมุนไปผ่านทั้ง 4 ยุค
ในยุคทองเราเคยเป็นเทพ และแล้วเราก็ได้กลายเป็นนักรบ พ่อค้า และแล้วก็เป็นศูทร
ในเวลานี้คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ยุคนี้คงอยู่ในเวลานี้เท่านั้นเมื่อพ่อมา
เพียงพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเท่านั้นที่ให้ความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
ชีพบาบาไม่ได้มีร่างกายของท่านเองที่จะสามารถได้รับชื่อ
ร่างนี้เป็นของดาด้านี้และบาบาก็ได้ยืมร่างนี้มาใช้เพียงระยะเวลาอันสั้น พ่อพูดว่า
พ่อต้องการปากเพื่อที่พ่อจะสามารถพูดกับลูก พ่อจะสามารถพูดกับลูกๆ
ของท่านได้อย่างไรหากท่านไม่มีปาก?
พ่อได้ให้ความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูกผ่านปากนี้ เหตุนี้เองปากของท่านจึงเรียกว่า
“เกามุก”(ปากวัว) น้ำสามารถปรากฏออกมาจากที่แห่งหนึ่งแห่งใดในภูเขา
และดังนั้นพวกเขาจึงได้สร้าง “เกามุก” ที่นี่ที่ซึ่งน้ำนั้นปรากฏออกมา
พวกเขาคิดว่านั่นเป็นน้ำของแม่น้ำคงคาและดื่มน้ำนั้น
พวกเขาได้ให้ความสำคัญอย่างมากมายต่อน้ำนั้น ทุกสิ่งในโลกนี้หลอกลวง
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่บอกสัจจะแก่ลูก อย่างไรก็ตาม
ผู้คนที่หลอกลวงนั้นก็คิดว่าความรู้นี้ของพ่อเป็นความหลอกลวง
เมื่อบารัตเคยอยู่ในยุคทอง บารัตนั้นก็เรียกว่าเป็นดินแดนแห่งสัจจะ ในเวลานี้
บารัตนั้นได้กลับมาเก่า ทุกสิ่งได้กลายเป็นสิ่งหลอกลวง มีความแตกต่างอย่างใหญ่หลวง!
พ่อพูดว่า ลูกเคยประณามพ่อมาอย่างมาก!
ลูกได้เคยดูหมิ่นพ่อและได้ประณามพ่อด้วยการเรียกพ่อว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
ลูกนั้นเคยเรียกหาชีพบาบา: พาเราออกไปจากโลกเก่านี้เถิด พ่อพูดว่า ลูกๆ
ทั้งหมดของพ่อได้กลายเป็นผู้ที่ล้มละลายด้วยการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะ
พ่อพูดกับลูกๆ และพูดว่า ครั้งหนึ่งลูกเคยเป็นนายแห่งสวรรค์ ลูกจำสิ่งนี้ได้หรือไม่?
ท่านนั้นอธิบายสิ่งนี้เท่านั้นแก่ลูกๆ
ท่านไม่ได้อธิบายสิ่งนี้แก่ทั้งโลกเพราะเพียงลูกๆเท่านั้นที่เข้าใจในสิ่งที่พ่อพูด
โลกจะรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งนี้? หนามที่ใหญ่โตที่สุดคือตัณหาราคะ
ชื่อที่แท้จริงของโลกนี้คือโลกที่ไม่บริสุทธิ์ ในขณะที่ยุคทองคือโลกที่บริสุทธิ์100%
มนุษย์ไปและก้มลงเบื้องหน้าเทพที่บริสุทธิ์เหล่านั้น
แม้ว่าผู้เลื่อมใสศรัทธามากมายจะเป็นมังสวิรัติ
ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ข้องแวะในกิเลส ผู้คนมากมายก็ถือพรหมจรรย์ตั้งแต่วัยเด็ก
และตั้งแต่วัยเด็กของเขาเป็นต้นมาพวกเขาก็ไม่ได้รับประทานอาหารที่สกปรกใดๆ
ด้วยเช่นกัน ซันยาสซีเองก็พูดว่า จงกลับมาปราศจากกิเลส!
ซันยาสซีก็ละทิ้งบ้านและครอบครัวของเขา;
และแล้วพวกเขาก็ได้ใช้ชาติเกิดต่อไปของเขากับผู้ครองเรือน
และพวกเขาก็ได้ละทิ้งบ้านและครอบครัวของเขาอีกครั้งหนึ่งและเข้าไปสู่ป่า
อย่างไรก็ตามสิ่งนั้นจะเป็นไปได้หรือสำหรับพวกเขาที่จะกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์?
ไม่เลย
ไม่มีใครสามารถกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์โดยที่ไม่ได้รับศรีมัทจากพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์
หนทางความเลื่อมใสศรัทธานั้นคือหนทางของการตกลงมาและดังนั้นพวกเขาจะสามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้อย่างไร
หากพวกเขาได้กลับมาบริสุทธิ์แล้ว พวกเขาก็จะสามารถกลับบ้านและแล้วก็ไปสู่สวรรค์ได้
เหล่าเทพของยุคทองนั้นเคยละทิ้งบ้านและครอบครัวของพวกเขาหรือ?
การสละละทิ้งของซันยาสซีนั้นมีขีดจำกัด
ในขณะที่การสละละทิ้งของลูกนั้นไม่มีขีดจำกัด
ลูกละทิ้งทั้งโลกรวมทั้งเพื่อนฝูงและญาติมิตรของลูก
กำลังมีการก่อตั้งสวรรค์ขึ้นสำหรับลูก ในเวลานี้สติปัญญาของลูกกำลังหันไปสู่สวรรค์
ผู้คนนั้นก็ยังคงห้อยกลับหัวอยู่ในนรก ในขณะที่ลูกๆ
นั้นแขวนอยู่ในตะแลงแกงของการจดจำระลึกถึงพ่อ
ได้มีการทำให้ลูกนั่งบนกองไฟของความรู้เพื่อที่จะกลายเป็นเทวีแห่งความเยือกเย็น
คำที่ตรงกันข้ามกับ “ความเยือกเย็น” ก็มีคำว่า “ไฟ” (ความร้อน)
ลูกนั้นเรียกว่าเป็นเทวีแห่งความเยือกเย็น จะไม่ได้มีลูกเพียงคนเดียว
อย่างแน่นอนที่ต้องมีผู้คนมากมายที่ทำให้บารัตเยือกเย็นลงได้อย่างมาก
ในปัจจุบันทุกคนนั้นกำลังถูกเผาบนกองไฟของตัณหาราคะ
เป็นที่นี่ที่ลูกได้รับชื่อว่าเทวีแห่งความเยือกเย็น
ลูกคือเทวีผู้ที่ทำให้ทุกคนนั้นเยือกเย็น
ผู้เดียวที่ประพรมหยดน้ำเย็นแห่งความรู้ให้แก่ทุกคน
ผู้เลื่อมใสศรัทธานั้นก็ไปเพื่อที่จะประพรมหยดน้ำ
ในขณะที่นี่เป็นหยดของความรู้ที่ได้มีการประพรมบนดวงวิญญาณ
เมื่อดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ พวกเขานั้นก็อยู่อย่างเยือกเย็น
ดวงวิญญาณของทั้งโลกนั้นได้อยู่อย่างน่าเกลียดในเวลานี้ด้วยการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะ
เวลานี้ลูกๆ กำลังได้รับไหของน้ำทิพย์
ด้วยไหนี้ลูกก็ทำให้ตนเองนั้นเยือกเย็นลงและลูกก็ทำให้ผู้อื่นนั้นเยือกเย็นลงด้วยเช่นกัน
ผู้นี้เองก็ได้กลับมาเยือกเย็นด้วย ทั้งสามีและภรรยานั้นก็อยู่ด้วยกัน
ไม่มีเรื่องของการที่จะต้องละทิ้งบ้านและครอบครัวของลูก
อย่างไรก็ตามเมื่อได้มีการสร้างคอกวัวขึ้นในตอนเริ่มต้น, อย่างแน่นอนที่ลูกๆ
บางคนนั้นต้องจากบ้านของลูก เพื่ออะไร?
เพื่อที่จะสามารถนั่งบนกองไฟของความรู้และกลับมาเยือกเย็นได้
มีเพียงเมื่อลูกได้กลับมาเยือกเย็นที่นี่เท่านั้นที่ลูกจะสามารถกลายเป็นเทพที่นั่น
โยคะของสติปัญญาของลูกๆนั้นไม่ควรจะตรงไปยังบ้านเก่าของลูกอีกต่อไป
สติปัญญาของลูกควรจะยึดติดอยู่กับพ่อ เพราะลูกทั้งหมดต้องกลับบ้านกับพ่อ พ่อพูดว่า
ลูกๆ ที่แสนหวาน พ่อได้มาอย่างเป็นผู้นำทางของลูกเพื่อพาลูกทั้งหมดกลับบ้าน
ลูกคือกองทัพชีพชัคตี พันดาฟ ลูกคือผู้ที่ได้รับอำนาจจากชีวา,ผู้ทรงพลังอำนาจ
ผู้คนก็คิดว่าดวงวิญญาณสูงสุดนั้นสามารถฟื้นคืนชีวิตให้กับคนตายได้ อย่างไรก็ตาม
พ่อพูดว่า ลูกๆ ผู้เป็นที่รักของพ่อ ทุกๆ
ดวงวิญญาณนั้นได้รับบทบาทที่คงอยู่ตลอดไปของเขาเองที่จะเล่นในละครนี้
พ่อคือผู้สร้าง ผู้กำกับ และเป็นนักแสดงหลัก
พ่อไม่สามารถเปลี่ยนบทของใครในละครนี้ได้เลย
ผู้คนก็เชื่อว่าใบไม้แต่ละใบนั้นเคลื่อนไหวตามคำสั่งของดวงวิญญาณสูงสุด
อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณสูงสุดเองนั้นก็พูดว่า พ่อก็ขึ้นอยู่กับละครเช่นกัน
พ่อถูกผูกไว้ด้วยละครนี้ ไม่ใช่ว่าใบไม้นั้นจะเคลื่อนไหวตามคำสั่งของพ่อ
ความคิดเห็นของการอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันนั้นได้ทำให้ผู้คนของบารัตยากจนข้นแค้นอย่างสมบูรณ์
ด้วยความรู้ที่พ่อให้ บารัตนั้นก็ได้รับมงกุฎอีกครั้งหนึ่ง อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ในการที่จะเข้าไปสู่สุริยวงศ์ในตอนเริ่มต้น
สติปัญญาของลูกต้องมีศรัทธาเพื่อที่ลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในคะแนนเต็ม
ลูกต้องกลายเป็นบราห์มินที่มั่นคง
เก็บความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ไว้ในสำนึกรู้ของลูก
2.
คงนั่งอยู่บนกองไฟของความรู้และอยู่อย่างเยือกเย็น นั่นคือกลับมาบริสุทธิ์
ดับไฟของตัณหาราคะด้วยความรู้และโยคะ
โยคะของสติปัญญาของลูกต้องเชื่อมโยงกับพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ
พร:
ขอให้ลูกได้รับเหรียญตราในรูปแบบของสภาพที่สูงส่งในชีวิตบราห์มินของลูกและกลายเป็นจักรพรรดิแห่งดินแดนที่ไร้กังวล
ลูกแต่ละคนกลายเป็นบราห์มินเพื่อทำให้สภาพส่วนตัวของลูกดีที่สุด
ในชีวิตบราห์มินสภาพที่สูงส่งเป็นสมบัติส่วนตัวของลูก
มันเป็นเหรียญแห่งชีวิตบราห์มิน
ผู้ที่ได้รับเหรียญนี้จะอยู่อย่างมั่นคงอย่างสม่ำเสมอในสภาพที่สม่ำเสมอไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนและจะมีความไร้กังวลอย่างสม่ำเสมอ
พวกเขากลายเป็นจักรพรรดิของดินแดนที่ไร้กังวล
พวกเขาเป็นอิสระจากความปรารถนาทั้งหมดและเป็นตัวของการไม่รู้ความรู้ใด ๆ
ของความปรารถนา
คติพจน์:
ด้วยการพูดว่า
“บาบาของฉัน” ด้วยศรัทธาและความซาบซึ้งที่ไม่ขาดตอน
และแล้วมายาก็ไม่สามารถเข้ามาใกล้ลูกได้