22.02.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน รับฟังเพียงสิ่งที่พ่อบอกลูกเท่านั้น อย่าได้พูดและฟังสิ่งที่เลวร้าย! อย่าได้พูดสิ่งที่เลวร้าย! อย่าได้เห็นสิ่งที่เลวร้าย! อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย!

คำถาม:
พ่อดลใจให้ลูกๆ มีศรัทธาใด?

คำตอบ:
พ่อดลใจให้ลูกมีศรัทธาว่า ท่านคือพ่อของลูก ครูของลูก และเป็นสัตกูรูของลูก ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะรักษาสำนึกรู้นี้ อย่างไรก็ตามมายาทำให้ลูกลืม ในหนทางของความไม่รู้ ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับมายา

คำถาม:
เมื่อลูกตรวจสอบชาร์ทของลูก ลูกต้องมีสติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัดในประเด็นใด?

คำตอบ:
เมื่อลูกตรวจสอบว่านานเพียงใดที่ลูกได้พิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณและได้จดจำพ่อ เมื่อลูกตรวจสอบประเด็นนี้ในชาร์ทของลูก ลูกต้องมีสติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัด เพียงเมื่อลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อเท่านั้นที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง

โอมชานติ
ลูกผู้เป็นนักเรียนเข้าใจว่าครูมาแล้ว ลูกๆ รู้ว่าท่านคือพ่อ,ครูและสัตกูรูสูงสุด สิ่งนี้อยู่ในสำนึกรู้ของลูกๆ แต่เป็นสิ่งที่ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ กฎนั้นก็คือเมื่อลูกรู้แล้วว่าผู้นี้คือพ่อ,ครูและสัตกูรู ลูกไม่ควรที่จะลืมสิ่งนี้ แต่ที่นี่มายาก็ทำให้ลูกลืม มายาไม่ได้ทำให้ลูกลืมในหนทางของความไม่รู้ ลูกๆ ไม่สามารถลืมว่าพ่อของพวกเขาเป็นใคร หรือหน้าที่การงานของพ่อคืออะไร พวกเขามีความสุขของการเป็นนายของสมบัติของพ่อของเขา แม้ว่าพวกเขาเองจะศึกษาเล่าเรียน พวกเขาก็จะได้รับทรัพย์สมบัติของพ่อของเขาด้วยเช่นกัน ลูกๆ ศึกษาที่นี่และลูกก็ได้รับทรัพย์สมบัติของพ่อด้วยเช่นกัน ลูกกำลังศึกษาราชาโยคะ ลูกได้รับศรัทธาจากพ่อที่ลูกเป็นของพ่อและมีเพียงพ่อเท่านั้นที่ชี้หนทางไปสู่การหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส ดังนั้นท่านคือสัตกูรู สิ่งเหล่านี้ไม่ควรจะถูกลืม ลูกต้องรับฟังสิ่งที่พ่อบอกลูกเท่านั้น มีภาพลิงพร้อมกับคติพจน์ที่ว่า: อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย! อย่าได้เห็นสิ่งที่เลวร้าย! อย่าได้พูดสิ่งที่เลวร้าย! สิ่งนี้ใช้กับมนุษย์ พ่อพูดว่า: อย่าได้รับฟัง,พูดถึงหรือมองดูสิ่งที่เป็นเช่นปีศาจ พวกเขาได้ทำคติพจน์: “อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย ฯลฯ” ด้วยตัวอย่างของลิง ในขณะที่เวลานี้พวกเขาได้ทำสิ่งนั้นด้วยตัวอย่างของมนุษย์ ลูกมีภาพของนลินีที่สาธิตแสดงสิ่งนี้ ลูกจะต้องไม่รับฟังสิ่งใดที่ประณามพ่อ พ่อพูดว่า: พวกเขาได้ประณามพ่ออย่างมาก! ลูกรู้ว่าเมื่อมีการจุดธูปเบื้องหน้าผู้เลื่อมใสศรัทธาของกฤษณะ ผู้เลื่อมใสศรัทธาของรามก็ปิดจมูกของเขา พวกเขาไม่ชอบแม้กระทั่งกลิ่นธูปของอีกฝ่าย ราวกับว่าพวกเขากลายเป็นศัตรู เวลานี้ลูกกลายเป็นของสกุลของพระเจ้าหรือของราม ในขณะที่ส่วนที่เหลือของโลกเป็นของครอบครัวของราวัน ที่นี่ไม่มีเรื่องของธูป ลูกรู้ว่าลูกได้ไปถึงสภาพใดด้วยการเรียกพ่อว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน ด้วยการพูดว่าท่านอยู่ในก้อนกรวดก้อนหิน,สติปัญญาของลูกก็กลายเป็นหิน มีการประณามพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างมาก ผู้ที่ให้มรดกของลูกแก่ลูก ไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่มีความรู้นี้ สิ่งที่พวกเขาพูดไม่ใช่เพชรพลอยแห่งความรู้นี้ แต่เป็นก้อนหิน เวลานี้ลูกต้องจดจำพ่อ พ่อพูดว่า: ไม่มีใครรู้จักพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำเช่นที่พ่อเป็นหรือในสิ่งที่พ่อเป็น เป็นสิ่งที่ตามลำดับกันไปในลูกๆด้วยเช่นกัน ลูกต้องจดจำพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำ ท่านเป็นจุดที่สุดแสนเล็กเช่นกัน บทบาททั้งหมดอยู่ภายในท่าน พร้อมกับการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณลูกต้องรู้จักพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำและจดจำท่านด้วยเช่นกัน แม้ว่าเราเป็นลูกๆของท่าน ก็ไม่ใช่ว่าพ่อเป็นดวงวิญญาณที่ใหญ่และเราเป็นดวงวิญญาณที่เล็ก; ไม่เลย แม้ว่าพ่อเต็มไปด้วยความรู้นี้ ดวงวิญญาณนั้นไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเราเลย มีความรู้นี้ในลูกดวงวิญญาณเช่นกัน แต่ก็ตามลำดับกันไป นักเรียนในโรงเรียนสอบผ่านตามลำดับกันไป พวกเขาอาจจะได้ไม่กี่คะแนน แต่ไม่มีใครได้คะแนนศูนย์ พ่อพูดว่า: ความรู้ที่พ่อให้แก่ลูกเวลานี้จะหายไปและสัญลักษณ์และคัมภีร์จะถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง พ่อพูดกับลูกดวงวิญญาณ: อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย ฯลฯ จะมีอะไรให้ดูในโลกที่ชั่วร้ายนี้? ลูกต้องปิดตาของลูกกับโลกที่สกปรกนี้ เวลานี้ลูกดวงวิญญาณได้ตระหนักรู้ว่าโลกนี้เก่า ดังนั้นเหตุใดลูกต้องการมีสายใยกับโลกนี้? เวลานี้ลูกดวงวิญญาณได้ตระหนักรู้แล้วว่าในขณะที่มองโลกนี้ลูกต้องไม่เห็น จดจำดินแดนแห่งความสงบและความสุขของลูก ลูก ดวงวิญญาณได้รับดวงตาที่สามแห่งความรู้นี้แล้วดังนั้นลูกต้องจดจำดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุขเหล่านี้ ผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาก็ตื่นแต่เช้าตรู่ด้วยและหมุนลูกปัดของลูกประคำ พวกเขาคิดว่าเวลาที่มีสิริมงคลในตอนเช้านั้นดีที่สุด มีเวลาที่เป็นสิริมงคลของลูกๆบราห์มินด้วยเช่นกัน มีคำยกย่องบราห์มาโบเจ้นด้วยเช่นกัน ไม่ใช่บราห์มโบเจ้น แต่เป็นบราห์มาโบเจ้น แทนที่จะเป็นบราห์มากุมารี ผู้คนเหล่านั้นก็เรียกลูกว่าบราห์มกุมารี พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย ลูกๆของบราห์มาก็จะเป็นบราห์มากุมารและกุมารี บราห์มคือธาตุแห่งแสง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดวงวิญญาณอาศัยอยู่ สถานที่นั้นได้รับคำยกย่องอะไร? พ่อพร่ำบ่นกับลูกๆ: ในด้านหนึ่งลูกๆกราบไหว้บูชาพ่อ และอีกด้านหนึ่งลูกก็ประณามพ่อ ด้วยการประณามพ่อที่ลูกกลายเป็นผู้ที่ตาโมประธานอย่างสมบูรณ์ ลูกต้องกลับมาตาโมประธาน วงจรต้องซ้ำรอย เมื่อบุคคลสำคัญมา ลูกต้องอธิบายวงจรแก่เขาอย่างแน่นอน วงจรเป็นเพียง 5000 ปีเท่านั้น ลูกต้องให้ความใส่ใจอย่างมากต่อสิ่งนี้ กลางวันมาหลังจากกลางคืนอย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีกลางวันหลังจากกลางคืน ยุคทองจะมาหลังจากยุคเหล็กอย่างแน่นอน ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลกนี้จะซ้ำรอย พ่อพูดกับลูกๆ: ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ลูกแต่ละคนต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ เป็นดวงวิญญาณที่ท่าทุกสิ่งในขณะที่พวกเขาแสดงบทบาทของพวกเขา ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคือนักแสดงและพวกเขาควรที่จะรู้ถึงตอนเริ่มต้น ตอนกลางและตอนจบของการละเล่นด้วยเช่นกัน ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลกซ้ำรอย ดังนั้นนี่คือละคร แต่ละวินาที ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในอดีตก็จะเฝ้าแต่ซ้ำรอยต่อไป ไม่มีใครอื่นสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ผู้ที่ไม่ฉลาดมากก็สอบตกเสมอ ดังนั้นครูของเขาจะทำอะไรได้กับสิ่งนั้น? ลูกจะขอให้ครูของลูกมีเมตตาต่อลูกหรือให้พรแก่ลูกหรือ? นี่คือการศึกษาเล่าเรียนเช่นกัน พระเจ้าเองสอนราชาโยคะที่กีตะพาทซาลานี้ ยุคเหล็กต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนและถูกทำให้กลายเป็นยุคทอง พ่อต้องมาตามละคร พ่อพูดว่า: พ่อมาที่การบรรจบกันของทุกวงจร ไม่มีใครอื่นที่จะพูดว่า: “พ่อได้ให้ความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลกแก่ลูกๆ” พวกเขาพูดถึงตนเองว่า “ซีโวฮัม” (ฉันคือชีวา) จะเกิดอะไรขึ้นด้วยสิ่งนั้น? ชีพบาบามาเพื่อสอนลูก ท่านมาเพื่อสอนราชาโยคะที่ง่ายดายแก่ลูก ไม่มีผู้รู้หรือผู้เคร่งศาสนาใดที่จะเรียกได้ว่าเป็นพระเจ้าชีวา มีผู้คนมากมายที่เรียกตนเองว่ากฤษณะหรือลักษมีหรือนารายณ์ มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างศรีกฤษณะเจ้าชายของยุคทองและผู้คนที่ไม่บริสุทธิ์ของยุคเหล็กเหล่านั้น ลูกจะไม่พูดว่าพระเจ้าอยู่ในพวกเขา ลูกสามารถไปที่วัดและถามผู้เลื่อมใสศรัทธาว่า: เทพผู้เคยปกครองในยุคทองนั้นอยู่ที่ไหน? หลังจากยุคทอง แน่นอนว่าต้องเป็นยุคเงิน,ทองแดงและยุคเหล็ก อาณาจักรสุริยวงศ์นั้นเคยอยู่ในยุคทองและอาณาจักรจันทรวงศ์อยู่ในยุคเงิน ความรู้ทั้งหมดนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆ ลูกคือบราห์มากุมารและกุมารี และแล้วจะต้องมีประชาบิดาบราห์มาด้วยเช่นกันอย่างแน่นอน โลกมนุษย์นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยบราห์มา บราห์มาไม่ได้เรียกว่าผู้สร้าง นั่นคือผู้เดียวที่เป็นพระเจ้าผู้เป็นพ่อ ท่านสร้างได้อย่างไร? เป็นเพียงเมื่อท่านมาเป็นการส่วนตัวเบื้องหน้าลูกเท่านั้นที่ท่านสามารถอธิบายสิ่งนี้ คัมภีร์เหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาในภายหลัง เช่นเดียวกับที่หลังจากที่พระคริสต์ได้อธิบายทุกสิ่งเหล่านั้นแล้วเท่านั้นที่คัมภีร์ไบเบิ้ลจึงถูกสร้างขึ้นมา คำยกย่องของเขามีการร้องสรรเสริญในภายหลัง เพียงพ่อเท่านั้นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ผู้ให้การหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคน ผู้ปลดปล่อยของทุกคน ผู้คนจดจำท่านและพูดกับท่านว่า: โอ้ พระเจ้าผู้เป็นพ่อ โปรดเมตตา! มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นพ่อ ท่านเป็นพ่อของทุกคนในทั้งโลก ผู้คนไม่รู้ว่าใครปลดปล่อยพวกเขาจากความทุกข์ทั้งหมด เวลานี้โลกนี้เก่าและมนุษย์ก็เก่าและตาโมประธาน นี่คือโลกยุคเหล็ก ยุคทองเคยมีอยู่จริง ดังนั้นยุคทองนั้นจะมาอีกครั้งอย่างแน่นอน การทำลายล้างจะเกิดขึ้น สิ่งนี้จะเกิดขึ้นผ่านสงครามโลกและภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมายด้วยเช่นกัน เวลานี้เป็นช่วงเวลาเดียวกันนั้น ประชากรโลกมนุษย์ได้ขยายตัวอย่างมาก ลูกพูดว่าพระเจ้าได้มา ลูกๆ ท้าทายทุกคนและพูดว่า ศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปกำลังมีการก่อตั้งขึ้นเวลานี้ด้วยบราห์มา พวกเขาจะรับฟังลูกตามละคร ลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน ลูกรู้ว่าลูกไม่ได้มีคุณธรรมใดๆเลย ข้อบกพร่องแรกคือกิเลสของตัณหาราคะ ซึ่งรุกรานลูกอย่างมาก มีการชกมวยกับมายา พายุของมายาทำให้ลูกล้มลงแม้ลูกจะไม่ปรารถนาก็ตาม นี่คือยุคเหล็ก พวกเขาทั้งหมดทำให้ใบหน้าของพวกเขาสกปรก ลูกไม่สามารถเรียกใบหน้านั้นว่าน้ำเงินเข้มได้ ศรีกฤษณะได้ถูกแสดงภาพไว้เป็นสีน้ำเงินเข้มเป็นตัวแทนของพิษงูกัด เพื่อรักษาเกียรติของศรีกฤษณะ มีภาพของศรีกฤษณะที่เป็นสีน้ำเงินเข้มเพื่อแสดงให้เห็นถึงงูที่มีพิษกัด เพื่อที่จะรักษาเกียรติของเขา พวกเขาจึงแสดงใบหน้าของเขาเป็นสีน้ำเงินเข้ม หากพวกเขาแสดงใบหน้าของเขาที่สกปรก ก็จะเหมือนกับว่าเกียรติของศรีกฤษณะจะสูญหายไป นักเดินทางได้มาที่นี่จากดินแดนไกลโพ้น ดินแดนที่ไม่มีตัวตน ท่านเข้ามาในโลกยุคเหล็กนี้และเข้ามาสู่ร่างกายที่ไม่บริสุทธิ์และทำให้ร่างนั้นสวยงาม พ่อพูดว่า:เวลานี้ลูกต้องกลับมาสะโตประธาน ด้วยการจดจำพ่อที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องและลูกจะกลายเป็นนายของดินแดนวิษณุ สิ่งเหล่านี้ของความรู้นี้ต้องเป็นที่เข้าใจ บาบาคือรูปและบาซาน ท่านมีรูปของจุดที่สว่างไสวมาก ท่านมีความรู้นี้ด้วยเช่นกัน ท่านไม่ได้อยู่เหนือนามและรูป ไม่มีใครในโลกที่รู้ว่ารูปของท่านคืออะไร? พ่ออธิบายแก่ลูก: พ่อก็ถูกเรียกว่าดวงวิญญาณเช่นกัน แต่เป็นเพียงว่าพ่อคือดวงวิญญาณสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดคือพระเจ้า ท่านคือพ่อและครู ท่านถูกเรียกว่าเป็นผู้เดียวที่เต็มไปด้วยความรู้ ผู้คนเชื่อว่าท่านเต็มไปด้วยความรู้ ที่ท่านรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวใจของแต่ละคน หากพระเจ้าจะอยู่ในทุกหนแห่งแล้วทุกคนก็จะเต็มไปด้วยความรู้เช่นกัน ดังนั้นเหตุใดพวกเขาจึงเรียกผู้เดียวนี้เท่านั้นว่าเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้? สติปัญญาของผู้คนก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ! พวกเขาไม่เข้าใจประเด็นใดของความรู้เลย พ่อนั่งที่นี่และบอกความแตกต่างระหว่างความเลื่อมใสศรัทธาและความรู้นี้แก่ลูก อันดับแรกมีความรู้นี้ นั่นคือกลางวัน ที่ประกอบด้วยยุคทองและยุคเงิน จากนั้นก็มีกลางคืนของยุคทองแดงและยุคเหล็ก ด้วยความรู้นี้จึงมีการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส หฐโยคีไม่สามารถอธิบายความรู้ของราชาโยคีได้ แม้แต่ผู้ครองเรือนก็ไม่สามารถอธิบายได้เพราะพวกเขาไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นแล้วใครที่สามารถสอนราชาโยคะ? ผู้เดียวที่กล่าวว่า: ให้จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่บาปของลูกจะสามารถได้รับการปลดเปลื้อง ศาสนาของหนทางสันโดษนั้นแยกจากศาสนาของผู้คนในหนทางครอบครัวโดยสิ้นเชิง ดังนั้นพวกเขาจะสามารถถ่ายทอดความรู้ของหนทางครอบครัวได้อย่างไร? ที่นี่ทุกคนพูดว่า: พระเจ้าผู้เป็นพ่อคือสัจจะ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่บอกสัจจะ เวลานี้ดวงวิญญาณได้ตระหนักรู้ถึงบาบา และเหตุนี้เองเราจึงจดจำพ่อและขอให้ท่านมาและบอกเรื่องราวที่แท้จริงของวิธีการที่จะกลายเป็นนารายณ์ที่แท้จริงจากมนุษย์ธรรมดา เวลานี้พ่อกำลังบอกเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริงแก่ลูก ก่อนหน้านี้ลูกเคยฟังเรื่องราวที่ผิดๆ เวลานี้ลูกฟังเรื่องราวที่แท้จริง ไม่มีใครสามารถกลายเป็นนารายณ์จากการฟังเรื่องราวที่ผิดๆ นั่นจะเป็นเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริงได้อย่างไร? มนุษย์ไม่สามารถทำให้มนุษย์ธรรมดาเป็นนารายณ์ได้ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถมาและทำให้ลูกกลายเป็นนายแห่งสวรรค์ พ่อเข้ามาในบารัต แต่ไม่มีใครเข้าใจว่าท่านมาเมื่อไร พวกเขาปะปนระหว่างชีวาและชางก้าและสร้างเรื่องราว นอกจากนี้ยังมีชีพปุรนา (คัมภีร์) ด้วยเช่นกัน พวกเขาพูดว่ากีตะร้องโดยศรีกฤษณะ ดังนั้นชีพปุรนาควรจะยิ่งใหญ่กว่า อันที่จริงแล้วความรู้นี้อยู่ในกีตะ พระเจ้าพูดว่า: มานมานะบาฟ! คำนี้ไม่สามารถอยู่ในคัมภีร์ใดนอกจากกีตะ มีคำกล่าวว่าศรีมัตภควัตคีตาคือเพชรพลอยของทุกคัมภีร์ หนทางที่สูงส่งมาจากพระเจ้า ก่อนอื่นใดจงบอกพวกเขาว่า: เราพูดว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า, โลกใหม่ที่สูงส่งจะถูกก่อตั้งขึ้น เวลานี้โลกนี้ตกต่ำ จะมีผู้คนน้อยมากในโลกที่สูงส่ง ในปัจจุบันมีผู้คนมากมาย การทำลายล้างกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าลูก พ่อกำลังสอนราชาโยคะ ลูกได้รับมรดกของลูกจากพ่อ ผู้คนร้องขอสิ่งนั้นจากพ่อ เมื่อใครบางคนมีความมั่งคั่งและลูกมากมาย เขาก็พูดว่าพระเจ้าได้ให้ทั้งหมดนั้นแก่เขา ดังนั้นพระเจ้าคือหนึ่งเดียวเท่านั้น และแล้วเป็นไปได้อย่างไรที่พระเจ้าจะอยู่ในทุกคน? เวลานี้พ่อพูดกับดวงวิญญาณ: จดจำพ่อ! ลูกๆดวงวิญญาณพูดว่า: พระเจ้าได้ให้ความรู้นี้แก่เราซึ่งเราให้กับพี่น้องของเรา ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อเป็นเวลานานเท่าไรในแต่ละวัน? ลูกต้องการสติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัดที่จะรักษาประเด็นนี้ของชาร์ท ลูกต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ เพียงเมื่อนั้นที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง ความรู้นี้ง่ายดายมาก แต่ลูกสร้างความก้าวหน้าด้วยการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและโดยการจดจำระลึกถึงพ่อ มีลูกน้อยมากที่สามารถเก็บชาร์ทนี้ไว้ได้ ด้วยการกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและด้วยการจดจำพ่อ,ลูกจะไม่มีวันทำให้ใครมีความทุกข์ พ่อมาเพื่อที่จะให้ความสุขแก่ลูก ดังนั้นลูกๆก็ควรจะให้ความสุขแก่ทุกคนเช่นกัน อย่าได้ทำให้ใครมีความทุกข์ เมื่อลูกมีการจดจำระลึกถึงพ่อ วิญญาณปีศาจร้ายทั้งหมดก็วิ่งหนีไป ความเพียรพยายามนี้แฝงตัวมาก อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ปิดตาของลูกกับโลกที่สกปรกและชั่วร้ายนี้ โลกนี้เก่าแล้ว ดังนั้นอย่าได้มีสายใยกับโลกนี้อีกต่อไป แม้ในขณะที่มอง ก็อย่าได้เห็น

2. เราคือนักแสดงในละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นในอดีตจะซ้ำรอยในแต่ละวินาที รักษาสำนึกรู้นี้และสอบผ่านในทุกวิชา ลูกต้องมีสติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัด

พร:
ขอให้ลูกกลายเป็นภาพลักษณ์ที่มีชีวิตที่แสดงรูปในทางปฏิบัติของความสูงศักดิ์ด้วยความจริงแท้ของลูก

เวลาเช่นนั้นจะมาถึง เมื่อลูกดวงวิญญาณจะแสดงความสูงศักดิ์ของลูกผ่านความจริงแท้ของลูกในทางปฏิบัติจริง ในเวลาแห่งการเปิดเผย จำนวนของลูกปัดของลูกประคำและรูปแบบของอาณาจักรในอนาคตทั้งสองจะถูกเปิดเผยด้วยเช่นกัน เวลานี้ในขณะที่ลูกกำลังแข่งขัน ม่านของฝุ่นเล็กๆน้อยๆของการแข่งขันกำลังบดบังลูกผู้เป็นเพชรที่ส่องประกาย อย่างไรก็ตามในเวลาสุดท้ายม่านนี้จะถูกขจัดออกไปและลูกๆเพชรที่ซ่อนอยู่จะเปิดเผยรูปที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมของลูก ลูกๆราชวงศ์ที่สูงศักดิ์จะแสดงความสูงศักดิ์ของลูกจากเวลานี้ นั่นคือลูกจะเปิดเผยสถานภาพในอนาคตของลูก ดังนั้นเปิดเผยความสูงศักดิ์ของลูกด้วยความจริงแท้ของลูก

คติพจน์:
จบสิ้นความไร้สาระทั้งหมดด้วยวิธีการใดๆ และให้มีพลังปรากฏออกมา

มีความรักในความสันโดษและซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ

เพื่อที่จะให้ประโยชน์และเปลี่ยนแปลงตัวลูกเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยู่ในสันโดษและอยู่อย่างสำรวจตน ลูกเต็มไปด้วยความรู้ แต่ลูกก็ต้องมีพลังด้วยเช่นกัน เติมเต็มตัวเองด้วยประสบการณ์ของทุกสถานการณ์ ฉันเป็นลูกของใคร การบรรลุผลอะไรที่ฉันมี จงกลายเป็นตัวของประสบการณ์ของบทเรียนแรกนี้ และซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ และลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะมายาได้อย่างง่ายดาย