24.05.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ในเวลาอมฤต เพียงแต่จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นด้วยความรักอย่างมาก
ปิดกั้นความคิดอื่นๆทั้งหมดของลูก มีการสนทนาจากใจถึงใจที่แสนหวานกับพ่อ
คำถาม:
ทุกสิ่งที่ลูกพูดต้องมีความหมาย ลูกๆใดสามารถพูดคำพูดที่มีความหมายได้?
คำตอบ:
ผู้ที่มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความหมาย
สิ่งต่างๆที่พ่อสอนลูกในยุคบรรจบพบกันนั้นเต็มไปด้วยความหมาย
สิ่งที่ผู้คนพูดในสภาพของสำนึกที่เป็นร่างนั้นไม่มีความหมาย
ทั้งหมดนั้นไม่มีความหมายไม่มีผลใดๆเลย และไม่มีคุณประโยชน์ใด
เพลง:
ชี้หนทางให้แก่คนตาบอดเถิดพระเจ้าที่รัก
โอมชานติ
เพลงเหล่านั้นฯลฯ เป็นของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
เวลานี้ลูกไม่มีความต้องการเพลงเหล่านั้น ไม่มีเรื่องของความยากลำบากใดๆที่นี่
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธามีความยากลำบากมากมาย
มีขนบธรรมเนียมประเพณีและแบบแผนมากมาย เช่น การให้อาหารพราหมณ์ การทำสิ่งนี้-สิ่งนั้น
การไปจาริกแสวงบุญฯลฯ ลูกได้ทำมาอย่างมากมาย! เมื่อลูกมาที่นี่
ท่านก็ปลดปล่อยลูกจากความยากลำบากทั้งหมด ของลูก ลูกไม่ต้องทำสิ่งใดเช่นนั้น
ลูกไม่ต้องพูดแม้แต่คำว่า“ชีวา-ชีวา”ผ่านปากของลูก สิ่งนั้นไม่ใช่กฎของที่นี่
ไม่มีการได้รับผลใดๆจากการทำเช่นนั้น พ่อพูดว่า:
ลูกแต่ละคนต้องเข้าใจอยู่ภายในว่าลูกคือดวงวิญญาณ พ่อได้พูดแล้วว่า: จดจำพ่อ!
อยู่อย่างสำรวจตรวจสอบตนเองและจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น พ่อสัญญากับลูกว่า
บาปทั้งหมดของลูกจะถูกเผาไป
นี่คือไฟของโยคะที่บาปทั้งหมดของลูกถูกเผาไหม้เพื่อที่ลูกจะสามารถกลับบ้านได้
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นี่คือวิธีทั้งหมดที่จะพูดกับตัวเอง
จงมีการสนทนาทางจิตกับตนเอง พ่อพูดว่า: พ่อให้วิธีการนี้แก่ลูกในทุกวงจร
ลูกรู้ว่าต้นไม้ค่อยๆเติบโตทีละน้อย
เวลานี้พ่อมาและปลดปล่อยลูกจากบ่วงพันธะของมายาที่พายุของมายาเริ่มต้น
ไม่มีบ่วงพันธะในยุคทอง สติปัญญาของลูกรู้ความหมายของยุคบรรจบพบกันอย่างสมบบูรณ์
ทุกสิ่งที่นี่มีความหมาย อะไรก็ตามที่ผู้มีสำนึกที่เป็นร่างพูดไม่มีความหมาย
และไม่ว่าผู้คนที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณจะพูดสิ่งใดก็ตามสิ่งนั้นมีความหมายและจะบังเกิดผล
มีความยากลำบากมากมายในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ผู้คนคิดว่าการไปในการจาริกแสวงบุญ
ทำสิ่งนี้-สิ่งนั้นฯลฯ ทั้งหมดคือหนทางไปสู่พระเจ้า อย่างไรก็ตาม ลูกๆ เวลานี้
เข้าใจว่ายังไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ ได้มีการแสดงถึง 84
ชาติเกิดของลักษมีและนารายณ์ผู้ซึ่งเป็นนายอันดับหนึ่งของโลก
ดังนั้นใครอื่นจะสามารถได้รับการปลดปล่อยจากสิ่งนั้นได้อย่างไร? ทุกคนเข้ามาสู่วงจร
ดังนั้นกฤษณะจะคงอยู่เสมอเช่นที่พวกเขาพูดได้อย่างไร? ใช่
ดวงวิญญาณนั้นคงอยู่เสมอในรูปใดรูปหนึ่ง
แต่นามและรูปของกฤษณะนั้นเคยมีอยู่และหายไปแล้ว
พ่อมาและอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่ลูกๆ นี่คือการศึกษาเล่าเรียน
ต้องให้ความใส่ใจในขณะที่ดำเนินชีวิตนักเรียนของลูก
กำหนดเวลาทุกวันที่จะเขียนชาร์จของลูก นักธุรกิจมีบ่วงพันธะมากมาย
ผู้ที่ทำงานจ้างเหมาจะไม่มีบ่วงพันธะมากนัก
พวกเขาเพียงแค่ทำภาระงานของเขาให้เสร็จก็แค่นั้น!
นักธุรกิจต้องจัดหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการเมื่อใดก็ตามที่พวกเขามา
โยคะของสติปัญญาของเขานั้นก็เร่ร่อนไปข้างนอก
ดังนั้นลูกต้องพยายามและหาเวลาสำหรับการจดจำระลึกถึง
เวลาเช้าตรู่คือเวลาที่ดีมากสำหรับสิ่งนั้น
ในเวลานั้นลูกต้องปิดกั้นความคิดของลูกเกี่ยวกับสิ่งภายนอก อย่าได้มีความคิดอื่นใด
เพียงแค่จดจำระลึกถึงพ่อเท่านั้น เขียนคำยกย่องพ่อลงไป: บาบาคือมหาสมุทรแห่งความรู้,
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ บาบากำลังทำให้เรากลายเป็นนายของโลก เราต้องทำตามศรีมัทของท่าน
คำแนะนำที่สูงส่งที่สุดที่เราได้รับคือ“มานมานะบาฟ” ไม่มีใครอื่นสามารถพูดสิ่งนี้
ลูกได้รับคำแนะนำสั่งสอนนี้ทุกวงจรเพื่อที่เปลี่ยนจากตาโมประธานเป็นสะโตประธาน
พ่อเพียงแค่พูดว่า: จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งนี้เรียกว่ามันตราที่ฝึกฝนจิตใจ มีความสุขในการมีการจดจำระลึกถึงด้วยความเข้าใจ
พ่อพูดว่า: การจดจำระลึกถึงที่ไม่มีสิ่งใดเจือปนเป็นสิ่งจำเป็น
ในความเลื่อมใสศรัทธาการกราบไหว้บูชาชีวาเริ่มแรกนั้นไม่มีสิ่งใดเจือปน
และแล้วต่อมาเมื่อพวกเขาเริ่มที่จะกราบไหว้บูชาผู้อื่นมากมายก็มีสิ่งเจือปน
เริ่มแรกมีการกราบไหว้บูชาของเพียงผู้เดียว
เวลานี้ลูกๆต้องรับฟังความรู้นี้จากผู้เดียวนี้เท่านั้น ผู้เดียวที่ลูกๆ
เคยกราบไหว้บูชาพูดกับลูกๆด้วยตัวของท่านเองว่า: ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน
เวลานี้พ่อมาแล้ว ลัทธิศาสนาและการกราบไหว้บูชาทั้งหมดจะจบสิ้นลงเวลานี้
ลูกเคยเป็นคนแรกที่ได้สร้างวัดให้แก่ชีพบาบา
ในเวลานั้นลูกเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน
ดังนั้นลูกมีความสุขอย่างมาก
และแล้วเมื่อลูกได้กลายเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาที่มีสิ่งเจือปน
ลูกได้เข้ามาสู่ความเป็นทวิภาค (ตวามเป็นสอง-duality)กับผู้อื่น
ดังนั้นจึงมีความทุกข์เล็กน้อย เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ให้ความสุขแก่ทุกคน
พ่อพูดว่า: พ่อมาและให้มันตรานี้แก่ลูกๆ
เพียงแค่รับฟังมันตราของผู้เดียวนี้เท่านั้น ไม่มีผู้มีตัวตนใดที่นี่
ลูกมาที่นี่มาหาบัพดาดา ไม่มีใครสูงยิ่งกว่าชีพบาบา ทุกคนจดจำท่าน
บารัตเคยเป็นสวรรค์ ซึ่งเป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์
ใครทำให้พวกเขาสูงส่งมากที่ต่อมาลูกก็ได้กราบไหว้บูชาพวกเขา?
ไม่มีใครรู้ว่ามหาลักษมีเคยเป็นใคร
ชาติเกิดก่อนหน้านี้ของเธอก่อนที่เธอจะกลายเป็นมหาลักษมีนั้นคืออะไร? ลูกๆ
รู้ว่าเธอคือจากัดอัมบา (แม่ของชาวโลก) มีคำกล่าวว่า“ขอคารวะต่อผู้เป็นแม่”
สิ่งนี้ใช้ได้กับลูกๆ ผู้เป็นแม่ทุกคน ลูกประกาศสิทธิ์ต่อทั้งโลก “แม่ของบารัต”ไม่ได้กล่าวถึงเพียงแค่คนเดียว
ลูกทั้งหมดคือชีพชัคตีผู้ที่รับพลังจากชีวาด้วยโยคะ มายาแทรกแซงในการรับพลังของลูก
ในการต่อสู้ ในสงครามเมื่อใครบางคนโจมตีลูก ลูกต้องอยู่อย่างกล้าหาญและต่อสู้
ลูกไม่ควรติดกับโดยผู้ที่โจมตีลูก การรบราของลูกมีกับมายา
ไม่มีการรบราระหว่างฆราวาสและพันดาวาส พวกฆราวาสรบรากันเอง
เมื่อผู้คนต่อสู้กันพวกเขาก็พร้อมแม้กระทั่งที่จะตัดคอของอีกฝ่ายเพื่อที่ดินเพียงแค่หนึ่งหรือสองหลาเท่านั้น
พ่อมาและอธิบายว่า นี่คือสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร มีอาณาจักรของราม(พระเจ้า)
และอาณาจักรของราวัน(ปีศาจ) เวลานี้ลูกๆมีความรู้ว่าลูกจะไปยังอาณาจักรของราม;
มีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดที่นั่น ชื่อที่แท้จริงคือดินแดนแห่งความสุข(สุขธรรม)
ไม่มีชื่อหรือร่องรอยของความทุกข์ที่นั่น
เวลานี้พ่อมาเพื่อให้อาณาจักรเช่นนั้นแก่ลูก ดังนั้นลูกๆ
ควรทำความเพียรพยายามอย่างมากเช่นนั้น บาบาบอกลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า: ลูกๆ
อย่าได้เหนื่อยล้าในสิ่งนี้ เฝ้าแต่จดจำชีพบาบา
ท่านคือจุดและเราดวงวิญญาณก็เป็นจุดเช่นกัน เรามาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของเรา
บทบาทของเรากำลังจะจบสิ้นลงเวลานี้ เวลานี้พ่อพูดว่า:
จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง บาปนั้นสะสมอยู่ในดวงวิญญาณ
ร่างกายจบสิ้นลงที่นี่ มนุษย์บางคนทำบาปแล้วก็ฆ่าตัวเอง(ร่างกายของเขา)
อย่างไรก็ตามบาปของเขาไม่ได้รับการปลดเปลื้องด้วยการทำเช่นนั้น มีคำกล่าวว่า: “ดวงวิญญาณบาป”
ผู้รู้และผู้เคร่งศาสนาพูดว่าดวงวิญญาณมีภูมิคุ้มกันต่อผลของการกระทำ
พวกเขาพูดเช่นกันว่า ดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากมาย
ลูกเวลานี้ได้รับศรีมัทจากดวงวิญญาณสูงสุดผู้เดียว
พ่อได้ให้ตาที่สามของความรู้แก่ลูกแต่ละคนแล้ว เป็นดวงวิญญาณที่รู้ทุกสิ่ง
ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพระเจ้า หรือวงจรโลกหมุนไปอย่างไร
ดวงวิญญาณนั้นเล็กมาก ก่อนอื่นใดลูกได้รับการตระหนักรู้ถึงดวงวิญญาณ
ดวงวิญญาณละเอียดอ่อนมาก
นิมิตทั้งหมดที่ผู้คนมีนั้นคือแง่มุมของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
เพียงพ่อเท่านั้นที่อธิบายประเด็นของหนทางของความรู้
ท่านมาและนั่งอยู่ข้างๆผู้นี้ตรงกึ่งกลางหน้าผาก
ผู้นี้ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ทุกสิ่งเหล่านี้คือประเด็นใหม่และพ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งเหล่านี้
จงทำให้สิ่งเหล่านี้มั่นคง; อย่าได้ลืม ยิ่งลูกจดจำพ่อมากเท่าไหร่
บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องมากเท่านั้น
อนาคตของลูกขึ้นอยู่กับบาปที่ได้รับการปลดเปลื้องของลูก พร้อมกับลูก
ดินแดนบารัตก็มีโชคมากที่สุดด้วยเช่นกัน ไม่มีแผ่นดินอื่นใดมีโชคเท่ากับบารัต
พ่อมาที่นี่ที่บารัตนี้ บารัตเคยเป็นสวรรค์ซึ่งถูกเรียกว่าสวนแห่งอัลล่าห์
ลูกรู้ว่าพ่อกำลังทำให้บารัตกลายเป็นสวนดอกไม้อีกครั้ง
เรากำลังศึกษาเล่าเรียนเพื่อจะไปที่นั่น เราได้นิมิต
เราเข้าใจว่านี่คือสงครามหาบารัตเดียวกัน; หลังจากนั้นก็จะไม่มีสงคราม
โลกใหม่เป็นที่ต้องการสำหรับลูกอย่างแน่นอน เมื่อเป็นโลกใหม่ บารัตก็เป็นสวรรค์
เป็นเพียง 5000 ปีที่แล้วเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องหลายแสนปี
หากเป็นหลายแสนปีก็จะมีมนุษย์จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
แม้แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ซึมซาบเข้าไปสู่สติปัญญาของใคร
ในเมื่อไม่มีประชากรจำนวนมากเช่นนั้น วงจรจะยาวเช่นนั้นได้อย่างไร?
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าลูกเคยปกครองโลกเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว
ในเวลานั้นไม่มีแผ่นดินอื่น แผ่นดินอื่นปรากฏตัวขึ้นมาในภายหลัง
ทุกสิ่งเหล่านี้อยู่ในสติปัญญาของลูก
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสติปัญญาของใครอื่นเลย
ให้สัญญาณเล็กน้อยแก่พวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าใจว่าเคยมีศาสนาอื่นคงอยู่มาก่อนหน้าศาสนาของพวกเขาอย่างแท้จริง
เวลานี้ลูกสามารถอธิบายได้ว่าศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปที่คงอยู่มาก่อนนั้นได้หายไปแล้ว
ไม่มีใครจะกล่าวอ้างว่าเป็นของศาสนาเทพเวลานี้ พวกเขาไม่เข้าใจว่า
พวกเขาเคยเป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป ศาสนานั้นไปไหน?
ศาสนาฮินดูมาจากไหน? ไม่มีใครคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ ลูกๆ สามารถอธิบายได้ว่า
พ่อคือมหาสมุทรแห่งความรู้ ผู้มีอำนาจแห่งความรู้
ดังนั้นท่านต้องมาและพูดความรู้อย่างแน่นอน
ด้วยการรับความรู้นี้เท่านั้นที่มีการหลุดพ้น ไม่ใช่เรื่องของแรงบันดาลใจในสิ่งนี้
พ่อพูดว่า: พ่อมาในทุกๆวงจร อย่างเช่นที่พ่อมาเวลานี้
ดังนั้นพ่อจะมาอีกครั้งหลังจากหนึ่งวงจรผ่านไปและพบปะกับลูกทั้งหมด
ลูกเช่นกันที่วนไปรอบวงจร ลูกประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของลูกแล้วลูกก็สูญเสียมันไป
นี่คือการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกทั้งหมดเป็นนักแสดง หากดวงวิญญาณ
ในฐานะนักแสดงไม่รู้จักผู้สร้าง ผู้กำกับ และนักแสดงหลัก พวกเขาจะมีประโยชน์ใด?
ลูกๆ รู้ว่าลูกๆดวงวิญญาณได้นำร่างกายมาใช้เพื่อเล่นบทบาทของลูกอย่างไร
เวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน เวลานี้เป็นตอนสิ้นสุดของโลกเก่านี้แล้ว
นี่เป็นประเด็นที่ง่ายมากที่จะเข้าใจ
ลูกเข้าใจว่าพ่อกำลังนั่งที่นี่ในรูปที่แฝงตัวอย่างไร มีเพลงที่ร้องว่า: “เขาห่อหุ้มตนเองในผ้าห่มนวม
ได้เห็นผู้เดียวที่ทำทุกสิ่ง” ไม่ว่าลูกจะพูดว่า เขาได้เห็นท่าน
หรือเขาตระหนักรู้จักท่าน, นั่นก็เป็นสิ่งเดียวกัน
เป็นไปได้ที่จะเห็นดวงวิญญาณแต่ไม่มีประโยชน์ในสิ่งนั้น
ไม่มีใครเข้าใจอะไรจากสิ่งนั้น
ผู้คนมากมายผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้าก็ได้รับนิมิต
ก่อนหน้านี้ลูกเคยได้นิมิตมากมาย เคยมีโปรแกรมมากมายให้แก่ลูกสำหรับสิ่งนั้น
ลูกจะเห็นเกมที่สนุกสนานทั้งหมดเหล่านั้นในเวลาสุดท้าย เวลานี้พ่อพูดว่า:
ศึกษาเล่าเรียนและกลับมาฉลาด หากลูกไม่ศึกษาเล่าเรียนเวลานี้
ลูกจะต้องเสียใจเมื่อผลลัพธ์นั้นออกมา ลูกจะเข้าใจว่าลูกได้สูญเสียเวลาไปอย่างมาก
ยิ่งลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อมากเท่าไหร่
บาปของลูกก็จะได้รับการปลดเปลื้องด้วยการจดจำระลึกถึงมากเท่านั้น
ยิ่งลูกจดจำพ่อมากเท่าไหร่ ปรอทของความสุขของลูกจะขึ้นสูงมากเท่านั้น
ผู้คนไม่รู้ว่าทำไมพระเจ้าจึงได้รับการจดจำ แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่าท่านคือแม่และพ่อ,
พวกเขาก็ไม่รู้ความหมายของสิ่งนั้น
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วและแล้วลูกจึงสามารถอธิบายภาพของชีวาได้ว่าท่านคือมหาสมุทรแห่งความรู้
และเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์อย่างไร ลูกต้องจดจำท่าน
ลูกๆรู้ว่าพ่อมาเพื่อแสดงหนทางไปสู่ความสุขมากมายแก่ลูก นี่คือการศึกษาเล่าเรียน
ยิ่งลูกทำความเพียรพยายามมากแค่ไหน ลูกก็จะประกาศสิทธิ์ในสภาพที่สูงส่งมากแค่นั้น
ผู้นี้ไม่ใช่ผู้รู้หรือผู้เคร่งศาสนาที่กัดดี(ที่นั่งของกูรู)ของท่านได้ดำเนินมาตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของเวลา
นี่คือกัดดีของชีพบาบา ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะนั่งบนกัดดีเมื่อผู้นี้จากไป
พ่อจะพาทุกคนกลับไปกับท่าน
ลูกบางคนสูญเสียเวลาของเขาจากการมีความคิดที่ไร้สาระว่าพวกเขาจะสะสมทรัพย์สมบัติมากมายได้อย่างไรเพื่อที่ลูกๆหลานๆของพวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินนั้นหรือสิ่งนั้นจะมีประโยชน์ในภายหลัง
พวกเขาต้องการสะสมสิ่งนั้นไว้ในตู้เซฟของธนาคารของพวกเขาเพื่อให้ลูกๆของพวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยสิ่งนั้น
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ลำพัง ดังนั้นแทนการคิดมากเกี่ยวกับสิ่งนั้น
ลูกควรไม่ว่างเว้นอยู่กับการหารายได้เพื่ออนาคตของลูก
เวลานี้ลูกๆต้องทำความเพียรพยายาม ไม่ใช่ว่าลูกจะทำถ้ามันอยู่ในละคร
ถ้าลูกไม่ทำความเพียรพยายามลูกจะไม่ได้รับแม้กระทั่งสิ่งที่รับประทาน
อย่างไรก็ตามหากไม่อยู่ในโชคของพวกเขา พวกเขาก็มีความคิดเช่นนั้น
หากไม่อยู่ในโชคของพวกเขา พวกเขาจะทำความเพียรพยายามอะไรของพระเจ้า?
ผู้ที่มีสิ่งนั้นในโชคของพวกเขาก็จะดูดซับสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีและยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นดูดซับเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
พ่อเป็นครูของลูกและเป็นกูรูของลูกด้วยเช่นกันและแล้วลูกควรจดจำท่าน
ผู้เป็นที่รักที่สุดคือพ่อ ครูและกูรู จะต้องจดจำท่านทั้งสาม
บาบาได้แสดงให้ลูกเห็นวิธีการมากมาย
ลูกสามารถเชิญผู้รู้และผู้เคร่งศาสนาได้ด้วยเช่นกัน อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ทำความเพียรพยายามและไม่ว่างเว้นกับการหารายได้เพื่ออนาคตของลูก
อย่าได้หยุดทำความเพียรพยายามด้วยการพูดว่า“ถ้าอยู่ในละคร ฉันจะทำบางสิ่งบางอย่าง”
2.
จดบันทึกบาปที่ลูกได้ทำและความทุกข์ที่ลูกเป็นเหตุให้แก่ผู้อื่นตลอดทั้งวัน
บอกพ่อเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นด้วยความซื่อสัตย์
รักษาหัวใจของลูกให้ซื่อสัตย์และสะอาดและชำระสะสางบัญชีกรรมทั้งหมดของลูกด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียว
พร:
ขอให้ลูกเป็นโยคีที่สม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติ
ผู้ที่รักษามงกุฎและบัลลังก์ของลูกให้อยู่กับลูกอย่างสม่ำเสมอ
ในเวลาปัจจุบัน ลูกๆ
ทั้งหมดได้รับมงกุฎและบัลลังก์จากพ่อ
มงกุฎและบัลลังก์ในปัจจุบันนี้สามารถทำให้ลูกได้รับมงกุฎและบัลลังก์เป็นเวลาหลายชาติเกิดในอนาคต
ถ้าลูกรักษามงกุฎของความรับผิดชอบสำหรับการให้คุณประโยชน์โลก
และบัลลังก์หัวใจของบัพดาดาไว้อยู่กับลูกเสมอ
ลูกจะกลายเป็นโยคีที่สม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติ
และแล้วจะไม่มีเรื่องของการทำความพยายาม ประเภทใดๆ เพราะว่า ประการแรก
ลูกมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและ ประการที่สอง การได้มาซึ่งการบรรลุผลของลูกไร้ขีดจำกัด
ในที่ที่มีการได้มาซึ่งการบรรลุผล ก็จะมีการจดจำระลึกถึงที่เป็นธรรมชาติ
คติพจน์:
ใช้สติปัญญาที่เรียบง่ายของลูกนำแผนของลูกไปสู่การปฏิบัติเพราะความสำเร็จหลอมรวมอยู่ในนั้น
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
สร้างสมบุคลิกภาพของความสูงส่งและความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ
ความทุกข์และความไม่สงบเกิดจากความไม่บริสุทธิ์ ในที่ที่ไม่มีความไม่บริสุทธิ์
ก็ไม่สามารถมีความทุกข์หรือความไม่สงบได้ ลูกทุกคนเป็นนายผู้ชำระให้บริสุทธิ์
เป็นลูกๆของผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ผู้ที่ชำระผู้อื่นให้บริสุทธิ์จะบริสุทธิ์เองอย่างเป็นธรรมชาติ
ดวงวิญญาณผู้ชำระล้างให้บริสุทธิ์เช่นนี้จะรักษาความสงบและความสุขของพวกเขาไว้กับตนอย่างแน่นอน
คุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการอยู่อย่างบริสุทธิ์ แม้ทุกวันนี้
ผู้คนยังคงก้มศีรษะคารวะความยิ่งใหญ่นี้