24.06.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
ซึมซับคุณธรรมของความบริสุทธิ์และปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปของผู้กำกับแล้วลูกจะเข้าไปสู่อาณาจักรเทพ
(คำพูดที่แสนหวานของมาม่า
จากัดอัมบาเพื่ออ่านในชั้นเรียนช่วงเช้า)
โอมชานติ
โลกนี้ถูกเรียกว่าการละเล่น เรียกว่าละคร การละเล่นหรือเกม ก็เป็นสิ่งเดียวกัน
การละเล่นเป็นเพียงเรื่องเดียวและมีเนื้อเรื่องย่อยภายในมากมาย
แต่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ในทำนองเดียวกัน นี่คือละครโลกที่ไม่มีขีดจำกัด
ถูกเรียกอีกอย่างว่าการละเล่นด้วยเช่นกัน ซึ่งเราทุกคนต่างก็เป็นนักแสดง
เนื่องจากเราทุกคนเป็นนักแสดง
เราจึงต้องรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ว่าเริ่มต้นด้วยอะไร
บทของเราเริ่มต้นที่ไหน และจบที่ไหน และในบางครั้ง นักแสดงคนไหนมีส่วนไหนที่จะแสดง
และแล้วใครเป็นผู้แสดง ผู้กำกับและผู้สร้างคือใคร
และใครมีบทของพระเอกและนางเอกในเวลานั้น เราต้องมีความรู้ในสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
สิ่งนั้นไม่ได้สร้างเพียงแค่พูดถึงการละเล่น
มันคือละครและเราทุกคนต่างก็เป็นนักแสดงในละครนี้ หากใครเป็นนักแสดงในละครเรื่องนี้
และเราถามเขาว่า เรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง เริ่มต้นอย่างไร จบลงอย่างไร
และถ้าเขาบอกว่าไม่รู้ ลูกจะพูดอย่างไร?
ถึงเขาจะไม่รู้อะไรมากขนาดนี้แต่เขาก็เรียกตัวเองว่านักแสดง!
นักแสดงจะต้องรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับละครนั้น ในเมื่อละครมีจุดเริ่มต้น
ก็ต้องมีจุดสิ้นสุดด้วยเช่นกันอย่างแน่นอน มันไม่ใช่ว่า
เพราะละครเริ่มต้นแล้วละครก็จะดำเนินต่อไปตลอดเวลา
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดต้องเป็นที่เข้าใจ
ผู้สร้างละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้รู้ว่าละครนี้เริ่มต้นอย่างไร ใครคือนักแสดงหลัก
และในบรรดานักแสดงทั้งหมดใครมีบทของพระเอกและนางเอก พ่ออธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
ผู้ที่มาชั้นเรียนและรับฟังความรู้นี้ทุกวันจะเข้าใจและรู้ว่าใครเป็นผู้กำกับและผู้สร้างคนแรก
ดวงวิญญาณสูงสุดถูกเรียกว่าผู้สร้าง แต่ท่านก็เป็นนักแสดงเช่นกัน ท่านทำสิ่งใด?
ของการเป็นผู้กำกับ ท่านมาเพียงครั้งเดียวและกลายเป็นนักแสดง
ท่านกลายเป็นผู้กำกับและกำลังแสดงอยู่ พ่อพูดว่า: พ่อแสดงในช่วงเริ่มต้นของละครนี้
อย่างไร? พ่อสร้างโลกใหม่ซึ่งถูกเรียกว่าโลกยุคทองที่บริสุทธิ์โลกใหม่
นักแสดงทุกคนผู้ที่ซึมซับความบริสุทธิ์และทำตามคำแนะนำของผู้กำกับกำลังถูกชำระให้บริสุทธิ์
วงจรของหลายชาติเกิดและแล้วจะดำเนินต่อไปโดยลูกๆนักแสดง
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่อธิบายว่ามนุษย์เหล่านั้นผู้ที่กลับมาบริสุทธิ์เวลานี้จะไปสู่อาณาจักรเทพในชาติเกิดถัดไป
อาณาจักรนั้นดำเนินต่อไปเป็นเวลาสองยุคคืออาณาจักรของสกุลสุริยวงศ์และจันทรวงศ์
และแล้วเมื่อบทบาทของนักแสดงของสุริยวงศ์และจันทรวงศ์จบลง ก็เกิดการล่มสลาย นั่นคือ
พวกเขาจะเข้าสู่หนทางบาป และแล้วก็ถึงคราวของศาสนาอื่น: อับราฮัม พระพุทธเจ้า
และพระคริสต์
ผู้ก่อตั้งศาสนาเหล่านั้นทั้งหมดล้วนลงมาและก่อตั้งศาสนาของตนตามลำดับกันไป
ดังนั้น
ดูซิว่าเรื่องราวของละครเริ่มต้นที่ใดและจบลงที่ใด
และจะมีการดำเนินการตามโครงเรื่องอื่นๆ เหล่านั้นอย่างไรในระหว่างนั้น
ท่านนั่งและอธิบายเรื่องทั้งหมดนั้น เวลานี้ละครนี้กำลังจะจบลง ละครอื่นๆ
จบลงหลังจากสามชั่วโมง ในขณะที่ละครนี้ดำเนินไปเป็นเวลา 5,000 ปี
เหลือเวลาอีกไม่กี่ปี และเวลานี้เรากำลังเตรียมการสำหรับสิ่งนั้น
การละเล่นนี้จะจบลงและแล้วเล่นซ้ำอีกครั้ง
คำอธิบายทั้งหมดนี้ควรอยู่ในสติปัญญาของลูก สิ่งนี้ถูกเรียกว่าความรู้
เวลานี้มองดูว่าพ่อมาและสร้างบารัตใหม่และโลกใหม่อย่างไร เมื่อบารัตยังใหม่
โลกไม่ได้กว้างใหญ่นัก เวลานี้บารัตนั้นเก่า โลกก็เก่าด้วยเช่นกัน
พ่อมาและสร้างบารัต ซึ่งเป็นดินแดนที่ไม่เสื่อมสลายไปเป็นดินแดนโบราณของเรา
เป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่าประเทศ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอื่นๆ ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม อันที่จริงมีอาณาจักรเดียวของบารัตครอบคลุมทั้งโลก คลอบคลุมทั่วโลก
ถูกเรียกว่าบารัตโบราณ บารัตของเวลานั้นถูกจดจำว่าเป็นนกกระจอกทอง
มีการปกครองของบารัตทั่วทั้งโลก มีอาณาจักรเดียวและศาสนาเดียว
ในเวลานั้นมีความสุขสมบูรณ์ แต่สิ่งนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนี้พ่อจึงพูดว่า
จะมีการทำลายล้างของสิ่งนี้ และพ่อกำลังสร้างอาณาจักรเดียว ศาสนาเดียว
บารัตโบราณใหม่เดียวกัน โลกใหม่ ซึ่งเคยคงอยู่ก่อนหน้านี้ ลูกเข้าใจไหม?
ในโลกนั้นไม่มีความทุกข์ ไม่มีโรคภัย ไม่มีความตายก่อนเวลาอันควร
ดังนั้นจงพยายามมีชีวิตเช่นนั้น ลูกจะไม่ได้รับอะไรฟรีๆ
ลูกจะต้องทำความพยายามบางอย่าง หากลูกหว่านเมล็ด ลูกจะได้รับผล
หากลูกไม่หว่านสิ่งใด ลูกจะได้รับสิ่งใดๆได้อย่างไร? นี่คือสนามของการกระทำ
และผ่านการกระทำของลูกบนสนามนี้ ลูกจะได้รับผลนั้น กรรมใดที่เราหว่านไว้
เราจะได้รับผลของสิ่งนั้น พ่อกำลังสอนเราถึงวิธีหว่านเมล็ดแห่งการกระทำ
เป็นเหมือนกับที่ลูกได้รับการสอนเรื่องการเกษตร วิธีการหว่านเมล็ดพืช วิธีดูแลรักษา
มีการฝึกอบรมสำหรับสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด พ่อมาให้การฝึกฝนแก่เราสำหรับสนามของกรรม
วิธีหว่านการกระทำของเรา - วิธีทำให้การกระทำของเราสูงส่ง
หว่านเมล็ดที่ดีแล้วลูกจะได้รับผลที่ดี เมื่อการกระทำของลูกดี
และแล้วลูกหว่านอะไรก็ตาม ลูกก็จะได้รับผลที่ดี ถ้าเมล็ดของกรรมไม่มีความแข็งแรง
ถ้าหว่านกรรมชั่วลูกจะได้ผลอะไร? นี่คือสิ่งที่ลูกกำลังรับประทานอยู่ในเวลานี้
และสุดท้ายลูกก็ร้องไห้ ลูกกำลังร้องไห้เกี่ยวกับสิ่งที่ลูกรับประทาน
มีความทุกข์และความไม่สงบ มีหนึ่งโรคหรือโรคแทรกซ้อนหรืออื่นๆ
ทุกสิ่งทำให้ผู้คนทุกข์ และเหตุนี้เองพ่อพูดว่า เวลานี้
พ่อทำให้การกระทำของลูกมีคุณภาพสูง เมื่อหว่านเมล็ดที่มีคุณภาพเช่นนั้นแล้วผลก็จะดี
หากเมล็ดไม่มีคุณภาพลูกจะไม่ได้ผลที่มีคุณภาพดี
ดังนั้นการกระทำของเราจะต้องมีคุณภาพดีด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเวลานี้พ่อกำลังสร้างเมล็ดแห่งการกระทำของเราให้มีคุณภาพดี ดังนั้น
หากลูกหว่านเมล็ดของคุณสมบัติที่สูงส่ง ลูกก็จะได้รับผลที่สูงส่ง
ดังนั้นจงทำให้เมล็ดแห่งการกระทำของลูกดี
และเรียนรู้วิธีหว่านเฉพาะสิ่งที่ดีเท่านั้น ดังนั้น
เวลานี้เข้าใจสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแล้วทำความพยายาม
อัจฉะ เวลานี้
ขอเวลาเงียบสองนาที ความเงียบหมายถึง "ฉันคือดวงวิญญาณ" เริ่มแรกฉันไปสู่ความเงียบ
และแล้วไปสู่ 'การพูด' เวลานี้พ่อพูดว่า เวลานี้ให้ไปโลกแห่งความเงียบ
และให้มีความเงียบ ความเงียบคือศาสนาดั้งเดิมของฉัน เพื่อที่จะเข้าสู่ความเงียบนั้น
พ่อพูดว่า
เวลานี้จงละทิ้งความผูกพันยึดมั่นใดๆกับร่างกายของลูกและความสัมพันธ์ทางกายของลูก
และกลับมาละวางจากสิ่งเหล่านั้น ลูกของดวงวิญญาณสูงสุด
เวลานี้จงจดจำระลึกถึงพ่อและมาสู่โลกของพ่อ เวลานี้ให้ความใส่ใจกับการไปที่นั่น
อย่าคิดที่จะลงมาในเวลานี้ ความคิดสุดท้ายของลูกจะนำลูกไปสู่จุดหมายปลายทางของลูก
เวลานี้จะต้องไม่มีความผูกพันยึดมั่น เวลานี้ละทิ้งความผูกพันยึดมั่นใดๆ
แม้กระทั่งกับร่างกายของลูก ลูกเข้าใจไหม? ลูกต้องมีดาร์น่าเช่นนั้น อัจฉะ
เวลานี้นั่งในความเงียบ ให้มีความเงียบในขณะที่ลูกเดินและเคลื่อนไหวไปรอบๆ
มีความเงียบแม้ในขณะที่ลูกพูด เวลาพูดจะเงียบได้อย่างไร? ลูกรู้หรือไม่?
ในเวลาที่พูด อย่าลืมเชื่อมโยคะของสติปัญญาของลูกว่า: ฉันคือดวงวิญญาณ
อันดับแรกคือดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ นั่นคือ ดวงวิญญาณแห่งความเงียบ ในเวลาที่พูด
ต้องมีความรู้นี้ในตัวฉัน ว่าฉันคือดวงวิญญาณ และฉันกำลังพูดด้วยอวัยวะเหล่านี้
ดังนั้น ลูกต้องฝึกฝนสิ่งนี้ ราวกับว่าลูกกำลังพูดโดยรับการค้ำจุนนั้น โอเค
เวลานี้ฉันกำลังได้รับการค้ำจุนจากดวงตาคู่นี้ ฉันกำลังมองดู
อะไรก็ตามที่ลูกต้องการ จงค้ำจุนสิ่งนั้น และแล้วทำสิ่งที่ลูกต้องทำ
หากลูกทำงานของลูกโดยได้รับการค้ำจุนในลักษณะนี้ ลูกจะยังคงมีความสุขอย่างมาก
และแล้วลูกจะไม่ทำการกระทำที่ไม่ดีใดๆ อัจฉะ
ถึงลูกๆ
ที่ดีมากที่สุดแสนหวานเช่นนั้น ผู้ที่ได้รับประสบการณ์ความเงียบ ความรัก
การจดจำระลึกถึง และอรุณสวัสดิ์จากบัพดาดาและแม่ของลูกอย่างสม่ำเสมอ
คำพูดที่สูงส่งที่พูดโดยพ่อผู้ทรงอำนาจผ่านร่างของผู้นำสาสน์ (สำหรับมาเตชวารี)
1) โอ้
ลูกสาวราเด้ผู้สูงส่ง ทุกวันลูกไม่ว่างเว้นในงานที่สูงส่งนี้ เช่นเดียวกับพ่อ
นั่นคือลูกเป็นรูปไวชนาฟที่บริสุทธิ์ ลูกกำลังทำงานรับใช้ที่บริสุทธิ์
และเหตุนี้เองลูกคือรูปของพ่อในทางปฏิบัติ พ่ออยู่ห่างจากลูกๆ
ผู้ที่ไม่เดินตามรอยเท้าพ่อ เพราะลูกๆ จะต้องเป็นเหมือนพ่ออย่างแน่นอน
กฎนี้กำลังได้รับการก่อตั้งขึ้นในเวลานี้และจะดำเนินต่อไปตั้งแต่ยุคทองจนถึงยุคเงิน
ที่นั่นพ่อเป็นเช่นไร ลูกก็เป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ในยุคทองแดงและยุคเหล็ก ลูกๆ
ไม่เป็นเหมือนพ่อของพวกเขา เวลานี้ ลูกๆ ต้องทำความพยายามที่จะกลายเป็นเช่นพ่อ
แต่นั่นเป็นกฎธรรมชาติ พ่อเป็นเช่นไร ลูกก็เป็นเช่นนั้น
พ่อพระเจ้ามาในทางปฏิบัติและก่อตั้งกฎที่เป็นนิรันดร์นี้ในยุคแห่งการบรรจบพบกัน
2)
ลูกสาวที่สูงส่งของคนสวนผู้น่ารักผู้ทำความพยายามที่แสนหวาน
เวลานี้ลูกต้องสนุกสนานและอ่อนหวานอย่างมากและทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกัน
การบรรลุกุญแจสู่ผู้มีอำนาจโลกในไม่กี่วินาทีและยังทำให้ผู้อื่นทำเช่นนี้ได้ในมือของลูก
ดูเถิด พระผู้ทรงอำนาจผู้ที่เป็นนายของชีวิตทั้งหมด
เวลานี้มาสู่สนามของการกระทำนี้ในทางปฏิบัติ และทั้งโลกก็กลายเป็นบ้านที่มีความสุข
ในเวลานี้ นายของชีวิตทั้งหมดกำลังทำให้โลกทำงานในวิธีการที่เป็นอะแวค
เมื่อท่านกลายเป็นชีวิตที่มีร่างในทางปฏิบัติและเข้ามาสู่สนามของการกระทำในฐานะเป็นนาย
และแล้วชีวิตทั้งหมดก็กลับมามีความสุขในยุคทองและยุคเงิน
ที่นั่นศาลแห่งสัจจะเปิดขึ้น
ผู้ที่ทำความพยายามที่จะบรรลุความสุขแห่งพระเจ้าจะได้รับความสุขที่นั่นอย่างต่อเนื่อง
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ได้รับการให้ทานแห่งความสุขในเวลานี้
ความพยายามที่ทำในเวลานี้จะได้รับรางวัล
ผู้ที่มีโยคะกับพระเจ้าจะได้รับการให้ทานแห่งความสุขอย่างสมบูรณ์จากพระเจ้า
3) โอ้!
ลูกคือชักตีคนเดียวกันกับที่แสดงให้เห็นสีแห่งความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณของลูก
ทำลายโลกที่เป็นเช่นปีศาจนี้ และกำลังก่อตั้งโลกที่สูงส่ง
และแล้วคำยกย่องของชักตีทั้งหมดก็ปรากฏออกมา
เวลานี้ลูกกำลังเต็มไปด้วยความเข้มแข็งนั้น
ลูกต้องรักษาพลังทางจิตวิญญาณและสถานะของตำแหน่งของลูกไว้อยู่เสมอ
และแล้วลูกจะมีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างสม่ำเสมอ
ลูกจะสดชื่นแจ่มใสอย่างสม่ำเสมอ ลูกควรจะมีความซาบซึ้งว่า "ฉันเป็นใคร?
ฉันเป็นของใคร? ฉันโชคดีแค่ไหน? สถานะของฉันยิ่งใหญ่เพียงใด!"
เวลานี้ลูกได้รับพลังอำนาจของตนเองและแล้วในยุคทองลูกจะกลายเป็นเจ้าชาย
ดังนั้นลูกควรจะความซาบซึ้งมากเพียงใด! มองดูโชคของลูกแล้วมีความสุข!
ดูที่โชคของลูกและจำนวนล็อตเตอรีที่ลูกได้รับจากสิ่งนั้นมากเพียงใด โอ้โห!
โชคของลูกสูงส่งมาก โชคที่ลูกได้รับล็อตเตอรีแห่งสวรรค์ ด้วยความเข้าใจ
ลูกดอกไม้เทพที่โชคดีที่สุด
4)
ในช่วงเวลาอันเป็นมงคลแห่งการบรรจบกันนี้
ดวงวิญญาณสูงสุดที่ไม่มีตัวตนมาในรูปที่มีตัวตนและเปิดโรงงานของพระเจ้าแห่งนี้
ซึ่งบุคคลใดก็ตามสามารถให้ฟางข้าวที่เสื่อมสลายและรับเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่เสื่อมสลาย
การซื้อเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่เสื่อมสลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากและลูกต้องซื้อสิ่งเหล่านี้ด้วยสติปัญญาของลูก
นี่ไม่ใช่สิ่งทางกายภาพใดๆที่ลูกสามารถมองเห็นได้ด้วยตาคู่นั้น
แต่เนื่องจากว่ามันละเอียดมาก ไม่มีตัวตน และถูกซ่อนไว้
จึงไม่มีใครสามารถขโมยมันไปจากลูกได้ ด้วยการรับสมบัติแห่งความรู้อันสูงส่งเช่นนั้น
สภาพของลูกก็อยู่อย่างเป็นอิสระจากความคิดอื่นใดและเต็มไปด้วยความสุขอย่างสมบูรณ์
จนกว่าจะมีคนซื้อเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่เสื่อมสลายเหล่านี้
ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถอยู่อย่างเป็นอิสระจากความกังวล ไม่มีความกังวล
และเป็นอิสระจากความคิดอื่นใด
ดังนั้นจงหารายได้เพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่เสื่อมสลายเหล่านี้ ค่อยๆ
ใส่สิ่งเหล่านั้นไว้ในตู้เก็บของสติปัญญาที่ละเอียดอ่อนของลูก
และอยู่อย่างปราศจากความกังวลใดๆ อย่างสม่ำเสมอ
ทรัพย์สมบัติที่เสื่อมสลายเต็มไปด้วยความทุกข์
ในขณะที่ความรู้อันมั่งคั่งที่ไม่เสื่อมสลายเต็มไปด้วยความสุข
5)
เช่นเดียวกับที่ดวงอาทิตย์ดึงน้ำจากมหาสมุทรและแล้วฝนก็ตกบนภูเขาสูง เช่นเดียวกัน
พระเจ้าได้ประพรมสิ่งนี้ลงมาโดยตรงด้วยเช่นกัน
ว่ากันว่าแม่น้ำคงคาไหลออกมาจากปรอยผมของชีวา เวลานี้
น้ำทิพย์แห่งความรู้ไหลผ่านปากดอกบัวของท่าน
ซึ่งถูกเรียกว่าการไหลของพระเจ้าที่ไม่เสื่อมสลาย
ซึ่งลูกได้กลายเป็นลูกของบากีราทที่บริสุทธิ์และเป็นอมตะ
นี่เป็นการรวมตัวที่ยอดเยี่ยมเพื่อทำให้ลูกเป็นมงกุฎบนศีรษะ
ชายหรือหญิงใดที่มาที่นี่จะกลายเป็นมงกุฎบนศีรษะ โลกนี้ถูกเรียกอีกอย่างว่า มันดลี
(การรวบรวม) มันดาล แปลว่าสถานที่ แล้วมันดลีนี้อยู่ที่ไหน? ในรูปของ "โอม"
นั่นคือในศาสนาดั้งเดิมของฉัน
ในขณะที่ทั้งโลกลืมศาสนาดั้งเดิมของตนและมั่นคงในศาสนาของวัตถุธาตุ
ลูกชักตีลืมวัตถุธาตุแล้ว และเวลานี้มั่นคงในศาสนาดั้งเดิมของลูก
6) ในโลกนี้
มนุษย์ทุกคนระลึกถึงพระเจ้าที่ไม่มีตัวตน
พวกเขามีความรักอันลึกซึ้งต่อผู้ที่พวกเขาไม่แม้กระทั่งเห็นด้วยตาของพวกเขาด้วยซ้ำที่พวกเขาพูดว่า:
"โอ พระเจ้า โปรดทำให้ฉันหลอมรวมอยู่ในท่าน!" อย่างไรก็ตาม
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่เมื่อพระเจ้ามาในรูปที่มีตัวตน
พวกเขาไม่รู้จักท่าน
ผู้เลื่อมใสศรัทธาพระเจ้าที่เต็มไปด้วยความรักพูดว่าไม่ว่าพวกเขาจะมองไปทางใดก็เห็นแต่ท่านเท่านั้น
แม้ว่าพวกเขาไม่เห็นท่าน
แต่พวกเขาก็รู้สึกด้วยโยคะแห่งสติปัญญาของพวกเขาว่าพระเจ้าสถิตอยู่ในทุกหนแห่ง
อย่างไรก็ตาม
ลูกพูดจากประสบการณ์ว่าพระเจ้าที่ไม่มีตัวตนท่านมาที่นี่ในรูปที่มีตัวตนในทางทางปฏิบัติ
เวลานี้ลูกสามารถมาและพบพ่อได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม แม้แต่ลูกๆ
ของพ่อบางคนก็ไม่รู้จักพระเจ้า พ่อ ในรูปที่มีตัวตน
พวกเขาพบว่าการไม่มีตัวตนนั้นอ่อนหวานอย่างมาก
แต่ถ้าพวกเขารับรู้ว่าผู้ไม่มีตัวตนนั้นซึ่งอยู่ที่นี่ในรูปที่มีตัวตนในทางปฏิบัติแล้ว
พวกเขาก็จะสามารถบรรลุได้อย่างมาก เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว
การได้มาซึ่งการบรรลุผลนั้นจะต้องผ่านผู้ที่มีตัวตน
ผู้ที่พิจารณาและมองเห็นพระเจ้าว่าไม่มีตัวตนและอยู่ห่างไกล
ผู้ที่ไม่มีการได้มาซึ่งการบรรลุผลใดๆ พวกเขาเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธา
พวกเขาไม่มีความรู้นี้ใดๆ ลูกๆผู้รู้ถึงพระภู่ปิตา(Prabhu Pita)ที่มีตัวตน
ผู้ที่เป็นดอกไม้ที่หอมหวานที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมแห่งคุณธรรมที่สูงส่งทั้งมวล
พวกเขายกมอบชีวิตแด่พระภู่ปิตา และเมื่อทำเช่นนี้แล้ว
พวกเขาก็ได้รับร่างกายอันสวยงามดุจเทพที่สูงส่งอย่างสมบูรณ์เป็นเวลาชาติแล้วชาติเล่า
7)
โดยการรู้จักตัวเอง ลูกจะสามารถแยกแยะระหว่างถูกและผิด จริงและเท็จ
ด้วยความรู้ของพระเจ้า ลูกพูดสัจจะ และดังนั้นจึงไม่สามารถมีอิทธิพลใดๆ
จากมิตรที่ไม่ดี มีเงาของมิตรที่ไม่ดีของผู้ที่ไม่มีความรู้ ในเวลานี้
ไม่ใช่โลกแห่งสัจจะ และเนื่องจากผู้คนไม่สามารถไว้วางใจใครให้รักษาคำพูดของเขาได้
พวกเขาจึงต้องการทุกสิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษร คำพูดของมนุษย์นั้น "ไม่มีสัจจะ"
หากพวกเขาเคยเป็นสัจจะ และแล้วคำพูดที่สูงส่งเหล่านี้ก็จะได้รับการกราบไหว้บูชา
เพียงดูว่าคำพูดที่สูงส่งที่เป็นสัจจะของพ่อที่สูงส่งได้รับการทำเป็นคัมภีร์อย่างไร
แม้กระทั่งทุกวันนี้สิ่งเหล่านั้นยังได้รับการจดจำและกราบไหว้บูชา
โดยการซึมซับคำพูดที่แท้จริงและสูงส่งเหล่านี้ ลูกก็พัฒนาคุณสมบัติของพระเจ้า
ไม่เพียงแค่นี้ ขณะที่ศึกษาสิ่งเหล่านี้
บางคนแม้กระทั่งมีนิมิตของศรีกฤษณะหรือบราห์มาอีกด้วย
8) โอ้โฮ!
หัวใจดอกบัวที่ศักดิ์สิทธิ์ มือดอกบัวที่ศักดิ์สิทธิ์
ลูกสาวราเด้ตาดอกบัวที่ศักดิ์สิทธิ์
ทั้งร่างกายของลูกถูกเปลี่ยนไปเป็นดอกบัวและร่างกายของลูกก็กลับมาบริสุทธิ์ -
บริสุทธิ์เหมือนดอกบัว อย่างไรก็ตาม เมื่อดวงวิญญาณบริสุทธิ์ก่อน
และแล้วทั้งร่างกายก็กลับมาบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน
และร่างกายดอกบัวที่ศักดิ์สิทธิ์ก็เต็มไปด้วยแรงดึงดูดอันลึกล้ำ ผ่านพระเจ้า
พ่อของลูก ลูกดับไฟแห่งความไม่รู้และปลุกการรู้แจ้งของความรู้ ลูกกลับมาเย็นมาก
ตัวลูกเองกลับมาเย็นและกลายเป็นเครื่องมือในเวลาของยุคบรรจบกันที่เป็นสิริมงคลเพื่อที่จะให้ทานความเย็นที่แท้จริงกับลูกอย่างทัดเทียม
แม้กระทั่งด้วยภาพที่ไม่มีชีวิตของลูก
โลกทั้งโลกยังคงได้รับการให้ทานของความเย็นและความสงบ
เวลานี้ลูกกำลังให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทั้งโลก ในที่สุด
ก็แสดงความสว่างอันสูงส่งของลูก ลูกจะไปและพักผ่อนในสวรรค์แห่งใหม่ สวนที่เป็นทอง
อัจฉะ
พร:
ขอให้เป็นดวงวิญญาณที่มีโชคผู้ที่ไขสมบัติทั้งหมดด้วยกุญแจของคำว่า "บาบา"
แม้ว่าลูกจะไม่สามารถรู้หรือพูดเกี่ยวกับรายละเอียดของความรู้ได้ เพียงแค่นำคำว่า "บาบา"
เข้าไปในหัวใจของลูกและบอกผู้อื่นเกี่ยวกับสิ่งนี้จากหัวใจของลูก
ลูกก็สามารถกลายเป็นดวงวิญญาณพิเศษได้ ในเบื้องหน้าโลก
ลูกกลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่และมีค่าควรแก่การยกย่อง เพราะคำเดียวที่ว่า "บาบา"
คือกุญแจสู่สมบัติและโชคทั้งหมด
วิธีที่จะใช้กุญแจคือการรู้สิ่งนี้ในหัวใจของลูกและยอมรับสิ่งนั้นด้วยหัวใจของลูก
พูดจากหัวใจว่า "บาบา" และสมบัติก็จะปรากฏอย่างสม่ำเสมอ
คติพจน์:
ลูกมีความรักต่อบัพดาดา และดังนั้น ด้วยความรัก จงสังเวยโลกเก่า