24.09.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกจะได้รับรายได้ตามช่วงเวลาที่ลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ
ด้วยการมีการจดจำระลึกถึงนี้ที่ลูกจะเข้ามาใกล้ชิดกับพ่ออย่างต่อเนื่อง
คำถาม:
ลูกๆที่ไม่สามารถอยู่ในการจดจำระลึกถึงจะรู้สึกละอายใจในประเด็นใด?
คำตอบ:
พวกเขารู้สึกละอายใจมากที่จะเก็บบันทึกชาร์ทของการจดจำระลึกถึง
พวกเขาสงสัยว่าบาบาจะพูดว่าอย่างไรถ้าพวกเขาเขียนความจริง
อย่างไรก็ตามหากลูกๆเฝ้าแต่เขียนชาร์ทของลูกอย่างซื่อสัตย์
ก็จะมีประโยชน์ในสิ่งนี้สำหรับลูก มีประโยชน์อย่างมากในการเขียนชาร์ท บาบาพูดว่า
ลูกๆ อย่าได้รู้สึกละอายที่จะทำสิ่งนี้
โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ลูกๆมาที่นี่แต่เนิ่นก่อนเวลา 15
นาทีและนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อ เวลานี้ลูกไม่มีสิ่งใดอื่นที่จะทำที่นี่
ลูกมาเพื่อนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อ ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกไม่มีคำแนะนำของพ่อ ที่นี่ลูกได้รับคำแนะนำของพ่อแล้ว พ่อพูดว่า
จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น ฉันคือ พ่อของลูกๆทั้งหมด ด้วยการจดจำพ่อ
ลูกจะจดจำมรดกของลูกได้โดยอัตโนมัติ ลูกไม่ใช่เด็กทารก แม้ว่าลูกจะเขียนว่าลูกอายุ
5 เดือนหรือ 2 เดือน อวัยวะทางร่างกายของลูกก็ใหญ่โต
พ่อทางจิตอธิบายว่าลูกต้องนั่งที่นี่ในการจดจำระลึกถึงพ่อและมรดก
ลูกรู้ว่าเวลานี้ลูกกำลังไม่ว่างอยู่ในการทำความเพียรพยายามที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นนารายณ์และลูกกำลังทำความเพียรพยายามที่จะไปสวรรค์
ดังนั้นลูกๆควรจะจดลงไปว่าลูกได้จดจำบาบานานแค่ไหนในขณะที่นั่งที่นี่
เมื่อลูกเขียนชาร์ทของลูก พ่อก็จะเข้าใจ
ไม่ใช่ว่าพ่อรู้ว่าลูกแต่ละคนอยู่ในการจดจำระลึกถึงนานแค่ไหน
จากชาร์ทของลูกเท่านั้นที่ลูกจะสามารถเข้าใจว่าลูกได้อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อหรือไม่หรือว่าสติปัญญาของลูกนั้นเร่ร่อนไปในทิศทางอื่น
นอกจากนี้ยังอยู่ในสติปัญญาของลูกด้วยเช่นกันว่าเวลานี้บาบาจะมาและสิ่งนี้คือการจดจำระลึกถึงด้วย
ลูกจดจำท่านเป็นเวลายาวนานแค่ไหน? ลูกควรจะเขียนสิ่งนี้ในชาร์ทของลูกอย่างซื่อสัตย์
โดยการเขียนสิ่งที่เป็นเท็จ ลูกก็จะสะสมบาป 100 เท่าและจะมีการสูญเสียมากขึ้น
ดังนั้นลูกต้องเขียนความจริง ยิ่งลูกจดจำพ่อมากเท่าไร
บาปของลูกก็จะยิ่งได้รับการปลดเปลื้องมากเท่านั้น
และลูกรู้ว่าลูกจะเข้ามาใกล้บาบามากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดเมื่อการจดจำระลึกถึงของลูกจบลง ลูกก็จะไปหาบาบา
และแล้วบางคนก็จะลงมาอย่างเร็วเพื่อเล่นบทบาทของเขาในโลกใหม่และคนอื่นๆก็จะนั่งอยู่ที่นั่นต่อไป
ลูกจะไม่มีความคิดอื่นใดที่นั่น
นั่นคือดินแดนแห่งการหลุดพ้นที่ลูกอยู่เหนือความทุกข์และความสุข
เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามเพื่อไปสู่ดินแดนแห่งความสุข
ยิ่งลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงมากเท่าไร
บาปของลูกก็จะได้รับการปลดเปลื้องมากเท่านั้น ด้วยการเก็บชาร์ทของการจดจำระลึกถึง
ลูกก็จะสามารถซึมซับความรู้ได้ดี มีเพียงคุณประโยชน์เท่านั้นในการบันทึกชาร์ท
บาบารู้ดีว่าเป็นเพราะลูกไม่ได้อยู่ในการจดจำระลึกถึงที่ลูกรู้สึกละอายใจที่จะเขียนชาร์ทของลูก
“บาบาจะพูดว่าอย่างไร? บางทีท่านอาจจะบอกให้ทุกคนในมุรลี” พ่อพูดว่า
ไม่มีเรื่องของการละอายใจเกี่ยวกับสิ่งนี้
ลูกแต่ละคนรู้อยู่ในหัวใจของลูกว่าลูกมีการจดจำระลึกถึงหรือไม่
พ่อผู้ให้คุณประโยชน์อธิบายว่า หากลูกจดบันทึกชาร์ทของลูกก็จะมีคุณประโยชน์
ในขณะที่ลูกนั่งอยู่ที่นี่เพื่อรอบาบามา, ชาร์ทของการจดจำระลึกถึงของลูกเป็นเช่นไร?
ลูกควรจะเห็นความแตกต่าง บางคนผู้ที่เป็นที่รักก็ได้รับการจดจำอย่างมากมาย
เมื่อกุมารและกุมารีนั้นหมั้นหมายกัน
การจดจำระลึกถึงกันและกันก็อยู่ในหัวใจของพวกเขา
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นกันพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาได้หมั้นหมายกันแล้ว
และหลังจากแต่งงานกันแล้วการจดจำระลึกถึงก็กลับมามั่นคง
เวลานี้ลูกๆเข้าใจว่าชีพบาบาคือพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดของลูก แม้ว่าลูกไม่เคยเห็นท่าน
ลูกก็สามารถเข้าใจท่านด้วยสติปัญญาของลูก โอเค หากพ่อนั้นอยู่เหนือรูปและนาม
และแล้วเหตุใดลูกจึงกราบไหว้บูชาท่าน? เหตุใดลูกจึงจดจำท่าน?
ไม่มีสิ่งใดที่อยู่เหนือรูปหรือนามหรือสิ่งที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะสามารถคงอยู่ได้
แน่นอนสิ่งที่มองเห็นได้จึงเป็นสิ่งที่พูดถึงได้
ลูกสามารถเห็นท้องฟ้าและดังนั้นลูกไม่สามารถพูดได้ว่าท้องฟ้าไม่มีที่สิ้นสุด
ผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจดจำพระเจ้าและพูดว่า โอ้ พระเจ้า!
ดังนั้นลูกไม่สามารถเรียกท่านว่าไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการพูดว่า “โอ้ พระเจ้า”
ลูกจะจดจำท่านได้ในทันที และดังนั้นท่านมีอยู่จริงอย่างแน่นอน
ดวงวิญญาณสามารถเข้าใจได้ ดวงวิญญาณไม่สามารถมองเห็นได้
มีเพียงพ่อเดียวของดวงวิญญาณทั้งหมดเท่านั้นและลูกต้องรู้จักท่านด้วยเช่นกัน
ลูกๆรู้ว่าพ่อมาและสอนลูก ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้ว่าท่านสอนลูกด้วยเช่นกัน
พวกเขาได้ใส่ชื่อของศรีกฤษณะไว้ในกีตะ ศรีกฤษณะสามารถมองเห็นได้ผ่านตาเหล่านี้
ลูกไม่สามารถพูดถึงเขาว่าเขาอยู่เหนือรูปและนามหรือไม่มีที่สิ้นสุด
ศรีกฤษณะจะไม่เคยพูดว่า จดจำฉันผู้เดียวเท่านั้น เขาอยู่เบื้องหน้าลูก
เขาไม่สามารถถูกเรียกว่าบาบาเช่นกัน
ผู้เป็นแม่คิดว่าศรีกฤษณะนั้นเป็นเด็กทารกและทำให้ศรีกฤษณะ(รูปบูชาของศรีกฤษณะ)นั่งอยู่ในตักของพวกเธอ
ในวันเกิดของศรีกฤษณะพวกเขาก็แกว่งศรีกฤษณะในเปล
ศรีกฤษณะนั้นจะอยู่อย่างเป็นเด็กเล็กๆเสมอหรือ?
ได้มีการแสดงว่าเขากำลังร่ายรำและดังนั้นเขาได้เติบโตขึ้นเล็กน้อยอย่างแน่นอน
ไม่ว่าเขาจะโตขึ้น, เกิดอะไรขึ้นกับเขา, หรือเขาไปที่ไหนก็ไม่มีใครรู้
เขาจะไม่มีร่างกายที่เล็กอยู่เสมอไป ผู้คนไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้เลย
ระบบของการกราบไหว้บูชานี้ ฯลฯ ได้ดำเนินต่อไป
ไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่มีความรู้ใดๆ
พวกเขาได้แสดงว่าศรีกฤษณะถือกำเนิดในดินแดนของคันส์ซึ่งเป็นราชาที่เป็นปีศาจ
เวลานี้ไม่มีเรื่องของดินแดนของคันส์ซึ่งเป็นราชาปีศาจ
ไม่มีใครคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้
ผู้เลื่อมใสศรัทธาพูดว่าศรีกฤษณะปรากฏอยู่ในทุกหนแห่งแล้วพวกเขาก็อาบน้ำให้ศรีกฤษณะและป้อนอาหารให้เขาด้วยเช่นกัน
เวลานี้เขา(รูปบูชาของกฤษณะ)ไม่ได้รับประทานสิ่งใด
พวกเขาได้วางอาหารทั้งหมดไว้เบื้องหน้ารูปปั้นของศรีกฤษณะ
แต่เขาก็ไม่รับประทานสิ่งนั้น นั่นเป็นหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน
พวกเขาได้ออฟเฟอร์โบ๊คมากมายที่วัดศรีนาถ แต่ศรีกฤษณะก็ไม่ได้รับประทานสิ่งใด
ผู้ที่ออฟเฟอร์สิ่งนั้นก็รับประทานสิ่งนั้นเอง!
พวกเขาทำสิ่งเดียวกันในการกราบไหว้บูชาเทพเจ้า พวกเขาทำรูปบูชาของเหล่าเทพเจ้า
ทำการสักการะบูชาและแล้วก็นำรูปบูชาเหล่านั้นไปจมน้ำ
พวกเขาได้เอาเครื่องประดับออกจากรูปบูชาและแล้วนำรูปบูชาไปจมน้ำ
จากนั้นผู้คนมากมายที่นั่นก็มาฉวยเอาไปสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาสามารถคว้าไปได้
เป็นเทพเจ้าที่ได้รับการกราบไหว้บูชามากที่สุด
พวกเขาทำรูปบูชาของทั้งลักษมีและดูรกา แม่อาวุโสก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
เธอได้ชื่อว่าพรหมบุตร(ลูกของบราห์มา)
ลูกก็จะเข้าใจว่าพวกเขากราบไหว้บูชารูปของเธอของชาติเกิดนี้และรูปของเธอในอนาคต
นี่คือละครที่มหัศจรรย์ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถกล่าวไว้ในคัมภีร์ได้
นี่คือกิจกรรมในทางปฏิบัติ เวลานี้ลูกๆมีความรู้
ลูกเข้าใจว่าภาพลักษณ์ส่วนใหญ่ที่ได้มีการสร้างขึ้นนั้นเป็นภาพลักษณ์ของดวงวิญญาณ
เมื่อได้มีการสร้างไฟบูชายัญของรูดร้า ก็ได้มีการทำซาลิแกรมนับแสนขึ้น
พวกเขาไม่เคยทำภาพลักษณ์ของเทพเจ้านับแสน อย่างไรก็ตาม มีผู้กราบไหว้บูชามากมาย
พวกเขาก็จะทำรูปบูชาของเหล่าเทพเจ้า ในขณะที่พวกเขาทำซาลิแกรมนับแสนในเวลาเดียวกัน
พวกเขาไม่กำหนดวันที่และไม่ได้มีช่วงเวลาที่เป็นสิริมงคลสำหรับสิ่งนั้น
อย่างไรก็ตามพวกเขากำหนดเวลาแน่นอนสำหรับการสักการะบูชาเทพเจ้า
เมื่อนักธุรกิจมีความคิดที่จะสร้างไฟบูชายัญของรูดร้าและซาลิแกรม
เขาก็จะเชิญพราหมณ์ พ่อผู้เดียวที่ถูกเรียกว่ารูดร้า
พร้อมกันกับรูดร้าพวกเขาก็สร้างซาลิแกรมมากมาย
นักธุรกิจเหล่านั้นจะบอกให้พวกเขาสร้างจำนวนที่แน่นอนของซาลิแกรม
แต่พวกเขาก็ไม่มีกำหนดเวลาหรือวันที่สำหรับสิ่งนั้น
ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสักการบูชารูดร้าในชีพแจนตี ไม่เลย
โดยทั่วไปแล้วพวกเขากำหนดให้วันพฤหัสบดีเป็นวันที่เป็นสิริมงคล ในเทศกาลดีพมาลา
พวกเขาก็วางรูปบูชาของลักษมีไว้บนถาด สักการะบูชาและแล้ววางเก็บไว้
นั่นก็ถูกเรียกว่ามหาลักษมี รูปที่เป็นคู่ ผู้คนไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
ลักษมีจะได้รับเงินมาจากที่ไหน? เธอต้องการคู่ครอง
ลักษมีและนารายณ์นี้เป็นคู่กันและพวกเขาได้ให้ชื่อว่ามหาลักษมี
เทพเจ้าทั้งหลายนั้นเข้ามาปรากฏตัวเมื่อใด? มหาลักษมีมีชีวิตอยู่เมื่อใด?
ผู้คนไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้เลย เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก
แม้แต่ลูกทุกคนก็ไม่อาจดูดซับสิ่งเหล่านี้ได้ในระดับเดียวกัน
บาบาอธิบายอย่างมากและแล้วก็ถามว่า ลูกจดจำชีพบาบาหรือไม่? ลูกจดจำมรดกหรือไม่?
นี่คือสิ่งหลัก พวกเขาได้สูญเสียเงินเป็นอย่างมากในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ที่นี่ไม่มีแม้แต่สตางค์เดียวของลูกที่สูญเปล่า
ลูกทำงานรับใช้เพื่อที่จะกลับมามีเงินเพียงพอ
ผู้คนใช้เงินจำนวนมากในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา และพวกเขาก็กลับมาสิ้นเนื้อประดาตัว
ทุกสิ่งได้กลายเป็นฝุ่นฝุ่น มีความแตกต่างมากมาย ไม่ว่าลูกจะทำอะไรในเวลานี้
ลูกให้แก่ชีพบาบาเพื่องานรับใช้ของพระเจ้า ชีพบาบาไม่ได้รับประทานสิ่งใดเลย
ลูกรับประทานสิ่งนั้น ลูกๆ บราห์มินคือผู้ดูแลผลประโยชน์ที่อยู่ตรงกลาง
ลูกไม่ได้ให้สิ่งใดแก่บราห์มา ลูกให้แก่ชีพบาบา บางคนพูดว่า บาบาฉันซื้อผ้าคลุม(โดติ)และเสื้อเชิ้ตมาให้ท่าน
บาบาพูดว่า ลูกจะไม่ได้สะสมสิ่งใดเลยด้วยการให้แก่ผู้นี้
ลูกจะสะสมเมื่อลูกให้แก่ผู้นี้โดยการจดจำระลึกถึงชีพบาบาเท่านั้น
ลูกรู้ด้วยเช่นกันว่าบราห์มินนั้นได้รับการหล่อเลี้ยงจากคลังสมบัติของชีพบาบา
ไม่มีความจำเป็นต้องถามบาบาว่าลูกควรจะส่งอะไรมา ท่านจะไม่รับสิ่งใด
ลูกจะไม่สะสมสิ่งใดด้วยการจดจำบราห์มา
บราห์มาเองนั้นก็ต้องรับจากคลังสมบัติของชีพบาบา ดังนั้นท่านจะจดจำชีพบาบาเท่านั้น
เหตุใดท่านจึงจะรับสิ่งใดๆจากลูกเล่า? เป็นสิ่งผิดที่จะให้แก่ B.K.
บาบาได้อธิบายแล้วว่าหากลูกรับบางสิ่งจากใครและสวมใส่สิ่งนั้น
ลูกก็จะเฝ้าแต่จดจำบุคคลนั้นตลอดเวลา หากเป็นสิ่งเล็กๆ นั่นก็ไม่เป็นไร
แต่หากเป็นบางสิ่งที่ดีมาก และแล้วนั่นก็จะทำให้ลูกนึกถึงบุคคลนั้นมากยิ่งขึ้น “คนนั้นคนนี้ให้สิ่งนี้กับฉัน”
พวกเขาไม่ได้สะสมสิ่งใดเลย นั่นได้กลายเป็นการสูญเสีย ชีพบาบาพูดว่า
จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น พ่อไม่มีความต้องการเสื้อผ้า ฯลฯ เป็นลูกๆ
ที่ต้องการเสื้อผ้า ฯลฯ และพวกเขาจะได้รับสิ่งนั้นจากคลังสมบัติของชีพบาบา
พ่อไม่มีร่างของพ่อเอง ผู้นี้มีสิทธิ์ที่จะได้รับจากคลังสมบัติของชีพบาบา
เขามีสิทธิ์ในอาณาจักรด้วยเช่นกัน ลูกๆกินและดื่มในบ้านของพ่อ
ลูกทำงานรับใช้และหารายได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งลูกทำงานรับใช้มากเท่าไร
ลูกก็จะยิ่งหารายได้มากขึ้นเท่านั้น ลูกกินและดื่มจากจากคลังสมบัติของชีพบาบา
หากลูกไม่ให้แก่ท่าน ลูกก็ไม่ได้สะสมสิ่งใดเลย ลูกต้องให้แก่ชีพบาบาเท่านั้น
บาบาผ่านท่านที่เราจะกลายเป็นผู้ที่มีโชคหลายล้านเท่าสำหรับอนาคตเป็นเวลา 21
ชาติเกิดของเรา เงินของเราจะหมดสิ้น ดังนั้น เราจะให้แก่ผู้เดียวที่ทรงพลัง
พ่อทรงพลัง ท่านให้ทุกสิ่งแก่ลูกสำหรับ 21 ชาติเกิด ผู้คนให้ทางอ้อมในนามของพระเจ้า
ไม่มีพลังมากนักในการให้บางสิ่งทางอ้อม
เวลานี้ลูกได้รับพลังอย่างมากเนื่องจากท่านอยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัว
เวลานี้ที่ผู้ทรงพลังอำนาจของโลกนั้นคงอยู่ เมื่อลูกให้ทานบางสิ่งในนามของพระเจ้า
ลูกจะได้รับบางสิ่งเป็นการตอบแทนเป็นระยะเวลาชั่วคราว
ที่นี่พ่ออธิบายแก่ลูกว่าท่านอยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัวและท่านคือผู้เดียวที่ให้ทุกสิ่ง
ผู้นี้ให้ทุกสิ่งแก่ชีพบาบาด้วยเช่นกันและได้รับอาณาจักรของทั้งโลกเป็นการตอบแทน
ลูกก็รู้เช่นกันว่ามีนิมิตของรูปที่อะแวคผ่านรูปที่มีตัวตนนี้
ชีพบาบาเข้ามาในผู้นี้และพูดกับลูกๆ ลูกไม่ควรมีความคิดใดๆว่าอยากได้อะไรจากมนุษย์
บอกพวกเขาว่า ส่งสิ่งนั้นไปที่คลังสมบัติของชีพบาบา
ลูกจะไม่ได้รับอะไรตอบแทนด้วยการให้แก่ผู้นี้ ลูกจะสูญเสียมากยิ่งขึ้น
หากใครบางคนยากจน บางทีเขาก็อาจจะให้บางสิ่งที่มีค่าสามถึงสี่รูปี
หากเขาจะนำสิ่งนั้นไปใส่ไว้ในคลังสมบัติของชีพบาบา เขาก็จะสะสมหลายล้าน
ลูกต้องไม่ทำให้เกิดการสูญเสียแก่ตนเอง
โดยทั่วไปแล้วเป็นเทพธิดาที่ได้รับการกราบไหว้บูชา
เนื่องจากลูกๆเทพธิดาทั้งหลายได้กลายเป็นเครื่องมือที่จะให้ความรู้นี้แก่ผู้อื่น
แม้ว่าบราเธอร์จะอธิบายด้วยเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้วก็เป็นผู้เป็นแม่ที่ได้กลายเป็นครูและชี้หนทางนี้แก่ผู้อื่น
เหตุนี้เองเทพธิดาจึงได้รับการจดจำมากกว่า เทพธิดาได้รับการกราบไหว้บูชาอย่างมาก
ลูกๆก็เข้าใจด้วยเช่นกันว่าลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเป็นเวลาครึ่งจร
ในตอนแรกลูกเคยมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาอย่างเต็มที่
และแล้วเนื่องจากลูกได้สูญเสียไป 2 องศา
ลูกจึงกลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเพียงครึ่งหนึ่ง
ยุคเงินเรียกว่าราชวงศ์ของราม
พวกเขาพูดถึงหลายแสนปีและดังนั้นจึงไม่มีอะไรสามารถคำนวณได้
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืนระหว่างสติปัญญาของลูกๆและสติปัญญาของผู้คนในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกมีสติปัญญาของพระเจ้าในขณะที่พวกเขามีสติปัญญาที่เป็นเช่นปีศาจ
มันอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าทั้งวงจรเป็นเวลา 5000 ปีและวงจรนี้ก็หมุนต่อไปเรื่อยๆ
ผู้คนที่อยู่ในเวลากลางคืนก็พูดว่าเป็นหลายแสนปีและผู้ที่อยู่ในเวลากลางวันก็พูดว่าเป็น
5000 ปี เป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกได้ยินเรื่องราวที่ผิดๆในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
สิ่งต่างๆเช่นนั้นไม่ได้คงอยู่ในยุคทอง ที่นั่นลูกได้รับมรดกของลูก
เวลานี้ลูกได้รับคำสอนโดยตรง นี่คือศรีมัทภควัตคีตา คำว่า “ศรีมัท”
นั้นไม่ได้กล่าวถึงในคัมภีร์อื่นใด ยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ยุคแห่งกีตะนี้ มาทุกๆ 5000 ปี ไม่สามารถมีเรื่องของหลายแสนปีได้
อธิบายยุคบรรจบพบกันแก่ใครก็ตามที่มา พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดได้ให้คำแนะนำของผู้สร้าง
นั่นคือ คำแนะนำของตัวท่านเองและสิ่งสร้างของท่านแก่ลูก แม้กระนั้นท่านก็พูดว่า
อัจชะ, จดจำพ่อ! หากลูกไม่สามารถซึมซับความรู้
เพียงแต่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์
ลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อและดังนั้นลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน
อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะสะสมรายได้หลายล้านเป็นเวลา 21 ชาติเกิด,
ใช้ทุกสิ่งที่ลูกมีโดยตรงในทางที่มีค่าเพื่องานรับใช้ของพระเจ้า
กลายเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ และทำงานรับใช้ในนามของชีพบาบา
2.
ตรวจสอบดูว่าสติปัญญาของลูกไปที่ไหนในขณะที่ลูกกำลังนั่งในการจดจำระลึกถึง
เก็บบันทึกที่แท้จริงของการจดจำระลึกถึงของลูก
เพื่อที่จะกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อและมรดก
พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณพิเศษผู้ที่เคลื่อนออกไปจากโลกแห่งการลืม
และเล่นบทบาทของนักแสดงเอก(ฮีโร่)อย่างเป็นตัวของการจดจำระลึกถึง
ยุคบรรจบพบกันนี้คือยุคของการตระหนักรู้ ในขณะที่ยุคเหล็กคือยุคของการลืม
เวลานี้ลูกทั้งหมดได้เคลื่อนออกมาจากโลกแห่งการลืมแล้ว
ผู้ที่เป็นตัวของการจดจำระลึกถึงคือดวงวิญญาณพิเศษผู้เล่นบทบาทพิเศษ
ในเวลานี้ลูกคือฮีโร่ทั้งสอง ประการแรก ลูกได้กลับมามีคุณค่าเช่นเพชร
และประการที่สอง ลูกมีบทบาทนักแสดงเอก ดังนั้น เล่นเพลงนี้อยู่ในหัวใจอย่างสม่ำเสมอ
ว้า โชคที่สูงส่งของฉัน! เช่นที่ลูกจดจำอาชีพทางร่างกายของลูก
ในทำนองเดียวกันจดจำอาชีพที่ไม่สูญสลายของลูก “ฉันเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่ง”
และแล้วลูกก็จะถูกเรียกว่าดวงวิญญาณพิเศษ
คติพจน์:
ก้าวไปหนึ่งก้าวด้วยความกล้าหาญ และลูกจะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากพ่อ