27.06.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ลูกต้องแยกจากร่างกายของลูกและไปหาพ่อ ลูกจะไม่นำร่างของลูกไปกับลูก
ดังนั้นจงลืมร่างและเห็นดวงวิญญาณ
คำถาม:
เหตุใดลูกๆจึงทำความเพียรพยายามเพื่อที่จะเพิ่มช่วงชีวิตของลูกด้วยพลังโยคะ?
คำตอบ:
เพราะความปรารถนาในหัวใจของลูกคือการเรียนรู้ทุกสิ่งจากพ่อในชาติเกิดนี้
ลูกต้องการที่จะได้ยินทุกสิ่งจากพ่อ
และเหตุนี้เองลูกจึงทำความเพียรพยายามเพื่อเพิ่มช่วงชีวิตของลูกด้วยพลังโยคะ
เพียงในเวลานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับความรักจากพ่อ
ลูกไม่สามารถได้รับความรักเช่นนั้นตลอดทั้งวงจร
ลูกจะพูดถึงผู้ที่ละร่างของพวกเขาและจากไปว่า นั่นอยู่ในละคร
บทบาทของพวกเขามีมากแค่นั้น
โอมชานติ
ลูกๆเคยไปที่ชุมนุมทางจิตอื่นๆมาชาติแล้วชาติเล่าและมาที่นี่เช่นกัน
ในความเป็นจริงสิ่งนี้เรียกว่าชุมนุมทางจิต(สัตซัง) มิตรแห่งสัจจะพาลูกข้ามฟาก
สิ่งนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของลูกว่าก่อนหน้านี้ลูกเคยไปยังชุมนุมทางจิตในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
และเวลานี้เรากำลังนั่งที่นี่ เรารู้สึกว่ามีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน
ที่นี่ก่อนอื่นใดลูกได้รับความรักของพ่อ และพ่อก็ได้รับความรักของลูกๆ
เวลานี้ในชาติเกิดนี้ลูกกำลังเปลี่ยนแปลง เวลานี้ลูกๆเข้าใจแล้วว่า
ลูกคือดวงวิญญาณไม่ใช่ร่างกาย ร่างกายจะไม่พูดว่านี่คือ “ดวงวิญญาณของฉัน”
ดวงวิญญาณสามารถพูดว่า “นี่คือร่างกายของฉัน”
ลูกๆเข้าใจว่าลูกเคยยอมรับดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่
ผู้รู้และผู้เคร่งศาสนามาชาติแล้วชาติเล่า
ทุกวันนี้พวกเขามีแฟชั่นของบาบาที่แตกต่างกัน เช่น “ไสยบาบา” “เมฮาร์บาบา”
พวกเขาทั้งหมดนั้นคือผู้ที่มีร่างกายเช่นกัน
ไม่สามารถมีความสุขใดด้วยความรักทางร่าง ความรักที่ลูกๆมีคือทางจิต
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน ที่นี่ลูกได้รับความเข้าใจ ในขณะที่ที่นั่น
ลูกนั้นไม่รู้คิดอย่างแท้จริง เวลานี้ลูกเข้าใจว่าบาบามาและสอนลูก
ท่านคือพ่อของทุกคน ลูกทั้งหมดทั้งชายและหญิงก็พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
บาบาเรียกลูก โอ ลูกๆ! ลูกๆก็จะตอบรับเช่นกัน นี่คือการพบปะของพ่อกับลูก
ลูกๆรู้ว่าการพบปะนี้ของพ่อกับลูกๆ,ของดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุดซึ่งเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ลูกๆเฝ้าแต่พูดว่า “บาบา บาบา” คำว่า “บาบา” นั้นหวานชื่นมาก ด้วยการพูดว่า “บาบา”
ลูกก็จดจำมรดกของลูก ลูกไม่ได้เป็นเด็กเล็กๆอีกต่อไป
เด็กๆก็เข้าใจได้ว่าใครคือพ่อของพวกเขาอย่างรวดเร็วมาก
พวกเขาเข้าใจเช่นกันว่าพวกเขาได้รับมรดกใดจากพ่อของพวกเขา
เด็กเล็กๆไม่สามารถเข้าใจสิ่งนั้น ที่นี่ลูกเข้าใจว่าลูกได้มาหาบาบา พ่อพูดว่า โอ
ลูกๆ! และลูกๆทั้งหมดก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
ดวงวิญญาณทั้งหมดมาที่นี่จากบ้านเพื่อเล่นบทบาทของพวกเขา
ลูกมีสิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่าใครมาในเวลาใดเพื่อเล่นบทบาทของพวกเขา
พวกเขาทั้งหมดมาจากสัดส่วนของตนเอง
และแล้วในเวลาสุดท้ายทุกคนก็จะกลับไปสู่สัดส่วนของพวกเขาเอง
ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร พ่อไม่ได้ส่งใครลงมา
มีการสร้างสิ่งนี้ขึ้นในละครโดยอัตโนมัติ แต่ละคนเฝ้าแต่ลงมาสู่ศาสนาของตนเอง
หากศาสนาพุทธยังไม่มีการก่อตั้งขึ้น ก็จะไม่มีใครในศาสนานั้นจะลงมา
เริ่มแรกเป็นเพียงผู้คนของสุริยะวงศ์และจันทราวงศ์เท่านั้นที่ลงมา
ผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนอย่างดีมากกับพ่อคือผู้ที่จะมาตามลำดับกันไปสู่สุริยวงศ์และจันทราวงศ์และรับร่างกายมาใช้
ไม่มีเรื่องของกิเลสที่นั่น ดวงวิญญาณมาและเข้าไปในครรภ์ด้วยพลังโยคะ
จากสิ่งนี้ที่ลูกจะเข้าใจว่าลูกดวงวิญญาณจะไปและเข้าไปในร่างกาย
ผู้ที่แก่ชรานั้นก็เข้าใจว่าดวงวิญญาณจะไปและใช้อีกร่างหนึ่งด้วยพลังโยคะ
ฉันดวงวิญญาณจะใช้ชาติเกิดใหม่อีกครั้งในเวลานี้ พ่อก็เข้าใจด้วยเช่นกันว่า
ลูกได้มาหาพ่อ ดวงวิญญาณของลูกกำลังมาและพวกเขามีนิมิตของสิ่งนั้น
ดวงวิญญาณเข้าใจว่าเขาจะไปและเข้าไปอีกร่างหนึ่ง ความคิดเหล่านี้เกิดขึ้น
จะมีกฎที่นั่นอย่างแน่นอนเกี่ยวกับอายุที่พวกเขาจะมีลูก
ทุกสิ่งที่นั่นมีการทำงานบนพื้นฐานที่มีความสม่ำเสมอมาก
ลูกจะรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นทั้งหมดเมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป ลูกจะรู้ทุกสิ่ง
ที่นั่นจะไม่เป็นเหมือนกับที่นี่ ที่ซึ่งเด็กๆอายุ 15-20 ปีก็ให้กำเนิดลูก ไม่เลย
ที่นั่นช่วงอายุขัย คือ 150 ปี
ดังนั้นพวกเขามีลูกเมื่อพวกเขามีอายุใกล้ถึงครึ่งหนึ่งของช่วงชีวิตของพวกเขา
พวกเขามีลูกในเวลานั้น เพราะช่วงชีวิตที่นั่นยืนยาว
ถึงอย่างไรพวกเขาก็มีลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น และจากนั้นพวกเขาก็มีลูกสาวหนึ่งคน
นั่นคือกฎ เริ่มแรกดวงวิญญาณบุตรชายจะมาก่อน หลังจากนั้นดวงวิญญาณของบุตรสาวก็จะมา
พูดอย่างมีเหตุผลว่า บุตรชายต้องมาก่อน เป็นผู้ชายก่อนแล้วผู้หญิงก็จะตามมาในเวลา
8-10 ปีหลังจากนั้น เมื่อลูกๆก้าวหน้าต่อไปลูกจะมีนิมิตของทุกสิ่ง
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก ว่าขนบธรรมเนียมประเพณีทั้งหมดของโลกใหม่จะเป็นเช่นไร
เพียงพ่อเท่านั้นที่ก่อตั้งโลกใหม่
ท่านจะเฝ้าแต่บอกลูกถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างแน่นอน
เมื่อลูกก้าวหน้าต่อไปท่านจะบอกลูกถึงสิ่งต่างๆมากมาย แล้วลูกก็จะมีนิมิต เด็กๆ
ถือกำเนิดที่นั่นอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องใหม่
ลูกกำลังจะไปสู่สถานที่เช่นนั้นที่ซึ่งลูกต้องไปทุกๆวงจร
เวลานี้ดินแดนสุขาวดีได้ใกล้เข้ามาแล้ว เวลานี้ลูกเข้ามาใกล้อย่างมาก
ยิ่งลูกกลับมาเข้มแข็งในความรู้และโยคะมากเท่าไหร่
ลูกก็จะเห็นทุกสิ่งอย่างใกล้ชิดมากเท่านั้น
ลูกได้เล่นบทบาทนี้มาแล้วมากมายหลายครั้ง
เวลานี้ลูกได้รับความเข้าใจซึ่งลูกจะนำกลับไปกับลูก
ลูกจะรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีที่นั่นจะเป็นเช่นไร
ในตอนเริ่มต้นลูกมีนิมิตของทุกสิ่ง ในเวลานั้นลูกยังคงศึกษาอัลฟ่า เบต้า
ในเวลาสุดท้ายด้วย ลูกต้องมีนิมิตอย่างแน่นอน พ่อนั่งที่นี่และบอกลูกถึงทั้งหมดนั้น
เป็นที่นี่ที่ลูกมีความปรารถนาที่จะเห็นทั้งหมดนั้น
ลูกรู้สึกว่าลูกต้องไม่จากร่างของลูกที่นี่
และลูกต้องการที่จะไปหลังจากที่ได้เห็นทุกสิ่งแล้ว
สำหรับสิ่งนี้ในการที่จะเพิ่มช่วงชีวิตของลูก
ลูกจำเป็นต้องมีพลังโยคะเพื่อที่ลูกจะสามารถได้ยินทุกสิ่งจากพ่อและเห็นทุกสิ่งด้วยเช่นกัน
ลูกต้องไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับผู้ที่ได้จากไปแล้ว นั่นคือบทบาทของพวกเขาในละคร
ไม่ได้อยู่ในโชคของพวกเขาที่จะได้รับความรักอย่างมากมายจากพ่อ
เพราะยิ่งลูกเฝ้าแต่ทำงานรับใช้มากเท่าไหร่ ลูกก็เป็นที่รักของพ่อมากเท่านั้น
ยิ่งลูกทำงานรับใช้มากเท่าไหร่และยิ่งลูกจดจำพ่อมากเท่าไหร่
การจดจำระลึกถึงก็จะกลับมามั่นคงมากเท่านั้น ลูกจะทำให้ตนเองมีความสุขอย่างมาก
เวลานี้ลูกได้กลายเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว พ่อพูดว่าลูกดวงวิญญาณเคยอยู่กับพ่อ
ผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาทำสิ่งต่างๆมากมายเพื่อที่จะได้มาซึ่งการหลุดพ้น
พวกเขาไม่รู้ถึงการหลุดพ้นในชีวิต ความรู้นี้น่ารักเป็นอย่างมาก
ลูกมีความรักอย่างมาก พ่อคือพ่อ ครู และเป็นสัตกูรูด้วยเช่นกัน
ท่านคือบาบาสูงสุดที่แท้จริง ผู้ที่ส่งเราไปสู่ดินแดนแห่งความสุขเป็นเวลาถึง 21
ชาติเกิด เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาไม่มีความสุข
เป็นดวงวิญญาณที่มีประสบการณ์ของความสุขและความทุกข์ มีคำกล่าวว่า
ดวงวิญญาณบาปและดวงวิญญาณบุญ เวลานี้พ่อมาเพื่อปลดปล่อยเราจากความทุกข์ทุกประเภท
เวลานี้ลูกต้องไปสู่สิ่งที่ไม่มีขีดจำกัด ที่ซึ่งทุกคนจะมีความสุข
ทั้งโลกจะกลับมามีความสุข
และเวลานี้ลูกได้เข้าใจบทบาทของทุกคนในละครแล้วด้วยเช่นกัน
ลูกอยู่อย่างมีความสุขอย่างมากที่บาบามาเพื่อพาลูกไปสวรรค์
ท่านจะพาเราดวงวิญญาณทั้งหมดไปสวรรค์ พ่อให้ความอดกลั้นแก่ลูก ลูกๆที่สุดแสนหวาน
พ่อมาเพื่อพาลูกออกไปจากความทุกข์ทุกประเภท
ดังนั้นลูกควรจะมีความรักอย่างมากมายต่อพ่อเช่นนั้น
ความสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกได้สร้างความทุกข์ให้แก่ลูก เด็กๆ
ที่นี่นั้นก็เป็นเหตุของความทุกข์เสมอ
ลูกกลับมาไม่มีความสุขและฟังเรื่องที่ไม่มีความสุขอย่างต่อเนื่อง
เวลานี้พ่อกำลังอธิบายทุกสิ่งแก่ลูก ท่านอธิบายแก่ลูกหลายครั้งมาก่อน
และทำให้ลูกกลายเป็นผู้ปกครองของโลก
ดังนั้นลูกควรจะมีความรักอย่างมากต่อพ่อผู้ที่ทำให้ลูกกลายเป็นนายของสวรรค์เช่นนั้น
ลูกจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น ลูกไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครนอกจากพ่อผู้เดียว
ได้มีการอธิบายทุกสิ่งแก่ดวงวิญญาณ เราคือลูกของพ่อสูงสุด เช่นที่เราได้พบหนทางแล้ว
ดังนั้นเราต้องแสดงหนทางของความสุขนี้ให้แก่ผู้อื่นด้วย ลูกได้รับความสุข
ไม่ใช่เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของวงจรแต่เป็นเวลา 3 ส่วน 4 ของวงจร
บางคนก็อุทิศตนเองต่อลูกเพราะลูกได้ให้สาสน์ของพ่อแก่พวกเขา
และขจัดความทุกข์ของพวกเขา ลูกเข้าใจว่าแม้กระทั่งผู้นี้(บราห์มา)ก็ได้รับความรู้จากพ่อสูงสุด
แล้วท่านก็ให้สาสน์แก่เรา แล้วเราก็ให้สาสน์แก่ผู้อื่น
ท่านให้คำแนะนำตัวของพ่อและเฝ้าแต่ปลุกลูกๆทั้งหมดให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลของความไม่รู้ของพวกเขา
ความเลื่อมใสศรัทธาเรียกว่าความไม่รู้ ความรู้และความเลื่อมใสศรัทธานั้นแยกจากกัน
พ่อมหาสมุทรแห่งความรู้กำลังสอนความรู้แก่ลูกๆในเวลานี้
สิ่งนี้เข้าไปในหัวใจของลูกว่าบาบามาและปลุกลูกให้ตื่นทุก 5000 ปี
มีน้ำมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ในตะเกียงของเรา
ดังนั้นเวลานี้พ่อได้เทน้ำมันของความรู้และจุดตะเกียง
เมื่อลูกจดจำพ่อตะเกียงของดวงวิญญาณก็ถูกจุดขึ้น
สนิมที่อยู่ในดวงวิญญาณก็จะถูกขจัดออกไปด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อ
ในสิ่งนี้ที่สงครามกับมายาจะดำเนินไป มายาทำให้ลูกลืมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพราะแทนที่สนิมจะถูกขจัดออกไปกลับกลายเป็นการสะสมสนิมมากขึ้นในดวงวิญญาณ
ในความเป็นจริงสนิมยิ่งมีการสะสมมากกว่าที่จะถูกขจัดออกไป พ่อพูดว่า ลูกๆ จดจำพ่อ
และสนิมในตัวลูกนั้นก็จะถูกขจัดออกไป สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายาม
อย่าได้มีแรงดึงดูดใดต่อร่างกาย จงกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ! เราคือดวงวิญญาณ
และเราจะไม่ไปหาพ่อด้วยร่างกายของเรา เราต้องไปหาท่านหลังจากที่ได้แยกออกจากร่างกาย
เมื่อเห็นดวงวิญญาณสนิมก็ถูกขจัดออกไป และเมื่อเห็นร่างกายก็จะมีการสะสมสนิมมากขึ้น
บางครั้งก็ถูกขจัดและบางครั้งก็สะสม สิ่งนี้ดำเนินไปตลอดเวลา
บางครั้งลูกขึ้นไปข้างบนและบางครั้งลูกก็ลงมา นี่คือหนทางที่เปราะบางอย่างมาก
ด้วยการผ่านทั้งหมดนั้นและไปถึงสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมของลูกในเวลาสุดท้าย
สิ่งหลักก็คือดวงตาที่หลอกลวงลูกในทุกสิ่ง ดังนั้นอย่าได้มองดูที่ร่างกาย
สติปัญญาของเราเชื่อมโยงอยู่กับดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
และเราต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน
เราต้องรับประทานอาหารที่บริสุทธิ์เช่นกัน อาหารของเหล่าเทพนั้นบริสุทธิ์ คำว่า “ไวยชนาฟ”
เกิดขึ้นจากคำว่า “วิษณุ” เหล่าเทพไม่รับประทานอาหารที่สกปรกและไม่บริสุทธิ์
มีวัดของวิษณุผู้ที่พวกเขาเรียกว่า นรา-นารายณ์ (มนุษย์ธรรมดาและนารายณ์)ด้วยเช่นกัน
ลักษมีและนารายณ์คือผู้ที่มีตัวตน พวกเขาไม่ควรจะมี สี่แขน
อย่างไรก็ตามในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาพวกเขาก็ถูกให้มีสี่แขน
สิ่งนี้เรียกว่าความโง่เขลาที่ไม่มีขีดจำกัด
พวกเขาไม่เข้าใจว่าไม่สามารถมีมนุษย์ที่มีสี่แขนได้ ในยุคทองมีมนุษย์ที่มีสองแขน
แม้แต่บราห์มาก็มีสองแขน
พวกเขาได้วางลูกสาวสรัสวตีไว้กับบราห์มาและแสดงให้เห็นว่าเธอมีสี่แขน
สรัสวตีไม่ใช่ภรรยาของบราห์มา เธอคือลูกสาวของประชาบิดาบราห์มา
ยิ่งมีการนำลูกมาเลี้ยงดูจำนวนมากเท่าไหร่
จำนวนของแขนของบราห์มาก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น พวกเขาแสดงให้เห็นบราห์มาที่มี 108
แขนเท่านั้น พวกเขาจะไม่พูดสิ่งนี้กับวิษณุหรือชางก้า บราห์มามีแขนมากมาย
ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาพวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย พ่อมาและอธิบายแก่ลูกๆ
ลูกพูดว่า บาบามาและทำให้เรารู้คิด ผู้คนก็พูดว่าพวกเขาคือผู้เลื่อมใสศรัทธาของชีวา
อัจชะ ท่านคิดว่าชีวานั้นเป็นอย่างไร?
เวลานี้ลูกๆเข้าใจว่าชีพบาบาคือพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด
เหตุนี้เองท่านจึงได้รับการกราบไหว้บูชา พ่อพูดว่า
สิ่งหลักคือการจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ ลูกร้องเรียกหา โอ
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมาและชำระเราให้บริสุทธิ์ด้วยเถิด! ผู้คนเฝ้าแต่เรียกหา
โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ รามผู้ที่เป็นของสีดา ลูกเช่นกันก็เคยร้องหาเช่นนี้ บาบา(บราห์มา)ไม่รู้ว่าพ่อจะมาและเข้ามาในตัวเขา
เป็นความมหัศจรรย์อย่างมากที่เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้มาก่อน
ในตอนแรกเขาประหลาดใจและสงสัยว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับเขา “เมื่อพ่อมองที่ใครบางคน
เขาก็จะรู้สึกถึงแรงดึงนั้น กำลังเกิดอะไรขึ้นนี่?” ชีพบาบากำลังดึงเขา
ใครก็ตามที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเขาก็จะเข้าฌาน เขาประหลาดใจ “ทั้งหมดนี้คืออะไรกัน?”
ต้องมีความสันโดษที่จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
นั่นเป็นเช่นนั้นเมื่อเขาเริ่มที่จะมีการวางเฉย “ฉันควรจะไปที่ไหน? โอเค
ฉันจะไปที่เบนาเรส(พาราณสี)” นี่คือแรงดึงของผู้เดียวนั้นที่กำลังทำให้เขาทำทุกสิ่ง
เขาได้ละทิ้งธุรกิจที่ใหญ่โตเช่นนั้นและจากไป
ผู้คนที่สิ้นหวังและน่าสงสารเหล่านั้นไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงไปที่พาราณสี
เขาไปและนั่งอยู่ในสวนที่นั่น เขาจะถือดินสอไว้ในมือและวาดวงกลมบนผนัง “ฉันไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่บาบากำลังทำให้ฉันทำ
เมื่อฉันเข้านอนในเวลากลางคืน ฉันก็จะรู้สึกว่าฉันได้โบยบินไปที่ไหนสักแห่ง
แล้วฉันก็จะลงมาอีกครั้งหนึ่ง ฉันไม่รู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น”
ในตอนเริ่มต้นก็เคยมีนิมิตอยู่มากมายเช่นกัน
ลูกสาวก็จะเข้าฌานขณะที่เพียงแค่นั่งอยู่ที่นั่น ลูกก็ได้เห็นอย่างมากมายแล้ว
ลูกจะพูดว่า: คุณไม่ได้เห็นในสิ่งที่เราได้เห็น
ในเวลาสุดท้ายเช่นกันบาบาจะให้นิมิตมากมาย เพราะลูกจะเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ขจัดความทุกข์ของทุกคนออกไปด้วยการให้สาสน์ของพ่อแก่พวกเขา
แสดงให้ทุกคนเห็นหนทางไปสู่ความสุข
ออกมาจากสิ่งที่มีขีดจำกัดและไปสู่สิ่งที่ไม่มีขีดจำกัด
2.
เพื่อที่จะมีนิมิตของทุกสิ่งในเวลาสุดท้ายและได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยความรักของพ่อ
กลับมาเข้มแข็งในความรู้และโยคะ
อย่าได้วิตกกังวลเกี่ยวกับผู้อื่นแต่จงเพิ่มช่วงชีวิตของลูกด้วยพลังโยคะ
พร:
ขอให้ลูกกลายเป็นผู้เพียรพยายามที่ง่ายดายโดยการสละละทิ้งความไม่ระมัดระวังและความหลงทะนงตนโดยการเอาใจใส่ต่อกลับมามีค่าควรแก่การได้รับความช่วยเหลือของพ่อ
ลูกบางคนแทนที่จะมีความกล้าหาญ เขากลับพัฒนาความหลงทะนงตน
และเพราะความไม่ระมัดระวังของพวกเขา พวกเขาคิดว่า: ฉันมีค่าเสมอ ถ้าพ่อไม่ช่วยฉัน
แล้วพ่อจะช่วยใคร? เพราะความหลงทะนงตนนี้พวกเขาจึงลืมวิธีที่จะมีความกล้าหาญ
บางคนพัฒนาความหลงทะนงตนจากการใส่ใจกับตนเองและสิ่งนี้ตัดสิทธิ์พวกเขาจากการได้รับความช่วยเหลือ
พวกเขาเชื่อว่าพวกเขามีโยคะอย่างมากที่พวกเขาได้กลายเป็นดวงวิญญาณญานีและโยคี
ที่พวกเขาได้สร้างอาณาจักรของงานรับใช้ของพวกเขา
ดังนั้นปล่อยวางความหลงทะนงประเภทนี้ไป และบนพื้นฐานของความกล้าหาญของลูก
จงกลับมามีค่าควรที่จะได้รับความช่วยเหลือและลูกจะกลายเป็นผู้ทำความเพียรพยายามอย่างง่ายดาย
คติพจน์:
เปลี่ยนความคิดที่ไร้ประโยชน์และเป็นลบใดๆให้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับงานของการให้คุณประโยชน์ต่อโลก