28.09.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน เมื่อลูกกลับมาสโตประธานตามลำดับกันไป
ความแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติของการทำลายล้างจะเพิ่มขึ้นและโลกเก่านี้จะจบลง
คำถาม:
ด้วยการทำความเพียรพยายามใดที่ผู้เพียรพยายามสามารถได้รับมรดกอย่างเต็มที่จากพ่อ?
คำตอบ:
เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกอย่างเต็มที่ของลูก ก่อนอื่นทำให้พ่อเป็นทายาทของลูก
นั่นคืออุทิศสิ่งใดก็ตามที่ลูกมีให้แก่พ่อ 1.
ทำให้พ่อเป็นลูกของลูกและลูกจะประกาศรับสิทธิ์ในมรดกของลูกอย่างเต็มที่ 2.
กลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์และลูกจะได้รับมรดกเต็มของลูก
หากลูกไม่กลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์, ลูกจะได้รับรางวัลเล็กๆ
หลังจากสัมผัสกับการลงโทษ
โอมชานติ
ลูกๆต้องไม่เพียงแต่นั่งในการจดจำระลึกถึงผู้เดียว
ลูกต้องนั่งในการจดจำระลึกถึงของทั้งสาม แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดคือหนึ่งเดียว
ลูกรู้ว่าท่านคือพ่อ ครูและสัตกูรูด้วยเช่นกัน ท่านได้มาเพื่อพาเราทั้งหมดกลับไป
เพียงลูกเท่านั้นที่เข้าใจประเด็นใหม่นี้
ลูกๆรู้ว่าผู้อื่นเหล่านั้นทั้งหมดที่สอนความเลื่อมใสศรัทธาและอ่านคัมภีร์คือมนุษย์
ผู้เดียวนี้ไม่สามารถเรียกว่าเป็นมนุษย์
ผู้เดียวนี้คือผู้ไม่มีตัวตนและท่านนั่งที่นี่และสอนดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตน ลูก
ดวงวิญญาณรับฟังด้วยร่างกายของพวกเขา ความรู้นี้ควรจะคงอยู่ในสติปัญญาของลูก
เวลานี้ลูกกำลังนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดได้พูดแล้วว่า ลูกๆทางจิต จดจำพ่อและบาปของลูกจะถูกตัดไป
ไม่มีเรื่องของคัมภีร์ที่นี่ ลูกรู้ว่าพ่อกำลังสอนราชาโยคะแก่ลูก
ท่านเป็นครูที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง
ท่านสูงสุดเหนือสิ่งใดและดังนั้นท่านทำให้ลูกประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงสุดเหนือสิ่งใดด้วยเช่นกัน
เมื่อลูกได้กลับมาสโตประธานตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ
สงครามก็จะเริ่มขึ้น จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติด้วยเช่นกัน
ลูกต้องมีการจดจำระลึกถึงอย่างแน่นอน
ควรจะมีความรู้ทั้งหมดในสติปัญญาของลูกด้วยเช่นกัน
พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดและอธิบายแก่ลูกเพื่อโลกใหม่
แม้แต่เด็กเล็กๆก็สามารถจดจำพ่อ
ลูกรู้คิดและลูกรู้ว่าด้วยการจดจำพ่อบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
และลูกจะได้รับสถานภาพที่สูงจากพ่อ
ลูกรู้ด้วยเช่นกันว่าสถานภาพที่ลักษมีและนารายณ์ได้รับเพื่อโลกใหม่นั้นได้รับจากชีพบาบา
ลักษมีและนารายณ์ได้วนไปรอบวงจรของ 84 ชาติเกิด
และเวลานี้ได้กลายเป็นบราห์มาและสรัสวตี แล้วพวกเขาก็จะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์
เวลานี้พวกเขากำลังทำความเพียรพยายาม ลูกมีความรู้ของตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของโลก
ลูกจะไม่ก้มลงด้วยศรัทธาที่งมงายเบื้องหน้ารูปบูชาของเทพอีกต่อไป
ผู้คนจะอยู่เบื้องหน้ารูปบูชาของเทพและพิสูจน์ว่าตนเองนั้นเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์
พวกเขาพูดว่า “ท่านนั้นเต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรมทั้งหมด
ในขณะที่เรานั้นเต็มไปด้วยกิเลส เป็นคนบาป และไม่มีคุณธรรม”ลูกเองนั้นกำลังจะกลายเป็นเช่นเดียวกับผู้ที่ลูกเคยร้องสรรเสริญ
ลูกถาม: บาบา เมื่อใดที่การอ่านคัมภีร์ ฯลฯ ได้เริ่มขึ้น? พ่อพูดว่า
ตั้งแต่เวลาของอาณาจักรของราวันได้เริ่มขึ้น
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดคือเครื่องประกอบของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ขณะที่ลูกนั่งที่นี่ สติปัญญาของลูกควรจะเข้าถึงความรู้ทั้งหมด
ลูกดวงวิญญาณจะนำสันสการ์เหล่านี้ไป
ลูกจะไม่นำสันสการ์ของความเลื่อมใสศรัทธาไปกับตนเอง
ผู้ที่มีสันสการ์ของความเลื่อมใสศรัทธาจะถือกำเนิดกับมนุษย์ในโลกเก่า
นั่นก็เป็นความจำเป็นด้วย ลูกต้องหมุนวงจรของความรู้ในสติปัญญาของลูก
พร้อมกันกับสิ่งนั้น ลูกต้องจดจำบาบาด้วยเช่นกัน บาบาคือพ่อของเราด้วย
หากลูกจดจำพ่อ บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง บาบานั้นเป็นครูด้วยเช่นกัน
และดังนั้นการศึกษาเล่าเรียนก็จะเข้าไปสู่สติปัญญาของเรา
เรามีความรู้ของวงจรโลกในสติปัญญาของเราที่ทำให้เรากลายเป็นผู้ปกครองโลก(การจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงได้เริ่มขึ้นแล้ว)
โอม ชานติ ความรู้และความเลื่อมใสศรัทธา พ่อนั้นเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้
ท่านรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับความเลื่อมใสศรัทธา-ว่าความเลื่อมใสศรัทธาเริ่มขึ้นเมื่อใดและจะจบลงเมื่อใด
มนุษย์ไม่รู้สิ่งนั้น เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและอธิบายทั้งหมดนี้ ในยุคทอง,ลูกๆเหล่าเทพเคยเป็นนายของโลก
ไม่มีการกล่าวถึงความเลื่อมใสศรัทธาที่นั่น ไม่มีแม้วัดเดียวที่นั่น
ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงเทพ ภายหลัง เมื่อโลกนั้นเก่าลงครึ่งหนึ่ง, นั่นคือเมื่อ 2500
ปีได้ผ่านไป เมื่อเป็นการบรรจบกันของยุคเงินและยุคทองแดง ราวันก็มา
ต้องมีการบรรจบกันอย่างแน่นอน
ราวันมาในการบรรจบกันของยุคเงินและยุคทองแดงเมื่อเหล่าเทพตกลงไปสู่หนทางบาป
ไม่มีใครนอกเหนือจากลูกรู้สิ่งนี้
พ่อมาในการบรรจบกันของตอนสิ้นสุดของยุคเหล็กและตอนเริ่มต้นของยุคทอง
ในขณะที่ราวันมาในการบรรจบกันของยุคเงินและยุคทองแดง
การบรรจบกันนั้นไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการบรรจบกันที่ให้คุณประโยชน์
การบรรจบกันนั้นถูกเรียกว่าไม่มีคุณประโยชน์เท่านั้น
เพียงพ่อเท่านั้นที่ชื่อของท่านคือ “ผู้เดียวที่ให้คุณประโยชน์”
ยุคที่ไม่มีคุณประโยชน์เริ่มต้นขึ้นด้วยยุคทองแดง พ่อคือเมล็ดที่มีชีวิต
ท่านมีความรู้ของทั้งต้นไม้ หากเมล็ดนั้นมีชีวิต
ก็จะอธิบายว่าต้นไม้ได้ปรากฏออกมาจากเมล็ดนั้นได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม
เพราะเมล็ดนั้นไม่มีชีวิตจึงไม่สามารถพูดสิ่งใด เราสามารถเข้าใจว่า
ด้วยการหว่านเมล็ด ต้นไม้เล็กๆก็จะปรากฏขึ้นมาก่อน
แล้วต้นไม้ก็จะเติบโตและเริ่มให้ผล อย่างไรก็ตาม
เพียงผู้ที่มีชีวิตเท่านั้นที่สามารถบอกทุกสิ่งแก่ลูก
ในทางโลกทุกวันนี้ผู้คนก็เฝ้าแต่ทำสิ่งต่างๆทุกรูปแบบ พวกเขาเฝ้าแต่คิดค้นสิ่งต่างๆ
พวกเขาพยายามจะไปยังดวงจันทร์ เวลานี้ลูกกำลังรับฟังสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
พวกเขาขึ้นไปสูงมาก
หลายแสนไมล์ไปยังดวงจันทร์เพื่อทำการวิจัยและค้นหาว่าสถานที่นั้นคืออะไร
พวกเขาไปลึกมากในมหาสมุทรเพื่อพยายามจะค้นหาเกี่ยวกับสิ่งนั้น
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถไปหาที่สิ้นสุดได้ มีเพียงน้ำและก็น้ำมากยิ่งขึ้น
พวกเขาขึ้นไปสูงในเครื่องบินและดังนั้นพวกเขาจำเป็นที่จะต้องมีเชื้อเพลิงมากเพียงพอที่จะไปที่นั่นและกลับมาด้วยเช่นกัน
ท้องฟ้านั้นไม่มีขีดจำกัดและมหาสมุทรนั้นก็ไม่มีขีดจำกัดด้วยเช่นกัน
เช่นที่ผู้เดียวนี้คือมหาสมุทรแห่งความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัด
ดังนั้นนั่นคือมหาสมุทรที่เป็นน้ำที่ไม่มีขีดจำกัด
วัตถุธาตุของท้องฟ้านั้นก็ไม่มีขีดจำกัดเช่นกัน ผืนดินก็ไม่มีขีดจำกัดด้วย
ลูกสามารถเดินต่อไปเรื่อยๆ เบื้องล่างมหาสมุทรมีผืนดิน ภูเขานั้นตั้งอยู่บนอะไร?
บนผืนดิน พวกเขานั้นก็ได้ขุดลงไปในผืนดินและภูเขาก็ปรากฏขึ้น
และเบื้องล่างนั้นก็มีน้ำด้วยเช่นกัน มหาสมุทรเองนั้นก็อยู่บนแผ่นดิน
ไม่มีใครสามารถไปถึงที่สิ้นสุดของน้ำและแผ่นดินได้ ลูกนั้นจะไม่พูดว่า พ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้ที่เป็นพ่อไม่มีขีดจำกัดนั้นไม่มีที่สิ้นสุด,
แม้ว่าผู้คนจะพูดว่าพระเจ้านั้นไม่มีที่สิ้นสุดและมายาไม่มีที่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตามลูกเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้านั้นไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ใช่ท้องฟ้านี้ไม่มีที่สิ้นสุด มีวัตถุธาตุทั้งห้า- ดิน น้ำ ไฟ ลม ท้องฟ้า
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดได้กลับมาตโมประธาน
ดวงวิญญาณเองก็ได้กลับมาตโมประธานแล้วพ่อก็มาและทำให้พวกเขาสโตประธาน
ดวงวิญญาณนั้นเล็กมากและพวกเขาใช้ 84 ชาติเกิด วงจรนี้เฝ้าแต่หมุนไป
นี่คือการละเล่นที่คงอยู่ตลอดไปซึ่งไม่สิ้นสุด การละเล่นนั้นก็ดำเนินไปเป็นนิรันดร์
หากลูกจะพูดว่าเมื่อใดที่การละเล่นนั้นได้เริ่มขึ้นแล้วการละเล่นนั่นก็จะต้องมีจุดจบด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม
ลูกต้องอธิบายว่าเมื่อใดที่โลกใหม่ได้เริ่มขึ้นและแล้วโลกนั้นได้กลับมาเก่าอย่างไร
นี่คือวงจรของ 5000 ปีที่ซึ่งเฝ้าแต่หมุนไป เวลานี้ลูกรู้สิ่งนี้
แต่ผู้คนเหล่านั้นก็เพียงแต่เขียนสิ่งที่เป็นเท็จ
ในคัมภีร์ได้มีการเขียนว่าระยะเวลาของยุคทองนั้นหลายแสนปี
ดังนั้นเมื่อผู้คนได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็คิดว่าเป็นสัจจะ
พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พระเจ้าจะมาและให้คำแนะนำของตัวท่านเอง
เนื่องจากไม่รู้ในสิ่งนี้จนกว่าลูกจะอธิบายให้แก่พวกเขา พวกเขาก็เฝ้าแต่พูดว่า
40,000 ปีของยุคเหล็กยังคงหลงเหลืออยู่
เวลานี้ลูกได้กลายเป็นเครื่องมือที่จะอธิบายแก่พวกเขาว่าระยะเวลาของวงจรนั้นคือ
5,000 ปี ไม่ใช่หลายแสนปี มีเครื่องประกอบของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาอยู่มากมาย
เมื่อผู้คนมีเงิน พวกเขาก็ใช้จ่ายไปอย่างมากมาย พ่อพูดว่า
พ่อได้จากไปหลังจากที่ได้ให้สมบัติอย่างมากมายแก่ลูก
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดนั้นจะให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูกอย่างแน่นอน
ลูกได้รับความสุขด้วยสิ่งนั้นและช่วงชีวิตของลูกก็ยืนยาวด้วย พ่อพูดกับลูกๆ: ลูกๆ
ผู้เป็นที่รักของพ่อ ขอให้ลูกมีชีวิตที่ยืนยาว! ที่นั่นช่วงชีวิตของลูกคือ 150
ปีและความตายก็ไม่เคยมาหาลูก พ่อได้ให้พรแก่ลูกและทำให้ชีวิตของลูกยืนยาว
ลูกจะคงอยู่อย่างเป็นอมตะ จะไม่มีความตายก่อนเวลาอันควรใดๆ ที่นั่น
ลูกคงอยู่อย่างเป็นสุขอย่างยิ่งที่นั่นและเหตุนั้นเองจึงเรียกว่าเป็นดินแดนแห่งความสุข
ช่วงชีวิตนั้นยืนยาวและลูกก็ได้รับทรัพย์สมบัติอย่างมากมายและความสุขอย่างมาก
จากผู้ที่ยากจนข้นแค้นลูกก็ได้กลายเป็นผู้มีมงกุฎ
สิ่งนี้ได้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่า พ่อมาเพื่อก่อตั้งศาสนาเทพ
อย่างแน่นอนที่นั่นจะเป็นต้นไม้เล็กๆ มีเพียงศาสนาเดียว อาณาจักรเดียว
และภาษาเดียวที่นั่น นั่นเรียกได้ว่าเป็นความสงบในโลก เราคือนักแสดงของทั้งโลก
ไม่มีใครในโลกรู้สิ่งนี้
หากพวกเขาได้รู้สิ่งนี้พวกเขาก็จะสามารถบอกเราได้ว่าเมื่อใดที่เราได้เริ่มเล่นบทบาทของเรา
เวลานี้พ่อกำลังอธิบายแก่ลูกๆ มีเพลงที่ร้องว่า “ไม่มีใครอื่นสามารถได้รับสิ่งต่างๆทั้งหมดที่ลูกได้รับมาจากบาบา”
ท่านให้ทั้งผืนดินและท้องฟ้าและอาณาจักรของทั้งโลกแก่ลูก
ลักษมีและนารายณ์นี้เคยเป็นนายของโลก
แล้วราชาทั้งหมดที่ได้มาภายหลังนั้นก็ได้เคยเป็นราชาของบารัต มีการร้องเพลงว่า
สิ่งต่างๆที่บาบาให้แก่เราไม่มีใครอื่นสามารถที่จะให้ได้
พ่อเองนั้นมาและทำให้เราสามารถที่จะได้มาซึ่งสิ่งนั้น
ดังนั้นความรู้ทั้งหมดนี้ควรจะคงอยู่ในสติปัญญาของลูก
เพื่อที่ลูกจะสามารถอธิบายแก่ใครก็ตามได้ ลูกต้องเข้าใจมากเท่านั้น
ใครที่สามารถที่จะอธิบายได้? ผู้ที่เป็นอิสระจากบ่วงพันธะ เมื่อใครบางคนมาหาบาบา
บาบาก็ถาม: ลูกมีลูกๆกี่คน? พวกเขาก็พูดว่า “ตัวฉันเองมีลูก 5 คน และลูกคนที่ 6
คือชีพบาบา และดังนั้นอย่างแน่นอนที่ท่านเป็นลูกที่แก่ที่สุด” หากลูกเป็นของชีพบาบา
แล้วชีพบาบาก็จะทำให้ลูกเป็นลูกของท่าน และทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก
ลูกๆนั้นก็กลายเป็นทายาท ลักษมีและนารายณ์คือทายาทที่สมบูรณ์ของชีพบาบา
ในชาติเกิดก่อนหน้าของพวกเขา พวกเขาได้ให้ทุกสิ่งที่พวกเขามีแก่ชีพบาบา
ดังนั้นอย่างแน่นอนที่ลูกๆต้องได้รับมรดก บาบาพูดว่า
จงทำให้พ่อเป็นทายาทของลูกและอย่าได้มีใครอื่น ลูกพูดว่า บาบา “ทั้งหมดนี้เป็นของท่านและทุกสิ่งของท่านเป็นของฉัน
ท่านได้ให้อำนาจในการปกครองทั้งโลกแก่ฉัน เพราะฉันได้ให้ทุกสิ่งที่ฉันมีแก่ท่าน”
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร ได้มีการแสดงนิมิตของการทำลายล้างแก่อรชุน
และแสดงสัญลักษณ์ที่มี 4 มือด้วยเช่นกัน อรชุนนั้นไม่ใช่ใครอื่น
ผู้นี้ก็เคยได้นิมิตเหล่านั้น “จงมองดูว่าพ่อกำลังได้รับอาณาจักรนี้
และดังนั้นเหตุใดพ่อจึงไม่ทำให้ชีพบาบาเป็นทายาทของพ่อ(บราห์มา)เล่า?
แล้วท่านก็ทำให้พ่อ(บราห์มา)เป็นทายาทของท่าน นี่คือการต่อรองที่ดีมาก”
ท่านไม่ได้ขอใครเพื่อสิ่งใด ผู้นี้ได้ให้ทุกสิ่งอย่างแฝงตัว
สิ่งนี้เรียกว่าการให้ทานที่แฝงตัว ใครจะรู้อะไรว่าสิ่งใดได้เกิดกับท่าน?
บางคนนั้นก็คิดว่าท่านนั้นเริ่มที่จะมีการวางเฉยและบางทีก็ได้กลายเป็นซันยาสซี
ดังนั้น ลูกสาวเหล่านี้ก็พูดด้วยเช่นกันว่า ฉันมีลูกๆ 5 คนของตนเอง
และฉันจะทำให้ผู้เดียวนั้นเป็นลูกอีกคนหนึ่งของฉัน
ผู้นี้ก็ได้วางทุกสิ่งไว้เบื้องหน้าบาบาที่ทำให้มีการรับใช้ช่วยเหลือผู้คนมากมาย
จากการได้เห็นบาบา ทุกคนอื่นนั้นก็มีความคิดเดียวกัน
และดังนั้นพวกเขาจึงได้ละทิ้งบ้านของพวกเขาและวิ่งมาหาบาบา
เป็นไปตั้งแต่เวลานั้นที่ความปั่นป่วนได้เริ่มขึ้น
พวกเขาได้แสดงความกล้าหาญของการจากบ้านและครอบครัวของตน
ได้มีการเขียนไว้ในคัมภีร์ว่าเตาอบ(บัทตี)ต้องมีการสร้างขึ้น
เพราะอย่างแน่นอนที่พวกเขานั้นต้องการสันโดษ
นอกเหนือจากพ่อแล้วไม่ควรจะมีการจดจำใครอื่น
ขออย่าได้มีการจดจำระลึกถึงเพื่อนฝูงหรือญาติมิตรใดๆ เช่นกัน
เนื่องจากดวงวิญญาณได้อยู่อย่างไม่บริสุทธิ์ต้องทำให้ดวงวิญญาณนั้นบริสุทธิ์อย่างแน่นอน
พ่อพูดว่า ขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูกจงกลับมาบริสุทธิ์
มีความยากลำบากเนื่องจากสิ่งนี้ พวกเขาเคยพูดว่า
ความรู้นี้เป็นเช่นที่ว่าเริ่มการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสามีและภรรยา
เพราะหากใครคนใดคนหนึ่งนั้นได้กลับมาบริสุทธิ์และอีกคนหนึ่งไม่กลับมาบริสุทธิ์ก็จะมีความรุนแรง
ผู้คนเหล่านั้นทั้งหมดมีประสบการณ์ของการถูกทุบตีเพราะสิ่งนี้คือบางสิ่งใหม่ที่ปรากฏขึ้นในทันที
ทุกคนนั้นตะลึงงันและถามว่า “อะไรได้เกิดขึ้นที่ผู้คนมากมายได้วิ่งจากไป?”
ผู้คนไม่ได้มีความเข้าใจใดๆ แต่พูดว่ามีพลังบางประการอย่างแน่นอน
ไม่เคยมีเวลาไหนมาก่อนที่เมื่อทุกคนได้ทิ้งบ้านของตนและวิ่งจากไป
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดคือกิจกรรมที่สูงส่งของชีพบาบาในละคร บ้างแม้แต่วิ่งมามือเปล่า
นั่นก็เป็นละครด้วย พวกเขาวิ่งจากไปทิ้งบ้านและครอบครัวของพวกเขาไว้เบื้องหลัง
พวกเขาไม่ได้จดจำใครอื่นเลย
มีแต่เพียงร่างของพวกเขาที่พวกเขานั้นต้องใช้ทำทุกงานเท่านั้น
ดวงวิญญาณต้องทำให้บริสุทธิ์ด้วยการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง
เพียงเท่านั้นเองที่ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์จะสามารถกลับบ้านได้
ดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ไม่สามารถไปสู่สวรรค์ นั่นไม่ใช่กฎ
แต่ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์เท่านั้นเป็นที่ต้องการในดินแดนแห่งการหลุดพ้น
มีอุปสรรคมากมายในการกลับมาบริสุทธิ์
ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีการห้ามไม่ให้ใครให้ไปชุมนุมทางจิต
พวกเขานั้นจะไปที่ใดก็ตามที่พวกเขาต้องการจะไป
ที่นี่เนื่องจากความบริสุทธิ์จึงมีอุปสรรค ลูกเข้าใจว่าลูกไม่สามารถกลับบ้านได้
โดยที่ไม่ได้กลับมาบริสุทธิ์ จะต้องมีการลงโทษผ่านดรามราช
แล้วก็จะได้รับผลรางวัลเล็กน้อย หากลูกไม่ต้องสัมผัสกับการลงโทษ
ลูกก็จะได้รับสถานภาพที่ดี นี่คือบางสิ่งที่จะต้องเป็นที่เข้าใจ พ่อพูดว่า
ลูกๆที่แสนหวาน ลูกต้องมาหาพ่อ
ลูกต้องละร่างเก่านั้นและกลับบ้านอย่างเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์
แล้วเมื่อวัตถุธาตุทั้งห้าได้กลับมาใหม่และสโตประธาน,
ลูกก็จะได้รับร่างใหม่ที่สโตประธาน ทุกสิ่งก็จะเปลี่ยนไปและกลับมาใหม่
เช่นที่บาบามาและนั่งในผู้นี้
ดังนั้นด้วยดวงวิญญาณก็จะไปและนั่งในประสาทราชวังของครรภ์โดยที่ไม่มีความยากลำบากใดๆ
และแล้วเมื่อถึงเวลา
เขาก็จะออกมาจากครรภ์และราวกับว่ามีแสงสว่างเป็นประกายอยู่ล้อมรอบเนื่องจากดวงวิญญาณนั้นบริสุทธิ์
ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะทำให้ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ จงอยู่ในบัตตีอย่างสันโดษ
อย่าได้จดจำเพื่อนฝูงหรือญาติมิตรใดๆ นอกจากพ่อผู้เดียว
2.
เก็บความรู้ทั้งหมดไว้ในสติปัญญาของลูก
กลับมาเป็นอิสระจากบ่วงพันธะและรับใช้ผู้อื่น ทำการต่อรองที่แท้จริงกับพ่อ
เช่นที่พ่อนั้นได้ให้ทุกสิ่งในทางที่แฝงตัว ดังนั้นด้วยลูกจงทำทานที่แฝงตัวเช่นกัน
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้เอาชนะมายาที่มองเห็นเกมของรูปที่น่ากลัวของมายาอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง
ผู้ที่ต้อนรับมายาจะไม่หวาดกลัวเมื่อมองเห็นรูปที่น่ากลัวของมายา
เมื่อลูกดูเกมอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง ลูกสนุกกับตนเอง
เพราะจากภายนอกมายามีรูปของราชสีห์แต่เธอไม่มีกำลังแม้กระทั่งเท่ากับแมว
เป็นเพียงเพราะว่าลูกกลับมาหวาดกลัวและทำให้เธอเป็นสิ่งที่ใหญ่โตโดยการคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไร?
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?” อย่างไรก็ตามจดจำบทเรียน “สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดีและสิ่งใดก็ตามที่จะเกิดขึ้นจะดียิ่งกว่า”
ดูเกมอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและลูกจะกลับมาเป็นผู้เอาชนะมายา
คติพจน์:
ผู้ที่มีความอดทนจะไม่มีความอิจฉาเมื่อเห็นธรรมชาติของใคร
พวกเขาฟังเรื่องที่ไร้สาระด้วยหูข้างหนึ่งและให้มันออกไปด้วยหูอีกข้างหนึ่ง