28.11.24       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน จงรับฟังพ่อผู้เดียวเท่านั้น แล้วถ่ายทอดสิ่งที่ท่านพูดให้กับผู้อื่น

คำถาม:
พ่อได้ให้ความเข้าใจอะไรแก่ลูก ซึ่งลูกต้องอธิบายแก่ผู้อื่น?

คำตอบ:
บาบาให้ความเข้าใจแก่ลูกดวงวิญญาณว่าลูกทั้งหมดคือพี่น้องชาย ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียว ลูกต้องบอกประเด็นเดียวนี้แก่ทุกคน เพราะลูกต้องให้ประโยชน์แก่พี่น้องของลูกทั้งหมดในโลก เพียงลูกเท่านั้นที่เป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้นี้

โอมชานติ
โดยทั่วไปแล้ว เหตุใดลูกจึงพูดคำว่า “โอมชานติ”? นี่คือการให้คำแนะนำตัวของลูก ดวงวิญญาณจะให้คำแนะนำตัวของเขาเอง เป็นดวงวิญญาณที่สนทนาผ่านร่างกายของเขา ร่างกายที่ไม่มีดวงวิญญาณก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ดังนั้นดวงวิญญาณจึงแนะนำตนเอง: ฉันคือดวงวิญญาณ ฉันคือลูกของพ่อสูงสุด, ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้คนเหล่านั้นพูดว่าแต่ละดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด ได้มีการอธิบายสิ่งเหล่านี้แก่ลูกในเวลานี้ บาบาพูดว่า “ลูก ลูก” ใช่ไหม? พ่อทางจิตพูดว่า โอ้ ลูกๆ ทางจิต! ลูกเข้าใจด้วยอวัยวะทางร่างกายของลูก พ่ออธิบายว่า มีความรู้ก่อนแล้วจึงมีความเลื่อมใสศรัทธา ไม่ใช่ว่าความเลื่อมใสศรัทธามาก่อนแล้วจึงมีความรู้นี้ อันดับแรก มีความรู้นี้ซึ่งเป็นกลางวัน และจากนั้นก็เป็นความเลื่อมใสศรัทธาซึ่งเป็นกลางคืน ดังนั้นกลางวันเริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อใด? เมื่อมีการวางเฉยในความเลื่อมใสศรัทธา เก็บสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูกว่ามีญาณและวิญาณ (ความเงียบสงบ) เวลานี้ลูกกำลังศึกษาความรู้นี้และจากนั้นลูกก็ได้รับรางวัลของความรู้นี้ในยุคทองและยุคเงิน บาบาให้ความรู้นี้แก่ลูกในเวลานี้ และจากนั้นในยุคทองลูกก็ได้รับรางวัลของการศึกษาเล่าเรียนสิ่งนั้น นี่คือสิ่งที่จะต้องเข้าใจ เวลานี้พ่อกำลังให้ความรู้แก่ลูก ลูกรู้ว่าลูกจะไปอยู่เหนือญาณเข้าสู่วิญาณ(ความเงียบสงบ), บ้านของลูก, ดินแดนแห่งความเงียบสงบ นั่นไม่เรียกว่าเป็นญาณหรือความเลื่อมใสศรัทธา สิ่งนั้นเรียกว่าวิญาณ ลูกจะไปอยู่เหนือญาณ, ดินแดนแห่งความเงียบสงบ ลูกต้องเก็บความรู้ทั้งหมดนี้ไว้ในสติปัญญาของลูก พ่อให้ความรู้นี้แก่ลูกสำหรับสถานที่ใด? ท่านให้ความรู้นี้แก่ลูกเพื่อโลกใหม่ในอนาคต ก่อนที่ลูกจะไปสู่โลกใหม่ลูกต้องไปบ้านของลูกก่อน ลูกต้องไปยังดินแดนแห่งการหลุดพ้นซึ่งลูกๆดวงวิญญาณอาศัยอยู่ ลูกจะไปที่นั่นอย่างแน่นอน เพียงลูกเท่านั้นที่รับฟังประเด็นใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครอื่นสามารถเข้าใจ ลูกดวงวิญญาณเข้าใจว่าลูกคือลูกทางจิตของพ่อทางจิต ลูกทางจิตนั้นจำเป็นจะต้องมีพ่อทางจิตอย่างแน่นอน มีพ่อทางจิตและลูกๆทางจิต ลูกๆทางจิตมีพ่อทางจิตเดียวเท่านั้น ท่านมาและให้ความรู้แก่ลูก ได้มีการอธิบายแก่ลูกด้วยเช่นกันว่าพ่อมาอย่างไร พ่อพูดว่า พ่อก็ต้องรับการค้ำจุนของวัตถุธาตุ เวลานี้ลูกต้องเฝ้าแต่รับฟังเพียงพ่อเท่านั้น อย่าได้รับฟังใครนอกจากพ่อ ลูกๆรับฟังแล้วก็ถ่ายทอดสิ่งนั้นให้แก่พี่น้องของลูก แน่นอนว่าลูกต้องถ่ายทอดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ เพราะท่านผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ สติปัญญาก็ไปที่นั่น เมื่อความรู้นี้ได้มีการอธิบายให้แก่ลูกๆ ลูกก็สามารถเข้าใจ ก่อนหน้านี้ลูกไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะลูกไม่เข้าใจในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกเมื่อกรงเล็บของราวันจับลูกไว้? ลูกกลับมาสกปรกมาก! ลูกกลายเป็นอะไรเมื่อลูกดื่มสุรา? สุรากระจายความสกปรกมากยิ่งขึ้น เวลานี้มันอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าลูกต้องประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกเคยประกาศสิทธิ์นั้นวงจรแล้ววงจรเล่า ดังนั้นลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน มีคำยกย่องคุณธรรมที่สูงส่งของกฤษณะอย่างมาก ผู้เป็นนายของดินแดนสุขาวดีนั้นอ่อนหวานมาก! ลูกจะไม่พูดว่าเป็นราชวงศ์ของกฤษณะ ราชวงศ์นั้นกล่าวได้ว่าเป็นราชวงศ์ของวิษณุ ซึ่งหมายถึงราชวงศ์ของลักษมีและนารายณ์ เวลานี้ลูกรู้ว่าเพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถก่อตั้งราชวงศ์ของอาณาจักรยุคทอง แม้ว่าจะไม่มีรูปภาพเหล่านี้อยู่ ลูกก็ยังคงอธิบายสิ่งนี้ได้ มีการสร้างวัดวาอารามมากมาย ผู้ที่มีความรู้ก็วิ่งไปเพื่อให้ประโยชน์แก่ผู้อื่นและทำให้พวกเขาทัดเทียมกับตนเอง ลูกแต่ละคนต้องตรวจสอบตนเองและถามว่า ฉันได้ให้ความรู้นี้แก่ผู้คนมากมายแค่ไหน? บางคนก็ถูกยิงด้วยลูกศรแห่งความรู้นี้ได้อย่างรวดเร็วมาก บิชัมปิตาเม ฯลฯ ก็ได้กล่าวว่า ฉันถูกยิงด้วยลูกธนูของกุมารี ทั้งหมดนี้คือกุมารและกุมารีที่บริสุทธิ์ นั่นคือพวกเขาคือลูก ลูกทั้งหมดคือลูก ดังนั้นลูกพูดว่าลูกคือพี่น้องหญิงชาย, ลูกๆของบราห์มา นี่คือความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ ลูกคือบุตรบุญธรรม พ่อได้นำลูกมาเลี้ยงดู ชีพบาบาได้นำลูกมาเลี้ยงดูลูกผ่านประชาบิดาบราห์มา ที่จริงแล้วลูกไม่ควรใช้คำว่า “บุตรบุญธรรม” เพราะถึงอย่างไรลูกก็คือลูกของชีพบาบา ทุกคนเรียกหาพ่อ: ชีพบาบาๆ ได้โปรดมา! อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีความเข้าใจ ดวงวิญญาณทั้งหมดได้นำร่างกายมาใช้และเล่นบทบาทของพวกเขา ดังนั้นแน่นอนชีพบาบาจะเล่นบทบาทของท่านผ่านร่างกายเช่นกัน หากชีพบาบาไม่ได้เล่นบทบาท ท่านก็จะไม่มีประโยชน์อะไร ท่านจะไม่มีคุณค่าเลย ท่านมีคุณค่าเมื่อท่านทำให้ทั้งโลกได้มาซึ่งการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ เหตุนี้เองพวกเขาจึงร้องสรรเสริญท่านในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา เมื่อพวกเขาได้มาซึ่งการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจดจำพ่อ พวกเขาเพียงพูดถึงพระเจ้าว่าเป็นพ่อเท่านั้น ผู้เป็นครูหายไป เป็นเพียงเพื่อประโยชน์ต่อการพูดเท่านั้นที่พวกเขาพูดว่าพ่อสูงสุดคือผู้เดียวที่ชำระทุกคนให้บริสุทธิ์ พวกเขาไม่แม้กระทั่งจะพูดว่าท่านคือผู้เดียวที่ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ แม้ว่าจะมีการจดจำกันว่าผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์กับทุกคนคือหนึ่งเดียว พวกเขาพูดสิ่งนี้โดยไม่เข้าใจความหมาย ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ลูกพูดในเวลานี้มีความหมาย ลูกเข้าใจว่าความเลื่อมใสศรัทธาหรือกลางคืนนั้นต่างจากความรู้นี้ซึ่งเป็นกลางวัน มีเวลาของกลางวันและเวลาของความเลื่อมใสศรัทธา เหล่านี้เป็นประเด็นที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกๆได้รับความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัด ครึ่งวงจรเป็นกลางวันและอีกครึ่งวงจรเป็นกลางคืน พ่อพูดว่า พ่อมาเพื่อเปลี่ยนกลางคืนเป็นกลางวัน ลูกรู้ว่าเป็นอาณาจักรของราวันถึงครึ่งวงจรและมีความทุกข์หลายประเภทในสิ่งนั้น จากนั้นพ่อก็มาและก่อตั้งโลกใหม่ที่ลูกจะมีแต่ความสุขเท่านั้น มีคำกล่าวว่านี่คือการละเล่นเกี่ยวกับความสุขและความทุกข์ ความสุขหมายถึงรามและความทุกข์หมายถึงราวัน เมื่อลูกเอาชนะราวันอาณาจักรของรามก็จะเริ่มขึ้น และแล้วหลังจากครึ่งวงจรราวันก็มา และก็เอาชนะอาณาจักรของรามและปกครองอาณาจักรนั้น เวลานี้ลูกกำลังเอาชนะมายา ทุกคำที่ลูกพูดนั้นมีความหมาย นี่คือภาษาของพระเจ้าของลูก มีใครอีกบ้างที่เข้าใจว่าพระเจ้าพูดอย่างไร? ลูกรู้ว่านี่คือภาษาของพระเจ้าผู้เป็นพ่อ เพราะพ่อเต็มไปด้วยความรู้ มีคำกล่าวว่าท่านคือมหาสมุทรแห่งความรู้ ผู้เดียวที่เต็มไปด้วยความรู้ และดังนั้นท่านจะให้ความรู้นี้แก่ใครบางคนอย่างแน่นอน เวลานี้ลูกเข้าใจว่าบาบาให้ความรู้นี้ได้อย่างไร ท่านให้คำแนะนำตัวของท่านเองแก่ลูกและความรู้ของวงจรโลกด้วยเช่นกัน และแล้วด้วยการได้รับความรู้นี้เราก็จะกลายเป็นผู้ปกครองโลก มีกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ด้วยการมีการจดจำระลึกถึงบาปของเราจะถูกตัดออกไป นี่คือกงจักรแห่งการจดจำระลึกถึงที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรงของลูก กงจักรนั้นก้าวร้าวรุนแรงมีไว้สำหรับตัดหัวของใครบางคน คนโง่เขลาก็เฝ้าแต่ตัดหัวของกันและกัน ด้วยการรู้ถึงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ลูกก็ได้มาซึ่งอาณาจักร ตัณหาราคะนั้นเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลูกที่ทำให้ลูกประสบกับความทุกข์ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ตอนกลาง และตอนจบ นั่นคือกงจักรแห่งความทุกข์ พ่ออธิบายแก่ลูกเกี่ยวกับความรู้นี้ของวงจร ท่านทำให้ลูกกลายเป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง พวกเขาได้แต่งเรื่องราวมากมายในคัมภีร์ เวลานี้ลูกต้องลืมเรื่องราวเหล่านั้นทั้งหมด ลูกเพียงแค่ต้องจดจำพ่อผู้เดียว เพราะลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในมรดกแห่งสวรรค์จากพ่อเท่านั้น จดจำพ่อและประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากท่าน เป็นสิ่งที่ง่ายดายมาก! พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดก่อตั้งโลกใหม่และดังนั้นลูกต้องจดจำท่านเพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากท่าน นี่คือความหมายของ “มานมานะบาฟ” และ “มาเดียจิบาฟ” ด้วยการจดจำพ่อและมรดกของลูก ปรอทแห่งความสุขของลูกก็จะอยู่สูง เราเป็นลูกของพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด พ่อกำลังก่อตั้งสวรรค์ เราเคยเป็นนายแห่งสวรรค์ และแน่นอนว่าเราจะกลายเป็นนายเหล่านั้นอีกครั้งหนึ่ง เราคือผู้ที่ต่อมากลายเป็นชาวนรก เราเคยสโตประธาน และเวลานี้ได้กลับมาตโมประธาน เราคือผู้ที่เคยไปในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา เราเคยวนไปรอบทั้งวงจร เราผู้คนของบารัตในตอนแรกนั้นเป็นของสุริยวงศ์ต่อมาก็เป็นของจันทราวงศ์ และจากนั้นเราก็ได้ลงมาสู่วงศ์สกุลพ่อค้า เราชาวบารัตเคยเป็นเทพ และจากนั้นเราก็ตกต่ำลงมา เวลานี้ลูกรู้ทุกสิ่งเมื่อลูกได้ไปสู่หนทางแห่งบาป ลูกก็กลับมาสกปรกมาก! พวกเขาได้สร้างภาพลักษณ์ที่สกปรกมากในวัดด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยทำนาฬิกาที่มีภาพลักษณ์เช่นนั้นด้วย เวลานี้ลูกได้เข้าใจแล้วว่าก่อนหน้านี้ลูกสวยงามมาก และแล้วลูกก็สกปรกมากในขณะที่กลับมาใช้ชาติเกิดใหม่! เมื่อลูกเป็นนายของยุคทอง ลูกเป็นมนุษย์ที่มีคุณธรรมที่สูงส่ง แต่เวลานี้ลูกมีลักษณะนิสัยที่เป็นเช่นปีศาจ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่มีความแตกต่างอื่นใด ไม่มีมนุษย์ที่มีหางหรืองวง สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ของเทพต่างๆ สวรรค์หายไปและมีเพียงภาพเหล่านั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่เป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ของจันทราวงศ์ด้วยเช่นกัน เวลานี้ลูกกำลังต่อสู้เพื่อที่จะเอาชนะมายา สัญลักษณ์ของการพลาดพลั้งล้มเหลวของลูกขณะที่ต่อสู้รบราของลูกคือธนูและลูกศร ในความเป็นจริงผู้คนของบารัตเป็นของสกุลเทพ ไม่เช่นนั้นจะนับพวกเขาไว้ในสกุลไหน? อย่างไรก็ตามเนื่องจากผู้คนของบารัตไม่รู้จักเกี่ยวกับสกุลของพวกเขาเอง พวกเขาจึงเรียกตนเองว่าชาวฮินดู ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะมีเพียงสกุลเดียวเท่านั้นสำหรับลูกทั้งหมด ทุกคนในบารัตเป็นของสกุลเทพที่ซึ่งก่อตั้งโดยพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด บารัตมีเพียงคัมภีร์เดียวเท่านั้น ราชวงศ์ของเทพได้มีการก่อตั้งขึ้นและจากนั้นกิ่งก้านอื่นๆ ก็ปรากฏออกมาจากสิ่งนั้น พ่อก่อตั้งศาสนาเทพ มีสี่ศาสนาหลักและรากฐานของพวกเขาคือศาสนาเทพ ลูกดวงวิญญาณทั้งหมดคือผู้อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งการหลุดพ้นและจากนั้นลูกก็เข้าไปสู่กิ่งก้านเทพ(ลำต้น)ของลูก บารัตมีเพียงขอบเขตเดียว(รากฐาน) ไม่มีศาสนาอื่นใดที่จะมีสิ่งนี้ ดั้งเดิมนั้นลูกเป็นของศาสนาเทพ และแล้วตามแผนของละครศาสนาอื่นๆก็ปรากฏออกมาจากสิ่งนั้น ศาสนาดั้งเดิมของบารัตคือศาสนาเทพซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยพ่อ และแล้วใบไม้ใหม่ก็ปรากฏออกมาจากสิ่งนั้น ต้นไม้ทั้งต้นนี้คือต้นไม้ของพระเจ้า พ่อพูดว่า พ่อคือเมล็ดของต้นไม้นี้ นี่คือรากฐานและกิ่งก้านนั้นก็ปรากฏออกมาจากรากฐานนั้น สิ่งหลักคือเราดวงวิญญาณทั้งหมดคือพี่น้องชาย พ่อของดวงวิญญาณทั้งหมดคือผู้เดียวที่ทุกคนจดจำ พ่อพูดว่า ลูกต้องลืมสิ่งใดก็ตามที่ลูกเห็นด้วยดวงตาทางร่างกายของลูก การวางเฉยนี้ไม่มีขีดจำกัด ในขณะที่การวางเฉยของพวกเขามีขีดจำกัด พวกเขาเพียงแค่มีความระอาต่อบ้านของพวกเขาในขณะที่ลูกมีความระอาต่อทั้งโลกเก่า เมื่อลูกจบสิ้นความเลื่อมใสศรัทธาของลูก ลูกก็มีความระอาต่อโลกเก่าจากนั้นเราก็ไปสู่โลกใหม่ผ่านดินแดนแห่งความสงบ พ่อพูดว่า โลกเก่านี้จะถูกเผาไหม้ ลูกต้องไม่ผูกติดหัวใจของลูกกับโลกเก่านี้ ลูกจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าลูกจะกลับมามีค่า ลูกต้องชำระสะสางบัญชีกรรมทั้งหมดของลูก ลูกกำลังสะสมความสุขถึงครึ่งวงจร สิ่งนั้นเรียกว่าดินแดนแห่งความสงบและนั่นคือดินแดนแห่งความสุข อันดับแรกมีความสุขแล้วก็มีความทุกข์ พ่อได้อธิบายแล้วว่าดวงวิญญาณใหม่ทั้งหมดลงมาจากบ้าน ตัวอย่างเช่น เมื่อดวงวิญญาณของพระคริสต์มาเป็นครั้งแรก เขาจะไม่ประสบกับความทุกข์ใดๆ การละเล่นนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสุขก่อนแล้วจึงเป็นความทุกข์ ผู้ที่มาใหม่ก็สโตประธาน เช่นที่ประสบการณ์ของความสุขของลูกยิ่งใหญ่กว่าของพวกเขา ดังนั้นประสบการณ์ของความทุกข์ของลูกก็เป็นเช่นเดียวกัน ลูกต้องใช้สติปัญญาของลูกที่จะเข้าใจทั้งหมดนี้ พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกดวงวิญญาณ แล้วลูกก็อธิบายแก่ดวงวิญญาณอื่นๆ พ่อพูดว่า พ่อได้นำร่างนี้มาใช้ พ่อเข้ามาในร่างนี้ในตอนสุดท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของผู้นี้ นั่นคือพ่อเข้ามาในร่างที่ตโมประธาน แล้วเขาก็กลายเป็นคนแรกที่มา คนแรกกลายเป็นคนสุดท้ายและคนสุดท้ายกลายเป็นคนแรก สิ่งนี้ต้องมีการอธิบายด้วยเช่นกัน ใครที่มาหลังจากคนแรก? มาม่า! เธอก็ต้องเล่นบทบาทของเธอเช่นกัน เธอได้ให้คำสอนแก่ผู้คนมากมาย และแล้วลูกๆ ก็ตามลำดับกันไปในการสอนผู้อื่นมากมาย ผู้ที่กำลังศึกษาเล่าเรียนก็ทำความเพียรพยายามเช่นนั้นที่พวกเขาจะกลับมาฉลาดยิ่งกว่าลูกด้วยเช่นกัน มีนักเรียนหลายคนในศูนย์ที่ฉลาดยิ่งกว่าครูของเขา แต่ละคนก็มองเห็นได้เป็นรายบุคคล ลูกสามารถเข้าใจทุกสิ่งจากพฤติกรรมของแต่ละคน มายาจับจมูกของใครบางคนไว้เช่นนั้นที่เธอจบสิ้นพวกเขาลงไปอย่างสมบูรณ์ พวกเขาตกอยู่ในกิเลส เมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป ลูกจะได้ยินสิ่งนี้ของผู้คนมากมาย ลูกจะประหลาดใจ “คนนี้เคยให้ความรู้แก่เรา ทำไมเธอถึงจากไป? เธอเคยบอกเราให้กลับมาบริสุทธิ์ แล้วเวลานี้เธอเองก็สกปรก” ลูกจะสามารถเข้าใจได้อย่างแน่นอน หลายคนกลับมาสกปรก บาบาได้กล่าวไว้แล้วว่า มายาจะสร้างความเดือดร้อนและปัญหาอย่างมากแม้กระทั่งกับมหาระตีที่ดีมาก เช่นที่ลูกสร้างความเดือดร้อนให้แก่มายาและได้รับชัยชนะเหนือเธอ ดังนั้นมายาก็ทำเช่นเดียวกัน พ่อได้ให้ชื่อที่บันเทิงชั้นหนึ่งเช่นนั้นแก่ลูก แต่โอ้ มายา! พวกเขาอัศจรรย์ใจกับความรู้ พวกเขาถ่ายทอดความรู้แก่ผู้อื่น และแล้วพวกเขาก็วิ่งหนีไป! พวกเขาล้มลง มายามีพลังมาก! เหตุนี้เองลูกๆต้องคงอยู่อย่างระมัดระวังมาก นี่คือสนามรบ สงครามของลูกกับมายานั้นยิ่งใหญ่มาก! อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ชำระสะสางบัญชีกรรมทั้งหมดของลูกที่นี่และสะสมความสุขเป็นเวลาครึ่งวงจร อย่าได้ผูกพันหัวใจของลูกกับโลกเก่านี้ ลืมทุกสิ่งที่ลูกสามารถเห็นได้ด้วยตาของลูก

2. มายามีพลังมาก ดังนั้นจงอยู่อย่างระมัดระวังเธออย่างมาก วิ่งควบในการศึกษาของลูกและสร้างความก้าวหน้า รับฟังพ่อผู้เดียวเท่านั้นและถ่ายทอดให้กับผู้อื่นในสิ่งที่ลูกได้ยินจากพ่อ

พร:
ขอให้ลูกเป็นเทวดานางฟ้าที่เป็นแสงและเบาสบายผู้ที่ได้รับความรักจากทุกคนด้วยการมีสายตาที่ไม่มีขีดจำกัด และทัศนคติและสภาพที่ไม่มีขีดจำกัด

ทุกคนรักเทวดานางฟ้ามากเพราะเทวดานางฟ้าเป็นของทุกคน,ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองคน เทวดานางฟ้ามีสายตาที่ไม่มีขีดจำกัด,ทัศนคติและสภาพที่ไม่มีขีดจำกัดและเป็นผู้นำสาสน์ของพระเจ้าสำหรับทุกดวงวิญญาณ เทวดานางฟ้าหมายถึงผู้ที่เป็นแสงและเบาสบาย ผู้ที่ทำให้ทุกคนสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า และละวางจากร่างกายและความสัมพันธ์ทางร่าง บุคคลเช่นนั้นที่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเป็นเหมือนกับพ่อ ผ่านกิจกรรมและใบหน้าของพวกเขาคือผู้ที่ให้คุณประโยชน์สำหรับทุกคน เทวดานางฟ้าเช่นนั้นเป็นที่รักของทุกคน

คติพจน์:
เมื่อใบหน้าของพ่อปรากฏให้เห็นในใบหน้าของลูก และแล้วความเพียบพร้อม (completion)จะเกิดขึ้น