29.06.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ทุกสิ่งที่ลูกมองเห็นรวมทั้งร่างกายของลูกทั้งหมดจะถูกทำลาย
เวลานี้ลูกดวงวิญญาณต้องกลับบ้านและดังนั้นลูกต้องลืมโลกเก่านี้
คำถาม:
ด้วยคำพูดใดที่ลูกสามารถให้สาสน์ของพ่อแก่ทุกคนได้?
คำตอบ:
บอกทุกคนว่าพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดได้มาเพื่อให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัด
เวลาของมรดกที่มีขีดจำกัดขณะนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
นั่นคือความเลื่อมใสศรัทธานั้นได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้วในเวลานี้
อาณาจักรของราวันกำลังจะจบสิ้นลงในเวลานี้
พ่อมาเพื่อปลดปล่อยลูกออกจากกรงขังของราวันของกิเลสทั้งห้า
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดและดังนั้นลูกต้องทำความเพียรพยายามและกลายเป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่สูงส่ง
หากลูกเพียงแต่เข้าใจยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
สภาพของลูกก็สามารถกลับมาสูงส่งได้
โอมชานติ
ลูกๆทางจิตกำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้?
ลูกกำลังนั่งอยู่ในการจดจำระลึกถึงที่ไม่มีอะไรเจือปน
หนึ่งคือการจดจำระลึกถึงที่ไม่มีอะไรเจือปนและอีกหนึ่งคือการจดจำระลึกถึงที่มีสิ่งเจือปน
เมื่อการจดจำระลึกถึงที่ไม่มีอะไรเจือปนหรือความเลื่อมใสศรัทธาที่ไม่มีอะไรเจือปนได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก,ทุกคนกราบไหว้บูชาชีวา
ท่านผู้เดียวเท่านั้นคือพระเจ้า ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ท่านเป็นพ่อและครูด้วยเช่นกัน ท่านสอนลูก ท่านสอนอะไรแก่ลูก?
ท่านเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ ลูกใช้เวลา 84
ชาติเกิดที่จะเปลี่ยนจากเทพเป็นมนุษย์และใช้เพียง 1
วินาทีเท่านั้นที่จะเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ ลูกๆ
รู้ว่าลูกกำลังนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อ ท่านคือครูและสัตกูรูของเราด้วยเช่นกัน
ท่านสอนโยคะแก่เราเพื่อที่จะอยู่ในการจดจำระลึกถึงผู้เดียว ท่านเองพูดว่า โอ้
ดวงวิญญาณ โอ้ ลูกๆ
ละทิ้งความสัมพันธ์ทางร่างกายทั้งหมดเพราะเวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน
เวลานี้โลกเก่ากำลังเปลี่ยนแปลง ลูกไม่ต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป
พวกเขาได้สร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ฯลฯ เพื่อที่จะทำลายโลกเก่า
ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็จะช่วยด้วยเช่นกัน การทำลายล้างต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าเวลานี้เราจะกลับบ้าน เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า
ลูกต้องละทิ้งโลกเก่าและร่างเก่านี้
ทุกสิ่งที่ลูกเห็นในโลกนี้รวมทั้งร่างกายของลูกจะถูกทำลาย
แม้แต่ร่างกายก็ต้องถูกทำลาย เวลานี้เราดวงวิญญาณต้องกลับบ้าน
เราจะไม่สามารถไปสู่โลกใหม่ได้โดยที่ไม่ได้กลับบ้านก่อน
เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามที่จะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
เหล่าเทพคือมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด สูงสุดเหนือสิ่งใดคือพ่อผู้ไม่มีตัวตน
และแล้วในโลกมนุษย์เหล่าเทพก็สูงสุด
พวกเขาเป็นมนุษย์เช่นกันแต่พวกเขามีคุณธรรมที่สูงส่ง
และแล้วพวกเขาก็ได้กลายเป็นผู้ที่มีลักษณะนิสัยที่เป็นเช่นปีศาจ
เวลานี้ลูกต้องเปลี่ยนจากการมีลักษณะนิสัยที่เป็นเช่นปีศาจให้มีคุณธรรมที่สูงส่ง
ลูกต้องไปสู่ยุคทอง ใครต้องไปที่นั่น? ลูกๆ ต้องไปที่นั่น ลูกๆ
กำลังศึกษาเล่าเรียนและกำลังสอนผู้อื่นด้วยเช่นกัน ลูกเพียงแต่ต้องให้สาสน์ของพ่อ
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดมาเพื่อให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัด
มรดกที่มีขีดจำกัดในเวลานี้ได้จบสิ้นลง
พ่ออธิบายแล้วว่ามนุษย์ทั้งหมดอยู่ในกรงขังของกิเลสทั้งห้าของราวัน
ทั้งหมดนั้นเฝ้าแต่รับความทุกข์ พวกเขาเพียงแค่ได้รับจาปาตีแห้งๆ
พ่อมาและปลดปล่อยลูกทุกคนจากกรงขังของราวันและทำให้ลูกมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากพ่อแล้วไม่มีใครสามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพได้
ลูกกำลังนั่งที่นี่เพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ
เวลานี้คือยุคเหล็กและมีศาสนามากมาย
พ่อเองนั่งที่นี่และให้คำแนะนำของผู้สร้างและสิ่งสร้างแก่ลูกๆ ลูกเพียงแค่เคยพูดว่า
“พระเจ้า” และ “ดวงวิญญาณสูงสุด” ลูกไม่รู้ว่าท่านเป็นพ่อ ครู
และกรูของลูกด้วยเช่นกัน ท่านเรียกว่าเป็นสัตกูรู
ท่านเรียกว่าเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะเช่นกัน ลูกถูกเรียกว่าเป็นดวงวิญญาณและมนุษย์
ภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะเวลานี้กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของร่างกายนี้ ท่านไม่ได้มาเกิด
ดังนั้นภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ,พ่ออธิบายแก่ลูกๆว่า
พ่อไม่ได้มีพาหนะของพ่อเองแล้วพ่อสามารถชำระลูกๆให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร?
พ่อจำเป็นต้องใช้พาหนะ แม้แต่ภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะก็ต้องการบัลลังก์
เป็นมนุษย์ผู้ที่มีบัลลังก์อมตะ ไม่มีใครอื่นมีบัลลังก์นี้
ลูกแต่ละคนต้องการบัลลังก์
ดวงวิญญาณนั้นซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ท่านคือพ่อของทุกคน
ท่านเรียกว่าเป็นความตายที่ยิ่งใหญ่ ท่านไม่ได้เข้ามาสู่การใช้ชาติเกิดใหม่
ลูกๆดวงวิญญาณเข้าไปสู่การกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่ พ่อมาในยุคบรรจบพบกันของวงจร
ความเลื่อมใสศรัทธาเรียกว่ากลางคืนและความรู้เรียกว่ากลางวัน
จงจดจำสิ่งนี้อย่างมั่นคงมาก มีเพียงสองสิ่งหลัก อัลฟ่าและเบต้า
พ่อและอำนาจในการปกครอง พ่อมาและให้อำนาจในการปกครองแก่ลูก
ท่านสอนลูกถึงวิธีที่จะได้มาซึ่งสิ่งนั้น
เหตุนี้เองสิ่งนี้จึงเรียกว่าเป็นโรงเรียนด้วยเช่นกัน พระเจ้าพูดว่า
พระเจ้าไม่มีตัวตน ต้องมีบทบาทของท่านด้วยเช่นกัน ท่านคือพระเจ้า สูงสุดเหนือสิ่งใด
และทุกคนก็จดจำท่าน พ่อพูดว่า
ไม่มีมนุษย์คนไหนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาที่ไม่ได้จดจำพ่อ
ทุกคนจดจำพ่อในหัวใจของเขาหรือเธอ โอ้ พระเจ้า! โอ้ผู้ปลดปล่อย! โอ้
พระเจ้าผู้เป็นพ่อ! ท่านคือพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด
ท่านต้องให้ความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างแน่นอน
พ่อที่มีขีดจำกัดก็ให้ความสุขที่มีขีดจำกัด
ไม่มีใครรู้ว่าเวลานี้พ่อมาแล้วและพ่อพูดว่า ลูกๆ
ตัดขาดจากทุกคนและจดจำฉันพ่อของลูกเท่านั้น
พ่อได้บอกลูกแล้วด้วยเช่นกันลูกอยู่อย่างเป็นเทพในโลกใหม่
มีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดที่นั่น มีความสุขที่ไร้ขีดจำกัดที่นั่น
ความสุขนั้นไม่มีที่สิ้นสุดที่นั่น ในบ้านใหม่มีแต่ความสุขเสมอ
ในขณะที่ในบ้านเก่าก็มีประสบการณ์ของความทุกข์
เหตุนี้เองพ่อจึงได้มีการสร้างอาคารใหม่สำหรับลูกๆ โยคะของสติปัญญาของลูกๆ
ก็หันไปสู่อาคารใหม่ นั่นคือบางสิ่งที่มีขีดจำกัด
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังสร้างโลกใหม่ในเวลานี้
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ลูกเห็นในโลกเก่าจะกลายเป็นสุสาน
ดินแดนของเทวดานางฟ้ากำลังมีการก่อตั้งขึ้นในเวลานี้ ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกัน
ลูกสามารถที่จะมองดูยุคเหล็กและยุคทองด้วยเช่นกัน
ในยุคบรรจบพบกันลูกเห็นทุกสิ่งอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง
เมื่อผู้คนมาที่นิทรรศการหรือพิพิธภัณฑ์จงทำให้พวกเขาตระหนักถึงยุคบรรจบพบกัน
ในด้านนี้เป็นยุคเหล็กและอีกด้านหนึ่งเป็นยุคทองและเราอยู่ในระหว่างกลาง
พ่อกำลังก่อตั้งโลกใหม่ที่ซึ่งมีมนุษย์อยู่น้อยมาก ไม่มีคนของศาสนาอื่นได้ไปที่นั่น
เพียงลูกเท่านั้นที่ไปที่นั่นก่อนอื่นใด
เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามเพื่อไปสู่สวรรค์
ลูกร้องเรียกหาพ่อเพื่อที่จะทำให้ลูกบริสุทธิ์ด้วยการพูดว่า โอ บาบา
ได้โปรดชำระเราให้บริสุทธิ์และพาเราไปสู่โลกที่บริสุทธิ์ ลูกไม่ได้พูดว่า
พาเราไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ ดินแดนสูงสุดนั้นเรียกว่าบ้านที่แสนหวาน
เวลานี้เราต้องกลับบ้านที่ซึ่งเรียกว่าเป็นดินแดนแห่งการหลุดพ้นด้วยเช่นกัน
เป็นไปสำหรับสิ่งนี้ที่ซันยาสซี ฯลฯ ให้คำสอน
พวกเขาไม่สามารถให้ความรู้ของดินแดนแห่งความสุข พวกเขาเป็นของหนทางสันโดษ
เคยมีการอธิบายแก่ลูกๆแล้วว่าศาสนาใดมาในเวลาใด
ในต้นไม้โลกมนุษย์ก่อนอื่นมีรากฐานของลูก เมล็ดเรียกว่าพระเจ้าของต้นไม้ พ่อพูดว่า
พ่อ, พระเจ้าของต้นไม้อาศัยอยู่เบื้องบน
เมื่อต้นไม้ไปถึงสภาพของความเสื่อมโทรมอย่างที่สุดพ่อก็มาเพื่อก่อตั้งศาสนาเทพ
มีต้นบันยานที่มหัศจรรย์ซึ่งยืนต้นอยู่โดยที่ไม่มีรากฐานใดๆ
ในต้นไม้ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้เช่นกันศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปก็ไม่ได้คงอยู่
ศาสนาอื่นๆทั้งหมดคงอยู่ที่นี่
ลูกเป็นผู้อาศัยของโลกที่ไม่มีตัวตนและลูกลงมาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของลูก ลูกๆ
เล่นบทบาทที่รอบด้านดังนั้นจึงมีชาติเกิดมากที่สุด 84 ชาติเกิด และน้อยที่สุด 1
ชาติเกิด แล้วผู้คนก็พูดถึง 8.4 ล้านชาติเกิด
พวกเขาไม่เข้าใจว่าใครที่จะมีชาติเกิดเหล่านี้ พ่อมาและอธิบายแก่ลูกๆว่าลูกใช้ 84
ชาติเกิด ลูกคือผู้ที่แยกห่างจากพ่อก่อน ตอนแรกเหล่าเทพของยุคทองคงอยู่
เมื่อดวงวิญญาณเหล่านั้นกำลังเล่นบทบาทของพวกเขาที่นี่
แล้วดวงวิญญาณอื่นๆทั้งหมดไปที่ไหน?
เพียงลูกเท่านั้นที่รู้ว่าดวงวิญญาณที่เหลือทั้งหมดอยู่ในดินแดนแห่งความสงบในเวลานั้น
ดังนั้นดินแดนแห่งความสงบก็แยกไป
อย่างไรก็ตามมีเพียงโลกนี้เท่านั้นที่ได้มีการแสดงบทบาทที่นี่
ในโลกใหม่ลูกต้องเล่นบทบาทของความสุข
ในขณะที่ในโลกเก่าลูกต้องเล่นบทบาทของความทุกข์
นี่คือการละเล่นเกี่ยวกับความสุขและความทุกข์ นั่นคืออาณาจักรของราม
ไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกรู้ว่าวงจรโลกหมุนไปอย่างไร
พวกเขาไม่รู้จักผู้สร้างและตอนเริ่มตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
ความรู้ของผู้สร้างและตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้างไม่ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ใดๆ
พ่อบอกสิ่งนี้แก่ลูกและแล้วสิ่งนั้นก็หายไป สิ่งนั้นไม่ได้คงอยู่ในยุคทอง
เพียงราชาโยคะโบราณที่ง่ายดายของบารัตเท่านั้นที่ได้รับการจดจำ ชื่อ “ราชาโยคะ”
ได้กล่าวไว้ในกีตะเช่นกัน พ่อสอนราชาโยคะแก่ลูกและให้มรดกแห่งอาณาจักรของลูกแก่ลูก
ลูกไม่สามารถได้รับมรดกจากสิ่งสร้าง ลูกได้รับมรดกจากพ่อผู้สร้าง
มนุษย์แต่ละคนคือผู้สร้างเพราะแต่ละคนสร้างลูกๆ
พวกเขาคือบราห์มาที่มีขีดจำกัดและผู้นี้คือบราห์มาที่ไม่มีขีดจำกัด
ผู้เดียวนั้นคือพ่อของดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตน
พ่อทางร่างคือพ่อทางโลกในขณะที่ผู้นี้คือประชาบิดา (พ่อของมวลมนุษย์)
ประชาบิดาควรจะมีชีวิตอยู่เมื่อใด? ในยุคทองหรือไม่? ไม่เลย
ท่านต้องมีชีวิตอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ผู้คนไม่รู้ว่ายุคทองคงอยู่เมื่อไหร่ พวกเขาพูดว่ายุคทองและยุคเหล็ก ฯลฯ
คงอยู่มาเป็นเวลาหลายแสนปี พ่ออธิบายว่า แต่ละยุคมี 1250 ปี ต้องมีบัญชีของ 84
ชาติเกิด
ต้องมีบัญชีของบันไดที่ได้มีการแสดงให้ลูกเห็นว่าลูกลงมาอย่างไรด้วยเช่นกัน
อันดับแรกมีเหล่าเทพที่เป็นรากฐาน
หลังจากพวกเขาก็มีผู้คนของอิสลามและศาสนาพุทธที่ลงมา
พ่ออธิบายแก่ลูกแล้วเช่นกันถึงความลับของต้นไม้
ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถสอนสิ่งนี้แก่ลูก ผู้คนถามลูกว่า รูปภาพเหล่านี้,สร้างขึ้นมาอย่างไร?
ใครสอนสิ่งนั้นแก่ลูก? บอกพวกเขาว่า
บาบาได้แสดงสิ่งนั้นให้แก่เราในขณะที่เข้าฌานแล้วเราก็สร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาที่นี่
แล้วพ่อก็เข้ามาในพาหนะนี้และแก้ไขสิ่งนั้นด้วยการพูดว่า ทำอย่างนี้อย่างนั้น
ท่านแก้ไขสิ่งนั้นด้วยตัวท่านเอง กฤษณะก็ถูกเรียกว่าเป็นซยัม-ซุนดร้า
แต่ผู้คนไม่สามารถเข้าใจว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกเช่นนั้น
เมื่อเขาเคยเป็นนายของดินแดนสุขาวดีเขาเคยสวยงามแต่แล้วเมื่อเขากลายเป็นเด็กชาวบ้านเขาก็ได้กลับมาน่าเกลียดและเหตุนี้เองเขาจึงถูกเรียกว่าเป็นซยัม-ซุนดร้า
เขาคือผู้ที่มาเป็นคนแรก ลูกก็เช่นเดียวกัน อาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ดำเนินต่อไป
ใครก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป? ไม่มีใครรู้สิ่งนั้น
พวกเขาได้ลืมบารัตและพูดว่าชาวฮินดูคือผู้อาศัยของฮินดูสถาน พ่อมาในบารัตเท่านั้น
เคยเป็นอาณาจักรของเหล่าเทพในบารัตและเวลานี้สิ่งนั้นได้หายไป
พ่อมาเพื่อก่อตั้งสิ่งนั้นอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนอื่นใดก็มีศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป ต้นไม้นี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้ใบไม้ลัทธิและนิกายทั้งหลายก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุด
ดังนั้นพวกเขาก็ได้เพิ่มเติมความงามเช่นกัน
และแล้วในเวลานี้เมื่อทั้งต้นไม้มาถึงสภาพที่เสื่อมโทรมถึงที่สุด พ่อจึงมาอีกครั้ง
มีคำกล่าวว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความไม่ถูกต้องและไร้ศีลธรรมถึงที่สุดพ่อจะมา…”
ดวงวิญญาณไม่รู้จักตนเองหรือพ่อ ลูกเฝ้าแต่ดูหมิ่นตนเอง,พ่อและเหล่าเทพ
เมื่อลูกกลับมาตาโมประธานและไม่รู้คิด,พ่อก็มา พ่อต้องมาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์
ลูกได้ให้ทานแห่งชีวิตแก่มนุษย์นั่นคือลูกเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ
ลูกนำพวกเขาออกจากความทุกข์ทั้งหมดและนั่นเช่นกันเป็นเวลาครึ่งวงจร มีการจดจำว่า “ขอคารวะต่อผู้เป็นแม่”
ใครคือผู้เป็นแม่ที่ลูกยกย่อง? ลูกผู้เป็นแม่คือผู้ที่ทำให้ทั้งโลกเป็นสวรรค์
แม้ว่าจะมีผู้ชายที่นี่เช่นกันแต่ส่วนใหญ่ในลูกคือผู้เป็นแม่
เหตุนี้เองพ่อจึงยกย่องลูกผู้เป็นแม่
พ่อมาและทำให้ลูกมีค่าควรแก่การได้รับการยกย่องอย่างมาก อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะไปสู่โลกแห่งความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด จงยืนอยู่ในยุคบรรจบพบกัน
กลายเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง
และในขณะที่เห็นทุกสิ่งจงเชื่อมโยงโยคะของสติปัญญาของลูกกับโลกใหม่
ให้คงอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าเวลานี้ลูกกำลังจะกลับบ้าน
2.
ให้ทานของชีวิตแก่ทุกคนและทำงานรับใช้ของการเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ
ศึกษาเล่าเรียนกับพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดและสอนผู้อื่นด้วยเช่นกัน
สร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งและดลใจผู้อื่นให้สร้างสมเช่นกัน
พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่มีโชคผู้ที่ร้องเพลงของ “ว้าว ว้าว!”ขณะทำการกระทำที่สูงส่งตามเวลาที่สูงส่ง
ในเวลาที่สูงส่งนี้
เฝ้าแต่ร้องเพลง “ว้าว ว้าว !” อย่างสม่ำเสมอในจิตใจของลูก
ขณะที่มีการกระทำที่สูงส่ง “ว้าว การกระทำที่สูงส่งของฉัน!” หรือ “ว้าว
บาบาผู้ที่สอนฉันให้ทำการกระทำที่สูงส่ง !” ดังนั้น ร้องเพลง “ว้าว ว้าว!”
อย่างสม่ำเสมอ
อย่าปล่อยให้คำพูดของความสิ้นหวังออกมาแม้โดยบังเอิญเนื่องจากความทุกข์
แม้เมื่อลูกเห็นฉากของความทุกข์ใดๆก็ตาม “ว้าว ละคร ว้าว !” “ว้าว บาบา ว้าว!”
โชคที่ลูกไม่เคยคิดถึงหรือฝันถึงมาก่อน ลูกได้รับขณะที่กำลังนั่งที่บ้าน
คงความซาบซึ้งของโชคนี้ไว้
คติพจน์:
จงทำให้จิตใจและสติปัญญามีพลังมากจนลูกอยู่อย่างไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนในความปั่นป่วนใดๆ