30.05.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน เวลานี้ลูกกำลังนั่งอยู่ในดินแดนของพระเจ้าเพื่อที่จะไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข นี่คือมิตรแห่งสัจจะที่ลูกกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด

คำถาม:
ลูกๆ นั้นสูงส่งกว่าและไม่ยิ่งหย่อนกว่าพ่ออย่างไร?

คำตอบ:
บาบาพูดว่า: ลูกๆ พ่อไม่ได้กลายเป็นนายของโลก พร้อมกันกับการทำให้ลูกเป็นนายของโลก พ่อทำให้ลูกกลายเป็นนายของบราห์มันด้วยเช่นกัน พ่อผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดขอคารวะต่อลูกๆ เหตุนี้เองลูกจึงสูงส่งมากกว่าพ่อ พ่อคารวะลูกผู้เป็นนาย และแล้วลูกก็คารวะต่อพ่อผู้ทำให้ลูกเป็นนายของโลก

โอมชานติ
บาบาพูด “นมัสเต” กับลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวาน ลูกไม่แม้กระทั่งตอบรับและพูดว่า: “บาบา นมัสเต” ลูกๆ รู้ว่าบาบาทำให้ลูกกลายเป็นนายของบราห์มันและเป็นนายของโลก พ่อเพียงแค่กลายเป็นนายของบราห์มัน ท่านไม่ได้กลายเป็นนายของโลก ท่านทำให้ลูกๆ กลายเป็นนายของทั้งบราห์มันและโลก ดังนั้นบอกพ่อซิว่าใครยิ่งใหญ่กว่ากัน? ลูกๆยิ่งใหญ่กว่า ดังนั้นลูกๆจึงพูดว่า: “นมัสเต” บาบาเพียงท่านเท่านั้นที่ทำให้เรากลายเป็นนายของบราห์มันและโลก เหตุนี้เองเราจึงพูด “นมัสเตต่อท่าน” ชาวมุสลิมพูดว่า: “ขอคารวะต่ออัลล่าห์” มันคือลูกๆที่มีศรัทธาที่มีความสุข ใครก็ตามที่ไม่มีศรัทธานี้จะไม่แม้แต่จะมาที่นี่ ผู้ที่มาที่นี่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาหากูรูที่เป็นมนุษย์ พวกเขาไม่ได้มาหาพ่อที่เป็นมนุษย์ ครูที่เป็นมนุษย์ หรือกูรูที่เป็นมนุษย์ ลูกมาหาพ่อทางจิต,ครูทางจิตและสัตกูรูทางจิต มีมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนในขณะที่ผู้เดียวนี้คือหนึ่งเดียวเท่านั้น ก่อนหน้านี้ไม่มีใครได้รับคำแนะนำของท่าน ได้มีการกล่าวไว้ในคัมภีร์ของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาว่าไม่มีใครรู้จักผู้สร้างหรือสิ่งสร้าง เพราะพวกเขาไม่รู้จักท่านพวกเขาจึงถูกเรียกว่าลูกกำพร้า ผู้ที่มีการศึกษาดีก็สามารถเข้าใจได้ว่าพ่อของทุกดวงวิญญาณคือผู้เดียวที่ไม่มีตัวตนเท่านั้น ท่านมาและกลายเป็นพ่อของเราและเป็นครูและสัตกูรูของเราเช่นกัน ชื่อของศรีกฤษณะได้รับการยกย่องในกีตะ กีตะคือเพชรพลอยของทุกคัมภีร์ เป็นแม่ของทุกคัมภีร์ เป็นคัมภีร์ที่สูงส่งที่สุด เพียงกีตะเท่านั้นที่ถือได้ว่าเป็นแม่และพ่อ ไม่มีคัมภีร์อื่นใดที่จะถูกเรียกว่าเป็นแม่และพ่อ ศรีมัทภควัตคีตะได้รับการจดจำว่าเป็นแม่ เป็นความรู้ของกีตะนี้ที่ปรากฏออกมาจากปากดอกบัวของพระเจ้า พ่อคือผู้สูงสุดเหนือสิ่งใด ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่ากีตะที่พูดโดยผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดคือผู้สร้าง คัมภีร์อื่นๆ ทั้งหมดคือใบไม้หรือเป็นสิ่งสร้างของกีตะ มรดกไม่เคยได้รับจากสิ่งสร้าง หากลูกได้รับนั่นก็จะเป็นไปเพียงเวลาชั่วคราวเท่านั้น มีคัมภีร์อื่นๆมากมายที่มนุษย์สอนมนุษย์ ด้วยการศึกษาคัมภีร์เหล่านั้นพวกเขาจะได้รับความสุขชั่วคราวเพียงชาติเกิดเดียวเท่านั้น การศึกษาที่หลากหลายทั้งหมดถูกสอนให้กับมนุษย์โดยมนุษย์เป็นระยะเวลาชั่วคราว พวกเขาได้รับความสุขชั่วคราวเท่านั้น และแล้วในชาติเกิดถัดไปพวกเขาก็ต้องเริ่มการศึกษาอื่น ที่นี่มีเพียงพ่อผู้ไม่มีตัวตนเท่านั้นที่ลูกได้รับมรดกเป็นเวลา 21 ชาติเกิด ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถให้สิ่งนี้แก่ลูก พวกเขาทำให้ลูกไม่มีค่าแม้แต่หนึ่งสตางค์ ในขณะที่บาบาทำให้ลูกมีค่าเท่ากับปอนด์ เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ลูกทั้งหมดคือลูกของพระเจ้า เพราะพวกเขาเรียกท่านว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน พวกเขาจึงไม่เข้าใจความหมายของสิ่งใด หากดวงวิญญาณสูงสุดอยู่ในทุกคนนั่นก็จะเป็นความเป็นพ่อ หากทุกคนจะเป็นพ่อแล้วลูกจะสามารถรับมรดกได้อย่างไร? ความทุกข์ของใครที่จะถูกขจัดออกไปและโดยใคร? มีเพียงพ่อเท่านั้นที่ถูกเรียกว่าผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข ไม่มีความหมายเลยในการเรียกทุกคนว่าพ่อ พ่อนั่งที่นี่และอธิบายว่านี่คืออาณาจักรของราวัน สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละครด้วย ดังนั้นจึงได้มีการแสดงไว้ในภาพอย่างชัดเจน มันอยู่ในสติปัญญาของลูกๆว่าลูกนั้นอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด พ่อมาเพื่อทำให้ลูกไปเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด เช่นที่ลูกจะได้รับสถานะภาพโดยการศึกษาเพื่อกลายเป็นนักกฎหมายหรือแพทย์ ดังนั้นลูกเข้าใจด้วยเช่นกันว่าลูกจะกลายเป็นอะไรด้วยการศึกษานี้ ลูกกำลังนั่งที่นี่ในความเป็นมิตรแห่งสัจจะที่จะทำให้ลูกไปสู่ดินแดนแห่งความสุข มีดินแดนแห่งสัจจะสองดินแดน: หนึ่งคือดินแดนแห่งความสุข และอีกหนึ่งคือดินแดนแห่งความสงบ นี่คือบ้านของพระเจ้า พ่อคือผู้สร้าง ผู้ที่กลับมาฉลาดด้วยการศึกษากับพ่อมีหน้าที่ที่จะทำงานรับใช้ พ่อพูดว่า: เวลานี้ลูกกลับมาฉลาดโดยการเข้าใจทุกสิ่ง ดังนั้นจงไปที่วัดของชีวาและอธิบายแก่พวกเขา ถามพวกเขาว่า: ทำไมท่านถึงได้ถวายผลไม้หลากหลายชนิด,ดอกไม้,เนย,กี,ดอกอั๊กและดอกกุหลาบแก่ชีวา? พวกเขาไม่ได้ถวายดอกอั๊กที่วัดศรีกฤษณะ ที่นั่นพวกเขาถวายดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมาก ที่วัดของชีวาพวกเขาถวายแต่ดอกอั๊กหรือดอกกุหลาบเท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่มีใครในพวกเขาที่รู้ความหมายของสิ่งนั้น เวลานี้พ่อกำลังสอนลูกๆ ไม่ใช่มนุษย์ที่กำลังสอนลูก ในส่วนที่เหลือของทั้งโลก,มนุษย์สอนมนุษย์ ในขณะที่ที่นี่พระเจ้าสอนลูก ไม่สามารถมีมนุษย์คนใดถูกเรียกว่าพระเจ้า แม้แต่ลักษมีและนารายณ์ก็ไม่สามารถถูกเรียกว่าพระเจ้า พวกเขาถูกเรียกว่าเทพ บราห์มา,วิษณุและชังก้าร์ก็ถูกเรียกว่าเทพด้วยเช่นกัน เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือพระเจ้า ท่านคือพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด ทุกคนร้องเรียกหา: โอ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด! ชื่อที่แท้จริงของท่านคือชีวา และลูกๆ ก็ถูกเรียกว่าซาลิแกรม เมื่อบัณฑิตสร้างไฟบูชายัญ พวกเขาก็ทำชีวาลิงกัมที่มีขนาดใหญ่มากและซาลิแกรมเล็กๆ มากมาย ดวงวิญญาณถูกเรียกว่าซาลิแกรมและดวงวิญญาณสูงสุดถูกเรียกว่าชีวา ท่านคือพ่อของทุกคนและเราทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน ผู้คนแม้กระทั่งพูดถึงความเป็นพี่น้อง เราเป็นลูกของพ่อ เราเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นเราได้กลายเป็นพี่น้องหญิงชายได้อย่างไร? ลูกๆ ถูกสร้างขึ้นผ่านปากของประชาบิดาบราห์มา ลูกคือบราห์มิน ลูกเป็นลูกของประชาบิดาบราห์มา เหตุนี้เองลูกจึงถูกเรียกว่าบราห์มากุมารและกุมารี อัจชะ ใครสร้างบราห์มา? พระเจ้า บราห์มา,วิษณุและชังการ์เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งสร้าง อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนคือสิ่งสร้างด้วยเช่นกัน ลูกๆปรากฏออกมาผ่านปากดอกบัวของบราห์มา ลูกถูกเรียกว่าบราห์มิน ลูกคือลูกๆที่ถูกนำมาเลี้ยงที่เกิดจากปาก ประชาบิดาบราห์มาสร้างลูกอย่างไร? แน่นอนว่าท่านต้องนำพวกเขามาเลี้ยงดู เช่นเดียวกับที่ได้มีการนำสาวกของกูรูมาเลี้ยงดู พวกเขาทั้งหมดถูกเรียกว่าสาวก ประชาบิดาบราห์มาคือพ่อของทั้งโลก ท่านถูกเรียกว่าปู่ของปู่ของปู่ด้วยเช่นกัน บราห์มา,พ่อของปวงประชาจำเป็นต้องมีที่นี่ มีบราห์มาในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนด้วย แม้ว่าชื่อบราห์มา,วิษณุและชังการ์ได้รับการจดจำว่าอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน แต่ก็ไม่มีผู้คนในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ประชาบิดาบราห์มาคือใคร? พ่อนั่งที่นี่และอธิบายทุกสิ่งเหล่านี้ พวกพรามณ์ก็เรียกตนเองว่าเป็นลูกของบราห์มาด้วยเช่นกัน เวลานี้บราห์มาอยู่ที่ไหน? ลูกพูดว่าท่านกำลังนั่งอยู่ที่นี่ ในขณะที่พวกเขาพูดว่าท่านมีอยู่ในอดีต พรามณ์เหล่านั้นเรียกตนเองว่าเป็นผู้กราบไหว้บูชา เวลานี้ลูกคือบราห์มินในทางปฏิบัติ ลูกๆทั้งหมดของประชาบิดาบราห์มาเป็นพี่น้องหญิงชายกันและกัน ชีพบาบานำบราห์มามาเลี้ยงดู ท่านพูดว่า: พ่อเข้ามาในร่างเก่านี้และสอนราชาโยคะแก่ลูก ในการเปลี่ยนมนุษย์ให้ไปเป็นเทพไม่ใช่งานของมนุษย์ มีเพียงพ่อเท่านั้นที่ถูกเรียกว่าผู้สร้าง ผู้คนของบารัตรู้ว่าวันเกิดของชีวาได้รับการเฉลิมฉลอง ชีวาคือพ่อ ผู้คนไม่รู้ว่าใครให้อาณาจักรนี้แก่เหล่าเทพ ผู้สร้างสวรรค์คือดวงวิญญาณสูงสุด ผู้เดียวที่ถูกเรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน ลูกๆดวงวิญญาณบริสุทธิ์ดั้งเดิม และแล้วไปผ่านสภาพสะโต,ราโจและตาโม ทุกคนในยุคเหล็กเวลานี้ตาโมประธาน ในขณะที่ทุกคนในยุคทองนั้นสะโตประธาน อาณาจักรลักษมีและนารายณ์เริ่มต้นเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว และราชวงศ์เทพดำรงอยู่ได้นาน 2500 ปี ลูกๆของพวกเขาก็ได้ปกครองอาณาจักรด้วยเช่นกัน มีลักษมีและนารายณ์ที่หนึ่ง ที่สองฯลฯ ผู้คนไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เวลานี้ทุกคนตาโมประธานและไม่บริสุทธิ์ ที่นี่ไม่มีมนุษย์แม้แต่คนเดียวสามารถบริสุทธิ์ได้ ทุกคนร้องเรียกหา: “โอ้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา!” ดังนั้นโลกนี้ไม่บริสุทธิ์ สิ่งนี้ถูกเรียกว่านรกยุคเหล็ก โลกใหม่ถูกเรียกว่าสวรรค์ โลกที่บริสุทธิ์ และแล้วลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์ได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ ไม่มีมนุษย์แม้แต่คนเดียวในบารัตที่รู้เกี่ยวกับ 84 ชาติเกิดของเขา ผู้คนใช้ชาติเกิดจำนวนสูงสุด 84 ชาติเกิดและจำนวนน้อยที่สุดหนึ่งชาติเกิด บารัตถูกพิจารณาว่าเป็นดินแดนที่ไม่สูญสลาย เพราะนี่คือดินแดนที่ชีพบาบาอวตารลงมา แผ่นดินบารัตไม่เคยถูกทำลาย ในขณะที่แผ่นดินอื่นๆทั้งหมดจะถูกทำลาย เวลานี้ศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปได้หายไปแล้ว ไม่มีใครที่นี่ที่จะเรียกตนเองว่าเทพ เพราะเหล่าเทพนั้นบริสุทธิ์และสะโตประธาน เวลานี้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาที่ไม่บริสุทธิ์ พ่อนั่งที่นี่และอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ พระเจ้าพูด: พระเจ้าคือพ่อของทุกคนและท่านมาในบารัตเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อไหร่ที่ท่านมา? ในยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุดนี้ เป็นเพียงในยุคบรรจบพบกันนี้เท่านั้นที่ถูกเรียกว่ายุคที่สูงส่งที่สุด นี่คือยุคบรรจบพบกัน เมื่อยุคเหล็กเปลี่ยนไปเป็นยุคทอง จากความไม่บริสุทธิ์ไปเป็นความบริสุทธิ์ มนุษย์ที่ไม่บริสุทธิ์อาศัยอยู่ในยุคเหล็ก ในขณะที่เทพที่บริสุทธิ์อาศัยอยู่ในยุคทอง เหตุนี้เองยุคนี้จึงถูกเรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุดเมื่อพ่อมาและเปลี่ยนลูกจากไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์ ลูกมาที่นี่เพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพผู้ที่สูงส่งที่สุด มนุษย์ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเราดวงวิญญาณมีชีวิตอยู่ในดินแดนนิพพาน เรามาที่นี่จากที่นั่นเพื่อที่จะเล่นบทบาทของเรา ระยะเวลาของการละเล่นนี้คือ 5000 ปี เราต้องเล่นบทบาทของเราในการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ มนุษย์ทั้งหมดคือนักแสดง วงจรของละครนี้ยังคงหมุนต่อไปเรื่อยๆ ไม่เคยหยุด ก่อนอื่นใดเหล่าเทพมาเพื่อเล่นบทบาทของพวกเขาในยุคทอง และแล้วก็มีนักรบของยุคเงิน การละเล่นนี้จะต้องได้รับความเข้าใจ เวลานี้โลกนี้เป็นป่าหนาม มนุษย์ทั้งหมดไม่มีความสุข หลังจากยุคเหล็กนี้ ยุคทองจะมา มีมนุษย์มากมายในยุคเหล็ก จะมีมนุษย์มากเท่าไหร่ในยุคทอง? น้อยมาก จะมีเพียงเทพของสุริยะวงศ์ดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปเท่านั้น เวลานี้โลกเก่านี้ต้องถูกเปลี่ยนแปลง จากโลกของมนุษย์ธรรมดาจะเปลี่ยนไปเป็นโลกของเหล่าเทพ เคยเป็นศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป แต่จะไม่มีใครเรียกตนเองว่าเป็นเทพเวลานี้ พวกเขาได้ลืมศาสนาของตนเอง เพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่ลืมศาสนาของตนเอง เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในฮินดูสถาน พวกเขาจึงเรียกศาสนาของพวกเขาว่าฮินดู เหล่าเทพนั้นบริสุทธิ์ ในขณะที่ชาวฮินดูไม่บริสุทธิ์ เหตุนี้เองพวกเขาจึงไม่สามารถเรียกตนเองว่าเทพ พวกเขาเฝ้าแต่กราบไหว้บูชาเทพ พวกเขาเรียกตนเองว่าเป็นคนบาปและตกต่ำ พ่ออธิบาย: ลูกเคยมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา แต่เวลานี้ลูกได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาที่ไม่บริสุทธิ์ ความหมายของ “ฮัมโซ” ได้มีการอธิบายแก่ลูกด้วยเช่นกัน พวกเขาพูดว่าแต่ละดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด พวกเขาแปลความหมายสิ่งนั้นอย่างผิดๆ ร่างกายนั้นหลอกลวงและมายาก็หลอกลวง ลูกจะไม่พูดเช่นนี้ในยุคทอง พ่อสร้างดินแดนแห่งสัจจะ และแล้วราวันก็มาและทำให้ดินแดนนั้นกลายเป็นดินแดนของความหลอกลวง เวลานี้พ่อมาและอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่ลูก ดวงวิญญาณคืออะไรและดวงวิญญาณสูงสุดคืออะไร? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ พ่อพูดว่า: ลูกดวงวิญญาณคือจุดแห่งแสง บทบาทของ 84 ชาติเกิดของแต่ละคนถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเราดวงวิญญาณนั้นเป็นเช่นไร พวกเขารู้เพียงแค่ว่าผู้นั้นผู้นี้เป็นนักกฎหมายหรือเป็นเช่นนั้นเช่นนี้เท่านั้น แต่ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับดวงวิญญาณ เพียงเมื่อพ่อมาเท่านั้นที่ท่านให้การตระหนักรู้แก่ลูก บทบาทของ 84 ชาติเกิดที่คงอยู่ตลอดไปของลูกได้ถูกบันทึกไว้ในลูกดวงวิญญาณ บทบาทของลูกไม่เคยถูกทำลาย บารัตนี้เคยเป็นสวนดอกไม้ที่ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากความสุข เวลานี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากความทุกข์ เวลานี้พ่อได้ให้ความรู้นี้แก่เรา เวลานี้ลูกๆกำลังรับฟังสิ่งใหม่จากพ่อ สิ่งใหม่ที่สุดคือลูกต้องเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ ลูกรู้ว่าไม่ใช่มนุษย์ที่กำลังสอนลูกเกี่ยวกับการศึกษานี้ที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ไปเป็นเทพ เป็นพระเจ้าที่สอนการศึกษานี้ การเรียกพระเจ้าว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันนั้นหมายถึงการดูหมิ่นท่าน เวลานี้พ่ออธิบาย: พ่อทำให้บารัตไปเป็นสวรรค์ทุก 5000 ปี ราวันมาและทำให้ไปเป็นนรก ไม่มีใครในโลกที่รู้สิ่งเหล่านี้ เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ เคยมีการจดจำกันว่าพระเจ้าซักเสื้อผ้าที่สกปรก ที่นั่นไม่มีกิเลส โลกนั้นปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง เวลานี้โลกมีกิเลส ผู้คนร้องเรียกหา: “โอ้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา!” ราวันทำให้เราไม่บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่าราวันมาเมื่อไหร่หรือเกิดอะไรขึ้น ราวันได้ทำให้ลูกยากจนข้นแค้นอย่างมาก! 5000 ปีที่แล้วบารัตเคยมั่งคั่งมาก มีพระราชวังทองคำที่ประดับประดาด้วยเพชรพลอย มีทรัพย์สมบัติมากมาย ดูซิว่าว่าเวลานี้บารัตในอยู่ในสภาพใด ไม่มีใครนอกจากพ่อเท่านั้นที่สามารถทำให้บารัตมีมงกุฎ(เป็นดินแดนที่สูงที่สุด) เวลานี้ลูกพูดว่าชีพบาบากำลังทำให้บารัตไปเป็นสวรรค์ พ่อพูดว่า: เวลานี้ความตายกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าลูก ลูกทั้งหมดอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ เวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน ดังนั้นจงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่บาปของลูกสามารถถูกเผาไป อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เราคือบราห์มิน ลูกๆที่เกิดจากปากของบราห์มา พระเจ้าเองกำลังสอนการศึกษานี้แก่เราเพื่อที่จะเปลี่ยนเราจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ คงอยู่ในความซาบซึ้งและความสุขนี้ มันอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้ที่ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด

2. เวลานี้คือสภาพของการปลดเกษียณของเรา ความตายยืนอยู่เบื้องหน้าเรา เราต้องกลับบ้าน เหตุนี้เองที่เราต้องเผาบาปของเราทั้งหมดโดยการอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ

พร:
ขอให้ลูกได้รับสมบัติแห่งโชคที่ไม่มีขีดจำกัด ด้วยกุญแจแห่งความรู้นี้และกลับมาเต็มไปด้วยสมบัติทั้งหมด

ในยุคบรรจบพบกันลูกๆ ลูกๆทุกคนจะได้รับกุญแจแห่งความรู้นี้ที่ลูกสร้างโชคของลูก ใช้กุญแจนี้และรับสมบัติแห่งโชคมากเท่าที่ลูกต้องการ ทันทีที่ลูกได้รับกุญแจนี้ลูกก็กลับมาเต็มไปด้วยสมบัติทั้งหมด มากเท่าที่ลูกกลับมาเต็มไปด้วยสมบัติทั้งหมดมากเท่าไหร่ลูกก็จะยิ่งมีความสุขมากโดยอัตโนมัติมากตามนั้น ลูกจะสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นเป็นราวกับว่าน้ำตกแห่งความสุขไหลรินตลอดไปไม่หยุดหย่อน แล้วลูกจะเต็มไปด้วยสมบัติทั้งหมดโดยไม่ขาดการบรรลุผลประเภทใดๆเลย

คติพจน์:
รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อและลูกจะได้รับกระแสพลังทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง

สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: สร้างสมบุคลิกภาพของความสูงส่งและความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ

มากเท่าที่ลูกมีความบริสุทธิ์ ลูกก็มีบุคลิกภาพของชีวิตบราห์มินมากตามนั้น ถ้าความบริสุทธิ์น้อย และแล้วบุคลิกภาพนั้นก็จะน้อยตามไปด้วย บุคลิกภาพแห่งความบริสุทธิ์นี้ทำให้งานรับใช้ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ถ้าแม้กระทั่งมีร่องรอยของกิเลสแม้เพียงเล็กน้อย และแล้วสหายของมันก็จะร่วมด้วยอย่างแน่นอน เช่นที่ความบริสุทธิ์ถูกเชื่อมโยงอย่างลึกล้ำกับความสงบและความสุข ดังนั้นความไม่บริสุทธิ์ก็เชื่อมโยงอย่างลึกล้ำกับกิเลสทั้งห้า เมื่อไม่มีร่องรอยของกิเลสแม้เพียงเล็กน้อยหลงเหลืออยู่ภายในลูก ก็กล่าวได้ว่าลูกรับใช้ผู้อื่นด้วยบุคลิกภาพแห่งความบริสุทธิ์ของลูก