01.09.24    Avyakt Bapdada     Thai Murli     25.11.2001     Om Shanti     Madhuban


ให้ความปรารถนาดีและรับความปรารถนาดี หาทางแก้ไขปัญหาด้วยเหตุผลใดก็ตามและแก้ไขปัญหาทั้งหมด


วันนี้ บัพดาดา มหาสมุทรแห่งความรักที่ถูกดึงด้วยสายใยแห่งความรักของลูกๆของท่านที่เป็นตัวแห่งความรักได้มาเพื่อเฉลิมฉลองการพบปะ ลูกๆ เรียกหา และพระเจ้า (ฮาซูร์) ก็มาปรากฏตัว (ฮาซีร์) ลูกเฉลิมฉลองการพบปะที่ละเอียดอ่อนอยู่เสมอ แต่ถึงกระนั้น ลูกก็ได้เรียกบัพดาดาให้เข้ามาอยู่ในรูปที่มีตัวตน ดังนั้น บัพดาดาจึงมาสู่ชุมนุมที่ไม่มีขีดจำกัดของลูกๆ บัพดาดารู้สึกยินดีที่ได้เห็นความรักของลูกๆ และในหัวใจของท่าน ท่านร้องเพลงนี้ให้กับลูกๆทุกคนในทุกหนแห่ง: ว้าว! ลูกๆ ที่สูงส่งและมีโชค! ว้าว! ดวงวิญญาณที่มีค่าควรกับความรักของพระเจ้า ว้าว!" การที่มีโชคมากมายเช่นนี้และได้รับโชคนั้นมาอย่างง่ายดายในลักษณะที่ธรรมดา - ลูกไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่ในความฝันของลูก อย่างไรก็ตาม วันนี้ ลูกได้เห็นโชคของลูกในรูปที่มีตัวตน บัพดาดาเห็นว่าแม้แต่ลูกๆที่นั่งอยู่ห่างไกล ก็ยังเฉลิมฉลองการพบปะ บัพดาดากำลังเห็นพวกเขาและเฉลิมฉลองการพบปะกับพวกเขา ผู้เป็นแม่ส่วนใหญ่ได้รับโอกาสทอง และบัพดาดาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นกองทัพชักตี และแม่ที่อยู่ภายในกำแพงสี่ด้านได้กลายเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกโดยพ่อและได้ประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของโลก ลูกได้กลายเป็นสิ่งนี้หรือยัง หรือลูกยังคงจะกลายเป็นสิ่งนี้? ลูกจะพูดว่าอย่างไร? ลูกได้กลายเป็นสิ่งนี้แล้วใช่หรือไม่? ลูกทุกคนมีโลกที่เป็นเนยของอาณาจักรของโลกอยู่ในมือของลูกใช่หรือไม่? บัพดาดาเห็นว่าลูกผู้เป็นแม่ทุกคนที่มาถึงมธุบันมีความสุขเกี่ยวกับสิ่งหนึ่ง ลูกมีความสุขเกี่ยวกับอะไร? เกี่ยวกับที่บัพดาดาได้เชิญลูกผู้เป็นแม่โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงมีความรักเป็นพิเศษต่อลูกผู้เป็นแม่ทั้งหลายใช่ไหม? ลูกพูดด้วยความซาบซึ้งว่า "บัพดาดาได้เรียกพวกเรามา พวกเราได้รับการเชื้อเชิญมา แล้วทำไมพวกเราจะไม่มาล่ะ?" บัพดาดายังคงรับฟังการสนทนาจากใจถึงใจของทุกคนและยังคงสังเกตถึงความซาบซึ้งของความสุขนี้ต่อไป ในความเป็นจริง พันดาวาสก็ไม่ยิ่งหย่อนเช่นกัน ความสำเร็จของงานของโลกไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีพันดาวาส อย่างไรก็ตาม วันนี้ พันดาวาสได้นำผู้เป็นแม่มาอยู่ข้างหน้าเป็นพิเศษเช่นกัน

บัพดาดากำลังบอกวิธีที่จะทำให้ลูกๆทุกคนมีความเพียรพยายามที่ง่ายดายมาก ผู้เป็นแม่ต้องการให้ทุกสิ่งเป็นเรื่องที่ง่ายดายใช่ไหม? ดังนั้นบัพดาดาจึงบอกลูกผู้เป็นแม่และลูกๆทุกคนว่าวิธีที่จะเพียรพยายามอย่างง่ายดายที่สุดคือในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปมาและมีการติดต่อและมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น จงให้ความรู้สึกของความปรารถนาดีจากหัวใจของลูกกับทุกดวงวิญญาณและรับความปรารถนาดีจากผู้อื่นด้วย ไม่ว่าผู้อื่นจะให้สิ่งใดกับลูก แม้ว่าพวกเขาจะให้ความปรารถนาร้ายแก่ลูกก็ตาม ด้วยพลังแห่งความปรารถนาดีของลูก จงเปลี่ยนความปรารถนาร้ายเหล่านั้นให้เป็นความปรารถนาดี ให้ทุกดวงวิญญาณได้สัมผัสกับความปรารถนาดีจากลูก ในเวลานั้น ให้สัมผัสว่าดวงวิญญาณที่ปรารถนาร้ายนั้นตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกิเลสอย่างใดอย่างหนึ่ง ลูกจะไม่มีวันปรารถนาร้ายต่อดวงวิญญาณที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่งอื่น หรือปรารถนาร้ายต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น ความปรารถนาดีจะเกิดขึ้นเสมอเพื่อช่วยเหลือดวงวิญญาณเช่นนั้น จำไว้เพียงสิ่งเดียวว่า: "ฉันต้องทำงานหนึ่งอยู่เสมอ ด้วยความคิด คำพูด การกระทำ และด้วยสายใยและความสัมพันธ์ ฉันต้องให้ความปรารถนาดีและรับความปรารถนาดี" หากลูกมีความคิดที่ไร้ประโยชน์หรือความคิดที่เป็นลบต่อดวงวิญญาณใดแล้ว ให้จำไว้ว่าหน้าที่ของลูกคืออะไร ตัวอย่างเช่น เมื่อนักดับเพลิงเห็นไฟที่ไหนสักแห่ง พวกเขาจะไม่ลืมหน้าที่ในการฉีดน้ำลงบนไฟ พวกเขาจำได้ว่าพวกเขาคือผู้ที่เทน้ำลงบนไฟ พวกเขาคือผู้ที่ดับไฟนั้น ในทำนองเดียวกัน หากใครทำงานที่ลูกไม่ชอบในขณะที่เขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของไฟแห่งกิเลสใดๆ ก็ให้จำหน้าที่ของลูกไว้ว่า: หน้าที่ของฉันคือการดับไฟทุกประเภท คือการให้พร และให้ความร่วมมือด้วยความรู้สึกของความปรารถนาดี เพียงแค่จดจำคำๆ เดียวก็พอ ผู้เป็นแม่ก็ต้องจำสำนวนหนึ่งไว้ได้อย่างง่ายดายว่า: ให้ความปรารถนาดีและรับความปรารถนาดี ผู้เป็นแม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ไหม? (ผู้เป็นแม่ทุกคนยกมือ) ลูกสามารถทำได้ไหม หรือลูกรู้สึกว่าลูกจะทำได้? ลูกพันดาวาสสามารถทำสิ่งนี้ได้ไหม? ลูกพันดาวาสบอกว่าลูกจะทำสิ่งนี้ พันดาวาสเป็นที่จดจำในฐานะผู้ได้รับชัยชนะอยู่เสมอ และชักตีก็เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกอยู่เสมอ

บัพดาดายังคงมีความหวังอยู่อย่างหนึ่งที่ลูกทุกคนในทุกหนแห่งจะต้องเติมเต็ม บาบาควรจะบอกลูกไหมว่าความหวังเดียวนั้นคืออะไร? ลูกรู้แล้ว ลูกผู้เป็นครูก็รู้เช่นกันใช่ไหม? ลูกทุกคนก็พยายามตามความสามารถของลูก บัพดาดายิ้มเมื่อเห็นความพยายามของลูก อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาอย่างหนึ่งที่มีในตอนนี้คือความพยายามของลูกต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีความพยายามอยู่บ้าง แต่เวลานี้ขอให้ความพยายามนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว วิธีการที่จะทำสิ่งนี้คือจบสิ้นคำว่า "เหตุผล" และเป็นตัวของการแก้ไขปัญหาอยู่เสมอ มีเหตุผลตามกาลเวลา และจะมีเหตุผลต่อไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ลูกทุกคนต้องเป็นตัวของการแก้ไขปัญหา เพราะด้วยการหาวิธีแก้ปัญหาให้กับโลกนี้ลูกทุกคนต้องส่งดวงวิญญาณส่วนใหญ่ไปยังดินแดนนิพพาน เมื่อลูกทำให้ตนเองเป็นตัวของการแก้ไขปัญหาแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถหาทางแก้ไขปัญหาทั้งหมดของดวงวิญญาณในโลกและส่งพวกเขาไปยังดินแดนนิพพานได้ ตอนนี้ดวงวิญญาณของโลกต้องการการหลุดพ้นและลูกก็เป็นเครื่องมือที่จะทำให้พวกเขาได้รับมรดกแห่งการหลุดพ้นจากพ่อ ดังนั้นเมื่อลูกผู้เป็นดวงวิญญาณเครื่องมือปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระก่อนโดยการค้นหาวิธีแก้ไขสาเหตุของปัญหาต่างๆ ลูกจึงจะสามารถทำให้โลกได้รับมรดกแห่งการหลุดพ้นได้ ดังนั้น ลูกได้รับการหลุดพ้นแล้วหรือยัง? อย่าให้เหตุผลใดๆ สำหรับปัญหาใดๆ เกิดขึ้นต่อหน้าลูก: "เพราะเหตุผลนี้ เพราะเหตุผลอื่น เพราะเหตุผลนี้ ฯลฯ" เมื่อมีเหตุผลใดๆ เกิดขึ้นต่อหน้าลูก ให้คิดถึงวิธีแก้ไขปัญหานั้นในหนึ่งวินาที ลองคิดเช่นนี้ดู: "ในเมื่อฉันเป็นผู้หาทางแก้ไขปัญหาให้กับโลก แล้วฉันจะไม่สามารถหาทางแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ของฉันได้หรือ?" ลูกไม่สามารถทำอย่างนั้นได้หรือ? เวลานี้ คิวของดวงวิญญาณจำนวนหนึ่งจะเข้ามาอยู่เบื้องหน้าลูก "โอ้ ผู้ประทานการหลุดพ้น โปรดประทานการหลุดพ้นแก่เราด้วย!" เพราะลูกเป็นลูกโดยตรงของผู้ประทานการหลุดพ้น ลูกเป็นลูกที่มีสิทธิ์ ลูกเป็นนายผู้ประทานการหลุดพ้นใช่หรือไม่? อย่างไรก็ตาม ประตูแห่งการขัดขวางถูกปิดลงเบื้องหน้าคิวโดยลูกผู้เป็นนายผู้ประทานการหลุดพ้น คิวพร้อมแล้ว แต่ประตูใดยังปิดอยู่? ในแง่ของความพยายามของลูก ประตูแห่งความพยายามที่อ่อนแอเพียงคำเดียวคือ "ทำไม" (kyu), เครื่องหมายคำถาม "ทำไม" คำว่า "ทำไม" นี้ไม่ได้ทำให้คิวมาอยู่เบื้องหน้าลูก ดังนั้น บัพดาดาจึงเตือนลูกๆ ทั้งหลายในดินแดนนี้และในต่างแดนว่า เวลานี้จงจบสิ้นประตูแห่งปัญหาเสียทีต่อคำถามที่ว่า "ทำไม" ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่? ลูกผู้เป็นครูสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่? ลูกพันดาวาสสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่? ลูกทุกคนยกมือหรือมีเพียงแค่บางคนเท่านั้น? ลูกชาวต่างชาติพร้อมเสมอใช่หรือไม่? ใช่หรือไม่? ถ้าใช่ ก็ยกมือขึ้นสูงๆ บางคนก็ทำอย่างนี้ เวลานี้ อย่าให้มีชื่อหรือร่องรอยของปัญหาใดๆหลงเหลืออยู่ที่ศูนย์ใดๆ สิ่งนี้เป็นไปได้หรือไม่? ขอให้ลูกแต่ละคนคิดว่า "ฉันต้องทำสิ่งนี้!" ให้ครูคิดว่า "ฉันต้องทำสิ่งนี้" ให้นักเรียนคิดว่า "ฉันต้องทำสิ่งนี้" ให้ผู้ครองเรือนคิดว่า "ฉันต้องทำสิ่งนี้" ให้ชาวมธุบันคิดว่า "ฉันต้องทำสิ่งนี้" ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้ไหม? เป็นไปได้ไหมที่คำว่า "ปัญหา" จะจบสิ้นลง เหตุผลจะจบสิ้นลง และมีวิธีแก้ไข? อะไรหรือที่ไม่สามารถเป็นไปได้? ลูกๆ ที่เข้ามาในช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งได้สัญญาอะไรไว้? พวกเขายังได้แสดงให้เห็นโดยการนำสิ่งนั้นไปปฏิบัติด้วย พวกเขาแสดงให้เห็นว่าทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ ลูกแสดงให้เห็นสิ่งนี้แล้วใช่ไหม? ดังนั้น กี่ปีแล้ว กี่ปีมาแล้วตั้งแต่การก่อตั้ง (65 ปี) ดังนั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ไม่สามารถเป็นไปได้หรือ? เป็นไปได้หรือไม่? ลูกผู้เป็นครูหลัก ยกมือขึ้น! ลูกที่มาจากปัญจาบไม่ได้ยกมือขึ้น มีความสงสัยบางอย่างหรือไม่? ลูกกำลังคิดเล็กน้อย อย่าคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น ฉันต้องทำสิ่งนั้น อย่าคิดเกี่ยวกับผู้อื่น ให้ลูกแต่ละคนคิดเพื่อตัวลูกเอง ลูกคิดเพื่อตัวลูกเองได้ใช่ไหม? ลืมคนอื่นๆ ลูกสามารถคิดเพื่อตัวลูกเองและมีความกล้าหาญสำหรับตัวลูกเองได้ใช่ไหม? หรือว่าไม่? ลูกชาวต่างชาติสามารถมีความกล้าหาญเช่นนี้ได้หรือไม่? ขอแสดงความยินดีด้วย! อัจชะ ตอนนี้ผู้ที่เข้าใจแล้ว โปรดยกมือจากหัวใจของลูก ไม่ใช่แค่ผิวเผิน ไม่ใช่ว่าฉันยกมือเพียงเพราะว่าคนอื่นกำลังทำเช่นนั้น หากลูกมีความมุ่งมั่นในหัวใจที่จะจบสิ้นเหตุผลและกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหาที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ว่าลูกจะต้องอดทนต่อสิ่งใด แม้ว่าลูกจะต้องต่อต้านมายา แม้ว่าลูกจะต้องอดทนต่อกันและกันในสายสัมพันธ์และความสัมพันธ์ของลูก ลูกก็จะต้องไม่กลายเป็นปัญหา สิ่งนี้เป็นไปได้หรือไม่? หากลูกมีศรัทธาที่มุ่งมั่นเช่นนี้แล้ว จากผู้ที่นั่งด้านหลังไปจนถึงด้านหน้าทั้งหมด ยกมือขึ้น! (บัพดาดาทำให้พวกเขาทั้งหมดยกมือและดูฉากนี้ทางทีวีด้วย) นี่เป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับลูก เหตุนี้เองบัพดาดาจึงทำให้ลูกยกมือ เช่นเดียวกับที่ลูกมีความกระตือรือร้นเมื่อเห็นคนอื่นยกมือขึ้น ดังนั้นเช่นกันเมื่อใดก็ตามที่มีปัญหาเกิดขึ้น ก็ให้เห็นบัพดาดาอยู่เบื้องหน้าลูก ในหัวใจของลูก พูดว่า “บาบา” แล้วบาบาจะปรากฏตัวและปัญหาจะหมดไป ปัญหาจะเคลื่อนตัวออกไปจากเบื้องหน้าลูกและบัพดาดาจะปรากฏอยู่ตรงหน้าลูกเสมอ จงจำสมญาของลูกไว้เสมอในทุกขณะของการเป็น “นายผู้ทรงอำนาจและผู้ที่มีทุกพลัง” มิฉะนั้น ในความรักและความระลึกถึงที่บัพดาดามอบให้ ท่านไม่ควรพูดว่า “นายผู้ทรงอำนาจผู้ที่มีทุกพลัง” แต่ควรพูดแค่เพียงว่า “ผู้มีพลัง” แทนหรือไม่? ลูกจะชอบไหมถ้าบาบาจะพูดว่า “รักและระลึกถึงลูกผู้มีพลัง”? ลูกคือนายผู้ทรงอำนาจและผู้ที่มีทุกพลัง และดังนั้น นายผู้ทรงอำนาจจะทำสิ่งใดไม่ได้หรือ? เพียงแค่จดจำสมญาและหน้าที่ของลูกไว้ สมญาของแต่ละคนคือ “นายผู้ทรงอำนาจ ผู้ที่มีทุกพลัง” และหน้าที่ของลูกคือ “ผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก” เมื่อลูกจดจำสมญาและหน้าที่ของลูกอยู่เสมอแล้ว พลังก็จะปรากฏขึ้น จงกลายเป็นนาย กลายเป็นนายแม้กระทั่งของพลัง ออกคำสั่ง สั่งพลังที่ถูกต้องในเวลาที่จำเป็น อันที่จริงแล้ว ลูกซึมซับพลังเข้ามาได้ ลูกแม้กระทั่งมีพลังเหล่านั้นอยู่แล้ว แต่สิ่งเดียวที่ขาดหายไปคือบางครั้งลูกไม่รู้ว่าจะใช้พลังเหล่านั้นอย่างไรในเวลาที่จำเป็น เมื่อเวลาผ่านไป ลูกก็นึกขึ้นมาได้ว่า "มันคงจะดีกว่ามากเลยถ้าฉันได้ทำสิ่งนี้แทน" เวลานี้ฝึกฝนใช้พลังทั้งหมดที่ลูกหลอมรวมไว้ในตัวลูกในเวลาที่ถูกต้อง ลูกใช้อวัยวะทางร่างกายของลูกโดยสั่งการกับมัน ลูกใช้มือและเท้าของลูกใช่ไหม? ในทำนองเดียวกัน ใช้พลังทั้งหมดโดยสั่งการ ใช้พลังเหล่านั้นในทางปฏิบัติ ลูกเก็บพลังเหล่านั้นไว้ในตัวลูก แต่ลูกไม่ได้ใช้มันมากนัก โดยการใช้แต่ละพลังในเวลาที่ถูกต้องจะทำให้พลังเหล่านั้นทำงานได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ จงอยู่อย่างมีความสุขด้วย! บางครั้ง ใบหน้าของลูกบางคนอาจดูเหมือนจมอยู่กับความคิดที่ลึกล้ำและดูเคร่งเครียดจริงจังเกินไป จงอยู่อย่างมีความสุข ร่ายรำและร้องเพลง ชีวิตบราห์มินของลูกคือการร่ายรำอย่างมีความสุขและร้องเพลงเกี่ยวกับโชคและพระเจ้าของลูก หากนักเต้นรำและนักร้องร่ายรำอย่างเคร่งเครียดจริงจังเกินไป ก็คงจะพูดได้ว่าพวกเขาไม่รู้จักวิธีการร่ายรำ ความเป็นผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่การจริงจังมากเกินไปจะทำให้ลูกดูเหมือนกำลังจมอยู่กับความคิดมากเกินไป

บัพดาดาได้ยินมาว่าจะมีพิธีเปิดสถานที่ในเดลี แต่บัพดาดาต้องการเห็นพิธีเปิดอะไร? (พิธีเปิด the Om Shanti Retreat Centre เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2001) กำหนดวันที่สำหรับสิ่งนั้นให้แน่นอน พิธีเปิดทั้งเล็กและใหญ่จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พิธีเปิดที่บัพดาดาต้องการคือให้ลูกทุกคนขึ้นมาสู่เวทีของโลกในฐานะเทวดานางฟ้าที่ทัดเทียมกับพ่อในรูปที่เป็นจริงในทางปฏิบัติและโดยที่มีม่านเปิดออก ลูกทุกคนก็ชอบพิธีเปิดเช่นนี้เช่นกันใช่หรือไม่? ในการสนทนาจากใจถึงใจของลูกเช่นกัน ลูกทุกคนยังคงพูดอยู่เรื่อยๆ และพ่อยังคงได้ยินอยู่เรื่อยๆว่า ความปรารถนาเดียวที่เรามีในเวลานี้คือการเปิดเผยพ่อ ในขณะที่ความปรารถนาของพ่อคือให้ลูกๆได้รับการเปิดเผยก่อน พ่อจะได้รับการเปิดเผยพร้อมกับลูกๆ ท่านจะไม่ได้รับการเปิดเผยเพียงลำพัง ดังนั้น บัพดาดาจึงต้องการเห็นพิธีเปิดนี้ ลูกมีความกระตือรือร้นอย่างดีมาก ในเวลาที่ลูกได้มีการสนทนาจากใจถึงใจกับบาบา ลูกทุกคนมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างดีมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกกลายเป็นคาร์มาโยคี ก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย แล้วลูกผู้เป็นแม่จะทำอะไร? กลุ่มของผู้เป็นแม่มีจำนวนมาก และเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ บัพดาดาก็รู้สึกยินดีและพอใจมาก ไม่มีใครทำให้ผู้เป็นแม่ก้าวไปข้างหน้าได้มากขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม บัพดาดารู้สึกยินดีที่เห็นผู้เป็นแม่ก้าวไปข้างหน้า ผู้เป็นแม่มีความคิดพิเศษนี้: สิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้สำเร็จ พวกเราผู้เป็นแม่จะทำสิ่งนั้นร่วมกับพ่อ ลูกจะแสดงให้เห็นสิ่งนี้ในทางปฏิบัติหรือไม่? ตอนนี้ ตบมือข้างเดียว (โบกมือ) ผู้เป็นแม่ ลูกผู้เป็นแม่สามารถทำได้ทุกอย่าง ผู้เป็นแม่มีความกระตือรือร้นดี แม้ว่าลูกจะไม่เข้าใจอะไรอย่างอื่น แต่อย่างน้อยลูกก็เข้าใจว่า: ฉันเป็นของบาบาและบาบาเป็นของฉัน ลูกเข้าใจมากถึงขนาดนี้แล้วใช่ไหม? ลูกทุกคนพูดว่า "บาบาของฉัน!" ใช่ไหม? เพียงแค่ร้องเพลงนี้ในหัวใจของลูกต่อไปเรื่อยๆ: "บาบาของฉัน บาบาของฉัน บาบาของฉัน!"

บัพดาดากำลังให้เวลาลูกทุกคนในการนั่งด้วยความตื่นตัว เวลานี้ลูกทุกคนมีความรักต่อบัพดาดา 100% แล้วใช่ไหม? ความรักนั้นไม่ใช่เป็นเพียงเปอร์เซ็นต์เท่านั้นใช่ไหม? มันเป็น 100% หรือไม่? ดังนั้น ลูกพร้อมหรือยังที่จะตอบแทนด้วยความรัก 100%? ลูกมีความรัก 100% ใช่ไหม? ผู้ที่มีความรักน้อยกว่าเล็กน้อย ยกมือขึ้น! ลูกจะได้รับความช่วยเหลือในภายหลัง! ถ้าลูกมีความรักน้อยกว่า ให้ยกมือขึ้น! ผู้ที่มีความรักไม่ถึง 100% ยกมือขึ้น! บาบากำลังพูดถึงความรัก มีอยู่หนึ่งหรือสองอย่าง อัจชะ ลูกไม่มีความรัก ก็ไม่เป็นไร สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น ลูกจะไปที่ไหนได้อีก? ลูกจะต้องรักบาบา อัจชะ ลูกทุกคนกำลังนั่งด้วยความตื่นตัวใช่ไหม? ตอนนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนความรัก ลูกทุกคนสามารถกลับมาสำรวจตนเบื้องหน้าบัพดาดาสักครู่ได้ไหม และมีความคิดอยู่ในใจและจากหัวใจของลูกว่าตอนนี้ลูกจะไม่เป็นปัญหาสำหรับตัวลูกเองหรือผู้อื่นอีกต่อไป ลูกสามารถมีความคิดที่มุ่งมั่นนี้เพื่อเป็นการตอบแทนความรักได้หรือไม่? ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่? ลูกคือผู้ที่คิดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้ว่าบางสิ่งจะเกิดขึ้น ลูกจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในหนึ่งวินาที - มีความคิดที่มุ่งมั่นในหัวใจของลูก บัพดาดาจะช่วยเหลือผู้ที่มีความคิดที่มุ่งมั่นนี้ แต่วิธีที่จะได้รับความช่วยเหลือคือการตระหนักถึงความคิดที่มุ่งมั่น ลูกมีความคิดนี้อยู่เบื้องหน้าบัพดาดา วิธีการตระหนักถึงสิ่งนี้จะช่วยลูกได้ ดังนั้น ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่? พยักหน้าเห็นด้วย! ดูสิ อะไรที่ไม่สามารถบรรลุได้ด้วยความคิด? อย่าได้หวาดกลัว ลูกจะได้รับความช่วยเหลือพิเศษจากบัพดาดาอย่างแน่นอน อัจชะ

ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งผู้เพียรพยายามอย่างแรงกล้า ถึงลูกๆผู้กล้าหาญที่ตอบแทนความรักของพ่ออย่างสม่ำเสมอ ถึงลูกๆที่เป็นดวงวิญญาณบุญ และทำให้คนอื่นๆกลายเป็นดวงวิญญาณพิเศษด้วยคุณสมบัติพิเศษของพวกเขาอยู่เสมอ ถึงลูกๆที่เป็นตัวของการแก้ไขปัญหาอยู่เสมอ และถึงลูกๆ ที่โบยบินไปข้างหน้าโดยเฉพาะ ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเตจากบัพดาดา

ในช่วงเวลาแห่งการอำลา: วันนี้ ทุกคนในมธุบันซึ่งกำลังยุ่งอยู่กับงานของการรักษาความปลอดภัยกำลังมาอยู่เบื้องหน้าบัพดาดา ผู้ที่ดูแลยักย่ามีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นพวกเขาจึงดูแลทุกสิ่งทุกอย่างและกำลังระลึกถึงบาบาในขณะที่นั่งอยู่ห่างไกล ดังนั้น บัพดาดาจึงมอบความรักและความระลึกถึงเป็นพิเศษแก่ทุกคนที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างหรือที่กำลังทำหน้าที่อื่นใดในเวลานี้ในญาณสโรว่า, มธุบัน และชานติวัน ลูกทุกคนทำงานหนักมาก ทุกคนที่มาจากดินแดนนี้และจากต่างแดนที่ส่งความทรงจำระลึกถึงของพวกเขามา ควรพิจารณาว่าบัพดาดาได้มอบความรักและความระลึกถึงเป็นพิเศษแก่พวกเขา อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกเป็นเทวดานางฟ้าที่เป็นแสงและเบาสบายที่อยู่อย่างเป็นอิสระจากแรงดึงดูดใดๆของซันสการ์เก่าๆ และความสัมพันธ์ของโลกเก่า

การเป็นเทวดานางฟ้าหมายถึงการอิสระจากแรงดึงดูดใดๆจากโลกเก่า ไม่ถูกดึงดูดด้วยความสัมพันธ์ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือบุคคลหรือสิ่งของใดๆ ในทำนองเดียวกันลูกต้องเป็นอิสระจากแรงดึงดูดใดๆของซันสการ์เก่า อย่าให้มีแรงดึงดูดใดๆต่อซันสการ์ในรูปของความคิด ทัศนคติ หรือคำพูดใดๆ เมื่อลูกเป็นอิสระจากแรงดึงดูดทั้งหมด นั่นคือจากการเสียเวลา จากกลุ่มคนที่ไร้ประโยชน์ หรือจากบรรยากาศที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อนั้นลูกจะถูกกล่าวว่าเป็นเทวดานางฟ้าที่เป็นแสงและเบาสบาย

คติพจน์:
เพียงผู้ที่ค้ำจุนดวงวิญญาณทั้งหมดด้วยพลังแห่งความเงียบสงบเท่านั้นที่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ทางจิต