02.02.25    Avyakt Bapdada     Thai Murli     31.12.2003     Om Shanti     Madhuban


ปีนี้ จงกลายเป็นเครื่องมือที่ถ่อมตนและเพิ่มบัญชีสะสมของลูกและกลายเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่อย่างสม่ำเสมอ


วันนี้ บัพดาดาผู้ที่มีแขนมากมายกำลังมองดูแขนทั้งหมดของท่านในทุกหนแห่ง บางแขนอยู่เบื้องหน้าท่านเป็นการส่วนตัวในรูปที่มีตัวตน และบางแขนก็ปรากฏให้เห็นในรูปที่ละเอียดอ่อน บัพดาดาพอใจที่ได้เห็นแขนมากมายทั้งหมดของท่าน แขนทั้งหมดตามลำดับกันไป: ที่มีความสามารถรอบด้าน พร้อมเสมอ และเชื่อฟัง ทันทีที่บัพดาดาให้สัญญาณ มือขวาจะพูดว่า: ขอรับ บาบา อยู่ตรงนี้บาบา ตอนนี้บาบา! มีความสุขมากมายเมื่อได้เห็นลูกๆที่รักเป็นพิเศษเช่นนั้น บัพดาดามีความซาบซึ้งทางจิตวิญญาณที่ไม่มีใครนอกจากบัพดาดา ไม่ว่าจะเป็นธรรมะอาตมา(ดวงวิญญาณทางศาสนา) หรือมหาตมะ(ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่) ที่จะมีแขนที่ให้ความร่วมมือมากมายเช่นนี้ แค่วนไปรอบวงจรแล้วดูซิว่ามีใครได้รับแขนเช่นนี้หรือไม่ ดังนั้นบัพดาดาจึงมองเห็นคุณสมบัติพิเศษของแขนทั้งหมด ลูกเป็นแขนพิเศษที่ได้ถูกคัดเลือกมาจากทั้งโลก ลูกเป็นแขนที่ให้ความร่วมมือกับพระเจ้า ดูซิว่ามีแขนมากมายเพียงใดที่มาถึงหอประชุมนี้ในวันนี้ (วันนี้มีพี่น้องชายหญิงมากกว่า 18,000 คนที่กำลังนั่งอยู่ในหอประชุมชานติวัน) ลูกทั้งหมดสัมผัสว่าตนเองเป็นแขนของพระเจ้าหรือไม่? ลูกมีความซาบซึ้งนั้นใช่ไหม?

บัพดาดารู้สึกพอใจที่ลูกทุกคนได้มาถึงที่นี่จากทุกหนแห่งเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ อย่างไรก็ตามปีใหม่เตือนให้ลูกนึกถึงอะไร? ยุคใหม่และชาติเกิดใหม่ ยิ่งชาติเกิดสุดท้ายของลูกเก่ามากเพียงใด ชาติเกิดใหม่ชาติแรกนั้นก็สวยงามมากเช่นเดียวกัน ผู้นี้คือชายัม(น่าเกลียด) และผู้นั้นคือซุนด้า(สวยงาม) เช่นที่วันนี้ วันสุดท้ายของปีก็ชัดเจน และปีใหม่ที่อยู่เบื้องหน้าลูกก็ชัดเจนเช่นกัน ดังนั้นยุคใหม่และชาติเกิดใหม่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูกอย่างชัดเจนเช่นกันหรือไม่? วันนี้ลูกอยู่ในชาติเกิดสุดท้าย พรุ่งนี้ลูกจะอยู่ในชาติเกิดแรก สิ่งนี้ชัดเจนไหม? สิ่งนี้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูกหรือไม่? ในตอนเริ่มต้นลูกเคยมีประสบการณ์นี้ของพ่อบราห์มา พ่อบราห์มามักจะเห็นเครื่องแต่งกายของร่างที่สูงส่งในชาติเกิดใหม่ของท่านแขวนอยู่บนไม้แขวนเสื้อตรงหน้าท่านอยู่เสมอ ลูกทุกคนที่ไปพบท่านจะได้รับประสบการณ์เช่นเดียวกับประสบการณ์ของพ่อบราห์มาที่ว่า: วันนี้ฉันเป็นชายแก่ พรุ่งนี้ฉันจะกลายเป็นเด็กเล็กๆ ลูกจำสิ่งนั้นได้ไหม? คนเก่าแก่จดจำสิ่งนั้นได้ไหม? นั่นเป็นเพียงเกมของวันนี้และวันพรุ่งนี้ ให้อนาคตของลูกได้รับประสบการณ์ที่ชัดเจนเช่นกัน วันนี้ลูกเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเอง และพรุ่งนี้ลูกจะเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองโลก ลูกมีความซาบซึ้งนั้นหรือไม่? ดูสิ วันนี้ลูกบางคนสวมมงกุฎนั่งอยู่ที่นี่ (ลูกผู้เป็นเด็กน้อยชาวต่างชาติที่มาเข้าร่วมรีทรีทนั่งสวมมงกุฎ) ลูกมีความซาบซึ้งอะไร? ลูกมีความซาบซึ้งอะไรเมื่อได้สวมมงกุฎ? พวกเขามีความซาบซึ้งกับการเป็นเทวดานางฟ้า พวกเขาโบกมือแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความซาบซึ้ง

แล้วลูกจะทำอะไรในปีนี้? ลูกจะนำมาซึ่งความใหม่อะไรในปีใหม่? ลูกได้วางแผนใดๆหรือไม่? ลูกจะนำมาซึ่งความใหม่อะไร? ลูกยังคงมีโปรแกรมอยู่เรื่อยๆ ลูกมีโปรแกรมสำหรับคน 100,000 และแม้กระทั่ง 200,000 แต่ลูกจะนำมาซึ่งความใหม่อะไร? ในด้านหนึ่ง ผู้คนในทุกวันนี้ต้องการที่จะได้มาซึ่งการบรรลุผลบางอย่างสำหรับตนเอง แต่พวกเขาขาดความกล้าหาญ พวกเขาไม่มีความกล้าหาญ พวกเขาต้องการที่จะได้ยินทุกสิ่ง แต่พวกเขาไม่มีความกล้าหาญที่จะกลายเป็นสิ่งนั้น เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงดวงวิญญาณเช่นนั้น ก่อนอื่นลูกต้องใส่ปีกของความกล้าหาญให้กับดวงวิญญาณเหล่านั้น พื้นฐานของปีกแห่งความกล้าหาญคือประสบการณ์ จงให้ประสบการณ์แก่พวกเขา ประสบการณ์เป็นเช่นนั้นเมื่อพวกเขาได้รับแม้เพียงหยดเดียวและได้สัมผัสกับบางสิ่งบางอย่าง ไม่ว่าลูกจะเรียกสิ่งนั้นว่าปีกของประสบการณ์หรือเท้าของประสบการณ์ พวกเขาก็จะสามารถเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญด้วยสิ่งนั้นได้ สำหรับสิ่งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ลูกต้องกลายเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่และสม่ำเสมอ ทำให้พวกเขากลายเป็นตัวของพลังด้วยจิตใจของลูก กลายเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่และให้ประสบการณ์ของพลังด้วยจิตใจและกระแสของลูกอยู่เสมอ ด้วยคำพูดของลูก จงให้ทานความรู้นี้แก่พวกเขา ด้วยการกระทำของลูก จงให้ทานคุณธรรมแก่พวกเขา ตลอดทั้งวันไม่ว่าจะด้วยความคิด คำพูด หรือการกระทำ จงเป็นผู้ให้ทานในทั้งสามรูปแบบอยู่เสมอ ตามเวลาลูกต้องไม่เป็นเพียงผู้ให้ทานที่ให้ทานเพียงบางครั้งเท่านั้น ไม่เลย จงกลายเป็นผู้ให้ทานที่สม่ำเสมอ เพราะดวงวิญญาณต้องการสิ่งนี้ ดังนั้นในการเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น ก่อนอื่นให้ตรวจสอบบัญชีของการสะสมของลูกในทั้งสี่วิชา ฉันสะสมได้กี่เปอร์เซ็นต์? ถ้าลูกไม่ได้สะสมอะไรเลยในบัญชีของลูก ลูกจะกลายเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร? อะไรคือสิ่งชี้บอกของการตรวจสอบบัญชีของการสะสมของลูก? ลูกรับใช้ด้วยความคิด คำพูด และการกระทำของลูก แต่สิ่งชี้บอกของการสะสมก็คือ ในขณะที่รับใช้ ก่อนอื่นจะต้องมีความพอใจในตนเองก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากนั้น ดวงวิญญาณเหล่านั้นที่ลูกรับใช้มีความพอใจในความสุขหรือไม่? หากไม่มีความพอใจทั้งสองฝ่าย ลูกก็เข้าใจได้ว่าผลของการรับใช้ของลูกนั้นไม่ได้สะสมไว้ในบัญชีของงานรับใช้ของลูก

บางครั้งบัพดาดามองดูบัญชีสะสมของลูกๆ ในบางกรณีมีความตรากตรำทำงานหนักมากขึ้นและผลของการสะสมน้อยลง เหตุผลนั้นคืออะไร? มีการขาดความพอใจทั้งสองฝ่าย หากไม่มีประสบการณ์ของความพอใจ ไม่ว่าจะกับตนเองหรือกับผู้อื่น บัญชีของการสะสมก็จะลดลง บัพดาดาได้ให้กุญแจทองแก่ลูกแต่ละคนเพื่อเพิ่มบัญชีการสะสมของลูกได้อย่างง่ายดาย ลูกรู้ไหมว่ากุญแจนั้นคืออะไร? ลูกได้รับกุญแจนั้นแล้วใช่หรือไม่? กุญแจทองที่จะทำให้บัญชีของการสะสมของลูกเปี่ยมล้นอย่างง่ายดายก็คือ เมื่อใดก็ตามที่ลูกรับใช้ด้วยความคิด คำพูด หรือการกระทำของลูก ก่อนอื่นลูกต้องมีสำนึกรู้ของการเป็นเครื่องมือ การมีความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือ การมีความรู้สึกของความถ่อมตน การมีแรงจูงใจที่บริสุทธิ์ และมีความรู้สึกของความรักในสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ – หากลูกรับใช้ในขณะที่มั่นคงในสภาพนี้ ความปรารถนาของดวงวิญญาณจะได้รับการเติมเต็มโดยอัตโนมัติโดยผ่านความรู้สึกเหล่านี้ ผู้คนในทุกวันนี้มักจะจดบันทึกเสมอว่าแรงจูงใจของทุกคนคืออะไร บุคคลนั้นกำลังทำบางสิ่งในฐานะที่เป็นเครื่องมือหรือด้วยแรงจูงใจของความหยิ่งยโส? ที่ใดที่มีแรงจูงใจของการเป็นเครื่องมือ ที่นั่นก็จะมีความรู้สึกของความถ่อมตนโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจงตรวจสอบดูว่า ฉันสะสมอะไร? ฉันสะสมได้มากเพียงใด? เพราะเป็นเพียงเวลานี้เท่านั้น ในยุคบรรจบกันนี้ที่เป็นยุคสำหรับการสะสม จากนั้นตลอดทั้งวงจรก็จะเป็นรางวัลสำหรับสิ่งที่ลูกได้สะสมมา

ดังนั้นปีนี้ลูกแต่ละคนจะต้องให้ความใส่ใจในเรื่องใดเป็นพิเศษ? ตรวจสอบบัญชีของการสะสมของลูกเอง จงกลายเป็นผู้ตรวจสอบและเป็นผู้ทำด้วย เพราะลูกกำลังมองเห็นฉากของเวลาที่ใกล้เข้ามา ลูกทุกคนได้สัญญากับบัพดาดาว่าลูกจะกลับมาทัดเทียม ลูกได้ให้คำสัญญานี้หรือไม่? ผู้ที่ได้ให้สัญญานี้ ยกมือขึ้น? คำสัญญานี้มั่นคงหรือไม่? หรือลูกได้ให้คำสัญญาเพียงแค่บางเปอร์เซ็นต์เท่านั้น? ลูกได้ทำให้สัญญานี้มั่นคงหรือไม่? ดังนั้นลูกต้องมีบัญชีของการสะสมเท่าๆกับบัญชีของพ่อบราห์มาใช่ไหม? ลูกจะต้องกลับมาทัดเทียมกับพ่อบราห์มา แล้วกิจกรรมที่สูงส่งพิเศษอะไรของพ่อบราห์มาที่ลูกได้เห็น? ตั้งแต่ตอนต้นจนจบในทุกสถานการณ์ ท่านพูดว่า “ฉัน” หรือพูดว่า“บาบา”? ไม่ใช่“ฉันกำลังทำสิ่งนี้” แต่เป็น“บาบากำลังทำให้ฉันทำสิ่งนี้” ลูกมาพบใคร? ลูกมาพบบาบา ไม่มีความรู้สึกหรือความรู้ใดๆเกี่ยวกับจิตสำนึกของ“ฉัน” ลูกได้เห็นสิ่งนี้แล้วใช่ไหม? ในทุกๆเมอร์ลีท่านเตือนลูกให้นึกถึง“บาบา,บาบา”กี่ครั้ง? ดังนั้นลูกจึงได้รับการบอกว่า การกลับมาทัดเทียมนั้นหมายถึงจะต้องไม่มีความรู้สึกว่าเป็น“ฉัน”แม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้ลูกได้รับการบอกว่า จิตสำนึกของ”ฉัน” ในบราห์มินนั้นสูงส่งมาก ลูกจำสิ่งนั้นได้หรือไม่? ลูกได้รับการบอกเกี่ยวกับสิ่งนี้แล้วใช่ไหม? ทุกคนต้องการให้มีการเปิดเผยบัพดาดา “ขอให้เราได้เปิดเผยบัพดาดา” ลูกยังได้วางแผนมากมายด้วย ลูกได้วางแผนที่ดีมาก บัพดาดาพอใจกับแผนเหล่านั้น อย่างไรก็ตามรูปที่สูงส่งของจิตสำนึกของ“ฉัน”ในแผนการของลูกทำให้ความสำเร็จลดน้อยลงไปบางเปอร์เซ็นต์ ในทุกความคิด คำพูด และการกระทำของลูก ให้มีการตระหนักรู้ตามธรรมชาติถึง"บาบา บาบา" ไม่ใช่จิตสำนึกของ”ฉัน” “บัพดาดา,คาราวันฮาร์ กำลังทำให้ฉันทำสิ่งนี้” นี่คือคุณธรรมพิเศษของจักกัดอัมบา ลูกจดจำคติพจน์ของจักกัดอัมบาได้หรือไม่? คนเก่าแก่คงจะจำได้ ลูกจำได้ใช่ไหม? พูดซิ? “ผู้เดียวที่กำลังออกคำสั่งกับลูกกำลังทำให้ลูกเคลื่อนไป” นี่คือคุณธรรมพิเศษของจักกัดอัมบา ดังนั้นหากลูกต้องการประกาศสิทธิ์ในอันดับและต้องการที่จะกลับมาทัดเทียม จงจบสิ้นจิตสำนึกของ“ฉัน” ให้มีเพียงคำว่า“บาบา บาบา” ปรากฏออกมาจากริมฝีปากของลูกโดยอัตโนมัติ ให้ภาพลักษณ์ของพ่อถูกเปิดเผยในการกระทำและบนใบหน้าของลูก และแล้วการเปิดเผยก็จะเกิดขึ้น

บัพดาดาได้ยินเพลงของรูปที่สูงส่งของ “ฉัน” อย่างมาก “อะไรก็ตามที่ฉันทำนั้นดี อะไรก็ตามที่ฉันคิดนั้นดี นั่นคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น” จิตสำนึกของ “ฉัน” นี้หลอกลวงลูก ลูกอาจคิดเกี่ยวกับบางสิ่ง พูดเกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่จงทำสิ่งนั้นด้วยแรงจูงใจของการเป็นเครื่องมือที่ถ่อมตน บัพดาดาได้สอนลูกเกี่ยวกับการฝึกหัดทางจิตวิญญาณมาก่อนหน้านี้แล้ว การฝึกหัดนั้นคืออะไร? ชั่วขณะหนึ่งเป็นนาย และชั่วขณะต่อมาเป็นเด็ก จงเป็นนายในการให้ความคิดเห็นของลูก จากนั้นเมื่อความคิดเห็นนั้นได้รับการสรุปโดยคนส่วนใหญ่แล้วก็กลายเป็นเด็ก การฝึกหัดทางจิตวิญญาณของการเป็นนายและเป็นเด็กนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพียงแต่จดจำคำสามคำของคำสอนของบัพดาดาไว้ ลูกทุกคนจดจำคำเหล่านั้นได้ใช่ไหม? ในความคิดของลูกให้อยู่อย่างไม่มีตัวตน ในคำพูดของลูกให้อยู่อย่างไม่มีความหลงทะนงตน ในการกระทำของลูกให้อยู่อย่างไม่มีกิเลส เมื่อใดก็ตามที่ลูกมีความคิดใดๆ ให้สร้างความคิดเหล่านั้นในขณะที่มั่นคงในสภาพที่ไม่มีตัวตน แม้ว่าลูกจะลืมสิ่งอื่นทั้งหมด แต่อย่าลืมคำสามคำนี้ คำสอนของคำสามคำนี้เป็นของขวัญจากรูปสะคาร์ที่มีตัวตน ลูกมีความรักต่อพ่อบราห์มาในรูปสะคาร์ที่มีตัวตน แม้กระทั่งตอนนี้ลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์บางคนก็ยังเล่าประสบการณ์ของพวกเขาว่า พวกเขามีความรักต่อพ่อบราห์มาอย่างมาก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยได้พบเห็นท่านเลย แต่พวกเขาก็ยังคงมีความรักต่อท่าน ลูกๆดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ ลูกมีความรักที่ยิ่งใหญ่ต่อพ่อบราห์มาไหม? ดังนั้นใครก็ตามที่ลูกรัก ลูกจะเก็บรักษาของขวัญจากผู้นั้นไว้อย่างระมัดระวังมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ของขวัญเล็กๆน้อยๆ เมื่อลูกมีความรักอย่างลึกซึ้งต่อใครบางคน ลูกก็จะเก็บของขวัญที่ได้รับจากผู้นั้นเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวัง ดังนั้นลูกมีความรักต่อพ่อบราห์มา และนั่นหมายความว่าลูกมีความรักต่อคำสอนสามคำนี้ มันจะกลายเป็นสิ่งที่ง่ายดายมากสำหรับลูกด้วยสิ่งเหล่านี้ที่จะกลับมาสมบูรณ์และทัดเทียม จดจำสิ่งที่พ่อบราห์มาได้กล่าวไว้

ดังนั้นในปีใหม่,ลูกอาจรับใช้ด้วยคำพูด ทำสิ่งนั้นด้วยความอลังการมาก แต่จงใส่ใจที่จะทำงานรับใช้ของการให้ประสบการณ์อยู่เสมอ ให้ทุกคนได้มีประสบการณ์ของการได้รับพลังมากมายจากพี่น้องหญิงชายนี้ หรือให้พวกเขาได้มีประสบการณ์ของความสงบ เพราะประสบการณ์นั้นไม่มีวันถูกลืม สิ่งใดก็ตามที่ลูกได้ยินมาสามารถลืมได้ ลูกเพลิดเพลินกับสิ่งนั้น แต่ลูกสามารถลืมสิ่งนั้นได้ ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ดึงดูดพวกเขาให้เข้ามาใกล้ลูก ผู้ที่เข้ามามีการติดต่อสัมพันธ์กับลูกจะยังคงสร้างความสัมพันธ์กับลูกต่อไป เพราะถ้าไม่มีความสัมพันธ์ พวกเขาจะไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในมรดกได้ ดังนั้นประสบการณ์จะนำพวกเขาเข้ามาสู่ความสัมพันธ์ อัจชะ ลูกเข้าใจไหม? ตอนนี้ลูกจะทำอะไร? จงตรวจสอบและกลายเป็นผู้ตรวจสอบและเป็นผู้ทำเช่นกัน กลายเป็นผู้ทำที่ให้ประสบการณ์ กลายเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีการสะสมของลูก อัจชะ

ทุกคนจะทำอะไรในตอนนี้? ลูกจะให้ของขวัญปีใหม่แก่บัพดาดาหรือไม่? ผู้คนทำอะไรในวันปีใหม่? ลูกให้ของขวัญแก่กันและกันใช่ไหม? ลูกให้การ์ดหรือของขวัญ ดังนั้นบัพดาดาไม่ต้องการการ์ด ท่านต้องการบันทึก บัพดาดาต้องการบันทึกที่บันทึกลูกๆทุกคนที่กลายเป็นอันดับหนึ่ง พวกเขาควรจะเป็นอิสระจากอุปสรรค ตอนนี้เมื่อบัพดาดาได้ยินเรื่องอุปสรรคบางอย่าง บัพดาดาก็จำเกมที่น่าขบขันได้ ลูกรู้ไหมว่าเกมที่น่าขบขันนั้นคืออะไร? เป็นเกมที่คนแก่เล่นตุ๊กตา พวกเขาแก่แล้วแต่พวกเขายังเล่นกับตุ๊กตา ดังนั้นจึงเป็นเกมที่น่าขบขันใช่หรือไม่? ดังนั้นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ลูกได้ยินและเห็นในตอนนี้ก็ให้ความรู้สึกเหมือนอย่างนั้น พวกเขาอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ แต่ดูสิ่งที่พวกเขาทำสิ! ดังนั้นพ่อไม่ชอบบันทึกเช่นนั้น แทนที่จะเป็นสิ่งนั้น แทนที่จะเป็นการ์ด จงให้บันทึกของการเป็นอิสระจากอุปสรรค ให้สิ่งเล็กๆน้อยๆทั้งหมดของลูกจบสิ้นลง เรียนรู้วิธีที่จะทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็กและวิธีที่จะทำให้เรื่องเล็กน้อยทั้งหมดนั้นจบสิ้นลง บัพดาดาต้องการที่จะทำให้ใบหน้าของลูกแต่ละคนเป็นกระจกที่สามารถมองเห็นใบหน้าของบัพดาดาได้ ให้บัพดาดาปรากฏให้เห็นในกระจกของลูก ดังนั้นจงให้กระจกพิเศษเช่นนั้นแก่บัพดาดาเป็นของขวัญ ในโลกจะไม่มีกระจกเช่นนั้นที่พวกเขาสามารถมองเห็นพระเจ้าได้ ดังนั้นจงให้ของขวัญปีใหม่ที่ลูกจะกลายเป็นกระจกพิเศษ ใครก็ตามที่เห็นลูก ใครก็ตามที่ได้ยินอะไรจากลูก ให้พวกเขาได้เห็นและได้ยินบัพดาดาเท่านั้น ให้พวกเขาได้ยินเสียงของพ่อ ดังนั้นลูกจะให้ของขวัญนี้ไหม? ลูกจะให้ไหม? ผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะให้สิ่งนี้ ยกมือขึ้น! ยกมือขึ้นสำหรับการมีความมุ่งมั่น แม้กระทั่งลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ก็ยกมือขึ้น กลุ่มจากซินดีก็ยกมือเช่นกัน! ลูกกำลังยกมือหลังจากที่พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว กลุ่มซินดีกำลังยกมือขึ้นหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว

นี่เป็นสิ่งที่ดี บัพดาดามีความหวังในกลุ่มซินดี บาบาควรจะบอกลูกเกี่ยวกับสิ่งนั้นไหม? บาบามีความหวังอะไร? บาบามีความหวังว่าไมค์ควรจะปรากฏออกมาจากกลุ่มซินดีที่สามารถท้าทายทุกคนว่าเขาเคยเป็นอะไรและตอนนี้เขาเป็นอะไร จงกลายเป็นผู้ที่สามารถปลุกชาวซินดีให้ตื่นขึ้นได้ พวกคนที่น่าสงสารเหล่านั้นก็ไม่มีทางช่วยเหลือตัวเองได้ พวกเขาไม่รู้จักพระเจ้า พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งการจุติลงมาในประเทศของพวกเขาด้วยซ้ำ ดังนั้นให้ไมค์ปรากฏออกมาจากกลุ่มของซินดีที่สามารถท้าทายทุกคนและบอกว่าความจริงคืออะไร สิ่งนี้โอเคไหม? ลูกจะเติมเต็มความหวังนี้หรือไม่? อัจชะ

ถึงลูกซึ่งเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่และสม่ำเสมอทุกคนในทุกหนแห่ง ถึงแขนที่เชื่อฟัง มือขวาของพ่อ ถึงดวงวิญญาณที่กล้าหาญทั้งหลายที่ได้ให้ปีกแห่งความกล้าหาญแก่ดวงวิญญาณทุกหนแห่ง ถึงลูกๆทุกหนแห่งที่ทำตามพ่อบราห์มาในทุกการกระทำอย่างสม่ำเสมอ ถึงลูกๆทั้งหมดที่ได้นำคำสอนของพ่อบราห์มาและจักกัดอัมบาไปใช้ในชีวิตจริงของพวกเขา ขอมอบความรัก ระลึกถึง พร มากมายและนมัสเต

ถึงลูกๆดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ทั้งหมดและลูกๆของบารัตทั้งหมด ราตรีสวัสดิ์และอรุณสวัสดิ์เป็นสองเท่า ตอนนี้ลูกมีความสุขใช่ไหม? ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ใดๆเกิดขึ้น ให้จดจำวันนี้และร่ายรำในความสุข จงเฝ้าแต่แกว่งไกวอยู่ในชิงช้าแห่งความสุขอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้มีมีคลื่นแห่งความทุกข์เข้ามา มีดวงวิญญาณมากมายในโลกที่ก่อให้เกิดความทุกข์ ลูกๆเป็นตัวของความสุข ลูกๆของผู้ประทานความสุข ผู้ที่มองเห็นความสุขและให้ความสุข บางครั้งแกว่งไกวในชิงช้าแห่งความสุข บางครั้งแกว่งไกวในชิงช้าแห่งความรัก บางครั้งแกว่งไกวในชิงช้าแห่งความสงบ จงเฝ้าแต่แกว่งไกวต่อไป อย่าปล่อยให้เท้าของลูกก้าวลงไปในโคลน แค่แกว่งไกวต่อไป อยู่อย่างมีความสุข และทำให้ทุกคนมีความสุข และแจกจ่ายความสุขให้กับทุกคน อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกได้ตอบแทนความรักของลูกแก่พ่อด้วยสภาพที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูก และด้วยเหตุนี้ลูกจึงกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหา

การอยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูกก็คือการให้ความรักตอบแทนต่อพ่อ ผู้ที่มอบความรักตอบแทนเช่นนั้นจะกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหา เมื่อกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหา ปัญหาของลูกเองและของผู้อื่นก็จะจบสิ้นลงโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ตอนนี้ถึงเวลาที่จะทำงานรับใช้เช่นนั้นแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่จะให้และรับ ดังนั้นเวลานี้ จงเป็นผู้ที่ยกระดับทุกคนเหมือนกับพ่อ รับฟังเสียงเรียกของพวกเขาและเข้าถึงดวงวิญญาณเหล่านั้นในรูปที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูก และขจัดความเหนื่อยล้าของดวงวิญญาณที่เหนื่อยล้าจากปัญหาของพวกเขา

คติพจน์:
อยู่อย่างไร้กังวลกับสิ่งที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ไม่ใช่กับกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย

มีความรักในความสันโดษและซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ

เราต้องนำมาซึ่งความเป็นนึ่งเดียวกันในความแตกต่างของซันสการ์ในระหว่างพวกเราเอง เพื่อความเป็นนึ่งเดียวกัน เราต้องจบสิ้นความแตกต่างในปัจจุบันและซึมซับสองสิ่งนี้: a) จงเป็นผู้ที่เป็นของผู้เป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น และใช้นามของท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้น b) มีความประหยัดกับสมบัติที่มีค่าแห่งความคิด เวลา และความรู้ของลูก เมื่อนั้น "ฉัน" จะหลอมรวมกับพ่อ และความแตกต่างทั้งหมดจะจบสิ้นลง