04.02.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
พ่อให้ทานเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่สูญสลายนี้แก่ลูกและแล้วลูกเฝ้าแต่ให้ทานแก่ผู้อื่น
ด้วยการให้ทานเพชรพลอยเหล่านี้ที่ลูกจะได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
คำถาม:
หนทางใหม่ใดที่ไม่มีใครนอกจากลูกๆ ที่รู้?
คำตอบ:
เวลานี้พ่อได้ชี้หนทางที่จะกลับบ้านและไปสู่สวรรค์แก่ลูกแล้ว
ลูกรู้ว่าดินแดนแห่งความสงบคือบ้านของลูกดวงวิญญาณ
สวรรค์นั้นแยกจากดินแดนแห่งความสงบ ไม่มีใครนอกจากลูกที่รู้หนทางใหม่นี้ ลูกพูดว่า:
เวลานี้ละทิ้งการนอนหลับของกุมภกัณฑ์ เปิดตาของลูกและกลับมาบริสุทธิ์
เพียงเมื่อลูกกลับมาบริสุทธิ์แล้วเท่านั้นที่ลูกจะสามารถกลับบ้านได้
เพลง:
ตื่นเถิด โอ้
เจ้าสาวตื่นเถิด!...
โอมชานติ
พระเจ้าพูด
พ่อได้อธิบายแล้วว่าไม่ใช่ทั้งมนุษย์หรือเทพที่ควรจะถูกเรียกว่าพระเจ้าเพราะพวกเขามีรูปที่มีตัวตน
พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดไม่ได้มีทั้งรูปที่ละเอียดอ่อนหรือรูปที่มีตัวตน
เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่า: ขอคารวะต่อดวงวิญญาณสูงสุดชีวา
ท่านผู้เดียวเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้ ไม่มีมนุษย์ใดสามารถมีความรู้นี้
ความรู้อะไร? ความรู้ของผู้สร้างและตอนเริ่มตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง
ไม่มีใครมีความรู้ของดวงวิญญาณหรือดวงวิญญาณสูงสุดนี้
ดังนั้นพ่อมาและปลุกลูกให้ตื่น: โอ้ เจ้าสาว, โอ้ ผู้เลื่อมใสศรัทธา,ตื่นเถิด!
ชายและหญิงทั้งหมดคือผู้เลื่อมใสศรัทธา พวกเขาจดจำพระเจ้า
เจ้าสาวทั้งหมดจดจำเจ้าบ่าวเดียว ดวงวิญญาณทั้งหมดซึ่งเป็นคู่รักจดจำพ่อสูงสุด,
ดวงวิญญาณสูงสุดผู้เป็นที่รัก
ทั้งหมดคือสีดาและพ่อสูงสุดดวงวิญญาณสูงสุดเดียวนี้คือราม เหตุใดจึงมีการใช้คำว่า “ราม”?
เวลานี้คืออาณาจักรของราวัน เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งนี้
ก็กล่าวว่าอีกหนึ่งนั้นคืออาณาจักรของราม รามคือพ่อผู้ที่ถูกเรียกว่าอิศวร (พระเจ้า)
และภควัน (พระเจ้า) ชื่อดั้งเดิมของท่านคือชีวา เวลานี้พ่อพูดว่า: ตื่นเถิด!
ยุคใหม่กำลังจะมาถึง ยุคเก่านั้นกำลังจะจบสิ้นลง หลังจากสงครามมหาภารตะนี้
ยุคทองก็จะถูกก่อตั้งขึ้นและจะเป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์
ยุคเหล็กที่เก่ากำลังจะจบสิ้นลง เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า:
ลูกๆจงละทิ้งการหลับใหลของกุมภกัณฑ์! เวลานี้จงเปิดตาของลูก! โลกใหม่กำลังจะมา
โลกใหม่นั้นถูกเรียกว่าสวรรค์,ยุคทอง หนทางนี้ใหม่
ไม่มีใครรู้ถึงหนทางที่จะกลับบ้านหรือไปสวรรค์
สวรรค์นั้นแยกจากดินแดนแห่งความสงบที่ซึ่งดวงวิญญาณอาศัยอยู่ เวลานี้พ่อพูดว่า:
จงตื่นขึ้น! ลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์ในอาณาจักรของราวัน
เวลานี้ไม่มีแม้แต่ดวงวิญญาณเดียวที่สามารถบริสุทธิ์
พวกเขาไม่สามารถถูกเรียกว่าดวงวิญญาณบุญที่บริสุทธิ์
แม้ว่าผู้คนจะให้ทานและทำบุญก็ไม่มีแม้แต่ดวงวิญญาณเดียวที่จะสามารถถูกเรียกว่าดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์
ที่นี่ในยุคเหล็กมีดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ ในยุคทองมีดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์
เหตุนี้เองพวกเขาจึงพูดว่า: โอ ชีพบาบา
ได้โปรดมาและทำให้เรากลายเป็นดวงวิญญาณบริสุทธิ์ นี่คือประเด็นของความบริสุทธิ์
เวลานี้พ่อมาเพื่อให้ทานเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่สูญสลายแก่ลูกๆ ท่านพูดว่า:
จงเฝ้าแต่ให้ทานเพชรพลอยเหล่านี้แก่ผู้อื่นและลางร้ายของกิเลสทั้งห้าจะถูกขจัดออกไป
ให้ทานกิเลสทั้งห้าและลางร้ายของความทุกข์จะถูกขจัดออกไป
และแล้วลูกจะกลับมาบริสุทธิ์และไปสู่ดินแดนแห่งความสุข
ตัณหาราคะเป็นอันดับแรกของกิเลสทั้งห้า ละทิ้งสิ่งนั้นและกลับมาบริสุทธิ์
ผู้คนเองก็พูดว่า: โอ้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ โปรดชำระเราให้บริสุทธิ์!
ผู้ที่ข้องแวะในกิเลสถูกเรียกว่าผู้ที่ไม่บริสุทธิ์
การละเล่นของความสุขและความทุกข์นี้ใช้กับบารัตเท่านั้น
พ่อมาในบารัตและเข้ามาในร่างกายที่ธรรมดาและแล้วก็บอกเราถึงชีวประวัติของผู้นี้
ลูกทั้งหมดคือบราห์มิน, ลูกๆของประชาบิดาบราห์มา
ท่านแสดงวิธีการทั้งหมดที่จะกลับมาบริสุทธิ์ให้แก่
ลูกบราห์มากุมารและกุมารีต้องไม่ข้องแวะในกิเลส
ลูกมีชาติเกิดเดียวนี้เท่านั้นที่เป็นบราห์มิน ลูกใช้ 20 ชาติเกิดในสกุลเทพ และ 63
ชาติเกิดในสกุลพ่อค้าและศูทร
ในชาติเกิดสุดท้ายนี้ในสกุลบราห์มินซึ่งอยู่ในระหว่างที่ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
พ่อพูดว่า:
กลับมาบริสุทธิ์โดยการมีการจดจำระลึกถึงพ่อและเผาบาปของลูกออกไปด้วยพลังโยคะ
กลับมาบริสุทธิ์ในชาติเกิดเดียวนี้ ไม่มีใครในยุคทองที่ไม่บริสุทธิ์
ด้วยการกลับมาบริสุทธิ์ในชาติเกิดสุดท้ายนี้ลูกก็จะอยู่อย่างบริสุทธิ์เป็นเวลาถึง
21 ชาติเกิด ลูกเคยบริสุทธิ์และเวลานี้กลับมาไม่บริสุทธิ์
ลูกร้องเรียกหาเพราะลูกไม่บริสุทธิ์ ใครที่ทำให้ลูกไม่บริสุทธิ์?
คำแนะนำที่เป็นเช่นปีศาจของราวัน
ไม่มีใครนอกจากพ่อที่สามารถปลดปล่อยลูกๆจากความทุกข์และอาณาจักรของราวัน
ทุกคนนั้นถูกเผาด้วยการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะ
พ่อต้องมาเพื่อทำให้ลูกนั่งบนกองไฟของความรู้นี้ พ่อต้องเทน้ำของความรู้นี้
ลูกทั้งหมดต้องได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
ผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนอย่างดีคือผู้ที่จะมีประสบการณ์ของการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
ผู้อื่นทั้งหมดไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ มีเพียงเหล่าเทพเท่านั้นในยุคทอง
พวกเขาคือผู้ที่ได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
ผู้อื่นทั้งหมดได้รับการหลุดพ้น(มุกตี) ห้าพันปีที่แล้วมีอาณาจักรของเหล่าเทพ
ไม่ใช่เรื่องของหลายแสนปี พ่อพูดว่า: ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน จดจำฉันผู้เป็นพ่อ! คำว่า
“มานมานะบาฟ” นั้นโด่งดังมาก พระเจ้าพูด:
ไม่ควรมีผู้มีร่างกายใดถูกเรียกว่าเป็นพระเจ้า
ดวงวิญญาณละร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง
บางครั้งพวกเขามีร่างเป็นหญิงและบางครั้งมีร่างเป็นชาย
พระเจ้าไม่ได้เข้าไปสู่การละเล่นของการเกิดและการตายนี้
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วตามละคร ชาติเกิดหนึ่งไม่สามารถเหมือนกับชาติเกิดถัดไปได้
ชาติเกิดนี้ของลูกจะซ้ำรอยอีกครั้ง
แต่ละการกระทำและรูปลักษณะของลูกจะเหมือนเดิมอีกครั้ง
ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้วเป็นนิรันดร์ ละครนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ศรีกฤษณะจะได้รับร่างกายที่เหมือนเดิมทุกประการกับร่างกายที่เขาเคยได้รับมาก่อนในยุคทอง
เวลานี้ดวงวิญญาณนั้นอยู่ที่นี่ ลูกรู้ว่าลูกจะกลายเป็นเช่นนั้นอีกครั้ง
รูปลักษณะของลักษมีและนารายณ์ที่แสดงไว้ในภาพนั้นไม่ถูกต้อง
แต่พวกเขาก็จะสร้างภาพเช่นนั้นอีกครั้ง คนใหม่จะไม่เข้าใจประเด็นเหล่านี้
เมื่อลูกอธิบายแก่ทุกคนอย่างชัดเจนมากเท่านั้นที่พวกเขาจะเข้าใจวงจรของ 84 ชาติเกิด
และเข้าใจด้วยเช่นกันว่า นาม รูปและลักษณะฯลฯ จะมีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ
ชาติเกิดอย่างแน่นอน รูปลักษณะเหล่านี้เป็นของชาติเกิดสุดท้ายที่ 84 ของผู้นี้
เหตุนี้เองจึงได้มีการแสดงนารายณ์ด้วยรูปลักษณะเดียวกัน
ไม่เช่นนั้นแล้วผู้คนก็จะไม่สามารถเข้าใจได้
ลูกๆเข้าใจว่ามาม่าและบาบาคือผู้ที่กลายเป็นลักษมีและนารายณ์
วัตถุธาตุทั้งห้าที่นี่ไม่บริสุทธิ์ ร่างกายเหล่านี้ทั้งหมดไม่บริสุทธิ์
ร่างกายในยุคทองนั้นบริสุทธิ์ ศรีกฤษณะเป็นที่รู้จักกันว่าสวยงามที่สุด
เขามีความงามตามธรรมชาติ
ผู้คนในต่างประเทศอาจจะมีผิวขาวแต่เขาก็ไม่สามารถถูกเรียกว่าเป็นเทพ
เพราะไม่มีคุณธรรมที่สูงส่ง พ่อนั่งที่นี่และอธิบายอย่างชัดเจนมาก
ลูกหารายได้ที่สูงส่งอย่างมากด้วยการศึกษาที่สูงส่งที่สุดนี้
มีเพชรพลอยและทรัพย์สมบัติจำนวนนับไม่ถ้วนที่นั่น
ปราสาทราชวังที่นั่นประดับประดาด้วยเพชรพลอย ทั้งหมดนั้นได้หายไปแล้ว
ลูกกลับมามั่งคั่งอย่างมาก ลูกกำลังหารายได้ที่ไม่มีขีดจำกัดเป็นเวลาถึง 21
ชาติเกิด แต่สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก จงกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ฉันคือดวงวิญญาณ เวลานี้ฉันต้องละร่างเก่านี้และกลับบ้าน
เวลานี้พ่อมาเพื่อพาลูกไปกับท่าน ฉัน,ดวงวิญญาณเวลานี้ได้จบสิ้น 84 ชาติเกิดแล้ว
และฉันต้องจดจำพ่อและกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง
ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีการลงโทษเพราะเวลานี้เป็นเวลาของการชำระสะสางก่อนที่ลูกจะกลับบ้าน
ดวงวิญญาณทั้งหมดต้องชำระสะสางบัญชีกรรมของพวกเขา
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาผู้คนก็สังเวยตนเองที่คาจี
แต่ไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่ได้รับการหลุดพ้นจากการทำสิ่งนั้น
นั่นคือหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ในขณะที่นี่คือหนทางของความรู้นี้
ที่นี่ไม่มีเรื่องของการฆ่าตัวตาย นั่นคือการฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ตาเนื่องจากความปรารถนาที่ลึกล้ำต่อการหลุดพ้นของพวกเขา
บัญชีบาปของพวกเขาจึงได้รับการสะสาง และแล้วพวกเขาก็เริ่มต้นอีกครั้ง
เวลานี้ผู้คนไม่มีความกล้าหาญที่จะสังเวยตนเองที่คาจีอีกต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถได้รับการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตด้วยการทำเช่นนั้นได้
ไม่มีใครนอกจากพ่อที่สามารถประทานการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
ดวงวิญญาณยังคงลงมาเรื่อยๆ ดังนั้นดวงวิญญาณจะสามารถกลับบ้านได้อย่างไร?
พ่อคือผู้เดียวที่มาและให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคนและพาพวกเขากลับบ้าน
มีมนุษย์จำนวนน้อยมากในยุคทอง ดวงวิญญาณไม่เคยถูกทำลาย ดวงวิญญาณไม่สูญสลาย
ร่างกายที่สูญสลาย ผู้คนในยุคทองมีช่วงชีวิตที่ยาว ไม่มีเรื่องของความทุกข์
ดวงวิญญาณละร่างกายของตนและรับร่างถัดไป มีตัวอย่างของงู
การละร่างนั้นไม่ถูกเรียกว่าการตาย ไม่มีเรื่องของความทุกข์ในนั้น
แต่ละคนเข้าใจว่าถึงเวลาแล้วสำหรับเขาที่จะละร่างนั้นและรับร่างถัดไปของเขา
ลูกๆได้ปลูกฝังนิสัยของการอยู่อย่างละวางจากร่างกายนี้ที่นี่ ฉันคือดวงวิญญาณ
เวลานี้ฉันต้องกลับบ้านและแล้วฉันก็จะไปสู่โลกใหม่ ฉันจะได้รับหนังใหม่
ฝึกฝนสิ่งนี้! ลูกดวงวิญญาณเข้าใจว่าลูกใช้ 84 ร่างกาย อย่างไรก็ตามผู้คนพูดถึง 8.4
ล้านเผ่าพันธุ์
พวกเขาพูดถึงพ่อว่าท่านอยู่ในก้อนกรวดและก้อนหินและในสิ่งต่างๆที่นับไม่ถ้วน
สิ่งนั้นถูกเรียกว่าเป็นการประณามศาสนา
สติปัญญาของมนุษย์ได้เปลี่ยนจากสะอาดเป็นตกต่ำ
เวลานี้พ่อกำลังทำให้สติปัญญาของลูกสะอาด
พวกเขาทำให้สติปัญญาสะอาดด้วยการจดจำระลึกถึง พ่อพูดว่า:
เวลานี้ยุคใหม่กำลังจะมาถึง สิ่งชี้บอกของสิ่งนั้นก็คือสงครามมหาภารตะนี้
สงครามนี้คือสงครามเดียวกันที่เคยเกิดขึ้นด้วยขีปนาวุธที่จะทำให้ศาสนามากมายทั้งหมดนั้นถูกทำลายและมีการก่อตั้งศาสนาเดียว
ดังนั้นพระเจ้าต้องอยู่ที่นั่นด้วยอย่างแน่นอน ศรีกฤษณะจะสามารถมาที่นี่ได้อย่างไร?
ศรีกฤษณะนั้นเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้หรือผู้เดียวที่ไม่มีตัวตนนี้เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้?
ศรีกฤษณะจะไม่มีแม้กระทั่งความรู้นี้ ความรู้นี้หายไป
สัญลักษณ์ของลูกได้มีการสร้างขึ้นในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาด้วย
ลูกกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาจากการเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
องศาของลูกนั้นลดลงและช่วงชีวิตของลูกก็ลดลงด้วยเช่นกัน เพราะลูกกลายเป็นโบคี(ผู้ที่ข้องแวะในความสุขจากประสาทสัมผัส)
ที่นั่นพวกเขาทั้งหมดคือโยคี
สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีโยคะในการจดจำระลึกถึงใครบางคน
ที่นั่นถึงอย่างไรพวกเขาก็บริสุทธิ์ ศรีกฤษณะถูกเรียกว่าเป็นโยเกสวาร์(เจ้าแห่งโยคะ)ด้วยเช่นกัน
เวลานี้ดวงวิญญาณของศรีกฤษณะมีโยคะกับพ่อ ดวงวิญญาณของศรีกฤษณะคือโยเกสวาร์เวลานี้
เขาจะไม่ถูกเรียกว่าโยเกสวาร์ในยุคทอง ที่นั่นเขาถูกเรียกว่าเป็นเจ้าชาย
ในเวลาสุดท้ายสภาพของลูกควรกลายเป็นเช่นนั้นที่ลูกมีการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียวเท่านั้นและไม่จดจำผู้ที่มีร่างกาย
ความผูกพันทั้งหมดของลูกต่อร่างกายและโลกเก่าควรจะจบสิ้นลง
ซานยาสซีนั้นอยู่ในโลกเก่านี้แต่พวกเขาก็จบสิ้นความผูกพันยึดมั่นของเขาต่อครอบครัวของเขา
พวกเขาเชื่อว่าธาตุบราห์มคือพระเจ้าและพวกเขามีโยคะกับสิ่งนั้น
พวกเขาเรียกตนเองว่าบราห์มญานีและทัตวาญานี(ความรู้ของบราห์มและธาตุแห่งแสง)
พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาจะหลอมรวมไปสู่ธาตุบราห์ม พ่อพูดว่า:
ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ผิด พ่อคือผู้เดียวที่ถูกต้อง
พ่อคือผู้เดียวที่ถูกเรียกว่าสัจจะ
พ่อพูดว่าการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงของลูกต้องมั่นคงอย่างมาก
ความรู้นี้ง่ายดายมาก แต่ใช้ความเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
พ่อพูดว่า: ลูกต้องไม่จดจำร่างกายของใคร การจดจำระลึกถึงนั้นเป็นของวิญญาณปีศาจร้าย
เป็นการกราบไหว้บูชาวิญญาณปีศาจร้าย พ่อนั้นปราศจากร่าง ลูกต้องจดจำพ่อ
แม้กระทั่งในขณะที่มองเห็นด้วยดวงตาของลูก
รักษาการจดจำระลึกถึงพ่อด้วยสติปัญญาของลูก
ทำตามคำแนะนำของพ่อและกลับมาได้รับการปลดปล่อยจากการลงโทษโดยดารามราช
หากลูกกลับมาบริสุทธิ์ การลงโทษก็จะจบสิ้นลง จุดหมายปลายทางนั้นสูงมาก
เป็นสิ่งที่ง่ายดายอย่างมากที่จะสร้างปวงประชา
แต่ภายในนั้นเป็นสิ่งที่ได้อธิบายให้กับลูกว่าใครจะกลายเป็นปวงประชาที่มั่งคั่งและใครจะกลายเป็นปวงประชาที่ยากจน
ในเวลาสุดท้ายสติปัญญาของลูกควรจะคงอยู่ในโยคะกับพ่อและบ้านเท่านั้น
เมื่อนักแสดงจบสิ้นบทบาทการแสดงของเขาในละคร สติปัญญาของเขาก็ตรงไปที่บ้านของเขา
นี่คือประเด็นที่ไม่มีขีดจำกัด ที่นั่นพวกเขาหารายได้ที่มีขีดจำกัด
ที่นี่รายได้ของลูกนั้นไม่มีขีดจำกัด นักแสดงที่ดีก็หารายได้ที่ดีมาก
ดังนั้นพ่อพูดว่า: ในขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก
ให้สติปัญญาของลูกเชื่อมในโยคะกับเบื้องบนนั้น มนุษย์คือคู่รักของกันและกัน
ที่นี่ลูกทั้งหมดคือคู่รักของผู้เป็นที่รักเดียว ทุกคนจดจำท่าน
ท่านคือนักเดินทางที่มหัศจรรย์
ท่านมาเวลานี้เพื่อปลดปล่อยทุกคนจากความทุกข์และให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่พวกเขา
ท่านถูกเรียกว่าผู้เป็นที่รักอย่างแท้จริง ผู้คนตกหลุมรักกับร่างกายของกันและกัน
มันไม่ใช่เรื่องของกิเลสแต่ก็ถูกเรียกว่าโยคะของสำนึกที่เป็นร่าง
เป็นการจดจำวิญญาณชั่วร้าย
การจดจำมนุษย์หมายถึงการจดจำวิญญาณชั่วร้ายทั้งห้าซึ่งเป็นวัตถุธาตุ พ่อพูดว่า:
ลืมวัตถุธาตุทั้งห้าและจดจำพ่อ! สิ่งนี้ใช้ความเพียรพยายาม
ลูกจำเป็นต้องมีคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน
การแก้แค้นใครบางคนเป็นลักษณะนิสัยที่เป็นเช่นปีศาจด้วยเช่นกัน
ในยุคทองมีศาสนาเดียวเท่านั้น ไม่มีเรื่องของการแก้แค้นผู้ใด
นั่นคือศาสนาเทพที่ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีใครนอกจากพ่อชีวาที่สามารถก่อตั้งศาสนานั้น
เหล่าเทพผู้ที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนถูกเรียกว่าเทวดานางฟ้า
เวลานี้ลูกคือบราห์มินและต่อมาลูกจะกลายเป็นเทวดานางฟ้า
ลูกจะกลับบ้านและแล้วก็ลงมาสู่โลกใหม่และกลายเป็นมนุษย์ที่มีคุณธรรมที่สูงส่งซึ่งหมายความว่าลูกจะกลายเป็นเทพ
เวลานี้ลูกเปลี่ยนจากศูทรไปเป็นบราห์มิน
หากลูกไม่ได้กลายเป็นลูกๆของประชาบิดาบราห์มาแล้วลูกจะประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกได้อย่างไร?
มาม่าและประชาบิดาบราห์มานี้ภายหลังได้กลายเป็นลักษมีและนารายณ์
ชาวเจนก็บอกลูกว่าศาสนาเจนของพวกเขาคือศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด
แต่แท้จริงแล้วเป็นอดิเทพบราห์มาผู้ที่ถูกเรียกว่ามหาวีระ
บราห์มาคือมหาวีระแต่พระเจนก็มาและให้ชื่อมหาวีระแก่ผู้ก่อตั้งของพวกเขา
เวลานี้ลูกทั้งหมดคือมหาวีระ(นักรบที่ยิ่งใหญ่) ลูกกำลังเอาชนะมายา
ลูกทั้งหมดกลับมากล้าหาญ ลูกคือมหาวีระที่แท้จริง
ลูกถูกเรียกว่าชีพชัคตีด้วยเช่นกัน ลูกขี่สิงโต มหาระตีขี่ช้าง
แม้กระนั้นพ่อก็พูดว่า: จุดหมายปลายทางนั้นสูงมาก
ลูกต้องจดจำพ่อผู้เดียวเพื่อที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง ไม่มีวิธีอื่นใด
ลูกปกครองโลกด้วยพลังโยคะ ดวงวิญญาณนี้พูดว่า: เวลานี้พ่อต้องกลับบ้านแล้ว
โลกนี้เก่า การสละละทิ้งนี้ไม่มีขีดจำกัด ในขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก
จงอยู่อย่างบริสุทธิ์ และแล้วด้วยการเข้าใจวงจรนี้ ลูกก็จะกลายเป็นผู้ปกครองโลก
อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะได้รับการปกป้องจากการถูกลงโทษจากดารามราช อย่าได้จดจำร่างของใคร
ในขณะที่มองเห็นทุกสิ่งด้วยตาเนื้อของลูก จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น
ฝึกฝนที่จะกลับมาปราศจากร่าง จงกลับมาบริสุทธิ์
2.
ชี้หนทางไปสู่การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตให้แก่ทุกคน
เวลานี้การละเล่นจบลงแล้วลูกต้องกลับบ้าน
ด้วยการมีสำนึกรู้นี้ลูกสามารถสะสมรายได้ที่ไม่มีขีดจำกัด
พร:
ขอให้ลูกกลับมามีโชคอย่างมากโดยการสร้างโชคของลูกสำหรับทั้งวงจรด้วยข้อตกลงในเวลาหนึ่งวินาที
ลูกได้รับพรในเวลาของยุคบรรจบกันของการสร้างโชคได้มากที่สุดเท่าที่ลูกต้องการและในวิธีที่ลูกต้องการ
เพราะว่าพ่อผู้ประทานโชคให้กุญแจของลูกเพื่อสร้างโชคของลูกไว้ในมือของลูก
แม้แต่คนสุดท้ายก็สามารถไปอย่างรวดเร็วและมาเป็นอันดับแรก
สำหรับสิ่งนี้ในการขยายตัวของการทำงานรับใช้
เพียงแต่ฝึกฝนที่จะทำให้สภาพของลูกไปสู่สาระในหนึ่งวินาที
ในช่วงเวลาที่ลูกรับคำแนะนำให้กลายเป็นนายของเมล็ดในหนึ่งวินาที
ลูกก็ไม่ควรจะใช้เวลาใดๆ
ด้วยข้อตกลงของหนึ่งวินาทีนี้ลูกสามารถสร้างโชคของลูกสำหรับตลอดทั้งวงจร
คติพจน์:
สร้างบรรยากาศให้มีพลังด้วยงานรับใช้ทั้งสองของลูกและวัตถุธาตุจะกลายเป็นผู้รับใช้ของลูก
มีความรักในความสันโดษและซึมซับความเป็นหนึ่งเดียวกันและสมาธิ
กิ่งก้านของต้นไม้ทั้งหมดเวลานี้กลายเป็นต้นจันทน์เดียว ผู้คนต่างพูดว่า
ผู้หญิงสองถึงสี่คนไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้
ขณะที่ลูกในร่างหญิงเป็นเครื่องมือในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในโลก
ลูกในร่างหญิงเป็นเครื่องมือในการนำมาซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกันท่ามกลางความหลากหลาย
แม้ว่าลูกจะมาจากประเทศที่แตกต่างกัน มีภาษาที่แตกต่างกัน และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
แต่ลูกก็นำมาซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกันท่ามกลางความหลากหลาย