09.11.24       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน บาบามาเพื่อเปลี่ยนลูกจากดวงวิญญาณที่มีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นดวงวิญญาณที่สามารถใช้ความรู้ได้เป็นอย่างดี เพื่อเปลี่ยนลูกจากไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์

คำถาม:
ลูกที่สามารถใช้ความรู้ได้เป็นอย่างดีมีความคิดอะไรอย่างสม่ำเสมอ?

คำตอบ:
ฉันคือดวงวิญญาณที่ไม่สูญสลาย ร่างนี้สูญสลาย ฉันได้ใช้ 84 ร่าง; นี่คือชาติเกิดสุดท้าย. ดวงวิญญาณไม่เคยเล็กลงหรือใหญ่ขึ้น เป็นร่างกายที่ใหญ่ขึ้นจากเล็ก เป็นร่างกายที่มีดวงตา แต่เป็นฉันดวงวิญญาณที่มองผ่านดวงตาคู่นั้น บาบาให้ดวงตาที่สามของความรู้แก่ดวงวิญญาณ ท่านไม่สามารถสอนได้จนกว่าท่านจะได้รับการค้ำจุนจากร่างกาย เหล่านี้คือความคิดของลูกที่ซึ่งสามารถใช้ความรู้ได้เป็นอย่างดีมีอย่างสม่ำเสมอ

โอมชานติ
ใครพูดสิ่งนี้? เป็นดวงวิญญาณที่พูดเช่นนี้ ดวงวิญญาณที่ไม่สูญสลายพูดสิ่งนี้ผ่านร่างกาย มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างดวงวิญญาณและร่างกาย ร่างกายคือหุ่นกระบอกขนาดใหญ่ที่ทำขึ้นจากวัตถุธาตุทั้งห้า แม้ว่าร่างกายจะเล็กมันก็ยังใหญ่กว่าดวงวิญญาณมาก เริ่มต้นด้วยเป็นทารกในครรภ์ที่เล็กมากและจากนั้นเมื่อทารกโตขึ้นเล็กน้อยดวงวิญญาณก็เข้ามา และทารกก็เติบโตและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดวงวิญญาณคือสิ่งมีชีวิต หุ่นกระบอกไม่มีประโยชน์เลยจนกระทั่งดวงวิญญาณเข้ามา มีความแตกต่างอย่างมากมาย เป็นดวงวิญญาณที่พูดและเคลื่อนไหว เป็นจุดที่เล็กมาก ดวงวิญญาณไม่เคยเล็กหรือใหญ่กว่านี้ ดวงวิญญาณไม่เคยถูกทำลาย พ่อผู้เป็นดวงวิญญาณสูงสุดได้อธิบายแก่ลูกแล้วว่า พ่อไม่สูญสลายในขณะที่ร่างกายนี้สูญสลาย พ่อเข้ามาในร่างกายเพื่อเล่นบทบาทของพ่อ เวลานี้ลูกคิดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ลูกไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด ลูกเคยแต่พูดว่า “โอ้ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด!” เพียงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่พูดนั้น ลูกไม่เคยพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ แต่แล้วบางคนก็บอกลูกว่าลูกเป็นดวงวิญญาณสูงสุด ใครบอกสิ่งนั้นแก่ลูก? เป็นกูรูและคัมภีร์ของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ไม่มีใครที่จะบอกสิ่งนี้แก่ลูกในยุคทอง เวลานี้พ่อให้ความเข้าใจแก่ลูกแล้วว่าลูกเป็นลูกของท่าน ดวงวิญญาณเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ร่างกายไม่เป็นธรรมชาติที่ทำขึ้นมาจากดินเหนียว ร่างนั้นพูดและเคลื่อนไหวเมื่อดวงวิญญาณอยู่ในร่างนั้น เวลานี้ลูกๆรู้ว่าพ่อมาและอธิบายแก่ลูกดวงวิญญาณ ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่ชีพบาบาที่ไม่มีตัวตนพูดกับลูกผ่านร่างนี้ ดวงตาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เวลานี้พ่อได้ให้ดวงตาของความรู้แก่ลูก เมื่อไม่มีความรู้ใดๆในดวงวิญญาณ ก็จะมีดวงตาของความไม่รู้ ดวงวิญญาณได้รับดวงตาแห่งความรู้เมื่อพ่อมา เป็นดวงวิญญาณที่ทำทุกสิ่ง ดวงวิญญาณกระทำกรรมผ่านร่างกาย เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าพ่อได้นำร่างนี้มาใช้ ท่านอธิบายความลับของตัวท่านเองและความลับของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลกด้วยเช่นกัน ท่านให้ความรู้ของการละเล่นทั้งหมด ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้สิ่งใดเลย ใช่, นี่คือการละเล่นอย่างแน่นอน วงจรโลกก็หมุนไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันหมุนไปอย่างไร เวลานี้ลูกได้รับความรู้ของผู้สร้างและตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง สิ่งอื่นคือความเลื่อมใสศรัทธา พ่อมาและทำให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่สามารถใช้ความรู้ได้เป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ลูกเป็นดวงวิญญาณผู้เลื่อมใสศรัทธา ลูกดวงวิญญาณเคยแสดงความเลื่อมใสศรัทธา เวลานี้ลูกดวงวิญญาณกำลังรับฟังความรู้ ความเลื่อมใสศรัทธาเรียกว่าความมืด ลูกไม่สามารถพูดว่าลูกได้พบพระเจ้าด้วยการแสดงความเลื่อมใสศรัทธา พ่ออธิบายว่า มีบทบาทของความเลื่อมใสศรัทธาและมีบทบาทของความรู้ด้วยเช่นกัน ลูกเข้าใจว่าในเวลาที่ลูกแสดงความเลื่อมใสศรัทธาก็ไม่มีความสุขเลย ในขณะที่แสดงความเลื่อมใสศรัทธาลูกก็ล้มลุกคลุกคลานไปทั่วเพื่อแสวงหาพระเจ้า เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าด้วยการสร้างไฟบูชายัญ, ทำการทรมานตน, การให้ทานและการทำบุญในขณะที่กำลังพยายามที่จะค้นหาพระเจ้า ก็เพียงแค่นำลูกไปสู่การล้มลุกคลุกคลานไปทั่วเท่านั้นและกลับมาทุกข์ระทม ลูกกลับมาตโมประธานเมื่อลูกตกต่ำลงมาเรื่อยๆ การทำกรรมที่ผิดหมายถึงการกลับมาสกปรก ลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์เช่นกัน ไม่ใช่ว่าลูกแสดงความเลื่อมใสศรัทธาเพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์ หากปราศจากการทำให้บริสุทธิ์โดยพระเจ้าลูกจะไม่สามารถไปสู่โลกที่บริสุทธิ์ได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าลูกจะไม่สามารถพบกับพระเจ้าได้ จนกว่าลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ ผู้คนร้องขอให้พระเจ้ามาและชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์ เป็นผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ที่พบพระเจ้าเพื่อที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ พระเจ้าไม่ได้พบกับคนที่บริสุทธิ์ พระเจ้าไม่ได้พบกับลักษมีและนารายณ์ในยุคทอง พระเจ้ามาและชำระลูกที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์และจากนั้นลูกก็ออกจากร่างของลูก คนที่บริสุทธิ์ไม่สามารถอยู่ในโลกที่ตโมประธานที่ไม่บริสุทธิ์นี้ได้ พ่อชำระลูกให้บริสุทธิ์แล้วก็หายไป บทบาทของท่านในละครนั้นมหัศจรรย์มาก จะมองไม่เห็นดวงวิญญาณ แม้ว่าใครบางคนจะได้รับนิมิตของดวงวิญญาณเขาก็จะไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ ลูกสามารถเข้าใจเกี่ยวกับทุกคน ลูกตระหนักว่าผู้นี้คือสิ่งนี้ และผู้นั้นคือสิ่งนั้น ลูกจดจำพวกเขา ผู้คนต้องการที่จะได้นิมิตของใครบางคนในรูปที่มีชีวิต แต่ไม่มีจุดประสงค์ในสิ่งนั้น อัจชะ แม้ว่าลูกจะเห็นสิ่งเหล่านั้นในรูปที่มีชีวิต จุดประสงค์ของสิ่งนั้นคืออะไร? แม้ว่าลูกจะได้นิมิต นิมิตนั้นก็จะหายไปอีกครั้ง ความปรารถนาสำหรับความสุขของลูกจะได้รับการเติมเต็มในช่วงเวลาชั่วคราวเท่านั้น สิ่งนั้นเรียกว่าความสุขชั่วคราว ความปรารถนาที่ลูกมีต่อการได้นิมิตนั้นจะได้รับการเติมเต็ม ก็เท่านั้นเอง! สิ่งหลักที่นี่คือการเปลี่ยนจากผู้ที่ไม่บริสุทธิ์เป็นบริสุทธิ์ หากลูกกลับมาบริสุทธิ์ ลูกจะกลายเป็นเทพและไปสวรรค์ ในคัมภีร์พวกเขาเขียนไว้ว่าช่วงระยะเวลาของวงจรมีหลายแสนปี พวกเขาคิดว่ายังคงมีอีก 40,000 ปีของยุคเหล็กที่เหลืออยู่ บาบาอธิบายว่าทั้งวงจรมีระยะเวลา 5000 ปี และดังนั้นมนุษย์จึงอยู่ในความมืด ที่เรียกว่าความมืดที่สุด ไม่มีใครมีความรู้ใดๆ ทั้งหมดนั้นคือความเลื่อมใสศรัทธา นับตั้งแต่เวลาที่ราวันเข้ามา ความเลื่อมใสศรัทธาก็อยู่ที่นี่พร้อมกับเขา เมื่อพ่อมาท่านก็นำความรู้มาพร้อมกับท่าน เป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ลูกได้รับมรดกของความรู้จากพ่อ ลูกไม่สามารถได้รับสิ่งนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีความจำเป็นสำหรับลูกที่จะให้ความรู้ใครที่นั่น เพียงผู้ที่ไม่รู้เท่านั้นที่ได้รับความรู้ ไม่มีใครรู้จักพ่อเลย พวกเขาไม่พูดสิ่งใดโดยที่ไม่ได้ประณามพ่อ เวลานี้ลูกๆเข้าใจสิ่งนี้เช่นกัน ลูกบอกว่าพระเจ้าไม่ได้อยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน ท่านคือพ่อของทุกดวงวิญญาณ ในขณะที่พวกเขาพูดว่า “ไม่ พระเจ้าอยู่ในก้อนกรวดและก้อนหิน” ลูกๆก็เข้าใจแล้วอย่างชัดเจนว่าความเลื่อมใสศรัทธาแตกต่างจากความรู้โดยสิ้นเชิง ไม่มีความรู้แม้แต่น้อยในสิ่งนั้น ช่วงระยะเวลาก็เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ ชื่อของพระเจ้าเปลี่ยนไปและชื่อของมนุษย์ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ในตอนเริ่มต้นพวกเขาจะเรียกว่าเป็นเทพ และต่อมาก็เป็นนักรบ พ่อค้า และศูทร เหล่านั้นคือมนุษย์ที่มีคุณธรรมที่สูงส่ง ในขณะที่มนุษย์เหล่านี้มีลักษณะนิสัยที่ชั่วร้ายเช่นปีศาจ พวกเขาสกปรกอย่างสมบูรณ์ กูรูนานักกล่าวว่า ผู้คนมากมายหารายได้เพื่อเลี้ยงชีพในวิธีการที่ไม่ถูกต้องตามศีลธรรมจรรยา หากมีคนอื่นจะพูดเช่นนี้ ผู้คนก็จะพูดในทันทีว่าเขาดูถูกพวกเขา อย่างไรก็ตามพ่อพูดว่า ทั้งหมดนี้เป็นของชุมนุมปีศาจ ท่านอธิบายแก่ลูกอย่างชัดเจน: นั่นคือชุมนุมของรามและอีกหนึ่งนั้นคือชุมนุมของราวัน คานธีจีก็เคยพูดเช่นกันว่า เขาต้องการที่จะมีอาณาจักรของราม ในอาณาจักรของรามทุกคนปราศจากกิเลส ในอาณาจักรของราวันทั้งหมดมีกิเลส อาณาจักรนี้เรียกว่าโรงค้าประเวณี, เป็นก้นบึ้งของนรกที่ลึกที่สุด ในเวลานี้มนุษย์อยู่ในแม่น้ำแห่งยาพิษ มนุษย์และสัตว์ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนเป็นเหมือนกัน ไม่มีการยกย่องมนุษย์ ลูกๆคือผู้ที่เอาชนะกิเลสทั้งห้าและได้รับสถานภาพของเทพด้วยการเปลี่ยนจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ ทุกสิ่งอื่นนั้นจบสิ้นลง เหล่าเทพเคยอาศัยอยู่ในยุคทอง เวลานี้ปีศาจอาศัยอยู่ในยุคเหล็ก สิ่งชี้บอกของปีศาจคืออะไร? กิเลสทั้งห้า เหล่าเทพเรียกได้ว่าปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ปีศาจเรียกได้ว่ามีกิเลสอย่างสมบูรณ์ เทพเหล่านั้นมี 16 องศาเต็ม ในขณะที่ ที่นี่ไม่มีองศาเลย องศาและร่างกายของทุกคนนั้นได้ตกต่ำลงมาอย่างสิ้นเชิง เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆว่าท่านมาเพื่อที่จะเปลี่ยนโลกเก่าที่มีกิเลส ท่านเปลี่ยนอาณาจักรของราวันซึ่งเป็นโรงค้าประเวณีให้กลายเป็นวัดของชีวา พวกเขาใช้ชื่อบ้านตรีมูรติ ถนนตรีมูรติ ที่นี่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยมีชื่อเหล่านี้ ที่จริงแล้วมันควรจะเป็นเช่นไร? ทั้งโลกนี้เป็นของใคร? เป็นของดวงวิญญาณสูงสุด โลกของพระเจ้านั้นบริสุทธิ์เป็นเวลาครึ่งวงจรและไม่บริสุทธิ์อีกครึ่งวงจร พ่อถูกเรียกว่าผู้สร้างและดังนั้นนี่คือโลกของท่าน พ่ออธิบายว่า พ่อคือนาย พ่อคือสิ่งมีชีวิต เมล็ด, มหาสมุทรแห่งความรู้ พ่อมีความรู้ทั้งหมด ไม่มีใครมีความรู้นี้ ลูกเข้าใจว่ามีเพียงพ่อเท่านั้นที่มีความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของวงจรโลก สิ่งอื่นๆทั้งหมดเป็นเรื่องเล่า เรื่องเล่าหลักนั้นคือเรื่องที่เลวร้ายมาก และเหตุนี้เองพ่อจึงพร่ำบ่น ลูกคิดว่าพ่ออยู่ในก้อนกรวดและก้อนหินและในแมวและในสุนัข! ดูซิว่าลูกได้ไปถึงสภาพที่เลวร้ายเช่นไร! ความแตกต่างระหว่างมนุษย์ของโลกใหม่และมนุษย์ของโลกเก่านั้นเป็นเหมือนกลางวันและกลางคืน เป็นเวลาครึ่งวงจร มนุษย์ที่ไม่บริสุทธิ์ก้มศีรษะของพวกเขาต่อรูปบูชาของเทพที่บริสุทธิ์ มีการอธิบายแก่ลูกๆด้วยเช่นกันว่าในตอนเริ่มต้นกราบไหว้บูชานั้นเป็นกราบไหว้บูชาของชีพบาบา ชีพบาบาคือผู้เดียวที่เปลี่ยนลูกจากผู้กราบไหว้บูชาเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ราวันก็เปลี่ยนลูกจากการเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาให้กลายเป็นผู้ที่กราบไหว้บูชา และแล้วตามแผนของละคร พ่อทำให้ลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา มีชื่อราวัน ฯลฯ เมื่อพวกเขาเฉลิมฉลองดาเซร่า พวกเขาเชื้อเชิญผู้คนมากมายจากต่างประเทศ แต่พวกเขาไม่เข้าใจนัยสำคัญของสิ่งนั้นเลย พวกเขาประณามเหล่าเทพอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเขาพูดว่าพระเจ้าอยู่เหนือรูปและนาม แต่นั่นก็หมายความว่าท่านไม่ได้มีอยู่จริงหรือ ในทำนองเดียวกันละคร ฯลฯ ที่พวกเขาสร้างขึ้นก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น นั่นคือสติปัญญาของมนุษย์! การกำหนดของมนุษย์เรียกว่าการกำหนดที่เป็นเช่นปีศาจ ราชาราชินีและปวงประชาทุกคนเป็นเช่นเดียวกัน สิ่งนี้เรียกว่าเป็นโลกปีศาจ ทุกคนเฝ้าแต่ดูหมิ่นกันและกัน และดังนั้นพ่อจึงอธิบายว่า: ลูกๆ ขณะที่ลูกนั่งอยู่ที่นี่จงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ เมื่อลูกไม่รู้ ลูกก็เคยพูดว่าพระเจ้าอยู่เบื้องบน เวลานี้ลูกเข้าใจว่าพ่อลงมาที่นี่ ดังนั้นเวลานี้ลูกตระหนักรู้ว่าท่านไม่ได้อยู่เบื้องบน ลูกเรียกพ่อให้มาที่นี่ในร่างนี้ แม้แต่ในขณะที่ลูกกำลังนั่งอยู่ที่ศูนย์ของลูก ลูกก็เข้าใจว่าชีพบาบาอยู่ในมธุบันในร่างของผู้นี้ ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาลูกเคยคิดว่าพระเจ้านั้นอยู่เบื้องบน ลูกเคยเรียกหา: “ โอ้ พระเจ้า!” เวลานี้ลูกจดจำพ่อที่ไหน? ลูกนั่งและทำอะไร? ลูกเข้าใจว่าท่านอยู่ในร่างของบราห์มา และดังนั้นลูกจะจดจำท่านที่นี่อย่างแน่นอน ท่านไม่ได้อยู่เบื้องบน ท่านมาที่นี่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้ พ่อพูดว่า พ่อมาที่นี่เพื่อทำให้ลูกสูงส่งมาก ลูกๆจดจำท่านที่นี่ ในขณะที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาจดจำท่านเบื้องบน แม้ว่าลูกจะอยู่ต่างแดน ลูกก็ยังคงพูดว่าชีพบาบาอยู่ในร่างของบราห์มา ร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นแน่นอน ไม่ว่าลูกจะนั่งที่ใดลูกจะต้องจดจำท่านที่นี่(ในมธุบัน)อย่างแน่นอน ลูกต้องจดจำท่านในร่างของบราห์มา ผู้ที่ไม่รู้คิดบางคนก็ไม่ยอมรับบราห์มา บาบาไม่ได้บอกลูกว่าอย่าจดจำบราห์มา จะจดจำชีพบาบาได้อย่างไรโดยที่ไม่จดจำบราห์มา? พ่อพูดว่า พ่ออยู่ในร่างนี้ ลูกจดจำพ่อในผู้นี้ และเหตุนี้เองลูกจึงจดจำทั้งบัพและดาดา ลูกมีความรู้ในสติปัญญาของลูกว่าผู้นี้คือดวงวิญญาณที่แยกจากกัน ชีพบาบาไม่ได้มีร่างของท่านเอง พ่อพูดว่า พ่อรับการค้ำจุนจากวัตถุธาตุ พ่อนั่งที่นี่และอธิบายนัยสำคัญทั้งหมดของบราห์มันด์และตอนเริ่มตอนกลางและตอนจบของทั้งโลก ไม่มีใครอื่นรู้เกี่ยวกับบราห์มันด์ ธาตุบราห์ม ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ่อและลูกอาศัยอยู่ ธาตุบราห์ม,ดินแดนแห่งความสงบคือสถานที่ซึ่งพ่อสูงสุดและดวงวิญญาณที่ไม่ใช่สูงสุดอาศัยอยู่ ดินแดนแห่งความสงบคือชื่อที่แสนหวานมาก ประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ในสติปัญญาของลูก ดั้งเดิมแล้วลูกเป็นผู้อาศัยของธาตุบราห์มที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเรียกว่าดินแดนนิพพาน, ดินแดนที่อยู่เหนือเสียง เรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้อยู่ในสติปัญญาของลูกในเวลานี้ เมื่อมีความเลื่อมใสศรัทธาก็ไม่มีความรู้แม้แต่คำเดียว สิ่งนี้เรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดเมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น, ปีศาจอาศัยอยู่ในโลกเก่าและเหล่าเทพก็อาศัยอยู่ในโลกใหม่ ดังนั้นพ่อต้องมาเพื่อเปลี่ยนพวกเขา ลูกจะไม่รู้สิ่งใดนี้เลยในยุคทอง เวลานี้ลูกอยู่ในยุคเหล็กและลูกก็ยังคงไม่รู้! เมื่อลูกอยู่ในโลกใหม่ ลูกก็จะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโลกเก่านี้ ในเวลานี้ลูกอยู่ในโลกเก่า ลูกไม่มีความรู้เกี่ยวกับโลกใหม่ ผู้คนไม่รู้ว่าเมื่อไรโลกใหม่เคยคงอยู่ พวกเขาพูดถึงหลายแสนปี ลูกๆ เข้าใจว่าพ่อมาในยุคบรรจบกันของทุกๆวงจรเท่านั้น ท่านมาและอธิบายนัยสำคัญของต้นไม้ที่หลากหลาย ท่านอธิบายให้แก่ลูกๆเช่นกันว่าวงจรนี้หมุนไปอย่างไร ธุรกิจของลูกคือการอธิบายสิ่งนี้แก่ผู้อื่น ใช้เวลาอย่างมากที่จะอธิบายเป็นรายบุคคล เหตุนี้เองลูกจึงอธิบายให้กับผู้คนมากมายในเวลาเดียวกัน หลายคนมาและเข้าใจ ลูกต้องอธิบายเรื่องราวที่แสนหวานเหล่านี้แก่ผู้คนมากมาย ลูกอธิบายในงานนิทรรศการ ฯลฯ ในช่วงเวลาของชีพแจนตีลูกควรจะเชิญผู้คนมากมายมาและอธิบายให้กับพวกเขาอย่างชัดเจน ลูกสามารถบอกพวกเขาได้อย่างถูกต้องเกี่ยวกับระยะเวลาของวงจรนี้ เหล่านี้คือหัวข้อที่เราจะอธิบายแก่พวกท่าน พ่ออธิบายความรู้นี้แก่ลูก และด้วยสิ่งนั้นลูกจะกลายเป็นเทพ เช่นเดียวกับที่ลูกเข้าใจสิ่งนี้และกลายเป็นเทพ ในทำนองเดียวกันลูกต้องดลใจผู้อื่นให้กลายเป็นเช่นเดียวกัน “พ่อได้อธิบายสิ่งนี้แก่เรา เราไม่ได้กำลังประณามใคร เราเพียงแต่พูดว่าความรู้คือหนทางไปสู่การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ มีเพียงสัตกูรูผู้เดียวเท่านั้นที่พาทุกคนข้ามไป ลูกควรจะดึงประเด็นหลักเช่นนั้นออกมาและอธิบาย ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถให้ความรู้ทั้งหมดนี้ได้ อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เพื่อที่จะเปลี่ยนจากผู้กราบไหว้บูชาเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา จงกลับมาปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ กลับมาเต็มไปด้วยความรู้และเปลี่ยนแปลงตนเอง ลูกต้องไม่วิ่งไล่ตามความสุขชั่วคราว

2. ลูกต้องจดจำทั้งบัพและดาดา ลูกไม่สามารถที่จะจดจำชีพบาบาได้โดยที่ไม่จดจำบราห์มา ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาลูกจดจำท่านที่เบื้องบน เวลานี้ท่านได้เข้ามาในร่างของบราห์มา ลูกต้องจดจำทั้งสองท่าน

พร:
ขอให้ลูกมีสิทธิ์ทั้งหมดด้วยศรัทธาอย่างมั่นคงและความซาบซึ้งของการมีชัยชนะในทุกการกระทำ

“ชัยชนะเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของเรา” จงเฝ้าแต่โบยบินในสำนึกรู้นี้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น จงนำสิ่งนี้เข้ามาในสำนึกรู้ “ฉันมีชัยชนะอย่างสม่ำเสมอ” ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น ให้ศรัทธานี้มั่นคงอยู่เสมอ พื้นฐานของความซาบซึ้งคือศรัทธา ถ้าศรัทธาขาดหายไปก็จะมีความซาบซึ้งน้อยลง เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่า “ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาจะมีชัยชนะ” อย่าได้เป็นผู้ที่มีศรัทธาเพียงบางครั้ง พ่อไม่สูญสลายและดังนั้นลูกมีสิทธิ์ในการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ไม่สูญสลาย ให้มีศรัทธาและความซาบซึ้งของการมีชัยชนะในทุกการกระทำของลูก

คติพจน์:
อยู่ภายใต้ร่มฉัตรแห่งความรักของพ่อ และจะไม่มีอุปสรรคใดสามารถคงอยู่ได้