14.01.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกไม่ควรมองดูที่ร่างกายของใคร พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและอย่าได้มองดูที่ร่างกายของใคร

คำถาม:
ลูกบราห์มินแต่ละคนควรใส่ใจต่อสองประเด็นใดเป็นพิเศษ?

คำตอบ:
การศึกษาและคุณธรรมที่สูงส่ง ในขณะที่ลูกๆบางคนไม่มีความโกรธแม้แต่น้อย แต่คนอื่นมีความโกรธมากที่พวกเขาต่อสู้กันอย่างมากมาย ลูกๆ ควรมีความใส่ใจเกี่ยวกับการสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งและกลายเป็นเทพ อย่าพูดด้วยความโกรธกับใคร บาบาพูดว่า: ลูกๆ ผู้ที่มีความโกรธภายในพวกเขาเป็นเหมือนกับลอร์ดและเลดี้แห่งวิญญาณปีศาจร้าย ลูกต้องไม่พูดคุยกับใครก็ตามที่มีวิญญาณปีศาจร้ายเช่นนั้น

เพลง:
ฉันมาด้วยการปลุกโชคของฉันเอง…

โอมชานติ
ลูกๆ ได้ยินเพลงแล้ว ความหมายของแผ่นเสียงเช่นนั้นไม่ได้ถูกอธิบายไว้ในชุมนุมอื่นใด พวกเขาเพียงแค่อ่านคัมภีร์ที่นั่น ในวัดซิกข์ผู้ที่อ่านคัมภีร์กรันท์ก็จะหยิบยกขึ้นมาสองบรรทัดจากคัมภีร์นั้นแล้วขยายความ ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่พวกเขาอธิบายแผ่นเสียงที่พวกเขาเปิด เวลานี้พ่ออธิบายว่า: เพลงเหล่านั้นทั้งหมดเป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกๆ รู้แล้วว่าความรู้นี้แยกออกจากหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาและสามารถให้ได้โดยชีวาที่ไม่มีตัวตนเท่านั้น ความรู้นี้ถูกเรียกว่าความรู้ทางจิต มีความรู้ที่หลากหลาย บางคนอาจถามลูกว่ารู้หรือไม่ว่าพรมนี้ถูกทำขึ้นมาอย่างไร มีความรู้ของทุกสิ่ง ทั้งหมดเหล่านั้นเป็นสิ่งทางกายภาพ ลูกๆ รู้ว่ามีเพียงพ่อทางจิตผู้เดียวเท่านั้นของเราดวงวิญญาณและเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นรูปของท่าน สัญลักษณ์ของผู้ที่ไม่มีตัวตนเป็นเหมือนกับซาลิแกรม ท่านถูกเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุด ท่านถูกเรียกว่าผู้ไม่มีตัวตน ท่านไม่ได้มีรูปที่เป็นมนุษย์ แน่นอนว่าทุกสิ่งนั้นมีรูป และรูปที่เล็กที่สุดคือรูปของดวงวิญญาณ นั่นถูกเรียกว่าความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ดวงวิญญาณแสนเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยดวงตาคู่นี้ เวลานี้ลูกๆ ได้รับเทพนิมิตที่จะทำให้ลูกมีนิมิตของทุกสิ่ง ลูกสามารถเห็นด้วยนิมิตที่สูงส่งของผู้ที่เคยมีชีวิตอยู่ในอดีต ผู้นั้นกลายเป็นอดีตเป็นคนแรก เวลานี้ท่านมาอีกครั้ง และดังนั้นลูกจึงมีนิมิตของท่านด้วยเช่นกัน ท่านละเอียดอ่อนมาก จากสิ่งนี้ จึงสามารถเข้าใจว่าไม่มีใครนอกจากพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณนี้ได้ ผู้คนก็ไม่รู้จักดวงวิญญาณอย่างถูกต้องแม่นยำ ในทำนองเดียวกัน พวกเขาก็ไม่สามารถรู้จักดวงวิญญาณสูงสุดได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ผู้คนในโลกมีความคิดเห็นมากมายนับไม่ถ้วน บางคนก็พูดว่าดวงวิญญาณได้หลอมรวมเข้ากับดวงวิญญาณสูงสุด และผู้อื่นก็พูดสิ่งอื่นๆ เวลานี้ลูกๆ เข้าใจสิ่งนี้ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ สิ่งนี้ไม่สามารถอยู่ในสติปัญญาของทุกคนได้ในระดับเดียวกัน ลูกต้องทำให้สิ่งนี้นั่งอยู่ในสติปัญญาของลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราคือดวงวิญญาณและเราเล่นบทบาทของ 84 ชาติเกิดของเรา เวลานี้บาบาพูดว่า: จงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ รู้จักฉัน พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด และจดจำพ่อ พ่อพูดว่า: พ่อเข้ามาในผู้นี้ และให้ความรู้นี้แก่ลูกๆ เพราะลูกๆ ไม่ได้พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ สายตาของลูกจึงตรงไปสู่ร่างนี้ แท้จริงแล้วลูกไม่มีสิ่งใดที่จะต้องทำกับผู้นี้ ผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคนคือชีพบาบา และเราก็ให้ความสุขกับทุกคนตามคำแนะนำของท่าน ผู้นี้ไม่ได้มีความหยิ่งยโสเกี่ยวกับการให้ความสุขกับทุกคน ผู้ที่ไม่จดจำพ่ออย่างถูกต้องก็ไม่สามารถที่จะขจัดข้อบกพร่องของพวกเขาได้ พวกเขาไม่มีศรัทธาว่าพวกเขาเป็นดวงวิญญาณ ผู้คนไม่รู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด เป็นผู้คนของบารัตเป็นที่กระจายความคิดเห็นของการอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันรอบๆ ตัว ในบรรดาลูกๆผู้ที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้เข้าใจสิ่งนี้ แต่ลูกที่เหลือไม่เข้าใจมากเท่าไหร่ หากลูกๆ รู้จักพ่ออย่างถูกต้องและอย่างเต็มที่แล้ว ลูกก็จะจดจำท่านและสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน ชีพบาบาอธิบายสิ่งนี้แก่ลูกๆ นี่คือประเด็นใหม่ บราห์มินนั้นเป็นที่ต้องการอย่างแน่นอน ไม่มีใครในโลกรู้ถึงช่วงเวลาเมื่อลูกๆ ของประชาบิดาบราห์มามีชีวิตอยู่ มีพราหมณ์ทางโลกอยู่มากมาย แต่สิ่งสร้างนั้นเกิดมาจากครรภ์ พวกเขาไม่ใช่สิ่งสร้างที่เกิดจากปากที่เป็นลูกของบราห์มา ลูกของบราห์มาได้รับมรดกจากพระเจ้าผู้เป็นพ่อ เวลานี้ลูกกำลังได้รับมรดกนี้ ลูกบราห์มินแยกกันจากพราหมณ์เหล่านั้น ลูกๆ บราห์มินอยู่ในยุคบรรจบพบกัน ในขณะที่พราหมณ์เหล่านั้นอยู่ในยุคทองแดงและยุคเหล็ก ลูกบราห์มินแห่งยุคแห่งการบรรจบพบกันนั้นแยกจากพวกเขาโดยสิ้นเชิง ประชาบิดาบราห์มามีลูกมากมาย พ่อทางร่างกายถูกเรียกว่าบราห์มาด้วยเช่นกันเพราะเขาสร้างลูกๆ ขึ้นมา แต่นั่นเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย พ่อนี้(ชีวา)จะพูดว่า: ดวงวิญญาณทั้งหมดคือลูกๆของพ่อ ลูกคือลูกๆทางจิตที่สุดแสนหวาน เป็นเรื่องง่ายที่จะอธิบายสิ่งนี้แก่ใครก็ตาม ชีพบาบาไม่มีร่างของท่านเอง ผู้คนเฉลิมฉลองวันเกิดของชีวา แต่ท่านไม่มีร่างกายที่ลูกจะสามารถมองเห็นได้ ทุกคนอื่นมีร่างกาย ทุกดวงวิญญาณมีร่างกายของตนเอง เป็นร่างกายของเขาที่ได้รับชื่อ ดวงวิญญาณสูงสุดไม่มีร่างกายของท่านเอง และเหตุนี้เองท่านจึงถูกเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุด ดวงวิญญาณของท่านนั้นถูกเรียกว่าชีวา ชื่อนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เมื่อบางคนเปลี่ยนร่างกายของเขา ชื่อก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ชีพบาบาพูดว่า: พ่อคือดวงวิญญาณสูงสุดที่ไม่มีตัวตนอย่างสม่ำเสมอ ตามแผนของละครแล้ว เวลานี้พ่อได้ยืมร่างนี้มาใช้ แม้แต่ชื่อของซันยาสีก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อใครบางคนเป็นของกูรูชื่อของเขาก็เปลี่ยนไป ลูกเคยเปลี่ยนชื่อของลูกด้วยเช่นกัน แต่บาบาจะเปลี่ยนชื่อของทุกคนต่อไปอีกนานแค่ไหน? ลูกหลายคนก็วิ่งหนีไป ผู้ที่เคยอยู่ที่นี่ในเวลานั้นก็ได้เปลี่ยนชื่อของพวกเขาไปแล้ว เวลานี้ไม่มีชื่อของใครถูกเปลี่ยน ลูกไม่สามารถไว้วางใจใครได้ มายาทำให้หลายคนพ่ายแพ้ และดังนั้นพวกเขาก็วิ่งหนีไป เหตุนี้เองบาบาจึงไม่ได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับใคร มันไม่ดีเลยถ้าท่านให้ชื่อแก่คนหนึ่งและไม่ให้อีกคนหนึ่ง แม้ว่าลูกทุกคนพูดว่า: บาบา เวลานี้เราเป็นของท่าน ลูกก็ไม่ได้เป็นของบาบาอย่างถูกต้อง ลูกมากมายไม่เข้าใจความหมายของการกลายเป็นทายาท หลายคนมาเพื่อจะพบปะกับบาบา แต่พวกเขาไม่ใช่ทายาท พวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าไปสู่ลูกประคำแห่งชัยชนะได้ ลูกที่ดีบางคนก็คิดว่าตนเองเป็นทายาท แต่บาบาก็รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่ทายาท เพื่อที่จะกลายเป็นทายาทได้นั้น ก่อนอื่นลูกต้องทำให้พระเจ้าเป็นทายาทของลูก เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายความลับเหล่านี้ บาบาอธิบายความหมายของการเป็นทายาทให้แก่ลูกๆ เมื่อลูกทำให้พระเจ้าเป็นทายาทของลูก ลูกก็ต้องให้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของลูก และแล้วพ่อก็จะทำให้ลูกเป็นทายาทของท่าน เพียงผู้ที่ยากจนเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้ ผู้ที่ร่ำรวยไม่สามารถให้ทรัพย์สมบัติของพวกเขาได้ ลูกประคำถูกสร้างขึ้นมาจากลูกเพียงไม่กี่คน หากลูกจะถามบาบา บาบาก็สามารถบอกลูกว่าลูกมีสิทธิ์ที่จะกลายเป็นทายาทหรือไม่ บาบานั้นและบาบานี้สามารถบอกลูกได้ นี่เป็นเรื่องปกติที่จะเข้าใจได้ ลูกต้องการสติปัญญาเพื่อที่จะกลายเป็นทายาท ลูกสามารถเห็นว่าลักษมีและนารายณ์เคยเป็นนายของโลก แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาประกาศสิทธิ์ในอำนาจของความเป็นนายนั้นอย่างไร เวลานี้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกอยู่เบื้องหน้าลูก นั่นคือสิ่งที่ลูกต้องกลายเป็น ลูกๆพูดว่า ลูกจะกลายเป็นลักษมีหรือนารายณ์แห่งสุริยวงศ์ ไม่ใช่รามหรือสีดาของจันทราวงศ์ รามและสีดาถูกประณามในคัมภีร์ ลูกจะไม่ได้ยินการประณามใดๆ ของลักษมีและนารายณ์เลย มีการประณามของชีพบาบาและศรีกฤษณะ พ่อพูดว่า: พ่อทำให้ลูกๆเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด ลูกๆกลายเป็นผู้ที่สูงส่งยิ่งกว่าพ่อ ไม่มีใครเคยประณามลักษมีและนารายณ์ แม้ว่าดวงวิญญาณของศรีกฤษณะเป็นดวงวิญญาณเดียวกันกับดวงวิญญาณของนารายณ์ เนื่องจากผู้คนไม่รู้สิ่งนี้พวกเขาจึงประณามศรีกฤษณะ พวกเขาสร้างวัดให้ลักษมีและนารายณ์ด้วยความสุขอย่างมาก ในความเป็นจริงแล้ววัดที่พวกเขาควรจะสร้างขึ้นมานั้นควรเป็นของราเด้และกฤษณะเพราะพวกเขาสะโตประธาน ลักษมีและนารายณ์นี้เป็นสภาพที่เป็นผู้ใหญ่ของพวกเขา และดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกว่าสะโต ในขณะที่ราเด้และกฤษณะยังอยู่ในเยาว์วัย และดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกว่าสะโตประธาน เด็กเล็กมีความทัดเทียมกับมหาตมะ เช่นที่เด็กเล็กๆไม่รู้ว่ากิเลสคืออะไร ในทำนองเดียวกันผู้ใหญ่ที่นั่นก็ไม่มีความรู้ว่ากิเลสคืออะไร วิญญาณปีศาจร้ายทั้ง 5 เหล่านี้ไม่ได้มีอยู่ที่นั่น พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับกิเลสเลย ในปัจจุบันเป็นกลางคืน เพียงเวลากลางคืนเท่านั้นที่จะมีความปรารถนาในตัณหาราคะ เทพมีชีวิตอยู่ในกลางวัน และดังนั้นจึงไม่มีความปรารถนาสำหรับตัณหาราคะที่นั่น ไม่มีกิเลสใดๆ ที่นั่น เวลานี้เป็นกลางคืนที่ทุกคนข้องแวะในกิเลส ลูกรู้ว่ากิเลสทั้งหมดของลูกจะจบสิ้นลงทันทีที่รุ่งอรุณมาถึง และแล้วลูกจะไม่รู้ว่ากิเลสคืออะไร สิ่งเหล่านั้นเป็นลักษณะเฉพาะที่ชั่วร้ายของราวัน นี่คือโลกที่ชั่วร้าย ในโลกที่ปราศจากกิเลส ไม่มีเรื่องของกิเลส นั่นถูกเรียกว่าอาณาจักรของพระเจ้า ปัจจุบันเป็นอาณาจักรของปีศาจ แต่ไม่มีใครรู้สิ่งนั้น เวลานี้ลูกรู้ทุกสิ่งตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ มีลูกๆมากมาย ผู้คนไม่สามารถเข้าใจว่าลูกๆ บราห์มากุมารและกุมารีเหล่านี้เป็นลูกของใคร พวกเขาทั้งหมดจดจำชีพบาบา พวกเขาไม่ได้จดจำบราห์มา ผู้นี้ก็พูดด้วยเช่นกันว่า: จดจำชีพบาบาผู้ที่จะทำให้บาปทั้งหมดของลูกได้รับการปลดเปลื้อง บาปของลูกจะไม่ได้รับการปลดเปลื้องด้วยการจดจำคนอื่น มีการเขียนไว้ในกีตะว่า: จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ ศรีกฤษณะไม่ได้พูดเช่นนี้ ลูกได้รับมรดกจากพ่อที่ไม่มีตัวตน เมื่อลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณเท่านั้นที่ลูกจะสามารถจดจำพ่อที่ไม่มีตัวตนได้ ก่อนอื่นจงมีศรัทธาที่มั่นคงว่าลูกคือดวงวิญญาณและพ่อของลูกคือดวงวิญญาณสูงสุด ท่านพูดว่า: จดจำพ่อและพ่อจะให้มรดกของลูกแก่ลูก พ่อคือผู้ประทานความสุขให้กับทุกคน พ่อพาดวงวิญญาณทั้งหมดกลับไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ ผู้ที่เคยประกาศสิทธิ์ในมรดกของพวกเขาจากพ่อในวงจรก่อนหน้านี้ก็จะมาและกลายเป็นบราห์มินและประกาศสิทธิ์ในมรดกอีกครั้ง ในบรรดาบราห์มินเช่นกัน บางคนก็เป็นลูกที่มั่นคงมาก มีลูกๆที่แท้จริงและมีลูกเลี้ยง เราคือลูกๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์ของชีวาที่ไม่มีตัวตน ลูกรู้ว่าต้นไม้เผ่าพันธุ์มนุษย์เติบโตขึ้นมาอย่างไร เวลานี้เมื่อกลายเป็นบราห์มินแล้ว เราต้องกลับบ้าน ดวงวิญญาณทั้งหมดต้องจากร่างของพวกเขาและกลับบ้าน ทั้งพันดาวาสและฆราวาสต้องจากร่างของพวกเขา ลูกนำซันสการ์ของความรู้นี้ไปกับลูกและผลรางวัลที่ลูกได้รับก็เป็นไปตามนั้น นั่นเช่นกันถูกกำหนดไว้แล้วในละคร และแล้วบทบาทของความรู้ในละครก็สิ้นสุดลง เวลานี้หลังจากใช้ 84 เกิดลูกจะได้รับความรู้นี้อีกครั้ง และแล้วความรู้นี้จะหายไปและลูกจะสัมผัสกับผลรางวัลของลูก ไม่มีรูปภาพ ฯลฯ ของศาสนาอื่นๆที่นั่น ลูกมีรูปภาพในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ไม่มีภาพของใครในยุคทอง ภาพของลูกมีอยู่ตลอดในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ในอาณาจักรของลูกไม่มีภาพอื่นเลย มีเพียงเหล่าเทพเท่านั้นในเวลานั้น ลูกสามารถเข้าใจจากสิ่งนี้ว่าเทพเป็นเทพดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไป โลกนั้นยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆ ลูกๆควรไตร่ตรองความรู้นี้และคงอยู่ในความสุขเหนือประสาทสัมผัส มีหลายประเด็นให้ไตร่ตรอง อย่างไรก็ตามบาบารู้ว่ามายาทำให้ลูกลืมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลูกต้องจดจำว่าชีพบาบากำลังสอนลูก ท่านเป็นผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด เวลานี้เราต้องกลับบ้าน สิ่งเหล่านี้ง่ายดายมาก! ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับการจดจำระลึกถึง เราต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งและกลายเป็นเทพ กิเลสทั้งห้าคือวิญญาณปีศาจร้าย มีวิญญาณปีศาจร้ายของตัณหาราคะ ความโกรธ และสำนึกที่เป็นร่าง ใช่ บางคนมีวิญญาณปีศาจร้ายมากยิ่งกว่าคนอื่น ลูกๆบราห์มินรู้ว่ากิเลสทั้งห้าเหล่านี้เป็นวิญญาณปีศาจร้ายตัวใหญ่ วิญญาณปีศาจร้ายอันดับหนึ่งคือตัณหาราคะ อันดับสองคือความโกรธ เมื่อบางคนพูดอย่างหยาบคาย พ่อก็พูดว่า คนนั้นมีความโกรธในตัวเขา วิญญาณปีศาจร้ายนั้นต้องถูกขจัดออกไป เป็นเรื่องยากมากที่จะขจัดวิญญาณปีศาจร้าย ความโกรธให้ความทุกข์ต่อกันและกัน มีคนไม่มากนักที่สัมผัสกับความทุกข์ผ่านความผูกพันยึดมั่น ผู้ที่มีความผูกพันยึดมั่นเท่านั้นที่สัมผัสกับความทุกข์ เหตุนี้เองพ่อจึงอธิบายว่า: ขับไล่วิญญาณปีศาจร้ายเหล่านั้นออกไป ลูกๆ แต่ละคนควรใส่ใจพิเศษกับการศึกษานี้และต่อคุณธรรมที่สูงส่ง ลูกบางคนไม่ได้มีร่องรอยของความโกรธแม้แต่น้อยในขณะที่คนอื่นต่อสู้กันอย่างมากเพราะความโกรธ ลูกๆ ควรคิดถึงการสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งและการกลายเป็นเทพ อย่าได้พูดด้วยความโกรธ เมื่อใครบางคนกลับมาโกรธ ลูกสามารถเข้าใจว่าบุคคลนั้นมีวิญญาณปีศาจร้ายของความโกรธในตัวเขา เป็นราวกับว่าพวกเขากลายเป็นลอร์ดและเลดี้ของวิญญาณปีศาจร้าย อย่าได้พูดคุยกับผู้ที่มีวิญญาณปีศาจร้ายเช่นนั้น เมื่อใครบางคนพูดด้วยความโกรธ และวิญญาณปีศาจร้ายก็จะเข้ามาในอีกคนหนึ่งด้วยเช่นกัน และแล้ววิญญาณปีศาจร้ายทั้งสองตัวก็ต่อสู้กัน คำพูดที่ว่า “เลดี้แห่งวิญญาณปีศาจร้าย”(ภูตนาถนี) นั้นสกปรกมาก ลูกควรจะอยู่ห่างไกลจากบุคคลเช่นนั้นเพื่อที่วิญญาณปีศาจร้ายนั้นจะไม่เข้ามาในลูก อย่าได้ยืนอยู่เบื้องหน้าของวิญญาณปีศาจร้ายหรือให้มันเข้ามาในลูก พ่อมาเพื่อทำให้ลูกขจัดลักษณะนิสัยที่ชั่วร้ายของลูกออกไป และสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง พ่อพูดว่า: พ่อมาเพื่อทำให้ลูกสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง และทำให้ลูกกลายเป็นเทพ ลูกๆ รู้ว่าลูกกำลังสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง ภาพของเหล่าเทพนั้นอยู่เบื้องหน้าลูก บาบาบอกลูกให้คงอยู่ห่างจากผู้ที่มีความโกรธโดยสิ้นเชิง ลูกต้องการสติปัญญาที่จะปกป้องตัวลูกเอง ไม่ควรจะมีความโกรธใดๆภายในตัวลูก ไม่เช่นนั้นแล้วบาปของลูกจะทวีคูณอีก 100 เท่า พ่ออธิบายแก่ลูกๆ อย่างชัดเจนมาก ลูกๆเข้าใจด้วยเช่นกันว่าบาบากำลังสอนลูกอย่างชัดเจนเช่นที่ท่านทำในวงจรก่อนหน้านี้ลูกๆจะเข้าใจต่อไปตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ จงมีความเมตตาต่อตนเองและผู้อื่นด้วยเช่นกัน บางคนมีความเมตตาต่อผู้อื่นแต่ไม่มีความเมตตาต่อตนเอง และแล้วผู้อื่นก็ปีนขึ้นไปสูง ในขณะที่พวกเขาเองยังคงอยู่รั้งท้าย พวกเขาไม่ได้เอาชนะกิเลส แต่พวกเขาก็อธิบายให้แก่ผู้อื่น ดังนั้น ผู้อื่นจึงเอาชนะกิเลสได้ มีความมหัศจรรย์เช่นนี้ อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ไตร่ตรองความรู้นี้และคงอยู่ในความสุขเหนือประสาทสัมผัส อย่าได้พูดกับใครในทางที่หยาบ ออกห่างจากใครก็ตามที่พูดกับลูกด้วยความโกรธ

2. เพื่อที่จะกลายเป็นทายาทของพระเจ้า ก่อนอื่นจงทำให้ท่านเป็นทายาทของลูก กลายเป็นผู้ที่รู้คิดและจบสิ้นความผูกพันยึดมั่นทั้งหมดของลูกโดยการให้ทุกสิ่งที่เป็นของลูกแก่พ่อ มีความเมตตาต่อตนเอง

พร:
ขอให้ลูกกลายเป็นเทวดานางฟ้าที่ละเอียดอ่อนเช่นเดียวกับพ่อด้วยการให้สะกาชกับดวงวิญญาณทั้งหมดขณะที่อยู่ในสภาพที่สูงสุดของลูกและเป็นเช่นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง

พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตนอย่างสม่ำเสมอและในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปมารอบๆ และในขณะที่กำลังทำการกระทำให้พิจารณาว่าตนเองเป็นเทวดานางฟ้าที่ละเอียดอ่อนและลูกจะโบยบินขึ้นไปข้างบนต่อไป เทวดานางฟ้าหมายถึงผู้ที่อยู่ในสภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเฝ้าแต่เกิดอะไรขึ้นในโลกวัตถุจงเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและเฝ้าสังเกตบทบาทของทุกคน และให้สะกาชกับพวกเขาต่อไปเรื่อยๆ ลูกไม่สามารถให้สะกาชด้วยการลงจากที่นั่งของลูก จงอยู่อย่างมั่นคงในสภาพสูงสุด และด้วยความช่วยเหลือของทัศนคติและดริชตีของลูก จงให้สะกาชของการให้คุณประโยชน์ ไม่ใช่ในขณะที่อยู่ในสภาพของจิตใจถูกปะปน และแล้วเมื่อนั้นลูกจะสามารถอยู่อย่างปลอดภัยจากบรรยากาศประเภทใดก็ตามและได้รับพรของการกลายเป็นเทวดานางฟ้าที่ละเอียดอ่อนเช่นพ่อ

คติพจน์:
ด้วยพลังของการจดจำระลึกถึง เปลี่ยนความทุกข์ไปสู่ความสุขและความไม่สงบไปสู่ความสงบ

ด้วยจิตใจที่เต็มไปพลังของลูก จงทำงานรับใช้ของการให้สะกาช

ลูกสามารถรับใช้ดวงวิญญาณมากมายในขณะที่อยู่ที่ใดๆ ด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์ ความปรารถนาที่สูงส่ง ทัศนคติที่สูงส่ง และกระแสคลื่นที่สูงส่งของลูก การทำวิธีนี้คือการเป็นประภาคารแห่งแสงและประภาคารแห่งพลัง ไม่ต้องมีคำถามของการมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพ มีโอกาส หรือมีเวลาสำหรับสิ่งนี้ ลูกเพียงแต่ต้องเต็มไปด้วยแสงและพลัง