17.12.24 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกได้มาหาพ่อเพื่อที่จะสร้างโชคสำหรับตัวเอง ลูกๆ
ผู้ที่พระเจ้ารับทุกสิ่งมีโชคที่สูงส่งที่สุด
คำถาม:
เนื่องจากความผิดใดของลูกๆ ที่มายากลับมาเต็มไปด้วยพลัง?
คำตอบ:
เมื่อลูกๆลืมบาบาขณะรับประทานอาหาร เมื่อลูกไม่ออฟเฟอร์อาหารของลูกแก่บาบา
เป็นเมื่อนั้นที่มายารับประทานอาหารของลูกและกลับมามีพลังมาก
และแล้วเธอเป็นเหตุให้ลูกๆเศร้าโศก ความผิดเล็กน้อยของลูกนี้ทำให้มายาชนะลูก
เหตุนี้เองคำชี้นำของบาบาคือ: ลูกๆรับประทานในการจดจำระลึกถึงพ่อ
ทำให้สัญญามั่นคงว่า ขอให้ฉันรับประทานกับท่านเท่านั้น
เมื่อลูกจดจำท่านขณะที่ลูกรับประทาน ท่านก็พอใจ
เพลง:
ถ้าไม่วันนี้
และแล้วพรุ่งนี้เมฆหมอกจะกระจายไป
โอมชานติ
ลูกๆ
เข้าใจว่าวันของความไม่มีโชคของลูกกำลังเปลี่ยนไปสู่วันแห่งโชคที่ยิ่งใหญ่ตลอดไปในขณะนี้
โชคของลูกเฝ้าแต่เปลี่ยนไปต่างลำดับกันไปตามความเพียรพยายามของลูก
โชคของนักเรียนเฝ้าแต่เปลี่ยนไปที่โรงเรียนเช่นกัน นั่นคือ โชคนั้นเฝ้าแต่เพิ่มขึ้น
ลูกรู้อย่างชัดเจนมากว่ากลางคืนนี้กำลังสิ้นสุดลงและโชคของลูกกำลังเปลี่ยนแปลง
ลูกกำลังได้รับการประพรมด้วยความรู้นี้
ลูกที่รู้คิดทุกคนเข้าใจว่าเรากำลังเปลี่ยนจากผู้ที่ไม่มีโชคไปเป็นผู้ที่มีโชคอย่างแน่นอน
นั่นคือเรากำลังกลายเป็นนายแห่งสวรรค์
เรากำลังเปลี่ยนความไม่มีโชคของเราไปเป็นมีโชคต่างลำดับกันไปตามความเพียรพยายามของเรา
กลางคืนกำลังเปลี่ยนไปสู่กลางวันในเวลานี้ ไม่มีใครนอกจากลูกๆที่เข้าใจสิ่งนี้
บาบาแฝงตน และเรื่องราวของท่านก็แฝงตนด้วยเช่นกัน
มนุษย์ได้เขียนเกี่ยวกับความรู้ที่ง่ายดายและราชาโยคะที่ง่ายดายในคัมภีร์
ผู้ที่เขียนสิ่งเหล่านั้นเวลานี้ได้ตายไปแล้ว
และผู้ที่อ่านสิ่งนั้นก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดเพราะพวกเขาไม่รู้คิด
มีความแตกต่างอย่างมาก!
ลูกก็เข้าใจต่างลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ทำมากเพียงใด
ไม่ใช่ทุกคนทำความเพียรพยายามด้วยจำนวนเท่ากัน
เพียงลูกบราห์มินเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรหมายถึงโชคไม่ดีและอะไรหมายถึงโชคดี
ทุกคนอื่นอยู่ในความมืดสนิท ลูกต้องปลุกพวกเขาให้ตื่นขึ้นโดยการอธิบายให้แก่พวกเขา
ผู้ที่เป็นของสุริยวงศ์เป็นผู้มีโชคอย่างมาก พวกเขาคือผู้ที่กำลังกลับมา 16
องศาสมบูรณ์เต็ม เรากำลังสร้างโชคแห่งสวรรค์เพื่อตนเองโดยผ่านพ่อผู้สร้างสวรรค์
ลูกสามารถอธิบายแก่ผู้ที่พูดภาษาอังกฤษด้วยเช่นกันว่าลูกกำลังได้รับโชคแห่งสวรรค์จากพระเจ้าแห่งสวรรค์,พ่อ
มีความสุขในสวรรค์และความทุกข์ในนรก ยุคทองหมายถึงยุคแห่งสัจจะและความสุข
และยุคเหล็กหมายถึงยุคแห่งความทุกข์ นี้คือเรื่องที่ง่ายดายมากที่จะเข้าใจ
เรากำลังทำความเพียรพยายามในเวลานี้ ชาวอังกฤษและชาวคริสต์อื่นๆมากมายจะมาที่นี่
เมื่อพวกเขามา ลูกต้องบอกพวกเขาว่า เราเพียงแต่จดจำพระเจ้าแห่งสวรรค์ผู้เดียว, พ่อ
เพราะความตายกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเรา พ่อพูดว่า ลูกต้องมาที่ฉัน
ผู้คนไปจาริกแสวงบุญ ชาวพุทธมีสถานที่จาริกแสวงบุญของพวกเขาและชาวคริสต์มีของเขา
แต่ละศาสนามีประเพณีและระบบของตนเองที่ชัดเจน
ที่นี่เป็นเรื่องของโยคะของสติปัญญาของลูก
ลูกต้องกลับไปยังสถานที่ที่ลูกได้จากลงมาเพื่อลงมาเล่นบทบาทของลูก พระเจ้า, พ่อ,
ผู้ที่ได้ก่อตั้งสวรรค์ได้บอกสิ่งนี้แก่เรา เรากำลังแสดงหนทางที่แท้จริงให้ท่าน
โดยการจดจำ พระเจ้า, พ่อ ความคิดสุดท้ายของลูกจะนำลูกไปสู่จุดหมายปลายทาง
เมื่อบางคนล้มป่วยทุกคนก็เตือนเขาและพูดว่า พร่ำชื่อรามซ้ำๆ
ในเบงกอลเมื่อบางคนกำลังจะสิ้นใจ พวกเขาพาเขาไปที่แม่น้ำคงคาและพูดว่า
พร่ำชื่อของฮารี(พระเจ้า) แล้วเธอจะไปที่ฮารี(พระเจ้า)
อย่างไรก็ตามไม่มีใครไปที่ท่าน ในยุคทองลูกจะไม่พูดว่า พร่ำชื่อรามหรือชื่อของฮารี
หนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเริ่มต้นในยุคทองแดง
ไม่ใช่ว่าพระเจ้าหรือกูรูเป็นที่จดจำในยุคทอง
ที่นั่นสิ่งเดียวที่ลูกจดจำคือลูกเป็นดวงวิญญาณ ฉัน ดวงวิญญาณนี้
จะจากร่างนี้และรับร่างต่อไปของฉัน ลูกจดจำอำนาจของลูก
ลูกเข้าใจว่าลูกจะไปและเกิดในอาณาจักรของลูก
เวลานี้ลูกมีศรัทธาที่มั่นคงว่าลูกจะได้รับอำนาจการปกครองของลูกอย่างแน่นอน
จะมีใครอื่นที่จะจดจำ หรือ ให้ทาน หรือ ทำบุญให้ที่นั่น?
ไม่มีผู้ใดยากจนเลยที่นั่นที่ลูกจะต้องให้ทานหรือทำบุญ
ธรรมเนียมประเพณีและระบบของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาแยกจากธรรมเนียมประเพณีและระบบของหนทางของความรู้
เวลานี้ลูกให้ทุกสิ่งแก่พ่อและประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกสำหรับ 21 ชาติเกิด
เท่านั้นเอง จะไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้ทานหรือทำบุญในเวลานั้น
เราให้ทุกสิ่งแก่พระเจ้า,พ่อ และแล้วเป็นพระเจ้าผู้รับทุกสิ่ง
ถ้าท่านไม่รับสิ่งนั้น ท่านจะให้ลูกเป็นการตอบแทนต่อสิ่งนั้นอย่างไร? ถ้าท่านไม่รับ
นั่นจะเป็นความไม่มีโชคของลูก ท่านต้องรับสิ่งนั้นเพื่อขจัดความผูกพันยึดมั่นของลูก
ลูกๆ เข้าใจความลับนี้ หากไม่มีความจำเป็นใดเลย เหตุใดบาบารับสิ่งนั้น?
ลูกต้องไม่สะสมสิ่งใดที่นี่ ลูกต้องขจัดความผูกพันยึดมั่นจากทุกสิ่งที่นี่
บาบาได้อธิบายว่าเมื่อลูกไปบางแห่ง ลูกควรพิจารณาตนเองว่าเบาสบายอย่างมาก
เราเป็นลูกๆ ของพ่อ เราดวงวิญญาณเร็วมากกว่าจรวด
ถ้าลูกเดินในสำนึกเป็นดวงวิญญาณลูกจะไม่เหน็ดเหนื่อยเลย
จะไม่มีสำนึกของร่างกายของลูกใดๆ
จะเป็นราวกับว่าขาของลูกไม่ได้กำลังทำงานและลูกกำลังโบยบิน
ลูกสามารถไปที่ใดก็ตามในสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ก่อนหน้านี้ผู้คนเคยไปจาริกแสวงบุญฯลฯ
ด้วยการเดินเท้า ในเวลานั้นสติปัญญาของมนุษย์ไม่ตโมประธาน
พวกเขาเคยไปด้วยความศรัทธาอย่างมาก พวกเขาไม่เหน็ดเหนื่อย
ลูกได้รับการช่วยเหลือโดยการจดจำบาบา
แม้ว่าผู้เลื่อมใสศรัทธาสวดภาวนาต่อสัญลักษณ์ที่เป็นหินสำหรับสิ่งต่างๆ
บาบาเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขาในเวลานั้นแค่ชั่วคราว
ในเวลานั้นการจดจำระลึกถึงรโชประธาน
และดังนั้นเนื่องจากสิ่งนั้นพวกเขาจึงได้รับบางพลัง จึงไม่มีความเหน็ดเหนื่อยใดเลย
บุคคลสำคัญในเวลานี้เหน็ดเหนื่อยอย่างรวดเร็วมาก คนจนไปจาริกแสวงบุญมากมาย
คนมั่งคั่งไปด้วยความโอฬารตระการตาบนหลังม้าในทางตรงกันข้ามคนจนเดินเท้าไป
คนมั่งคั่งไม่ได้รับผลรางวัลมากมายสำหรับความเลื่อมใสและศรัทธาของพวกเขาและมีความศรัทธาเช่นเดียวกับคนยากจน
ลูกรู้ว่าในเวลานี้บาบาคือเจ้าแห่งคนยากจน ดังนั้นเหตุใดลูกจึงกลับมาสับสน?
เหตุใดลูกจึงลืมบาบา? บาบาพูด: ลูกไม่ต้องอดทนต่อความยากลำบากใดๆ
ทั้งหมดที่ลูกต้องทำคือจดจำเจ้าบ่าวเดียวนี้ ลูกทั้งหมดเป็นเจ้าสาว
ดังนั้นลูกต้องจดจำเจ้าบ่าวของลูก
ลูกไม่อายหรือที่ลูกรับประทานโดยไม่ออฟเฟอร์โบ้กแก่เจ้าบ่าวนี้?
ท่านเป็นเจ้าบ่าวและเป็นพ่อของลูกเช่นกัน ท่านถามว่า
ลูกจะไม่ออฟเฟอร์อาหารแก่พ่อเช่นนั้นหรือ? ลูกควรออฟเฟอร์อาหารของลูกแก่พ่อใช่ไหม?
จงมองดูว่าวิธีการที่ฉลาดที่บาบาแสดงให้แก่ลูก
ลูกยอมรับท่านเป็นพ่อของลูกและเจ้าบ่าวของลูกใช่ไหม?
ลูกควรออฟเฟอร์อาหารแก่ผู้เดียวที่ให้อาหารแก่ลูกก่อน บาบาพูดว่า
เพียงหลังจากออฟเฟอร์โบ้กต่อพ่อและแล้วรับประทานในการจดจำระลึกถึงพ่อ
สิ่งนี้ใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก บาบาบอกลูกซ้ำๆ ว่าลูกต้องจดจำบาบาอย่างแน่นอน
บาบานี้เองก็ทำความเพียรพยายามนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เป็นสิ่งที่ง่ายดายมากสำหรับลูกกุมารี ลูกยังไม่ได้ปีนบันไดขึ้นไป
กุมารีกลับมาหมั้นหมายกับคู่หมั้นของเธอ
ลูกควรรับประทานอาหารของลูกหลังจากจดจำระลึกถึงเจ้าบ่าวเช่นนั้น เมื่อลูกจดจำท่าน
ท่านมาที่ลูก เมื่อลูกจดจำท่าน ท่านได้รับกลิ่นหอมของอาหาร
ดังนั้นลูกปลูกฝังนิสัยของการพูดกับบาบาในลักษณะนี้
เมื่อลูกตื่นอยู่ในตอนกลางคืนอยู่ในการจดจำระลึกถึงท่าน
การฝึกฝนนั้นจะพัฒนาขึ้นและแล้วจะมีการจดจำระลึกถึงในระหว่างวันด้วย
ลูกควรจดจำบาบาในขณะที่ลูกกำลังรับประทาน ลูกได้หมั้นหมายกับเจ้าบ่าวนั้นแล้ว
ลูกต้องรักษาสัญญาที่มั่นคงว่า ฉันจะรับประทานกับท่านเท่านั้น
เพียงเมื่อลูกจดจำท่าน ท่านจะรับประทานสิ่งนั้น ใช่ไหม?
ถึงอย่างไรก็ตามท่านเพียงแต่จะรับกลิ่นอาหารเท่านั้น
เพราะท่านไม่มีร่างกายของท่านเอง เป็นการง่ายมากสำหรับลูกกุมารี
ลูกมีอุปกรณ์ต่างๆมากกว่า ชีพบาบาเจ้าบ่าวที่สวยงามของฉัน ท่านนั้นแสนหวาน!
ฉันได้จดจำท่านมาเป็นเวลาครึ่งวงจร เวลานี้ท่านได้มาและพบปะฉัน
ท่านควรรับประทานสิ่งที่ฉันกำลังรับประทานด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงพอที่จะจดจำท่านเพียงครั้งเดียวและแล้วยังคงรับประทานตามลำพังและลืมป้อนอาหารท่าน
ถ้าลูกลืมท่าน ท่านไม่สามารถรับอะไร ลูกรับประทานอาหารหลายชนิด เช่นข้าวและถั่ว
มะม่วง หรือขนมหวานฯลฯ ไม่ควรเป็นเช่นว่าลูกจดจำท่านในตอนเริ่มต้นและแล้วก็หยุด
และแล้วท่านจะรับประทานสิ่งอื่นๆได้อย่างไร? ถ้าเจ้าบ่าวของลูกไม่รับประทานสิ่งนั้น
มายาจะเข้ามาระหว่างกลางและรับประทาน เธอจะไม่ยอมให้ท่านรับประทาน
ลูกสามารถเห็นว่าเมื่อมายารับประทาน
เธอก็กลับมาเต็มไปด้วยพลังและเฝ้าแต่ทำให้ลูกพ่ายแพ้
บาบาแสดงถึงวิธีการทั้งหมดแก่ลูก ถ้าลูกจดจำบาบา พ่อของลูก
เจ้าบ่าวของลูกจะยังคงพอใจกับลูกอย่างมาก ลูกพูดว่า
บาบาฉันต้องการรับประทานกับท่านเท่านั้นและนั่งกับท่านเท่านั้น
ฉันรับประทานในการจดจำระลึกถึงท่าน บนพื้นฐานของความรู้นี้
เรารู้ว่าท่านจะรับกลิ่นหอมเท่านั้น ร่างกายนี้ได้ยืมมาใช้ บาบามาเมื่อลูกจดจำท่าน
ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับการจดจำระลึกถึงของลูก นี่คือความหมายของโยคะ
โยคะต้องใช้ความเพียรพยายาม ซันยาสซีไม่เคยพูดสิ่งนี้ ถ้าลูกต้องการเพียรพยายาม
จดบันทึกศรีมัททั้งหมดของบาบาไว้และทำความเพียรพยายามอย่างสมบูรณ์
บาบาแบ่งปันประสบการณ์ของท่าน ท่านพูดว่า ทำการกระทำเดียวกันกับที่พ่อกระทำ
ฉันกำลังสอนการกระทำเหล่านั้นแก่ลูก บาบาไม่ต้องแสดงการกระทำ
ในยุคทองลูกไม่ทุกข์ทรมานจากการกระทำของลูกเอง
บาบาบอกลูกถึงสิ่งที่ง่ายดายอย่างยิ่งที่จะทำ:
ขอให้ฉันรับประทานกับท่านเท่านั้นและฟังท่านเท่านั้น ลูกได้รับการจดจำในสิ่งนี้
จดจำท่านในรูปของเจ้าบ่าวของลูกหรือพ่อของลูก
เป็นที่จดจำกันมาว่าลูกสามารถสกัดประเด็นของความรู้โดยการไตร่ตรองมหาสมุทรของความรู้นี้
โดยการฝึกฝนของลูกนี้ บาปของลูกสามารถได้รับการปลดเปลื้อง
และลูกจะกลับมามีพลานามัยที่สมบูรณ์
ผู้ที่เพียรพยายามจะได้รับผลกำไรจากความเพียรพยายามนั้น
และผู้ที่ไม่ได้ทำจะสูญเสียไป ไม่ใช่ทุกคนในโลกจะกลายเป็นนายแห่งสวรรค์
สิ่งนี้อยู่ในบัญชีด้วย บาบาอธิบายทุกสิ่งอย่างชัดเจนมาก
ลูกได้ยินในเพลงว่าลูกกำลังไปจาริกแสวงบุญ ลูกต้องรับประทานอาหารฯลฯ
ในระหว่างการจาริกแสวงบุญอย่างแน่นอน เจ้าสาวรับประทานกับเจ้าบ่าวของเธอ
และเด็กรับประทานกับพ่อแม่ของเขา สิ่งเดียวกันได้เกิดขึ้นที่นี่
ความรักมากเท่าใดที่ลูกมีสำหรับเจ้าบ่าวของลูก
องศาของความสุขของลูกจะขึ้นสูงตามนั้น สติปัญญาของลูกจะพัฒนาศรัทธา
และลูกจะกลับมามีชัยชนะ การมีโยคะหมายถึงการแข่งขัน
นี่คือการแข่งขันของโยคะของสติปัญญา ลูกคือนักเรียน
และครูกำลังสอนวิธีที่จะวิ่งในการแข่งขันนี้ พ่อพูดว่า
อย่าคิดว่าลูกต้องมีการกระทำตลอดทั้งวัน หลังจากที่ลูกมีการกระทำ
ลูกต้องกลายเป็นเช่นเต่าและนั่งในการจดจำระลึกถึง
แมลงส่งเสียงไปทั่วตลอดทั้งวันและแล้วบางตัวก็บินจากไปและบางตัวก็ตาย
นั้นเป็นเพียงตัวอย่าง
ลูกบราห์มินส่งเสียงความรู้และทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกับลูก
บางคนพัฒนาความรักอย่างมากมาย บางคนก็ทรุดโทรม
บางคนก็พัฒนาได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
พวกเขาวิ่งหนีไปและแล้วก็กลายเป็นแมลงอีกครั้ง
เป็นสิ่งที่ง่ายดายอย่างมากที่จะส่งเสียงความรู้นี้ทั้งหมด การพูดว่า “ไม่ได้ใช้เวลานานเลยสำหรับพระเจ้าที่จะเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ”
ได้เป็นที่จดจำ เวลานี้เรากำลังมีโยคะ เรากำลังเพียรพยายามที่จะกลายเป็นเทพ
ได้มีการอ้างถึงความรู้นี้ไว้ในกีตะ:
ท่านได้เปลี่ยนมนุษย์ไปเป็นเทพและแล้วท่านจากไป ทุกคนในยุคทองได้กลายเป็นเทพ
ต้องเป็นในยุคบรรจบพบกันที่พระเจ้ามาและเปลี่ยนมนุษย์ไปเป็นเทพ
โยคะสำหรับกลายเป็นเทพไม่มีการสอนในยุคทอง ศาสนาเทพได้เริ่มต้นในตอนต้นของยุคทอง
ก่อนจบของยุคเหล็กมีศาสนาที่ชั่วร้าย ประเด็นนี้เพียงเขียนไว้ในกีตะเท่านั้น
ไม่ได้ใช้เวลานานเลยสำหรับพระเจ้าที่จะเปลี่ยนมนุษย์ไปเป็นเทพ
เพราะว่าท่านให้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกแก่ลูก
ที่นั่นจะมีเพียงศาสนาเดียวสำหรับทุกคนในโลก ทั้งโลกจะคงอยู่
ไม่ใช่ว่าจีนและยุโรปจะไม่คงอยู่
ทั้งจีนและยุโรปจะคงอยู่แต่มนุษย์จะไม่คงอยู่ที่นั่น
จะมีเพียงผู้ที่เป็นของศาสนาเทพเท่านั้น ผู้ที่เป็นของศาสนาอื่นจะไม่คงอยู่
ขณะนี้เป็นยุคเหล็กและเป็นพระเจ้าที่จะเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ไปเป็นเทพ พ่อพูดว่า
ลูกจะมีความสุขอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ไม่มีสิ่งใดที่ยากลำบากเกี่ยวกับสิ่งนี้
ลูกได้ทำความเพียรพยายามอย่างมากในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเพื่อที่จะไปถึงพระเจ้า
ได้มีการพูดว่าบางคนไปอยู่เหนือเสียงสู่นิพพาน
พวกเขาจะไม่พูดเลยว่าเขาได้ไปหาพระเจ้า พวกเขาจะพูดว่าเขาได้ไปสู่สวรรค์
สวรรค์ไม่ได้สร้างขึ้นสำหรับเพียงดวงวิญญาณเดียวที่จะไปที่นั่น
ลูกทั้งหมดต้องไปที่นั่น
มีการเขียนไว้ในกีตะว่าพระเจ้าเป็นความตายเหนือความตายทั้งหมด
ท่านพาทุกคนกลับบ้านเหมือนกับฝูงยุง สติปัญญาพูดด้วยเช่นกันว่าวงจรนี้ต้องซ้ำรอย
ดังนั้นก่อนอื่นศาสนาเทพของยุคทองจะซ้ำรอยอย่างแน่นอน และแล้วศาสนาอื่นๆจะซ้ำรอย
บาบาบอกลูกถึงสิ่งที่ง่ายดายเช่นนี้! มานมานะบาฟ! ก็เท่านั้นเอง!
พระเจ้าของกีตะได้พูดเมื่อ 5,000 ปีที่แล้วเช่นกัน: ลูกๆ ที่รัก!
ถ้าหากเป็นกฤษณะที่พูดสิ่งนี้ผู้คนของศาสนาอื่นจะไม่ได้ยินสิ่งนี้
เมื่อพระเจ้าพูดสิ่งนี้ ลูกทั้งหมดรู้สึกว่า พระเจ้า,พ่อ
คือผู้เดียวผู้ก่อตั้งสวรรค์ และแล้วลูกจะไปและกลายเป็นผู้ปกครองโลกที่นั่น
ไม่มีค่าใช้จ่ายฯลฯ เลยในสิ่งนี้ ลูกเพียงแต่ต้องรู้ตอนต้นตอนกลางและตอนจบของโลก
ลูกต้องไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้
ขณะที่ลูกกำลังทำทุกสิ่งทั้งกลางวันและกลางคืน ทำความเพียรพยายามเช่นนี้ต่อไป
หากลูกจะไม่ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้และจดจำพ่อแต่เพียงเฝ้าแต่กระทำระหว่างวัน
และแล้วลูกจะมีเพียงความคิดเหล่านั้นในเวลากลางคืน
ผู้ที่สร้างอาคารจะคิดเกี่ยวกับอาคารเท่านั้น
ถึงแม้ว่ามีความรับผิดชอบของการไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้ที่ได้รับโดยผู้นี้(บราห์มา)
มีการกล่าวไว้ว่าลักษมีได้รับไหของน้ำทิพย์และลูกทั้งหมดต้องกลายเป็นเช่นลักษมี
อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
จดประเด็นของศรีมัทและทำความเพียรพยายาม ลูกต้องกระทำกรรมที่พ่อ(บราห์มา)ได้เรียนรู้เท่านั้นโดยกระทำกรรมเหล่านั้นด้วยตนเอง
ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้และดึงเอาประเด็นของความรู้ออกมา
2.
สัญญากับตนเองว่าลูกจะรับประทานอาหารในการจดจำระลึกถึงพ่อเท่านั้น “ฉันจะนั่งกับท่านเท่านั้นและรับประทานกับท่านเท่านั้น”
ลูกต้องทำตามสัญญานี้ของลูก
พร:
ขอให้ลูกอยู่อย่างอิสระจากแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวใดๆทั้งในการกระทำของลูกและความสัมพันธ์ของลูก
และด้วยวิธีนั้นกลับมาอยู่เหนือบ่วงกรรมเช่นเดียวกับพ่อ
งานรับใช้ของลูกๆต้องทำให้ทุกคนเป็นอิสระ ดังนั้นในขณะที่ปลดปล่อยผู้อื่น
อย่าได้ผูกมัดตนเองในบ่วงพันธะใดๆ
เมื่อลูกกลับมาเป็นอิสระจากจิตสำนึกที่มีขีดจำกัดใดๆของ “ของฉัน”
และแล้วลูกก็จะสามารถสัมผัสกับสภาพที่เป็นอะแวค ลูกๆ
ผู้ที่เป็นอิสระจากแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวใดๆ ทั้งในชีวิตทางโลกและทางจิตของพวกเขา
ในการกระทำและความสัมพันธ์ของพวกเขา
สามารถที่จะสัมผัสกับสภาพอยู่เหนือบ่วงกรรมเช่นเดียวกับพ่อ
ดังนั้นจงตรวจสอบดูว่าลูกกลับมาละวางจากบ่วงกรรมได้มากแค่ไหน?
ลูกเป็นอิสระจากอิทธิพลของธรรมชาติหรือสันสการ์ที่ไร้ประโยชน์ใดๆหรือไม่?
คติพจน์:
ผู้ที่มีความง่ายดายและมีธรรมชาติที่ง่ายดายเป็นโยคีที่ง่ายดาย
และได้รับความรักจากเจ้าผู้ไร้เดียงสา