30.07.24       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข ท่านผู้เดียวที่ขจัดความทุกข์ทั้งหมดของลูก ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถขจัดความทุกข์ของใครได้

คำถาม:
สาเหตุของความไม่สงบในโลกคืออะไร? ความสงบสร้างขึ้นได้อย่างไร?

คำตอบ:
ศาสนามากมายนับไม่ถ้วนเป็นสาเหตุของความไม่สงบในโลก เมื่อมีความหลากหลายในช่วงปลายยุคเหล็กจึงมีความไม่สงบ พ่อมาและก่อตั้งศาสนาเดียวที่แท้จริงและแล้วจึงมีการสร้างความสงบขึ้นที่นั่น ลูกสามารถเข้าใจว่ามีความสงบในอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ มีศาสนาที่บริสุทธิ์และการกระทำที่บริสุทธิ์ พ่อผู้ให้คุณประโยชน์ได้มาสร้างโลกใหม่นั้นอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีการกล่าวถึงความไม่สงบที่นั่น

โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายให้แก่ลูกๆ ทางจิต พ่อทางจิตเท่านั้นที่ถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ สิ่งนี้ได้อธิบายให้แก่ลูกๆแล้ว ในบอมเบย์มีนักสังคมสงเคราะห์มากมายผู้ที่ทำให้มีการประชุมอย่างต่อเนื่อง สถานที่ในเมืองบอมเบย์ซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะจัดการประชุมที่ถูกเรียกว่า บาราติยา วิทยา บาวัน มีความรู้สองประเภท หนึ่งคือความรู้ทางโลกที่สอนในโรงเรียนและวิทยาลัย พวกเขาเรียกว่า วิทยา(ความรู้)บาวัน ที่นั่นต้องมีบางสิ่งอื่นด้วยเช่นกัน ผู้คนไม่ได้รู้ว่าความรู้นี้คืออะไร นี่ควรจะเป็น “ความรู้ทางจิตวิญญาณบาวัน” ญาณถูกเรียกว่าความรู้ เพียงพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด คือมหาสมุทรแห่งความรู้ กฤษณะไม่สามารถถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ การสรรเสริญกฤษณะแยกออกจากการสรรเสริญชีพบาบา ผู้คนของบารัตได้รับความสับสน พวกเขาคิดว่าพระเจ้าแห่งกีตะคือศรีกฤษณะ และดังนั้นพวกเขาจึงยังคงเปิดวิทยาบาวัน(สถานที่แห่งความรู้) พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย ความรู้นั้นคือความรู้ของกีตะ เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ที่มีความรู้นี้ มนุษย์ไม่รู้สิ่งนี้ ในความเป็นจริง คัมภีร์ทางศาสนาของผู้คนในบารัตคือเพียงภควัทคีตาเดียวซึ่งเป็นเพชรพลอยของคัมภีร์ทั้งหมด ใครสามารถถูกเรียกว่าพระเจ้า? ผู้คนของบารัตไม่เข้าใจแม้กระทั่งสิ่งนี้ในเวลานี้ พวกเขาเรียกกฤษณะหรือรามหรือพวกเขาเองเป็นดวงวิญญาณสูงสุด เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ตโมประธาน เป็นอาณาจักรของราวัน เมื่อลูกอธิบายให้ใครก็ตาม บอกพวกเขาว่า พระเจ้าชีวาพูด ก่อนอื่นพวกเขาควรเข้าใจว่ามีเพียงพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดเดียวเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้ และท่านนั้นถูกเรียกว่าชีวา ผู้คนแม้เฉลิมฉลองกลางคืนของชีวา(ชีพราตรี) แต่ไม่มีใครสามารถเข้าใจสิ่งใด ชีวาต้องมาอย่างแน่นอน เหตุนี้เองพวกเขาจึงเฉลิมฉลองกลางคืนของท่าน พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าใครคือชีวา พ่อพูดว่า พระเจ้าของทั้งหมดคือหนึ่งเดียว ดวงวิญญาณทั้งหมดเป็นพี่น้องเพศชาย พ่อของดวงวิญญาณทั้งหมดคือพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดเดียว และท่านถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ เทพไม่มีความรู้นี้ ความรู้ใด? ไม่มีมนุษย์คนใดที่มีความรู้ของผู้สร้างหรือตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง พวกเขาพูดว่าแม้แต่ฤๅษีและมุนีในสมัยโบราณก็ยังไม่รู้สิ่งนี้ พวกเขาไม่เข้าใจแม้กระทั่งความหมายของ “โบราณ” “โบราณ” หมายถึงยุคทองและเงิน ยุคทองคือโลกใหม่ ฤๅษีและมุนีไม่ได้อยู่ที่นั่น ฤๅษีและมุนีฯลฯทั้งหมดมาในภายหลัง พวกเขาก็ไม่มีความรู้นี้เช่นกัน พวกเขาเพียงแต่พูดว่า “เนติ, เนติ” (ไม่ใช่สิ่งนี้หรือสิ่งนั้น) เนื่องจากพวกเขาไม่รู้สิ่งนี้เช่นกัน ผู้คนของบารัตผู้ที่เวลานี้กลับมาตโมกุนีจะสามารถรู้ได้อย่างไร? มีความหยิ่งยโสของวิทยาศาสตร์อย่างมากในเวลานี้ พวกเขาเชื่อว่าบารัตกลายเป็นสวรรค์ด้วยวิทยาศาสตร์ของเวลาปัจจุบัน นั่นถูกเรียกว่าความโอฬารตระการตาของมายา พวกเขามีละครที่แสดงให้เห็นถึงการล่มสลายของเมืองปอมเปอี พวกเขาแม้พูดว่า ในเวลานี้เป็นการล่มสลายของบารัต ยุคทองเป็นการรุ่งเรืองและเวลานี้เป็นการล่มสลาย นี่ไม่ใช่สวรรค์ นี่คือความโอฬารตระการตาของมายา ที่ต้องจบสิ้น พวกเขาเชื่อว่าเพราะมีเครื่องบิน พระราชวังที่ใหญ่โต และแสงไฟ นี่คือสวรรค์ เมื่อบางคนตายพวกเขาพูดว่าเขาได้ไปสวรรค์ แม้กระทั่งจากสิ่งนี้พวกเขาไม่เข้าใจว่าถ้าเขาไปสวรรค์ นั่นจะต้องหมายความว่าสวรรค์อยู่ที่อื่น นี่เป็นความโอฬารตระการตาของราวัน พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังก่อตั้งสวรรค์ ในเวลานี้มีการชักเย่อระหว่างมายาและพระเจ้า ระหว่างโลกปีศาจและโลกของพระเจ้า สิ่งนี้ต้องได้รับการอธิบายให้กับผู้คนของบารัตเช่นกัน ความทุกข์มากมายยังมาไม่ถึง ความทุกข์มากจะมาถึง สวรรค์เท่านั้นที่อยู่ในยุคทอง ไม่สามารถมีอยู่ในยุคเหล็ก ไม่มีใครรู้ว่ายุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดคืออะไร พ่ออธิบายว่า ความรู้นี้คือกลางวันและความเลื่อมใสศรัทธาคือกลางคืน พวกเขายังคงล้มลุกคลุกคลานในความมืด พวกเขาศึกษาพระเวทย์และคัมภีร์ฯลฯมากมายเพื่อที่จะพบพระเจ้า กลางวันและกลางคืนของบราห์มาหมายถึงกลางวันและกลางคืนของบราห์มิน ลูกบราห์มินเป็นสิ่งสร้างที่เกิดทางปากอย่างแท้จริง บราห์มินเหล่านั้นเป็นสิ่งสร้างทางร่างกายของยุคเหล็ก ลูกเป็นบราห์มินของยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด ไม่มีใครอื่นรู้สิ่งเหล่านี้ เมื่อพวกเขาเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก็จะเข้าไปในสติปัญญาของพวกเขาว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ บารัตซึ่งถูกเรียกว่าสวรรค์มีความสโตประธาน ดังนั้นนี่คือนรกอย่างแน่นอน และเหตุนี้เองที่พวกเขาไปจากนรกสู่สวรรค์ มีความสงบและความสุขที่นั่น เป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ที่นั่น ลูกสามารถอธิบายว่าจำนวนประชากรมนุษย์จะลดลงอย่างไรและความไม่สงบจะลดลงได้อย่างไร มีความไม่สงบในโลกเก่ายุคเหล็ก เพียงในโลกใหม่เท่านั้นที่มีความสงบ มีความสงบในสวรรค์ ที่ถูกเรียกว่าศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป ศาสนาฮินดูเป็นของเวลาปัจจุบัน ที่ไม่สามารถถูกเรียกว่าศาสนาดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป เป็นเพราะชื่อฮินดูสถาน พวกเขาจึงเรียกตนเองว่าชาวฮินดู มีศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป มีความบริสุทธิ์ ความสุข ความสงบ พลานามัยดี และความมั่งคั่งอย่างสมบูรณ์ที่นั่น มีทุกสิ่งที่นั่น เวลานี้ผู้คนร้องเรียกหา เราไม่บริสุทธิ์! โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมา! คำถามก็เกิดขึ้นว่า ใครคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์? กฤษณะไม่สามารถถูกเรียกว่าเป็นสิ่งนั้นได้ เพียงผู้ชำระให้บริสุทธิ์, พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้ ท่านผู้เดียวที่มาและสอนลูก ความรู้ถูกเรียกว่าการศึกษา ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับกีตะ เวลานี้ลูกจัดนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ แต่ผู้คนยังไม่เข้าใจความหมายของบีเค พวกเขาเชื่อว่านี่เป็นศาสนาใหม่อีกศาสนาหนึ่ง พวกเขาฟังสิ่งต่างๆแต่พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย พ่อได้กล่าวว่า พวกเขามีสติปัญญาที่เป็นหินที่ตโมประธานอย่างสมบูรณ์ ในเวลานี้หลายคนมีความหยิ่งยโสของวิทยาศาสตร์ พวกเขาจะทำลายตัวเองด้วยวิทยาศาสตร์ และดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกว่าผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหิน พวกเขาจะไม่สามารถถูกเรียกว่าผู้มีสติปัญญาสูงส่ง พวกเขาสร้างระเบิด ฯลฯ เพื่อทำลายล้างตัวของพวกเขา ไม่ใช่ว่าชางก้าจะทำการทำลายล้าง ไม่เลย ผู้คนเหล่านั้นได้สร้างทุกสิ่งเพื่อการทำลายตนเอง อย่างไรก็ตามผู้ที่มีสติปัญญาที่เป็นหินและตโมประธานไม่เข้าใจสิ่งใดเลย สิ่งใดก็ตามที่พวกเขาทำเป็นไปสำหรับการทำลายล้างของโลกเก่านี้ เป็นเพียงเมื่อการทำลายล้างเกิดขึ้นที่จะมีชัยชนะสำหรับโลกใหม่ ผู้คนเหล่านั้นมีความใส่ใจว่าจะขจัดความทุกข์ของผู้หญิงอย่างไร อย่างไรก็ตามมนุษย์ไม่สามารถขจัดความทุกข์ของใครได้ เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข แม้แต่เทพก็ไม่สามารถถูกเรียกว่าเป็นสิ่งนั้น ศรีกฤษณะก็เป็นเทพเช่นกัน เขาไม่สามารถถูกเรียกว่าพระเจ้า พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย ผู้ที่เข้าใจกลายเป็นบราห์มิน และยังเฝ้าแต่อธิบายให้ผู้อื่น ผู้ที่ประกาศสิทธิ์ในสถานภาพของราชวงศ์และผู้ที่เป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปจะปรากฏออกมา ลักษมีและนารายณ์กลายเป็นนายของสวรรค์ได้อย่างไร? พวกเขาทำอะไรที่ทำให้พวกเขากลายเป็นนายของโลก? ในเวลานี้ในตอนปลายของยุคเหล็กมีศาสนามากมายนับไม่ถ้วนและดังนั้นจึงมีความไม่สงบ ไม่เป็นเช่นนั้นในโลกใหม่ เวลานี้เป็นยุคบรรจบพบกันเมื่อพ่อมาและสอนราชาโยคะแก่ลูก พ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการกระทำ การกระทำที่เป็นบาปและการกระทำที่เป็นกลางแก่ลูก ดวงวิญญาณมาและใช้ร่างกายเพื่อที่จะแสดงการกระทำ ไม่ว่าการกระทำอะไรก็ตามที่ผู้คนในยุคทองกระทำจะเป็นการกระทำที่เป็นกลาง ไม่มีการกระทำที่เป็นบาปที่นั่น ไม่มีความทุกข์ที่นั่น เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่มาในตอนจบและบอกความลับของการกระทำ การกระทำที่เป็นกลางและการกระทำที่เป็นบาปแก่ลูก พ่อมาในชาติเกิดสุดท้ายของหลายๆชาติเกิดของผู้นี้ พ่อเข้ามาในพาหนะนี้ นี่เป็นพาหนะของดวงวิญญาณ,ภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ ที่ไม่ใช่แค่ในอมฤตสาเท่านั้น มนุษย์ทุกคนมีบัลลังก์อมตะ ดวงวิญญาณเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ ร่างกายนี้ยังคงพูดและเคลื่อนไหวต่อไป นี่คือบัลลังก์ที่มีชีวิตของดวงวิญญาณที่เป็นอมตะนี้ ทั้งหมดเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ แต่ความตายมาสู่ร่างกาย ดวงวิญญาณเป็นอมตะ พวกเขาทำลายบัลลังก์ของเขา ไม่มีบัลลังก์มากมายในยุคทอง ในเวลานี้มีบัลลังก์ของดวงวิญญาณนับล้าน กล่าวได้ว่าดวงวิญญาณเป็นอมตะ เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาสโตประธานจากตโมประธาน พ่อสโตประธานและบริสุทธิ์เสมอ แม้ว่าพวกเขาจะพูดถึงโยคะโบราณของบารัต แต่พวกเขาคิดว่าศรีกฤษณะสอนสิ่งนั้น พวกเขาได้ทำให้กีตะผิดไป พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อในชีวประวัติ พวกเขาใส่ชื่อของเด็กแทนที่จะเป็นของพ่อ พวกเขาเฉลิมฉลองกลางคืนของชีวา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าท่านมาอย่างไร ชีวาเป็นดวงวิญญาณสูงสุด คำสรรเสริญของท่านแตกต่างจากคำสรรเสริญของดวงวิญญาณอย่างสิ้นเชิง ลูกๆรู้ว่าราเด้และกฤษณะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์ รูปทั้งสองภาคของลักษมีและนารายณ์ถูกเรียกว่าวิษณุ ไม่มีความแตกต่างเลย อย่างไรก็ตามไม่มีมนุษย์ที่มีสี่แขนหรือแปดแขน พวกเขาแสดงให้เห็นเทพธิดาฯลฯมีแขนมากมาย ต้องใช้เวลาในการอธิบายสิ่งนี้ พ่อพูดว่า พ่อคือเจ้าแห่งคนจน พ่อมาเมื่อบารัตกลับมายากจนและเมื่อมีลางร้ายของราหู เคยมีลางดีของดาวพฤหัสและเวลานี้มีลางร้ายของราหูเหนือบารัตและทั่วโลก เหตุนี้เองพ่อจึงมาในบารัตเท่านั้น พ่อมาและก่อตั้งโลกใหม่ที่ถูกเรียกว่าสวรรค์ พระเจ้าพูดว่า พ่อทำให้ลูกไปเป็นราชาเหนือราชา พ่อทำให้ลูกเป็นนายของสวรรค์ที่มีมงกุฎสองชั้น เป็นเวลา 5,000 ปีมาแล้วที่ศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปคงอยู่ ซึ่งไม่ได้คงอยู่ในเวลานี้แล้ว พวกเขากลับมาตโมประธาน พ่อเองให้การแนะนำของผู้สร้างและสิ่งสร้างแก่ลูก ผู้คนมากมายมาหาลูกที่นิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ แต่พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจและรับหลักสูตรเพื่อที่จะรู้เกี่ยวกับผู้สร้างและสิ่งสร้าง พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดคือผู้สร้าง ลูกได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากท่าน พ่อผู้เดียวเท่านั้นให้ความรู้นี้แก่ลูก และแล้วเมื่อลูกได้รับอาณาจักร ก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับความรู้นี้ที่นั่น โลกใหม่แห่งสวรรค์ถูกเรียกว่าการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์และโลกเก่าของนรกถูกเรียกว่าการเสื่อมโทรม พ่ออธิบายให้ลูกเป็นอย่างดีมาก ลูกๆ ต้องอธิบายในลักษณะเดียวกันด้วยเช่นกัน ลูกต้องแสดงภาพของลักษมีและนารายณ์ให้พวกเขาเห็น ความสงบกำลังก่อตั้งขึ้นในโลก รากฐานของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปซึ่งเวลานี้พ่อกำลังก่อตั้งนั้นไม่คงอยู่ เทพมีศาสนาที่บริสุทธิ์และการกระทำของพวกเขาบริสุทธิ์ ในเวลานี้เป็นโลกที่ชั่วร้าย โลกใหม่ถูกเรียกว่าโลกที่ปราศจากกิเลส ชีวาลายา เวลานี้ลูกต้องอธิบายให้กับพวกเขาเพื่อที่ผู้ที่ยากจนสิ้นหวังจะได้รับประโยชน์บ้าง เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ถูกเรียกว่าผู้ให้คุณประโยชน์ พ่อมาในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด พ่อผู้ให้คุณประโยชน์มาในยุคที่ให้คุณประโยชน์ และให้ประโยชน์แก่ลูกทุกคน พ่อเปลี่ยนโลกเก่าและก่อตั้งโลกใหม่ มีการหลุดพ้นผ่านความรู้ ลูกสามารถใช้เวลาและอธิบายสิ่งนี้ทุกวัน บอกพวกเขาว่า เราเท่านั้นที่รู้จักผู้สร้างและตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง บทตอนของกีตะซึ่งพระเจ้ามาและสอนราชาโยคะและทำให้เรามีมงกุฎสองชั้นกำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ แม้แต่ลักษมีและนารายณ์ก็กลายเป็นสิ่งนั้นด้วยการศึกษาราชาโยคะ พวกเขาศึกษาราชาโยคะกับพ่อในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด บาบาอธิบายทุกสิ่งอย่างง่ายดายมาก อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รักระลึกถึงและสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. การศึกษาราชาโยคะเป็นแหล่งแห่งรายได้เพราะด้วยสิ่งนี้ที่ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา ลูกต้องศึกษาและสอนการศึกษาทางจิตนี้แก่ผู้อื่นทุกวัน

2. มีความซาบซึ้งอย่างสม่ำเสมอว่าลูกบราห์มินเป็นสิ่งสร้างที่เกิดทางปากอย่างแท้จริง ลูกได้เคลื่อนออกไปจากกลางคืนของยุคเหล็กและเข้ามาสู่กลางวัน นี่เป็นยุคบรรจบพบกันที่ให้คุณประโยชน์ที่เป็นสิริมงคลที่สุดที่ลูกต้องให้คุณประโยชน์แก่ตัวลูกเองและทุกคนอื่นๆ

พร:
ขอให้ลูกเป็นนายผู้ทรงอำนาจผู้ที่นำให้ทุกความคิดที่สูงส่งไปสู่การปฏิบัติ

นายผู้ทรงอำนาจหมายความว่าผู้ที่มีความคิดและการกระทำเหมือนกัน ถ้าความคิดของลูกสูงส่งมากแต่การกระทำของลูกไม่ได้เป็นไปตามความคิดของลูกแล้วลูกก็ไม่สามารถถูกกล่าวได้ว่านายผู้ทรงอำนาจ ดังนั้น ตรวจสอบดูว่าลูกได้นำความคิดที่สูงส่งที่ลูกมีไปสู่การกระทำหรือไม่ สิ่งชี้บอกของนายผู้ทรงอำนาจคือเขาจะสามารถใช้พลังเฉพาะที่เขาต้องการในเวลานั้นๆ รักษาพลังทางร่างกายและพลังที่ละเอียดอ่อนของลูกให้อยู่ภายใต้การควบคุมเช่นนั้นที่ลูกสามารถใช้พลังเฉพาะใดๆที่ลูกต้องการในเวลานั้น

คติพจน์:
เมื่อดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยความรู้มีความโกรธในเขา พวกเขาก็ประณามชื่อเสียงของพ่อ